โหมโรงบิ๊กแมตช์แย่งอันดับ 4 ชี้ชะตาตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก

#SSxLaLiga | แอตเลติโก้ มาดริด และแอธเลติก บิลเบา 2 ทีมดังของลาลีกา กำลังจะพบกันเองเป็นหนที่ 4 ในรอบ 4 เดือน กับเกมที่ชี้ชะตาการลุ้นอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นโควตาสุดท้ายของถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดที่ 33 ของฤดูกาล คู่บิ๊กแมตช์ลุ้นท็อปโฟร์ ระหว่าง แอตเลติโก้ มาดริด พบกับ แอธเลติก บิลเบา ที่สนามเอสตาดิโอ ซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่ ในคืนวันเสาร์ที่ 27 เมษายนนี้ เวลา 02.00 น.

แอตเลติโก้ มาดริด ทีมอันดับที่ 4 มี 61 คะแนน 3 เกมหลังสุดในลีก เก็บได้ 6 คะแนน จากการบุกไปชนะบียาร์เรอัล 2 - 1 ต่อด้วยเปิดบ้านล้างแค้นจีโรน่า 3 - 1 และล่าสุด บุกไปแพ้ทีมหนีตกชั้นอย่างอลาเบส 0 - 2

แอธเลติก บิลเบา ทีมอันดับที่ 5 มี 58 คะแนน ไม่ชนะใครใน 3 เกมลีกล่าสุด เริ่มตั้งแต่ออกไปพ่ายเรอัล มาดริด 0 - 2 จากนั้นเล่นในบ้าน 2 นัดติด แต่กลับทำได้แค่เสมอทั้งบียาร์เรอัล และกรานาด้า ด้วยสกอร์ 1 - 1

ทั้ง 2 ทีม พบกันในฤดูกาลนี้มาแล้ว 3 ครั้ง แอธฯ บิลเบา เก็บชัยแบบคลีนชีตทุกนัด เริ่มจากในลาลีกา เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว เปิดซาน มาเมส ชนะไป 2 - 0 กอร์ก้า กูรูเซต้า และนิโก้ วิลเลียมส์ ทำคนละประตู

ต่อด้วยโกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก บิลเบาบุกไปชนะได้ก่อน 1 - 0 และนัดที่ 2 ย้ำชัยอีกครั้งในบ้าน 3 - 0 ซึ่งในท้ายที่สุด ยักษ์ใหญ่จากแคว้นบาสก์ ก็ปลดล็อกคว้าแชมป์รายการนี้เป็นหนแรกในรอบ 40 ปี

อีกประเด็นที่น่าติดตาม คือการวัดความคมของดาวยิงทั้ง 2 ทีม อัลบาโร่ โมราต้า, อองตวน กรีซมันน์ และกอร์ก้า กูรูเซต้า ที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นรางวัล “ปิชิชี่” หรือรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดประจำซีซั่นกันอย่างดุเดือดสุดๆ

นอกจากนี้ ยังมีการดวลกันระหว่าง 2 ยอดผู้รักษาประตูอย่างแยน โอบลัค เจ้าของรางวัลนายทวารยอดเยี่ยมของลาลีกา 5 สมัย กับอูไน ซิม่อน ที่มีลุ้นเป็นผู้เล่นบิลเบาคนแรกในรอบ 54 ปี ที่คว้ารางวัลซาโมร่า โทรฟี่

สถานการณ์การลุ้นไปยูซีแอล เรอัล มาดริด คือทีมแรกการันตีโควตาเรียบร้อยแล้ว ขณะที่บาร์เซโลน่า และจีโรน่า ตั้งเป้าที่จะทำแต้มไล่จี้ราชันชุดขาวให้มากที่สุด ก็มีโอกาสสูงมากที่จะคว้าสิทธิ์ในถ้วยใหญ่สุดของยุโรป

ทำให้โควตาสุดท้าย แอตเลติโก้ และบิลเบา จะแย่งกันเอง หากแอตเลติโก้เป็นฝ่ายที่คว้าชัย ช่องว่างจะห่างเพิ่มเป็น 6 คะแนน แต่ถ้าบิลเบาบุกไปเก็บชัยชนะ คะแนนจะขึ้นมาเท่ากัน แถมได้เปรียบเรื่องผลงานเฮด-ทู-เฮด

หลังจากที่ทั้งคู่พบกันในสุดสัปดาห์นี้ จะเหลืออีกทีมละ 5 เกม ซึ่งโปรแกรมที่รออยู่ของแอตฯ มาดริด ประกอบด้วย เรอัล มายอร์ก้า (เยือน), เซลต้า บีโก้ (เหย้า), เกตาเฟ่ (เยือน), โอซาซูน่า (เหย้า) และเรอัล โซเซียดัด (เยือน)

ส่วนคิวเตะ 5 นัดสุดท้ายของบิลเบา ได้แก่ เกตาเฟ่ (เยือน), โอซาซูน่า (เหย้า), เซลต้า บีโก้ (เยือน), เซบีย่า (เหย้า) และราโย บาเยกาโน่ (เยือน) ซึ่งในจำนวนนี้ ต้องเจอกับทีมในโซนหนีตาย 2 ทีม เช่นเดียวกับแอตฯ มาดริด

ทีมของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ลุ้นพาแอตฯ มาดริด คว้าสิทธิ์ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นซีซั่นที่ 12 ติดต่อกัน ด้านทีมของเอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ หวังที่จะช่วยให้บิลเบา ยุติช่วงเวลาที่ห่างหายไปจากถ้วยใหญ่สุดของยุโรปนานถึง 10 ปี

นี่คือบิ๊กแมตช์ที่เดิมพันสูงทั้งแอตเลติโก้ มาดริด และแอธเลติก บิลเบา ที่ต่างไม่ต้องการพลาดโควตาลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รายการที่เปรียบดั่งขุมทรัพย์ของทุกๆ สโมสร แต่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สุขสมหวัง

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