สวัสดีครับ เห็นฟอร์มทีมแล้วคันไม้คันมืออยากเขียนระบายบ้างจริงๆ สุดจะทนกับพอชละจริงๆ แต่เอาละ เพื่อนๆคงระบายกันไปพอสมควรละ มาขบมาคิดกันต่อดีกว่าว่าปลดพอชแล้วจะยังไงต่อ มันจะดีขึ้นจริงๆใช่ไหม หรือมันจะเป็นลูปนรก?
โพสนี้จะมาช่วยวิเคราะห์ว่าปัญหาเชลซีอยู่ที่พอชคนเดียวจริงๆ หรือมันเป็นกันทั้งสโมสร
ปลดพอชแล้วจะดีขึ้นหรือเปล่า และเราจะกลับไปเป็นแชมป์ถ้วยใหญ่ได้อีกหรือเปล่า? เมื่อคนถัดไปไม่ใช่พอช
ย้อน Timeline กันก่อน
4 กุมภาพันธ์ 2024: Chelsea 2–4 Wolves
หนึ่งในนัดที่ฟอร์มแย่ที่สุดในฤดูกาลนี้ แพ้ลิเวอร์พูลยังพอเข้าใจได้ว่าห่างชั้น นี่แพ้วูฟ แล้ววูฟเค้าใช้ตังค์ไปเท่าไหร่นะ? หนึ่งในแผลที่ใหญ่ที่สุดในแมตช์นี้คือฝั่งซ้าย
ขอแวะวิเคราะห์สั้นๆนะ เดี๋ยวไปเร็วๆ
ลูกขึ้นนำของวูฟ เขาแก้การ Pressing โดยการวางบอลจากเซนเตอร์ ออกริมเส้นฝั่งขวา โดยเซเมโด้ยืนติดเส้นเลย จุดประสงค์เพื่อให้ Chilwell ถ่างออกมาบีบ พอถ่างออกมาก็จะเกิดช่องว่างระหว่างแบ็คซ้ายกับเซนเตอร์ตัวซ้าย เป็นพื้นที่ที่เรียกว่า Half-Space แล้วเป็นที่มาของประตูนำของวูฟ
ลูก 3 เป็นการดวลเดี่ยวกับพี่ใหญ่ของเรา Thiago Silva คือแฟนเชลซีทุกคนคงรู้ว่า โดยปกติแล้ว Silva แกจะไม่ยืนชิดเส้น ถ้าเป็นเกมส์ที่มี Colwill คนที่ยืนตรงนั้นจะเป็น Colwill แทน (Colwill เคยให้สัมภาษณ์ว่าตำแหน่งนี้ทำไรมากไม่ได้ จ่ายบอกออกไปแล้วต้องรีบกลับมาประจำตำแหน่ง) นั่นแหละ พอแกชิดเส้นก็เสียเปรียบเห็นๆ จึงเป็นที่มาของประตู 3–1
ผู้บรรยายเอาแต่บอกว่าโชคไม่ดี แต่ผมมองว่าก็ส่วนนึง แต่ที่รับไปเต็มๆคือพอช นี่คือปัญหาของการโค้ชชิ่ง (กำหนดกลยุทธ์และสอนลูกทีมให้เข้าใจ) อย่างชัดเจน ที่เปิดโอกาสให้เขานวดตรงนี้ได้
พอละเดี๋ยวยาว
1 กุมภาพันธ์ 2024: Liverpool 4–1 Chelsea
เดี๋ยวดู 3 ภาพนี้
นี่คือลูก 2–0 และ 3–0
เห็นรูปแบบการยืนเกมส์รับของเชลซีกันบ้างไหมครับ คือแผงหลังยืนกระจุก บีบพื้นที่ให้แคบที่สุด (ส่วนตัวผมว่าไอเดียดีนะ) แต่มันเหมือนไม่มีแผนรองรับว่า ถ้าหากโดนแก้เพรซแล้ว จะรับมือยังไงต่อ…
ดูภาพ 3–0 ลิเวอร์พูลเขาแก้เพรซด้วยการวางบอลยาวมาที่เจ้าหนูแบรดลีย์ที่ยืนชิดริมเส้น (เพราะกองหลังเรายืนชิดกัน) แบ็คเลยเนียนขึ้นมายืนริมเส้นได้ และแก้เพรซได้สวยๆแบบนั้น
พอแบรด์ลีย์รับบอล แบ๊คซ้ายก็ต้องถ่างออกมา และพื้นที่ต้องเปิดมากขึ้น เป็นที่มาของประตูที่ 3
ใครอ่านถึงตรงนี้แล้วบอกว่านี่มันเดจาวูก็ไม่ปาน ส่วนเพื่อนๆที่ยังนึกไม่ออก ให้ลองเลื่อนกลับขึ้นไปดูลูกขึ้นนำ 1–2 ของวูฟ
ให้เวลา 3วินาที เดี๋ยวกลับมาอ่านกันต่อครับ
เป๊ะเลย! แค่เปลี่ยนตัวละคร จากแบรด์ลีย์เป็นเซเมโด้
ไม่แปลกที่วูฟจะชนะเราในเกมส์นี้
เพราะเรามีจุดอ่อนตั้งแต่เกมส์ลิเวอร์พูล แต่ไม่ยอมแก้ อาจเพราะอีโก้ หรืออาจะเพราะมองไม่เห็น? เป็นไปได้หรอ?
10 มกราคม 2024: โบโร่ 1–0 เชลซี
หลังจบเกมส์มีรายงานจากนิซ่า คินเซล่าว่า
“55.2% ของการบุกของโบโร่มาจากฝั่งขวาของพวกเขา” ซึ่งเป็นฝั่งที่ Colwill ยืนอยู่นั่นเอง โดยใช้ประโยชน์จากความเร็วของ Isaiah Jones ที่มีความเร็วเหนือกว่า Colwill
Chelsea ใช้ Colwill ยืนซ้ายมากี่แมตช์แล้วนะ? ชาวบ้านรู้ พอชไม่รู้
ที่ต้องยกแมตช์นี้มาก็เพราะว่า เป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่เห็นปัญหาแล้วไม่ยอมแก้ เป็นประเภทต้องรอให้ทีมเสียหายก่อนค่อยแก้ เช่นเดียวกับเกมส์แพ้ลิเวอร์พูล และวูฟแฮมตัน ที่ปล่อยให้เขานวดริมเส้นจนเสียประตู
นี่คือคนที่จะพาเรากลับไปเป็นแชมป์ลีกจริงหรอ?
29 พฤษภาคม 2023
เชลซีประกาศแต่งตั้ง Pochettino เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
ในยุคของพอช เราลงทุนไป €467.80m ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ตอนนี้เชลซีอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง
ผลงานในลีก
แข่ง 23 นัด ชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 10
ยิง 38 ประตู เสีย 39 ประตู
เก็บได้ 1.35 คะแนนต่อเกม
รวมทุกรายการ
แข่ง 31 นัด ชนะ 15 เสมอ 5 แพ้ 11
คิดเป็นเปอร์เซนต์ชนะ 48.38% อยู่ในระดับเดียวกันกับ โบอาส กุลลิต และต่ำกว่าแลมพาร์ดในภาคแรก
ภาพนี้อัพเดทถึงแค่ธันวาคมที่ผ่านมา
มีนัดที่ดีบ้าง แย่บ้าง ปะปนกันไป นัดไหนที่ดีก็ดันมีปัญหาตรงที่จบสกอร์ไม่คม นัดไหนที่แย่มันก็แย่จนนึกว่านี่คือทีมหนีตกชั้น คือทรงบอลไม่เอาอะไรเลย
น่าเสียดาย…
ผมว่าเด็กๆของเราเก่งหลายคนเลยนะ รวมถึงซีเนียร์ด้วย ลองคิดเล่นๆดูว่า ถ้าขายใครซักคนออกไปอยู่สโมสร Top4 ของตารางในตอนนี้เลย มีใครบ้างที่จะยังฟอร์มกากเหมือนเดิม? ลองคิดมาซัก 3 รายชื่อ
ผมว่าใช้เวลาคิดซักพักเลยนะ ไม่ค่อยจะมี โอเคอาจจะมีมูคริค มาดูเอเก้ ตอนนี้กากจริง แต่อยู่กับแอนจ์ อาเตต้า ยังไงก็ดีกว่านี้
ลองให้ Jackson ไปอยู่ Tottenham ลองให้ Badiashile อยู่ซิตี้ หรือให้กัลลาเกอร์ไปอยู่ลิเวอร์พูล ยังไงผมว่าดีกว่าอยู่กับพอช
ส่วนพอช…
มันมีเส้นบางๆระหว่างเชื่อมั่นในแนวทาง และ อีโก้ (ความทะนงตน) อยู่นะ แต่ผมว่าพอชเขาหนักไปทางอีโก้สูงมากกว่า และผมไม่เชื่อว่าเขาจะพาเราคว้า 100 แต้มตามที่บอร์ดตั้งเป้าไว้ในอีก 2–3 ปีข้างหน้า
เหตุผลก็คือทรงบอล
ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา เตะไป 31 นัด ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าระบบการเข้าทำของเชลซีคืออะไร มองแพตเทิร์นแทบไม่ออก
เป๊บ คล็อป อาเตต้า แอนจ์ และเดอ แชบี้ คนเหล่านี้สมควรแก่การให้เวลา เพราะระบบชัดเจน รู้แน่ชัดว่าปัญหาในระบบคืออะไรและซื้อนักเตะที่ใช่เข้ามาแก้มัน อย่างในเคสของ ฟาน ไดร์จ, แอเดอซอน, โอเดการ์ด แต่ของพอชไม่ว่ามองไปตรงไหนก็มีแต่ปัญหา ทั้งที่วัตถุดิบครบ
การที่ระบบไม่ชัดเจนนั้นทำลายผู้เล่นพรสวรรค์สูงของเรา Messi ก็ยังเคยมีฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานตอนที่พอชคุม กลับกันหากการมีระบบที่ชัดเจนก็จะช่วยให้ผู้เล่นเหล่านั้นมีฟอร์มที่ดีขึ้นมาได้
มีประโยคที่กล่าวไว้ว่า
Better Individuals, Better Team and Better Team, Better Individuals
เป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นจะส่งเสริมทีมให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ทีมที่ดีขึ้น จะส่งเสริมให้เป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น
ใครว่างลองฟังอดัม ลาลานาอธิบายแท็คติคของโค้ชดูครับ พูดได้เป็นฉากๆ และ
นี่คือคุณสมบัติของโค้ชที่ดี ที่ถ่ายทอดไอเดียจนนักเตะบรรลุได้
โทษทีวะพอช พยายามเปิดใจตอนนายเข้ามาละ แต่นายไม่เหมาะกับเราวะ นายต้องไปละ
ว่าแต่ใครเลือกเขาเข้ามานะ?
26 ตุลาคม 2022: เชลซีแต่งตั้ง Laurence Stewart
15 พฤศจิกายน 2022: เชลซีแต่งตั้ง Paul Winstanley
พอล วินสแตนลีย์ และ ลอเรนซ์ สจ๊วด สองผู้บริหารของเรานี่แหละที่เลือกพอชเข้ามา
งั้นมาดูเกณฑ์การเลือกคร่าวๆ ที่สื่อเปิดเผยกันก่อน จะได้เข้าใจบอร์ดว่าตอนนั้นทำไมถึงเลือกพอช
นี่คือโปรไฟล์คร่าวๆของผู้จัดการทีมที่เราต้องการ
1. มีประวัติคว้าแชมป์
2. มีประวัติพัฒนานักเตะดาวรุ่งให้เก่งขึ้นมาในระดับท็อปได้
3. ทำงานร่วมกับบอร์ดบริหารได้อย่างลื่นไหล (ข้อนี้ผมเดาจากคำพูดท็อด ตอนแยกทางทูเคิ่ลนะ ว่าสโมสรเราต้องแชร์ข้อมูลกันอย่างลื่นไหล ไม่มีปิดกั้น และพร้อมประสานงานกับทุกฝ่ายอย่างเปิดเผย)
นี่คือรายชื่อผู้จัดการทีมช่วง Summer:
Luis Enrique, Julian Nagelsmaan, Vincent Kompany, Ange Postecoglou, Xabi Alonso, Pochettino, Arne Slot
พวกเขาคือคนที่ปฏิเสธ Luis Enrique โดยให้เหตุผลว่ากังวลว่าน้าเก้ห่างจากการคุมสโมสรนานเกินไป
