BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: หนานุ่ม หนานุ่ม
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 4297
ที่อยู่: Theatre of Dreams
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 12:06
Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2003
วันที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ในนัดชิงลีคคัพ 2-0 ในวันเดียวกันมีรายงานข่าวเล็กๆว่า
เจ้าของทีมแชมป์ซุปเปอร์โบล แทมป้า เบย์ บัคคาเนียส์ ชื่อว่า มัลคอม เกลเซอร์ ทุ่มเงิน 9 ล้านปอนด์ เพื่อเข้าซื้อหุ้น 2.9% ของแมนยู โดยซื้อในนาม บริษัท Red Football (เรด ฟุตบอล)

สิ่งที่น่าตกใจคือหลังจากนั้นไม่กี่เดือน ในช่วงท้ายเดือนพฤศจิกายน มัลคอม เกลเซอร์ ได้ไล่ซื้อหุ้นเล็กหุ้นน้อยจากหลายฝ่าย จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นมากถึง 15% ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี

แม้จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นกว่า 15% แล้ว แต่ผู้นำตระกูลเกลเซอร์ ยังไม่หยุดแค่นั้น
ในเดือน พฤษภาคม ปี 2005 มัลคอม เกลเซอร์ ก็สร้างปรากฏการอีกครั้ง เพราะในคราวนี้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นมากกว่า 57% ของสโมสรหลังจากสามารถปิดดีลการซื้อหุ้นจำนวนมากจาก JP Mcmanu (เจพี แมคแมน) และ John Magnier (จอห์น แม็กเนียร์) ได้ในที่สุด

หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้การขายหุ้นคราวนี้เกิดขึ้นได้ คือความขัดแย้งระหว่าง เซอร์ อเล็ก และ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ชาวไอริชทั้งสองคน ที่มีการฟ้องร้องกัน เกี่ยวกับธุรกิจม้าแข่ง ในเรื่องการถือสิทธ์เป็นเจ้าของม้าแข่ง Rock of Gibraltar. (ขุนเขาแห่งยิบรอลตาร์)
หลายฝ่ายในบอร์ดบริหารชุดเดิมของยูไนเต็ดเชื่อว่าความขัดแย้งระหว่างผู้จัดการทีมคนสำคัญและผู้ถือหุ้นรายใหญ่นี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตระกูลเกลเซอร์หว่านล้อมผู้เกี่ยวข้องมากมายจนเข้าหุบหุ้นก้อนใหญ่ได้ในที่สุด

ในช่วงกลางปี 2005 หลังจากที่ บ.Red Football เข้าถือหุ้นได้มากถึง 75% ตระกูลเกลเซอร์ตัดสินใจยกเลิกสถานะการเป็น บริษัทมหาชน ของสโมสร และถอดสโมสรออกจากตลาดหุ้นของลอนดอน ทำให้เกิดความไม่พอใจจากแฟนบอลยูไนเต็ด และมีการประท้วงการบริหารของเกลเซอร์เป็นครั้งแรก โดยเกิดขึ้นใน นัดชิงชนะเลิศ FA Cup ระหว่างแมนยู และ อาเซนอล ซึ่งแมนยูแพ้ต่ออาเซนอล ในการดวลจุดโทษไปด้วยสกอร์ 5-4 แฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางส่วนมีความแคลงใจกับวิธีบริหารของเกลเซอร์ ที่มีท่าทีเหมือนการยึดสโมสรเป็นของส่วนตัวและปิดโอกาสการพัฒนาจากการได้รับรายได้ในตลาดหุ้น ซึ่งหากเราข้ามกันมาในปี 2024 นี้ ทุกท่านคงได้เห็นกันแล้วว่า 'พวกเขาคิดถูก'

