ปกติแล้วเวลาเราจะพูดถึงยุคของนักบอล
ทุกคนมักจะนับเป็นทศวรรษ เช่น 2000s , 2010s
แต่สำหรับผมช่วงเวลา 10 ปีนี้คือช่วงเวลาที่ผมจริงจังกับฟุตบอลมาก
เรียกได้ว่าติดตามตลอด โตมาด้วยกัน
จำนักเตะได้เกือบทุกทีม
ทำให้เวลาเล่นเกมพวก PES หรือ Fifa เราจะมีชื่อนักเตะในหัวแทบทุกตำแหน่ง
ว่ากันตรงๆคือความสนใจบอลฟุตบอลผมหลังจากปี 2015 ก็ได้ลดลงไป
จากทั้งหน้าที่การงานที่มากขึ้น + ทีมรัก(ปืนใหญ่) เริ่มเข้าสู่ยุคมืด
สำหรับโลกฟุตบอลยุคนี้ก็ถือว่ามีโมเมนต์น่าจดจำมากมาย
จนเป็นที่มาของคำศัพท์ฟุตบอลหลายๆคำในปัจจุบัน
รวมถึงเป็นช่วงที่ฉายาต่างๆของนักบอลที่สื่อเราใช้ในปัจจุบัน
ก็ถูกสร้างมามากมายซึ่งต้นตอก็มาจากเว็บแห่งนี้นี่เอง
อาทิ ต่างดาว (บาร์ซ่า) , ไอติม(แรมซี่ย์) ,
, หมู (รูนี่) , รวมถึง ทีมรวมโปรต่างๆของเชลซี
กับรวม นักเตะหล่อต่างๆของอาร์เซน่อล
หม่อมกัด , etc
กลับมาที่เรื่องฟุตบอลช่วง 10 ปีนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ขอสรุปเป็น 10 ข้อเลยคือ
1.) ยุคของ BIG4 ในพรีเมียร์ลีกก่อนที่ช่วงปลายๆจะมี man city มาร่วมวง
หากใครจำได้ มีช่วงนึงที่บอลอังกฤษเจอกันเองรอบลึกๆ UCL บ่อยมาก
จนตอนนั้นสัมประสิทธ์ลีกทิ้งลีกอื่นไม่เห็นฝุ่น
2.) ยุคต่างดาวครองโลกทั้งในลีก และ บอลทีมชาติ (สเปนกดไป 3 แชมป์ต่อเนื่อง)
ฟุตบอลสไตล์ Tiki Taka เป็นที่นิยมมากขึ้น
และ พัฒนามาเป็นแนวทางการเล่นหลักของหลายทีมในปัจจุบัน
ทั้งนี้สาเหตุเกิดจาก ทีมชาติสเปน ใช้สูตรนี้ครองโลกอยู่ช่วงนึงนั่นเอง
ก่อนที่จะมีการสร้างระบบการเล่นแบบ Jurgen pressing
ที่เอามาสู้กับระบบนี้โดย Jurgen Klopp และ ก็ยังเป็นระบบที่นิยมไม่แพ้กันในปัจจุบัน
(จุดเริ่มต้นผมว่าน่าจะจากปี 2011-2013 ที่บอลเยอรมันมาแรงมาก
คุ้นๆว่ามีปีนึงที่บาร์ซ่าโดนล่อไป 7-0 จากบาเยิน เป็นที่มาของระบบนี้)
ก่อนที่จะตอบย้ำระบบนี้ว่าพร้อมแล้วที่จะมาชนกับ TIKI TAKA
จาการคว้าแชมป์โลกของเยอรมันในปี 2014
3.) อาร์เซน่อล กับ แมนยู ยังอยู่ในระดับ Top ของยุโรป
สามารถเข้ารอบลึกๆ UCL ได้ตลอด และสำหรับแมนยู
นี่คือ 10 ปีสุดท้ายในชีวิตภายใต้การทำงานของเฟอร์กี่
อาจจะเรียกได้ว่า 10 ปีสุดท้ายแห่งความยิ่งใหญ่ของแมนยู
รวมถึงเป็นจุดกำเนิดยอดนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คนนึง
เค้าก็คือ Cristiano Ronaldo นั่นเอง
