หลังจากที่อนิเมะซีซั่นก่อนจบไป อาทิตย์นี้ก็เริ่่มมีการฉายอนิเมะสำหรับซีซั่นสุดท้ายของปีแล้ว ซึ่งเมื่อคืนก็มีอนิเมะเรื่องหนึ่งได้เริ่มฉายชื่อว่า Sousou no Frieren หรือชื่อภาษาไทยว่า "คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN" ซึ่งน่าจะถูกคาดหวังให้เป็นอนิเมะเรือธงของซีซั่นนี้เลย





เรื่องย่อ: หลังจากจบการผจญภัยในการปราบจอมมารของปาร์ตี้ผู้กล้า ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันออกไปใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป ทุกคนนั้นได้สัญญากันว่าจะไปดูฝนดาวตกกันอีกครั้งในเวลา 50 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ได้มาเจอกันอีกครั้งและได้ไปทำตามที่ได้สัญญากัน แต่ด้วยความที่แต่ละคนมาจากต่างเผ่าพันธุ์นั้น (เอลฟ์ ,ดวอร์ฟ ,มนุษย์) จึงทำให้มุมมองเรื่องเวลาและอายุขัยแตกต่างกันออกไป ฟรีเรนที่เป็นเอลฟ์และมีอายุที่ยืนยาวมากๆนั้นได้พบเข้าเหตุการณ์หนึ่งจนเริ่มรู้สึกอยากที่จะเข้าใจมนุษย์มากขึ้นจึงได้เริ่มเปลี่ยนความคิดในการเดินทางของตนเองและเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ของเธออีกครั้ง


OP: "Yuusha" by YOASOBI




ED: "Anytime Anywhere" by Milet (ตัวเต็มยังไม่ออก)





สามารถดูได้ที่: Muse Thailand (YouTube), Bilibili, iQIYi, Amazon, Crunchyroll, TrueID





ความเห็นส่วนตัว(ไม่มีสปอย): ตอนแรกส่วนตัวคือไม่ได้คาดหวังให้ถูกใจตัวผมมากเพราะไม่ได้ชอบแนวประมาณนี้เท่าไหร่ แต่พอได้ดูเท่านั้นแหละ ยิงยาวไป 4 ตอนเต็มๆที่ปล่อยออกมา งานภาพทำออกมาดี สามารถเดินเนื้อเรื่องเพื่อให้การพัฒนาของตัวละครและเล่นกับอารมณ์คนดูได้ดี เป็นเรื่องที่ทำให้คนดูตระหนักถึงคุณค่าของ "เวลา" ได้สุดๆไปเลย เพลงเปิด/ปิดก็มาแบบจัดเต็ม เป็นหนึ่งในเรื่องที่เซอไพรส์ผมมากๆจนเปลี่ยนความคิดต่อเรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิง


โดยอนิเมะเรื่องนี้จะฉายควบ 2 ซีซั่นโดยจะมีความยาวประมาณ 24-26 ตอน และปล่อยลงแพลทฟอร์มสตรีมมิ่งช่วงวันศุกร์เวลา 22.00 ทุกสัปดาห์ โดยคะแนนจากคนดูผ่าน MAL ในช่วง 4 ตอนแรกที่ปล่อยออกมานั้นได้ไปถึง 9.02 คะแนนเลยทีเดียว

ดูสดไปเมื่อคืน + อ่าน live chat ไปพร้อมกันสนุกดี

ชอบชื่อตัวละครศิษย์-อาจารย์, ฟรังเม-ฟรีเรน-เฟรุน

ซีซั่นนี้นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องดังๆอย่าง Spy x Family Season 2, Goblin Slayer II, ผู้กล้าโล่ภาค 3 ให้ตามกันอีก



OP เวอร์ชั่นอนิเมะแบบไม่มี Credit บังจอ

งานละเอียดอย่างกับ anime the movie

โดยส่วนตัวผมคาดหวังสุดๆพอๆกับเมาเมาหมอยาโคมแดง ซึ่งฉายซีซั่นเดียวกันด้วย แต่เมาเมาฉายปลายตุลาเลย

ถือว่าทำดีมาก เพลงopedก็แต่งมาเพื่อเรื่องนี้เลย ฉากเวทมนตร์ก็อลังกว่าที่คิด ที่สำคัญเลยคือแปลซับดีเพราะมังงะ sic แปลสวะมาก

รู้สึกฉากงานศพ ในมังงะอ่านแล้วเศร้ากว่า

ทำไมดูจากภาพแล้วมันจะเศร้าอะ ไม่อยากดูเศร้าๆเลย ตอนนี้อยากดูพวกไฟท์กันมากๆ เพราะห่างอนิเมะมานานพอสมควร
ตอนนี้ไล่ดู my hero จะจบ ss6 ละ เดือดอยู่หลังๆ

ส่วนตัวจาก 4 ตอนแรกนะ ผมว่ามันไม่ได้ชวนเศร้าแต่มีฉากดึงอารมณ์นิดหน่อยเพื่อสร้างธีมเรื่องหลักขึ้นมาและดำเนินเรื่องไปแบบ Slice of Life ดีๆเรื่องนึงเลย

แนวนี้ไม่ใช่ทางผมเลย ดูจากภาพแล้วรู้เลยว่าไม่น่าใช่ทางผม เหมือนเรื่อง Fumetsu no Anata e ใช่มะ

ถ้าถามว่าเหมือนมั้ย ผมดูเรื่องนั้น(Fumetsu)ได้ 2 ตอนละเลิกดูเลย แต่เรื่องนี้ผมว่าเบากว่าแบบมากๆสำหรับการเริ่มต้นนะ ผมก็ไม่ชอบแนวเศร้าอะไรแบบนั้นเหมือนกัน แต่เรื่องนี้ผมให้ผ่านเลยแหละ ผมว่ามันลงตัวมากๆ อยากให้ลองดูก่อนครับ

เรื่องนี้ผมชอบมากตอนแรกอ่านของเถื่อน แล้วชอบเลยไปซื้อถูกลิขสิทธิ์แทนแต่ดันไม่ชอบการเเปลนี่ดิ ผมไม่ชอบทับศัพท์แบบนี้ คือมาเปนเกมเลย พรีส วอริเออร์ ฮีโร่ เมจ กลายเปนว่าเถื่อนแปลถูกจริตกว่าสะงั้น

หนึ่งในความลำบากใจของนักแปลครับ

ภาษาเกาหลีกับญี่ปุ่นจะมีการทับศัพท์เยอะมาก ถึงมากที่สุด

เช่นภาษาเกาหลีจะเรียกลิฟต์ จะเขียนว่า 'เอเลเบเตอร์' เลย

ทีนี้นักแปลมันจะมีสายคลั่งต้นฉบับ คือกูจะแปลให้เหมือนต้นฉบับมากที่สุด ผมไม่ได้บอกว่าสายนี้ผิดนะ แต่จากที่ซาวเสียงจากคนอ่าน ส่วนใหญ่เค้าไม่ชอบกัน

แล้วสายแปลญี่ปุ่น จะเป็นแบบนี้เยอะมาก โดยเฉพาะ sic

ส่วนผมเดินทางสายกลาง เอาที่มันเหมาะสม อย่างลิฟต์อะไรงี้ก็แปลเถอะ แต่อย่างมังกร เกาหลีจะเรียกมังกรยุโรปว่า แดรก้อน แล้วเรียกมังกรเอเชียว่า รยง บริบทนี้ต้องจำใจทับศัพท์ว่าแดรก้อน กันการเข้าใจผิด

เรื่องนี้ตอนอ่านผมชอบมากเลยนะ ชอบ slice of life บรรยากาศเหงาๆแบบนี้ แล้วก็ชอบตอนสู้กันด้วย อาจจะดูง่ายๆไม่ค่อยมีอะไร แต่มันดูมีเหตุผลว่าทำไมต้องทำแบบนั้นแบบนี้ตลอด

ตอนประกาศว่าจะทำอนิเม ไม่ได้คาดหวังมากนะ แนวๆนี้ผมรู้สึกเป็นมังงะจะดีกว่า

ใช่คับ หลักต้องดูบริบทเลยไม่ต้องแปลทุกอันและไม่ต้องทัพศัพท์ทุกอัน คือเสียดายการ์ตูนที่ชอบมากที่สุดเรื่องนึง ดันเจอการแปลที่ไม่ชอบแล้วเวอร์ชั่นอะนิเมะดันแปลทับศัพท์อีก

ใน SS กระแสดีแหะเรื่องนี้ ไปหาดูบ้างดีกว่า
ปล. ชอบMiletมาก น่ารักจัดเสียงก็ดี

ส่วนหนึ่งดีใจที่จะได้เห็นงานดี ๆ จาก Madhouse อีกครั้ง

ผมเห็นเพื่อนเคยแนะนำเรื่องนี้มาให้อ่าน แต่ก็ดองไว้จนอนิเมะมาฉายผมรับรู้ความนิยมของมันได้เลยจากการเอานักร้องเบอร์นี้มาร้องให้เปิดปิดเลย

ยังไม่ได้ดูแต่เพลงดีงามมากกก

ผมแชร์ให้ครับ