นี่คือภาพตอนสัมภาษณ์กับเราเสร็จ
พวกเขาคือคนที่ทำให้ Julian Nagelsmaan ปฏิเสธเชลซี โดยที่ข่าวบอกว่า เขาไม่มีอำนาจที่สำคัญบางอย่างในสโมสร จึงต้องปฏิเสธไป
เขาคือคนที่คิดว่า Vincent Kompany เป็น Candidate Top 3 ร่วมกับ น้าแอนจ์ และพอช โดยไม่มีชื่อของ Xabi Alonso อยู่ใน 3 คนสุดท้าย
เขาคือคนที่เลือกพอช เหนือน้าแอนจ์ เพื่อนำส่งเจ้าของสโมสรในขั้นตอนสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่าการที่พอชโดนไล่ออกจาก PSG นั้นเป็นเรื่องโชคร้าย เพราะพา PSG เข้ารอบรองได้แล้วในปี 2021 แต่โดนใบแดงทั้งสองนัด เลยแพ้ซิตี้ และปี 2022 ดันแพ้เพราะดอนนารุมมาไปแจกโชคให้เบนเซม่ายิง (จำคำพูดเป๊ะๆไม่ได้ ใครคิดออกเสริมให้ทีครับ)
แค่คิดว่าการจิ้มของผู้บริหารเรากากแค่ไหน มันก็เลยเป็นที่มาของมีมนี้
เพราะที่ผ่านมา ความชอบของบอร์ดมักจะออกไปในแนวที่เลือกคนที่เป็น Underdog อะไรอย่างนั้นมากกว่า ส่วน Alonso ตอนนี้เป็น High Profile Manager เรียบร้อยแล้ว
โอเค สมมติว่าเลือกไปที่ Alonso แต่ซัมเมอร์นี้คู่แข่งคือลิเวอร์พูลที่หาตัวแทนคล็อป หรืออาจมีบาเยิร์นมิวนิค ที่อาจแยกทางกับทูเคิ่ลหากพลาดแชมป์บุนเดสลีกา
หรือหากอยู่เลเวอร์ต่อซักปีสองปี อย่างน้อยก็ลุ้นแชมป์ลีกต่อ ได้ไป UCL และก็อาจจะแทนที่อันเชล็อตติที่มาดริดเมื่อหมดสัญญาก็ได้
อะ.. สมมติว่าเราไม่ได้ Alonso งั้นลองหันมาดูตัวเลือกในตลาด
1. Jose Mourinho? คิดว่าบอร์ดชอบแกมั้ย ส่วนตัวผมว่าไม่ แต่ถ้ารักษาการณ์ก็ไม่แน่
2. Hansi Flick คนนี้ผมก็ว่าบอร์ดไม่เอา อาจเป็นเพราะความตงฉินแบบเยอรมัน บอร์ดเราชอบคนที่ทำงานด้วยแล้วไหลลื่น แบบพอตเตอร์ แบบแลมพ์ หรือแบบพอช
3. Conte? 5555 ไม่มั้ง
4. Zidane, ตัดออก เมียแกไม่ชอบอยู่อังกฤษ
5. Klopp, เอ่อ…
6. Frank Lampard? ปีที่แล้วแกทำไว้แย่เกิน อย่างมากแค่รักษาการณ์
7. Ole…
8. Xavi อันนี้เดายากอะ ไม่ได้ดูลาลีก้า แกเข้าโปรไฟล์เรา 2 ข้อคือ เคยคว้าแชมป์ และการพัฒนานักเตะดาวรุ่งในเก่งขึ้นมาได้ ส่วนการทำงานกับบอร์ดผมไม่รู้เลย
ในตลาดไม่มีใครเข้าสเปคบอร์ดเราซักคน
ดูนอกตลาดกันบ้าง (คนที่ยังคุมทีมอยู่)
1. Arne Slot เอาล่ะ เริ่มเป็นไปได้ละ เคยมีรายงานว่าเสี่ยท็อตชอบคนนี้ด้วย แต่ปีนี้เฟเยนูดก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น จะดีหรอท็อด?
