ผมเคยตั้งกระทู้สนับสนุนให้รีโนเวทสนามศุภชลาศัยไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน
ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องยกประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

จะเห็นได้ว่าหลายปีที่ผ่านมา สนามราชมังคลากีฬาสถาน ไม่เหมาะกับการเป็นสนามเหย้าของทีมชาติไทยประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำของอาเซียน สมควรที่จะมีสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพมากกว่านี้หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีสนามดีกว่าเรา ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ปัจจุบัน ประเทศกัมพูชา ก็มีสนามฟุตบอลแห่งชาติที่ดีและทันสมัยกว่าเราแล้ว (ภาพประกอบสนามต่างๆอยู่ด้านล่าง)

1 สาเหตุที่สนามราชมังฯไม่ควรเป็นสนามฟุตบอลประจำชาติ

1.1 ด้วยวัตถุประสงค์การสร้างสนามให้รองรับได้หลากหลายกีฬา ทำให้เป็นสนามกีฬาที่มีลู่วิ่ง โดยส่งผลให้ความได้เปรียบในการเป็นเจ้าบ้านลดน้อยลง แฟนบอลอยู่ไกลจากตัวสนาม การส่งเสียงเชียร์ไปถึงตัวนักฟุตบอลฝั่งตัวเอง รวมไปถึงการส่งเสียงกดดันฝั่งตรงข้าม ทำได้ไม่เต็มที่ 100%

1.2 สนามตั้งอยู่ในย่านที่ไม่มีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก ต่อให้ย่านรามคำแหงอีกหน่อยรถไฟฟ้าเสร็จแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหน หลายครั้งที่แฟนบอลต้องนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปที่สนาม ซึ่งจะโดนชาร์จแพงกว่าปกติ อีกทั้งเวลาที่มีแมตช์แข่งขัน บางครั้งกว่าคนจะเข้าไปในสนามเต็มตามจำนวนตั๋วที่ขายได้ ก็ปาไปเกือบพักครึ่งแล้ว

1.3 เทคโนโลยีในสนามตกยุค ทั้งระบบการระบายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หลังคามีด้านเดียวทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีฝนชุก เวลาที่มีแมตช์แข่งขันในวันฝนตก แฟนบอลต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการซื้อเสื้อกันฝน บางคนก็ต้องลุกจากเก้าอี้ไปยืนอัดกันหลบฝนตรงใกล้ๆกับประตูทางเข้าสนาม ทำให้ลดทอนพลังในการเชียร์นักฟุตบอลลงไปเป็นอย่างมาก


2. เหตุผลที่อยากให้รีโนเวทสนามศุภชลาศัย ให้เป็นฟุตบอลสเตเดี้ยม

2.1 Location เป็นที่ถึงแม้จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองยิ่งกว่าราชมังฯ แต่การคมนาคมขนส่งสาธารณะแถวสนามศุภฯดีกว่ามาก มีสถานีรถไฟฟ้า BTS ตั้งอยู่หน้าสนาม ลงจากสถานีแล้วเจอสนามเลย ไม่ต้องใช้เวลาเดินลึกเข้าไปเหมือนราชมังฯ หรือไม่ไกลก็มี MRT สามย่าน ดังนั้นการระบายคนทำได้ไวมากๆ จากที่เคยไปดูแมตช์ชิงแชมป์ Thai FA Cup เมื่อหลายปีก่อน เช่น แมตช์เมืองทอง-ชลบุรี หรือ แมตช์บุรีรัมย์-บีจี แฟนบอลเข้าไปเต็มความจุ แต่พอการแข่งขันจบ การระบายคนเป็นไปอย่างรวดเร็ว

2.2 หากมีแมตช์ทีมชาติที่แข่งวันธรรมดาเวลา 1 ทุ่ม สนามจะเต็มเร็วกว่าราชมังฯแน่นอน เพราะคนในเมืองที่เลิกงาน รวมถึงรอบนอกจะสามารถเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะไปถึงได้เร็ว เพราะจะเดินทางสวนทางกับคนที่เดินทางกลับบ้านในวันทำงาน

