น่าจะชัวร์แล้วว่า มาเรสก้า มาชัวร์ เลยลองไล่ดูว่าแผนแกกับ เลสเตอร์ แต่ละตัวเล่นยังไง ใน เชลซี มีนักเตะแบบนั้นมั้ย
1. โกล เฮอแมนเซ่น
- สกิลที่ต้องการก็ตามปกติของโกล แต่ที่เพิ่มมาคือต้องจ่ายบอลเยอะ ใช้เท้าเยอะ ต้องออกมานอกกรอบมายืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับ เวสเตอร์กาด บ่อยๆ เพราะงั้นต้องใช้ตัวมีสกิลเท้า + มีวิชั่นจ่ายแก้เพรส + คล่องตัวพอที่จะวิ่งเข้าวิ่งออกกรอบเขตโทษได้ เปโตรวิช ยังไม่น่าใช่
ตัวที่มีข่าวด้วยอย่าง แทร็ฟฟอร์ด สไตล์ใช่แต่เลเวลยังไม่ถึงพอจะเป็นตัวจริงทีมใหญ่ ตัวที่น่าจะดีกว่าก็อาจจะพวก พิคฟอร์ด หรือ แรมเดล ส่งไม่ได้แม่นเทพหรอก แต่ใช้เท้าได้ + คล่องตัวพอที่จะวิ่งเข้าออกกรอบเขตโทษ
2. เซ็นเตอร์ เวสเตอกาด
- เวลารับเล่นเซ็นเตอร์คู่ ตอนครองบอลบิ๊วอัพจะขยับเป็นหลัง 3 เวสเตอร์กาด เล่นเซ็นเตอร์ตัวกลาง ครองบอลเยอะ มีสถิติสัมผัสบอลต่อเกมมากสุดในทีมเลย แล้วจ่ายบอลเยอะ ชิ่งสั้น แปะสั้น วางบอลยาว แทงทะลุไลน์ต้องทำทั้งหมด คิดภาพ น้าซิลวา ยุคทูเคิ่ล อะ ตัวในทีมไม่รู้ใครจะเวิร์ค ดิซาซี่ , บาเดียชิล อาจจะได้มั้ง หรืออย่าง โทซิน ที่จะไปเซ็นฟรีมานี่ไม่รู้ลูกจ่ายดีมั้ย ครองบอลดีมั้ย แต่ 3 ตัวนี้ช้าหมดเลย เวสเตอกาด ก็ช้ามาก เห็นแฟน เลสเตอร์ โพสในทวิตเตอร์ว่า เลสเตอร์ เสียประตูจากลูกสวนกลับบ่อย เพราะงั้นเซ็นเตอร์ควรมีความเร็วในระดับนึง
3. เซ็นเตอร์ ฟาส
- ตอนเล่นเกมรับจะยืนเซ็นเตอร์คู่กับ เวสเตอกาด แต่พอครองบอลบิ๊วอัพ ทีมจะปรับไปหลัง 3 ฟาส จะขยับไปเป็นเซ็นเตอร์ตัวขวา สไตล์ที่ควรใช้ก็ เซ็นเตอร์กึ่งแบ๊คตามสไตล์หลัง 3 เลย เคลื่อนที่ดี แปะสั้นไปมาได้ จ่ายบอลทะลุไลน์ได้ เติมเกมได้ เข้าปะทะได้ แต่อาจจะต้องมีความเร็วหน่อยเพราะตัวริมเส้น มาเรสก้า ไม่ใช้ วิงค์แบ๊ค แต่ใช้เป็นปีกเลยยืนสูงหน่อย ถ้าโดนสวนมาก็อาจจะลงมาช่วยช้านิดนึง เซ็นเตอร์ตัวข้างก็มีโอกาสเจอ 1-1 ก็ควรจะตามเขาให้ทันเพื่อชะลอรอปีกลงมาช่วย ถ้าช้าแบบ ดิซาซี่ นี่น่าจะโดนฉีกยับ ในทีมมี โฟฟาน่า เล่นได้แต่ร่างกายไม่รู้ยังไง จริงๆควรซื้อเซ็นเตอร์ตัวขวาเร็วๆเข้าบอลแม่นๆซักตัว
4. แบ๊คซ้าย ดอยล์ กับ จัสติน
- ตำแหน่งนี้หลักๆที่ลงตั้งแต่ต้นฤดูกาลคือ ดอยล์ แต่ก็มีเจ็บเข่าพักยาวไปเลยต้องเอา จัสติน ที่เป็นแบ๊คขวามายืนแทนบ้าง เอา ฟาส ที่เป็นเซ็นเตอร์มายืนแทนบ้าง
