วันนี้ผมเอาการวิเคราะห์บ้านๆมาฝากครับ เกี่ยวกับวิธีการเล่นเกมส์รุกในพื้นที่สุดท้ายของสองตัวเต็งอย่าง Nagelsmann กับ Enrique ว่าทั้งคู่มีวิธีการเข้าทำที่มีระบบ แบบแผนอย่างไร

เชลซีของเรามีปัญหาในการจบสกอร์อยู่บ่อยครั้ง สร้างโอกาสเยอะ แต่ก็ยิงไม่ค่อยได้ สุดท้ายโดนเขาสวนไม่กี่ครั้งก็แต้มหลุดมือง่ายๆ

มาดูกันว่าสไตล์ว่าที่โค้ชคนใหม่ทั้งสองคน เป็นอย่างไร
ก่อนอื่นเลย บทความนี้จะพูดถึงเกมส์รุกในพื้นที่สุดท้าย เฉพาะการขึ้นเกมส์เท่านั้น ไม่รวมฟรีคิก เตะมุม สวนกลับ (การสวนกลับมันเป็นการเปลี่ยนจากรับ เป็นรุก และโจมตีเร็ว ทำให้เราเข้าใจตำแหน่งการยืนคลาดเคลื่อนได้)

สาเหตุที่เอาเฉพาะการขึ้นเกมส์ หรือ Build-up เพราะเราสามารถเห็นเอกลักษณ์ของกุนซือทั้งสองได้ง่ายที่สุด เพราะทั้งคู่มีความคล้ายกันตรงที่ชอบครองบอล แต่ครองบอลแล้วเจาะยังไงละ? นั่นแหละ ที่เชลซีเรามักมีปัญหาบอลตัว U
มาหาคำตอบกัน

พื้นที่สุดท้ายหมายถึงแค่ตรงนี้นะ



สถิติทั้งสองกุนซือ
นาเกลส์มัน
คุม 84 นัด
ชนะ 60 เสมอ 14 แพ้ 10
ยิง 255 เสีย 84
Win Rate: 71.43%
ยิงประตูต่อเกมส์: 3.04
เสียประตูต่อเกมส์: 1.00
แต้มต่อเกมส์ 2.31


นาเกลส์มัน 22/23
คุม 37 นัด
ชนะ 27 เสมอ 7 แพ้ 3
ยิง 112 เสีย 34
Win Rate: 72.97%
ยิงประตูต่อเกมส์: 3.03
เสียประตูต่อเกมส์: 0.92
แต้มต่อเกมส์ 2.38


เอนริเก้
คุมสเปน 44 ชนะ 24 เสมอ 11 แพ้ 9
ยิง 94 เสีย 44
Win Rate: 54.55%
ยิงประตูต่อเกมส์: 2.14
เสียประตูต่อเกมส์: 1.00


เอนริเก้
คุมบาร์ซ่า 181 ชนะ 138 เสมอ 22 แพ้ 21
ยิง 518 เสีย 147
Win Rate: 76.24%
ยิงประตูต่อเกมส์: 2.86
เสียประตูต่อเกมส์: 0.81
แต้มต่อเกมส์ 2.41



ผมจะเอา 5 นัดสุดท้ายของนาเกลส์มัน กับ บอลโลก 2022 ของเอนริเก้มาวิเคราะห์
ใจจริงก็อยากจะวิเคราะห์ MSN แต่มันเก่าไปละ เนื่องจากฟุตบอลมันมีวิวัฒนาการตลอดเวลา ดูอย่างเป๊บตอนนี้สิ วิวัฒนาการจากยุคต่างดาวมาไกลมาก ตอนนี้เป๊บแกยืดหยุ่นสุดๆ

ลายเซ็นต์การเข้าทำของ นาเกลส์มัน VS เอนริเก้

นาเกลส์มัน


เอนริเก้


เชลซีปัจจุบัน


เพื่อนๆพอเห็นความต่างไหมครับ?

