BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Dec 2009
ตอบ: 7466
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:10
แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน


เรื่องราวทั้งหมดหลังบ้านที่ไม่เคยถูกเปิดเผย , การทำงานหลังบ้านที่ผิดพลาด , ความขัดแย้งระหว่างจอห์น เมอร์เท่อห์ กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเรื่องต่างๆ ที่แฟนๆ อาจไม่รู้มาตลอด 10 ปี

คำเตือน : ยาวชิบหาย ดูบอลกับแนท สรุปมา นับถือความพยายาม


Spoil
Laurie Whitwell (Tier 1 , The Athletic) เขียนคอลัมน์ที่ 'ยาวมาก' มาให้กับพวกเรา และดูบอลกับแนท สรุปมาให้ทุกคำพูด ที่โพสต์นี้

1) หลังจากเอริค เทน ฮาก ตกลงที่จะทำทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงต้นปี 2022 เขาแบ่งเวลาในช่วงที่ยังทำทีมอาแจ็กซ์อยู่ มาพูดคุยถึง 'โครงสร้างผู้เล่น' ของเขากับแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งในเวลานั้นคือว่าที่ทีมใหม่

2) เทน ฮาก ต้องการเริ่มต้นพูดคุยในขอบข่ายการสรรหานักเตะทันที และได้พูดคุยกับจอห์น เมอร์เท่อห์ ผอ. กีฬา ว่าเขาต้องการผู้เล่นแบบไหน เพื่อส่งการบ้านให้เมอร์เท่อห์ ไปเตรียมงานไว้ เผื่อตอนที่เขาเข้าไปรับงาน เขาจะได้ทำงานได้เร็ว

เทน ฮาก ต้องการมิดฟิลด์แบบเฟรงกี้ เดอ ยอง , กองหน้าตัวเป้า และกองหลังที่ออกบอลด้วยเท้าซ้าย

3) มีเอเยนต์มากมายที่ติดต่อเข้ามาในช่วงเวลานั้น อย่างไรก็ตาม สโมสรวางแผนโดยขาดแผนงานที่ชัดเจน และกลายเป็นว่า แม้ว่า 'ปีศาจแดง' จะใช้บริการของ TrackerMan ระบบข้อมูลที่ได้มาจากแมวมองทั่วโลกกว่า 140 คน และมีรายงานเข้ามายังสโมสรเกินกว่า 1,000 ชิ้น

แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำแผนสรุปข้อมูล ทีมที่คาดการณ์หลังการเสริมทัพ แยกแต่ละตำแหน่ง (Shadow Squad ; ให้เข้าใจก็คือ จัดตัวที่เล็งไว้ใส่แผนในกระดาษ เข้าตำแหน่ง ตำแหน่งละ 2 คน ที่เราเห็นหลายสื่อชอบทำกราฟิกแผนเสริมทีมแต่ละตลาด)

พอยูไนเต็ดไม่มีการวางแผน พวกเขาก็เริ่มจาก 0 แทนที่จะมีชื่อของนักเตะเป้าหมายที่จะเดินดีล ระบุให้ชัดตั้งแต่แรก

4) เมอร์เท่อห์ มีข้อมูลเยอะมากสำหรับเป้าหมายในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งข้อมูลที่ได้รับมาถูกแบ่งออกตามระดับศักยภาพฝีเท้าของนักเตะ ยึดตามข้อมูล และรายงานจากแมวมอง รวมถึงมูลค่าราคาของนักเตะรายนั้นๆ

แต่การที่ชุดข้อมูล 'ขาดการสรุปให้มันชัดเจน' นั่นทำให้ เทน ฮาก ต้องมาจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งก็หมายถึง การเลือกนักเตะในตลาดซื้อขายด้วยตัวเอง

ตลาดซัมเมอร์ปี 2022 สำหรับตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก เมอร์เท่อห์ มีลิสต์ผู้เล่นอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ (อาแจ็กซ์) , ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (ไลป์ซิก) , อเลสซานโดร บาสโตนี่ (อินเตอร์) และ เปา ตอร์เรส (บียาร์เรอัล)

แต่สุดท้าย เทน ฮาก เลือก มาร์ติเนซ เนื่องด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองคน และ ลิช่า ถูกมองว่า เป็นเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด เพราะเข้าใจแนวทางการทำงานของเทน ฮาก

อีกทั้ง เมอร์เท่อห์ ถูกมองจากอดีตเพื่อนร่วมงานเป็น 'ฝ่ายดำเนินการ (Administrator)' มากกว่า 'คนที่มีวิสัยทัศน์ (Visionary)' และนั่นทำให้ เมอร์เท่อห์ ไม่ได้ขัด และยอมตามทางเลือกของ เทน ฮากไป

5) ก่อนเปิดฤดูกาล 2022/2023 เทน ฮากเซ็น ไตเรลล์ มาลาเซีย , คริสเตียน เอริคเซ่น (ฟรี) และพยายามตามดีล เดอ ยอง ก่อนตกลงค่าตัวกับบาร์เซโลน่าได้ที่ 73 ล้านปอนด์ (แต่สุดท้าย ณ เวลานั้น ดีลยังไม่เกิดขึ้น เพราะนักเตะยังไม่ต้องการย้ายทีม และอยากอยู่กับบาร์ซ่าต่อ)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้น ยูไนเต็ดปล่อยนักเตะ 5 คน ที่หมดสัญญาออกไป ทั้งเจสซี่ ลินการ์ด , เนมานย่า มาติช , ฆวน มาต้า , เอดินสัน คาวานี่ ขณะที่ อันเดรียส เปเรยร่า ถูกขายให้ฟูแล่มในราคา 10 ล้านปอนด์

ณ เวลานั้น เทน ฮาก ได้รับแจ้งว่า ทีมไม่มีเงินเสริมทีมอีกแล้วในช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2022

6) แต่หลังจากที่ยูไนเต็ดแพ้ 2 นัดรวดในลีก อยู่ในอันดับสุดท้ายของตาราง ริชาร์ด อาร์โนลด์ ก็เรียกประชุมทีมสรรหาด่วน มีการประชุมเคร่งเครียดและยาวนาน

สุดท้าย เป้าหมายก็ถูกเปลี่ยนจาก เดอ ยอง ไปเป็น คาเซมิโร่ ทั้งๆ ที่คุณสมบัติของ 'คาเซ' นั้น ต่างจากเดอ ยอง อย่างชัดเจน และแม้ว่าจะมีคนภายในบางส่วนพยายามคัดค้านแล้วก็ตาม

มีการคำนวณแล้ว ณ เวลานั้นว่า ยูไนเต็ด น่าดึง เดแคลน ไรซ์ มาจากเวสต์แฮม มากกว่า ในราคา 120 ล้านปอนด์ เพราะถึงแม้ว่าค่าตัวโดยรวมจะแพง แต่ก็ยังสามารถใช้การแบ่งลงบัญชีรายปี (Amortization) เพื่อจัดการการลงเงินตามกฎ Financial Fair Play ได้ ส่วนหนึ่งคือ ทีมสามารถเซ็น ไรซ์ ในระยะเวลาสัญญาที่ยาวกว่า คาเซมิโร่

อีกทั้ง ไรซ์ ยังน่าจะรับค่าเหนื่อยที่น้อยกว่า คาเซมิโร่ ที่ 350,000 ปอนด์ นอกจากนั้น ในวันใดวันนึง ถ้าจะต้องขายนักเตะออก ไรซ์ ที่อายุน้อยกว่า จะทำราคาได้มากกว่า

7) ดีลของ คาเซมิโร่ คือหนึ่งในปัญหาที่เซอร์ จิม เรทคลิฟฟ์ ตั้งคำถาม ขณะที่มาเยี่ยมสนามซ้อมแคร์ริงตัน ระหว่างการมาเสนอโปรเจ็กต์เทคโอเวอร์ในเดือนมีนาคม โดยเซอร์จิม วางแผนดึงทีมงานของเซอร์ เดฟ เบรลส์ฟอร์ด ผอ. กีฬาของ INEOS มาวิเคราะห์และจัดการกับปัญหาหลังบ้านของสโมสร ประกอบไปด้วย

- ความขัดแย้งระหว่างเมอร์เท่อห์ กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ นิคกี้ บัตต์

- ความขัดแย้งระหว่างคนเก่าคนแก่ และ คนใหม่

- การดำเนินงานภายในสโมสรที่ค่อนข้างช้า

- สโมสรควรจะเดินการซื้อขายตาม 'ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์' ไม่ใช่จัดการอะไรตาม 'จังหวะและโอกาส'

- ขอบข่ายการทำงานของเทน ฮาก ในการสรรหานักเตะ นอกเหนือจากการคุมซ้อม และคุมทีมในสนาม ควรอยู่ที่ตรงไหน?

