ผมเชื่อเรื่องจังหวะนะ แต่ไม่ใช่ที่เกี่ยวกับดวงอะไร
บ่อยครั้งที่จังหวะมันแก้ได้ด้วยความถี่ที่ชาญฉลาด

ยกตัวอย่าง เราอย่างจะจีบสาวโรงงานซักคน
แต่ก็ไม่เรยมีโอกาสเจอ เพราะไม่รู้เธอเลิกกี่โมง


ความถี่ที่ว่า คือไปมันทุกกะงานที่โรงงานนั้นมี

จะใช้คำว่าเชื่อก็คงไม่ได้ เพราะตอนลงมือจะทำ ผมไม่ได้เชื่อแบบนั้น ผมแค่ทำตามอารมณ์ ความต้องการ แต่ถือว่าจังหวะมันเป๊ะพอดี ผมว่างงานอยู่ 1-2 ปี ก็เลยเบื่อๆ หาอะไรทำ จนไปสมัครไปเป็นครูเอกชน ทำได้ 1 เดือน ถูกย้ายไปอีกสาขา เพื่อปรับตัว เตรียมลงงานจริง พอเริ่มปรับตัว ผมยิ่งไม่ชอบโรงเรียน รู้สึกมันแบบ ไม่ได้ทำเพื่อตัวผู้เรียนเลย แล้วก็ไม่ได้ต้องการความสามารถของผมด้วยซ้ำ ผมแค่มาให้ตรงเวลา เข้างาน ทำงาน จบ รู้สึกโคตรเบื่อ แล้วบังเอิญ อีกที่ที่เคยยื่นไป เป็นงานคนละสายเลย เขาติดต่อมาให้ไปสัม

ตอนแรกตอบปัดเขาไปด้วย เพราะเกรงใจที่ปัจจุบันที่ทำอยู่ เลยเขียนจดหมาย บอกช่วงเวลามันไม่ลงล็อคเลย ผมยินดีที่เขาเรียกมาก แต่ผมก็ต้องเคารพที่ปัจจุบัน ผ่านไปอีกเกือบๆเดือน เหมือนพลังชีวิตหมด ได้คุยกับครูหัวหน้าฝ่าย เหมือนปลดล็อค คำพูดเขามันตอบได้ชัดเจน ว่าตำแหน่งเรา มีเพื่อให้มี ไม่ต้องพยายามผลักดันอะไรนักเรียนหรอก เพราะทางโรงเรียนชอบให้มันอยู่แค่นี้

ผมพอเลย ตัดสินใจลาออก แล้วก็เหมือนจังหวะนั้น ที่ที่เคยเรียก ติดต่อมาอีกรอบ ผมเลยตัดสินใจไป ก็เลยไปยื่นลาออก ตอนลาออก ผอ ก็รั้ง บอกงานสมัยนี้หายาก มั่นใจได้ไง ว่าจะมีงานที่ดีกว่ารองรับ ผมตอบเขาไปตรงๆ ไม่มั่นใจเลยครับ แต่ผมแค่รู้สึกว่าผมต้องไป ผมรู้สึกไม่อยากอยู่ที่นั่น ผอ ก็เข้าใจ ยอมให้ลาออก ตอนนั้นคือยังไม่ได้สัมที่ใหม่ด้วยนะ ไปตายดาบหน้ามาก สรุป ปัจจุบัน เงินเดือนที่ผมได้รับ มากกว่าที่เดิมเยอะมากๆ ไม่ใช่แค่ 2-3 เท่าด้วย

เชื่อครับเวลานั่งเล่นหน้าบ้านไม่มีใครมาหามาเรียกพอปวดขรี้ไปนั่งขรี้อยู่ในห้องน้ำแล้วมีคนมาเรียกบ่อยมาก

เรื่องของโชค เรื่องของจังหวะชีวิตผมเชื่อนะ แต่เรื่องเทพ เรื่องผีสางบันดาลโชคอะไรงี้ ผมไม่เคยเชื่อเลย

แต่เรื่องของจังหวะชีวิต มันก็มาจากการกระทำของเราเองด้วยส่วนหนึ่ง การกระทำของคนอื่นด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือเตรียมความพร้อมรับผลของการกระทำเหล่านั้นครับ

ส่วนการไปกราบไหว้ขอพรอะไรนั้น ผมทำตามเทศกาลให้ครอบครัวสนุก สบายใจครับ ตัวเองถ้าอยู่เฉยๆ ก็ไม่ไปสนใจอะไรเทือกนี้หรอก

เชื่อคับ
เจอสาวที่มหาลัยตรงสเปคมาก เค้าก็ดูสนใจเรา แต่เราทั้งคู่มีแฟน แล้วโสดไม่ตรงกัน สุดท้ายเลยไม่ได้เป็นไรกัน จนแต่งงานกันทั้งคุ่แล้ว

what if สินะ บางครั้งผมยังคิดว่าถ้าตอนนั้นทำแบบนี้ ชีวิตจะเป็นยังไงนะ

ทุกคนมีจังหวะของตัวเองอยู่แล้วครับ ต้องอยู่ให้เป็น เย็นให้พอ (แบบเฮียชูบอก)

น้องๆที่รู้จักชอบมาบ่นว่าหางานยาก ที่ไหนก็ไม่รับ ผมก็ได้แต่บอกไปว่าอย่าไปซีเรียส มันเป็นจังหวะชีวิต

อย่างผมเคยหว่านใบสมัครไป 4-5 บริษัท ไม่มีที่ไหนรับ เวลาผ่านไป 5 ปี 3 ใน 5 ติดต่อมาเอง ว่าสนใจเปลี่ยนงานไหม ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งขึ้นนะ แต่ผมมองว่าเป็นจังหวะ

ช่วงไหนลำบาก มองภาพรวมให้ออก และทำให้ดีที่สุด เก็บเกี่ยวความลำบาก สิ่งที่เราได้เรียนรู้ ติดหัวไป

ช่วงไหนกำลังรุ่ง อย่าเหลิง ให้ดีใจแบบนิ่งๆ มีสติ อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง คำคนแก่จริงอย่างมากที่ว่า เมื่อคุณหยุด เท่ากับถอยหลัง ตอนเรารุ่งนี่ต้องระวังตัวเองมากกว่าตอนตกต่ำอีก คนอิจฉาเยอะ

นักธุรกิจบางท่านไม่ซื้อหวยหรือสลากกินแบ่งรัฐบาลเลยครับ เหตุผลเพราะว่าเค้ากลัวว่าโชคและจังหวะของชีวิตจะทําให้เค้าถูกหวยแทนที่จะประสบความสําเร็จในธุรกิจ

ผมเชื่อแล้วว่ามีครับ ตอนนี้ก็กำลังขาขึ้น โอกาสมันจะมาหาเรา อยูา่กับว่าเราจะมองออกแล้วรับมันมั้ย

มันไม่ได้มาแบบสวยหรูหรอกครับ มันมาแบบให้เราคว้าแล้วเข้าไปทำให้มันสำเร็จ ของผมไม่ได้ขนาดเปลี่ยนชีวิตให้รวย แต่มันดีขึ้นเยอะ

สำหรับผมมันขึ้นกับตัวเรา กล้าจะพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นไหม อารมณ์จุดวิกฤติที่เราต้อก้าวข้าม ถ้าอยู่กับที่หรือที่เดิมทำอะไรเดิมก็ไม่มีวันได้อะไรเปลี่ยน

เชื่อนะครับ ตอนมีงานทำส่งสมัครงานที่ไหนก็โดนเรียกไปสัมภาษณ์แทบจะ 90% ของที่ส่งไป จนวันลาพักร้อนใช้ไปกับสัมภาษณ์งานเกือบหมด (ขนาดใช้ทีละครึ่งวัน)

แต่พอว่างงาน พร้อมไปสัมภาษณ์ทุกที่ ส่งไปเท่าไหร่มีแค่ไม่ถึง 5% ที่เรียกไปสัมภาษณ์ โคตรงงเลย

ไม่เชื่อครับ
เพราะสำหรับผม ไม่เคยมีคำนี้ในชีวิตซักที

เรื่องธรรมดาครับมีขึ้นมีลง ขาขึ้นต้องโกย ขาลงต้องเลี่ยงอยู่นิ่งๆ

ผมเชื่อ(เมื่อโตแล้ว)ในความเป็นตัวตน ความตื่นรู้
อะไรเหมาะ อะไรควรทำ อะไรควรเก็บ อะไรควรจะทิ้งไป
ตั้งใจ อ่อนน้อม ตื่นรู้ในองค์ประกอบความรู้เพื่อขยายขอบเขตของทักษะในด้านต่างๆ
เหล่านี้มันช่วยแก้ปัญหาได้เสมอ
แต่….มันจะมาเป็นรอบๆในช่วงอายุ เลยทำให้ไปพ้องกับ”จังหวะชีวิต”

ถ้างานใหม่ที่ผมกำลังจะเริ่มต้น ประสบความสำเร็จ จะมาเล่าให้ฟังบ้างครับ หลังจากย่ำแย่ต่อเนื่องมาหลายปี