เอาละ มาว่ากันทีละจุด

จูเลี่ยน นาเกลส์มัน




เมื่อบอลอยู่ในพื้นที่สุดท้าย แต่ยังไม่เข้ากรอบเขตโทษ

ตัวรุกของบาเยินมักจะยืนเรียงหน้ากระดาน เรียกได้ว่าบริเวณกรอบ 18 หลา จากซ้ายไปขวา "ต้องมี" ผู้เล่นบาเยินครอบคลุมพื้นที่ให้หมด ในลักษณะยืนเรียงหน้ากระดาน

การเล่นแบบนี้ก็เพื่อสร้างทางเลือกให้กับเพื่อนร่วมทีม ทำให้มีตัวเลือกในการจ่ายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะจ่ายออกซ้าย ออกขวา แทงช่องตรงกลาง หรือตักข้ามแผงกองหลัง ไม่ว่าจะเลือกจ่ายยังไง จะมีผู้เล่นบาเยินจะอยู่ตรงนั้นเสมอ


Gif: ลูกนี้ตักข้ามกองหลัง




Gif: ลูกนี้แทงออกขวา





Gif: ลูกนี้ยิงไกล





Gif: ลูกนี้แทงเข้ากลาง




Gif: ลูกนี้ครอสไปเสาไกล





Gif: แทงออกขวา


เห็นไหมครับว่าการยืนในระนาบกระดานแบบนี้สร้างทางเลือกให้เพื่อนร่วมทีมได้มากแค่ไหน


เมื่อบอลอยู่ในเขตโทษ
เหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้จะไม่ใช่ลักษณะเรียงแถวหน้ากระดาน แต่จะกระจายตัวให้ทั่วกรอบเขตโทษ
ไม่ว่าจะครอสไปเสาใกล้ เสาไกล ตรงกลาง หรือ Cut-back (ตบย้อนกลับมา) ก็ต้องมีผู้เล่นบาเยินอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่าไอเดียแบบนี้ไม่สามารถใช้ผู้เล่น 2-3 คนได้ การจะปกคลุมเขตโทษจำเป็นต้องใช้อย่างน้อย 4 คนขึ้นไป

ในภาพด้านล่างเราจะเห็นเลยว่าผู้เล่น 4-6 คน (เกือบครึ่งทีม )
จะกรูกันเข้ามาในเขตโทษเพื่อกระซวกไส้ทีมคู่แข่ง
ไม่ว่าโอกาสแรกจะเข้าหรือไม่เข้า ยังไงจังหวะสอง เรามีโอกาสเก็บตก และมีโอกาสซ้ำได้มากกว่าการมีผู้เล่นแค่ 2-3 คน ในกรอบ

ลองนับเล่นๆกันดูครับว่ามีกี่คน




Gif: ลูกนี้หยอดเข้ากลาง




Gif: ลูกนี้ตบเข้ากลางนิ่มๆ





Gif: ลูกหนี้ Cancelo ตะบันมุมแคบเข้าไป





Gif: ลูกนี้จะตบเข้ากลางแต่โดนสกัดได้ แต่อย่างที่บอกคือ การมีผู้เล่นในเขตโทษมาก ทำให้มีโอกาสซ้ำดาบสองได้มากขึ้น และก็เป็นประตูอย่างที่เห็น





Gif: ลูกนี้น่าจะชัดสุดละ ข้อดีของการมีผู้เล่นในเขตโทษเยอะๆ กรูกันเข้าไปนึกว่าได้เตะมุม 555
ไม่ว่าจะเสาใกล้ เสาไกล ตรงกลาง หน้าหัวกระโหลก มีผู้เล่นบาเยินอยู่ครบ


ปรัชญาฟุตบอลของ Nagelsmaan
"My philosophy is to attack the opponents near their own goal because your own way to the goal is not as along, if you get the ball higher up"

"หลักการแนวคิดของฉันในการเล่นฟุตบอลคือการโจมตีฝ่ายตรงข้ามใกล้ประตูของพวกเขา เพราะว่าว่าระยะทางของคุณจนถึงประตูจะได้ไม่ไกลมาก ถ้าหากคุณครองบอลในตำแหน่งที่สูงขึ้น"

ไม่แปลกที่จะไปต่อบอลในกรอบเขตโทษชาวบ้านเขา


นี่แหละ ลายเซ็นต์ของนาเกลส์มันตอนอยู่บาเยิน ดุดันกว่าสมัยอยู่ไลป์ซิกมาก คือตอนอยู่ไลป์ซิกไม่ได้ดูดุดันอะไรขนาดนี้นะ แกพัฒนามาไกลมากๆ