2.3 รอบข้างมีห้างสรรพสินค้าอำนวยความสะดวกครบครันรองรับ แฟนบอลไทย และแฟนบอลฝั่งตรงข้ามที่มาถึงก่อนเวลาสามารถเดินเล่นแอร์เย็นๆในห้างรอบอลเตะได้ มีทั้ง Siam Center Siam Discovery MBK Paragon CentralWorld หรือใครอยากไปเดินแพลตตินัมก็ได้ แฟนบอลต่างชาติสามารถไปเที่ยววัดต่างๆในเกาะรัตนโกสินทร์ เสร็จแล้วนั่ง MRT มาดูบอลต่อที่สนามศุภได้ไม่ไกล

2.4 มนต์ขลังของสนามศุภไม่เคยจางหายไปไหน มีมากกว่าราชมังฯ แน่นอน ที่ตรงนี้เคยมีตำนานนักเตะทีมชาติมากมายที่มาลงเล่นรับใช้ชาติ


3. อุปสรรคของการรีโนเวทสนามศุภฯที่หลายๆคนเคยบอกไปในกระทู้ก่อนหน้านี้

3.1 สนามศุภฯขึ้นทะเบียนเป็นโบราญสถานแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้

ประเด็นนี้ผมมองว่า หากสมาคมมีความตั้งใจจริง สามารถยื่นเรื่อง หารือกันได้ หากมองแล้วการบูรณะสนามศุภฯจะสร้างผลประโยชน์ให้วงการฟุตบอล ดังนั้น จะอยู่ที่การพยายามผลักดันประเด็นนี้ของสมาคม ยกตัวอย่างเช่น อังกฤษ เค้ายังกล้าตัดสินใจที่จะรื้อสนามเวมบลีย์เก่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานทิ้ง แล้วสร้างเวมบลีย์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่าขึ้นมา ก็มีคำถามว่าทำไมเราถึงจะทำแบบเค้าไม่ได้

3.2 สนามเป็นของกรมพละ ส่วนที่ดินเป็นของจุฬาฯ

อันนี้ก็เช่นกัน หากสมาคมมองเห็นถึงประโยชน์ ก็ต้องนัดทุกฝ่ายเข้ามาหารือถึงความเป็นไปได้ที่จะบูรณะสนาม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย โดยอาจจะมองเรื่องผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ การออกแบบสนามอาจจะออกแบบสนามให้สามารถใช้ประโยชน์อื่นๆไดด้วย เป็นศูนย์รวมสปอร์ตแอนด์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เช่น ตัวอาคารของสนามมียิมออกกำลังกาย และศูนย์กีฬาชนิดอื่นๆอยู่ด้วย เช่นยิมนาสติก ยกน้ำหนัก ปิงปอง เทควันโด หรือ ตัวสนามทำหลังคาที่สามารถเลื่อนปิดทั้งหมดให้กลายเป็นอินดอร์เพื่อจัดคอนเสิร์ต เป็นต้น

3.3 ที่ตรงนั้นแคบ ปรับอะไรไม่ได้

ปรับได้ครับ ถ้ามีความตั้งใจจะรีโนเวทจริงๆ เพราะสนามปัจจุบันเป็นสนามแบบมีลู่วิ่ง ดังนั้นการปรับเป็นฟุตบอลสเตเดี้ยมจะแทบไม่ต้องกินพื้นที่ออกมาเพิ่มเติมเลย ในหลายๆประเทศเค้าก็สามารถบูรณะสนามที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่มีพื้นที่จำกัดได้ ที่กำลังรีโนเวทอยู่ในปัจจุบันก็มี สนามเบอร์นาบิว ของมาดริด สนามคัมป์นูของบาเซโลน่า หรือสนามแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล

ตัวผมคงจะเสียดายมากหากสุดท้ายแล้ว สนามศุภฯ จะถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือไปใช้กับกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอลระดับชาติ เพราะคำว่าเป็นโบราณสถาน หรือถูกจุฬารื้อทิ้งแล้วเอาไปสร้างห้างหรือทำเป็นตึกอย่างอื่น ทั้งๆที่จริงแล้วมันยังมีโอกาสที่จะพัฒนาสนามนี้ให้ทันสมัย และใช้ประโยชน์สูงสุดให้กับทีมชาติไทยของเราได้

