แฟนลิเวอร์ก็ไม่รู้ครับว่าเงินมันหายไปไหนหมด มูลค่าทีมติด top โลก แต่ใช้เงินน้อยกว่าทีมหนีตกชั้น

เรื่อง FFP ไม่เคยห่วง ห่วงแต่มันไม่ยอมใช้เงินนี่แหละ

เชลซีตอนนี้ว่าง่ายๆก็เดิมพันกับความเสี่ยงอะถ้าผลงานในสนามมันไม่กระเตื้องตามรายได้ก็จะลดลงทำให้ต้องหารายได้ทางอื่นให้มากขึ้นในแต่ละปีซึ่งเชลซีตัดสินใจจะลองเสี่ยง

การเซ็นยาวๆมันไม่ได้มีแต่ข้อดีที่ทำให้ค่าตัดจำหน่ายน้อยลงอย่างเดียวมันต้องแลกกับข้อเสียที่ตามมาอีกเพียบแต่เชลซีกล้าเสี่ยงไง

แฟนทีมอื่นเห็นหลายๆคนก็จะเรียกร้องแต่ไม่ผิด FFP ได้ไงฟ่ะถ้าลองหาข้อมูลดูสักนิดก็น่าจะเข้าใจว่าตอนนี้มันยังไม่ได้ผิดแต่ในอนาคตถ้าหารายได้เข้าแต่ละปีได้น้อยถึงตอนนี้อะเสี่ยงที่จะโดน FFP

การเซ็นสัญญายาวๆถ้าคิดว่ามันมีแต่ข้อดีทีมอื่นๆก็คงทำกันไปหมดแล้วสิอยากให้ทีมตัวเองซื้อตัวได้เยอะๆก็ให้เซ็นสัญญายาวๆสิถามว่าทำไมทีมอื่นไม่ทำก็เพราะมันต้องแลกมากับความเสี่ยงไงจะกลายเป็นมีภาระผูกพันยาวไปอีกหลายปี

ติดดาววว ท็อดเวย์ กระจ่างแจ่มแจ้งครับ

FFP rules หรือจะสู้ FSG rules
ตรวจเข้มจนทีมลุ้นแชมป์ลงมาลุ้นยูโรป้า

High risk high return แนวเมกันแท้ๆ สมมุติเล่นๆ เอ็นโซ่เล่นได้แบบนี้อีกสองปี แล้วด้วยระยะสัญญา นานขนาดนี้ มีทีมมาขอซื้อคิดว่าจะราคาเท่าไหร่ไม่ 200+ เลยหรอวะ 5555 คิดอีกมุมคือถ้าแปก ก็อย่างบูดอ่ะ

ถ้าจะสร้างทีมระยะ ยาว มันก็น่าจะดีแต่ต้องให้เวลาโค้ชและนักเตะด้วย

เป้าแรกคือการกลับไปเล่น UCL หรือได้แชมป์ถ้วยสักใบ

ท้อดเน้นติดดอยก่อนครับ แล้วรอมันมูน

เอาง่ายๆ ถ้าปิดตลาดซื้อขาย ปล่อย ลูกากู ซีเย็ค ชาโลบาร์ โอดอย ค่าเหนื่อยลดไปเกือบ 5 เเสนปอนด์/สัปดาห์ กลับมาเดือนละ 2 ล้าน ปีละ 20 ล้านปอนด์ที่ลดลงมา นี่ไม่รวมผ่องถ้ายนักเตะที่ไม่ใช้ได้หมดรวมๆน่าจะ 300-350 ล้านปอนด์ได้ ขาเข้าขนาดนี้ งบซื้อละ income 300 + งบ 100-200 ล้าน คิดง่ายๆ คือใช้จ่ายเต็มที่ 4-500 ล้าน เเต่โครตเสี่ยงเเหละ นี่ไม่รวมเวลาคิดจ่าย/ปีเอามาหารปีอีกยิ่งถูกลงเข้าไปใหญ่

อันนี้ยังไม่รวม ตลาดเก่าๆนะ ถ้าจะเอามาคิดรวมกันอีกก็โครตปวดหัว ผมว่าท๊อดก็คงหาทางไว้เเล้วหละ ปิดตลาดหน้า สเตอริ่ง กัลลาเกอร์ คูคูเรย่า เกป้า ซิลวา ไม่น่ารอด น่จะได้ 100-150 ล้าน

มันคือการแก้ปัญหาระยะสั้นที่สร้างภาระระยะยาวครับ โคตรเสี่ยงเลยนะ เหมือนระเบิดเวลาอะ ทำไม่ได้ตามเป้าก็ตู๊ม

ไม่รู้สิอแต่โคตรเสี่ยงเลย ถ้าทีมผลงานไม่ดีไม่ได้ไป ucl 2-3 ปีต่อจากนี้ นักเตะฟอร์มตก ทุ่มเงินซื้ออีกไม่ได้แล้วนี่โคตรอันตรายเลยนะ ทำอย่างกับพรีเมียร์สมัยนี้อยู่ 1 ใน 4 ง่าย คือไม่เคยเจอบริหารทีมแบบนี้เลย ขอรอดูต่อไปและกัน ไม่ปังซัก 2-3 ฤดูกาลรู้เรื่องเลย

ต่อไปจะทุ่มซื้อตัวในฤดูกาลถัดๆไปนี่ยากแน่ๆ บริหารแบบต้องปังเท่านั้นห้ามพลาด โคตรกดดันเลย

ของ FSG เหมือนจะพยายามคุมให้ตัวเลขเป็นบวกอยู่ลอดเวลา ซื้อก็ต่อเมื่อขายได้ ความเสี่ยงต่ำเพราะรายจ่ายแปรผันตรงกับรายรับ แบรนด์หงส์แข็งแรงอยู่แล่วดึงดูดสปอนเซอร์ได้มหาศาล ผมเป็นนักลงทุนผมก็เข้า

ส่วนของท็อดก็ตามท่านบอกเลย เหมือนเล่นรถหรูเล่นนาฬิกาหรู ลงทุนกับกำไรมหาศาลในอนาคต ตอนนี้ที่มีแววจะคุ้มแน่ๆก็ Enzo ที่ถ้ารักษามารตฐานได้ยาวๆราคาน่าจะทะลุ 130 ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพี่แกกว้านซื้อดาวรุ่งเทพๆไปเพียบ แล้วปล่อยยืมตัวเพื่ออัพเวล+โฆษณา เพราะอย่างน้อยๆถ้ามันเก่งไอ้ทีมที่ยืมไปนี่แหละมีโอกาสซื้อคืนสูง หรือถ้ามันเก่งจัดๆก็เก็บไว้ใช้เองเพื่อยกระดับทีมและหาสปอนเซอร์ เหมือนกรณี Colwill นี่ถ้าพอชไม่ใช้ราคาน่าจะ 60-70

ขอบคุณท่าน Nakkii กระจ่างสำหรับท่านที่กังวลและหวังดีกับเชลซีเป็นที่สุด

-ลิเวอร์พูลเอากำไร ไปต่อเติมสนาม+สร้างสนามซ้อมใหม่ครับ

-ถ้าเราไม่ต่อเติมสนาม 5ปีที่ผ่านมา เราจะมีเงินซื้อตัวเพิ่มอีกราวๆ 300 ล้านปอนด์

-เงินค่าก่อสร้างทางสโมสรยืม fsg มา

-ช่วงที่ผ่านมาก็เอากำไร ไปผ่อน fsg จนเหลือหนี้ราวๆ 50-60 ล้านละ(จากเงินต้น 300ล้าน)

-หนี้สร้างสนามไม่รวมในffp ก็จริง แต่ก็ต้องผ่อนคืนเจ้าของอยู่ดี (ไม่ให้สร้างให้ฟรีๆ)(ข้อมูลจากท่านalfazero)

-แต่ของลิเวอร์พุลแม่มผ่อนหนัก ปีละ 50 -60 ล้านเลย

-ทำให้ 10 ปีที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลใช้เงินซื้อนักเตะเฉลี่ยแค่ปีละ 35 ล้าน (net spend)

ตอนแรกผมก็ว่าจะแปล แต่ยาวจัดก็เลยรอคุณ Nakki ดีกว่า ลาเวียร์ได้น้อยกว่า JWP อีกหรอ พวกนักร้องมาดูหน่อยเร็ว

ถ้าเป็น deadwood ซัก 2-3 คน แคมป์เชลซีมีมันส์แน่นอน แค่ลูกากูคนเดียวก็แทบบ้าแล้ว