ผมเลยถามไงน้องต้องการเรียนที่นี้ หรือต้องการแก้ไขระบบ จากที่อ่านก็สรุปได้ว่าตอนนี้น้องต้องการเอาทุกอย่าง ผมก็ได้แต่ภาวนาให้น้องทำได้ละกัน แต่ถึงน้องทำไม่ได้ ยังไงน้องก็เป็นคนกล้าหาญของคนรุ่นใหม่อยู่แล้วแหละ ไม่ต้องห่วงอนาคตน้องเลย สอบเข้าได้ก็ต้องมีตรรกะวิชาการเก่งระดับนึงแถมยังมีความกล้าหาญกระโจนเข้าหสปัญหาอีก

สรุปที่อยากจะบอกคือหน้าที่น้องและกำลังที่ทำได้ตอนนี้มันควรต้องเลือกซักอย่างอ่ะถ้าอยากเรียนที่นี่จริงๆก็ต้องยอมแล้วแหละแต่สถานการตอนนี้มันไปไกลและ ไม่น่าจะได้เรียนต่อ

ความเห็นผมคือชิงออกมาแล้วให้สังคมประนามโรงเรียนเต็มๆไปเลย ถ้ารอให้โรงเรียนชี้แจง กระแสก็แบ่งเป็นสองฝั่งอีก น้องก็ต้องการเอาชนะอีก คนที่ผิดหวังมีแต่ตัวน้อง

ถ้างั้นผมขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวบ้างนะครับ

ถ้าเป็นที่ USA มี public schools ตัดสิทธิ์การศึกษาขั้นพื้นฐานของเยาวชนด้วยเหตุผลแค่เรื่องเด็กไม่มีบุพการีมาแสดงตนเข้าเรียน โดยที่ทางโรงเรียนรับรู้ว่าบุพการีปฏิเสธความรับผิดชอบ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ โรงเรียนจะถูกชุมชนประท้วงกดดันครับ ตัวแทนทางกฏหมายของรัฐจะเข้ามาเป็นตัวแทนฟ้องทั้งบุพการีและโรงเรียน ส่วนกลุ่มนักกิจกรรมที่ดูแลเด็กจะไม่ถูกดำเนินคดีอะไร เพราะไม่มีข้อพิสูจน์ว่าล่อลวงให้เยาวชนกระทำการที่เป็นอันตรายต่อตนเองและสังคม

เอาข้อมูลมาจากลูกบิด

ติดตามอานนท์ด้วย 555555555555555+

โรงเรียนนี่แย่จริงๆเลย ทำเด็กเสียอนาคตตั้ง 1 คน
อีกหลายพันคนไม่มีปัญหา

ผมเห็นว่าเขาเอา ref มาจาก ลูกบิดนี่แหละ จากกำลังจะ โควทตอบ คอมเม้น ผมเลิกเลย คุยไม่รู้เรื่องแน่นอน

จากสัมภาษณ์ของน้อง น้องต้องการปกป้องสิทธิในการเรียนของตนครับ และต้องการให้มีการเปิดทำประชามติเรื่องระเบียบเครื่องแต่งกายและทรงผม

ถ้าประชามติออกมาแบบไหนก็จะเคารพประชามติ

ดังนั้นเรื่องนี้มันมีทางออกครับ ไม่ใช่แค่ ขาวกับดำ ไล่ออกไม่ก็ยอมยกเลิกกฏระเบียบ มันสามารถผ่านกระบวนการพูดคุยหาข้อตกลงที่ 2 ฝ่ายยอมรับได้ โดยที่เด็กไม่ถูกตัดสิทธิ์การเรียนและโรงเรียนไม่ได้ยอมยกเลิกกฏระเบียบทันที แต่อยู่ที่จะทำไหม ถ้าไม่ทำก็สรุปออกมาให้ชัดเจน แค่นั้นครับ

ผู้ใหญ่แต่ละคนนี่ท่องและทำตามกฎเป๊ะยังกะสลิ่มพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ 60 และ 112

ไม่ได้ติดตาม และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาคือใคร

ก็เลยเชื่อข้อมูลโดยไม่ verify source?
แล้วไปด่าเด็กโดนล้างสมอง?

เหม็นกลิ่นกระทิว่ะ

กฏเข้มเฉย ตอนสมัยผมเรียนนี่ แม่พ่อเพื่อนทั้งนั้นมอบตัวให้มอบเสร็จเอาชื่อแม่พ่อไปล้อต่ออีก 55

ผู้ใหญ่แต่ตัว กับ หายใจมาก่อน แค่นั้นจริงๆ

เรื่องนี้ ความเห็นผมไปทางโรงเรียนตั้งแต่แรกแล้ว จะว่าผมเชื่อต้นโพสต์ก็ได้ไม่ผิด ใครจะว่าผมไปเชื่อสลิ่มหรือเห็นด้วยกับสลิ่ม ก็แล้วแต่เค้าเลย

1. โรงเรียนไม่ได้แจ้งครับ ครูวิชาพุทธเป็นคนแจ้ง ซึ่งน้องก็กังวลไม่รู้ยังไง เพราะทางโรงเรียนก็ยังไม่ชี้แจงว่าการประชุมร่วมกับ พม. (พัฒนาสังคมและมนุษย์) เรื่องสิทธิการเรียนได้ข้อสรุปว่ายังไง

2. เท่าที่รู้คนละรายวิชาครับ และตามที่ครูแจ้งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเข้าเรียน แต่เพราะไม่มีชื่อในรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ (สมมติว่าไม่มีสิทธิ์สอบเพราะไม่เข้าเรียนก็น่าจะแจ้งเป็นรายวิชาที่ขาดเรียน)

3. ไม่ทราบครับ แต่จริง ๆ เรื่องนี้คนที่ควรตอบคำถามคือตัว ผอ. ซึ่งแม้แต่สื่อก็ยังติดต่อไม่ได้ ไปดักรอก็ไม่เคยเจอ