นิการากัวไล่เอกอัครราชทูตตะวันตก แข็งข้อกับอเมริกา มากขึ้น

BLOG BOARD_B

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com

ไว้คราวหน้า X

ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย

ไปหน้าที่ 1

ไปที่หน้า

ตั้งกระทู้ใหม่

ฝากรูป

หน้าแรกบอร์ด >> บอร์ดวาไรตี้

ผู้ตั้ง

ข้อความ

ออนไลน์

ปีศาจแดงดำ

หัวหน้าแมวมอง

Status:

: 2 ใบ

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 01 Dec 2013

ตอบ: 39233

ที่อยู่:

โพสเมื่อ: Sun Oct 02, 2022 13:18

นิการากัวไล่เอกอัครราชทูตตะวันตก แข็งข้อกับอเมริกา มากขึ้น

ภาพแผนที่ประเทศนิการากัว ในช่องสีเหลืองส้ม

ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลนิการากัวภายใต้การนำของประธานาธิบดี แดเนียล ออร์เตกา ได้สร้างความกังวลทางการเมืองและการทูตเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีการ

- ประกาศให้เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป เบตตินา มุสไชด์ เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา (persona non grata) และต้องเดินทางออกจากประเทศทันที

- สั่งตัดสัญญาณภาพ CNN en Español

- ลงนามสัญญาระหว่างสปุตนิก บริษัทสื่อมวลชนรัสเซีย และสภาการสื่อสารและพลเมืองแห่งนิการากัว ทำให้มีการออกอากาศรายการต่าง ๆ ของสปุตนิกได้ทั่วประเทศ โดยผู้ประสานงานสื่อ แดเนียล เอ็ดมุนโด ออร์เตกา มูริลโล บุตรชายของประธานาธิบดี เป็นผู้ลงนาม

- ประกาศไม่ต้อนรับว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ ฮิวโก โรดริเกซ โดยระบุว่าเพื่อป้องกันการแทรกแซงจาก "พวกจักรวรรดินิยม" หลังโรดริเกซวิจารณ์รัฐบาลนิการากัว

- ประชุมทวิภาคีเพื่อความร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนิการากัว เดนิส มอนคาดา ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ หลังนิการากัวรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนได้ครบ 1 ปี

- กล่าวหาว่าคริสตจักรคาทอลิกนั้นเป็นรัฐเผด็จการ โดยเหล่านักบวชนั้นล้วนเป็น "นักฆ่า" และ "ผู้วางแผนรัฐประหาร" ที่ทำงานให้กับ "จักรวรรดินิยมอเมริกัน" มีส่วนรับผิดชอบในความโหดเหี้ยมของศาลศาสนาสเปน และการกดขี่ชนพื้นเมืองแคนาดา

- ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเนเธอร์แลนด์ โดยกล่าวถึง "การก้าวก่าย การแทรกแซง และลัทธิล่าอาณานิคมยุคใหม่"

นับตั้งแต่การประท้วงเมื่อปี 2018 รัฐบาลออร์เตกาได้ดำเนินการปราบปรามผู้ต่อต้านอย่างหนักหน่วง มีการบัญญัติกฎหมายฉบับใหม่ ๆ เพื่อกวาดล้างองค์กรนอกภาครัฐ (NGO) และกลุ่มศาสนจักรที่รัฐเชื่อว่าสนับสนุนการประท้วง สมาชิกฝ่ายค้านจำนวนมากถูกจับกุมก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 จนประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งห้ามออร์เตกาและสมาชิกรัฐบาลนิการากัวเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในเดือนเดียวกัน

Spoil

ที่มา : https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles/posts/1609050352847844/

ทางนิการากัว ก่อนหน้านี้ก็เล่นของใหญ่จะดึงกองทัพรัสเซียเข้าประเทศนิการากัว ขู่อเมริกา แต่ไปๆมาๆ ดูตอนนี้อเมริกายังเงียบๆอยู่ กองทัพเรือที่ 2 กับ กองเรือที่ 3 ของอเมริกายังไม่เคลื่อนไหวอะไร ก็แสดงว่า รู้ว่าทั้งคู่ ยังไม่กล้าจะทำตอนนี้ ต่อให้รัสเซียไม่เกิดสงคราม ก็คงจะเลือกเลี่ยงไม่ทำอยู่ดี เหตุการณ์ที่คิวบา คงจะยากที่จะใช้ไม้นำขีปนาวุธ หรือ กองทัพ เข้ามาในภูมิภาคละตินอเมริกาละ ยังไงอเมริกาก็มีบทเรียนแล้ว

จะดึงจีน ทางจีนก็ยังพยายามครอบงำเศรษฐกิจนิการากัวอยู่ แต่จะดึงกองทัพเข้ามา ก็คงจะเกินตัวเกินไป เพราะ ยังไงซะ หน้าบ้านตัวเองอย่าง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย เวียดนาม ญี่ปุ่น สำคัญกว่า ต้องจัดการพวกนี้ก่อน

ลำพังจะค้าขายกับเพื่อนบ้านอย่าง ฮอนดูรัส คอสตาริกา กับ เอล ซัลวาดอร์ เป็นหมาที่เชื่องกระดิกหางสำหรับอเมริกาอยู่ ที่ยังจูงคอ จูงจมูกได้อยู่ ก็แสดงท่าทีว่า ไม่ขอคบค้า เลือกภักดีต่อกับอเมริกาต่อ เลือกไม่ยอมเจ็บตัวดีกว่า

ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาที่เคยอ่าน อเมริกาเอาจริง สำหรับกองทัพต่างค่าย ที่เข้ามายังทวีปอเมริกาเหนือ กับ อเมริกาใต้ จะถือได้ว่าเป็นการประกาศสงครามกับอเมริกา โดยที่ไม่ได้ประกาศเป็นทางการ ยังไงอเมริกาจะไม่ยอมให้ภูมิภาคนี้ มีชาติอื่นเข้ามามีอิทธิพลแม้แต่ประเทศเดียว ถ้าถึงขั้นใช้นิวเคลียร์ก็จะใช้แบบที่คิวบา ไม่งั้นไอสิ่งที่อเมริกาทำมา 100 กว่าปี จะสูญเปล่า และอิทธิพลอเมริกาจะเสื่อม แต่ละชาติในภูมิภาคละตินอเมริกา จะกล้างัดข้ออเมริกามากขึ้น

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

sungkabuay , ศาสตราจารย์ , loppy123 , extinction , บรรจงร้อยมาลัย

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