Face of anna
เพิ่งออกจากโรง รีบไปดู 100ขา กลัวกว่าจะออกจากโรงซะก่อน
แต่อย่าให้พูดถึงมันเลย
เรามาคุยเรื่อง แอน กันดีกว่า
ถ้าจะบอกว่า หนังในรอบปี 2 ปีนี้ ผมกล้าบอกเลยว่าเรื่องนี้ คือเรื่องที่กล้าทำมากที่สุด
มันเป็นหนังที่ไม่ใช่แนวตลาด อย่าง 4kings ยังแมสกว่า, ตลาดกว่า แล้ว 4kings ก็ไม่ได้ใช้ความกล้าอะไรมาก
แค่หนังที่เล่าเรื่องสังคมในอดีต ถ้าใครเคยใช้ชีวิตในช่วงนั้นก็อาจจะอินได้ไม่ยาก
----------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับเรื่องนี้ "แอน" โคตรกล้าทำ กล้าลุยกับหนังที่ตลาดใหญ่ไม่คุ้น ไม่เสพ
แต่หนังก็ฉลาดพอที่จะดึงดารา-นักแสดง วัยรุ่นที่อยู่ในกระแส เข้ามาแจม มาเล่นได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ในระยะ 5 ปีนี้
ผมค่อนข้าง anti กับหนังดีที่สื่อสารทางตรงไม่ได้ ถ้าจะบอกว่าเป็นหนังดี แต่คนดูไม่เข้าใจ ก็ถือว่าสื่อสารไม่ได้เรื่อง
แต่กับเรื่องนี้ ตัดมันทิ้งไปให้หมดว่าหนังมันแฝงอะไรมาบ้าง ไม่ต้องไปสนใจ
เพราะหนังมันมีเรื่องราวที่สื่อสารได้โดยตรง พร้อมที่จะให้เรามีสมาธิและสนุกไปกับมันได้โดยไม่ต้องใช้สมองอะไรตีความมากมาย
เฉพาะส่วนที่สื่อสารออกมานะ
แต่ส่วนที่แฝงไว้ ดูหนังเสร็จค่อยมาตีความอีกทีก็เป็นอะไรที่ สนุกต่อเนื่องไปเพิ่มไปอีก
หนังมีจุดหลุดที่หาคำอธิบายในเนื้อเรื่องลำบากบ้าง (ต้องมาตีความเอาเองอีกที)
แต่ส่วนใหญ่ เก็บรายละเอียดได้ครบหมด
เล่าเข้าเนื้อเรื่องไม่ได้นะครับ เพราะสปอยล์ทันที ซึ่งถ้าใครดูแล้ว ผมสรุปให้สั้น ๆ ว่า พล๊อตไม่มีอะไรซับซ้อนเลย
แต่หนังมีความฉลาดในการเล่าเรื่องที่ดีมากกกกกกกกกกกกก
เห็นบางคนบอกว่าหนังมีข้อเสียตรงที่ เปลี่ยนนักแสดงเยอะมาก ทำให้ไม่รู้สึกผูกพันธ์กับตัวละคร
แต่สำหรับผม, ผมมองว่าเป็นจุดดี ที่เราต้องใช้สมาธิในการคิดไปกับตัวละครว่าตอนนี้กำลังอะไรอยู่ ใครโผล่มา เหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง
----------------------------------------------------------------------------------------
ตอนผมดูหนัง ผมมีความรู้สึกได้ถึงอารมณ์หนัง Sucker Punch ของแซ็ค ชไนเดอร์ และมีกลิ่นเล็ก ๆ ของ Edge of Tomorrow ที่ทอม แฮงค์เล่น
----------------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีคะแนนให้ แต่บอกได้แค่ว่า โคตรชอบ !!!