ตรรกะคลาสสิกใช้อ้างกับทุกเรื่อง555

- ฉันขับรถไม่เคยคาดเข็มขัดก็อยู่มาได้ถึงป่านนี้(แล้วคนที่ตายไปล่ะ)
- ฉันโดนครูตีมาตลอดก็โตมาปกติดี(แล้วคนที่เสียคนกลายเป็นเด็กก้าวร้าวเก็บกดไปล่ะ)
- ฉันโดนครูไถหัวมาตลอดก็ไม่เห็นรู้สึกอะไร(แล้วคนที่โตมากลายเป็นเสียความมั่นใจไปตลอดชีวิตล่ะ)
- ฉันโยนกระดูกให้หมาแทะกินมาเป็นสิบตัวแล้วไม่เคยเห็นมันเป็นไรเลย(ตัวที่ 11 อาจจะตายก็ได้ท่าน)
- ฯลฯ

หลักๆ คือจะบอกว่าเราโชคดีมาตลอดไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะโชคดีเหมือนเราไงครับ คนที่โชคร้ายกว่าเขาไม่มีโอกาสได้มานั่งพิมพ์เตือนคนอื่น

ถ้าเงื่อนไขจะเยอะขนาดนั้นก็อย่ามีลูกเลย
ถ้ามีแล้วก็สงสารลูกที่มีพ่อแม่คิดแบบนี้

ตอนนั้นที่ออกกฎหมายบังคับใส่หมวกกันน๊อค ก็แบบนี้แหละ
มีคนแบบนี้ออกมากันเยอะจริงๆ

ประเมินคุณภาพพ่อแม่ประเทศไทยหลายๆครอบครัวได้เลย ว่ารักลูกจริง หรือว่าแค่พลาดทำเค้าเกิดถึงเป็นเดือดเป็นร้อนกับเงินจำนวนเท่านี้ที่ช่วยเซฟชีวิตเด็กคนนึงได้

ถ้าถามว่าสงสารมั้ย ก็สงสารอยู่ แต่ดีต่อใจกับคนที่เกลียดเด็กมากๆ
เพราะอาจได้พบเจอเด็กเปรตตามสถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านอาหารน้อยลง

ขนาดค่าคุมกำเนิดถูกกว่าค่าเลี้ยงลูกตั้งเยอะ ยังไม่ยอมเสียเลยพวกนี้ เพราะมันยุ่งยากมันต้องใช้ความรู้ไง (ลูกเอาไปทิ้งให้พ่อแม่เลี้ยงแทนได้ไง สบายเลย)

ต่อให้เอาคาร์ซีทมาแจกฟรีมันก็ไม่ใช้ ถ้าคนมันไม่ใส่ใจอะนะ ขนาดถุงยางแจกฟรี ฝังยาคุมฟรี ยังไม่ยอมใช้กันเล้ย

คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของคนที่ต้องให้ลูกนั่งรถยนต์มาตั้งนานแล้ว พ่อแม่ที่เค้ามีความรู้หน่อยเค้าก็ซื้อให้ลูกใช้ทั้งนั้นแหละ

ถ้าขนาดความปลอดภัยของลูกยังไม่สามารถรับได้ อย่ามีลูกเลย จะเลี้ยงเด็กคนนึงให้มีคุณภาพมีค่าโน่นนี่มากกว่าคาร์ซีทอีกเยอะ

คือผมไม่เข้าใจจริงๆถ้าไม่พร้อมมีลูกอย่ามีเลยครับ ยุคนี้อะไรหลายๆอย่างมันก็เปิดกว้างให้เรียนรู้ให้เห็นบทเรียนต่างๆแต่ทำไมถึงไม่รู้จักเรียนรู้

เรื่องนี้ รัฐน่าจะดำเนินนโยบายเชิงสนับสนุนควบคู่ไปกับการบังคับด้วยนะ มันจะได้จูงใจคนให้มองว่าคาร์ซีทเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับการเลี้ยงเด็ก เช่นอุดหนุนเงินให้ หรือหาแหล่งคาร์ซีทราคาถูกให้ แล้วก็ประชาสัมพันธ์ให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีท

แผล็บจนเมื่อยเลย ประทับใจในหลายๆคอมเมนท์

ผมไม่มีปัญหานะเรื่องกฎหมาย แต่ๆๆๆ มันถูกจัดเป็นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเก็บภาษีสูง ถ้ารัฐบาลจะอ้างว่ารักความปลอดภัยเด็ก ก็ควรต้องปรับให้เป็นสินค้าจำเป็นครับเพื่อให้ผู้ปกครองเข้าถึงง่ายขึ้น ผมตอบเรื่องนี้หลายกระทู้แล้ว เหมือนคนยังไม่รู้ว่ามันเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเยอะมาก

ปล.และถ้าห่วงความปลอดภัยเด็กจริง จะไม่ห่วงพ่อแม่ที่กระเตงลูกขึ้นมอไซต์หน่อยหลอ จะเอายังไงจะห้ามขึ้นมอไซต์เลยไหม หาเหตุผลมาตอบก็ดี , ผมยังไม่มีลูกนะ แต่มิติคุยกันควรมาทางนี้มากกว่า ไม่ใช่ทะเลาะอะไรเรื่องไม่มีเงิน

ตรรกะคนไทยบางจำพวกก็ปวดหัวแหละครับผมบอกตรงๆ 555+

เออ แล้วถ้าเอาลูกขึ้นรถแท็กซี่ไปหาหมอ รพ.เด็กนี่ ต้องพกคาร์ซีทไปด้วยไหม ภาครัฐคงยังไม่คิดเลยมั้งเนี่ย

คือ รถคันนึง 5แสนอัพ ก็น่าเจียดเงินได้นะผมว่า

ผมอะกังวล ของห่วยๆ ไม่ได้มาตราฐาน
การขึ้นราคามั่วๆ

ไหนจะกระบะตอนเดียวใส่ไม่ได้
ขึ้นแทคซี่จะทำอย่างไร
มันมียุบยิบอะ
รัฐยังไม่ชัดเจนเลย

ผมพอบอกเหตุผลได้ครับ ตอนนี้ประเทศไทยอัตราการเกิดน้อยลงมาก เป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มตัว

เมื่อเด็กเกิดน้อย ประเทศต้องรณรงค์ให้คนมีบุตรมากขึ้น และปกป้องเด็กที่เกิดมากขึ้น เช่น ลดภาษีคนมีบุตร การบังคับคาร์ซีทิป็นผลดีกับประเทศครับ

ตอนนี้อุตสาหกรรมต่างๆย้ายฐานจากไทยไปเวียดนาม อินโด เพราะเรามีอัตราการเกิดน้อยนี่แหละครับ

555น่าคิด รถยรต้องมีคาร์ซีทแล้วรถจักยานยนทำไงดี 5555 ขึ้นรถสาธารณะ ต้องมีที่นั่งเด็ก 555