แต่การบุกแบบนี้ ทำให้กลางสนามคนเหลือน้อย และโดนโต้กลับ ลากยาวไปหน้าเขตโทษตัวเองได้อยู่บ่อยๆ ในไฮไลท์มีให้เห็นจนชินตา

คนต่อมา

หลุยส์ เอนริเก้


บอลของเอนริเก้ อย่างที่เรารู้กันคือ เน้นครองบอล หาช่องเจาะ ไม่รีบร้อน แต่ถ้ามีช่องเมื่อไหร่ จะฉวยโอกาส โจมตีเร็วทันที ไม่ว่าจะชิ่ง 1-2 ทะลุเข้าเขตโทษ การ Early-cross (การโยนเข้าเขตโทษจากแนวลึก) เรียกได้ว่ามีช่องเมื่อไหร่ สร้างโอกาสได้ทุกเมื่อ

แต่คุณภาพนักเตะก็สำคัญมากๆในแผนแบบนี้ เพราะต้องพึ่งพาความสามารถส่วนบุคคลสูง ในการสร้างโอกาสแบบฉาบฉวย อย่างเช่นการวิ่งหาช่อง วิสัยทัศน์ การจ่ายแบบสร้างสรรค์ ความเข้าใจเกมส์ และทีมเวิค เหล่านี้ต้องมีให้ครบ ไม่งั้นเราได้เห็นบอลตัว U แน่นอน


เมื่อบอลอยู่นอกกรอบเขตโทษ

ภาพนี้บ่งบอกถึงบอลของเอนริเก้ได้ดีที่สุด ค่อยๆครองบอล รอโอกาส
ตัวรุกในเขตโทษจะมีน้อย เมื่อเทียบกับนาเกลส์มัน (เฉพาะเมื่อบอลอยู่นอกเขตโทษ)
ถ้าเป็นบาเยิน บอลอยู่ตรงนี้ ก็จะเป็นการเรียงแถวหน้ากระดานเข้าไป
แต่กับเอนริเก้ เมื่อบอลอยู่บริเวณนี้ นักเตะก็ยังครองบอลอย่างใจเย็นเพื่อรอช่องเล็กๆเปิด (ด้วยการวิ่งหาช่อง) และฉวยโอกาสคิดเร็ว ทำเร็ว



Gif: ลูกนี้โจมตีเร็วด้วยการชิ่ง 1-2 แล้วทะลุเข้าไปยิง




Gif: ลูกนี้ต่อบอลอยู่ฝั่งขวาอยู่ดีๆ พอมีช่องก็โยนออกซ้าย และรีบครอสเข้าไปในทันที


มีคนทำกราฟฟิคไว้ด้วย เข้าใจวิธีการของเอนริเก้ได้ง่ายดี
ค่อยๆเคาะหาช่อง พอมีโอกาส ก็โจมตีเร็ว

เราจะสังเกตุได้ว่า การโจมตีในแบบฉบับของ เอนริเก้ จะเริ่มกันที่ Zone หมายเลข 5 เป็นหลัก
เราแทบไม่เห็นการลำเลียงบอลเข้า Zone 6 (กรอบเขตโทษ) และสร้างโอกาสจากตรงนั้นเลย
ถ้านับเฉพาะบอลโลกมีแค่ 1 ประตูเองมั้ง ที่สร้างโอกาสจาก Zone 6
(ซึ่งนาเกลล์มันจะเข้าไปสร้างโอกาสจากเขตโทษเลย)

ค่อยๆเคาะ พอได้ช่องก็จะทำเร็วด้วยการชิ่ง 1-2, การครอส, การแทงเข้าช่อง จาก Zone 5 อย่างรวดเร็วเพื่อไปปิดบัญชีที่กรอบเขตโทษ




อย่างของเชลซีจะเริ่มการโจมตีที่โซน 3-4 เป็นหลัก ซึ่งไกลประตูพอสมควร


นัดเมื่อคืนนี้ชัดเจนเลย





Gif: ลูกนี้พอช่องเปิดก็โจมตีทันที






Gif: เห็นช่อง -> กระชาก -> ครอส







Gif: เหมือนเดิมครับ กองกันอยู่บริเวณนอกกรอบเขตโทษ เพื่อรอรับบอล วิ่งหาช่อง และทำชิ่ง




