สองสามปีมานี่ทีมต้องมานั่งเริ่มใหม่ไม่รู้รอบเท่าไร เออถ้าไม่ใช่ทีมใช้เงินเยอะๆแล้วจะไปหาโค้ชปูรากฐานก็เข้าใจได้อยู่ แต่นี่เหมือนมีรถสปอรตแพงๆ แต่เอาไปนักขับดาวรุ่งมาขับทำเวลาแล้วคิดว่ามันจะทำได้เร็วกว่านักแข่งที่มีรางวัล มีประสบการณ์ ดีกรีมาแล้ว มัยย้อนแย้งอะ ข้อดีมันคืออะไรเหรอ ที่จะเอาโค้ชโปร์ไฟล์แค่เนี้ยมาคุมทีมที่กำลังตั้งไข่ จบไม่สวยแน่นอนบอกเลย พอตเตอร์มาแล้วดีไหม ? ดูสมัยก่อนอันเช่มาคุม ทุบสิถิติไปเท่าไร มูก็เด็กจริงตอนนั้น แต่เขาได้แชมป์มาแล้ว คอนเต้เป็นไง

จะมีกี่คนที่จะทำได้แบบ เป๊บ ซีดาน หรืออาเตต้า ที่ทำทีม บี แล้วได้ขึ้นมาคุมชุดใหญ่

อลอนโซ่ กับ นาเกลมัน เขาเรียกพิสูจน์ฝีมือ

เกรดทีมเชลซี คนละเกรดกับ เลเวอ ไลปซิกนะ

เขาแค่มองว่าอยู่ๆจะไปเอา โค้ช ชปช ที่ไม่เคยคุมทีมในพีเมียมาเลย มันเสี่ยง ผมว่าไม่ได้เข้าใจยาก

เป็นใครก็บ่นอะดูจากประวัติที่มันเลือกโค้ชมาแต่ละคนดิแล้วนี่ยิ่งลดเกรดลงมาอีกใครไม่บ่นก็ไม่ผิดนะแต่คนที่บ่นเขาก็มีสิทธิ์อะทุกคนเชียร์ทีมเหมือนกันหมดแหละถึงเวลาลงเตะใครคุมมันก็ต้องเชียร์แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้เตะกำลังเลือกโค้ชแฟนบอลก็ต้องวิจารณ์กันเป็นเรื่องปกตินะ

แหม่ที่ผ่านมาเลือกคนที่ชั่ยมาหมดเลย แฟนเชลซีคงใจเย็นได้สบายเลยจั้บ

จะทรงน่าด่า หทรอทรงน่าดู สุดท้ายก็เชียร์ครับ

stay together ฮะ

ถ้าปลดพอชแล้วไปเลือกโค้ชระดับ แมคเคนน่า หรือ มาเรสก้ามาแล้วยังใจเย็นอยู่ได้มันก็ดูแปลกๆอ่ะ ไม่งั้นแฟนบอลท้องถิ่นคงไม่นัดประท้วงกันหรอก

จริงครับ กว่า t-bag จะออกจากคุกได้ก็ล่อไปหลายตอนอยุ่

ความสำเร็จอยุ่ไม่ไกล ต้องรอสกอฟิลด์ ้

้อ้ยรอจังหวะที่เหมาสม

คือโค้ชดีๆก็มีให้เลือกแต่พวกบอร์ดง่าวไม่เลือกไง

ยังไม่พอเผือกปลดพอร์ชที่ฟอร์มกำลังดีไปเอาโค้ช ชปช อีก หัวร้อนดิค้าบ

เชียร์อ่ะเชียร์อยู่แล้ว ขนาดเกลียดไอ้พอชแค่ไหน ผมก็แทบไม่เคยอยากให้ทีมแพ้
ประเด็นคือที่เดือดกันตอนนี้คือ เดือดกับทิศทางที่บอร์ดบริหารเลือก เหมือนกำลังสร้างทางเพื่อมุ่งไปทางนั้น ก็พังมันเอง ละเริ่มใหม่ แต่เป็นการเริ่มวิธีเดิมๆอ่ะ