ดีลของคาเซมิโร่ (60+10 ล้านปอนด์) ทำให้ยูไนเต็ดไม่สามารถดึง แฮร์รี่ เคน มาได้ ในตลาดซื้อขายปีต่อมา เนื่องจาก ค่าเหนื่อยของคาเซ ก็แพงมากแล้ว

ถ้าดึง คาเซ เข้ามา และมีเคน อยู่ สโมสรจะแบกค่าเหนื่อยเยอะเกินไปตามกฎ FFP นั่นทำให้ยูไนเต็ด ไม่เคยเดินดีล เคน อย่างจริงจัง แม้ว่าจะเป็นเป้าหมายสำคัญในตำแหน่งกองหน้าของเทน ฮากก็ตาม

9) ณ เวลานั้น ยูไนเต็ดเลือกไปดึง คาเซมิโร่ เข้ามา เพราะเทน ฮาก ต้องการการเปลี่ยนแปลง 'ทันที' หลังจากพวกเขามองว่า จะมารอดีลของ เดอ ยอง ไม่ได้อีกแล้ว

ประกอบกับช่วงเวลานั้น คาเซ ต้องการย้ายออกจาก เรอัล มาดริด เพื่อหาความท้าทายใหม่ๆ หลังจากอยู่ที่นั่นมา 9 ปี

ยูไนเต็ด จึงรีบทำข้อมูลเสนอที่ประชุมว่า คาเซ จะเหมาะกับทีมชุดนี้อย่างไร มีการกางข้อมูลประวัติอาการบาดเจ็บของ คาเซ จนสุดท้าย ผลโหวตเป็นเอกฉันท์ให้ดึงนักเตะมาเสริมทีม

ขณะเดียวกัน เวสต์แฮม เอง ณ เวลานั้น (ซัมเมอร์ 2022) ก็ไม่สนใจรับฟังข้อเสนอของไรซ์ นั่นทำให้ยูไนเต็ด ไปเดินดีล ไรซ์ มาไม่ได้

ก่อนที่ คาเซ จะโชว์ฟอร์มโดดเด่นในฤดูกาล 2022/2023 อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายของคาเซ ช่วยทีมได้น้อยลง ในฤดูกาลนี้

10) คนในสโมสรคนนึงเปิดเผยว่า จริงๆ แล้ว การวางแผนเพื่อเตรียมตัวสำหรับผู้จัดการทีมคนใหม่ ควรจะทำในขอบข่ายเวลา 1 ปี แต่สุดท้าย มีการเตรียมงานเพื่อเทน ฮาก ในซัมเมอร์แรกแค่ 3 เดือนเท่านั้น

นั่นก็เป็นเพราะ กว่าจะทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจาก รังนิก เป็น เทน ฮาก ก็อยู่ในช่วงปลายฤดูกาล 2021/2022 แล้ว ทำให้ข้อมูลและแผนงานที่ไปถึง เทน ฮาก ที่เข้ามารับงานใหม่ๆ ยังไม่มีความชัดเจน

11) หลังจากได้ คาเซมิโร่ มาแล้ว เทน ฮาก ยังต้องการตัวรุกอีกคน และทุกคนในการประชุมตกลงที่จะดึง แอนโทนี่

แอนโทนี่ ถูกตีราคาจากแมวมองตั้งแต่ยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไว้ที่ 25 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งระหว่างการเจรจาในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ยูไนเต็ดยังพยายามยื่นคำขาดอยู่เลย ว่าจะไม่จ่ายเกิน 60 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายของตลาดซื้อขาย เวลานับถอยหลังไปเรื่อยๆ สุดท้ายยูไนเต็ดต้องยอมอาแจ็กซ์ที่ 86 ล้านปอนด์ ณ ตอนนั้น เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ CEO อาแจ็กซ์ ยอมรับว่า เขาพยายามทำให้ ริชาร์ด อาร์โนลด์ (CEO ยูไนเต็ดในตอนนั้น) และ เมอร์เท่อห์ ต้องจ่ายในราคาที่สูงที่สุด

12) เทน ฮาก ต้องการเซ็น แอนโทนี่ เข้ามาแน่นอน ซึ่งเดิมสโมสรจะมีหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ (Check & Balance) ภายใน นำโดย คลิฟฟ์ เบตี้ หัวหน้าฝ่ายการเงิน , แพทริก สจ๊วร์ต หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย (ปัจจุบันเลื่อนขึ้นมาเป็น CEO) และกว่าจะให้ โจเอล เกลเซอร์ ที่พำนักอยู่ที่สหรัฐฯ เซ็นยินยอม มันมีหลายกระบวนการ

นั่นทำให้โดยปกติแล้ว การจะอนุมัติเซ็นนักเตะซักคน จึงใช้เวลาค่อนข้างเยอะ

อย่างไรก็ตาม ณ สถานการณ์ของดีลแอนโทนี่ ระบบ Check & Balance ไม่ได้ถูกนำมาใช้ เพราะในช่วงเวลาฉุกเฉิน ยูไนเต็ดสามารถตัดสินใจที่จะ 'จ่ายเกินงบ' เพื่อเป้าหมายได้

แหล่งข่าวระบุว่า ไม่มีคนในในสโมสร มี 'ทักษะ' มากพอ ที่จะประเมิน 'มูลค่าที่แท้จริง' รวมถึงคนๆ นั้น ต้อง 'มีอำนาจ' ในการควบคุมเงิน และ 'มองภาพรวม' ของการสร้างขนาดทีมที่มีคุณภาพ (Sqaud Building) ได้

13) การใช้จ่ายเงินของเทน ฮาก ในช่วงซัมเมอร์แรก หมายความว่ายูไนเต็ดใช้เงินไปปริ่มลิมิตของ FFP นั่นทำให้เดือนมกราคมต้นปีที่ผ่านมา ยูไนเต็ดไม่สามารถซื้อนักเตะในตลาดซื้อขายได้ ทำได้เพียงแค่การยืมตัว

ซึ่งแทนที่ยูไนเต็ดจะใช้ 'ระบบฐานข้อมูลจากแมวมอง' ในการสรรหา พวกเขากลับเดินตลาดโดยใช้จังหวะและโชคชะตา

การอำลาทีมของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเดือนพฤศจิกายน 2022 ทำให้ยูไนเต็ดต้องการศูนย์หน้าตัวใหม่เข้ามาแทน ตอนแรก ยูไนเต็ดตามดีลของโคดี้ กั๊กโป ที่ใช้ตัวแทนเดียวกับ เทน ฮาก และ พีเอสวีเอง ก็ต้องการขาย

แต่ไม่กี่วันก่อนคริสต์มาส ยูไนเต็ด ถอนตัวออกจากการ 'เดินดีลซื้อขาด' ใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อทางเลือกเหลือแค่การยืมตัว เทน ฮาก และตัดสินใจจิ้มไปที่เวาท์ เวกฮอร์สท์ เพราะเขาต้องการกองหน้าที่ดึงตัวเข้ามาได้ทันทีเมื่อตลาดซื้อขายเปิดขึ้น

14) และในช่วงท้ายตลาดเดือนมกราคมต้นปี เมื่อคริสเตียน เอริคเซ่น บาดเจ็บ ตอนแรก เทน ฮาก ต้องการดึง ไรอัน คราเฟ่นเบิร์ค มาจากบาเยิร์น มิวนิค และบาเยิร์น แจ้งกลับมาว่า พวกเขาไม่ต้องการปล่อย ไรอัน ในรูปแบบของการยืมตัว และเสนอ มาร์แซล ซาบิตเซอร์ มาให้

ยูไนเต็ด เคยมีข้อมูลของ ซาบิตเซอร์ ไว้อยู่แล้ว เลยโอเคกับดีลนี้ ซึ่งท้ายที่สุดมันก็เป็นการดึงตัวมาตาม 'จังหวะและโอกาส' ไม่ได้มาจากการวางแผน

แต่ยูไนเต็ดก็มองว่า พวกเขาก็ทำทุกอย่างภายใต้เวลาที่จำกัดแล้ว เพราะมันคือวันสุดท้ายของตลาด และสุดท้ายภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมง ดีลนี้ก็บรรลุ

15) ซึ่งที่มาก่อนจะปิดดีล ซาบิตเซอร์ได้ เทน ฮาก ได้มอบหมายให้ คีส์ ฟอส เอเยนต์ส่วนตัว โทรศัพท์หา บาเยิร์น มิวนิค

ฟอส เคยเข้าชมเกมในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดหลายครั้งในบ็อกซ์ของผู้บริหาร และเข้ามาเยี่ยมกับประชุมงานที่แคร์ริงตันอยู่บ่อยครั้ง ถึงขนาดที่เข้ามายังโรงอาหารของผู้เล่นชุดใหญ่ ซึ่งการได้สิทธิ์เข้ามาขนาดนี้ของ ฟอส ถูกพนักงานบางคนตั้งคำถาม

อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ด พอใจกับคอนเนคชั่นของ ฟอส ที่ช่วยในการเดินตลาดซื้อขาย โดยเฉพาะในซัมเมอร์ 2022 (ตอนเทน ฮาก เพิ่งเข้ารับงาน) ฟอส ถือเป็นมือเจรจาที่เก๋าเกมและเชี่ยวชาญงานที่สุด

ณ เวลาเดียวกันตอนนั้น ยูไนเต็ดมี ทอม คีน เอเยนต์จากบริษัทกฎหมาย Brandsmiths ที่เข้ามาทำงานแทน แม็ตต์ จัดจ์ มาเป็นหัวหน้าฝ่ายเจรจา

และเสริมทัพด้วย แอนดี้ โอบอยล์ มาเป็นผู้ช่วยผอ. กีฬา ขึ้นตรงกับ เมอร์เท่อห์ และแต่งตั้ง โดมินิค จอร์แดน ขึ้นมาเป็นผอ.ฝ่ายข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์คนแรกของสโมสร

และเนื่องจากทุกคนเพิ่งจับงานใหม่หมด เทน ฮาก เลยต้องพึ่งพา ฟอส เอเยนต์ของตัวเองในการเจรจาดีลต่างๆ แม้จะมีความกังขาจากหลายฝ่าย

16) ในตลาดซัมเมอร์ 2023 ยูไนเต็ดยังคงจ่ายเงินเกินมูลค่าของนักเตะ และจ่ายเงินเกินงบประมาณ พวกเขาจบที่ 200 ล้านปอนด์กับเมสัน เมาท์ , อันเดร โอนาน่า , ราสมุส ฮอยลุนด์ , อัลทาย บายินดีร์ และ โซฟียาน อัมบราบัต ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ สโมสรสื่อสารไปแล้วว่า การใช้จ่ายต้องถูกควบคุมอย่างยิ่งตามกฎ FFP

Laurie ระบุว่า ถ้ามีการ 'จำกัดขอบข่าย' การใช้เงิน และแจ้งให้เทน ฮากทราบก่อนหน้านี้ เขาจะจัดการกับตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ต่างออกไป

แม้ว่าเขายอมรับว่า การดึง เคน จะทำให้แทบไม่เหลือเงินในการเสริมตำแหน่งอื่นเลย แต่ยูไนเต็ดก็เลือกที่จะมองถึงการเสริมผู้เล่นอายุไม่เยอะมากเข้ามา (ฮอยลุนด์ 20 ปี , เมาท์ 24 ปี , โอนาน่า 27 ปี)

17) จริงๆ แล้ว ยูไนเต็ดมองค่าตัวของเมาท์ ไว้ที่แค่ 40 ล้านปอนด์ เพราะเหลือสัญญากับเชลซีแค่ปีเดียว แต่สุดท้าย ยูไนเต็ดต้องเพิ่มเงินไปจบดีลที่ 55+5 ล้านปอนด์ แถมด้วยเงื่อนไขที่ยูไนเต็ดต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ล้านปอนด์ ทุกครั้งที่เมาท์ ลงเล่น 70% จากเกมทั้งหมด ในปีที่ทีมคว้าแชมป์ลีก ภายในสัญญา 5 ปีของตัวนักเตะ

18) อตาลันต้า แจ้งว่า ฮอยลุนด์จะย้ายทีมได้ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ และยูไนเต็ดแจ้งกลับไปว่า จ่ายได้มากสุดแค่ 60 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายดีลจบที่ 72 ล้านปอนด์ (ซึ่งจริงๆ อตาลันต้า ต้องการ 86 ล้านปอนด์ตอนแรกด้วยซ้ำ)

19) ส่วนดีลที่เหลือ ยูไนเต็ดเซ็น โอนาน่า ด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ และจ่ายค่ายืม 8 ล้านปอนด์ ให้กับดีล อัมราบัต ส่วนการซื้อขาดเป็นออปชั่น ไม่ได้บังคับ

20) และนั่นทำให้ 'ปีศาจแดง' ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ติดเพดานในตลาดช่วงปีใหม่ ทีมจะจัดการได้แค่ดีลยืมตัว 2 ดีลเท่านั้น โชคยังดีที่ในรอบปี 2022/2023 สโมสรทำรายรับได้ 648.4 ล้านปอนด์ และขาดทุนไป 28.7 ล้านปอนด์

21) ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมาคือ มันไม่มีการวางแผน 'เชื่อมต่อ' ระหว่างตลาดปีนึง ไปสู่ตลาดอีกปีนึง และไม่มีการวางแผนหรือหลักการการสรรหานักเตะ เมื่อต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีม

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ยูไนเต็ด ยังขาดคอนเนคชั่นในวงการที่จะต่อรองราคานักเตะให้ถูกลงได้กว่านี้ และพวกเขาไม่มีข้อมูลมากพอที่จะทำให้พวกเขาได้เปรียบในการเจรจาดีลต่างๆ (เช่น มีแผน 2 ว่า เราจะมีผู้เล่นทางเลือกรองมากมายสำรองไว้ คือข้อมูลของนักเตะแผนสำรอง มีน้อยมากๆ)

22) ซึ่งนั่นเป็นเพราะกรเปลี่ยนแปลงทีมงานบ่อยครั้ง ทอม คีน ที่เคยมาทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายเจรจาระยะสั้นๆ ต้องออกจากตำแหน่งในช่วงที่เกลเซอร์ประกาศหากลุ่มลงทุนใหม่ (ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022) และ แม็ตต์ ฮาร์กรีฟส์ เข้ามาทำงานแทนในช่วงซัมเมอร์

ฮาร์กรีฟส์ จาก อาดิดาส มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะและเอเยนต์ แต่เขาไม่เคยทำงานเจรจาเรื่องการซื้อขายมาก่อน

23) นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องจุดยืนในแผนงานที่ไม่ชัดเจน เช่น ซัมเมอร์ที่แล้ว ยูไนเต็ด ควรจะมองหาศูนย์หน้าตัวเป้าก่อนเป็นอันดับแรก

แต่พวกเขา (ที่ต้องการเมาท์) กลัวว่า เชลซี (ที่กำลังพยายามขายนักเตะเพื่อรักษาสมดุลจาก FFP) จะเลือกขายนักเตะตัวอื่นแทน เมาท์ ซึ่งจะทำให้การเจรจา เมาท์ เข้ามาร่วมทีม ยากขึ้น นั่นทำให้ยูไนเต็ด เลือกที่จะกระโดดเข้าใส่ เมาท์ ก่อนดีลอื่นๆ ที่เคยวางแผนไว้

24) ฉะนั้น ภารกิจของการวางโครงสร้างเรื่องเหล่านี้จะตกอยู่กับ เซอร์จิม และ เบรลส์ฟอร์ด

สิ่งที่คาดว่าเบรลส์ฟอร์ด จะทำ คือการแต่งตั้งผอ. กีฬา ที่ดูแลจัดการภาพรวม และรวมถึงการมองหา 'ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดซื้อขาย' เพื่อจัดการแก้ไขการทำงานของระบบสรรหา

และแม้ว่านั่นอาจจะทำให้ เมอร์เท่อห์ ต้องไปจากตำแหน่ง แต่เขาอาจยังพร้อมที่จะอยู่กับสโมสรต่อ แม้จะเป็นในตำแหน่งหรือขอบข่ายอำนาจที่ลดลง

คนในระบุว่า เมอร์เท่อห์ คือคนทำงานที่มีเล่ห์มีเหลี่ยม รับมือกับ 'การเมือง' ภายในองค์กรได้ดี เขามักจะเป็นคนที่เอาตัวรอด , ไม่มีอีโก้ ถ้าเทียบกับฝ่ายบริหารคนอื่นๆ และพร้อมจะทำงานภายใต้เจ้าของทีมใหม่ (ณ ที่นี้ คือทีมงานของเซอร์ จิมได้) นั่นเพราะเมอร์เท่อห์ เป็นคนที่นอบน้อม , คุยง่าย จากที่เห็นเมื่อ เขา และ สจ๊วร์ต (ผอ. รักษาการ) เข้าพูดคุยกับ ทีมงานของเซอร์จิม อย่างราบรื่น ในการนัดประชุมเมื่อช่วงต้นเดือน

25) สัปดาห์ก่อน เมอร์เท่อห์ เดินทางไปที่ซาอุดีอาระเบียเพื่อหาทีมที่พร้อมยื่นข้อเสนอให้กับ คาเซมิโร่ , ราฟาเอล วาราน , เจดอน ซานโช่ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่ติดปัญหาที่ ทีมจากซาอุฯ หลายทีม โควต้านักเตะต่างชาติเต็มแล้ว เซ็นเพิ่มไม่ได้

และนั่นทำให้ยูไนเต็ดถูกตั้งคำถามว่า การวางแผนเรื่องพวกนี้ ควรจะทำตั้งแต่ก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว

26) ต่อไป Laurie เล่าย้อนไปถึงการทำงานของเมอร์เท่อห์ ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยของเดวิด มอยส์

มอยส์ แต่งตั้งเมอร์เท่อห์เข้ามาในปี 2013 หลักๆ คือ ณ ตอนนั้น มอยส์ ต้องการคนที่จะมาจัดการอะไรต่างๆ ช่วยเขา ในสโมสรใหม่ที่ตัวมอยส์เองไม่รู้จักและไม่คุ้นเคยมาก่อน ซึ่งอย่างที่ทราบกันคือ เมอร์เท่อห์ ทำงานช่วย มอยส์ ดูแลเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา , สรรหา , ดูแลการเดินทางของนักเตะ ตั้งแต่อยู่ที่เอฟเวอร์ตันแล้ว

27) การทำงานที่ต้องใช้รายละเอียดและเอกสารของ เมอร์เท่อห์ (เพื่อช่วย มอยส์ ในช่วงเวลานึง) เลยไปถูกใจ เอ็ด วู้ดเวิร์ด ที่ตอนที่เดวิด กิลล์ ลงจากตำแหน่งใหม่ๆ เขายังไม่ชำนาญกับการจัดการอะไรหลายๆ เรื่องในสโมสร

เมอร์เท่อห์ ช่วย เอ็ด จัดการเอกสารต่างๆ ในการประชุม ออกมาเป็นชีทสรุปให้อ่านง่าย เนื่องจาก เมอร์เท่อห์ ชำนาญอยู่แล้วเรื่องการทำงานกับข้อบังคับ , ตัวหนังสือ , เอกสารต่างๆ ที่ต้องใช้ในที่ประชุม จากการทำงานกับฝ่าย 'แผนพัฒนาศักยภาพนักเตะไปสู่ความเป็นเลิศ' (Elite Player Performance Plan) ของพรีเมียร์ลีกมาก่อน

28) วู้ดเวิร์ด ณ ราว เกือบ 10 ปีก่อน ยังต้องการจัดการเปลี่ยนแคร์ริงตันใหม่ทั้งหมด เมอร์เท่อห์ ถือสมุดสีดำ เดินไปพร้อมกับ วู้ดเวิร์ด และพูดคุยกับทีมเจ้าหน้าที่สโมสรแทน จากนั้น เมื่อมีอะไร วู้ดเวิร์ด ก็จะสั่งงาน ผ่าน เมอร์เท่อห์ ทั้งหมด

และนั่นทำให้ เมอร์เท่อห์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ โจเอล เกลเซอร์ เช่นตอนที่ โจเอล เดินทางมาจากสหรัฐฯ เพื่อมาดูเกม เขาทำให้โจเอล ประทับใจกับแนวคิดของเขาตอนที่อยู่กับสโมสร

29) อย่างไรก็ตาม เมอร์เท่อห์ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงตึงเครียดมาจนถึงวันนี้

คือหลังจากที่ป๋า ลงจากตำแหน่งกุนซือ อำนาจของป๋า ก็เริ่มน้อยลง สวนทางกับอำนาจของเมอร์เท่อห์ ที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ วู้ดเวิร์ด แต่งตั้งให้เขารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนานักเตะเยาวชนในปี 2016

วู้ดเวิร์ด ให้ เมอร์เท่อห์ ดูแลจัดการ ระบบการสรรหา และการวางแผนเซตระบบอะคาเดมี่ทั้งหมด

30) เมอร์เท่อห์ จัดการโดยการริเริ่มโปรเจ็กต์ Bethlehem เขาแต่งตั้ง สตีฟ บราวน์ (ที่เคยทำงานด้วยกันที่เอฟเวอร์ตัน) เข้ามาในระบบสรรหา และใช้ศูนย์ข้อมูลที่ชื่อ Tracker Man ซึ่งก็อย่างที่ได้คุยกันในช่วงต้นโพสต์ บริษัทนี้มีข้อมูลเสิร์ฟให้มากมาย

แต่ปัญหา อยู่ที่การ 'เลือก' ยกตัวอย่างเช่น จากข้อมูลแบ็กขวากว่า 804 คน แต่สุดท้ายสโมสรเลือก แอร่อน วาน บิสซาก้า

สาเหตุของการทำงานที่ไม่มีประสิทธิผลมากพอ เป็นเพราะ การสื่อสารเกี่ยวกับ 'หน้าที่ในการทำงาน'

บราวน์ ถูกดึงเข้ามาในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายสรรหา แต่ภายในนั้น จริงๆ บราวน? ทำหน้าที่เป็นผอ. ฝ่ายแมวมอง และมีหน้าที่จัดการสั่งงานแมวมอง และเก็บรวบรวมข้อมูล มากกว่าจะเป็นคนที่ 'คัดเลือก' นักเตะด้วยตัวเอง

31) เกิดความขัดแย้งระหว่างคนทำงาน 'เก่า และ ใหม่' คนทำงานเก่าที่ออกไปบอกว่า หลายครั้งที่พวกเขาต้องพูดตรงๆ ว่า แนวทางที่สโมสรกำลังทำ ณ ตอนนั้น มันสวนทางกับวิธีการไปสู่ความสำเร็จ

พวกเขายังตั้งคำถามว่า เมอร์เท่อห์ และ บราวน์ เก่งแค่ไหนที่จะมาจัดการ 'เปลี่ยนโครงสร้าง' สโมสรระดับแมนฯ ยูไนเต็ด

32) ยังมีเรื่องที่ เมอร์เท่อห์ เคยทะเลาะกับ นิคกี้ บัตต์ (ขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนานักเตะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่) เมื่อปี 2019 - ซึ่งตอนนี้ นิค คอกซ์ ขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายเยาวชนแทน

การมีปากมีเสียงกันระหว่าง บัตต์ กับ เมอร์เท่อห์ เกิดขึ้นกลางโรงอาหารที่แคร์ริงตันในวันนึง

ทั้งคู่เห็นต่างกันหลายเรื่องในการทำงาน แต่เรื่องมาปะทุตรงที่ บัตต์ มาทราบว่า เมอร์เท่อห์ มีแผนที่่จะปลดเขาจากตำแหน่งในช่วงท้ายซีซั่น พอบัตต์ มารู้ความจริง ก็เลยโกรธมาก

เมอร์เท่อห์ ปฏิเสธที่จะออกความเห็นในเรื่องนี้ แต่คนที่อยู่ใกล้ชิดเขาอ้างว่า นั่นเป็นเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่เข้าใจกัน เพราะเมอร์เท่อห์ ต้องการมาปรับเปลี่ยนบางอย่างในอะคาเดมี่ ซึ่งตอนนั้น บัตต์ ยังมีตำแหน่งที่ดูแลควบคุมอยู่

เมอร์เท่อห์ แจ้งต่อเพื่อนร่วมงานของเขาว่า เขายังเคารพบัตต์ และเสียใจที่ความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ต้องพังลง

บัตต์เอง เชื่อมือ ค็อกซ์ คนที่มารับงานต่อจากเขา และยินดีออกจากตำแหน่ง แต่การที่บัตต์ทราบว่า เมอร์เท่อห์ พยายามจะเอาเขาออก โดยที่ไม่มีการมาพูดคุยแจ้งก่อน ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ

การเถียงกันที่โรงอาหารแคร์ริงตัน จบลงโดยที่บัตต์ เดินออกไปจากตรงนั้น ไม่อยากจะคุยกับเมอร์เท่อห์อีก แม้เมอร์เท่อห์ จะพยายามเดินไปอธิบายก็ตาม

33) ส่วนความขัดแย้งระหว่าง เมอร์เท่อห์ และ เซอร์ อเล็กซ์ เกิดขึ้นตอนที่ ยูไนเต็ด พยายามจะโน้มน้าว จู๊ด เบลลิงแฮม มาจากเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ในปี 2020

ณ ตอนนั้น โซลชา ต้องการให้ เซอร์ อเล็กซ์ มาช่วยต้อนรับและโน้มน้าว จู๊ด ที่มาเยือนแคร์ริงตัน

โอเล่ และทีมงานของเขา เตรียมข้อมูลพรีเซนเทชั่นเพื่อนำเสนอแผนงานการดัน จู๊ด ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และพวกเขาเชื่อว่า ป๋า จะเป็นคนที่ปิดงานและเอาชนะใจจู๊ด และครอบครัวได้สำเร็จ

แต่เมอร์เท่อห์ มีมุมมองที่ต่างออกไป คือ ตั้งแต่ตอนที่เริ่มเข้าพบ พอป๋า จับมือกับจู๊ด (ที่ตอนนั้นอายุ 16 ปี) เพิ่งเสร็จ และยังไม่ทันได้พูดคุยกันมาก

อยู่ดีๆ เมอร์เท่อห์ ก็พา จู๊ด และ ครอบครัว ออกไปทัวร์สนามทันที คือเหมือนกันซีนของป๋า ออกไปเลย

ตอนนั้น มีรายงานว่า ป๋า ไม่พอใจ เมอร์เท่อห์ อย่างมาก แม้ว่าภายหลัง เมอร์เท่อห์ จะพยายามอธิบายว่า เขาไม่ได้ตั้งใจจะไป 'ขัดขวาง' การคุยกันระหว่างจู๊ดกับป๋า และพยายามจะบอกว่า มันเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดก็ตาม

34) และหลังจากนั้น เมอร์เท่อห์ ก็มีอำนาจมากขึ้น เขาได้รับมอบหมายให้คุมงานที่แคร์ริงตันทั้งหมด รับคำสั่งจาก วู้ดเวิร์ด ซึ่งทำงานที่ลอนดอน

แต่การสื่อสารผิดพลาดหลายครั้ง เช่น เมอร์เท่อห์ต้องเซ็นอนุมัติการพัฒนาสนามหลายจุด แต่ก็เกิดความล่าช้า เพราะไหนจะต้องรอฟีดแบคจากเกลเซอร์อีก จากวู้ดเวิร์ดอีก

35) นั่นเลยทำให้หลายโปรเจ็กต์ ล่าช้าลง คนในพูดกันว่าโต๊ะของเมอร์เท่อห์คือ 'หลุมดำ' เขาถูกมองว่าเป็นผู้บริหารที่ไม่กล้าตัดสินใจ ในสถานการณ์ที่ต้องเด็ดขาด

36) มีการพูดถึงเคสของอาหมัด ดิอาโล่ เป็นดีลในยุค โซลชา ช่วงตลาดหน้าหนาวปี 2020

โอเล่ ไม่ทราบว่า ค่าตัวของอาหมัด จะถูกดันสูงถึง 37 ล้านปอนด์จากอตาลันต้า และเขาติดตามดีลนี้จากแค่ฟุตเทจทางวิดิโอ

แถมโอเล่ยังเข้าใจว่า อาหมัด จะเข้ามาฝึกซ้อมในอะคาเดมี่ของทีม แต่จากค่าตัวขนาดนั้น สุดท้าย อาหมัด จึงต้องถูกคาดหมายให้ขึ้นทีมชุดใหญ่โดยเร็ว

37) จนกระทั่งมาถึงช่วงเวลาสำคัญ ที่เมอร์เท่อห์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผอ. กีฬา ในเดือนมีนาคม 2021 โดยมีดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ เป็นผอ. เทคนิค ที่ถูกแต่งตั้งในเวลาเดียวกัน

38) อย่างที่ทราบ ตำแหน่งผอ. กีฬศา เป็นตำแหน่งที่หลายฝ่ายร้องขอให้สโมสรเซตขึ้นตั้งแต่ยุคโจเซ่ มูรินโญ่แล้ว และสุดท้าย สโมสร ต้องยอมแต่งตั้ง เมอร์เท่อห์ ขึ้น

นั่นเพราะ เมอร์เท่อห์ ยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่แต่งตั้งเขา ตอนนั้น อินเตอร์ ไมอามี่ (ทีมของเดวิด เบ็คแฮม) ยื่นข้อเสนอเข้ามา และเขาจะไปทำงานที่นั่่น

และเนื่องจากแฟนบอล ยังไม่รู้จักโปรไฟล์ของ เมอร์เท่อห์ ดีพอ (ถ้าเทียบกับแคนดิเดตคนอื่นๆ) สุดท้าย สโมสรก็เลยต้องแต่งตั้ง เฟล็ตเชอร์ ควบคู่ไปด้วยในตอนนั้น เพื่อลดสปอตไลต์ไม่ให้ไปส่องที่เมอร์เท่อห์ มากเกินไป

39) การแต่งตั้งเฟล็ตเชอร์ในเวลานั้นก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ เพราะแม้ว่าดาร์เรนจะเคยเป็นเด็กปั้นและคว้าแชมป์มามากมายที่ยูไนเต็ด

แต่ ณ ตอนนั้นเขาเพิ่งจะมาทำงานกับทีมโค้ชชุดใหญ่ของยูไนเต็ดแค่ 2 เดือน และไม่มีประสบการณ์ในงานนี้เลย

แหล่งข่าวระบุว่า วู้ดเวิร์ด ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในขณะแต่งตั้ง แต่เขาให้ตำแหน่งนั้นกับบัตต์ ไม่ได้ เพราะบัตต์ (ก่อนจะออกจากตำแหน่งและอำลาสโมสร) มีปัญหากับเมอร์เท่อห์ อยู่ คนในทราบดี

และการแต่งตั้ง เฟล็ตเชอร์ ก็ทำให้บัตต์ รู้สึกว่า เขาถูกมองข้าม เพราะเป็นเขาเองต่างหากที่ก่อนหน้านั้นดูแลระบบเยาวชนมาโดยตลอด

บัตต์ ถึงขนาดเข้าคุยกับ วู้ดเวิร์ด เพื่อเปิดใจว่า ทำไมเขาถึงควรได้ตำแหน่งนี้ แต่สุดท้าย ก็ไม่เป็นผล

40) ส่วน 'ขอบข่ายการทำงาน' ระหว่างเมอร์เท่อห์ กับ เฟล็ตเชอร์ ก็ไม่มีการเปิดเผยออกสื่อว่า ที่แท้ ทั้งคู่ ทำงานอะไรกันบ้าง

เฟล็ตเชอร์ คือหนึ่งในคนที่สัมภาษณ์ เทน ฮาก ตอนที่มีการคัดเลือกโค้ชถาวรต่อจาก โซลชา และยังไปช่วยงานในการฝึกซ้อมนักเตะ

เฟล็ตเชอร์เอง เป็นจุดเชื่อมต่อที่ดีระหว่างนักเตะเยาวชนและทีมชุดใหญ่ แต่วู้ดเวิร์ด จับ เฟล็ตเชอร์ ไปจัดการเรื่องการดีลนักเะ

ขณะที่เมอร์เท่อห์ ซึ่งตามตำแหน่ง ควรทำงานเรื่องการสรรหานักเตะ แต่กลายเป็นว่า เขาต้องไปจัดการทีมเยาวชน , ทีมหญิง และฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ ในสโมสรแทน

41) และนั่นให้ ราล์ฟ รังนิก ในฐานะกุนซือขัดตาทัพในช่วงปลายฤดูกาล 2021/2022 ทำงานลำบากไปด้วย

รังนิก รู้สึกว่าตัวเขาเองคือคนที่ถูกทำให้แปลกแยกอยู่คนเดียว (แม้ว่า เมอร์เท่อห์ จะเป็นคนแต่งตั้งเขามาเองด้วยซ้ำ) เพราะเมอร์เท่อห์ ไม่สื่อสารกับ รังนิก ในหัวข้อที่ละเอียดอ่อน

และนั่นนำมาสู่การที่รังนิกต้องให้สัมภาษณ์ครั้งสำคัญ ว่าสโมสร 'ต้องผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่' (Open Heart Surgery) ที่เป็นคำพูดที่โด่งดังมากของ ตัวราล์ฟเอง

42) ในเวลาต่อมา อาร์โนลด์ ขึ้นเป็น CEO แทน เข้าตั้งคำถามว่า ทำไมหลายปีที่ผ่านมา ทีมเสียเงินไปกว่า พันล้านปอนด์ ในการซื้อนักเตะ แต่ทำไมไม่มีอะไรดีขึ้น

ปรากฎว่า จิม ลอว์เลอร์ หัวหน้าแมวมองคนสนิทของเซอร์ อเล็กซ์ และมาร์แซล เบาท์ ที่เข้ามาในยุคหลุยส์ ฟาน กัล โดนไล่ออก

ส่วนคนที่เซตระบบแมวมองนี้ขึ้นมาอย่างเมอร์เท่อห์ และ บราวน์ (คนของเมอร์เท่อห์) ยังคงอยู่กับทีม

43) อาร์โนลด์ เคยไปปรึกษา เซอร์ อเล็กซ์ และป๋าก็แนะนำว่า ให้ลองพิจารณาดูดีๆ ว่า เมอร์เท่อห์ ควรได้ดำรงตำแหน่งผอ. ต่อหรือไม่

และป๋าก็ลองส่งสัญญาณให้ไปทาบทาม แดน แอชเวิร์ธ (ปัจจุบันเป็นผอ. กีฬา นิวคาสเซิ่ล และเป็นผู้ที่เคยวางโครงสร้างให้ไบรท์ตัน และทีมชาติอังกฤษ) มาแทน

อาร์โนลด์ ติดต่อ แอชเวิร์ธ ไป ก่อนที่เขาจะไปรับงานที่นิวคาสเซิ่ล แต่พอแอชเวิร์ธ รู้ว่า เขาต้องมาทำงานภายใต้เมอร์เท่อห์ แอชเวิร์ธ เลยปฏิเสธที่จะคุยต่อ

44) ในขณะเดียวกัน ตลอดปีที่ผ่านมา เมอร์เท่อห์ เอง ก็พยายามเสริมกำลังคนเข้ามาในแผนกสรรหาของตัวเอง แต่ก็มีหลายคนที่ไม่อยากมา เพราะสถานการณ์เจ้าของทีมยูไนเต็ด ยังไม่แน่นอน

45) แต่แหล่งข่าวก็ระบุว่า เมอร์เท่อห์เอง ก็มีข้อดีเหมือนกัน เขาเป็นคนที่จัดการกับโครงสร้างสัญญานักเตะ เช่น ไม่จ่ายค่าเหนื่อยต่อเดือนสูงมาก และเน้นไปที่การจ่ายโบนัส และยืดระยะเวลาของสัญญาแทน เพื่อให้ไม่เสี่ยงต่อกฎ FFP

แหล่งข่าวระบุต่อไปว่า เมอร์เท่อห์ แทบจะไม่ได้พักเลย และเขายังใช้หลายขั้นตอนมากในการเช็คประวัติและสัมภาษณ์ เทน ฮาก

46) สำหรับอนาคตของ เทน ฮากนั้น เบื้องต้นแหล่งข่าวระบุว่า เซอร์จิมฯ ยังโฟกัสไปที่การพัฒนาส่วนอื่นๆ ของสโมสร มากกว่าไปโฟกัสที่ตำแหน่งผู้จัดการทีม

47) เบรลส์ฟอร์ด ซึ่งจะเข้ามาดูแลจัดการด้านฟุตบอล จะใช้เวลาในการประเมิน (แม้ผลการแข่งขันอาจเป็นตัวชี้วัดอนาคตของเทน ฮาก ด้วยก็ตาม) และพวกเขาทราบดีว่า ทีมใหญ่ขนาดยูไนเต็ด ที่มีผู้ถือหุ้นมากมาย , เจ้าหน้าที่เป็นร้อยเป็นพันคน มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่จะมาทำงาน

(ซึ่งเซอร์จิม วางแผนที่จะลิมิตจำนวนพนักงานที่เยอะเกินไปลง)

48) ซึ่งตำแหน่งผอ. กีฬาคนใหม่นั้น เบรลส์ฟอร์ด ยังมอง เมอร์เท่อห์ เป็นเป้าหมายแรก (พร้อมกับพอล มิทเชลล์ , จูเลี่ยน วอร์ด อดีตผอ. ลิเวอร์พูล , ดูกี้ ฟรีดแมน และอันเดรีย แบร์ต้า) ส่วน ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผอ. ลิเวอร์พูล พอใจกับธุรกิจใหม่ของตัวเองเวลานี้ และไม่สนใจงานที่ยูไนเต็ด

49) นักเตะเอง ก็รู้สึกว่าปัญหาของทีมนั้นใหญ่กว่าผู้จัดการทีม เช่น มีแข้งรายหนึ่งที่ผิดหวังกับการเสริมทีมช่วงซัมเมอร์ของยูไนเต็ด

นักเตะใหม่บางคนได้รับคำสัญญาจากเมอร์เท่อห์ว่า จะมีนักเตะเบอร์ใหญ่เข้ามาเสริมทีมเพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จ แน่นอนว่าพวกเขาเคยคาดหวังว่ายูไนเต็ดจะเซ็น แฮร์รี่ เคน มาได้

50) อย่างไรก็ตาม เทน ฮากเองก็ต้องจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในห้องแต่งตัว

นักเตะบางคนไม่พอใจกับโปรแกรมการฝึกที่ถูกเปลี่ยนโดยฉับพลัน หรือบางครั้งทีมต้องค้างคืนที่ยุโรปนานขึ้น ทำให้นักเตะบางคนไม่ได้กลับไปหาครอบครัว หรือ การจัดทีมที่ 'ผิดคาด' ในหลายเกม

51) Laurie ระบุว่า บรรยากาศในแคร์ริงตันเวลานี้ค่อนข้างราบเรียบ เทน ฮาก และ มิทเชลล์ ฟาน เดอร์ ค้าค ผู้ช่วย โค้ชชิ่งนักเตะในรูปแบบของการ 'สอน'

การประชุมในห้องแต่งตัวเพื่อเน้นปรับแก้รายละเอียดในการเล่น บางที นานถึงชั่วโมง

52) เทน ฮาก เอง รู้สึกว่าระเบียบวินัยที่เขาใส่ลงไปนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว (แม้นักเตะบางคนจะมองว่าตึงเกินไป) เทน ฮากมองว่า ระเบียบนั้นทำให้ยูไนเต็ดจบอันดับ 3 และคว้าแชมป์คาราบาว คัพเมื่อซีซั่นก่อน และระเบียบแบบนี้ เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ทีมกลับมาลุ้นแชมป์

เทน ฮาก ต้องการให้นักเตะเข้าใจแท็กติกของเขาให้กระจ่างแจ้ง เหมือนกับตอนที่เขาทำงานที่อาแจ็กซ์ และต้องใช้เวลากว่าจะ 'คลิก' กับนักเตะได้ทั้งหมด

53) Laurie ทิ้งท้ายว่า ยูไนเต็ดตั้งใจดึงเทน ฮากมา เพราะเขาสามารถสร้างอาแจ็กซ์ที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้อีก 2 ทีม และเขาสัญญาว่า จะจัดการกับ 'Squad' หรือทีมที่มาจากยุครังนิก , โซลชา และมูรินโญ่ได้

แน่นอนว่าการรับนักเตะจากหลายกุนซือก่อนหน้ามาไม่ใช่เรื่องง่าย และกับบรรยากาศที่ 'ทุกการกระทำ' ถูกจับจ้อง นั่นคือสิ่งที่ 'คนใหม่' ของสโมสรที่จะเข้ามา ต้องรับภาระอันหนักอึ้งนี้ต่อไป  
แก้ไขล่าสุดโดย --WuTTy-- เมื่อ Fri Dec 22, 2023 20:13, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 25885
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:19
Top Comment [RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
เปิดสปอยมาอึ้ง

ยาวจริง อ่านแปบ 5555

อ่านจบละ สรุป

- ทำทรง อยากบริหารทีมแบบมีแผน ส่งคนไปค้นคว้า แต่ไม่มีใครรับบรีฟ รับสรุป
- แต่เวลาที่ต้องใช้แผน พอสรุปข้อมูลไม่ได้ ก็เน้น ด้นสด งานช้า
- จบที่เทนฮาก ใช้เอเย่นตัวเองเดินเรื่อง (จบที่นักเตะที่ตนคุ้นเคยซะเยอะ)
- และแน่นอน โดนโก่ง เพราะแทบไม่มี แพลน เอ - บี

- ใช้คนไม่ถูกงาน เอาคนไม่เหมาะกับตำแหน่ง มาบริหาร

- เมอเทอ ก็ลูกน้องเอ็ด เน้นเอาตัวรอด ทำงานเอาหน้า

- ไอ่เอ็ด ก็ลูกรัก เกลเซอ สายงานก็มาจากพวก ไฟแนนซ์ ทั้งนั้น



เน่าตัังแต่หัวยันท้าย

หัวเน่า ก็เลือกเบื้องล่างเน่าๆ ตามกันมา

จะบอกว่า สงสารเทนฮาก รับหน้า สุด

ก็พูดยาก เพราะแทคติกทุกวันนี้ ก็ดื้อดันทุรังมาเสมอ



เน่าเฟะ ทัังองคกร วันนึงต้องแตก ตกต่ำกว่านี้แน่ๆ ถ้ารอการระเบิด

เซอร์จิมเข้ามา โดยที่ เกลเซอยังอยุ่ ดูว่าจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง
แก้ไขล่าสุดโดย chonbodee เมื่อ Fri Dec 22, 2023 21:18, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 34504
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:23
Top Comment [RE]แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
สรุปความล้าช้า และตัวที่เราบ่นๆว่าเทนฮากไปดึงคนเก่ามา ส่วนนึงก็เพราะสโมสรดำเนินการล่าช้า ทั้งๆที่เทนฮากส่งแผนให้นานแล้วหรอ

โถ สภาพ แบบนี้เปลี่ยนอีก 10 กุนซือก็ไม่หายหรอก เว้นแต่จะได้แบบเป๊ปเข้ามาอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2009
ตอบ: 60
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 21:02
Top Comment [RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
อยากให้อ่านจะได้เข้าใจ ผู้จัดการทีมทุกคนบ้างว่าต้องเจอกับเอี้ยอะไรอยู่ ไม่ใช่อะไรก็โทษแต่ ผู้จัดการทีม ต่อให้เป๊ป ให้ครอปเลย คิดว่าก็ไม่ต่างจากที่เทนฮากเจออยู่ ทุเรศสุดๆ องค์กรระดับนี้การทำงานมั่วชิบหาย ผลมาจากเจ้าของทีมไม่เคยสนใจอะไรนอกจากเงินที่จะสูบออกไป เลยจ้างใครก็ได้มาดูแลองค์กร ขอแค่กูได้เงินปันผลก็พอ Kuy
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Oct 2009
ตอบ: 25885
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:19
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
เปิดสปอยมาอึ้ง

ยาวจริง อ่านแปบ 5555

อ่านจบละ สรุป

- ทำทรง อยากบริหารทีมแบบมีแผน ส่งคนไปค้นคว้า แต่ไม่มีใครรับบรีฟ รับสรุป
- แต่เวลาที่ต้องใช้แผน พอสรุปข้อมูลไม่ได้ ก็เน้น ด้นสด งานช้า
- จบที่เทนฮาก ใช้เอเย่นตัวเองเดินเรื่อง (จบที่นักเตะที่ตนคุ้นเคยซะเยอะ)
- และแน่นอน โดนโก่ง เพราะแทบไม่มี แพลน เอ - บี

- ใช้คนไม่ถูกงาน เอาคนไม่เหมาะกับตำแหน่ง มาบริหาร

- เมอเทอ ก็ลูกน้องเอ็ด เน้นเอาตัวรอด ทำงานเอาหน้า

- ไอ่เอ็ด ก็ลูกรัก เกลเซอ สายงานก็มาจากพวก ไฟแนนซ์ ทั้งนั้น



เน่าตัังแต่หัวยันท้าย

หัวเน่า ก็เลือกเบื้องล่างเน่าๆ ตามกันมา

จะบอกว่า สงสารเทนฮาก รับหน้า สุด

ก็พูดยาก เพราะแทคติกทุกวันนี้ ก็ดื้อดันทุรังมาเสมอ



เน่าเฟะ ทัังองคกร วันนึงต้องแตก ตกต่ำกว่านี้แน่ๆ ถ้ารอการระเบิด

เซอร์จิมเข้ามา โดยที่ เกลเซอยังอยุ่ ดูว่าจะเปลี่ยนอะไรได้บ้าง
แก้ไขล่าสุดโดย chonbodee เมื่อ Fri Dec 22, 2023 21:18, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: คมิ้ง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 May 2021
ตอบ: 17377
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:19
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
คอนเทนต์อันนี้เสียตังค์เข้าไปอ่านใช่มะ โคตรเดือด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 34504
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:23
[RE]แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
สรุปความล้าช้า และตัวที่เราบ่นๆว่าเทนฮากไปดึงคนเก่ามา ส่วนนึงก็เพราะสโมสรดำเนินการล่าช้า ทั้งๆที่เทนฮากส่งแผนให้นานแล้วหรอ

โถ สภาพ แบบนี้เปลี่ยนอีก 10 กุนซือก็ไม่หายหรอก เว้นแต่จะได้แบบเป๊ปเข้ามาอะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 6287
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:25
แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
เพิ่งอ่านจบสรุปแมนยูต้องการผอ.กีฬาที่มีวิสัยทัศน์มากกว่าเมอร์ทัฟ

ปล.บางเพจตัดบางส่วนไปลงเพจตัวเองแล้วเปลี่ยนสำนวนเนียนเลยน้าเครดิตก็ไม่ให้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 24541
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:27
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
ฮากเอ้ย แถมล่าช้าจากทีมงานอีก ค่าตัวพุ่ง ก็ยอมให้พุ่ง
แก้ไขล่าสุดโดย Tsubomi เมื่อ Fri Dec 22, 2023 20:29, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ขาไฝว้ บอร์ดการเมือง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2010
ตอบ: 11654
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:27
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
ยาวจริง ขอปริ้นมาอ่านแล้วกันครับพี่แนท555
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: word not enough to talk about football
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Jun 2010
ตอบ: 18298
ที่อยู่: Urban Forest
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:29
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
ซีดานมา อันเช่มา ก็ไล่วนไปแหละแบบนี้ เพราะหลังบ้านยุ่ยจัด
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 May 2011
ตอบ: 11578
ที่อยู่: เมี๊ยววว!!
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:32
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
มีใครย่อเหลือ 8 บรรทัดได้มั้งมั้ย

ต้องเก็บโค้วต้าไว้บ้าง555++
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jan 2010
ตอบ: 3318
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:32
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
หวังหวังคงอยู่ที่เซอร์จิมแล้วล่ะ จนกว่าหลังบ้านจะถูกเปลี่ยนแปลง

แมนยูก็คงวนอยู่ที่เดิมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 984
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:34
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
ไหมลาว ออโต้เรื้อน พิมพ์ว่า:
สรุปความล้าช้า และตัวที่เราบ่นๆว่าเทนฮากไปดึงคนเก่ามา ส่วนนึงก็เพราะสโมสรดำเนินการล่าช้า ทั้งๆที่เทนฮากส่งแผนให้นานแล้วหรอ

โถ สภาพ แบบนี้เปลี่ยนอีก 10 กุนซือก็ไม่หายหรอก เว้นแต่จะได้แบบเป๊ปเข้ามาอะ  

ผมว่าเป๊บก็ไม่รอด เป็บหมดไปหลายร้อยล้านกับแบคโฟร์กว่าจะได้ชุดที่ลงตัว มาอยู่นี่ไม่มีทางเลยที่จะมีเงินสำหรับเปลี่ยนตัวใหม่จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ ค.ฟิลิปจะโดนด่ามากกว่าเมาท์กับโอนาน่าตอนนี้ นี่ยังไม่รวม unitedtax ที่เหมือนเป็น debuff ตลาดซื้อขายอีก สิ่งเดียวที่น่าจะเหมือนกับน้าสิบ คือการโดนด่าว่าไอ้โล้น คล๊ายๆ โล้นจิบน้ำที่เคยโดน

edit ไหนๆ ลบแล้ว ก็ลบให้สุด อ่ะ คะแนนความสะอาดของอาหาร ถถถ
ก็นะ มันเคยมีรูปหนูวิ่งใน ot เมื่อสิบปีก่อน จะไม่สะอาดก็ไม่แปลก
เพียงแต่รอบนี้เป็นเรื่องไก่ดิบ

อยากจะบอกว่า อย่าไปมองว่าเป็นความผิดเมอร์เท่อห์คนเดียว ส่วนตัวผมคิดว่าเมอร์เท่อห์และรวมถึงน้าสิบกับบรรดาผจกทีมที่ผ่านมาอย่างน้ามูหรือน้าลูกอม คือ "แพะ" ของระบบที่ห่วยมากกว่า

ลอรี่เป็นนักข่าวเทียร์สูงก็จริง ก็แต่เค้าก็เป็นแค่คนนอก เรื่องพวกนี้มันต้องอยู่ในสายตาโคตรวงในอย่างพวกเกลเซอร์อยู่แล้ว แต่ทั้งๆ ที่เห็นกันอยู่ว่ามันห่วย ก็ยังไม่สน เพราะปรับไปปันผลมันก็ไม่เพิ่ม

ผมกลัวอย่างหนึ่ง ข่าวไม่กี่วันก่อนว่าพวกเกลเซอร์จะขอมีส่วนด้านฟุตบอลด้วย ผมล่ะเสียวจริงๆ เลย วันประกาศเรื่อง 25% ขออย่ามีเลยนะ ให้คนฟุตบอลจริงๆ มาดูเต็มๆ เถอะ
แก้ไขล่าสุดโดย PBJS เมื่อ Fri Dec 22, 2023 23:58, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: One Love united .
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 3012
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:35
[RE: แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน]
ถ้าเอาแบบชาวบ้านๆ ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากกมาย ปีก่อนที่แฟนบอลบุกเข้าไปหา เมอเทอแล้วพูดคุย เรื่องการซื้อตัว fdj คนหลายๆคนอาจจะมอง เป็นกันเองดี แต่องค์กรแบรนด์ระดับนี้ ควรวางตัวและไม่ควรยิ่งให้มีข่าวหลุดใดๆออกมาจากปาก อันนี้แม้งพูดเองเลย เรากำลังซื้อเขาอยู่ 55555+ โคตรง่ายอะ ใครเป็นผู้ขายกดราคายับๆ โคตรไก่ คนซื้อแม้งไม่มีเหลี่ยมมุมใดๆเลย
แก้ไขล่าสุดโดย หลังสน เมื่อ Fri Dec 22, 2023 20:36, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 5632
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:37
[RE]แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
ไอ้เมอเซ่อ ได้ดีเพราะเลียเก่ง 555
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: heyy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2023
ตอบ: 214
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:38
[RE]แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
นี่อาจจะเป็นที่มาว่าทำไมต้องดึงนักเตะเก่าๆมา น่าจะเพราะส่งแผนให้แล้วแม่งไม่ทำ แล้วเห็นมีบอกว่า นักเตะบางคนผิดหวังการเสริมนักเตะคิดว่าจะเสริมเคน หรือนี่อาจจะเป็นเหตุผลให้แบบไม่มั่นใจฮอยลุนเลยไม่ส่งบอลให้หว่า
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
MANCHESTER UNITED
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: heyy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2023
ตอบ: 214
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Dec 22, 2023 20:40
[RE]แฉยับ !! จอห์น เมอร์เท่อห์ กับความพังหลังบ้าน
หลังสน พิมพ์ว่า:
ถ้าเอาแบบชาวบ้านๆ ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากกมาย ปีก่อนที่แฟนบอลบุกเข้าไปหา เมอเทอแล้วพูดคุย เรื่องการซื้อตัว fdj คนหลายๆคนอาจจะมอง เป็นกันเองดี แต่องค์กรแบรนด์ระดับนี้ ควรวางตัวและไม่ควรยิ่งให้มีข่าวหลุดใดๆออกมาจากปาก อันนี้แม้งพูดเองเลย เรากำลังซื้อเขาอยู่ 55555+ โคตรง่ายอะ ใครเป็นผู้ขายกดราคายับๆ โคตรไก่ คนซื้อแม้งไม่มีเหลี่ยมมุมใดๆเลย  
อันนั้นน่าจะ ริชาร์ด อาโนลด์ เป็น CEO ที่เพิ่งลาออกไปครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
MANCHESTER UNITED
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel