มันมี 2 แบบ ใช้เลเซอร์ (แบบที่เป็นข่าว) กับใช้ สนามแม่เหล็ก มันจะฟีลเหมือนในหนัง คือปัญหาของพลังงานมันคือไม่มีวัสดุใดทนความร้อนขนาดนั้นได้ครับ แบบที่ 2 พลังงานสนามแม่เหล็กก็ยังทำได้ไม่สมบูรณ์ มันเลยยังไม่สำเร็จซะทีเดียว ถามว่าเค้ารู้กันแหละว่าทำยังไงให้ได้ แต่ปัญหาคือทำยังไงให้ยืนระยะ และพลังงานที่ออกมามากกว่าที่ใส่เข้าไป ตรงนี้แหละที่ยาก เวลาสำหรับพลังงานนี้อาจจะกินเวลาเผลอๆไม่ต่ำกว่า 50 ปี หรืออาจะเป็นร้อยปีก็ได้ ซึ่งก็ไม่ได้นานเลยเทียบกับเวลาของจักรวาลหรือโลกเอง ถ้าทำได้สำเร็จก็เตรียมเข้าไกล สิ่งมีชีวิต class 1 โดยสมบูณ์กันได้

ถ้าสำเร็จเราน่าจะได้เห็นดวงอาทิตย์จำลองแบบในโดเรม่อนได้นะ

พอสร้างได้แล้ว ปัญหาจะอยู่ที่การยืนระยะ
ด้วยระบบนิวเคลียร์ฟิวชั่น อุณหภูมิแม่งโคตรสูง
คำถามคือ แล้วเราจะหาอุปกรณ์ตัวไหนที่จะทนความร้อนได้+หาวิธีระบายความร้อนอีก

ปล.อยากให้มีเวก้าพังค์ในโลกความจริงชิบ

พลังงานสะอาดแต่โลกไม่สะอาดไปหวังนอกโลกเถอะ ในทะเลแพขยะตอนนี้เกือบ600กิโลเมตรได้แล้วมั้ง

ขนาดปลาน้ำลึก ที่อยู่ใต้น้ำกว่า1000 เมตรยังกินขยะตายแล้วเลย

พอยิ่งเปิดเผยว่าใกล้สำเร็จพวกแก๊งน้ำมันก็ลดเพดานผลิตลง

เราจะได้เห็น iron man แล้วใช่ไหม

จะทันชีวิตผมได้ใช้ไหมนะ

สู้เตาอั้งโล่มหาเศรษฐีของเราได้หรอ

ถ้าหาอุปกรณ์ที่กันความร้อนอวงดวงทิตย์ขนาดย่อมๆได้ นี่ก็สามารถ ไปร่อนลงดวงอาทิตย์จริงๆได้แล้วล่ะ

อันนี้นี่เเหละที่กว่าจะได้ใช้จริงๆน่าจะชาติหน้า เพราะชาตินี้ตายก่อน (ผมอายุ40)

หวัดดีครับลุง

ผมเห็นไอที่เค้าเอาไปสร้างฉนวนดาวเทียมสำรวจดวงอาทิตย์ได้
ในอีกสักสิบยี่สิบปี อาจจะเกิดได้จริงๆก็ได้นะครับ ผมว่าเทคมันไปไวมากๆในยุคนี้จริงๆ

ปัญหาคือภาคขนส่งมากกว่าในมุมมองของผมนะ

แต่เชื่อว่าสุดท้ายเราก็คงหา Solution มาแก้ไขได้อยู่ดี

อย่าไปอินเยอะครับ การขอทุนวิจัยมันต้องพอมีผลงานหรือความคืบหน้าออกมาเพื่อ PR บ้าง
เพื่อจะได้ขอทุนเพิ่มไปอีกในปีถัดๆไป แล้วก็วนทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

คือการทดลองนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พลังงานมากกว่าที่ใส่เข้าไป ในข่าวระบุว่าจากเลเซอร์ 2 เมกะจูล ได้ออกมา 3 เมกะจูล หรือได้มา 1.5 เท่า

แต่ที่จขกท.บอกว่าน้ำมันจะเป็นขยะไปเลยมันเป็นไปไม่ได้หรอก เทคโนโลยีฟิวชั่นมันเป็นการสร้างพลังงานความร้อน แล้วต้มน้ำให้เป็นไอแล้วไปปั่นกังหัน ปั่น Generator ซึ่งปัจจุบันแทบไม่มีใครเอาน้ำมันมาเผาปั่นไฟกันแล้ว ซึ่งก็คือฟิวชั่นไม่มีอะไรจะเกี่ยวกันกับน้ำมันเลย

แล้วการที่จะลดขนาดขนาดมาใช้กับรถยนต์นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ในรถต้องมีต้นพลังงานไว้เริ่มปฏิกิริยาฟิวชั่น (แบตเตอรี่ ETC) มีหัวเลเซอร์ มีเตาปฏิกรณ์ มีบอยเลอร์ มีเทอร์ไบ์ มีเจนเนอเรเตอร์ มีระบบหล่อเย็น มีปั้มน้ำ

หรืออย่างขนาดใหญ่ที่สุด อย่างเช่นเรือบรรทุกเครื่องบิน ถ้าจะเอามายัดใส่ ยังไงก็ต้องมีต้นพลังงานในการสตาร์ทเครื่อง มันก็จะยิ่งไปเพิ่มขนาดเครื่องยนต์เข้าไปอีก แบบเดิมคือ แท่งยูเรเนียม ไม่ต้องทำอะไรมัน มันก็ปล่อยพลังงานมาเรื่อยๆ เติมที 10-20 ปี

ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าทำมาได้สำเร็จแล้ว และราคาไม่สูงมากแล้ว ก็คงจะมาแทนที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิชชั่น พวกถ่านหินที่ราคาถูกสุดๆ คงทดแทนได้ยาก ถ้าจะแทนคงเป็นประเทศที่รวยๆ มากๆอยู่แล้ว เลยจะหันมาทางสะอาด ส่วนพวกโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติก็คงแทนไม่ได้ เพราะจุดประสงค์มันต่างกัน (ความเร็วในการจ่ายไฟต่างกันระดับไม่ถึงชั่วโมง กับหลักหลายชั่วโมง)

เรื่องความร้อนจากปฏิกริยากับผนัง Chamber นี่เห็นว่าต้องใช้ Super Conductor บางอย่างที่มีสัมประสิทธิ์การนำความร้อนสูงมาก (ระดับทองแดงหรือมากกว่า) + และทนความร้อนกว่าทองแดง (ทองแดงทนไม่ไหว ตัวเองละลายก่อน)

เพื่อให้ระบายความร้อนไปที่ส่วนต้มน้ำเพื่อหมุน Turbine Generator ได้ทันโดยที่ตัวเองไม่ละลายก่อน