[RE: เงียบสิมรึง...’หนูน’ ตบเกรียนเหมา 4 หงส์’ อุ่นสบายแฮ 5-0]
SPuRsKiDzZ พิมพ์ว่า:
GOSSIPMAN11 พิมพ์ว่า:
SPuRsKiDzZ พิมพ์ว่า:
GOSSIPMAN11 พิมพ์ว่า:
SPuRsKiDzZ พิมพ์ว่า:
เข้ามาเพิ่งเห็นหัวข้อข่าว คือแบบ เหมือนคำพูดคนเก็บกดที่ต้องการตอบโต้ใครสักคน คือ แบบนี้ก็ได้หรอ หัวข้อข่าวเว็บ ssเดี๋ยวนี้มันลามล้ำเส้นไปรึป่าว มันเกินคำว่าแซะแบบมีศิลปะ หรือเรียกเสียงฮาแล้ว ออกแนวขาดวุฒิภาวะรึป่าวครับ ฝากหน่อย ขนาดผมไม่เกี่ยวกับแฟนคู่อริ สาดตาดูยังขัดใจเลย
นักข่าวฝั่งแมนยูเองหนิ จะมาเก็บกงเก็บกดอะไรอาจจะอยากได้ทราฟฟิกจากฝั่งตัวเองให้เว็บหน่อย ทำตามหน้าที่แหละ แต่พวกบ่นลืมดูว่านักข่าวฝั่งแมนยูเองเป็นคนปั่น ดันปั่นขึ้นสะด้วย พอดีผมไม่รู้นะครับว่าเค้าฝั่งไหน ผมแค่ติงหัวข้อ มันส่อไปให้ผมคิดแบบนั้นเฉยๆ แค่ความเหมาะสมของคำพูด มันไม่ใช่เชิงแซะเอาฮาเหมือนเมื่อก่อนละ ต่อให้จะเป็นฝั่งไหน ถึงจะด้วยเหตุผลอะไรก้ตาม ผมว่ามันเกินไปหน่อยจะแซะทีมตัวเองหรือว่าทีมคู่แข่ง หรือคุณบอกว่าเหมาะสมและเห็นด้วยแล้วกับหัวข้อ ? อันนี้ถามกลับเฉยๆ
ในความคิดผมนะคนอื่นไม่รู้ SS เนี่ยเปรียบได้กับเพื่อน เข้ามาคุยกับเพื่อนๆอ่านข่าวสารกับเพื่อนๆ แต่บังเอิญมันมีเพื่อนที่เชียร์คนละฝั่ง ก็ล้อกันไปมา.....คำถามว่าซีเรียสจริงจังกันขนาดนั้นจริงๆหรอ?
อยู่กับเพื่อนออกสาธารณะคุยกันเกี่ยวกับบอล ใช้คำพูดหนักกว่านี้ยังขำเลยๆ....อันนี้ก็มีแต่พวกเล่น SS กันทั้งนั้นที่เข้ามาอ่าน แค่นี้จริงจังเป็นประเด็น บอบบางกันขนาดนั้นเลย ผมอ่านคอมเม้นพวกด่านักข่าวแล้วขำ จะอ๊วกมากกว่า แค่นี้ทำรับไม่ได้เนี่ยนะ
เอาเป็นว่าผมเฉยๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากกมาย....กับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เด็กออกสื่อโซเชียลทั้ง ยูทูป ติ๊กต๊อก ทำคลิปสาธารณะ เจอศัพท์แปลกใหม่ เก่าๆ มีให้เห็นไปหมด โลกมันเปิดกว้างเสรีทางความคิดไปไหนต่อไหนแล้ว
มาหยุมหยิมกับหัวข้อข่าวที่รู้อยู๋แล้วว่าเค้าต้องการทำคอนเท้นต์ ทำทราฟฟิกในงานของเค้า แล้วมานั่งเดือดดานหัวร้อนเอง เขร้ สมเพชมากกว่า เอาจริงๆ จริงจังเกินไป แยกแยะอ่ะ แยกแยะให้ออกแค่นั้นแหละ ถ้านั่นเป็นตรรกะที่ใช้อธิบายเหตุผลในแบบของคุณถึงความเหมาะสม ก็ให้มันแสดงตัวตนของคุณผ่านทางคำพูดละกัน ผมว่ามันมีคำตอบในตัวเองอยู่แล้วว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะแย้ง ถ้าหลักความคิดและวิธีคิดเบื้องต้นในการมองถึงความเหมาะสมของเปรียบเทียบด้วยเหตุการณ์ในแบบที่คุณมองว่าเป็นมาตรฐาน ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ เพราะไม่ใช่การแนะนำ มันเป็นเป็นสิทธิ์ของหลายคนที่จะเลือกมองต่างกัน เพราะว่าใช้ชีวิตในพื้นที่และเสพสื่้อหรือสารที่ต่างกัน คงใช้มาตรฐานเดียวมาวัดไม่ได้ ให้คำพูดมันตอบแทนวิธีคิดของแต่ละคนละกันครับ
บางคนที่ผ่านการหล่อหลอมเลี้ยงดูในสังคมอีกแบบมาตลอดชีวิตก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งที่พูดที่ทำบางอย่างมันไม่ใช่เรื่องปกติในสังคมทั่วไป
อย่างการการพูดมีงกูกับเพื่อนสนิทคนใกล้ชิดมันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ในสังคมสาธารณะมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ก็แค่นั้น ไม่เห็นเข้าใจยาก เพื่อนสนิทผมมาพูดมึงกูด้วยผมก็ไม่ว่าอะไรนะคือเป็นเรื่องปกติ แต่คุณไม่ใช่เพื่อนผม ไม่ได้พูดในที่ส่วนตัว อย่างนี้มันหยาบคาย เรื่องแค่นี้ไม่เห็นเข้าใจยาก แต่ก็ยังไม่เข้าใจและก็คงไม่เข้าใจเพราะพื้นฐานสังคมมันต่างกันนั่นเหละครับ