ยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าจะปลด พอช ชัวร์ๆนะ คงตามแผนเดิมรอไปประเมินตอนจบฤดูกาล
ส่วนตัวผมคิดว่ามีแนวโน้มจะปลด 50/50 แต่อีก 6 นัดที่เหลือถ้าแพ้ซัก 2-3 นัด น่าจะเพิ่มแรงกระตุ้นให้มีโอกาสโดนปลดตอนจบฤดูกาลมากขึ้น
จากข่าวบอกว่าตอนนี้มีบางคนในบอร์ดยังอยากเซฟพอชอยู่รวมถึงนักเตะในทีม แต่ผมว่าถ้าเละมากก็คงเซฟไม่ไหวหรอก
ทีนี้พูดถึงตัวแทนเอาจริงๆก็มี อโมริม กับ เดแชร์บี้ นี่แหละที่น่าจะถูกพูดถึงมากสุด ส่วน สล็อต น่าจะไป ลิเวอร์พูล แล้ว
ทูเคิ่ล , น้ามู , คอนเต้ ไม่น่าใช่สไตล์ที่เจ้าของทีมชอบเลย เพราะงั้นตัดออก
ชาบี นี่ก็ตกลงคุม บาร์ซ่า ต่อแล้ว , มิเกล กำลังจะพา กิโรน่า ไปเตะ UCL ได้ น่าจะคุมต่อ
เหลือ ฟลิค อีกคนที่หลุดโผจากทุกทีมที่มีข่าวด้วย ผมยังลุ้นให้อยู่ๆก็โผล่มาในลิสต์เชลซีนะ แต่ส่วนตัวคิดว่า อโมริม กับ เดแชร์บี้ ตรงสเป็กเจ้าของทีมมากกว่า
เลยลองตั้งกระทู้เล่นๆว่าคนไหนเหมาะกับนักเตะในทีมมากกว่ากัน
Edit เพิ่มนิดหน่อย ผมไม่ได้วิเคราะห์เอง 100% นะ อ่านที่สื่อต่างชาติวิเคราะห์แทคติคของ 2 คนนี้ แล้วเอามาบวกกับที่เคยดูด้วยตัวเอง ละเอามาเทียบกับตัวที่มีในทีมดู บอกไว้ก่อน กลัวโดนหาว่าเอามาเคลมเครดิตคนเดียว
อโมริม
- ค่าฉีก 8.5 ลป ( อิงตาม ออนสตรีน นะ ถ้า โรมาโน่ จะเป็น 25 ลป แต่ผมว่า ออนสตรีน แม่นกว่า )
- แผนการเล่น 3-4-3 เน้นครองบอล
- เซ็นเตอร์ 3 คนต้องครองบอลดี จ่ายบอลทะลุไลน์ดี ( ลูกจ่ายแบบที่ โคลวิล กับ บาเดียชิล มันชอบจ่าย ที่จ่ายเรียดทะลุไลน์ขึ้นมาให้ตัวรุกแล้วพลาดบ่อยๆน่ะ
)
- เวลาครองบอล เซ็นเตอร์ 3 คนจะยืนขยายห่างกัน เพื่อเพิ่มระยะทางให้ตัวรุกคู่แข่งไปเพรสไกลขึ้น
- กองกลางจะเป็น Double Pivot ยืนไม่ห่างกันมากบริเวณกลางสนามเพื่อช่วยเชื่อมบอล
- วิงแบ็กจะเล่นออกด้านกว้างชิดริมเส้น ( ไม่ได้ตัดเข้าในไปรอยิงเป็นประจำเหมือนยุคทูเคิ่ล )
- ปีก หรือ inside forward อีก 2 คนจะเล่นแคบๆใกล้กับกองหน้ามากกว่า