ดอยล์ นี่คือเซ็นเตอร์ที่ถูกเอามาเล่นแบ๊คซ้าย เพราะตอนบิ๊วอัพจะได้ขยับเข้าไปเป็นเซ็นเตอร์ตัวซ้าย คิดภาพก็ที่ พอช จับ โคลวิล เล่นแบ๊คซ้ายนั่นแหละ เหมือนกันเป๊ะ แต่ดูจากฮีทแมพ ดอยล์ ดูเติมเกมรุกมากกว่า
ส่วน จัสติน นี่มาจากแบ๊คขวามายืนซ้ายตอนที่ ดอยล์ เจ็บ แต่ตอนเล่นก็หุบเข้าเป็นเซ็นเตอร์ซ้ายเหมือนกัน เชลซี คงไม่โยกแบ๊คขวามาซ้ายหรอกมั้ง ที่ เลสเตอร์ เขาทำแบบนี้ผมเดาว่าเพราะแบ๊คซ้ายไม่มีนะ ดูในรายชื่อทีมไม่มีแบ๊คซ้ายอาชีพเลย ถึงได้เอา จัสติน โยกมายืนซ้ายแก้ขัดไปก่อน
ที่ เชลซี ตำแหน่งนี้ไม่รู้ มาเรสก้า จะเลือกอินเวิทแบ๊คข้างไหน เพราะแกจะใช้แบ๊คขยับไปยืน B2B 1 ตัว ปกติจะเป็นแบ๊คขวา ถ้าตามนี้ โคลวิล กับ คูคู น่าจะเล่นแบ๊คซ้ายที่ขยับมาเป็นเซ็นเตอร์ซ้ายแบบ ดอยล์ ได้
แต่ถ้า มาเรสก้า จะทำแบบ พอช 4-5 นัดท้าย เลือกขยับ คูคู อินเวิทเข้ามากลางแทน แบบนี้น่าจะมี คูคู เล่นได้เป็นหลัก
ชิลเวล นี่เล่นเซ็นเตอร์ซ้ายไม่น่าได้ ส่วนอินเวิทเข้ากลางผมไม่แน่ใจ มีแววว่าจะไม่ได้เหมือนกัน
ผมว่ามีแววจะเลือกอินเวิทแบ๊คขวา เพื่อจะได้ไม่ต้องเสริมแบ๊คซ้ายใหม่แล้วใช้ คูคู สลับ โคลวิล ไป
5. แบ๊คขวา ริคาร์โด้
- ตัวนี้ มาเรสก้า จะอินเวิทเข้าไปเป็น B2B คอยช่วย DLP เชื่อมบอลกับเซ็นเตอร์ และก็คอยวิ่งไล่ปะทะแดนกลาง ริคาร์โด้ มีสถิติเข้าปะทะต่อเกมต้นๆของทีมเลย น่าจะเพราะต้องช่วยไล่ปะทะไล่ตัดบอลคัฟเวอร์ DLP
เจมส์ น่าจะเล่นได้นะ สมัยไปยืมตัวก็เหมือนจะเคยเล่นกลาง ส่วน กุสโต้ ยังไม่เคยเห็นเล่นตรงนี้เท่าไหร่ แต่ด้วยสกิลน่าจะได้อยู่มั้ง นอกจากช่วยไล่ปะทะแล้วก็คอยรับบอล พลิกบอลแล้วจ่าย ต้องครองบอลเหนียวๆ เฟิร์ชทัชดีๆ จ่ายบอลดีๆหน่อย
ซึ่งยังไม่รู้นะว่า มาเรสก้า จะอินเวิทแบ๊คข้างไหน ถ้าซ้าย ก็น่าเสียดายสกิลเกมรุกฝั่งขวา เพราะ เจมส์ กับ กุสโต้ ก็จะกลายเป็นเซ็นเตอร์ขวาเป็นหลัก ซึ่งไม่ค่อยเหมาะหรอก ผมเลยคิดว่าจะอินเวิทขวาเหมือนเดิมเพื่อให้ เจมส์ กับ กุสโต้ ได้เติมเกมรุกมากหน่อย
6. DLP วิงค์
- ตัวนี้หน้าที่คล้ายๆ จอร์ ยุค ทูเคิ่ล เหมือนกันนะ เคลื่อนที่ซ้ายขวา วิ่งไปเป็นตัวที่ 3 ในสามเหลี่ยมชิ่งสั้นกับพวก 3 เซ็นเตอร์กับกองกลางอีก 2 คน ตัวนี้ตัวสำคัญในแผนแกเลย ต้องครองบอลเหนียวๆ จ่ายแม่นๆ วิชั่นดีๆ แปะไปแปะมา พอเห็นช่องก็เบิ้ลโบ๊ะบ๊ะหลุด หรือวางยาวออกปีก 2 ข้างที่ค่อนข้างมีความเร็ว
ส่วนเกมรับผมดูสถิติต่อเกมไม่ได้พยายามเข้าปะทะเยอะแยะเหมือนที่ พอช ใช้ ไคเซโด้ เล่นตรงนี้ ตัวที่เข้าปะทะบ่อยๆจะเป็นแบ๊คขวาที่อินเวิทเข้ามาช่วยมากกว่า
ตัวที่เล่นได้ก็ เอ็นโซ่ , ไคเซโด้ , ลาเวีย ได้หมดเลือกเอาว่าจะใช้ใคร
7. B2B เอ็นดีดี้
- เวลาบิ๊วอัพทีมจะเปลี่ยนไปยืน 3-2-4-1 เอ็นดีดี้ จะเติมสูงไปเป็นกลางรุกตัวซ้ายบ้างตัวขวาบ้าง คิดภาพก็ตำแหน่ง เมาท์ ยุค ทูเคิ่ล อะ คอยวิ่งสอดฮาฟสเปซคู่แข่ง คอยสอดเข้าไปในกรอบ
เอ็นดีดี้ ก่อนหน้านี้เล่นกลางรับ แต่ไปดูสถิติฤดูกาลนี้มาสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษคู่แข่งมากกว่า ดรูบิวรี่ฮอล์ ที่เป็น B2B อีกคนอีก แสดงว่าโดนจับให้เล่นเน้นรุกเลยมั้ง
ส่วนเกมรับนี่แปลกเหมือนกันตอนแรกนึกว่าจะใช้ไล่ตัดบอล ไล่ปะทะแดนบนเหมือนที่ พอช ใช้ กัลลาเกอร์ แต่ เอ็นดีดี้ นี่สถิติ เข้าปะทะต่อเกมแค่ระดับนึง ไม่เท่า กัลลาเกอร์
เท่าที่ดูฟูลแม็ทย้อนหลัง 2 นัดกับไฮไลท์ ก็เหมือน เมาท์ อะ ชิ่งกับปีกริมเส้นแล้ววิ่งสอดไปแถวๆริมกรอบเขตโทษ
กัลลาเกอร์ เล่นได้ ส่วน ไคเซโด้ ด้วยสกิลน่าจะได้แต่ต้องเติมเข้ากรอบเขตโทษมากกว่านี้
8. B2B/AMC ดรูบิวรี่ฮอล
- ถ้าเล่น 4-3-3 จะยืน B2B แต่ถ้าเล่น 4-2-3-1 จะยืน AMC เวลาเติมเกมรุกก็ยืนเป็นกลางรุกซ้ายบ้างขวาบ้างสลับกับ B2B อีกตัว วิธีเล่นก็คล้ายๆกัน คอยชิ่งกับปีกหรือชิ่งกับกองหน้าวิ่งสอดพื้นที่ฮาฟสเปซ
ที่มีส่วนต่างก็ ดรูบิวรี่ฮอล จะจ่ายบอล คีย์พาส จ่ายบอลเข้าเขตโทษเยอะกว่า เอ็นดีดี้ ระดับนึง แต่การเข้าปะทะก็จะน้อยกว่า เอ็นดีดี้ นะ
ในทีมก็ พาลเมอร์ เล่นได้ บทบาทเดียวกับ 4-5 นัดท้ายเลย อีกคนก็ ชุควูเมก้า น่าจะพอได้
9. ปีกซ้าย มาวีดีดี้ , ปีกขวา ฟาตาวู
- ปีก 2 ข้างยืนชิดริมเส้น คอยประสานงานกับ กลางรุก 2 ตัว แล้วจะใช้ตัวที่สกิลเลี้ยงค่อนข้างดีหลายๆจังหวะก็เลี้ยงจี้ 1-1 ถ้ามีโอกาสก็ตัดเข้าในยิงตามสไตล์ปีกสมัยใหม่
ที่สำคัญต้องขยันเพรสแดนบน + ช่วยเกมรับดีด้วย เอาแค่สถิติการเข้าปะทะตามรูปด้านล่างนี้
Tkl การเข้าปะทะต่อเกมมากกว่าปีก เชลซี