2. Julian Nagelsmaan, จบยูโรแล้วลองไปง้อหน่อยก็ดี
3. Roberto De Zerbi ปีที่แล้วมีรายงานว่าแกไม่มีคุณสมบัติตามที่สโมสรเราต้องการ
4. Tomas Tuchel ถ้าง้อกันหน่อยก็น่าจะมา ใจแกอยู่นี่อยู่ละ แถมตอนนี้เราก็มี ผอ. ครบแล้วด้วย แกคงไม่ได้ยุ่งการเสริมทัพมากนัก แต่ใดๆคือทรงบอลตอนท้ายๆตอนอยู่กับเรายังหลอนไม่หาย 555
แล้วคิดว่าท่านผู้บริหารทั้งสองจะจิ้มที่ใครกันละ? หัวจะปวดจริงๆ 555
กลับมาที่หัวข้อของเรา: ปลดพอชแล้วเราจะดีขึ้นจริงไหม?
ดูจากตัวเลือกในตลาดแล้วคนที่เข้าสเป็คบอร์ดอาจมีแค่ Arne Slot, Julian Nagelsmaan, Xavi
ถ้าเป็น Arne Slot กับ Xavi ผมไม่แน่ใจ ไม่ค่อยได้ดูลีกที่เขาแข่ง
แต่ถ้าเป็น Julian Nagelsmaan
ผมว่าดีกว่าพอช แค่ในแง่แท็คติค และ ระบบการเล่น แต่… ไม่มั่นใจว่าอันดับของเราจะดีขึ้นจนลุ้นท็อป 4
สาเหตุที่ไม่มั่นใจคือนโยบายของสโมสรเรานี่แหละ
1. เสริมทัพดาวรุ่งชั้นนำ (Elite Wonderkids) อายุไม่เกิน 25 ปี
2. ครั้งนึง Todd เคยบอกว่า
ต้องการให้สโมสรของเราเป็น Platform ในการแสดงฝีเท้าของดาวรุ่งพรสวรรค์สูงเหล่านั้น เพื่อให้เขาเติบโตเป็นนักเตะระดับท็อป และคว้าแชมป์เพื่อให้แฟนๆภูมิใจ
งั้นมานั่งนับกันดีกว่าว่าที่ผ่านมาเราดึงดาวรุ่งชั้นนำ หรือที่ท็อดพูดว่า Elite Wonderkids กันกี่คน
อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ
Wesley Fofarna, Lesley Ugochukwu (ตอนอยู่แรนส์สถิติโดดเด่นมาก), Andrey Santos, Cesare Casadei, Enzo Fernandez, Moises Caicedo, Malo Gusto, Cole Palmer, Kendry Paez
ดูรายชื่อแล้วเหมือนจะดีใช่ปะ? ผลงานตอนนี้แต่ละคนเป็นไงบ้างละ เว้นน้องหนาวของผมไว้คนนึง แบกจนหลังแอ่นละมั้ง
เหมือนไอเดียท็อดจะเป็นแค่จินตนาการสวยหรู ซึ่งถ้าเป็นจริงได้ก็ดี ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่า
ครั้งนึงยอดกุนซืออย่างเป๊บก็ยังเคยพูดไว้ว่า คุณไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ด้วยทีมที่มีแต่เด็ก
(หมายเหตุ: Win anything: ผมแปลเป็นคว้าแชมป์, Kids: ผมแปลใส่บริบทเข้าไปคือทีมที่มีแต่เด็ก)
ตอบหัวข้อเราอีกครั้งก็คือ
ปลดพอชแล้วอาจจะไม่ดีขึ้น และอาจจะไม่ได้กลับมาคว้าแชมป์ใบใหญ่ในปีสองปีนี้ด้วย
แล้วถ้าอยากให้ดีขึ้นแบบยั่งยืนควรแก้ตรงไหน?
…
..
.
6 พฤษภาคม 2022
เชลซีประกาศบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าของใหม่ นำโดยท็อด โบลีย์และเคลียเลค แคปปิตอล
Spoil
คำแถลงการณ์แรกหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเทคโอเวอร์สโมสร
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้ดูแลสโมสรฟุตบอลเชลซีคนใหม่” โบห์ลีกล่าว “เราทุกคนพร้อม 100% ทุกนาทีของทุกนัด วิสัยทัศน์ของเราในฐานะเจ้าของนั้นชัดเจน: เราต้องการทำให้แฟนๆ ภูมิใจ
“พร้อมกับความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาทีมเยาวชนและรับนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงสุด แผนปฏิบัติการของเราคือการลงทุนกับสโมสรในระยะยาว และสร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จอันน่าทึ่งของเชลซี ฉันอยากจะขอบคุณรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลอังกฤษและพรีเมียร์ลีกเป็นการส่วนตัวสำหรับการทำงานทั้งหมดของพวกเขาในการทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”
จดหมายเปิดผนึกถึงแฟนๆหลังครบรอบ 1 ปีการเป็นเจ้าของ
ตัดเอามาแค่ท่อนที่เกี่ยวกับหัวข้อเรานะครับ
“เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่ที่เราซื้อเชลซีเสร็จสิ้น มันเป็นและยังคงเป็นสิทธิพิเศษสำหรับเราที่ได้เป็นผู้ดูแลสโมสรที่ยอดเยี่ยมของเรา”
“คำสัญญาของเราที่มีต่อคุณคือการทำให้แฟนๆ ภูมิใจ เรายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อความสำเร็จในระยะยาวและยั่งยืนของสโมสรของเรา และปฏิบัติตามคำสัญญาที่เราทำไว้กับคุณ เราทราบถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ที่เราต้องเติบโตเพื่อพัฒนาสโมสรฟุตบอลเชลซี และมันคือ บทบาทที่เราให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ทุกๆ คนที่ทำงานที่นี่ต่างมุ่งความสนใจไปที่การขับเคลื่อนเราไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ”
“เรากำลังสร้างแมวมองที่ทันสมัย การค้นหานักเตะพรสวรรค์ และโครงสร้างพื้นฐานในการสรรหาภายในแผนกกีฬาของเรา ซึ่งนำโดยลอเรนซ์ สจ๊วร์ต และพอล วินสแตนลีย์ ซึ่งจะช่วยให้เราค้นหาและเปลี่ยนแปลงทีมโดยมีผู้เล่นพรสวรรค์ชั้นนำ ซึ่งเป็นทีมที่สามารถแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องเพื่อคว้าชัยชนะ พรีเมียร์ลีก ยกระดับถ้วยในประเทศและแข่งขันและคว้าชัยชนะในระดับสูงสุดในฟุตบอลยุโรป”
“เราจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของคุณจะถูกได้ยินในขณะที่เรามองไปสู่อนาคต”
วิสัยทัศน์ (Vision): ทำให้แฟนๆภูมิใจ
ภารกิจ (Mission): สร้างทีมเพื่อคว้า 100 แต้ม
นโยบาย: ซื้อผู้เล่นพรสวรรค์สูงอายุไม่เกิน 25 ปี และจ้างโค้ชที่เคยฝึกเด็กให้กลายเป็นนักเตะระดับท็อปเข้ามาช่วยสอน เพื่อให้ดาวรุ่งเหล่านั้นเก่งขึ้นมาจนพาทีมกลายเป็นแชมป์ได้
วิสัยทัศน์น่าชื่นชม แต่นโยบายมันผิดไป
ปัญหานี้มันมีรากมาจากนโยบายของท่านเจ้าของทั้งหลายนี่แหละ ที่มองโลกฟุตบอลในแง่ดีเกินไป คิดว่าเด็กๆจะพิชิตทุกสิ่งอย่างได้ โดยเฉพาะเป้าหมายอันทะเยอทะยาน อย่างโปรเจค 100 แต้มเนี่ย
แปะให้อีกครั้ง จากบทสัมภาษณ์ของเสี่ยท็อตและจากสื่อ แกจะพูดถึงเชลซีประมาณนี้
1. Matt Law:
เสริมทัพดาวรุ่งชั้นนำ (Elite Wonderkids) อายุไม่เกิน 25 ปี
2. ครั้งนึง Todd เคยบอกว่า
ต้องการให้สโมสรของเราเป็น Platform ในการแสดงฝีเท้าของดาวรุ่งพรสวรรค์สูงเหล่านั้น เพื่อให้เขาเติบโตเป็นนักเตะระดับท็อป และคว้าแชมป์เพื่อให้แฟนๆภูมิใจ
อ่านถึงตรงนี้แล้ว และถ้าเราเข้าใจนโยบายของเจ้าของสโมสร
…เราจะไม่แปลกใจว่าทำไม Chelsea ถึงมุ่งมั่นที่จะสร้าง Muti-Club เพราะว่าเครือข่ายสโมสรของเราจะเป็นที่ให้เด็กแสดงพรสวรรค์เพื่อเติบโต
…เราจะไม่แปลกใจว่าทำไมเราซื้อแต่ดาวรุ่ง อายุไม่เกิน 25 เพราะเซ็นสัญญายาวๆได้ ค่าแรงถูก สมมติเซ็น 8 ปี ใช้ 4 ปีแรกฝึกให้เก่ง และพอเก่งแล้ว 4 ปีหลังสัญญายังเหลืออยู่และทำราคาได้ดี หรือหากเก็บไว้ก็จะเป็นประโยชน์กับทีมได้อีก 4 ปี
…เราจะไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงแต่งตั้งแมวมองมาเป็นผู้บริหารระดับสูง เพราะทั้งสองคนนั้นเข้าใจวิสัยทัศน์และนโยบายของเจ้าของเป็นอย่างดี
Spoil
Note: ส่วนตัวผมไม่ติดนะเอาแมวมองมาบริหารสโมสร เพราะ CEO บริษัทใหญ่ๆก็มาจากตำแหน่งที่ไม่ใช่ CEO มาก่อนหลายคน ทั้ง Tim Cook ของ Apple ก็มาจากฝ่าย Operation เคยทำจัดซื้อมาก่อนจะเป็น COO หรือ Andrew Jersy ของ Amazon ก็ดูแล Cloud มาก่อน หรือบริษัทอื่นๆ ซึ่งตราบใดที่เจ้าของเห็นความสามารถ และเขาทำให้เจตนารมณ์เจ้าของเป็นจริงได้การแต่งตั้งก็ย่อมน่าลอง
แต่อย่างไรก็ตามหากคนที่เลือกมานั้นไม่เป็นอย่างหวังก็แค่ต้องหาคนใหม่ และต้องรับผิดชอบการตัดสินใจ แค่นั้นเลย ใครจะรู้ว่าผู้บริหารสายแมวมองคนถัดไป อาจมีทักษะการตัดสินใจที่ดีกว่าคนเก่าก็ได้
แต่ถ้าเลือกได้ผมก็อยากได้ผู้บริหารมืออาชีพที่มีสายตาแบบแมวมอง มากกว่าแมวมองที่มีแววเป็นผู้บริหาร
โดยรวมแล้วผมชอบไอเดียนะ แต่ในทางปฏิบัติท้าทายมากโดยเฉพาะทีมเด็กที่ต้องสอนทุกอย่างใหม่หมด เหมือนที่เป๊บพูดนั่นแหละ
ถ้าเสี่ยท็อด เสี่ยเอ็ก ยอมปรับนโยบายเล็กน้อย อย่างเซ็นตัวมีประสบการณ์ ยอมรับความจริงว่าทีมที่มีแต่เด็กคว้าแชมป์ไม่ได้ แล้วเปลี่ยนมาเป็นทีมผสมเหมือนที่มาดริดทำ แต่ยังคงภารกิจในการสร้างทีมที่คว้า 100 คะแนนไว้เหมือนเดิม วันนั้นทีมเราคงจะดูมีอนาคตขึ้นมาได้จริงๆ
ผู้จัดการทีมชั้นนำคงชายตามองทีมเรามากขึ้น ผู้เล่นดาวดังคงสนใจเรามากขึ้น ผลการแข่งขันดีขึ้น แฟนๆแฮปปี้ ทุกคนแฮปปี้ และ
คงเป็นวันที่แฟนๆภูมิใจได้
สรุป: ปลดพอชแล้วทีมเราจะดีขึ้นจริงไหม?
ตอบให้เลยว่าถ้าสโมสรยังคงภารกิจแบบเดิม ด้วยวิธีการแบบเดิม ผลการแข่งขันก็อาจจะดีขึ้น แต่ยากที่จะคว้าแชมป์รายการใหญ่ และครองความยิ่งใหญ่ไปอีกหลายปีแบบที่ซิตี้เขาทำ
แต่ถ้าปลดพอชด้วย ปรับนโยบายสโมสรให้มันสอดคล้องความเป็นจริงแห่งโลกฟุตบอลด้วย นั่นแหละทีมเราจะดีขึ้นแน่นอน
ผมเชื่อว่าทีมเรามีทรัพยากรที่พร้อมที่จะทำทุกอย่างบนโลกอยู่แล้ว แต่แค่เดินมาผิดทางเท่านั้นเอง
13 กุมภาพันธ์ 2022: เชลซีเป็นแชมป์สโมสรโลก
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