ในเดือน มิถุนายน ปี 2005 เกลเซอร์ได้เข้าถือสิทธ์ครอบครองสโมสร โดยสมบูรณ์ แต่ดีลการซื้อขายครั้งสุดท้ายนี้ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจมากนัก เพราะทุนในการซื้อหุ้นส่วนมากในครั้งนี้ มาจากการกู้ยืมโดยใช้ทรัพย์สินของสโมสรทั้งสิ้น
การเข้าเทคโอเวอร์สโมสรในดีลนี้ มีมูลค่ามากถึง 790 ล้านปอนด์ แต่สโมสรกลับมีหนี้พุ่งกระฉูดทันทีถึง 525 ล้านปอนด์
ดีลในครั้งนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีตัวเลขติดลบ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1931 แถมยังเกิดคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ไม่ใช่แค่จากแฟนบอล แต่เกิดทั้งในวงการฟุตบอลรวมถึงด้านธุรกิจอีกด้วย ทำให้ภาพลักษณ์ของสโมสรแทบติดลบ

สิ่งเดียวที่ยังค้ำจุนสโมสรให้ก้าวต่อไปได้ คือผลงานในสนามของ เซอร์ อเล็ก ที่ยังคงแสดงถึงมาตรฐานที่มีมาอย่างยาวนาน
แม้จะพลาดแชมป์หลักๆและได้มาเพียง ลีค คัพ ถ้วยเดียว ในฤดูกาล 2005/2006 แต่แมนยูชุดนั้นอุดมไปด้วยดางรุ่งมากมาย ทั้ง เวนย์ รูนี่ย์ คริสเตียโน โรนัลโด้ เนมันย่า วิดิช เคร์ราด ปิเก้ รอซซี่ ก็ทำให้แฟนๆยังมีความหวังและเชื่อมั่นว่าทีมจะกลับมาได้

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าตกใจของดีลในครั้งนี้ การกู้ยืมแบบแปลกประหลาดที่ใช้ทรัพย์สินของสโมสรกู้มาเพื่อเข้าเทคโอเวอร์สโมสรถูกธนาคารมองว่าเป็นการกู้ยืมที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ถูกคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 14.25% แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตระกูลเกลเซอร์เปลี่ยนใจในการกู้แต่อย่างใด และทำข้อตกลงกับธนาคารแม้ดอกเบี้ยจะสูงทะลุฟ้าแบบนี้

18 ปีต่อมาหลังจากการเข้าซื้อสโมสรสุดอื้อฉาว ในปี 2023 สโมสรต่างๆใน Premier League ลงมติ ตั้งลิมิตการซื้อหุ้นไว้ที่ 65% เพื่อป้องกันกรณีแบบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ให้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2

----------- จบพาร์ทที่ 1 ----------------------------


แก้ไขล่าสุดโดย PrettyBoy เมื่อ Thu Feb 22, 2024 13:57, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
We've seen it all We've won the lot

We're Man United and We never gonna stop
เข้าบอลแบบถึงลูกถึงเมีย
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: ยิ้มได้ในทุกๆวัน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4276
ที่อยู่: around the world ^_^
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 13:10
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
ขอบคุณสำหรับข้อมูล รออ่านพาร์ทต่อไปอยู่นะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Aug 2007
ตอบ: 6923
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 13:20
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
เป็นปลิงที่ระยำที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีแฟนบอล(ส่วนมากทีมอื่น)หลายคนที่ไม่เข้าใจ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Dec 2009
ตอบ: 2626
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 13:30
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
เกือบ 20 ปี หนี้ก็ยังไม่หมด พัฒนาการสโมสรก็หยุดนิ่ง

ในฐานะแฟนบอล จุกอกชิบหาย
แก้ไขล่าสุดโดย santaJL เมื่อ Thu Feb 22, 2024 13:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jan 2008
ตอบ: 2390
ที่อยู่: ปีหน้าเรามาแน่ !!!!!!!!!!!! เข้าร่วม: 05 May 2005
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 13:35
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
ว่ากันตามตรง ป๋ามีส่วนในการเข้ามาของเกลเซอร์มั้ยครับ