- คีย์สำคัญคือพยายามที่จะเล่นบอลในแนวดิ่งเมื่อเป็นไปได้ ( อธิบายยากดูคลิปจะเห็นภาพกว่า ลองเสิร์ชยูทูปว่า Vertical pass ดูครับ การจ่ายบอลแนวดิ่ง )
- เมื่อเจอกับทีมที่เล่นรับลึก อโมริม มีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณการครอสบอลมากขึ้น
- เมื่อเล่นกับทีมที่รับลึก กองกลาง 1 คนมักจะลอยสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีการครองเกมส์
- และหลายๆครั้งเซ็นเตอร์ตัวกลางจะเติมขึ้นไปพื้นที่แดนกลางแทนกองกลางที่เติมสูง
- กองหน้ามักจะวิ่งฉีกออกไปพื้นที่ด้านข้างเพื่อดึงเซ็นเตอร์คู่แข่งให้ตามออกไป แล้วให้ ปีก หรือ inside forward สอดเข้าไปในพื้นที่ว่างตรงนั้นเพื่อไปรอยิงแทน
- ตอนไม่ได้ครองบอลจะเล่น 5-2-3 เพื่อเล่นเกมส์รับ
- ไอเดียเกมส์รับคือแพ็คไม่ให้คู่แข่งบุกเจาะทะลุกลาง และบีบให้คู่แข่งออกไปบุกทางริมเส้น
- เมื่อคู่แข่งไปบุกริมเส้นตามที่คิดก็จะมีการเพรสบีบอย่างดุดันเพื่อแย่งบอลกลับมา
- เมื่อ 1 ในกองกลางเติมสูงขึ้นไปเพื่อเพรสในแดนคู่แข่ง เซ็นเตอร์ตัวกลางจะเติมขึ้นมาในพื้นที่กองกลางแทน
- เมื่อเซ็นเตอร์ตัวกลางดันขึ้นไปเป็นกองกลาง เซ็นเตอร์ตัวข้าง 2 ข้างจะขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเพื่อคัฟเวอร์พื้นที่ว่างตรงนั้น
สิ่งที่น่ากังวล
- อโมริม จะรับความกดดันได้ขนาดไหน เมื่อต้องมาคุม เชลซี
- เห็นว่า ผจกทีม จากลีกโปรตุเกสที่ย้ายออกมานอกประเทศมี น้ามู เกิดคนเดียว
- ทำไม ลิเวอร์พูล และ เวสต์แฮม เปลี่ยนใจไม่เอา อโมริม แล้วหันไปหาคนอื่นแทน
- เชลซี ในปัจจุบันนี้ต้องเปลี่ยนแผนจาก 4-2-3-1 ไป 3-4-3
- พาลเมอร์ ถ้าไปเล่นในแผนใหม่จะยังโหดเหมือนเดิมมั้ยในเมื่อต้องเล่นด้านในมากกว่าริมเส้น
- ปีกจ๋าๆแบบพวก มูดริค กับ มาดูเอเก้ จะเล่นได้ดีมั้ยถ้าไม่ได้เล่นเป็นปีก อาจจะเหมือน พูลิซิช ยุค ทูเคิ่ล
- ในส่วนของกองกลางมีฝรั่งวิเคราะห์ไว้ว่า กลางคู่ของสปอร์ตติ้งมีค่าเฉลี่ยจ่ายบอลต่อ 90 นาทีประมาณ 50-60 ครั้ง ซึ่ง เอ็นโซ่ มากกว่านั้น ( ฤดูกาลนี้ 76 ครั้ง )
- กลางคู่ของสปอร์ตติ้ง ( โมริตะ กับ hjulmand ) มีค่าเฉลี่ยระยะทางการจ่ายบอลต่อ 90 นาที ราวๆ 700 หลากว่าๆ ในขณะที่ เอ็นโซ่ ในลีกฤดูกาลนี้มีค่าเฉลี่ยระยะทางการจ่ายบอลต่อ 90 นาที ราวๆ 1174 หลา
- กลางคู่ของสปอร์ตติ้ง มีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอลยาวประมาณ 4-5 ครั้งต่อเกมส์ ส่วน เอ็นโซ่ 11 ครั้งต่อเกมส์
- คนเลยกังวลกันว่าถ้า เอ็นโซ่ เล่นในระบบ อโมริม จะถูกจำกัดการจ่ายบอล และ การวางบอลยาวให้น้อยลงรึเปล่า ถ้าใช่ก็เหมือนลดประสิทธิภาพของ เอ็นโซ่ ลง
- ส่วน ไคเซโด้ ไม่น่ามีปัญหา ยิ่งถ้ามาเล่นในแผนหลัง 3 แล้วมีเซ็นเตอร์คัฟเวอร์เพิ่มอีกคนยิ่งน่าจะส่งผลให้ ไคเซโด้ วิ่งออกไปไล่เพรสได้มากขึ้น ไม่ต้องเฝ้าพื้นที่แบบในยุค พอช
- ส่วนเซ็นเตอร์ เอาจริงๆในตอนที่เล่นดี โคลวิล , ดิซาซี่ , บาเดียชิล มันจ่ายบอลทะลุไลน์ขึ้นมาดีนะ แต่ตอนนี้ทั้ง 3 คนฟอร์มตก จ่ายพลาดบ่อยมาก ถ้าเรียกฟอร์มกลับมาไม่ได้ก็มีปัญหา เพราะ อโมริม ใช้เซ็นเตอร์จ่ายบอลขึ้นมาจากแนวรับเหมือนพวกทีมหลัง 3 หลายๆทีมนั่นแหละ
- เซ็นเตอร์ตัวกลางนี่ในทีมก็ดูไม่มีตัวที่เหมาะๆ เพราะหลายๆครั้งตัวนี้จะดันขึ้นมายืนกองกลางแทนกลาง 1 คนที่เติมไปด้านบน ( ผมคิดภาพเล่นๆต้องทรงประมาณ ลุยซ์ ละมั้ง เล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์และกลาง )
- ถ้าจะแก้ซื้อ ดิโอมองเด้ ตามมาก็อาจจะได้ เห็นฝรั่งวิเคราะห์ไว้ว่า ปกติเล่นเซ็นเตอร์ตัวขวา แต่ถ้านัดไหน โคอาเตส ไม่ได้ลง อโมริม จะเอา ดิโอมองเด้ ยืนตัวกลางแทน
- โฟฟาน่า ก็อาจจะเล่นได้ถ้ามันไม่เจ็บ
- วิงค์แบ๊คขวาไม่น่าจะมีปัญหา แต่ซ้ายนี่ คูคูเรย่า ตอนเล่นวิงค์แบ๊คไม่ค่อยมีประโยชน์ในเกมส์รุกเท่าไหร่
- ถ้าเสริมตัววิงค์แบ๊คซ้ายที่ เกมส์รุกดีๆ ครอสบอลดีๆ น่าจะเหมาะ
- โกล นี่ก็ต้องมีออกมาจ่ายบอลบ้าง แต่ไม่เท่า เดแชร์บี้ แน่ๆ ตัวเดิมๆน่าจะเล่นได้อยู่
ถ้ามาคุมจริงทีมน่าจะออกมาแบบไหน?