TklW การเข้าปะทะชนะต่อเกมมากกว่าปีก เชลซี ระดับนึงเลย
อีกอย่างที่น่าสนใจคือ Def 3rd การเข้าปะทะในแดนป้องกัน ( พูดง่ายๆก็พื้นที่เกมรับในแดนตัวเองนั่นแหละ ) ต่อเกม อันนี้ปีก เลสเตอร์ ก็มากกว่า
เวลาเอา แบ๊คอินเวิทเข้ากลางแบบนี้ พื้นที่ของแบ๊คจะโล่ง ถ้าปีกไม่ลงมาช่วยเกมรับดีๆ พื้นที่ริมเส้นก็จะรั่วๆ เหมือนที่ พอช เอา กัลลาเกอร์ ไปช่วยเกมรับพื้นที่แบ๊คซ้ายแทนบ่อยๆ เพราะ ปีกซ้ายช่วยเกมรับได้ไม่ดี
ส่วนอันนี้ก็เป็นการบล็อคต่อเกม ปีกเลสเตอร์ ก็ดูจะสถิติดีกว่า
ส่วนรูปด้านล่างนี้จะเป็นการจ่ายบอล
xA ก็ จังหวะจ่ายที่ควรเป็นแอสซิสต่อเกม
KP ก็ คีย์พาสต่อเกม
1/3 ก็ การจ่ายเข้าพื้นที่ Final 3rd ( น่าจะไม่นับในกรอบเขตโทษ )
PPA ก็การจ่ายเข้ากรอบเขตโทษต่อเกม ( อันนี้ปีกเลสเตอร์เยอะกว่าระดับนึงเลย ปีกทีมเขาจ่ายเข้าในกรอบมากกว่าปีกเชลซี )
CrsPA ก็ การครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษต่อเกม อันนี้ปีกเลสเตอร์ก็ครอสบ่อยกว่า
PrgP ก็ จ่ายบอลขึ้นหน้าต่อเกม
10. กองหน้า วาร์ดี้
- กองหน้าขยันๆ วิ่งไล่เพรสดุๆ ส่วนการเล่นเกมรุก ก็คมๆ วิ่งหาพื้นที่ดีๆ ตามสูตรกองหน้าปกติ ที่เพิ่มมาก็ มาเรสก้า จะชอบให้กองหน้าวิ่งลงไปช่วยเชื่อมบอลแถวกลางสนามด้วยไม่ใช่ยืนเฝ้าพื้นที่อย่างเดียว
แจ๊คสัน เล่นได้ แต่จังหวะสุดท้ายไม่ว่าจะจ่ายหรือยิงมันค่อนข้างเลอะเทอะ วาร์ดี้ คมกว่า แล้วเวลาหลุดไปหลายๆคน วาร์ดี้ จะเลือกจังหวะจ่ายให้เพื่อนดีกว่า แจ๊คสัน ที่เงอะๆงะๆและตัดสินใจช้า อันนี้ข้อเสียส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับแท๊คติค
สรุปที่ควรต้องเสริม
- โกล เท้าดี คล่องตัว ออกมาจ่ายบอลนอกกรอบได้
- เซ็นเตอร์ตัวขวา มีความเร็ว เข้าบอลแม่น แล้วถ้าจะให้ดีเอาตัวโหม่งดีๆมาช่วยหน่อยก็ดี อันนี้ข้อเสียส่วนตัวของทีม
- เซ็นเตอร์ตัวกลาง ตัวจ่ายบอล แปะสั้นแกะเพรสไปมา ถ้ามีจังหวะก็วางบอลยาว จริงๆ ดิซาซี่ กับ บาเดียชิล น่าจะเล่นได้ แต่มีแววจะไม่เนี๊ยบ ขายซักคนแล้วซื้อใหม่ดีกว่า ขอตัวมีความเร็วหน่อย จ่ายบอลดีๆ นิ่งๆ วิชั่นดีๆ
- ปีก ขยันช่วยเกมรับ เลี้ยงดวล 1-1 ดี และมีวิชั่นจ่ายบอล ปั้นเกมได้ ไม่ใช่สายมุดไปยิงอย่างเดียว
- กองหน้า คม ขยันเพรส ถอยลงมาเชื่อมเกมกลางสนามได้ จ่ายบอลได้