4.) เดอะ สเปเชี่ยล วัน โจเซ่ มูริญโญ่ ชื่อนี้ไม่พูดคงไม่ได้
เพราะ 10 ปีนี้คือ 10 ปีที่เค้าโลดแล่น
และสร้างสีสันบนเวทียุโรปมากมาย
จากปอร์โต้ -> เชลซี-> อินเตอร์ -> รีล มาดริด
ไม่มีที่ไหนไปแล้วไม่ได้แชมป์ แถมกดถ้วยยุโรปได้ถึง 2 ครั้ง
5. ) Serie A italy มีความสนุกและสูสี
เป็นยุคที่บอล italy ยังสร้างสีสันบนเวทียุโรป
2 ทีมจาก Milan มียุคที่ผลัดกันยิ่งใหญ่
และสามารถสู้กับ Juventus ได้ดี
เป็นยุคที่มียอดนักเตะแห่งยุคจุติมาคนนึงนามว่า Kaka
ผู้สร้างตำนานผีกาก้า และเป็นมนุษย์คนสุดท้ายที่ได้ Ballon dor
ก่อนที่จะมาถูกทำลายได้ในปี 2018 ด้วยยอดกองกลางอีกคน Luka modric
ยุคนี้ยังมี Roma ของ Totti กับ De rossi คอยตัดแข้ง-ขา
Napoli พึ่งเริ่มตื่นขึ้นมาในช่วงครึ่งหลังของ 10ปีนี้
6.) la liga สเปนเข้าสู่ยุคต่างดาวเต็มตัว
กับการมาของชายชื่อ Messi
ต่อด้วยการเกิดระบบฟุตบอลแบบ tiki taka จากชายชื่อ เป๊บ
เป็นยุคที่รีล มาดริดมีการเปลี่ยนถ่ายเลือด
และขาดวงโคจรบอลยุโรปไปพักนึง (ตกรอบ 16ทีม 9ปีติด)
ก่อนจะเริ่มกลับมาทวงบัลลังค์หลังได้ชายชื่อ cristiano ronaldo มาร่วมทีม
อย่างไรก็ดี มีทีมนึงที่ลืมไม่ได้เลยคือ Valencia นั่นเอง
แม้ว่าช่วงตั้งแต่ปี 2004 ทีมนี้จะเริ่ม drop
แต่ก็ยังเป็นแหล่งสร้างนักเตะชั้นยอดออกมา และ นักเตะเหล่านี้
ก็ยังช่วยทำให้ทีมยืนระยะได้ทั้ง David villa , David silva , Vicente , Mata
Albeda , Baraja
6.) ยุคที่บอลฝรั่งเศส = ลียง ลงเป็นยิง / ปารีสยังไม่เกิด
เรียกได้ว่าผูกขาดเลยสำหรับ ลียง ยุคนี้
ในบอลยุโรป ก็ถือว่าไม่น่าเกลียด สามารถสู้กับทีมลีกอื่นพอได้บ้าง
และเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางความยิ่งใหญ่
ของกองหน้าว่าที่ Ballon dor ปีนี้ Karim Benzema
อีกทีมที่ต้องพูดถึงคือ OM Olympic Marseille
เพราะว่ายุคนี้คือยุคที่ทีมนี้สร้างผู้เล่นชื่อดังออกมามากมาย
มีทั้งระดับโลก อย่าง ริเบรี่
ระดับแชมป์ลีก อย่าง นาสรี่
และ ก็มีคนที่ไปไม่สุด และเป็นที่น่าเสียดายอย่าง เบน อาร์กฟา
7.) Bundesliga แย่งชิงกันสนุกมาก
และ Bayern ไม่ได้ผูกขาดเหมือนทุกวันนี้
หากจำได้ช่วงนั้นมีทั้ง Bremen , Stutgart , Wolfburg , Laverkusen , Schalke04
ที่วนเวียนแย่งแชมป์รวมถึง
เป็นช่วงแจ้งเกิดของยอดกุนซือชาว เยอรมัน อย่าง Jurgen Klopp
ที่พาดอร์ทมุนต์กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ที่ห่างหายไปกว่า 10 ปี
และทำให้ทีมนี้ยังอยู่ในระดับแข่งบอลยุโรป หลังจากที่ห่างไปหลายปีจนถึงทุกวันนี้
ขณะเดียวกันนักเตะในลีกนี้ไม่พูดถึงไม่ได้
เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของนักเตะหลายคนที่เป็นแกนหลักความแชมป์โลกในปี 2014
ทั้ง Ozil , Kross , Khedira , Muller , Neuer , Hummel
8.) ยุคที่บอลอยู่เปลี่ยนผ่านจากบอล 4-4-2 => 4-4-3 => Tiki Taka เป๊บ /3-5-2 คอนเต้ / Jurgen pressing
โดยปัจจุบันคงพูดได้เต็มปากว่าเป็นจุดเข้าสู่ยุคอวสานของแผน 4-4-2
แผนที่ครองยุค1990-200s
แผนที่ยอดฮิต และ เป็นที่มาของชื่อเพจ นิตยสารต่างๆ
กล่าวคือยุคนี้เป็นยุคที่กองกลาง 2 คนไม่ตอบโจทย์
เพราะช่องว่างอันใหญ่ระหว่างกองกลางและหลัง
ได้ถูกทีมชื่อ Barcelona ฉีกเป็นชิ้นๆ
กองกลางยุคนี้จะไม่ใช่แนว classic เบอร์ 10 / 7
แบบ ซีดาน กาก้า หรือ โรนัลดินโญ่
แต่จะเน้นการเป็นห้องเครื่องมากขึ้น เน้นครองบอล ครองเกมส์
นักเตะ Box 2 Box มีความสำคัญอย่างมากในการคุมเกมส์
กล่าวคือกองกลาง 3 คนสามารถ rotation กันได้เวลาบุก หรือ รับ
หากนึกไม่ออกให้นึกถึง Barca ที่มี Xavi/Iniesta/ Busquet
หรือ ก็ Real madrid ที่มี Modric, Kross และ Kasemiro
9.)แต่ละสโมสรมี star ที่โดดเด่นกว่าคนอื่น
และ Star ยังปักหลักกับทีมเดิมนับ 10 ปี จนเป็น Icon สโมสร
อาทิ JT , Lampard , Gerrard , Rooney , Totti , Xavi , Iniesta
Casillas , Del piero , Buffon etc
ทีมเล็กยังดึงดูดสตาร์ระดับโลกได้
10.)ยุคที่เงินยังถูกมองว่าซื้อแชมป์ได้ แต่ซื้อเกียรติไม่ได้
แน่นอนว่าปลายยุคนี้ หลายทีมเริ่มไขว่คว้าความสำเร็จ
จากการสร้างทีมด้วยเม็ดเงินอันมหาศาล
ทั้ง Man city หรือ PSG ก็เริ่มครองความยิ่งใหญ่จากจุดเริ่มต้นนี้
ทว่าพอผ่านมาถึงทุกวันนี้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้ง 2 ทีมนี้คือยอดทีมในฟุตบอลเวทียุโรปในปัจจุบัน
โดยเฉพาะ Man city ที่ทุกวันนี้แทบจะไม่ทุ่มเงินซื้อสตาร์เหมือนก่อนแล้ว
และเน้นผลักดันเยาวชนมากขึ้น
ใครจะไปเชื่อว่าทุกวันนี้ Man city จะมีระบบทีมที่ดีมาก
และน่าจะยืนระยะได้อีกอย่างน้อย 5-10 ปี
หากไม่ได้มีเหตุให้เปลี่ยนแนวทางการทำทีม
จบตอนแรกครับ สำหรับบทความฟุตบอลในรอบหลายปีของผม
ตอนถัดไปเดี๋ยวจะมาพูดถึงนักเตะในดวงใจผมกัน