พอโดนด่าทีก้กลับลำ ห่วยเเตกจริงประเสริฐ

ดีนะยังไม่ได้ไปเปลี่ยนชื่อ ขอยื้อก่อนละกันเสียดายโปรเดิม

เด๋ยวๆ ทำไมหัวกับเนื้อข่าวไม่ตรงกันอะ.

ในเนื้อข่าวบอกต้องมีเหตุผลเพียงพอ.

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าว สำนักงาน กสทช.ได้รับการยืนยันจาก ปปง.ว่า หากมีเหตุผลเพียงพอ สามารถอธิบายความจำเป็นในการใช้งานได้ จะเป็นดุลพินิจของธนาคารให้การพิจารณายกเว้น เช่น การเปิดโมบายแบงกิ้งให้กับบุตรหลานที่เป็นเด็ก หรือเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เบอร์องค์กรที่แสดงตัวตนได้ชัดเจน เป็นต้น...

ก็คือไม่ตรงก็ได้แต่ต้องยืนยันตัวตนได้น้อ.

ให้แบงค์ยืนยันกับคนที่ใช้งานว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์คนที่ใช้งานถูกต้องไหม ถ้ายอมรับแล้วถือว่าถ้ามีการกระทำผิดต้องรับผิดชอบ แบบนี้น่าจะดีกว่า เพราะบ้างคนเปิดในชื่อตัวเองแล้วให้ครอบครัวใช้ก็มีเพื่อง่ายในการทำธุรกรรม การทำชื่อในแบงค์และ SIM ชื่อเดียวกันมันช่วยแต่ไม่น่าจะนานเดียวมันก็หาวิธีใหม่อีกนั้นละ สู้บอกไปเลยว่า ถ้ายอมรับมีอะไรเกิดขึ้นคุกเลยนะ

พวกอยากขายข่าวนั่นแหละ ตัดมาด้วนๆ เป็นแบบนี้ประจำ คนอ่านแต่หัวก็ตื่นเต้นกันไปแชร์ยาวๆ

กสทช. ยังไม่ได้ประชุมกับธนาคารเลยมั้ง 5555

เอาจริงๆคือเมิงจะยืนยันซิมกับเลขบัตรซ้ำซ้อนทำไม ตอนขายซิมเมิงก็มีระบบให้ยืนยันวุ่นวายอยู่แล้ว

ปรับปรุงการทำงานได้แล้วมั้งข้าราชการไป โดยเฉพาะการสื่อสารเนี่ย พร้อมแล้วค่อยสื่อสารออก ไม่ใช่เน้นสื่อสารไปก่อน รายละเอียดทีหลัง โดนด่าเยอะๆ ค่อยแก้ไข

รัฐบาลเลยขาดความน่าเชื่อถือลงไปเรื่อยๆ

ประเด็นคือพาดหัวกับเนื้อหาในข่าวมันตรงกันน่ะสิก่อนหน้านี้ คือ 27 พค. ชื่อไม่ตรงกันระหว่างซิมกับบัญชีธนาคารจะใช้ mobile banking ไม่ได้ตัดมาด้วนๆ เนื้อหาก้เป็นตามนั้นจริงเพราะอิงมาจาก กสทช.เองเลย

จน กสทช.พึ่งจะมากลับลำนี่เเหละ สงสัยโดนเสียงด่าเยอะ เลยทำเป็นโยนหินถามทางไปก่อน

เอาจริงๆ ทั้งค่ายโทรศัพท์ เเละโดยเฉพาะธนาคารเองยังงงเลยมั้งนั่นว่าจะทำไงต่อดี อยู่ๆก้ประกาศปุบปับ

กำลังจะถามเลย ว่าเบอร์มันชื่อบริษัทฯ แล้วมันก็เป็นของเราใช้มาเกิน 10 ปีแล้ว

จะต้องหาทางออกยังไง