ดังนั้น ผมขอความกรุณา หากใครที่อยู่ในวงการสื่อของฟุตบอลไทย หากเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของผม รบกวนช่วยกันผลักดันประเด็นนี้ให้เป็นวงกว้างมากขึ้น ให้ไปถึงหูของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลไทยครับ หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ผมมองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำให้สนามศุภชลาศัย กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ที่ตั้งกระทู้ขึ้นมาเพราะอยากเห็นประเทศไทยมีสนามฟุตบอลประจำชาติที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพไม่แพ้ชาติอื่นๆในโลกครับ ขอบคุณครับ


สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ หลังคาสามารถเลื่อนปิดได้ ความจุ 55,000 คน



สนามกีฬาแห่งชาติมาเลเซีย หลังคาล้อมรอบ ความจุ 80,000 คน



สนามกีฬาแห่งชาติอินโดนีเซีย หลังคาล้อมรอบ ความจุ 77,000 คน


สนามกีฬาแห่งชาติกัมพูชา หลังคา 2 ฝั่ง ความจุ 60,000 คน


การรีโนเวทสนาม รีล มาดริด ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง


การรีโนเวทสนามบาร์ซ่า ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง


การต่อเติมสนามของลิเวอร์พูล ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง

ต้องเข้าใจด้วยว่า การต่อเติมมันสร้างมูลค่านอกสนามได้น้อยกว่า การซื้อที่ดินเเละก่อสร้างใหม่ หมายถึงค่าต่างๆที่จะตามมา การต่อเติมต้องหารเยอะ เจ้าของที่ดิน เจ้าของสนาม คนได้สัมปทาน คนรับเหมาไรงี้

คิดเล่นๆว่าสมาคมจะซื้อที่ดินต่อจาก ฬ จะกี่ตังค์ครัง

โบราณสถาน

ออกตัวก่อนว่าผมเห็นด้วยอย่างแรงที่ไม่ควรจะให้รัชมังฯเป็นสนามกีฬาหลัก ด้วยตัวสถานที่มันอุปสรรคสารพัด แต่โซนสนามศุภฯเองก็ไม่เหมาะจะเป็นพื้นที่สนามกีฬาไปแล้ว
1.ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เอาตามหลักวิชาการแล้วสนามกีฬาต้องคิดเผื่อปริมาณการเดินทางไว้ไม่ต่ำกว่าความจุสนามนะครับ ซึ่งปกติย่านCBDก็มีvolตรงนี้เยอะอยู่แล้วยังต้องมารองรับvolกลุ่มเชียร์กีฬาเพิ่มอีกไม่น้อยกว่าหมื่นเที่ยวใน1ชม. มันเป็นอะไรที่จัดการยากมากๆต่อให้เป็นที่ตัวเองยังจัดการกันเหนื่อยเลย แถมจะไปบังคับให้ไม่ให้ออกพร้อมกันก็เป็นไปไม่ได้อีก แล้วจากที่ผมไปเที่ยวสนามฟุตบอลในญป.มา3สนาม(ไซตามะ-นิสสัน-สนามกีฬาแห่งชาติโตเกียว) ทั้ง3สนามก็ไม่ได้มีห้างใหญ่ใกล้สนามเลยซักที่ อาจจะมีห้างในสถานีชินโยโกฮาม่า แต่ไม่เหมือนอย่างmbk-สนามศุภเป็น
2.มูลค่าที่ดินตรงนั้นมันไปไกลเกินกว่ารัฐจะเอาคืนมานานแล้ว หรือต่อให้หักคอไถ่คืนมาได้ก็เจอตอเรื่องที่ดินจุฬาผังอื่นต่อไปอีกไม่จบไม่สิ้นครับ ผมว่าเอางบขนาดนั้นไปลงกับสนามใหม่ดีกว่า

ผมก็ยังยืนยันว่าควรไปหาที่สร้างสนามใหม่ที่อยุ่ในโซนรฟฟ.ที่มีศักยภาพในการฟีดคนเข้า-ออกได้ดีกว่า2ที่นี้ และคนในเมืองไม่ควรต่อรถเกิน1เที่ยว อย่างสมุทรปราการ(ตรงที่มีข่าวว่าสมาคมฯเล็งไว้ก็โอเค)/รังสิต/โซนตลิ่งชัน/ลาดกระบัง (ใจอยากให้ไปสวมที่ตรงโรงกษาปณ์รังสิตด้วยซ้ำ แต่ได้ข่าวว่าที่ตรงนั้นคนจ้องกันเยอะ) และPPPกับเอกชนโดยให้สิทธิ์เอกชนไปหาผลประโยชน์นอกช่วงเวลาแข่งขัน

*edit เรียบเรียงคำพูดใหม่

ระบบราชการบ้านเรามันไม่เอื้ออำนวยจริงๆ ราชมังออกแบบปี2525 สร้างเสร็จปี2538เปิดใช้2541 คิดดูกว่าจะผ่านงบใช้เวลานานมาก ต้องร่วมทุนกับเอกชนอย่างเดียวเลยครับถึงจะไว

สร้างใหม่ดีกว่าครับความจุ4หมื่นน่าจะพอ

เอาชานเมืองที่มีรถไฟฟ้าไปถึง​

สมุทรปราการ นี่แหละน่าสนใจ


พื้นที่ยังมีเหลือเยอะ ที่รอการพัฒนาอยู่

รถไฟฟ้าก็ถึง ห้างก็มี

ย้ายไป ทั้ง กกท เลยก็ดีนะ แถมยังใกล้สนามบินอีก
เอาคนมีคุณภาพไปเพิ่มด้วยยิ่งดี (เด็กแง้น เด็กทรงช่าง เยอะ ชห )

เรื่องมันเยอะมากสนามศุภ สร้างใหม่ยังดูง่ายกว่า

สนาม Camp Nou กับ Anfield ไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองนะครับ ออกมานอกเมืองพอสมควรเลย
อยู่ย่านที่พักที่ขับรถออกมาประมาณ 20 นาทีครับ แต่ว่าสภาพบ้านเมืองยุโรปมันเป็นแบบนั้นที่บ้านจะเรียงติดๆ กัน เลยทำให้เหมือนอยู่ในตัวเมืองครับ

สนามบอลฟุตบอลส่วนใหญ่ เขาจะตั้งชานๆเมืองกันนะ พวกยุโรปเนี่ย ถ้าเป็นทีมจากเมืองใหญ่ๆ ประชากรมาก

หรือ ควรสร้างรถไฟฟ้าให้ผ่านสถานที่สำคัญๆบ้างมั้ย

สังเกตว่ารถไฟฟ้าตัดผ่านแต่ห้างสรรพสินค้าหรูๆ ลงสถานีเดินเข้าห้างได้เลย

พวกโรงเรียน สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ไม่มีจะผ่าน หรือผ่านก็ต้องเดินต่ออีกไกล

สนามศุภทำไม่ได้ครับ ขึ้นทะเบียนโบราณสถานไปแล้วจะมาต่อเติมรีโนเวทอะไรไม่ได้ครับ

อยากให้สร้างสนามใหม่เหมือนกันครับ แต่ทางปฏิบัติยากมากๆ

ถ้าจะสร้างที่ใหม่เลยแล้วต้องติดรถไฟฟ้าด้วย แม้จะเป็นชานเมืองก็น่าจะยากมากๆครับ เพราะพื้นที่สนามต้องมีขนาดใหญ่มาก แล้วที่ดินติดรถไฟฟ้าก็แพงมาก รวมถึงมีบ้านคนเป็นเจ้าของแล้วทั้งนั้น แค่ค่าที่ดินอาจจะเกินหมื่นล้านละครับยังไม่รวมปัญหาเรื่องคนไม่ยอมย้ายออกอีกถ้าต้องเวรคืน แล้วถ้าจะเขยิบมาไม่ติดรถไฟฟ้าแต่เอาแค่ใกล้ๆรถไฟฟ้าก็จะมีปัญหาอีกแบบหมอชิต2 ที่คนต้องต่อวิน เดินทางลำบากเลย สนามกีฬาแห่งชาติควรติดรถไฟฟ้าแบบลงมาถึงเลยจริงๆเพื่อความสะดวก

ไม่งั้นต้องสร้างไกลออกไปที่ไม่ติดรถไฟฟ้าที่ยังเป็นทุ่งนาอยู่เช่นแถวหนองจอก แล้วต้องสร้างสถานีต่อขยายเพื่อมาถึงสนามกีฬาโดยเฉพาะ ก็น่าจะเป็นโครงการที่ใหญ่มากอีกเช่นกัน (แต่หลายประเทศก็ทำแบบนี้กันนะ)

ซ้ำครับ