ความคิดเห็นเรื่องหยกจนถึงตอนนี้
ไล่เรียง timeline เอาเฉพาะที่ผมมาทันเนอะ จนถึงตอนนี้
- เหตุการณ์ก่อนหน้าคือหยกออกจากสถานพินิจ ไปมอบตัวโดยบุ้งเป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัย ได้เข้าเรียนไปชั่วคราวก่อน ทั้ง 2 ฝ่ายพยายามติดต่อแม่เพื่อให้มาทำเรื่องมอบตัวให้ถูกต้อง แต่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งมีข้อสังเกตว่ามีการแก้กฏระเบียบหลายอย่างในกฏโรงเรียนปีนี้ซึ่งอาจเป็นการตั้งใจกลั่นแกล้งหยก เช่น คุณสมบัตินักเรียนเกี่ยวกับเรื่องการเป็นผู้ต้องหาในคดีความ
- หยกได้รับแจ้งว่าถูกตัดสิทธิ์ทางการเรียน แต่น้องยังยืนยันที่จะไปเรียน มีการพยายามปีนรั้วเข้าโรงเรียน มีการใช้คำพูดหยาบคาย ถ่ายคลิป live ประจานโรงเรียน
- โรงเรียนออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ชี้แจ้งว่าหยกถูกตัดสิทธิ์การเรียนจากการไม่มอบตัวเข้าเรียนตามกระบวนการที่ถูกต้อง เนื่องจากแม่ไม่มามอบตัว นอกจากนี้ยังบอกว่าหยกทำผิดกฎระเบียบโรงเรียนหลายข้อ อะไรบ้าง และปิดท้ายว่าพยายามช่วยเต็มที่แล้ว ฝ่ายหยกตั้งคำถามว่าสรุปตัดสิทธิ์เรียนเพราะอะไรกันแน่ ถ้าเป็นเรื่องมอบตัวมีการคุยกับ ผอ. ไปแล้วว่ายืดหยุ่นได้ กสม. เองก็ยืนยันว่าหยกยังมีสิทธิ์เรียนต่อได้ ทำไมจึงกลับคำพูด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำผิดกฎระเบียบ หยกก็ยืนยันว่ามีเหตุผลที่ทำเช่นนั้นเพราะอะไร ต้องการประท้วงในเรื่องอะไร
- ประชาสังคม SS รุมประณามพฤติกรรมของหยกที่ไม่เคารพกฏระเบียบ เอาแต่ใจ ก้าวร้าว หยาบคาย แม้ส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องบางข้อของน้อง สามารถหาอ่านความเห็นทำนองที่ว่าถ้าทำตามกฏระเบียบไม่ได้ก็ให้ไปเรียนที่อื่นได้หลายความเห็น มีส่วนน้อยที่ยังคงโฟกัสที่เรื่องของกระบวนการตัดสิทธิ์การเรียนที่ผิดปกติ และส่วนน้อยอีกส่วนที่แสดงความเห็นสวนกระแสคนส่วนใหญ่ที่ตัดสินน้องจากพฤติกรรม ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งมีการแปะป้ายและแซะกันทั้งคู่ กลุ่มที่ดูมีสติสุดคือกลุ่มที่ยังคงโฟกัสเรื่องการตัดสิทธิ์การเรียน
ตัวอย่างกระทู้ในช่วงนั้น ที่มีคนตอบเยอะและกดแผล่บเยอะ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2307204/1
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2307246/1
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2307300/1
(จริง ๆ มันมีกระทู้หนึ่งหนักที่สุดก่อนหน้านี้ ที่ทำให้ผมโดดลงมาอยู่ฝั่งสวน แต่ผมขี้เกียจไล่หา/ อันนี้ผมไล่ดูแค่ในประวัติการตอบของตัวเอง)
- หลังจากนั้นก็ใส่กันยับ ฝั่งสวนเริ่มออกมาประชดประชันอย่างหนัก ตัวแรง ๆ เริ่มเปิดวอร์ไม่ยั้ง จนกระทั่งแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ของโรงเรียนออกมา สรุปแถลงการณ์คร่าว ๆ คือไปเรียนที่อื่น หยกและพวกเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของคนในโรงเรียน
- หลังจากแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ออกมา ไม่รู้ว่าเพราะโรงเรียน move พลาดหรือเพราะเริ่มมีการตกตะกอนทางความคิดกันมากขึ้น ดูเหมือนประเด็นเรื่องพฤติกรรมของหยกจะเบาลง และประเด็นเรื่องกระบวนการตัดสิทธิ์การเรียนเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น influencer ทางการเมืองเริ่มออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับหยกมากขึ้น โดยสรุปในภาพรวมคือ พฤติกรรมของเด็กในเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเหตุผลในการตัดสิทธิ์การศึกษาเด็ก โรงเรียนควรเป็นที่อุ้มชูเด็ก เรื่องกฏระเบียบ เรื่องพฤติกรรม เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยหาทางออกร่วมกันอย่างมีวุฒิภาวะได้
- กระแสส่วนใหญ่ในสังคมเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในกลุ่ม influencer ทางการเมือง กระแสเริ่มตีกลับไปทางโรงเรียน เริ่มมีการแฉพฤติกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ทั้งเรื่องครูพกปืนมาขู่นักกิจกรรมเมื่อ 3 ปีก่อน, การคาดโทษเด็กนักกิจกรรมในโรงเรียน, ผอ.เอาเรื่องหยกไปประจานหน้าเสาธง, โรงเรียนติดต่อให้ คฝ. เข้ามาในโรงเรียนจำนวนมาก
- หยกไปออกรายการ daily topic ได้มีโอกาสอธิบายเหตุผลของตัวเอง มุมมองของตัวเอง เป้าหมายของการกระทำ ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าน้องไม่ได้เอาแต่ใจอย่างที่บางคนตัดสินในตอนแรก น้องเห็นด้วยกับ dress code, การทำประชามติโดยนักเรียน และพร้อมพูดคุยในหลาย ๆ ประเด็นที่เป็นข้อถกเถียง (และแก้ไขข้อมูลด้วยว่า น้องสอบเข้าได้ที่ 8 จากการแข่งขันภายในโรงเรียนเพื่อเข้าศึกษาต่อในเอกศิลป์จีน ไม่ใช่ที่ 1)
- ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ได้คลี่คลายดีนัก แถลงการณ์ฉบับที่ 3 ของโรงเรียนมีการนัดพูดคุยหารือกันภายใน แต่จากรายชื่อไม่มีคนที่เป็นคนกลางเข้าร่วมพูดคุยด้วย แต่โดยรวมถือว่าสถานการณ์สำหรับตัวหยกดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พอสมควร
- จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะสังคมเคยเกิดข้อถกเถียงเรื่องขอบเขตของการใช้สิทธิและเสรีภาพและการประท้วงมาหลายครั้งแล้ว ย้อนไปตั้งแต่สมัย เนติวิทย์, อั๊ม เนโกะ, แอมมี่ BTB สาดสี, กลุ่มทะลุแก๊สที่ดินแดง, กลุ่มทะลุวังทำโพล และการเอาคนที่ "แหลม" จนเกินไปในแต่ละบริบทก็มักจะถูกเอามาแขวนประจานกันจนเป็นเรื่องปกติ
หยกคงไม่ใช่คนสุดท้ายในกรณีแบบนี้ และไม่มีอะไรรับประกันว่าการเปลี่ยนรัฐบาลครั้งนี้จะช่วยทำให้คนส่วนใหญ่สมาทานหลักการเสรีนิยมกันมากขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว การจะบอกให้ถอดบทเรียนจากเรื่องนี้คงไม่ถูกต้องนัก เพราะการจะถอดบทเรียนได้ต้องเริ่มจากการมองเห็นแก่นของปัญหาก่อน