เก่งแต่กับกู!! ‘โม’ บอดโทษ ‘หงส์’ บ๊วยติดคออนาถ
กระสุนหมดตั้งแต่เกมแดงเดือดหลัง ลิเวอร์พูล มีโอกาสมากมายแต่จบสกอร์ไม่ได้กันเองแถมได้จุดโทษหนแรกในฤดูกาลนี้แต่ โม ซาลาห์ ยิงออกเฉยก่อนแพ้ “บ๊วย” บอร์นมัธ 1-0 เตรียมเปลี่ยนมือถูกโลกโซเชี่ยลล้อกลับบ้างแล้ว
บอร์นมัธ
Starting Formation: 4-4-1-1
15.
อดัม สมิธ
80'
6.5
8.
เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา
80'
7
29.
ฟิลิป บิลลิ่ง
70'
7.5
32.
ไจดอน แอนโธนี่ย์
88'
7
9.
โดมินิก โซลันกี้
88'
6
ตัวสำรอง
2.
ไรอัน เฟรเดริกส์
80'
6
18.
มาติอาส วีน่า
88'
6
4.
ลูอิส คุ๊ก
80'
6
10.
ไรอัน คริสตี้
70'
6
24.
อองตวน เซเมนโย่
88'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม วิตาลิตี้ สเตเดี้ยม
เสาร์ที่ 11 มีนาคม 2566
กรรมการ จอห์น บรู๊กส์
บอร์นมัธ
1
0
ลิเวอร์พูล
บอร์นมัธ เปลี่ยน 3 ตำแหน่งจากเกมพ่าย อาร์เซน่อลนัดก่อน ลอยด์ เคลลี่, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา และไจดอน แอนโธนี่ย์ ได้ลงสนามมา ขณะที่ฟิลิป บิลลิ่งและโดมินิก โซลันกี้ ยังเป็นหลักในเกมรุก ด้านลิเวอร์พูล ถ้าชนะจะเบียดเข้าพื้นที่อันดับ 4 วันนี้ใช้สเตฟาน บายเซติช ลงเล่นแทนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนตำแหน่งอื่นตัวเดิม แถม อาร์ตูร์ เมโล่ มีชื่อเป็นสำรองด้วย
บังโมเปเบาเข้ามือเนโต้
นูนเญซ ไปแย่งบอลมาได้ทางฝั่งซ้ายก่อนไหลให้ กัคโป ปาดออกขวามาให้ ซาลาห์ ที่รออยู่หน้ากรอบเขตโทษตัดสินใจยิงทันทีแต่เบาเกินไปเนโต้รับเอาไว้สบาย
VvD โขก! เลอร์มาเคลียร์บนเส้น
คอนเนอร์ทางขวา เทรนท์ เปิดบอลมาเข้าหัว ฟาน ไดจ์ โขกย้อนไปที่เสาแรก แต่ยังมี เลอร์มา ขยับกลับมาโขกเคลียร์ทิ้งจากเส้นไปได้แบบหวุดหวิด
พลาดเอง!อูอัตตาร่าหลุดเดี่ยวยิงเข้าหน้าต่าง
ไมน่าเชื่อว่าบอร์นมัธ ไม่ได้ประตูนำ เทรนท์จ่ายเข้ากลางพลาดโซลันกี้ไหลให้ อูอัคคาร่า ได้หลุดเดี่ยวจากกลางสนามก่อนลากหนีอลิสซอนได้แล้วแต่มุมแคบไปเลยซัดเข้าแค่ข้างตาข่าย
หงส์มาเป็นชุดกัคโปยิงเข้าล้ำหน้าก่อน
หงส์แดง ส่งบอลไปตุงตาข่ายแล้วไม่ ได้เอลเลียตต์ยกบอลเข้าไปให้นูนเญซ โหม่งตั้งมาให้กัคโป แหย่เข้าไปในกรอบหกหลาแต่ไลน์แมนยกว่าล้ำหน้าก่อนแล้ว โดยก่อนหน้านั้น โรเบิร์ตสันได้ยิงไปติดเซฟเนโต้
หงส์หงอย...บิ่ลลิ่งชาร์จตุงบอร์นมัธ 1-0
บอร์นัมธ ได้ประตูนำก่อน อูอัตตาร่า โยกหนีโรเบิร์ตสันกับฟาน ไดจ์ไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนเปิดย้อนกลับมาให้ บิลลิ่ง วิ่งเข้ามายิงหน้ากรอบหกหลาไม่เหลือ 1-0!!!
VvD เหน่งๆ โหม่งหลุดเสา
ฟรีคิกริมเส้นด้านขวากลางสนาม โรเบิร์ตสัน เปิดยาวลึกไปทางเสาไกล ฟาน ไดจ์ โฉบมาโขกคนเดียวแล้วแต่ดันขวิดลงพื้นก่อนหลุดเสานิดเดียว
เซเนซี่โชว์เดาะบอล!โซลันกี้หวดไม่ตรง
เซเนซี่ เกี่ยวบอลลงอย่างเหนือในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนไหลย้อนกลับมาให้ โซลันกี้ ตวัดยิงด้วยซ้ายเต็มๆ แบบไม่จับบอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปเลย
โชต้าลากยิงติดเซฟเนโต้
โชต้า ตัวสำรองที่ลงมาพาบอลกระชากเข้าหากรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงไปทางเสาไกล แต่เนโต้ ยังบินปัดสองมือออกหลังเสียแค่เตะมุม
หงส์เปลี่ยนตัวเก๋าลง 3
เกมของลิเวอร์พูล ยังไม่ดีขึ้น คล็อปป์ เปลี่ยนทีเดียว 3 คนเลย เอา มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน และฟิร์มิโน่ ลงสนามมาแทน ฟาบินโญ่, นูนเญซ และเทรนท์
VAR แจกโทษ! บังโมหวดออกเฉย
หงส์แดง โวยจะเอาจุดโทษ มิลเนอร์หลุดไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนเปิดไปทางเสาไกล โชต้า โหม่งบอลไปชนแขนของสมิธ ที่กางออกมา แต่กรรมการไม่ว่าอะไร VAR ขอเช็ค กรรมการต้องมาดูเอง ก่อนเปลี่ยนใจให้จุดโทษ แล้วเป็น ซาลาห์ รับหน้าที่สังหาร แล้วดันแปหลุดกรอบไม่ได้ลุ้นเลย
คริสตี้ยัดเสาแรกอลิสซอนเซฟได้
ลิเวอร์พูล แทบไม่ใกล้เคียงกับการทำประตู แล้วเกือบเสียด้วยเมื่อคริสตี้ หลุดมายิงยัดเสาแรกในกรอบเขตโทษด้านซ้ายอลิสซอนรับไม่อยู่จังหวะแรกแต่ตามมาเก็บงานได้
หงส์กากจัดอดขึ้นท็อปโฟร์
เสียงนกหวีดดังขึ้นพร้อมความหวังเข้าท็อปโฟร์ของลิเวอร์พูล พังทลายจากฟอร์มสุดห่วยบุกมาแพ้บอร์นมัธ แบบลุ้นไม่ขึ้น 1-0 ก่อนไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
65'
7
3.
ฟาบินโญ่
65'
6
19.
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
46'
5.5
43.
สเตฟาน บายเซติช
87'
6
27.
ดาร์วิน นูนเญซ
65'
6
ตัวสำรอง
7.
เจมส์ มิลเนอร์
65'
6
14.
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
65'
6
28.
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่
87'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่
65'
6
20.
ดิโอโก้ โชต้า
46'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Sun Mar 12, 2023 00:02, ทั้งหมด 20 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