BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
โค้ช C-License
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Apr 2015
ตอบ: 13668
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 04:15
(สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ


สวัสดีครับ ผมขอพูดถึงหนังเรื่องนี่หน่อยครับ พอดีเพิ่งได้ดู ผมดูแล้วค่อนข้างโอเคและชอบนะ หลายคนอาจบอกว่าภาคแรกดีกว่าก็อาจจะจริงนะ แต่สำหรับผมนั้นภาคสองก็ไม่ได้แย่เลยครับ

- ตัวหลอก ตอนที่ผมดูครั้งแรกนั้น หนังเหมือนบิ้วให้แอนดี้เป็นแนวผู้ร้ายชัดๆ แต่ผมเดาแต่แรกเลยว่ายังไงๆก็ไม่ใช่ ตัวหลอกชัว แต่ไปๆมาๆทเหมือนให้ตัวละครทุกตัวมีประเด็นหรือมีปัญหากับไมล์ลึกๆ ทำให้เราเดาไม่ได้เลย แต่บางคนอาจเดาได้แต่แรก สำหรับผมนะก่อนจะรู้ว่าใครคือฆาตกร ผมก็เดาผิดครับ 5555

- หักมุม ผมหักมุมกับหนังเรื่องนี้อยู่ 2 ถึง 3 อย่างครับ อย่างแรกเลยคือ เกมฆาตกรปริศนาที่เฉลยโครตไวโดยบลอง ผมยอมรับเลยว่าตอนผมดูตัวอย่าง นึกว่าเป็นแนวไขปริศนาเล่นเกมทั้งเรื่องจริงๆแบบพวกหนัง เทวากับซาตาน ไม่ก็ ดาวินซี่โค้ดครับ 5555 เรื่องที่ 2 คือ ผมดีใจนะที่คนร้ายไม่ใช่คนที่ดื่มเหล้า ที่เดินผ่านแล้วบอกว่าไม่ต้องสนใจผมครับ อันนี้ตอนเห็นครั้งแรก ผมก็แอบเดาว่าเป็นผู้ร้ายเปล่านะ ไม่งั้นจะใส่ซีนนี้มาทำไมตั้ง 2 ถึง 3 ซีน

- ช่วงคลายปม ผมชอบวิธีการเล่าคลายปมแบบนี้แหะ แปลกใหม่ดีสำหรับผมนะ เอาจริงๆเหมือนตัวคดีนี้จะสั้นนะ แทบไมาต้องสืบอะไรเลย อย่างภาคแรกสืบคดีนานทั้งเรื่องเลย ที่เหลือเป็นการอธิบายความเป็นไปมากกว่า ว่าแอนดี้มายังไง แล้วปลอมตัวยังไง บลาๆ

- ผมเดาออกแค่ช่วงท้ายเรื่องที่แอนดี้ผลักพวกของแก้วแตก ผมมั่นใจเลยว่า ต้องเกี่ยวอะไรกับภาพวาดโมนาริซ่าแน่ๆ ผมเดาว่าเผาหรือทำลาย ก็ตามนั้น 5555 เดาอันนี้ถูกอย่างเดียว

- ก่อนเฉลยผมก็ลองเดานะ ว่าใครเป็นผู้ร้ายหรือฆาตกร ตอนแรกผมคิดว่าเท็ดกับนักการเมือง จำชื่อไม่ได้ละ 5555

- ยอมรับว่าถ้าหนังทำแบบนี้ผมจะผิดหวังเลย แต่ดีใจที่หนังไม่ทำ นั้นก็คือ แอนดี้คือคนร้ายกับดุ๊ก คือมันง่ายไปเดาออกง่ายมาก กับอีกอย่างคือ แนวที่ฆาตกรเพิ่งโผล่มาเซอรไพร์หรือทั้งเรื่องไม่ออกมาเลย มาออกตอนท้ายเรื่องอะไรแบบนี้ผมก็ไม่ชอบครับ ผมว่าดีแล้วที่คนร้ายต้องอยู่ในกลุ่มหรือเหตุการณ์เนี่ยแหละ อย่างเช่นเรื่องนี้ ถ้าคนที่กินเหล้าทั้งเรื่องออกมาไม่กี่ซีนแล้วเป็นคนร้ายผมก็ผิดหวังครับ

- เรื่องนี้ผมติดใจอยู่เรื่องเดียว นั้นก็คือช่วงท้ายครับ ที่พี่สาวแอนดี้เจอกระดาษทิชชู่ไอเดียของน้อง แล้วอยู่ดีๆก็หยิบออกเพื่อแสดงให้เห็นว่านี้คือของจริง โอเคแหละมันจำเป็นต้องโชว์เพื่อให้เรารู้ แต่พอเอาโผล่มาแล้วไม่รีบเก็บกลายเป็นโดนเผาง่ายๆซะงั้น 5555 ก็รู้ว่าของแบบนี้คือหลักฐานสำคัญต้องเก็บไว้ดีๆ

โดยรวมสำหรับผมที่ไม่ค่อยได้ดูหนังแนวนี้ ผมโอเคมากๆครับอย่างที่บอกข้างต้น ถือว่าชอบและผ่านเลย สมกับที่รอคอยครับ

ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6084
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 10:23
Top Comment [RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]


(สปอยแหลกนะ หัวมู้บอกว่าสปอยอยู่แล้ว)

ผมชอบนะภาคนี้ ผมว่าสนุกพอๆกับภาคแรก ตลกกว่าภาคแรกเยอะ

ถ้าเปรียบ แอร์กูล ปัวโร ของ อากาทา คริสตี้ เป็นยอดนักสืบฉลาดแบบจริงจัง


เบอร์นัว บล็อง ก็เป็นยอดนักสืบที่ฉลาดแบบฮา กวนตีน และ พูดมาก 5555+

แดเนียล เคร็ก ทำสำเร็จอีกแล้ว จาก บอนด์ ผู้เคร่งขรึม สลัดคราบนั้น มาเป็น บล็อง ผู้พูดมากกวนตีน


ทำได้ดีทั้งสองบทบาท แล้ว เคร็ก รู้สึกจะชอบบท บล็อง มากกว่า บอนด์ ด้วยนะ

หนังเฉลยด้วยว่า บล็อง เป็น LGBT (ตามยุคที่เปิดกว้าง) แถมได้ ฮิว แกรนท์ มาเป็นคามิโอ้ ในบทแฟนของบล็องด้วย


ภาคแรกนั้น บล็อง เข้ามาอยู่ในสถานะการณ์ ที่เป็นปริศนา ที่บล็องเข้ามาคลี่คลาย

ส่วนภาคสองนั้น บล็อง เข้ามาสร้างสถาณะการณ์ เป็นคนควบคุมสถานการณ์

มันแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งสองภาคเลยนะ ผมว่ามันแตกต่างทำให้ไม่ซ้ำซาก


ภาคนี้ยังรวยอารมณ์ขันมากกว่าภาคแรกที่ออกแนวจริงจังมากกว่า


บางคนอาจจะคิดว่า มันง่ายไป ไม่ซับซ้อน ก็จริง มันง่ายไป ไม่ซับซ้อน

เพราะหนังทำออกมาให้เห็นว่า ตัวร้ายของเรื่องอย่าง ไมล์ ที่ได้เอ็ดเวิร์ด นอร์ตันมาแสดง

หนังก็ค่อยๆแสดงออกมาให้เห็นสว่า หมอนี่ กระจอก

จากเริ่มเรื่องหมอนี่ระดับอัจฉริยะ ระดับ สตีฟ จ็อบ ระดับ อีลอน มัสก์ บิ้วมาเลยว่ายิ่งใหญ่

แต่หนังค่อยๆบอกว่า หมอนี่มันนักฉวยโอกาส (แอบแซะ จ็อบ/บิล เกต/อีลอน หรือเปล่า ว่าเป็นนักฉวยโอกาสเหมือนกัน)

เราได้ตื่นตากับกล่องปริศนาที่ไมล์ส่งให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นบัตรเชิญ (มันว้าวมาก)

ทุกคนช่วยกันแก้ปรืศนา แต่มีเพียง เฮเลน คนเดียวที่พังกล่องเพื่อเอาบัตรเชิญ

(ผมว่าเธอเป็นคนผิวดำที่สวยมากๆ ชอบๆ)

หนังมันบอกเป็นนัยๆแล้วว่า ปริศนาของไมล์เนี่ย เฮเลน นี่ล่ะจะเป็นผู้ทำลายและเปิดโปง (เหมือนในตอนจบของเรื่อง)

เฮเลนเป็นผู้เริ่มเกมนี้ต่างหาก โดยการจ้างบล็อง นักสืบที่เก่งที่สุดในโลก(ที่หาได้จากกูเกิ้ล อันนี้ก็ฮา 5555+ )

บล็องเองก็ฉลาด และ กะล่อนสุดๆ ทำเนียนเข้าไปร่วมงานแบบไม่ได้รับเชิญ (อันนี้คนดูน่าจะถูกหลอกทุกคน)

ชื่อหนังไทยคือ ปริศนาใครฆ่าเพื่อน คนดูทุกคนก่อนเริ่มคงคิดกันหมดว่า การฆ่าเพื่อนมันต้องฆ่าในเกาะแน่ๆ

แต่ไม่ใช่ การฆ่าเพื่อน มันฆ่าตั้งแต่ก่อนขึ้นเกาะ เพราะฉะนั้นเราจึงโฟกัสว่าใครจะตาย ใครเป็นคนฆ่า บนเกาะ



บทหนังผมว่าดีกว่าภาคแรกอีก หลอกคนดูเป็นสเต็ปๆ หนังพาไปดูเพื่อนแต่ละคนว่ามีแรงจูงใจอะไรที่จะฆ่าไมล์

ที่แท้จริงทุกคนกลับปกป้องไมล์ เพราะไมล์ให้คุณกับเพื่อนได้ เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชีวิตเลยทีเดียว

ขาดไมล์ไม่ได้ ทั้งเรื่อง อำนาจเงิน และเส้นสายที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

ดูจากตอนฉากขึ้นศาล ที่ทุกคนโกหกให้ไมล์รอด การโกหกในศาลเป็นเรื่องใหญ่เรื่องผิดกฎหมายเลยนะ



ผมฮาสุดก็ฉาก ที่บล็องเฉลยปริศนาฆ่าเพื่อนที่ไมล์ออกแบบมาให้เพื่อนๆเล่นบนเกาะ

คือปริศนาที่ไมล์ออกแบบมันง่อยมาก บล็อง ฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ ฉากตอนนี้ ไมล์ ทำหน้าเซ็งๆ มันฮามาก

นั่นคือการเริ่มเฉลยว่าจริงๆแล้ว ไมล์ ไม่ได้ฉลาดเป็นอัจฉริยะแบบตอนแรก เป็นแค่ไอ้กระจอก ที่ก็อปไอเดียคนอื่น

(เหมือนขวัญใจชาว ss มัน ที่เป็นนักก็อปตัวยง - ผมแอบจิกกัดนะเนี่ย 5555+ )

ไมล์ก็มีหัวไวอยู่นะ แต่แค่แบบเด็กๆ ตอน ดุ๊ก รู้ว่าแท้จริงแล้ว แอนดี้ ตายแล้ว และคนฆ่าคือไมล์


ไมล์เลยคิดฆ่าดุ๊ก ก็แค่ง่ายๆโดยการวางยา กับน้ำสัปรดที่ดุ๊กแพ้(อย่างแรง) ที่ไมล์รู้ดีกว่าเพื่อนแพ้อะไร

แล้วจัดฉากว่าตัวเองอยู่ในอันตราย แล้วรู้ว่าไฟจะดับตอน 4 ทุ่ม แอบเอาปืนของดุ๊กมาเพื่อไปฆ่าแอนดี(เฮเลน)

ซึ่งมันเป็นไอเดียของ บล็อง ที่แค่พูดเล่นๆ แต่ไมล์ก็อปไอเดีย (นี่จะจิกกัดอีกว่าก็อปไอเดีย แสดงให้เห็นความกระจอกของไมล์)

(ซึ่งตอนเปลี่ยนแก้ว ตอนขโมยปืน แอบจิ๊กโทสับ เพื่อนๆหลายคนก็เห็น ซึ่งมันกระจอกมากไม่เนียน)

เพราะฉะนั้นฉากเผาทิชชู่มันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลสุดๆ เพราะไมล์มันกระจอกคิดอะไรซับซ้อนเองไม่เป็น

มันก็เผาดื้อๆแบบเด็กๆทำกัน และไมล์ก็มั่นใจว่าเพื่อนๆที่เหลือจะเข้าข้างและปกป้องเช่นเคย ซึ่งก็จริง


ฉากจบของหนังก็สมเหตุสมผลอีก ที่บล็องยื่นก้อนผลึกพลังงานให้เฮเลน

แล้วเฮเลนก็ทำลายบ้าน เผาบ้านด้วยก้อนผลึก และเผารูปโมนาลิซ่า

ฉากที่มันมีสองนัยยะคือ

- รูปภาพสมบัตืของโลก โดนไฟไหม้จาก พลังงานชนิดใหม่
(เป็นข่าวดังแน่ พลีงงานที่ไม่พร้อมให้ใช้งาน ไหม้บ้านแถมรูปก็โดนไหม้ไปด้วย)
(ทำให้เปิดตัวพลังงานใหม่ไม่ได้ หุ้นตก ไมล์มันลงทุนกับงานนี้หมดตัว ก็เจ๊งกันไปสิ เพื่อนๆรู้เลยไม่ปกป้องแล้ว)
(อันนี้ก็จิกัด ถ้าเพื่อนรวย มีอำนาจก็พร้อมอยู่ข้าง แต่ถ้าเพื่อนไม่มีอะไรแล้วก็ตามนั้น - สันดานคนอะนะ)

- รูปโมนาลิซ่าไหม้ไฟ เหมือนชีวิตของไมล์ก็หมอดไหม้
(ไมล์มันชื่นชมรูปนี้มากเปรียบเหมือนชีวิตตัวเองที่อยากมีชื่อเสียงเป็นอมตะ)

ผมพึ่งดูเมื่อคืนนี้เอง ส่วนตัวชอบมากกว่าภาคแรก เพราะ

- บทไม่ซ้ำซาก แนวทางฉีกจากภาคแรกไปเลย (ตามที่บอก บล็องเป็นคนสร้างสถานะการณ์เอง)
- ทีมนักแสดงดูเข้าขามากกว่าภาคแรก (ภาคแรกทีมนักแสดงเป็นสายดราม่า ภาคนี้สายฮา)
- บทหนังที่ยอดเยี่ยมกว่าภาคแรก ให้ดีกว่านิดนึง
- ฉากจบที่สรุปได้ดี
- จิกกัดสังคมและสันดานคนได้ดีมาก
- มีความฮามากกว่า (ฮาแบบฝรั่งนะครับ มันลึกต้องคิดตามมันถึงจะฮา ไม่เหมือนฮาแบบไทยๆที่ฮาแบบเห็นง่าย ตื้นๆ)




ใครอ่านสปอยผมนี้แล้ว กลับไปดูอีกรอบ ผมว่าน่าจะสนุกขึ้นไม่มากก็น้อย / ขอบคุณครับ

แก้ไขล่าสุดโดย PLATOON เมื่อ Sun Dec 25, 2022 10:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2014
ตอบ: 1593
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 05:48
[RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]
โดนเผาทิชชู่นี่มันน่ารำคาญจริงๆ

ที่เหลือก็พอดูสนุกๆใช้ได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Sep 2013
ตอบ: 627
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 06:56
[RE](สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
ฉากเผาทิชชู่นี่ wtf มาก
ง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Once a Gunner, always a Gunner`
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Feb 2010
ตอบ: 4380
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 07:20
[RE](สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
ตอนที่ แดรกตาย ผมก็เดาว่าเป็นไอ้ไมล์ มันเล่นใหญ่แถมเป็นคนชี้แก้ว แต่ตอนเฉลยกลางเรื่อง ที่ฝาแฝดปลอมมาก็เซอร์ไพรส์อนุ่ แถมท้ายเรื่อง ที่วายป่วงสุดๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: WE BELIEVE!!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 28373
ที่อยู่: Anywhere, just say his name
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 08:10
[RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]
ตอนดำเนินเรื่องมาครึ่งแรกชอบกว่า Knives Out นะ แต่พอดูจนจบกลับไปชอบ Knives Out มากกว่า

Knives Out มันดูมีชั้นเชิงมากกว่านี้อะ อันนี้มันดูอยากให้จบแบบชิบหายวายป่วง Over ไปนิด
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 May 2021
ตอบ: 3914
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 08:28
[RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]
ส่วนตัวไม่ค่อยชอบตอนจบ ดูพยายามจนล้นไปหน่อย

ส่วนตัวคดี เอาจริงๆก็พอเดาได้ว่าใครคือคนร้าย เพราะคนที่เหลือมันเกลี่ยบทมาเท่าๆกัน จนคิดว่าถ้าเลือกใครมาซักคนเป็นคนร้าย ก็คงเหมือนๆกันหมด ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง

มีแค่ฉากเดินชนพี่บึ้ก ที่จงใจใส่มาสับขาหลอก ว่าอาจจะเป็นคนวางยาตอนนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย SHopper เมื่อ Sun Dec 25, 2022 08:29, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 4032
ที่อยู่: Santiago Bernabeu
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 08:54
[RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]
สนุกช่วงครึ่งแรก กลางเรื่องเริ่มจืดน่าจะพอเดาคนร้ายได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6084
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 10:23
[RE: (สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ]


(สปอยแหลกนะ หัวมู้บอกว่าสปอยอยู่แล้ว)

ผมชอบนะภาคนี้ ผมว่าสนุกพอๆกับภาคแรก ตลกกว่าภาคแรกเยอะ

ถ้าเปรียบ แอร์กูล ปัวโร ของ อากาทา คริสตี้ เป็นยอดนักสืบฉลาดแบบจริงจัง


เบอร์นัว บล็อง ก็เป็นยอดนักสืบที่ฉลาดแบบฮา กวนตีน และ พูดมาก 5555+

แดเนียล เคร็ก ทำสำเร็จอีกแล้ว จาก บอนด์ ผู้เคร่งขรึม สลัดคราบนั้น มาเป็น บล็อง ผู้พูดมากกวนตีน


ทำได้ดีทั้งสองบทบาท แล้ว เคร็ก รู้สึกจะชอบบท บล็อง มากกว่า บอนด์ ด้วยนะ

หนังเฉลยด้วยว่า บล็อง เป็น LGBT (ตามยุคที่เปิดกว้าง) แถมได้ ฮิว แกรนท์ มาเป็นคามิโอ้ ในบทแฟนของบล็องด้วย


ภาคแรกนั้น บล็อง เข้ามาอยู่ในสถานะการณ์ ที่เป็นปริศนา ที่บล็องเข้ามาคลี่คลาย

ส่วนภาคสองนั้น บล็อง เข้ามาสร้างสถาณะการณ์ เป็นคนควบคุมสถานการณ์

มันแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งสองภาคเลยนะ ผมว่ามันแตกต่างทำให้ไม่ซ้ำซาก


ภาคนี้ยังรวยอารมณ์ขันมากกว่าภาคแรกที่ออกแนวจริงจังมากกว่า


บางคนอาจจะคิดว่า มันง่ายไป ไม่ซับซ้อน ก็จริง มันง่ายไป ไม่ซับซ้อน

เพราะหนังทำออกมาให้เห็นว่า ตัวร้ายของเรื่องอย่าง ไมล์ ที่ได้เอ็ดเวิร์ด นอร์ตันมาแสดง

หนังก็ค่อยๆแสดงออกมาให้เห็นสว่า หมอนี่ กระจอก

จากเริ่มเรื่องหมอนี่ระดับอัจฉริยะ ระดับ สตีฟ จ็อบ ระดับ อีลอน มัสก์ บิ้วมาเลยว่ายิ่งใหญ่

แต่หนังค่อยๆบอกว่า หมอนี่มันนักฉวยโอกาส (แอบแซะ จ็อบ/บิล เกต/อีลอน หรือเปล่า ว่าเป็นนักฉวยโอกาสเหมือนกัน)

เราได้ตื่นตากับกล่องปริศนาที่ไมล์ส่งให้เพื่อนๆ เพื่อเป็นบัตรเชิญ (มันว้าวมาก)

ทุกคนช่วยกันแก้ปรืศนา แต่มีเพียง เฮเลน คนเดียวที่พังกล่องเพื่อเอาบัตรเชิญ

(ผมว่าเธอเป็นคนผิวดำที่สวยมากๆ ชอบๆ)

หนังมันบอกเป็นนัยๆแล้วว่า ปริศนาของไมล์เนี่ย เฮเลน นี่ล่ะจะเป็นผู้ทำลายและเปิดโปง (เหมือนในตอนจบของเรื่อง)

เฮเลนเป็นผู้เริ่มเกมนี้ต่างหาก โดยการจ้างบล็อง นักสืบที่เก่งที่สุดในโลก(ที่หาได้จากกูเกิ้ล อันนี้ก็ฮา 5555+ )

บล็องเองก็ฉลาด และ กะล่อนสุดๆ ทำเนียนเข้าไปร่วมงานแบบไม่ได้รับเชิญ (อันนี้คนดูน่าจะถูกหลอกทุกคน)

ชื่อหนังไทยคือ ปริศนาใครฆ่าเพื่อน คนดูทุกคนก่อนเริ่มคงคิดกันหมดว่า การฆ่าเพื่อนมันต้องฆ่าในเกาะแน่ๆ

แต่ไม่ใช่ การฆ่าเพื่อน มันฆ่าตั้งแต่ก่อนขึ้นเกาะ เพราะฉะนั้นเราจึงโฟกัสว่าใครจะตาย ใครเป็นคนฆ่า บนเกาะ



บทหนังผมว่าดีกว่าภาคแรกอีก หลอกคนดูเป็นสเต็ปๆ หนังพาไปดูเพื่อนแต่ละคนว่ามีแรงจูงใจอะไรที่จะฆ่าไมล์

ที่แท้จริงทุกคนกลับปกป้องไมล์ เพราะไมล์ให้คุณกับเพื่อนได้ เรียกได้ว่าเป็นเจ้าชีวิตเลยทีเดียว

ขาดไมล์ไม่ได้ ทั้งเรื่อง อำนาจเงิน และเส้นสายที่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น

ดูจากตอนฉากขึ้นศาล ที่ทุกคนโกหกให้ไมล์รอด การโกหกในศาลเป็นเรื่องใหญ่เรื่องผิดกฎหมายเลยนะ



ผมฮาสุดก็ฉาก ที่บล็องเฉลยปริศนาฆ่าเพื่อนที่ไมล์ออกแบบมาให้เพื่อนๆเล่นบนเกาะ

คือปริศนาที่ไมล์ออกแบบมันง่อยมาก บล็อง ฉีกมันออกเป็นชิ้นๆ ฉากตอนนี้ ไมล์ ทำหน้าเซ็งๆ มันฮามาก

นั่นคือการเริ่มเฉลยว่าจริงๆแล้ว ไมล์ ไม่ได้ฉลาดเป็นอัจฉริยะแบบตอนแรก เป็นแค่ไอ้กระจอก ที่ก็อปไอเดียคนอื่น

(เหมือนขวัญใจชาว ss มัน ที่เป็นนักก็อปตัวยง - ผมแอบจิกกัดนะเนี่ย 5555+ )

ไมล์ก็มีหัวไวอยู่นะ แต่แค่แบบเด็กๆ ตอน ดุ๊ก รู้ว่าแท้จริงแล้ว แอนดี้ ตายแล้ว และคนฆ่าคือไมล์


ไมล์เลยคิดฆ่าดุ๊ก ก็แค่ง่ายๆโดยการวางยา กับน้ำสัปรดที่ดุ๊กแพ้(อย่างแรง) ที่ไมล์รู้ดีกว่าเพื่อนแพ้อะไร

แล้วจัดฉากว่าตัวเองอยู่ในอันตราย แล้วรู้ว่าไฟจะดับตอน 4 ทุ่ม แอบเอาปืนของดุ๊กมาเพื่อไปฆ่าแอนดี(เฮเลน)

ซึ่งมันเป็นไอเดียของ บล็อง ที่แค่พูดเล่นๆ แต่ไมล์ก็อปไอเดีย (นี่จะจิกกัดอีกว่าก็อปไอเดีย แสดงให้เห็นความกระจอกของไมล์)

(ซึ่งตอนเปลี่ยนแก้ว ตอนขโมยปืน แอบจิ๊กโทสับ เพื่อนๆหลายคนก็เห็น ซึ่งมันกระจอกมากไม่เนียน)

เพราะฉะนั้นฉากเผาทิชชู่มันเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลสุดๆ เพราะไมล์มันกระจอกคิดอะไรซับซ้อนเองไม่เป็น

มันก็เผาดื้อๆแบบเด็กๆทำกัน และไมล์ก็มั่นใจว่าเพื่อนๆที่เหลือจะเข้าข้างและปกป้องเช่นเคย ซึ่งก็จริง


ฉากจบของหนังก็สมเหตุสมผลอีก ที่บล็องยื่นก้อนผลึกพลังงานให้เฮเลน

แล้วเฮเลนก็ทำลายบ้าน เผาบ้านด้วยก้อนผลึก และเผารูปโมนาลิซ่า

ฉากที่มันมีสองนัยยะคือ

- รูปภาพสมบัตืของโลก โดนไฟไหม้จาก พลังงานชนิดใหม่
(เป็นข่าวดังแน่ พลีงงานที่ไม่พร้อมให้ใช้งาน ไหม้บ้านแถมรูปก็โดนไหม้ไปด้วย)
(ทำให้เปิดตัวพลังงานใหม่ไม่ได้ หุ้นตก ไมล์มันลงทุนกับงานนี้หมดตัว ก็เจ๊งกันไปสิ เพื่อนๆรู้เลยไม่ปกป้องแล้ว)
(อันนี้ก็จิกัด ถ้าเพื่อนรวย มีอำนาจก็พร้อมอยู่ข้าง แต่ถ้าเพื่อนไม่มีอะไรแล้วก็ตามนั้น - สันดานคนอะนะ)

- รูปโมนาลิซ่าไหม้ไฟ เหมือนชีวิตของไมล์ก็หมอดไหม้
(ไมล์มันชื่นชมรูปนี้มากเปรียบเหมือนชีวิตตัวเองที่อยากมีชื่อเสียงเป็นอมตะ)

ผมพึ่งดูเมื่อคืนนี้เอง ส่วนตัวชอบมากกว่าภาคแรก เพราะ

- บทไม่ซ้ำซาก แนวทางฉีกจากภาคแรกไปเลย (ตามที่บอก บล็องเป็นคนสร้างสถานะการณ์เอง)
- ทีมนักแสดงดูเข้าขามากกว่าภาคแรก (ภาคแรกทีมนักแสดงเป็นสายดราม่า ภาคนี้สายฮา)
- บทหนังที่ยอดเยี่ยมกว่าภาคแรก ให้ดีกว่านิดนึง
- ฉากจบที่สรุปได้ดี
- จิกกัดสังคมและสันดานคนได้ดีมาก
- มีความฮามากกว่า (ฮาแบบฝรั่งนะครับ มันลึกต้องคิดตามมันถึงจะฮา ไม่เหมือนฮาแบบไทยๆที่ฮาแบบเห็นง่าย ตื้นๆ)




ใครอ่านสปอยผมนี้แล้ว กลับไปดูอีกรอบ ผมว่าน่าจะสนุกขึ้นไม่มากก็น้อย / ขอบคุณครับ

แก้ไขล่าสุดโดย PLATOON เมื่อ Sun Dec 25, 2022 10:31, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: Doubters To Believer
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 143
ที่อยู่: AXA Training Center
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 13:24
(สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
ภาคนี้สนุกดีนะ หนังได้ใส่รายอะเอียดไว้แทบจะตั้งแต่เริ่มเรื่อง ผมดูครั้งแรกดันรู้เลยว่าไอ้นี่ฆาตกรแน่ๆเพราะฉากส่งแก้ว ดันตาดี แล้วโทรศัพอีก ถ้าสังเกตโทรศัพวางที่โต๊ะ ตัดกลับมาโทรศัพหาย ผมต้องมานั่งกอดูซ้ำอีก2-3รอบ 555 ว่าเค้าใส่อะไรไว้ในฉากอีก
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 9733
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 25, 2022 19:35
[RE](สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
mrg
นักเตะอบต.
Status: Aim High.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Oct 2013
ตอบ: 1146
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 26, 2022 07:50
[RE](สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
ผมดูเห็นแก้วมีชื่อก็โฟกัสเรื่องแก้วตลอด แล้วเห็นฉากส่งแก้วปุ้ปเลยมั่นใจเลยว่านี่คือฆาตกร แต่ก็ยังดูสนุกนะ ชอบฉากคลายปม ไม่ผิดหวังๆ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: keep the blue flag flying high
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2011
ตอบ: 11750
ที่อยู่: The Bridge
โพสเมื่อ: Mon Dec 26, 2022 18:11
[RE](สปอยหนัก) ขอพูดถึงหนัง Glass Onion ภาค 2 หน่อยครับ
สนุกดี ชอบพอๆกันที้ง2ภาคเลย ชอบตอนเฉลยที่เฮเลนมาหา
อีกอย่างวิสกี้โคตรดี
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
CHELSEA||WJSN&FE:VERSE_LUDA|LE SSERAFIM_ChaeWon-Dreamcatcher_JiU/SuA-IVE_Gaeul-QWER_Hina

ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel