แบบที่ 1 หนังที่ดูแล้วย่อยง่าย ไม่ต้องคิดตามเยอะ ขนาดลุกขึ้นไปทำธุระแล้วกลับมาดูต่อยังตามเนื้อเรื่องทัน

แบบที่ 2 หนังที่ต้องตั้งใจดูถึงจะเข้าใจและสนุกไปกับเนื้อเรื่อง มีให้คิดตามบ้างบางฉากสำคัญ

แบบที่ 3 หนังที่การเดินเรื่องมีความซับซ้อน ตัดเหตุการณ์สลับไปมา หรือเน้นเชิงปรัชญา ต้องใช้สมองวิเคราะห์และคิดตามแบบหนัก ถึงจะเข้าใจเนื้อหา

2ครับ กำลังดี ประมาณพวกหนังมาร์เวล หรือหนังเกาหลีหลายๆเรื่อง มีความซับซ้อนนิดหน่อยแต่ยังเข้าใจได้ถ้าตั้งใจดู

แล้วแต่สถานที่ดูถ้าดูในโรงจะชอบแบบที่ 3 เพราะมีสมาธิกับหนังได้เต็มที่ แต่ถ้าอยู่บ้านจะเน้น 1 เปิดไปทำอย่างอื่นไปด้วย

ผมขออนุญาตเพิ่ม "แบบที่ 4" นะครับ
เป็นความเห็นของ เควนติน ทาแรนติโน่ ที่ให้เลือก "ลุงบุญมีระลึกชาติ"
ได้รางวัล ปาล์ม ทองคำ เทศกาลหนังเมืองคานส์

"ผมไม่เข้าใจหนังเรื่องนี้เลยว่าจะบอกอะไร แต่ผมชอบมันมาก ๆ มันทำให้ผมนึกถึงหมาของผมที่ตายไป"

ผมแปลมานะครับ เควนติน พูดไทยไม่ได้

ที่ผมจะสื่อคือ มันมีหนังบางประเภทที่เราอาจจะรู้สึกไม่รู้เรื่องเลย แต่เราก็ชอบมันมาก ๆ

หนังยุโรปหลายเรื่องมากที่ผมดูแบบไม่เข้าใจเลย ไม่คิดตามด้วย ไม่สนุก ไม่เข้าใจ แต่ชอบ

พอชอบแล้วค่อยไปหาอ่านรีวิวจากต่างประเทศเอา

แล้วค่อยไปดูใหม่อีกครั้ง

แบบที่ 1 โดยเฉพาะหนังของ โจว ซิงฉือ, จิม แครี่, อดัม แซนเลอร์

เมื่อก่อน1 แต่พอดูหนังไปจำนวนมากๆ แล้ว เลือก 3 แน่นอนครับ Top 100 imdb ผมจัดไป 70% ละ บางเรื่องก็หาดูยากเกิ้น

อย่าง No Country for Old Men นี้ถือว่าอยู่ข้อไหนครับ ผมดูแบบเพลินมากแต่พอจบแบบอ้าวเอางี้เลยหรอ

ชอบหนังแนวตลก ไม่ว่าจะไทยหรือเทศ ดูได้หมด

ชอบย่อยง่ายฮะ แต่ไม่ใช่ง่อยๆ

ถ้าดูหนังแบบคนแสดงจะชอบแบบไม่ซีเรียสเลยครับ เอาฮา เกรียนๆ จังไรไปเลย

ถ้าซีเรียสจะดูเป็นแนวสารคดีไปเลย

ล่าสุด ดู บ่มีวันจาก ไป ซํบซ้อน งุนงงแต่หนังตีความได้เยอะดี หลายมุมมอง

บันเทิงหมดครับ ถ้าทำถึงนะ

ดูวนแนวเลยอะผม กดแอดๆไว้แล้วสลับเลือกสลับดูไป

ชอบหนังแนวพูดตุยกันอย่างเดียวเลย โลเคชั่นเดียว

หนังแบบนี้จะทำออกมาต้องเจ๋งจริงถึงจะทำออกมาได้

ไม่ต้องอาศัยแอ็คติ้งเยอะ ไม่ต้องอาศัย CGi ไม่ต้องอาศัยฉากอลังการ

อาศัยแค่บท กับพล็อตเรื่องที่จะนำเสนอเรื่องอะไร

ยกตัวอย่างเช่นหนังเรื่องนี้ The Man from Earth


แค่คุยกันในห้องรับแขกมันก็ทำให้เราดูจนจบและชอบมากๆได้


หรือหนังเก่าหน่อยแต่โคตรดี ใครชอบหนังแนวนี้พลาดไม่ได้คือ 12 angry men


ลูกขุน 12 คนกำลังพิจารณาความผิดของผู้ต้องหา ทั้ง 12 คนต่างเป็นตัวแทนของคนนิสัยแต่ละแบบ

จะบอกให้มีคนนึงนิสัยแบบพวกสลิ่มเลย คือไม่มีเหตุผลห่าอะไร Bias อย่างเดียว



กับพวกหนังที่สร้างมาจากนิยายของ จอห์น กริแช่ม ที่เกี่ยวกับการขึ้นโรงขึ้นศาล เฉือดเฉือนคำพูดกันอย่างเรื่อง
- A Time to Kill
- The Firm
- The Client
- The Pelican Brief

ชอบหนังแนวนี้มากกว่าหนังแอ็คชั่นยิงกันตูมตาม ดูแนวนี้มันได้คิดตาม มันบันเทิงสมองกว่า

ป.ล. ชอบดูสารคดีมากกว่าดูหนัง ดูสารคดีสำหรับผมมันบันเทิงมาก ชอบดูสารคดีตั้งแต่เด็กๆแล้ว ชอบมากกว่าดูการ์ตูนอีก

หนังที่ต้องใช้ประสบการณ์ของผู้ดูประกอบอ่ะ
คือเสพย์แล้วเราต้องเห็นตัวเองในนั้น ซึ่งมันออกหน้าไหน
ก็ได้ในสามข้อนี้ ยกตัวอย่าง ฟอเรสกั๊ม คุณยายผมดีที่สึดในโลก
Parasite