Gif: วนเวียนหน้าเขตโทษ วิ่งหาช่อง เพื่อสร้างโอกาส





Gif: ในเขตโทษมีคนเดียว รีบเปิดเข้ามาโจมตี




Gif: ลูกนี้เป็นจังหวะต่อเนื่อง จ่ายกลับมาจากเส้นหลัง และเป็นไม่กี่ครั้งที่เราเห็นผู้เล่น 3-4 คนในเขตโทษของสเปน ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ท้ายเกมส์





Gif: ภาพนี้ก็โชว์เอกลักษณ์เหมือนเดิม คือการเคาะกันนอกเขตโทษ พอสบช่องก็รีบแทงเข้าไปปิดบัญชี


ท้ายเกมส์ + ต้องการประตู

พอท้ายเกมส์เราจะเห็นผู้เล่นเริ่มกรูเข้าเขตโทษมากขึ้น และจ่ายบอลแบบ Direct มากขึ้น
จากปกติ 1-3 แต่ในภาพเราจะเห็น 3-5 คนเลย เพราะฉะนั้นบอลเอนริเก้ไม่ได้แค่มีแค่บอลเคาะอย่างที่ใครเข้าใจกัน


Gif:







บอลของเอนริเก้ จุดเด่นคือโจมตีเร็ว ตัวในเขตโทษไม่ต้องเยอะ เน้นฉาบฉวย
ไม่จำเป็นต้อง Overload หรือโถมผู้เล่นเข้าไปแบบนาเกลส์มัน แบบนี้จะป้องกันการโดนสวนได้ดีกว่า
แต่ข้อเสียคือจังหวะซ้ำดาบสอง หรือตัวเลือกในการจ่ายบอลจะน้อยลง

แต่กับนาเกลส์มานคือ การโถมตัวผู้เล่นเข้าไปในเขตโทษเยอะๆ ยืนให้ครอบคลุมพื้นที่เขตโทษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำประตู

ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่ากัน ต่างคนต่างมีสไตล์ของตัวเอง
คนนึงดุดัน เดินหน้ากระหน่ำยิง
ส่วนอีกคนนึงเน้นความชัวร์ และโจมตีรวดเร็ว

แล้วเพื่อนๆชอบสไตล์ของใครมากกว่ากันลองเม้นบอกกันหน่อยครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ

วิดีโอไฮไลท์สำหรับการวิเคราะห์

ชอบนาเกลมันส์ ตัวรุกเยอะดี

นาเกิลมันคู่ควรกับการให้โอกาส ถึงจะยังไม่สุด อย่างน้อยก็ยังมีดีกรี ลุ้นพัฒนาได้


เอนริเก้ก็แกะกล่องกินได้เลย ประสบการณ์แน่นๆ คุมนักเตะระดับโลกมาแล้ว แชมป์เล็กใหญ่คว้ามาหมด


ใครก็ได้สองคนนี้

นาเกลมันส์คือเกมรุกดุแน่เพราะชอบใช้ตัวรุกเยอะๆแต่ก็อย่างที่จขม.บอกข้อเสียก็คือตอยโดนสวนกลับนักเตะตรงกลางสนามจะเหลือน้อยแล้วยิ่งพรีเมียร์แต่ละทีมสวนกลับแบบจี๊ดจ๊าดทั้งนั้นซึ่งถ้าถามผมชอบแบบเอนริเก้มากกว่าเพราะดูสมดุลกว่าฟุตบอลมันไม่ได้มีแค่เกมรุกเกมรับก็สำคัญไม่แพ้กันอย่างซิตี้เขาก็ยังค่อยๆครองบอลหาช่องเล็กๆเพื่อเจาะไปเรื่อยๆผมอยากให้เชลซีเล่นคล้ายๆแมนซิบ้างสักฤดูกาลนึงในชีวิตนี้ฝันเห็นภาพแบบเชลซีเจอกับใครก็ครองบอลใส่เขาหมดขึงเขาหมดไม่รู้จะทันได้เห็นก่อนตายไหม

ขอบคุณสำหรับกระทู้คุณภาพครับ

สองคนนี้ใครก็ได้โอเคทั้งคู่ แต่อย่าทะลึ่งไปเอาคนอื่นนอกจากสองคนนี้ล่ะ

คิดเหมือนผมเลย ผมอยากได้คนแบบเป๊บอะ เดินหน้าบุกใส่ไม่ว่าเป็นใคร มันดูฮึกเหิมดี

ชอบนาเกิลส์มันน์ครับ เชียร์คนนี้สุด ไม่ใช่แค่สไตล์การเล่น แต่เป็นทัศนคติของโค้ชด้วย

จริง ๆ รูปแบบการเข้ากรอบเขตโทษแบบที่นาเกิลส์มันน์ทำ

พอตเตอร์เคยใช้กับเชลซีช่วงแรก แต่สักพักก็เปลี่ยน ทั้งๆ ที่มันเวิร์คอยู่ งงเหมือนกัน

ปล. ขอบคุณกระทู้คุณภาพครับ

เกมรุกทั้งคู่แต่ต่างกันที่วิธีการเข้าทำประตู เอาจริงๆตอนแรกผมชอบเก้นะแต่กลัวมาละจะคล้ายซาร์รี่เลยแอบเทใจให้นาเกลส์มันละตอนนี้

แผนนาเกลมันเลยให้ความสำคัญกับ กองกลางตัวรับมากๆ ซึ่งทีมเรายังไม่มีที่รับสุดๆขนาดนั้น (ยกเว้นแกจะเอาพรีเต้ยืนรับซึ่งผมว่าก็เสียของอยู่ดีถ้าจะเอาไปรับอย่างเดียว) ตัวรุกผมชอบเห็นบ่อยๆคือ แบบไปกระจุกกันเยอะๆ แล้วแปะคืนหลังมาให้คนที่ยืนห้อยอยู่ยิง เมาท์อาจจะกลับมาโหดก็ได้นะเพราะน่าจะยิงดีสุดละ

เอ็นริเก้ผมก็ชอบ แต่ทีมรุกเราจบกันอย่างงี้ผมนึกถึงตอนแกคุมสเปนเลย กลัวเอามาแล้วจะมานั่งบ่นๆปัญหาเดิมๆ

กระทู้คุณภาพครับ

ผมอ่านการวิเคราะห์ในนี้ไปและคิดภาพตามได้เลย 55 เพิ่งสังเกตการเล่นพื้นที่สุดท้ายของนาเกล เรียงเป็นหน้ากระดานเพื่อเพิ่มทางเลือก น่าใจเลยน่ะผมอยากดูทีมเล่นเกมส์รุกมันส์ๆ ยิงได้เรื่อยๆ เพราะตอนนี้เกมส์รุกเราฝืดจัดๆ แต่ข้อเสียก็คือเวลาโดนโต้กลับนั้นแหละ / เอ็นริเก้ก็โหด ค่อยๆ เคาะๆ จนได้ช่องแล้วเข้าทำไวเน้นชัวร์ เน้นครองบอลไว้ก่อน

ปล. ตอนแรกอยากได้เอ็นริเก้มากกว่า แต่ตอนนี้กลายเป็นอยากได้นาเกลมันส์มากกว่านิดๆ ซะล่ะ

นั่นสิครับ ไม่รู้แกเปลี่ยนทำไม พ็อตตอนมาใหม่ๆ ใช้ 3-4 คนในเขตโทษเลย
แต่แกสร้างเกมส์รุกจากกลางสนามบ่อยๆครับ ตรงนี้จะต่างจากนาเกลส์มันที่สร้างเกมส์รุกใกล้กับประตูคู่แข่งมากกว่า

เอนริเก้มีโอกาสเป็นบอลตัว U สูงครับ ถ้าคุณภาพผู้เล่นไม่ถึง
แต่ผมว่าของเราไม่น่าห่วงนะ ยกเว้นวันไหนฟอร์มหลุดๆ

ส่วนนาเกลส์มัน ผมว่าถ้าเราได้ Rice, Lavia จะตอบโจทย์สุดๆ

ผมก็ชอบแบบนาเกลส์มันนะ ตัวรุกในเขตโทษเกือบครึ่งทีม 555
เคยดูตอนไลป์ซิกแล้วไม่ค่อยชอบ แต่เห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่าบุกสะใจดี

แต่ก็เสี่ยงถ้าซ้ำดาบสอง หรือ เก็บตกจังหวะสองไม่ได้ก็ยาวเลย

พรีเมียร์ลีกยังคงเป็นลีกที่มีกุนซือเก่งๆรวมกันมากที่สุด

แล้วเราจะกินเอนริเก้ทำไมครับ