นั้นละครับถือว่า ทีมการตลาดของ byd ประเทศไทย ตัดสินใจแต่ละอย่างดีมาก

ล่าสุดก็ เคส atto3 ชาร์จละไฟขึ้น สรุปเปลี่ยนรถให้ใหม่เลย การตลาดเขาเก่งจริง

กล้าได้กล้าเสีย กล้าตัดสินใจ และ take action แต่ละเคส เร็วมากๆ

ถ้ามีสถานที่แล้วคงปล่อยได้แต่เฉพาะค่าที่หรือเก็บ gp
วงการนี้ถ้าไม่ใช่ network charging provider น่าจะอยู่ยาก (เห็น forth จะทำตู้กิ้งก่า standalone แต่ยังไม่มาสักที)
จะทำได้ก็ต้องเป็นจุดแวะสำคัญจริงๆเช่นตลาดของฝาก ไรงี้


ลองคิดคร่าวๆไปเช่าสถานที่ 100 sqm. ทำ 1 หัวชาร์จ 2 ช่องจอด
1. สถานที่ (ลานจอดรถมีหลังคา) 400,000
2. ตู้ 50/100 kw 1,200,000
3. ระบบไฟรวมขอ 120,000

fix cost ตก 1.7M

กำไรค่าไฟต่อหน่วย 2 บาท/kw จุดคุ้มทุน 850,000 kw
ถ้าขายไฟเฉลี่ยต่อวันได้ 800 kw จะคืนทุนใน 1062 วันหรือราวๆ 3 ปี

ถ้าพูดถึงตัวรถอย่างเดียว MG4 รถดีเลยครับ แต่ในไทยแค่ภาพลักษณ์แบรนด์ MG ภาพรวมมันเสียไปนิดหน่อยจากช่วงแรกที่ MG พึ่งเข้ามา 2 เรื่องคือ ศูนย์ยังไม่ชำนาญกับ พฤติกรรมของคนใช้ อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยกว่าจะแก้เรื่องภาพลักษณ์ได้ แต่ถ้าไม่แคร์เรื่องพวกนี้คือน่าใช้ครับ

หรือถ้าเพิ่มเงินหน่อยไหว Atto3 - Seal ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากอย่าง Seal เห็นช่วงเปิดตัวได้แคมเปญ ซ่อมบำรุงและรับประกันเปลี่ยนอะไหล่ฟรียาว 8 ปีคือคุ้มๆ

สนับสนุนให้คนขับ EV เยอะๆ คับ

ส่วนผม รอเวฟ2 เวฟ3 ให้จุดชาร์จเยอะกว่านี้ก่อน

3. จำนวนยอดขายรถ EV เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาป ตอนนี้คือเกือบๆ 20% ทั้งโลกแล้วครับ (ปี 2019 ตัวเลขตรงนี้แค่ 2.5%)

ข้อนี่ แสดงว่า ผ่านไป 3ปี เพิ่มขึ้น 18% เลย

สุดมาก

MG ในไทย ภาพจำ ยังติดมาจาก รถน้ำมันล่ะมั้งครับ

ข้อ 1 ผมว่าไม่ถูกซะทั้งหมดนะครับ ถ้านับเฉพาะ BEV (รถไฟฟ้า 100%) จริงๆ จากกราฟขายได้แค่ 600k กว่าคัน ยอดรวม 1 ล้าน+นั้นมาจาก PHEV ด้วย ส่วน Tesla ขาย EV เพียวๆได้ 900k คัน

ขึ้นเกือบ 10 เท่า ต้องเกือบ 1,000% ครับ ไม่ใช่ 18%

อย่างเคส MG4 ของน้าแจ่มที่แบต 12v หมดแล้วปลุกไม่ตื่นก็พากัน Tag หาอวยMG กันเต็ม ดีนะที่เพจนั้นไม่ฮุบเหยื่อ
จนน้าแจ่มต้องมาบอกว่า คนเราเก่งแต่วิจารณ์ไม่เก่งวิเคราะห์
เคสแบต 12v อดีตโฆษกเก่าเพื่อไทยเจอปัญหาอันนั้นก็ด่ากันเต็มหลังๆ มาทัวร์ลงเต็มเพราะบอกว่าอยู่วงการรถมา 30 ปี
แค่แบต 12v หมดก็ไปไม่เป็นไม่รู้สายปลายเหตุ สำหรับผมแบต 12v รถน้ำมันบางรุ่นไม่ถึงปีก็มีฮอนด้าถึงได้รับประกัน 1 ปีเครมให้เลย

จริงท่าน เรื่อง แบต นี่ ค่ายน้ำมัน ก็เป็น

แต่ไม่ค่อยมีคนโวย

พอเป็น ไฟฟ้านี่ เรื่องใหญ่เลย

ถ้าจะทำในกรุงเทพหรือจังหวัดใหญ่ๆ ผมว่าไม่น่าทำ อีกหน่อยถ้าวิ่งระยะจริงได้ตั้งแต่ระยะ 600++ (ซึ่งผมว่าอีกไม่นาน) กับระยะเวลาในการชาร์จสั้นลง การที่คนจะเอารถมาใช้สถานบริการก็ลดรอบน้อยลง ในระยะยาวผมว่า supply จะมากกว่า demand

เรื่องทุนที่แพงที่สุดคือที่ ซึ่งผมคิดว่าท่านมีที่อยู่แล้ว (ถ้าไม่มีผมว่าพับโครงการไปได้เลยครับ) ก็ต้องเทียบว่าถ้าทำอย่างอื่นแล้วดีกว่าไหมครับ และทำเลใกล้ชุมชนไหม

คู่แข่งนี่เยอะมาก เอาที่จะทำเป็น station ก็ปั้มน้ำมันที่เห็นอยู่ทั้งหมด ปตท บางจาก ซัลโก้ + กับ 7 ที่ตอนนี้ทำสาขา stand alone ที่มีพื้นที่จอดรถเยอะมาก แถวบ้านผม 7 เพิ่งสร้างเสร็จที่จอดรถใหญ่กว่าตัวร้าน 2 เท่า

ส่วนพวกชาร์จเจอร์ที่จะเข้าไปติดตามบ้านหรือคอนโดก็มีหลายบริษัทแล้วครับ ทั้งไทย ทั้งต่างชาติ