ตอนแรกพิมพ์ตอบกระทู้นี้ครับ
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2231322
แต่พิมพ์ตอบ พิมพ์ไปพิมพ์มา มันยาว เลยขออนุญาตแยกออกมาตั้งกระทู้ใหม่นะครับ
ผมเกิดปี 1972 (พ.ศ.2515) ตอนนี้อายุ 50 ปีแล้ว (แก่แล้ว มีชีวิตมาครึ่งศตววรษ)
ผมพูดส่วนตัวในมุมมองคนอายุเยอะนะครับ
ประเทศไทยเริ่มเป็นที่รู้จักของชาวโลกจากที่ปัจจุบันเราเรียกว่า soft power จากหนังครับ
ใช่ครับจากหนัง แต่เป็นหนังฮอลลิวูด
เริ่มจากหนังเรื่อง the bridge on the river kwai (1957)
ถึงหนังจะถ่ายทำกันที่ศรีลังกา แต่ในหนังพูดถึงไทยทั้งเรื่อง ทั้งๆทีก่อนหน้านั้นโลกตะวันตกแทบไม่รู้จักประเทศไทย
มันเป็นซอฟท์พาวเวอร์ทำให้โลกรู้จักว่าประเทศนี้มีเรื่องราว มีประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่พึ่งจบไป 12 ปี
แต่เรื่องที่ดังสุดๆ แล้วทำให้ฝรั่งอยากมาเที่ยวไทย ทะเลไทยคือเรื่อง 007 ภาค โกลเด้นกัน ในปี 1974 (พ.ศ.2517)
ฝรั่ง Amazing กับเขาตะปู กับทะเลภาคใต้ของไทยมาก ทำให้ฝรั่งเริ่มเข้ามาเที่ยวไทยเป็นเรื่องเป็นราว
ส่วนถ้ากล่าวถึงพัทยานั้น มันดังในช่วงสงครามเวียตนาม เพราะเมืองโตมาเพราะมีคลับบาร์ที่สร้างมาเพื่อทหาร GI. สมัยนั้น
มันเป็นเมืองเล็กๆชายทะเล ไม่ค่อยมีอะไรมากคลับบาร์หรือสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสมัยนั้นยังไม่เท่าไซง่อนที่เป็นเมืองหลวงของเวียตนามใต้เลย
(เรื่อง sex worker ที่เวียตนามและฟิลิปปินส์เริ่มก่อนพัทยาอีก เพราะสมัยสงครามเวียตนาม สองที่นั้นเป็นฐานใหญ่ของ GI.)
รูปหาดพัทยาในปี 1968 (พ.ศ. 2511)
เมื่อ 50 กว่าก่อนไม่มีอะไรเลย
สมัย 50-60 ปีก่อน คนกรุงเทพเที่ยวทะเลก็คือ บางปู 40-50 ก่อนก็ขยับเป็น บางแสน
พัทยานี่คนไทยเริ่มมาเที่ยวกันหลังบางแสนเลยนะ เพระบางแสนเริ่มสกปรกและทะเลไม่สวยเท่าหาดพัทยา
ผมจำได้ว่าไปเที่ยวพัทยาครั้งแรกตอน 8 ขวบ ประมาณปี 2523 พัทยาใต้เริ่มมีโรงแรมแล้ว แต่หาดจอมเทียนนี่เงียบสงบมาก ไม่ค่อยมีคน โรงแรมยังไม่ค่อยมี
พัทยาเป็นชายหาดแรกๆของไทยที่ดังไปต่างประเทศ ด้วยจากปากต่อปากของอดีตทหาร GI ที่มาประจำการในไทย
ตอนนั้นไทยก็ไม่พร้อมจะเป็นประเทศท่องเที่ยวเท่าไรนัก ภาครัฐยังไม่ให้ความสำคัญ ภาคเอกชนก็มีกลุ่มเล็กๆที่ทำธุรกิจท่องเที่ยว
ฝรั่งมาเที่ยวไทย คนไทยสมัยนั้นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ยิ่งกว่าสมัยนี้เยอะ ด้วยที่พัทยาเกืดมาด้วยเพราะเป็นที่ตากอากาศของอเมริกัน
คนที่ทำธุรกิจที่นั่นตั้งแต่เริ่มต้นก็พอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ คนไทยในพัทยาพูดอังกฤษได้มากกว่าคนในกรุงเทพอ่ะตอนนั้น
จบเรื่องพัทยา มาต่อกันที่กรุงเทพ
กรุงเทพในตอนที่ผมยังเด็กๆ ราว 40 กว่าปีก่อน ไม่ใช่เมืองที่น่าอภิรมณย์เท่าไร รถอ่ะติดพอๆกับสมัยนี้
แต่ที่มากกว่าสมัยนี้คือ โคตรสกปรก และ อากาศไม่ดี
สกปรกเพราะคนไทยยุคนั้นพวกคนเจนเบบี้บูมเมอร์อ่ะ ทิ้งขยะกันเรี่ยราด ถังขยะเหรอไม่รู้จัก สะดวกทิ้งที่ไหนที่ทิ้งเลย
ตามฟุตบาทตามถนนในกรุงเทพทุกที มีแต่เศษขยะ ไม่ใช่กรุงเทพในตอนนี้ คลองเริ่มเน่าเริ่มเหม็นก็จากยุคนี้ล่ะ
(คลองเหม็นจนถึงตอนนี้ แต่กำลังพัฒนากันอยู่ ยุค 80-90 เหม็นเน่ากว่าตอนนี้อีก)
โน่นกว่าจะมาสะอาดก็ปี 2528 ที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งแรก โดยที่ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ชนะการเลือกตั้ง
ค่อยมีโครงการกรุงเทพสะอาด ตาวิเศษเห็นนะ เริ่มมีการทำให้กรุงเทพค่อยๆสะอาดค่อย ปลูกจิตสำนึกให้ทิ้งขยะลงถัง
ใช้เวลาร่วมสบปีกว่าจะสะอาดขึ้นมาได้ คนเจนต่อมาคือเจน X ค่อยมีจิตสำนึกเรื่องทิ้งขยะ และสืบสานสู่คนเจนต่อๆมา
อากาศเสีย กรุงเทพตอนนั้น อากาศเสียเพราะ สมัยนั้นโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพ
นึกภาพไม่ออกกันใช่มั้ย ถ้าคนรุ่นๆเดียวกับผมจะนึกออก ปล่องโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยควันเสียจากโรงงาน
ปล่อยของเสียลงแม่น้ำลำคลอง น้ำเน่าเสีย อากาศเป็นมลพิษสุดๆ
แล้วก็มอเตอร์ไซค์ สมัยก่อนมอเตอร์ไซค์เป็นเครื่อง 2 จังหวะ (นึกภาพไม่ออกล่ะสิ) คือมันเผาไหม้ไม่สมบูรณ์แบบ
ควันเยอะ เหม็น ควันเป็นควันสีขาว คาร์บอนเยอะ เสียงดัง
กทม. เลยมีโปรเจ็คให้ย้ายโรงงานอุตสาหกรรมออกจากกทม. ไปจัดสร้างนิคมอุตสาหกรรมในที่ต่างๆ ใช้เวลาร่วม 20 ปีได้กว่าจะย้ายออกไปได้หมด
ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็ยกเลิกผลิตและจำหน่ายเครื่อง 2 จังหวะ (ตามเทรนโลกด้วย)
ตอนนี้กรุงเทพน่าอยู่กว่ายุคเก่าๆเยอะ สะอาดขึ้น เดินทางสะดวกสบายขึ้น มีระเบียบขึ้น
เชื่อมั้ยครับ 30-40 ก่อนคนกรุงเทพยังแย่งกันขึ้นรถเมล์ ยังแย่งกันซื้อของ ไม่ต่อคิว ไม่เหมือนสมัยนี้
ผมในฐานะคนผ่านมาหลายยุค ยังอดชื่นชมคนไทยยุคใหม่ไม่ได้ว่าดีกว่าคนยุคก่อนเยอะ
นอกจากกรงเทพและประเทศไทยจะพัฒนาขึ้นมาเยอะ จิตสำนึกดีๆของคนไทยก็พัฒนาขึ้นเยอะเช่นกัน
นี่ล่ะครับเป็นอีกอย่างที่เป็นเสน่ห์ของเมืองไทยที่ต่างชาตินิยมมาเที่ยวไทยส่วนนึงเพราะ "คนไทย"
คนไทยเรามีจิตใจโอบอ้อมอารีมีน้ำใจต่อต่างชาติ ซึ่งไม่เกินจริงเลยถ้าจะพูดว่า"ที่สุดในโลก"
(ซอฟท์พาวเวอร์นี้ ชาติอื่นๆทำไม่ได้ ต่อให้ประเทศไหนโปรโมทการท่องเที่ยวขนาดไหน ก็เปลี่ยนนิสัยคนทั้งชาติไม่ได้)
เอาง่ายๆว่าดีต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าคนไทยด้วยกันซะอีก 555555+
ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง ไปกินอาหาร ไปเที่ยว ไปพัก สถานที่เรานั้นให้การต้อนรับเราให้บริการเราไม่ดีเท่าเค้าบริการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 5555+
ลองคุณโดนขโมยโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป โน๊คบุ๊ค แล้วไปแจ้งความ ผมเชื่อว่าตำรวจไม่ค่อยแอ็คชั่นหรอก
แต่ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมเชื่อว่าตำรวจแอ็คชั่นแบบสุดๆ 55555+
ซึ่งนั่นก็ดีล่ะ เค้ามาเป็นแขก เราก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะโลกสมัยใหม่มันสื่อถึงกันเร็วและง่าย ภาพลักษณ์สำคัญมาก
กลับมาเรื่องซอฟท์พาวเวอร์จากหนัง หนังอีกเรื่องที่สร้างภาพลักษณ์ดีๆให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยเยอะขึ้น
คือเรื่อง The Beach (ปี 2000) ที่มาถ่ายทำในไทย โลเคชั่นคือทะเลสวยๆทางภาคใต้
แล้วตอนนั้นหนังเรื่องนี้คนทั่วโลกก็ดูกันเยอะ เพราะ ลีโอนาโด กำลังดังสุดๆ
พอหนังออกฉายคนทั่วโลกมีคำถามว่านั่นคือที่ไหน แล้วมันสวยจริงๆแบบในหนังมั้ย ทำให้การท่องเที่ยวไทยบูมสุดๆ
บูมยิ่งกว่าโครงการ Amazing Thailand ที่ทางการไทยโปรโมทไปทั่วลกมาหลายปีซะอีก
(ดีนะ มีฝรั่งมาโปรโมทให้ฟรีๆตลอดตั้งหนัง สะพานข้ามแม่น้ำแคว และ เจมส์บอนด์ 007)
อ่อ อีกเรื่องคือ Hangover ภาค2 (ปี 2011)
ที่ฉากร้านอาหารบนดาดฟ้าตึกเป็นไฮไลท์ที่ต่างชาติตื่นตาตื่นใจมาก จนทำให้ตอนนี้ร้านอาหารสไตล์นี้มีเยอะเลยในกรุงเทพ
คือไทยเหมาะจะทำร้านบนดาดฟ้าตึกแบบนี้เพราะอากาศไม่หนาว ตอนเย็นๆค่ำอากาศดี ประเทศเจริญแล้วอื่นๆมันหนาว
แล้วอีกเรื่องที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยคือ Lost in Thailand (ปี 2012)
ที่ดังในจีน เป็นหนังทำเงินสูงสุด คนจีนครึ่งประเทศเคยดูหนังเรื่องนี้ (700 กว่าล้านคน)
ทำให้หลังจากนั้นคนจีนมาเที่ยวไทยปีนึงนับสิบล้านคน แล้วไม่ได้เที่ยวแค่ในกรุงเทพแต่เที่ยวเชียงใหม่ด้วย
แล้วมาถึงซอฟท์พาวเวอร์ของไทยคือ Thai POP ละครซีรีส์ไทย
ละครแนว Y ที่คนไทยไม่ค่อยดูแต่ในตลาดต่างประเทศนั้นดังมาก ดังในจีน,ญี่ปุ่น,เกาหลี,อาเซียน,ยุโรป,ละตินอเมริกา
ถึงจะดังเฉพาะกลุ่มสาว Y แต่เมื่อมันดังทั่วโลก ถ้านับเป็นจำนวนคนดูก็หลายล้านคน
ซีรีส์แนวนี้เน้นทำออกตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เพราะเราไม่มีคู่แข่ง ไทยคือเบอร์หนึ่งของโลกในซีรีส์แนวนี้
เกาหลี ญี่ปุ่น พยายามทำซีรีส์แนวนี้ออกมา แต่ก็ไม่ดีเท่าไทยทำ ทั้งโปรดักชั่น แอคติ้ง สู้ไทยไม่ได้เลย
แล้วซีรีย์แนวนี้เลือกคนหน้าตา(โคตรดี) โลเคชั่นสวยๆ คัลเจอร์สมัยใหม่ของไทย สู่ชาวโลก
ทำให้สาวๆต่างชาติ
มองว่าหนุ่มไทยก็หล่อนะ เมืองไทยก็สวย น่ามาเที่ยวจัง
แต่ก่อนจะมีซีรีย์แนว Y ซีรีย์ไทยหรือละครไทยน้ำเน่าที่เราเรียกกันก็สร้างกระแสในต่างชาติได้เยอะโดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างจีน
ผมติดตามยูทูปน้องเพชรZ อยู่ เห็นน้องชวนสาวจีนมาออกด้วยบ่อยๆ น้องเค้าชื่อไทยว่า"แหวน"
หัดพูดไทยเอง เรียนภาษาไทยเอง เพราะอยากดูละคร ซีรีย์ไทยแบบไม่ต้องอ่านซัพไตเติ้ล
น้องพูดไทยชัดมาก เป็นเด็กเนิร์ดๆเรียนเก่ง แล้วมีคนจีนอีกเยอะที่หัดพูดไทยเพราะละครซีรีย์
VIDEO
แล้วที่ดังสุดๆคือละคร บุพเพสันนิวาส
ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สาวๆเอเชียต่างชาติมาเที่ยวไทย ถือว่าเป็นเทรนเลยที่ต้องชุดไทยแล้วไปถ่ายรูปในวัดอรุณ
สาวจีน
สาวเกาหลี
สาวญี่ปุ่น
สาวเวียตนาม
ชาติอื่นๆ
แถมคนเหล่านี้ยังสร้างซอฟท์พาวเวอร์ให้ไทยในยุค 5G อีก
ซอฟท์พาวเวอร์ยุค 5G
นี่สำคัญและเวิร์คกว่าหนังหรือซีรีส์ซะอีก คือ ยูทูปเบอร์ เหล่ายูทูปเบอร์ทั่วโลกแห่กันมาถ่ายคอนเท้นต์ในไทยเยอะมาก
เป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวไทยไปในตัวแบบฟรีๆ ทำไมเหล่ายูทูปเบอร์นิยมมาไทย
เพราะ ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวติด TOP 3 ของโลก(ที่ 1 เอเชีย) ย่อมมีคนอยากดูมากเป็นธรรมดา
ไม่ใช่เพราะคนไทยดูยูทูปเยอะหรอก ส่วนใหญ่ก็ทำเป็นภาษาตัวเองบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ไม่มีซัพไทย นั่นคือไม่ได้ทำให้คนไทยดู
อีกอย่างยอดวิวจากไทย เงินมันน้อยกว่ายอดวิวของประเทศอื่นๆอย่าง ญีปุ่น เกาหลี เมกา ยุโรป (ถ้านับจำนวนต่อ 1 วิวเท่ากัน)
คนเวียตนาม เยอะกว่าไทย เล่นเน็ตมากพอๆกับไทย ฟิลิปปินคนเป็นร้อยล้านเล่นเน็ตก็เยอะ อินโดคนสองร้อยกว่าล้านคนเล่นเน็ตเยอะกว่าไทยอีก
ทำไมพวกเค้าไม่ไปทำคอนเท้นต์ที่ประเทศเหล่านั้น คำตอบคือ ส่วนใหญ่ก็ไปล่ะ แต่ยอดวิวไม่เยอะเท่าทำที่ไทย คนทั่วโลกสนใจไทยกว่าไง
(การท่องเที่ยวไทยอันดับ 1 เอเชีย คนทั่วโลกก็สนใจเป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว)
ผมจะไม่พูดเรื่องอาหารไทยนะ ซึ่งเรารู้ๆกันอยู่แล้วว่าอาหารไทยนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน
ซึ่งอาหารไทยแบบธรรมดาๆที่เรากินกันประจำ มันว้าวมากสำหรับต่างชาติ
ไม่รู้เป็นข้อดีหรือข้อเสียของคนไทยนะข้อนี้ เพราะเราๆท่านๆที่เป็นคนไทย พอไปต่างประเทศนั้นกินอาหารประเทศอื่นๆเลยไม่ค่อยถูกปาก
หรือไปต่างประเทศนานๆก็ยังไงคิดถึงอาหารไทย ต้องกินอาหารไทยให้ได้ 555555+
(จริงๆอยากเล่าเรื่องส้มตำให้ฟังนะ แต่เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน เดี๋ยวจะยาวกว่านี้เยอะ)
กลับมาที่ยูทูปเบอร์ ถึงผมจะเป็นคนรุ่นเก่า อายุ 50 ปีแล้ว แต่ผมต้องเทรนตามยุคอยู่เสมอ
ผมไม่ดูทีวีมา 20 ปีแล้ว เริ่มดูยูทูปมาตั้งแต่มันยังไม่ใช่ของกูเกิ้ล ภาพมันยังไม่มี HD เสียงยังเป็นโมโน
ยิ่งตอนนี้ผมดูยูทูปเป็นหลัก(ส่วนใหญ่ดูของต่างประเทศ พวกยูปเบอร์ที่ติด Top10 Top20 ของไทย อ่ะ ไม่เคยดู ไม่ติดตาม)
ดูของต่างประเทศที่มาเที่ยวไทย รู้สึกแทบทุกคนจะคิดบวกและชอบเมืองไทยมาก ต่อให้เป็นยูทูปเปอร์ที่พูดตรงๆก็ตาม
(พูดข้อเสียไทยน้อยมาก แต่ไปเที่ยวกัมพูชา เวียตนาม อินโด นี่ใส่เต็มเลยข้อเสีย ยิ่งถ้าเทียบกับไทยแล้วด้วย 5555+)
อาทิตย์ที่แล้วดูช่องสาวเกาหลีสายแคมปิ้ง (สวยดี) นางแคมป์แต่ในเกาหลี
พอออกนอกประเทศครั้งแรก นางเลือกประเทศไทย ผมดูเสร็จลองดูยอดวิว โห เยอะมาก แล้วขึ้นเรื่อยๆด้วย
VIDEO
(มีซับไทยแล้ว)
ตอนนี้ยอดวิว 1.3 ล้านแล้ว (ผู้ติดตามแค่ 1.59 แสนคน) นี่ผ่านไปแค่ 2 อาทิตย์ยอดวิวกำลังจะเยอะสุดของช่อง
(ยอดวิวเยอะสุด 1.4 ล้าน ลงคลิป 9 เดือนก่อน)
ปกติยอดวิวของนางจะหมื่นปลายๆถึงแสนต้นๆ แล้วดูที่คอมเม้นต์ 2 พันกว่าคอมเม้นต์ ก็คนเกาหลีเม้นต์ทั้งนั้น ต่างชาติก็มีบ้าง มีคนไทยนิดเดียว
นี่ก็เป็นเหตุผลล่ะครับ ที่ยูทูปเบอร์ทำไมนิยมมาถ่ายคอนเท้นต์ที่ไทย เหมือนทำไมนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทย
ยิ่งมาถ่ายเยอะ คนดูเยอะ คนมาเที่ยวก็เยอะตาม
(ข้อมูลกอ่นโควิด คนเกาหลีเที่ยวไทย 1.6 ล้านคน / คนไทยเที่ยวเกาหลี เกือบ 5 แสนคน รีเวิร์สซอฟพาวเวอร์บ่ะ)
แล้วมาไทย ก็ต้องลงเครื่องที่กรุงเทพ แล้วกรุงเทพก็สร้างความประทับใจให้ต่างชาติ
ในสมัย 20-40 ปีก่อนมีเยอะนะที่คนไทยหลอกลวงนักท่องเที่ยว แท็กซี่โกงนักท่องเที่ยว
แต่ยุคนี้ไม่ค่อยมี ไม่ค่อยกล้ากันแล้ว ยิ่งถ้าเห็นถือกล้องมานี่ยิ่งไม่กล้าไปใหญ่ มันเลยทำให้กรุงเทพดูดีขึ้นกว่าเมืองอื่นๆในโลก
ผมฟังๆดูๆต่างชาติพูดกรุงเทพเทียบกับเมืองใหญ่ๆอื่นเช่น สิงคโปร์ ดูไบ โซล โตเกียว
สิงคโปร์-ดูไบ เค้าว่าเมืองมันสะอาดกว่าไทยจริง มีระเบียบมากกว่าจริง แต่มันขาดเสน่ห์แบบกรุงเทพ
สองเมืองนั้น ดูมันเป็นเมือใหม่ มีแต่เหล็กกับคอนกรีต แม้จะมีต้นไม้อยู่แต่มันเหมือนเฟคมันไม่ธรรมชาติ มันเป็นการสร้างมา มันดูน่าเบื่อ
เทียบกับกรุงเทพ ที่ยังมีตึกสูงๆใหม่ๆ แต่ก็ยังมีตึกเก่าดั้งเดิม มีชีวิตของคนพื้นที่ และรู้สึกอิสระกว่า ทำให้กรุงเทพมีเสน่ห์กว่า
เทียบกับ โตเกียว-โซล บ้านเมืองเป็นระเบียบ สะอาด แต่มันไม่มีเสน่ห์ผู้คนไม่เหมือนที่ไทย แบบว่าไม่เฟรนลี่แบบไทย
คนญี่ปุ่น-เกาหลี รีบเร่ง ไม่สนใจกันวิธีวิตเหมือนหุ่นยนต์ บ้านเมืองเลยดูไร้ชีวิตชีวา ซึ่งผมเห็นด้วยนะ
ถ้าใครเคยไปเที่ยว สิงคโปร์ หรือ โซล น่าจะรู้สึกได้ว่า ไม่มีอะไรเลย น่าเบื่อ อยู่สองวันก็หมดแล้วแล้วเบื่อแล้ว
พวกอะไรที่เจริญๆกรุงเทพก็มี บ้านเมืองก็ดูเป็นแข็งๆ สิงคโปร์ก็เมืองใหม่ทั้งหมด ส่วนโซลพวกโบราณสถานเอาตรงๆของกรุงเทพสวยกว่า
ส่วนดูไบไม่ต้องพูดถึง เพื่อนผมไปเปิดธุรกิจที่นั่น มันเบื่อตั้งแต่เดือนแรกที่ไป มันบอกว่าถ้าไม่ใช่เพราะเงินดีนะ กลับบ้านนานแล้ว
ดูไบมันเมืองลักซัวลี่ หรูหรา ไฮโซ แรกๆตื่นตาตื่นใจแต่ไม่นานก็เบื่อ เพราะเมืองมันเนรมิตมาใหม่ทั้งหมด มีแต่ตุกเป็นบล็อคๆ
จะดีหน่อยก็โตเกียว ที่อาจจะถูกจริตคนไทยอย่างเรา แต่ในสายตาของฝรั่งเค้าก็ว่าสู่กรุงเทพไม่ได้เลย เมืองมันน่าเบื่อเป็นระเบียบเกินไป(เหมือนบ้านเค้า)
กรุงเทพเป็นเมืองน่าอยู่นะครับ ถึงไม่เจริญที่สุด ไม่สะอาดที่สุด ไม่เป็นระเบียบที่สุด แต่ก็เมืองที่น่าอยู่ย่ามาเที่ยวที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
เราๆอาจจะบอกว่าอยู่ยาก รถติด อากาศร้อน อากาศไม่ดี PM2.5 รัฐบาลไม่ดี ฯลฯ
นั่นคือเราคนในพื้นที่แล้วมองแต่ข้อเสียของมันไง หากมองอีกมุมในด้านดีมันก็มีดีอีกเยอะ เช่น
- อาหารการกินร่อย มีเยอะ หลากหลาย มีอาหรแทบทุกชาติในโลก ไม่แพงนัก มีตลอด 24 ชม. (ดีกว่าเกือบทุกเมืองใหญ่ในโลก)
- การคมนาคม ถึงรถจะติดอันดับต้นๆของโลก แต่ก็มีทางเลือกอื่นเช่น BTS MRT และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
(มอไซค์รับจ้างนี่ ต่างชาติเค้ามองว่าอันตรายแต่มันสะดวก อยากให้บ้านเค้ามีบ้างโดยเฉพาะคนญี่ปุ่น)
ในอนาคตอันใกล้ระบบรางของกรุงเทพก็จะเชื่อมต่อและขยายยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นอีก
- อากาศร้อน ใช่ กรุงเทพเป็นเมืองหลวงที่ร้อนที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง (ที่ร้อนกว่าถ้าจำไม่ผิดมีแค่อีก 2 เมืองที่ร้อนกว่าอยู่ในแอฟริกา)
แต่ร้อนอ่ะ ดีกว่าหนาว เพื่อนผมมันไปอยู่ฟินแลนด์มันบอกว่าไม่ไหวหนาวมาออกไปไหนไม่ได้ อยู่กรุงเทพร้อนๆดีกว่า
ร้อนเราก็มีแอร์ ห้างเอย 7-11 รถไฟฟ้าเอย สถานที่ต่างๆก็เปิดแอร์ให้จนหนาว ต่างชาติชอบนะอากาศร้อนเค้าบอกดีกว่าหนาว
- ค่าครองชีพต่ำ ถ้าเทียบกับเมืองอื่นๆของโลก ค่าที่พัก ราคาขายราคาเช่า กรุงเทพถูกกว่าที่อื่นมากๆ ถึงค่าแรงเราจะต่ำ ไม่สามารถเช่าหรือซื้อที่แพงๆได้
แต่มันก็เป็นปัญหาทั่วโลกล่ะครับ ลองถามคนลอนดอน คนนิวยอร์ค หรือแม้กระทั่ง คนฮ่องกง คนสิงคโปร์ และคนโตเกียวดู
คนเหล่านี้ทำงานถึงจะมีรายได้สูงกว่าเราหลายเท่า แต่เค้าก็ไม่มีปัญญาเช่าหรือซื้อที่ดีๆหรูๆได้เช่นกัน เพราะมันแพงมาก
- อิสระ หากคุณเคยไปใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศจะรู้ว่า บ้านเมืองที่สะอาดเป็นระเบียบแบบนั้น อิสระมันน้อย
กฎการอยู่ร่วมกันมันเยอะ ข้อห้ามมันเยอะ ทำโน่นก็ไม่ได้ทำนี่ก็ห้าม มันเป็นสิ่งต้องแลกกันระหว่างความเป็นระเบียบกับอสระเป็นธรรมดา
ส่วนเรื่องที่ไทย หรือกรุงเทพ หรือพัทยา ที่บอกว่าเป็น ซ่องโลก sex worker เยอะ เป็นเป็นแค่ส่วนเล็กๆครับ
ที่ไหนก็ในโลกก็มี
- เพื่อนผมบางคนไปเที่ยวฮ่องกงมันก็มี สาวจีนหมวยๆขาวๆ
- บางคนชอบมากไปเวียตนาม ขาว นมใหญ่ ผิวเนียน ราคาถูกกว่าไทยเยอะ สวยกว่าด้วย
- บางคนไปเที่ยวซิดนีย์ออสเตรเลีย ก็ออฟมาเป็นสาวเกาหลีด้วย แพงหน่อย ค่าครองชีพที่นั่นมันสูง
- บางคนไปเยอรมัน อืมที่นั่นถูกฎหมายด้วยซ้ำไป
- บางคนไปเมกา ที่นิวยอร์ค หรือ LA. ก็มี สาวฝรั่งผิวขาว ผมบรอนซ์ (เคยเห็นยูซใน SS รีวิวด้วยนิ)
มีทุกที่ล่ะ อยู่ที่จะยกมาเป็นประเด็นมั้ยแค่นั้นล่ะ
แปลกนะ มีอยู่แค่สองพวกที่ยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น
1. คนไทยด้วยกัน แต่พูดเอาฮาๆขำๆ
2. พวกประเทศอาเซียนขี้แพ้ ผมยกให้สองชาตินี้ครับที่ชอบยกเอามาเป็นประเด็นในโลกออนไลน์คือ
2.1 ฟิลิปปินส์ ประเทศนี้ชอบอวดประเทศตัวเองว่าสวยกว่าดีกว่ากรุงเทพและไทย เวลามียูทูปเบอร์มาเที่ยวไทย
พวกนี้จะมาแจมฝาก ร้านประจำ ประมาณว่า มาเที่ยวฟิลิปปินส์ด้วยที่นี่สวยกว่าไทยประมาณนี้ ฝากร้านแทบทุกคลิป 5555+
และชอบอวดว่าที่ปินส์คนพูดอังกฤษได้ ไทยไม่ได้ อวดได้แค่นี้ล่ะ 5555+
VIDEO
แล้วพวกนี้เวลาประเทศอื่นๆเทียบการท่องเที่ยวไทยกับปินส์ ปินส์มันจะชอบยกมาอ้างว่า นักท่องเที่ยวที่มาไทยส่วนใหญ่มีแต่มาตีหรี่
(หารู้ไม่ว่าที่มะนิลา และที่อื่นๆในปินส์นั้นก็ไม่ได้น้อยกว่าไทย แถมยังเริ่มก่อนไทยอีก เพราะเป็นเมืองขึ้นเมกามีฐานทัพเมกาอยู่จนถึงปัจจุบัน)
2.2 กัมพูชา พวกนี้ชอบมีประเด็นกับประเทศไทยได้แทบทุกเรื่อง พวกขี้แพ้อย่างสิ้นเชิง อยากชนะไทยทุกเรื่องทั้งๆที่ไม่มีอะไรดีกว่าเลย
เคลมโบเดีย คือมันเคลมทุกเรื่อง ทั้งวัฒนธรรม ศิลปะ แม้กระทั่งเคลมคนไทย เช่นเคลมว่า ลิซ่า บัวขาว จาพนม เป็นคนเขมร 5555+
ส่วนสาวเขมรที่ทำคอนเท้นต์กินทุกอย่าง กินแม้กระทั่งรองเท้าแต่ ว่าเป็นคนไทย ทั้งๆที่พูดภาษาเขมรแล้วอาศัยอยู่ในกัมพูชา
(แบบนี้อะไรดีเอาเข้าตัว อะไรชั่วยัดเหยียดให้คนอื่น ตรรกะคุ้นๆ)
พวกเขมรในโลกออนไลน์นี่น่ารำคาญสุดในลกโซเชียล ทั้งอวดดี จองหอง และเกลียดไทยที่สุด รองลงมามันเกลียดเวียตนาม
(คงเพราะเป็นลูกไล่สยามกับเวียตมาตลอดประวัติศาสตร์สมัยใหม่)
มันหาว่าคนไทยคนเวียตเป็นขโมย ขโมยดินแดน ขโมยวัฒนธรรม บลาๆๆๆ ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอะไรดีเลย
ผมหมายถึงคนเขมรในโลกโซเชียลนะครับ คนเขมรทั่วๆไปเค้ายอมรับความจริงในโลกความเป็นจริงกันอยู่
การท่องเที่ยวเขมรก็ได้อานิสงค์จากไทยล่ะ คือไม่ค่อยมีต่างชาติคนไหนตั้งใจมาเที่ยวกัมพูชาแบบตรงๆเลย
ส่วนใหญ่จะมาเที่ยวไทยแล้วแวะไปเที่ยวที่นั่นโดยมีเป้าหมายแค่นครวัดเท่านั้นล่ะ ไม่ค่อยไปพนมเปญเท่าไร
ล่าสุดมียูทูปเบอร์ชาวอังกฤษมั้งเที่ยวไทย แล้วแวะไปกัมพูชาโดนโกงตั้งแต่เข้าประเทศไปจนถึงแท็กซี่
VIDEO
อยู่ไม่กี่วันรีบกลับไทยเลยทั้งๆที่มีแพลนเที่ยวเป็นอาทิตย์ ทำยูทูปออกมา ยังมีเกรียนเขมรมาด่าคนเจ้าของช่อง แถมเข้าข้างคนเขมรด้วยกัน
(ต่ำตมจริงๆ)
ส่วนเพื่อนบ้านอื่นเช่น
ลาว พม่า นี่เค้ามองการท่องเที่ยวไทยดีมาก มีแต่ความเห็นบวกๆไม่เป็นพวกขี้อิจฉาแบบปินส์และเขมร
ส่วน
สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศเหล่านี้ก็มองบวกเช่นกัน แถม สามประเทศนี้ชอบมาเที่ยวไทยและมีกำลังซื้อเยอะมาก
ส่วน
เวียตนาม อันนี้ขอแยกประเทศนี้ออกมาหน่อย เพราะความเห็นแตกกันเป็น 3 พวก คือ
1.
พวกเชียร์กีฬา พวกนี้อย่างที่เราสายกีฬาพอรู้ๆพวกนี้เกรียนสุด จะหาเหตุผลกับพวกนี้ไม่ได้ มันจะเอาชนะไทยให้ได้ทุกเรื่อง เสวนาไปก็ไม่จรรโลงใจ
2.
พวกเศรษฐกิจ พวกนี้ยอมรับความเป็นจริงนะว่าสู้ไทยไม่ได้ แต่กำลังพยายามอยู่ แล้วตั้งเป้า(แกมโม้นิดๆ)ว่าเศรษฐกิจจะแซงไทยให้ได้
หารู้ไม่ว่า GDP ไทยดีส่วนนึงเพราะมีลูกค้าอย่างเวียตนาม ที่นิยมสินค้าไทยไม่ว่าจะมาจากอุตสาหกรรมหรือการเกษตร
(ผลไม้ไทยเป็นที่นิยมมากในเวียตนาม ทั้งที่แพงกว่า และที่เวียตนามก็ปลูกได้ แต่ผลไม้ไทยขายดีกว่าผลไม้เวียตนาม)
VIDEO
ตั้งแต่เวียตนามเปิดประเทศไทยได้เปรียบดุลย์การค้าจากเวียตนามนามมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ทั้ง CP กลุ่มเซ็นทรัล และเบียร์ช้าง เข้าไปลงทุนเปิดกิจการในเวียตนามและประสบความสำเร็จสูง
คนเวียตนามนิยมกินเบียร์ Saigon ซึ่งถือว่าเป็นเบียร์ประจำชาติ ยอดขายกว่า 70% ในตลาดเวียตนาม
ตอนนี้เบียร์ ไซง่อน เป็นของเบียร์ช้างไปแล้ว เพราะไทยเบฟเข้าไปเทคโอเวอร์ ตอนนี้ทุกครั้งที่คนเวียตนามกินเบียร์ยี่ห้อนี้ เงินเข้ากระเป๋าคนไทย
พวกนี้ไม่สนการท่องเที่ยวไทยและเวียตนามเพราะมุ่งให้ประเทศตัวเองเป็นประเทศอุตสาหกรรมมากกว่าประเทศท่องเที่ยว
พวกนี้ไม่ค่อยเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรียกว่าไม่เป็นมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ต้อนรับไม่ต้องมาเที่ยว ประมาณนั้น
(นักทุนลงต่างชาติก็ไม่ค่อยต้อนรับอีก เอ๊า กลัวว่าจะเข้ามากอบโกย แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาลงทุน คิดสิ คิดสิ ชาวเวียต)
3.
พวกสายท่องเที่ยว พวกนี้ถือว่า คิดบวกกับไทยสุดๆ ชื่นชมกรุงเทพยอมรับว่าเจริญกว่าสองเมืองใหญ่ของตัวเอง
นอกจากชื่นชมกรุงเทพแล้ว ยังชอบมาเที่ยวกรุงเทพมากๆ(เน้นเที่ยวเฉพาะในกรุงเทพจริงๆไม่ไปต่างจังหวัด)
บางคนมาเดือนละครั้งเลย แบบว่าเป็นค่านิยมเหมือนคนไทยชอบเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น ประมาณนั้น
คนพอมีอันจะกิน เริ่มท่องเที่ยว จะเริ่มมาที่ไทย แล้วคนที่มาเที่ยวกรุงเทพคืออวดได้อ่ะ แบบเป็นค่านิยมไปแล้ว
VIDEO
คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้ คนเวียตนามเจนใหม่ๆ อายุไม่เกิน 40 ส่วนใหญ่จะคิดกับไทยในทางบวก เห็นไทยเป็นแบบอย่าง
เหมือนที่ไทยเห็นญี่ปุ่น เกาหลีเป็นแบบอย่าง อยากเจริญหรืออยากเป็นแบบนั้น
ในเวียตนามวงการบันเทิงรับอิทธิพลจากไทยมากกว่า รับจากจีนหรือเกาหลี เพราะเข้ากับแบบไทยได้ง่ายกว่า
ละครไทยหนังไทย เรื่องดังฉายทางช่องทีวีหลักของเวียตนาม รายการเกมโชว์ วาไรตี้ต่างๆ ซื้อลิขสิทธิ์จากไทยไปทำเองเยอะมากโดยเฉพาะของเวิร์คพอยซ์
เอาง่ายๆคนเวียตนามมองคนไทยดีกว่าคนไทยมองเวียตนามอ่ะ 55555+
เค้าไม่โกรธเราเรื่องเราให้เมกามาตั้งฐานทัพอากาศไปบอมบ์ประเทศเค้าในสงครามเวียตนาม
เพราะลุงโฮ(โฮจิมินต์) แกสอนลูกหลานในประเทศว่าคนไทยเป็นมิตร คือแกนิยมไทยอ่ะ อยู่ไทยเป็นสิบปี พูดไทยได้
บ้านแกในฮานอยก็สไตล์ไทยไม่ใช่สไตล์เวียตนาม
้(บ้านลุงโฮในฮานอย แกขอให้รัฐบาลสร้างแบบทรงไทย ไม่เอาแบบบ้านหรูๆอย่างผู้นำชาติอื่นๆ)
แถมตอนรบกับฝรั่งเศสก็ได้ไทยช่วย ลุงโฮเลยชอบคนไทยประเทศไทยมาก
(แบบไม่เป็นทางการ เพราะไทยก็เกลียดฝรั่งเศสที่จะเอาไทยเป็นผู้ผู้สงครามโลกครั้งที่ 2)
เราโดนปลูกฝังให้เกลียดเวียตนามเพราะเป็นคอมมิวนิสต์โดยผู้ปกครองสมั้ยนั้น เพราะกลัวไทยเป็นคอมมิวนิสต์
แล้วประเทศคอมมิวนิสต์ไม่เคยเอาระบอบกษัตริย์ ถ้าไทยเป็นคอมฯแล้ว ใครจะเดือดร้อนคนแรกล่ะ คิดเอา
(ไทยเลยมีการ Propaganda ว่าคอมฯเป็นผีร้าย ฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป บลาๆ ฯลฯ)
แต่ยุคสมัยมันผ่านไปแล้ว คิดส่วนนึงยังยึดติดกับ Propaganda เก่าๆอยู่ เลยยังคงมีความคิดเช่นนั้น
(เหมือนสอนให้เราเกลียดพม่า เพราะพม่าเข้ามาเผาเมืองอยุธยา)
(มันก็ไม่ต่างจากกัมพูชาสอนให้เกลียดไทย เพราะไทยปกครองเขมรร่วม 600 ปี)
อ่อ เวียตนามทั้ง 3 กลุ่มนี้ไม่ค่อยจะพูดนะว่าการท่องเที่ยวไทยมีดีแค่การขายตัว คงเพราะเวียตนามเองก็มี แถมสวยกว่าถูกกว่าอีก
(เขมรชอบพูดว่าการท่องเที่ยวทั้งไทย ทั้งเวียตนาม มีดีแค่การค้าประเวณี คงเพราะสาวเขมรสวยสู้ไทยกับเวียตไม่ได้มั้ง 5555+)
ผมเคยไปเที่ยวเวียตนามหลายวัน เถี่ยวถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฟองญา เที่ยวทะเลเวียตนาม
ยอมรับว่าสวยนะ สวยไม่แพ้ไทยเลย แต่เวียตนามไม่พร้อมเรื่องท่องเที่ยวเท่าไทย ระบบยังไม่โปรเท่าไทย
ผมเห็นแต่คนเวียตนามเที่ยวกันเอง ต่างชาติไม่ค่อยจะมี ฝรั่งมีบ้างแต่น้อย(มาก) แล้วเป็นคนฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่(ฟังจากภาษาที่พูด)
ส่วนความเห็นของฝรั่งเรื่องนี้นั้น ส่วนใหญ่แก้ต่างให้คนไทยด้วยซ้ำ
เค้าเองก็ไม่ชอบที่ปินส์กับเขมรพูดเช่นนั้น เพราะเหมือนดูถูกชาวตะวันตกว่าบ้ากาม(แบบยูซใน SS)
เค้าว่ากรุงเทพ ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 30 ล้านคน(ก่อนโควิดนะ)
ถ้านักท่องเที่ยวมาเพื่อการนั้น โสเภณีไทยต้องมีมากขนาดไหน ต้องทำงานหนักขนาดไหนที่จะให้บริการคน 30 ล้านคนได้ 5555+
ในความเป็นจริง นักท่องเที่ยวไทย ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว หรือมาเป็นหมู่คณะเพื่อนฝูง หรือเป็นคู่รักมาเที่ยวด้วยกัน
ซึ่งคนเหล่านี้แทบไม่มีการซื้อบริการทางเพศ ส่วนที่มาเที่ยวแบบคนเดียวมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะก็มีน้อยมากไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ
พวกที่ชอบพูดเรื่องนี้มาอ้างก็มีแต่ประเทศเพื่อนบ้านน่ารำคาญ ขี้อิจฉานั้นล่ะที่พูด
สรุป นะครับ จากมุมมองคนอายุ ครึ่งศตวรรษ เห็นกรุงเทพมาตั้งแต่ยุค 70 จนถึง ปี 2022
กรุงเทพเป็นเมืองที่ีดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ไม่ใช่แค่เจริญทันตามยุคสมัย แต่ผู้คนรุ่นใหม่ๆก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ
กรุงเทพยุค 70 อาจจะเป็นล้าหลังกว่าเมืองดังๆในยุโรป เช่น ลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน
(ผู้คนยุคก่อนก็เห็นแก่ตัวกว่านี้มาก ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเท่าไร)
แต่กรุงเทพยุค 2022 ทันสมัยพอๆกับ ลอนดอน ปารีส เบอร์ลิน ในบางเรื่องอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำไป
และกรุงเทพยังเจริญกว่าเมืองหลวงในยุโรปหลายๆประเทศอีกด้วย
กรุงเทพสะอาดขึ้น สะดวกสบายขึ้น น่าอยู่ขึ้น ผู้คนนิสัยดีขึ้นกว่ายุคก่อนเยอะ ไม่แปลกใจที่ต่างชาติจะติดใจ
ความเห็นส่วนตัวนะ ถ้ากรุงเทพเป็นประเทศๆนึง ระบบเศรษฐกิจ เป็นศูนย์กลางการเงินการค้า การท่องเที่ยว
โดยมีต่างจังหวัดที่เหลือเป็นอีกประเทศ ที่ค้าขายกับกรุงเทพ เป็นฐานการเกษตร ฐานการอุตสาหกรรม ไป
กรุงเทพเป็นประเทศศูนย์กลางการตลาดการค้าการท่องเที่ยวแบบ สิงคโปร์ ฮ่องกง ถ้าพูดแบบผิวเผิน
กรุงเทพก็เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อีกประเทศหนึ่งของเอเชียเลยล่ะ
ถ้าอาศัยอยู่ในกรุงเทพ แล้วมีเรทเงินเดือนแบบคนสิงคโปร์
ตีว่าแค่เดือนละ 5,000 $us (173,400 บาท) กรุงเทพก็เป็นเมืองสววรค์ล่ะครับ
ว่าจะพิมพ์ตอบสั้นๆดันยาวซะงั้น / ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ
ป.ล. ใครเป็นคนเจน X อายุไล่เลี่ยกับผม รบกวนเข้ามาเช็คอายุ เอ๊ย เข้ามาเสริมข้อมูลควาทรงจำกันหน่อยนะครับ
ป.ล.2 ผมพิมพ์รวดเดียวจบนะครับ มันยาวบางทีมีคำพิมพ์ผืดพิมพ์ตกหล่นไปบ้างในส่วนไหนก็ต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