https://www.thairath.co.th/news/politic/2699825



ก้าวไกล งง กกต. เรียกสอบภาพการ์ตูน “ค้อนเคียว” อ้างเป็นปฏิปักษ์การปกครอง จ่อยุบพรรค

กกต. เรียกสอบปมการ์ตูน มีภาพ “ค้อนเคียว” อ้างเป็นปฏิปักษ์การปกครองฯ ก้าวไกล เผยเป็นการ์ตูนแนะนำผู้สมัคร ส.ส. สัดส่วนเครือข่ายแรงงาน มีไขควง จักรเย็บผ้า ประแจ และมีค้อนเคียว สื่อถึงเครื่องมือคนทำงานสร้างโลกนี้ขึ้นมา ฟาดกลับ “นี่แหละนิติสงคราม”

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. พรรคก้าวไกลเปิดเผยว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งเอกสารด่วนที่สุดถึงหัวหน้าพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 โดยใจความส่วนหนึ่งว่า...

“ด้วยคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า พรรคก้าวไกลกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92(2) และยินยอมให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค “เพื่อไทย” กระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรค “เพื่อไทย” อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 28 และขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบข้อ 7 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566 คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงขอทราบข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้

ขอทราบว่าตามที่พรรคก้าวไกลได้โพสต์ข้อความและรูปภาพทาง Facebook Fanpage เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ในหัวข้อ เตรียมพบกับซีรีส์ชุด ปาร์ตี้ลิสต์ก้าวไกล นั้น โพสต์ดังกล่าวมีความหมายว่าอย่างไร และตัวละครตามที่ปรากฏในภาพตามโพสต์หมายถึงผู้ใด อย่างไร สื่อความหมายว่าอย่างไร และสัญลักษณ์ค้อนไขว้กับเคียวที่ปรากฏในภาพตามโพสต์นั้น สื่อความหมายว่าอย่างไร และเหตุใดจึงต้องใช้สัญลักษณ์ค้อนไขว้กับเคียวประกอบตัวละครในโพสต์ดังกล่าว”

โดยพรรคก้าวไกลให้ความเห็นว่า “ป๊าดดดดดด!!! ไม่ได้ดูเลยว่ามันคือการ์ตูนแนะนำเครือข่ายแรงงาน ก็ต้องมีทั้งจักรเย็บผ้า มีทั้งยางรถยนต์ เครื่องจักร มีทั้งประแจ มีทั้งไขควง และแน่นอน มันต้องมี ค้อน และเคียว! เพราะเราตั้งใจสื่อถึงเครื่องมือที่คนทำงานสร้างโลกนี้ขึ้นมา”

พรรคก้าวไกลยังชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในเอกสารที่ กกต. ส่งมา ก็มีการเขียนผิดเขียนถูก ตั้งใจส่งถึง “พรรคก้าวไกล” แต่กลับพิมพ์ชื่อพรรคผิดเป็นชื่อ “พรรคเพื่อไทย”

“นี่แหละนะ คือนิติสงคราม คือการเอาคดีความต่างๆ มายัดทำให้พวกเราเสียสมาธิในการทำงาน ต้องเสียเวลาไปชี้แจง หาหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง ส่วนนักร้องก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ไล่กล่าวหาคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย” พรรคก้าวไกลกล่าวทิ้งท้าย

ตลกดี ค้อนก็ของคนงาน เคียวก็ของชาวนา แปลกตรงไหน

ไม่ได้อยากเข้าข้าง กกต.นะแต่อันนี้คือความประสาทของคนที่ฟ้อง กกต.ก็ต้องทำหนังสือไปถามเพื่อเอามาตอบไอคนร้องอีกที

ทำไม กฏหมาย คนร้องไม่หาข้อมูลมาร้องวะ

ทำไม จำเลย ต้องไปหาข้อมูลมาตอบ

จะฟ้องใคร ต้องมีหลักฐานหรือป่าววะ อันนี้เเม่ม ฟ้องเเต่ปากเเบบนี้ได้หรอวะ

จะปล่อยให้มันบิดเบี้ยวเเบบนี้จริงดิ

คนโดนร้องโครตเสียเวลาในการตอบเลย

เชี่ยย

มันควรมีใคร หรืออะไรมากลั่นกรอง เรื่องร้องเรียนพวกนี้ออกไปก่อนส่งมาถึงส่วนกลางไหมครับ

