https://www.bangkokbiznews.com/world/1109913

'เน็ตฟลิกซ์' รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 รายได้ทะลุเป้า ยอดสมาชิกทุบสถิติใหม่ หลังมาตรการห้ามแชร์รหัสได้ผล นักวิเคราะห์ชี้เป็นผู้ชนะในสงครามสตรีมมิง


บริษัทเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ผ่านมาว่า จำนวนสมาชิกที่จ่ายค่าบริการทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13.1 ล้านราย ไปแตะระดับ 260.8 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 256 ล้านราย

ยอดสมาชิกที่ล้มหลามได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเพิ่มการให้บริการแพ็กเกจแบบมีโฆษณา และจากการที่บริษัทใช้มาตรการห้ามแชร์รหัสบัญชีเน็ตฟลิกซ์ นอกจากนี้ยังได้หนังอย่าง "The Crown" และ "The Killer" เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมด้วย

เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 2.11 ดอลลาร์ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ LSEG คาดการณ์ไว้ที่ 2.22 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 8.83 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.72 พันล้านดอลลาร์

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้นทันทีถึง 8.3% ระหว่างการซื้อขาย ขณะที่ในปี 2566 ที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทเติบโตขึ้นถึง 65%

"ค่อนข้างเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เน็ตฟลิกซ์คือผู้ชนะในสงครามสตรีมมิง" เจสสิกา รีฟ เออร์ลิช นักวิเคราะห์ด้านสื่อของแบงก์ออฟอเมริกา ระบุ

ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้จากการดำเนินงานในปีงบการเงิน 2567 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 24% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 22% - 23% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 4 นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ากำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2567 จะอยู่ที่ 4.49 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 4.10 ดอลลาร์

ขาดไม่ได้จริงๆสำหรับผม เมื่อก่อนแชร์ 4 เหลือ 2 กับคนที่บ้าน ก็ไม่เป็นไร

บางอย่างเราโหลดได้ก็จริง แต่ยังไงดูใน streaming ที่ไหนก็ได้ มันสะดวกกว่าเยอะเลย

ไม่ใช่ไร ผมก็ยอมสมัครเพราะว่า คอนเทนต์มันเริ่มเยอะขึ้นมากๆๆๆ แล้วดีขึ้นเรื่อยๆ อันนี้ยอมจริง

คนด่าเยอะสุดท้ายรอด คนด่าก้เงียบ

รอดูอีลอนกับ ทวิต

ถ้าสุดท้ายอีลอนถูก หมากันทั้งเฟสอะ ไปด่าเค้าซะยับ5555555

เอาจริงๆ มันไม่ได้ขึ้นเยอะขนาดนั้นด้วยแหละ ถ้าแชร์กัน 4 คน

จากเดิมคนละ 105 ก็เก็บเพิ่มเป็นคนละ 130 บาท ผมว่าชิลๆ

คอนเท้นต์เเน่นเเบบนั้น ยังไงก็คุ้ม บ้านเราอาจจะดูจ่ายเเพง เเต่เทียบค่าเเรงต่างประเทศคือโคตรถูก

โอเคถือว่าฉลาด ของแบบนี้ วัดกันตรงคุณภาพการขายเลย

ถ้าคอนเทนต์ตัวเองดี คนขาดไม่ได้ หาเรือ่งมาลงน่าสนใจ ก้ชนะไปน่ะแหละ

เหมือนแบนซีพีอะ บางคนรู้ตัวว่าเกลียด ไม่ชอบ แต่เอาเข้าจริง ก้ต้องยอมฟะ

เพิ่งยกเลิกไปเอง รอ 2-3 เดือน สมัครใหม่

เอาจริงๆ ต่อให้ต้องจ่ายเดือนละ 500 คนเดียวต่อเดือน ผมก็ยังมองว่าไม่แพงเลย
แต่มันต้องสำหรับคนชอบดูหนัง ดูซีรีส์แบบผมนะ
ถ้าพวกจ่ายไว้ แต่ไม่มีเวลาดู หรือเลือกหนังไม่เป็น เขาก็จะเสียดายว่าไม่คุ้ม
แต่สำหรับผม มันคุ้มเกินคุ้ม สำหรับคนชอบอยู่บ้านดูหนัง โดยเฉพาะคนชอบหนังซีรีส์สืบสวนแบบผมนะ
กลับบ้านเปิดดู กลับบ้านเปิดดู
มีดีๆ มาอีกเรื่อยๆ ของเก่าๆ ที่ดีๆ ที่ไม่เคยดู ก็มีเข้ามาอีกเรื่อย
คุ้มไม่รู้จะคุ้มยังไงละ

สมัยก่อน พวกเคเบิ้ลทีวีเดือนละพันสองพัน เลือกเรื่องไม่ได้ ดูซ้ำไม่ได้ ต้องรอดูตามตารางฉายอีก
ยุคเช่าดีวีดีแผ่นละ 30 บาท เดือนหนึ่งเช่าเป็นสิบๆ แผ่น ต้องรีบดู รีบคืนตามเวลา

เทียบความหลากหลายกับที่ผมมี D+ เน็ตฟลิกกินขาด ทุกวันนี้ผอมจ่ายเดือนละ 169 คุ้ม

เห็นราคาเช่าหนังใหม่ดูในทรูไอดีแพงกว่าเยอะเรื่องนึงเป็นร้อย

ที่ห่วยคือ d+ หลังซีรีย์มาเวลไม่พากษ์ไทยด้วย

คอนเท้นท์ของ NF มันดีขึ้นเรื่อยๆ และลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณภาพก็ดี
ผมไม่รู้สึกเสียดายตังค์อะไรเลย อีกอันคือ Spotify
เป็นสองแพลตฟอร์มที่ใช้งานทุกวัน ขาดไม่ได้เลยจริงๆ