ใครก็รู้ว่ามามันก็มีโอกาสดีได้ แต่ถามถึงโอกาสที่มันจะดีเทียบกับโค้ชที่มีปสกพิสูจน์ตัวเองมาแล้วเคยคว้าแชมป์มาแล้วอันไหนโอกาสประสบความสำเร็จมันมีมากกว่ากัน? ใน 20 ปี มีโค้ชที่ทำได้แบบ Alonso กี่คน? ถ้ามันไม่ต่างงั้นก็ไปเอาโค้ชคนไหนก็ได้มาคุมก็ได้แหละ เพราะมันก็มีโอกาสประสบความสำเร็จหมด ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ไง เหมือนกับนักเตะอะ นักเตะเด็กๆซื้อมาอาจจะปังก็ได่ ถ้ายกตัวอย่าง Palmer ถามหน่อยในรอบสิบปี มีกว่าจะโผล่มาซักกี่คนเชียวที่เป็นตัวจริงปีแรกแล้ว Output ขนาดนี้ คำถามคือเชลซีจำเป็นต้องเสียเวลาอีกหรอ นี่คนที่สามแล้วนะ ทีมระดับนี้ต้องรับความเสี่ยงขนาดนี้มั้ยในเมื่อแบรนด์ของทีมสามารถไปดึงคนที่มีศักยภาพมากกว่านี้ได้ ถ้ามันปังก็คือว่า Jackpot แต่ถ้าไม่ดี ต้องย้อนกลับไปเริ่มใหม่ซักกี่รอบ

ถ้าได้มาจริงยังไงก็เชียร์อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก แต่ตอนนี้ในเมื่อมันมีช้อย คนก็ต้องอยากได้คนที่มันมีผลงานจับต้องได้ไม่ถูกหรอ

มันเกิดขึ้นครั้งแรกหรอ ในยุคใหม่นี้อะ

ดีไม่ดีอยู่ที่ผลงาน เเต่มันเสี่ยงไปครับสำหรับทีมอย่างเชลซี ขอยกตัวอยาง กอมปานี เลยล่ะกัน พลิกสไตล์การเล่นฟุตบอลของเบิร์นลีย์จากหน้ามือเป็นหลังมือได้รับเสียงชืมชมอย่างล้นหลาม เเต่พอขึ้นมาเล่นพรีเมียร์เล่นกันไม่ได้เลย ลีกหลักกะลีกรองผมว่ามันห่างกันเยอะอยุ่

ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว

ใช้คำว่าเพราะเราลองมาแล้วได้ไหมอะ ในมือบอร์ดบริหารนี้ ที่จิ้มมาเอง

1.พอตเตอร์นั่นไง ทำทีมทรงดี น่าลุ้นน่าเชียร์ ผล เป็นไง แตก

2.อะแลมพาร์ด ตำนานสโมสร มีผลงานคุมทีมลีคล่างมาแล้ว ก็แตก[แต่ไม่อยากอ้างอิงมากมาคุมขัดตาทัพ]

3.ป๊อด เคยคุมทีมใหญ่อย่างปารีสมา คุมทีมลุ้นพื้นที่ UCL อย่างสเปอร์มา แต่ผลงานก็จับต้องเป้นชิ้นเป็นอันไม่ได้

แล้วขาดอะไรล่ะ ก็ขาด โค๊ชคนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วไง ที่ยังไม่ได้ลอง ทำไมไม่ลองลุ้นดู

ทำไมกลับไปลุ้น สิ่งที่เคยลุ้นไปแล้ว เออถ้าว่าลองครบทุกแบบแล้ว กลับมาวนลูปก็ยังพอเข้าใจได้

ก็จริงครับ มันก็เหมือนวัดดวงแหละ แต่การที่เลือกโค้ชมีประสบการณ์ มีดีกรีหน่อย ความเสี่ยงมันก็น้อยกว่า เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จก็สูงกว่า ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่ามันล้มเหลว ตอนปลดทูเคิ่ลโคตรหวังว่าจะได้ดีกรีแชมป์อย่างเอ็นริเก้ แต่ดันไปเอาครูพละพอตเตอร์มา โคตรเซงสุดท้ายเป็นไงละห่วยแตก