ถ้าพวกนั้นขยันร้อง ร้องสัก 2-3 พันเรื่อง ขี้หมูขี้หมาร้องหมด ผมว่า 4 ปีก็รับรอง สส ไม่ได้หมด

จากนี้เคียวกับค้อนถูกผูกติดกับคำว่าคอมมิวนิสต์ไปแล้ว ห้ามให้ใครใช้ทั้งนั้น พวกช่างต่างๆ พวกชาวนา
เป็นพวกคอมมิวนิสต์ ล้มล้างการปกครองทั้งหมด ??? กกตยังรับเรื่องมาถามต่อให้อีก จะด่าด้วยคำอะไรดี
กลัวโดนแบน ฮึบไว้ก่อนๆๆๆ

สงสารเจ้าหน้าเจ้าของเรื่องมากกว่า พอคนร้องมันร้องมาจะบอกปัดก็ไม่ได้ ต้องรับเรื่องไว้แล้วดำเนินการต่อ
ประเด็นนี้ไอคนร้องมันก็น่าจะร้องว่าสัญลักษณ์ต่อต้านระบอบการปกครอง เจ้าหน้าที่เลยต้องทำหนังสือมาข้อเท็จจริง เพื่อเอาไปตอบคนร้อง

ผมเคยทำงานในส่วนงานแบบนี้ แต่หน่วยงานอื่น บอกเลยว่าปวดหัว เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น
บางเรื่องเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่มีอะไร แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่ให้จบกระบวนการ เพื่อตอบคนร้อง

ถ้าไม่ตอบ หรือไม่ทำอะไร ก็เดือดร้อนอีก

จริงๆถ้ามีคนร้องแล้วไม่มีมูลความผิด น่าจะมีกฎหมายปรับเงินคนมาร้องมั่วซั่วแบบหนักๆซะทีนะ คนถูกร้องแม่งต้องเสียเวลาทำมาหากินมานั่งแก้ต่าง

ลอฝเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น ชาติพัฒนากล้า พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติดูสิ ผลของโซเชียลจะออกมาแบบไหน 55555

เป็นเรื่องที่เหมือนอยู่ใน multiverse เลย

ก็นี้แหละครับกลั่นกรองเบื้องต้น เพราะเขาก็ต้องหาข้อเท็จจริงหรือหลักฐานมาพิสูจน์ว่ามันมีมูลจะไปต่อมั้ย ถ้าไม่มีก็ปิดเรื่อง ถ้ามีก็ส่งต่อ
ถ้ามีคนมาร้องเรียน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อเท็จจริงประกอบ จะเอาอะไรมาพิจารณาล่ะครับว่ามันมีมูล หรือไม่มี

มันไม่ใช่แค่ กกต มันมีเรื่องแบบนี้กับทุกหน่วยงานเลยก็ว่าได้ ร้องมั่วๆซั่วๆ คนทำงานทำอะไรไม่ได้ก็ต้องรับเรื่อง แล้วก็ทำหนังสือมาถามคนที่โดนร้องอีกที ถ้าจะแก้เรื่องนี้ก็ต้องให้รัฐบาล,กระทรวง ออกประกาศที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ปัดคำร้องที่ดูไร้สาระอะ แต่ก็ต้องมาตีกันอีกว่าอันไหนที่มันเข้าข่ายไร้สาระ แล้วถ้าเรามองไร้สาระ ไอคนฟ้องบอกว่ามันไม่ไร้สาระ คราวนี้มันร้องเจ้าหน้าที่อีก ตัดปัญหาจบๆไป ทำหนังสือถามเจ้าตัวดีสุด

ถ้า กกตเหนว่าไม่มีมูลปฏิเสธไม่ได้หรอ มันงั้นถ้าพูดแบบนี้เลอะเทอะเเค่นั้นกกตก้อต้องรับทุกเรื่องหรอ

ไร้สาระสุดๆ​ มึงจะเอาทุกทางจริงๆ

กกต.มีอำนาจวินิจฉัยแล้วปัดคำร้องตกได้โดยไม่ต้องเรียกสอบครับ

แต่ไม่ทำแบบนั้น แล้วมาเลือกทางนี้เพราะอะไรก็นะ... รู้กัน