- อาจจะดึง ดิโอมองเด้ กับ เกียวเคเรส ตามมาด้วย
- ปีกจ๋าๆไม่จำเป็นเพราะงั้นไม่ต้องซื้อ นิโก้ วิลเลี่ยม เอาเงินไปสมทบทุนซื้อ เกียวเคเรส เลย
- สเตอริ่ง , มูดริค , มาดูเอเก้ น่าจะปล่อยได้ 1-2 คน
- เอ็นคุนคู เล่นหน้าต่ำตรง inside forward ได้ เหมือนจะเคยเล่นสมัย นาเกลมันส์ คุม ไลป์ซิก
- แจ๊คสัน น่าจะเล่นหน้าต่ำตรง inside forward ได้นะ ให้มีหน้าเป้าค้ำอยู่หน้ามันตัวนึง
- แบ๊คซ้ายตัวใหม่ ไม่รู้จะได้ใคร แต่ส่วนตัวคิดว่ามีแววเป็น เคอร์เคส ผมเคยดูนิดหน่อย รุกดีแต่ยังไม่ได้เก่งมาก
เดแชร์บี้
- ค่าฉีก 13 ลป
- แผนการเล่น 4-2-3-1 แต่เวลาครองบอลจะเหมือน 4-2-4 มากกว่า
- คอนโทรลเกมส์ ล่อคู่แข่งให้ขึ้นมาเพรส และ เปลี่ยนจังหวะในการบุก เป็น 3 คีย์หลักของ เดแชร์บี้
- ภาษาบ้านๆก็ เคาะบอลในแดนตัวเอง ล่อคู่แข่งให้ขึ้นมาเพรสสูง แล้วแก้เพรสให้ได้จากนั้นเปลี่ยนเป็นเกมส์รุกอย่างรวดเร็ว
- หลายๆครั้งที่ กองหน้า กับ กลางรุก จะดร็อปต่ำลงมาเพื่อรับบอล ทำให้เซ็นเตอร์คู่แข่งต้องตัดสินใจว่าจะตามประกบจนหลุดจากตำแหน่งมั้ย
- ถ้าเซ็นเตอร์คู่แข่งตามไปก็จะเปิดพื้นที่ด้านหลังทำให้ ปีกสามารถวิ่งสอดเข้าไปตรงนั้นได้
- ถ้าเซ็นเตอร์คู่แข่งไม่วิ่งตามไป กองหน้ากับกลางรุกที่ดร็อปต่ำลงไปก็จะไม่มีตัวประกบก็มีโอกาสที่จะรับบอลแล้วพลิกบอลเพื่อเปลี่ยนเป็นเกมส์รุกได้
- จากนั้น เดแชร์บี้ จะให้ทีมเปลี่ยนจังหวะจากช้าไปเร็วมากเพื่อโจมตีพื้นที่ว่าง เลยทำให้เหมือนการ transitions หรือ counter attacks
- ปัจจัยสำคัญสำหรับ เดแชร์บี้ คือการวางตำแหน่งของคู่กลาง Double Pivot และใช้การประสานงานกับนักเตะคนที่ 3 เพื่อเอาชนะการเพรสและเปลี่ยนจังหวะไปในแดนหน้า
- ตัวเลือกหลักไม่ว่าจะเป็นการเจอกับทีมที่รับลึก หรือ หลังจากแก้เพรสออกมาได้แล้ว คือ ตัวรุกริมเส้นที่โดดเด่นในการดวล 1 VS 1
- เดแชร์บี้ ชอบที่จะมีปีกที่ดวล 1-1 เก่งๆ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งส่งบอลเข้าเขตโทษในรูปแบบต่างๆ และตัดเข้าในเพื่อยิง
- เมื่อเจอกับทีมที่มารับลึก ไบรท์ตัน มีแนวโน้มที่จะครองบอลในแดนคู่แข่ง ซึ่งทำให้พวกเขาอยู่ในรูปแบบ 2-3-5
- โดยแบ๊คทั้ง 2 ข้างอินเวิร์ตเข้ามายืนกับกลางรับ แล้วให้กลางอีกคนเติมสูงขึ้นไปเพื่อเป็นทางเลือกในแนวรุก
- ซึ่งจะทำให้ ไบรท์ตัน มีโอกาสส่งบอลวนไปรอบๆกรอบเขตโทษ และส่งบอลเข้าไปในเขตโทษให้ตัวรุกบุกเข้าโจมตีเรื่อยๆ
- แต่รูปแบบนี้ก็มีความเสี่ยงเวลาโดนสวนในพื้นที่ของแบ๊คก็ทำให้เซ็นเตอร์ 2 คนต้องวิ่งไปป้องกันตัวรุกริมเส้นคู่แข่งมากขึ้นแทน
- ในส่วนของเกมส์รับ ไบรท์ตัน มีแนวโน้มที่จะเพรสแบบ man to man ( 1-1 เพรสแบบตัวต่อตัว )
- โดยมองหาทางทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่มั่นคงในแดนของตัวเองด้วยการบีบสูงแบบ 1-1 ในแดนคู่แข่งเพื่อแย่งบอลกลับมา
- และการเพรสแบบ 1-1 ในแดนคู่แข่งก็มีโอกาสทำให้แนวรับคู่แข่งหาโอกาสพลิกบอลหรือจ่ายบอลให้กันยาก เลยเหมือนบีบให้ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนไปวางบอลยาวแทน
- เดแชร์บี้ ต้องการให้ทีมของเขาเล่นกับบอลให้มากที่สุด ดังนั้นการเพรสซิ่งแบบดุดันจะเพิ่มโอกาสในการแย่งบอลกลับมาเร็วขึ้น และกลับมาครองบอลได้ตามที่ต้องการ
- ถ้าจะตั้งรับ ไบรท์ตัน จะปรับมาเล่นเป็น 4-4-2 โดยให้ กองหน้า และ กลางรุก เป็นตัวนำในการเพรส
สิ่งที่น่ากังวล
- โกล 2 คนของ เชลซี ไม่น่าจะเล่นในรูปแบบของ เดแชร์บี้ ได้ เพราะต้องมีส่วนในการแก้เพรสด้วยเท้าบ่อยมาก และแทบจะห้ามวางบอลยาวเลย
- เซ็นเตอร์ถ้าเอาฟอร์มตอนนี้มาเล่นในสไตล์ เดแชร์บี้ มีจ่ายเสียกันตอนแก้เพรสแล้วโดนสวนแน่นอน ดู ไบรท์ตัน ตอนนี้ก็ได้ กองหลังเสียความมั่นใจจ่ายแจกกันรัวๆ
- เซ็นเตอร์ตัวช้าๆเวลาโดนสวนน่าจะยับเพราะ เดแชร์บี้ ยืนไลน์สูงถ้าบิ๊วอัพพลาดแล้วโดนสวน บาเดียชิล กับ ดิซาซี่ ไม่น่าวิ่งตามตัวรุกคู่แข่งทัน
- โคลวิล อาจจะพอได้ถ้าเรียกฟอร์มเก่ามาได้ โฟฟาน่า ผมว่าได้ถ้าไม่เจ็บ
- แบ๊คโดยปกติน่าจะต้องคอมโบกับปีกดีๆ วิ่งอ้อมหลังไปสุดเส้นเพื่อครอสหรือคัตแบ๊คบ่อยๆ ฝั่งซ้ายน่าจะต้องเสริม และคงต้องหาเผื่อที่อินเวิร์ทเข้ามากลางได้ด้วย
- เอ็นโซ่ น่าจะเล่นได้นะ เล่นแบบ โกรส , กิลมอร์ คอยรับบอลเชื่อมบอลช่วยบิ๊วอัพในแดนตัวเอง พลิกแล้วจ่ายทะลุไลน์เพื่อเปลี่ยนจังหวะไปเล่นเกมส์รุก
- ส่วน ไคเซโด้ ผมว่าน่าจะเล่นดีขึ้นกว่าตอนนี้
- ปีกสายดวล 1-1 ในทีมตอนนี้จะมีใครสู้ มิโตมะ กับ มาร์ช ได้มั่ง ไบรท์ตัน ปีนี้ มิโตมะ กับ มาร์ช เจ็บไป ไบรท์ตัน ก็เป๋ไปเลย เพราะเจาะแนวรับคู่แข่งไม่ได้
- ถ้ามา เชลซี แล้วปลุก มูดริค , มาดูเอเก้ , สเตอริ่ง ไม่ได้ ก็น่าจะลำบาก
- มูดริค เคยเล่นให้ เดแชร์บี้ ตอนคุม ชัคตาร์ ลงไป 19 นัด ยิง 2 จ่าย 9 แต่ในอังกฤษไม่รู้มันจะยังไง
- กองหน้า เวลเบ็ค ลงมาเก็บบอลต่ำดีนะ ไอ้แจ๊ค น่าจะเล่นได้แต่ก็ไม่คมเหมือนกัน แจ๊คสัน นี่สากกว่า เวลเบ็ค อีก ก็คงต้องซื้อใหม่ตามแผน
ถ้ามาคุมจริงทีมน่าจะออกมาแบบไหน?
- โกล เดแชร์บี้ อาจจะลอง เปโตรวิช ก่อนก็ได้แต่ผมว่าเล่นไม่ได้ ถ้าเริ่มจ่ายพลาดน่าจะเละ แต่ก็อาจจะลองก่อน
- มีข่าวลือกับ เบนโต โกลในลีกบราซิล แต่ไม่รู้จะเอามั้ย และตัวนี้เล่นเท้าดีมั้ยผมก็ไม่รู้ไม่เคยดู
- เซ็นเตอร์ โคลวิล น่าจะเล่นได้ , โฟฟาน่า เล่นได้ถ้าไม่เจ็บ
- บาเดียชิล , ดิซาซี่ ผมว่าสำรอง มันช้า และจ่ายแจกบ่อย
- เซ็นเตอร์ที่จะซื้อใหม่ถ้าจะเอามาเล่นในแผน เดแชร์บี้ ต้องลูกเท้าดีมาก นิ่ง โดนเพรสไม่ล่ก และอาจจะต้องมีความเร็วด้วยเผื่อพลาดจะได้วิ่งกลับมาเซฟทัน
- เชลซี น่าจะซื้อ ดิโอมองเด้ นี่แหละ ลูกเท้า การครองบอล ได้อยู่ แต่ความเร็วนี่ผมไม่ชัวร์ ไม่เคยเห็นมันวิ่งเต็มสปีด
- แบ๊ค คอมโบปีกดีๆ วิ่งโอเวอร์แลปไปสุดเส้นแล้วครอสหรือคัตแบ๊คได้ อินเวิร์ทเข้ามากองกลางได้
- แบ๊คซ้ายก็คงเปลี่ยน 1 คน ขาย คูคู จะได้ใครไม่รู้ผมเดาว่า เคอร์เคส เหมือนเดิม
- กลางครองบอลดีๆพลิกบอลดีๆจ่ายบอลได้ เอ็นโซ่ ไคเซโด้ ได้อยู่สำรองก็ ลาเวีย กับ ซานโตส น่าจะได้นะ
- กลางรุก คิดภาพ เจา เปโดร กับ เอ็นซิโซ่ ก็น่าจะลงมารับบอลดีๆ นิ่งๆ พลิกแล้วพาบอลบุกได้ ยิงไกลได้ จ่ายได้ สอดเข้าในกรอบเขตโทษได้ เอ็นคุนคู ชุควูเมก้า น่าจะพอได้
- ปีก ก็ต้องดวล 1-1 โหดๆแล้วทำได้ทั้งไปสุดเส้นครอส หรือ ตัดเข้าในยิง
- ปีกขวา พาลเมอร์ ได้ กลางรุกก็น่าจะได้ , มาดูเอเก้ ได้นะปีกสายเลี้ยงดวลเนี่ยส่วนเรื่องยิงจ่ายต้องไปลุ้นให้พัฒนาเอา
- ปีกซ้าย นี่ลุ้นฟอร์ม มูดริค ว่า เดแชร์บี้ จะเรียกฟอร์มได้มั้ย
- ส่วน สเตอริ่ง ผมว่าเล่นได้แต่อาจจะถูกขายเพื่อลดเพดานค่าเหนื่อยซึ่งอาจจะได้ตัวแทนเป็น นิโก้ วิลเลี่ยม ซึ่งส่วนตัวผมว่าน่าลุ้นกว่า มูดริค
- กองหน้าผมไม่คิดว่า เชลซี จะยอมทุ่มซื้อ เฟอร์กูสัน หวยน่าจะไปออก เซสโก้ มากกว่า
* ในเว็ปจัดตัวไม่มี Bento ผมเลยใส่ เปโตรวิช มาไว้ก่อน *