เจ๊แขกตรูไม่ได้บ้งไรหรอก พวกคุณยอมรับไหมล่ะว่าความคิดของพวกคุณมันสุดโต่งไป แนวร่วมนับวันยิ่งเหลือน้อยลงๆทั้งๆที่ก็เริ่มมาดีแล้วคนจำนวนมากก็เห็นด้วยแล้ว เจ๊ก็เลยอยากเตือนสติว่าอะไรที่มันหัวชนฝาไปซะทุกเรื่องก็มีแต่วิ่งเข้าหากำแพง ผ่อนคันเร่งแล้วหันมาทบทวนกันหน่อยไหม

แล้วชอบจริงๆเอาวรรคนู้นมาจับเชื่อมโยงกับวรรคนี้ แล้วบอกแขกจบแล้ว แขกบ้งแล้ว การที่จะวิเคราะห์เรื่องทางการเมืองสิ่งที่เจ๊แกเอามาพูดดูแค่ประโยคไม่ได้ต้องดูบริบทในช่วง ณ ขณะนั้นด้วย แล้วมาดูที่ภาพใหญ่แกเปลี่ยนไปไหม ใช่ว่าตอนนี้แขกย้ายขั้วไปซบใต้เท้าหนุนเชียร์พวกเผด็จการซะหน่อยแค่ไม่ถูกใจหน่อยก็ออกมาแซะกันแล้วเรื่องมันเลยบานปลานไงละจร่ะ ผมก็เลยวกกลับมาเรื่องเดิมนะ คิดอะไร ทำอะไรทางการเมืองก็ต้องรู้จักพลิกแผลงกับบริบท สภาพแวดล้อม ไม่ใช่มาตีความแบบภาษาไทยป.1

 

เจ๊แขกตรูไม่ได้บ้งไรหรอก พวกคุณยอมรับไหมล่ะว่าความคิดของพวกคุณมันสุดโต่งไป แนวร่วมนับวันยิ่งเหลือน้อยลงๆทั้งๆที่ก็เริ่มมาดีแล้วคนจำนวนมากก็เห็นด้วยแล้ว เจ๊ก็เลยอยากเตือนสติว่าอะไรที่มันหัวชนฝาไปซะทุกเรื่องก็มีแต่วิ่งเข้าหากำแพง ผ่อนคันเร่งแล้วหันมาทบทวนกันหน่อยไหม

แล้วชอบจริงๆเอาวรรคนู้นมาจับเชื่อมโยงกับวรรคนี้ แล้วบอกแขกจบแล้ว แขกบ้งแล้ว การที่จะวิเคราะห์เรื่องทางการเมืองสิ่งที่เจ๊แกเอามาพูดดูแค่ประโยคไม่ได้ต้องดูบริบทในช่วง ณ ขณะนั้นด้วย แล้วมาดูที่ภาพใหญ่แกเปลี่ยนไปไหม ใช่ว่าตอนนี้แขกย้ายขั้วไปซบใต้เท้าหนุนเชียร์พวกเผด็จการซะหน่อยแค่ไม่ถูกใจหน่อยก็ออกมาแซะกันแล้วเรื่องมันเลยบานปลานไงละจร่ะ ผมก็เลยวกกลับมาเรื่องเดิมนะ คิดอะไร ทำอะไรทางการเมืองก็ต้องรู้จักพลิกแผลงกับบริบท สภาพแวดล้อม ไม่ใช่มาตีความแบบภาษาไทยป.1

 

เจ๊แขกตรูไม่ได้บ้งไรหรอก พวกคุณยอมรับไหมล่ะว่าความคิดของพวกคุณมันสุดโต่งไป แนวร่วมนับวันยิ่งเหลือน้อยลงๆทั้งๆที่ก็เริ่มมาดีแล้วคนจำนวนมากก็เห็นด้วยแล้ว เจ๊ก็เลยอยากเตือนสติว่าอะไรที่มันหัวชนฝาไปซะทุกเรื่องก็มีแต่วิ่งเข้าหากำแพง ผ่อนคันเร่งแล้วหันมาทบทวนกันหน่อยไหม

แล้วชอบจริงๆเอาวรรคนู้นมาจับเชื่อมโยงกับวรรคนี้ แล้วบอกแขกจบแล้ว แขกบ้งแล้ว การที่จะวิเคราะห์เรื่องทางการเมืองสิ่งที่เจ๊แกเอามาพูดดูแค่ประโยคไม่ได้ต้องดูบริบทในช่วง ณ ขณะนั้นด้วย แล้วมาดูที่ภาพใหญ่แกเปลี่ยนไปไหม ใช่ว่าตอนนี้แขกย้ายขั้วไปซบใต้เท้าหนุนเชียร์พวกเผด็จการซะหน่อยแค่ไม่ถูกใจหน่อยก็ออกมาแซะกันแล้วเรื่องมันเลยบานปลานไงละจร่ะ ผมก็เลยวกกลับมาเรื่องเดิมนะ คิดอะไร ทำอะไรทางการเมืองก็ต้องรู้จักพลิกแผลงกับบริบท สภาพแวดล้อม ไม่ใช่มาตีความแบบภาษาไทยป.1

 

เจ๊แขกตรูไม่ได้บ้งไรหรอก พวกคุณยอมรับไหมล่ะว่าความคิดของพวกคุณมันสุดโต่งไป แนวร่วมนับวันยิ่งเหลือน้อยลงๆทั้งๆที่ก็เริ่มมาดีแล้วคนจำนวนมากก็เห็นด้วยแล้ว เจ๊ก็เลยอยากเตือนสติว่าอะไรที่มันหัวชนฝาไปซะทุกเรื่องก็มีแต่วิ่งเข้าหากำแพง ผ่อนคันเร่งแล้วหันมาทบทวนกันหน่อยไหม

แล้วชอบจริงๆเอาวรรคนู้นมาจับเชื่อมโยงกับวรรคนี้ แล้วบอกแขกจบแล้ว แขกบ้งแล้ว การที่จะวิเคราะห์เรื่องทางการเมืองสิ่งที่เจ๊แกเอามาพูดดูแค่ประโยคไม่ได้ต้องดูบริบทในช่วง ณ ขณะนั้นด้วย แล้วมาดูที่ภาพใหญ่แกเปลี่ยนไปไหม ใช่ว่าตอนนี้แขกย้ายขั้วไปซบใต้เท้าหนุนเชียร์พวกเผด็จการซะหน่อยแค่ไม่ถูกใจหน่อยก็ออกมาแซะกันแล้วเรื่องมันเลยบานปลานไงละจร่ะ ผมก็เลยวกกลับมาเรื่องเดิมนะ คิดอะไร ทำอะไรทางการเมืองก็ต้องรู้จักพลิกแผลงกับบริบท สภาพแวดล้อม ไม่ใช่มาตีความแบบภาษาไทยป.1

 

?  

ชอบจริงๆการเป็นสลิ่มคือต้องแถให้ทุกเรื่องไม่ว่าจะบ้งแค่ไหน

ถึงบอกdigital footprint มันยากหน่อยสำหรับคนแบบนี้

เช่น การที่fake news ว่าทิม พิธาโดนgrabไล่ออก
มันก็จะตามหลอกหลอนอยู่ร่ำไปว่าไอ้คนนี้มันfake news