ถ้าเกลเซอร์คือสารตั้งต้นของความหายนะของแมนยู ป๋าอยู่ในสมการด้วยรึป่าวครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: หนานุ่ม หนานุ่ม
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 4297
ที่อยู่: Theatre of Dreams
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 14:07
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
ซากุระ พิมพ์ว่า:
ว่ากันตามตรง ป๋ามีส่วนในการเข้ามาของเกลเซอร์มั้ยครับ

ถ้าเกลเซอร์คือสารตั้งต้นของความหายนะของแมนยู ป๋าอยู่ในสมการด้วยรึป่าวครับ  


เบื้องลึกของเกมการเมืองจริงๆคงไม่มีใครตอบได้นอกจากคนในครับ และในตอนนั้นก็ไม่มีใครออกมาให้ข่าวด้านนี้

แต่ถ้าตามเรื่องราวที่ออกมา เป็นการขัดแย้งกันของป๋า และ ผั่งผู้ถือหุ้นส่วนนึง มากกว่า
โดยเกลเซอร์น่าจะมองเห็นเป็นโอกาสในการหว่านล้อมและเข้าแทรกแซงเพื่อซื้อหุ้นไป

จนทำได้สำเร็จ ป๋าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว อันนี้คงตอบไม่ได้ครับ

แต่ป๋าและผู้ถือหุ้น เป็นคนเปิดช่องว่างให้เกิดขึ้น

อันนี้แน่นอนครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
We've seen it all We've won the lot

We're Man United and We never gonna stop
เข้าบอลแบบถึงลูกถึงเมีย
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status: อยากย้อนเวลา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Jul 2008
ตอบ: 6715
ที่อยู่: In my heart
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 14:25
[RE]Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด
ขอติดตามตอนต่อไป ขอบคุณครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: เซ็ง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2006
ตอบ: 26345
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Feb 22, 2024 14:58
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
เกลียด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 6363
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Feb 23, 2024 14:40
[RE: Man United Series: จุดเริ่มต้นเส้นทางของตระกูล Glazers ที่ยูไนเต็ด]
PrettyBoy พิมพ์ว่า:
ซากุระ พิมพ์ว่า:
ว่ากันตามตรง ป๋ามีส่วนในการเข้ามาของเกลเซอร์มั้ยครับ

ถ้าเกลเซอร์คือสารตั้งต้นของความหายนะของแมนยู ป๋าอยู่ในสมการด้วยรึป่าวครับ  


เบื้องลึกของเกมการเมืองจริงๆคงไม่มีใครตอบได้นอกจากคนในครับ และในตอนนั้นก็ไม่มีใครออกมาให้ข่าวด้านนี้

แต่ถ้าตามเรื่องราวที่ออกมา เป็นการขัดแย้งกันของป๋า และ ผั่งผู้ถือหุ้นส่วนนึง มากกว่า
โดยเกลเซอร์น่าจะมองเห็นเป็นโอกาสในการหว่านล้อมและเข้าแทรกแซงเพื่อซื้อหุ้นไป

จนทำได้สำเร็จ ป๋าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว อันนี้คงตอบไม่ได้ครับ

แต่ป๋าและผู้ถือหุ้น เป็นคนเปิดช่องว่างให้เกิดขึ้น

อันนี้แน่นอนครับ  


ทำไมจะไม่เกี่ยว เฟอร์กี้นี่แหละเกี่ยวล้านเปอร์เซ็นต์ จุดเริ่มมันมาจากความหน้าเงินของเฟอร์กี้นั่นแหละ รอยคีนยังด่าเฟอร์กี้อยู่เลยว่าสิ่งที่แกทำไม่มีผลดีต่อสโมสร ตอนนั้นผู้ถือหุ้นใหญ่จะโหวตเฟอร์กี้ออกอยู่ แกเลยต้องหาผู้ลงทุนรายอื่นมาออกเสียงหนุนสู้เพื่ออยู่ต่อ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel