สวัสดีครับ เห็นช่วงนี้ รัสเซีย-ยูเครน มาแรง เลยอยากเล่าเรื่องสองประเทศนี้โดยเฉพาะรัสเซียเป็นหลัก
ว่ารัสเซียเป็นใคร มาจากไหน ยิ่งใหญ่มาได้ยังไง
ออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ใช่คนเรียนประวัติศาสตร์มา ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นแค่คนสนใจอ่านประวัติศาสตร์โดยเฉพาะยุโรป
เมื่อก่อนเขียนบทความที่พันทิปเกี่ยวกับปวศ.ยุโรปบ่อยๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้เขียนที่นั่นแล้ว เขียนที่ SS ดีกว่า สมาชิกน่ารักกว่าเยอะ
เริ่มกันเลย
ถ้าจะนับรัสเซียจริงๆ คงต้องย้อนไปตั้งแต่ช่วงปี 800 ต้นๆ(ผมใช้ ค.ศ.นะครับ ไม่เอา พ.ศ. เพราะมันเทียบยาก)
หลังจาก ชาร์ลเลอมาญ ตั้งจักรวรรดิ์ของชนชาติแฟรงค์(บรรพบุรุษของฝรั่งเศส-เยอรมัน) ในปี 800
จักรวรรดิ์นั้นมีชื่อว่า จักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับจักรวรรดิ์โรมันเล๊ยยยยยยย
แค่เป็นพวกเยอรมันนิกที่ทำลายกรุงโรมเมื่อปี 480 ก็ 300 กว่าปีก่อนหน้านั้น
แล้วพวกเยอรมันนิกนี่มีหลายเผ่า หลายแก๊งค์ ต่างก็ทำสงครามกันเอง ยึดครองดินแดนกัน พวกคนเหล่านี้สมัยโรมันเรียกว่าพวกคนเถื่อน
ในเมื่อโรมล่มสลาย ช่องว่างทางอำนาจก็เปิด เหล่าคนเถื่อนก็จับจองดินแดนที่เดิมเป็นของโรมันกัน
ผ่านไปจนถึงปี 800 พอดีเป๊ะ กษัตริย์ของแฟรงค์คนหนึ่งสามารถรวบรวมอาณาจักรส่วนใหญ่ของโรมันได้
(ที่เรียกโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เพราะ ชาร์ล ให้พระสันตปาปาสวมมงกุฏให้และจะพิทักษ์ศาสนาศริสต์ เป็นการสืบต่อความยิ่งใหญ่มาจากสมัยโรมันแค่นั้นเอง)
(ตามแผนที่) สีเขียวเป็นอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ของชาร์ลเลอมาญก่อตั้ง
ตามแผนที่จะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่ของฝรั่งเศส-เยอรมัน-ออสเตรีย-ยูโกสลาเวีย(อดีต)-ตอนเหนือิตาลี-โปแลนด์บางส่วน
แล้วสีอื่นๆล่ะ
สีส้ม พวกเยอรมันนิก เผ่าแองโกล(อังเงิล) เผ่าแซกซอน เผ่าจูสล์ ยึดครองเกาะอังกฤษ(ยกเว้น เวลส์และสก๊อตแลนด์)
สีเหลือง มุสลิมยึดคาบสมุทรไอบีเรีย(สเปน)
สีชมพู พวกพื้นเมืองสลาฟ
สีชมพูนี่ล่ะจะมาเป็นเรื่องที่ผมเล่า คือพวกสลาฟนั้นเป็นชนพื้นเมืองดินแดนแถบยุโรปตะวันออกผสมกับพวกที่เข้ามาใหม่จากพื้นที่สีแดง
คือพวกเยอรมันนิกเผ่าอื่นๆที่ไม่ได้เข้ากับชาร์ลเลอมาญ พวกนี้อยู่แถบเดนมาร์ค นอร์เวย์ สวีเดน หรือที่เราเรียกว่า "ไวกิ้ง"
"ไวกิ้ง"เป็นคำแสลงเรียกพวกเยอรมันนิกทางเหนือหรือจะเรียกว่าพวกนอร์ธก็ได้ ที่เดินทางค้าขายหรือปล้นชิงทางน้ำ
แล้วพวกนี้ล่ะที่เข้ามาในแผ่นดินทางทะเลบอลติกก็ล่องย้อนกลับเข้าไปในแผ่นดิน ดินแดนแถบที่ใช่ว่าจะไม่มีคนอยู่
พวกที่อยู่เดิมเป็นพวกสลาฟเก่าที่ยังไม่ใช่สลาฟแบบปัจจุบัน พวกนี้ล้าหลังยิ่งกว่าพวกคนเถื่อนเยอรมันนิก ล้าหลังขนาดว่าในยุคโรมันยังไม่คิดจะบุกเบิกไปเลย
เพราะทั้งหนาว ทั้งไม่มีทรัพยากรอะไร มีคนป่าอยู่ประปรายซึ่งคนป่าพวกนี้ล่ะน่าจะเป็นพวกสลาฟเดิม
ตาดกันว่าพวกนี้น่าจะเป็นพวก เคลต์ (Celts) ที่มีชนกลุ่มแรกๆในยุโรปกระจายตัวตั้งแต่ยุโรปตะวันออกจนไปถึงเกาะไอร์แลนด์
พวกมาใหม่คือพวกไวกิ้ง ก็พายเรือเข้าไปเรื่อยๆ จนพบที่เหมาะที่จะตั้งเมืองแล้วตั้งชื่อว่า นอฟโกรอด(Novgorod)
เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองแรกที่ชนชาติที่ต่อมาคือรัสเซียและยูเครนในปัจจุบันครับ คือเข้ามาจากทะเลไม่ไกล มีทะเลสาบเหมาะที่จะตั้งเมือง
แต่ตั้งมาแรกๆเมืองก็เละมาก ไม่มีระเบียบอะไร จนต้องเชิญหัวหน้าไวกิ้งเผ่าวารันเจียนชื่อ รูริค มาจากสแกนดิเนเวีย มาปกครองจัดระเบียบเมือง
Rurik บนอนุสาวรีย์ " Millennium of Russia " ในVeliky Novgorod .
จากนั้นเมืองก็เป็นรูปเป็นร่าง แล้วก็เชื้อเชิญคนเผ่าต่างๆมาอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เผ่าไหนก็มาอยู่ได้ (เชิญแต่พวกเยอรมันนิกที่ไม่เข้ากับชาร์ลเลอมาญ)
รูริคเลยนับว่าเป็นผู้ปกครองคนแรกของทั้ง รัสเซียและยูเครน มียศศักดิ์เป็นแค่เจ้าชาย(Prince)นะครับ คือเมืองไม่ใหญ่พอให้เป็น King
สงสัยมั้ยครับว่ารัสเซียอ่ะถูกแล้ว เพราะนอฟโกรอดอยู่ในรัสเซียแล้วยูเครนมาเกี่ยวอะไรด้วย
มันเกี่ยวคือหลังจากนั้นอีกไม่นาน คนเริ่มเยอะขึ้นเริ่มแสวงหาดินแดนเพิ่ม(ตามสไตล์ไวกิ้งนักบุกเบิก)
เจ้าชายองค์ที่สองของนอฟโกรอดต่อจากรูริคก็พบที่ใหม่เลยย้ายเมืองหลวงไปที่ใหม่ ที่นั่นก็คือ "เคียฟ"
ใช่ครับ เคียฟของยูเครนในปัจจุบันนี่ล่ะ เคียฟก็กลายเป็นเมืองหลวงใหม่ของอาณาจักร
เจ้าผู้ครอบครองก็เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนตำแหน่งเป็น Grand princes of Kiev อาณาจักรก็เปลี่ยนจาก นอฟโกรอด เป็น เคียฟรุส
(รุส เป็นภาษาเยอรมันนิกโบราณแปลว่า พาย(เรือ)/นักพายเรือ)
ช่วงที่ว่ามันอยู่ประมาณ ปี 830 ขนถึงตั้งเคียฟรุสปี 882
จากนั้นเคียฟรุสก็เจริญรุ่งเรือง เป็นมหาอำนาจของยุโรปฝั่งตะวันออก การผสมผสานของเหล่าไวกิ้งกับชนพื้นเมืองเดิมล่อหลอมจนเกิดชนชาติสลาฟตะวันออกขึ้น(บรรพบุรุษของ ชาวรัสเซีย ยูเครน เบรารุส)
เคียฟรุสเป็นอาณาจักรในเวลาต่อมาเพราะมีการสร้างเมืองใหม่ๆภายใต้อำนาจของอาณาจักร
ผ่านมาหลายร้อยปีก็มีเมืองเกิดขึ้นใหม่ๆ บางเมืองก็ขึ้นกับเคียฟ บางเมืองก็แยกเป็นอิสระ เช่นเมือง วลาดิเมียร์
เมืองนี้ชาวเคียฟรุสสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาอยู่ใกล้ๆเมืองหลวงเก่านอฟโกรอด พอเมืองเจริญรุ่งเรืองก็แยกเป็นรัฐอิสระออกจากเคียฟในปี 1157
นี่ล่ะครับเป็นการแยก รัสเซียออกจากยูเครน (เมืองที่ภายใต้เคียฟรุสอื่นๆก็ยแกเป็นรัฐอิสระได้ประมาณ 10 กว่ารัฐ)
ทำความเข้าใจจุดนี้ก่อน คือสมัยก่อนไม่มีชื่อประเทศแบบปัจจุบันนะครับ เป็นชนชาติรุสกันอยู่ เพียงแต่รุสวลาดิเมียร์ แยกออกจากเคียฟรุส
แต่ต่อจากนี้ความห่างเหินกันก็เริ่มชัดเจนจนมาถึงในปัจจุบัน แต่เรื่องความห่างไม่ใช่แค่แยกกันแค่ตอนนี้นี้ มันมีมาเรื่อยๆตามที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ครับ
เมืองวลาดิเมียร์ก่อนอาณาจักรที่แยกออกไป มีการสร้างเมืองใหม่ๆขึ้นมา ชาวรุสไปเจอที่เหมาะๆจะสร้างเมืองขึ้นใหม่
ทำเลตรงนี้อยู่ริมแม่น้ำมอสควา ใช่แล้วครับ เมืองใหม่นี้ชื่อว่า มอสโกวี หรือ มอสโก ในปัจจุบัน
มอสโกวีสร้างขึ้นในปี 1147 หรือก่อนวลาดิเมียร์จะแยกออกจากเคียฟ 10 ปี เมืองสร้างเป็นป้อมซุงเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของเมืองวลาดิเมียร์
จนปี 1236 พวกมองโกลจากเอเชียกลางนำโดย โอโกไดข่าน(ลูกชายคนที่สองของเจงกีสข่าน) บุกยุโรป
โดนบุกมาทางแม่น้ำโวลก้า เมืองแรกที่โดนไม่ใช่ของชาวรุส แต่เป็นเมือง โวลก้าบัลแกเรีย(คนละพวกกับคนบัลแกเรียในปัจจุบันนะครับ)
แล้วยึดเมืองของโวลก้าบัลแกเรียเป็นฐานกำลังเมืองนั้นคือเมืองคาซานในปัจจุบัน
มองโกลทำลายและเผาเมืองมอสโกซะราบ คนตายเกือบหมดเมือง แล้วไปเมืองวลาดิเมียร์ต่อ ทำลายทุกเมืองของชาวรุส
แม้กระทั่งเมืองเคียฟก็ไม่รอด โดนทำลาย แล้วมองโกลยังไปต่อจนเกือบถึงอิตาลี ทำลายทุกเมืองที่ไป
ผลของสงคราม
- เคียฟโดนทำลายย่อยยับ แล้วไม่เคยกลับมาเป็นพี่ใหญ่ของชาวรุสได้อีกเลย
- มอสโก สร้างเมืองกันใหม่ เพราะเมืองเดิมเป็นแค่ป้อมไม้ซุง โดนเผาเรียบ
(การสร้างเมืองใหม่ของมอสโกทำให้เมืองดีขึ้นมาก และฟื้นตัวจากสงครามได้ไวกว่าเมืองอื่นๆ)
- มองโกลยึดเมืองคาซานเป็นเมืองเก็บส่วยจากหัวเมืองของชาวรุสทุกเมือง
เมืองคาซานกำเนิดจากพวกมองโกลผู้รุกรานและต่อมาผสมๆกับพวกที่อยู่เดิม(เป็นพวกชนชาติมุสลิมเติร์ก) กลายมาเป็นชนชาติใหม่คือ ตาต้า ทาทาร์ (Tatars)
จากเหตุการณ์นั้นเป็นการเริ่มสร้างรัสเซียมอสโกขึ้นมา เพราะ มอสโก ได้ทำการเอาใจ(ประจบ) พวกมองโกล โดยเสนอเป็นผู็เก็บส่วยจากรัฐของชาวรุสอื่นๆส่งให้มองโกล
เรียกได้ว่าสูบเลือดสูบเนื้อชาวรุสด้วยกัน เงินที่เก็บได้ส่วนหนึ่งส่งให้ผู้ปกครองที่เมืองคาซาน ส่วนหนึ่งก็เก็บมาพัฒนาเมืองตัวเอง
ทำให้เมืองรุสอื่นๆพัฒนาตัวช้ากว่ามอสโก มอสโกเริ่มเป็นผู้นำชาวรุสอื่นๆ
ผ่านมาจนถึงปี 1462 เจ้าชายแห่งมอสโกคนใหม่ขึ้นครองอำนาจต่อจากพ่อ เจ้าชายคนนี้อายุแค่ 22 ปีตอนครองอำนาจ
ชื่อของเค้า เจ้าชายอีวานที่ 3 ที่จะเป็นมหาราชในเวลาต่อมา เพราะตลอดชีวิตวัยเด็กของพระองค์เห็นการกดขี่จากพวกมองโกลตาต้าร์
ถึงแม้มอสโกของตัวเองจะได้ประโยชน์จากการนี้ แต่มันจะดีกว่ามั้ยถ้าไม่ต้องจ่ายให้พวกมองโกลตาต้าร์
ในปี 1476 หลังจากอีวานซ่องสุมกำลังจนพร้อม ก็ได้ทำการปฏิเสธที่จะจ่ายเงินให้กับมองโกลตาต้าร์
ข่านอาเม็ดแห่งคาซาน ได้จัดทัพใหญ่ในปี 1480 ยกทัพมาตีมอสโก แต่ก็แพ้อีวานกลับไป
สงครามครั้งต่อมา ข่าน ก็แพ้อีก จนในที่สุดมอสโกก็หลุดพ้นจากอำนาจของมองโกลตาต้าร์ สิ้นสุดการเป็นเมืองขึ้น
จากนั้นอีวานที่ 3 ก็แผนกดินแดนรุสอื่นๆเข้ามาอยู่ในอำนาจของมอสโก เริ่มต้นนับเป็นจักรวรรดิ์รัสเซียตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ตามแผนที่จะเห็นได้ว่าในรัชสมัยของอีวานที่ 3 นั้น สามารถเพิ่มดินแดนของมอสโกได้มากขึ้นในแต่ละปี
นี่ล่ะที่ทำให้ อีวานที่ 3 แห่งมอสโก ได้รับการยกย่องเป็นมหาราช
อ่อ แต่ยศตอนนั้นเป็นแค่ Grand Prince of Moscow นะครับ ยังไมไ่ด้เป็นพระเจ้าซาร์
อีวานที่ 3 มหาราช
แต่คนรัสเซียก็ยกย่องให้เป็นพระเจ้าซาร์องค์แรกตามความนิยมชมชอบของคนรัสเซียชาตินิยม
ตอนนั้นเคียฟเป็นส่วนนึงของจักรวรรดิ์โปแลนด์-ลิธัวเนีย นะครับ เพราะโดนรีดเงินจนไม่มีอำนาจต้องตกไปอยู่อำนาจของเมืองอื่นไป
ส่วนตำแหน่งพรเจ้าซาร์นั้น เริ่มคนแรกอย่างเป็นทางการคือ หลานปู่ของอีวานที่ 3
นั่นคือ อีวาน ที่ 4 (Ivan IV the Terrible) หรือ อีวานจอมโหด
จากแผนที่ข้างบน จะเห็นได้ว่ารัสเซียโดยมอสโกนั้นเริ่มเป็นอาณาจักรใหญ่ขึ้นมา
อีวานที่ 4 ก็อยากจะขยายอาณาจักรที่ปู่เริ่มมา แต่จะไปทางเหนือ สวีเดนก็แกร่งเกินไป ทางตะวันตกก็คงสู้โปแลนด์-ลิธัวเนียไม่ไหว ทางใต้เจอออตโตมันสู้ไปแพ้แน่ๆ
เลยคิดจะขยายไปทางตะวันออก เจอเจ้านายเก่าอย่างเมืองคาซานของพวกมองโกลตาต้าน่าจะไหว เพราะปู้ก็รบชนะมาตลอด
อีวานจอมโหด ดูหน้าก็รู้ว่าโหดแค่ไหน
จริงๆแล้วการรบของมอสโกกับคาซานที่มาเรื่อยๆตั้งแต่รัชกาลของอีวานที่ 3 แล้ว แต่มอสโกก็ไม่สามารถยึดคาซานได้
จนปี 1552 อีวานที่4 ก็ทำสำเร็จ สามารถปิดล้อมเมืองคาซานแค่ 8 วันแล้วเมืองก็แตก จากเมืองที่เคยข่มเหงรัสเซียมาหลายร้อยปีก็ตกเป็นเมืองของรัสเซียแล้ว
อีวานที่4 ได้ทำการสร้างอนุสรณ์สถานเป็นการฉลองชัยชนะเมืองคาซานของพวกตาต้าร์โดยการสร้าง
มหาวิหารนักบุญเบซิล ที่จตุรัสแดง ในกรุงมอสโก
ยอดมหาวิหารตอนแรกมี 8 โดม(รูปหัวหอม) เป็นการแสดงถึง 8 วันในการโจมตีเมืองคาซาน(สร้างเพิ่มอีกสองในยุคหลัง)
อีวานที่ 4 ทำให้รัสเซียเริ่มมีแผนที่ในยุโรปเริ่มกลายเป็นชาติที่มีตัวตนขึ้นมามาก แล้วทำการเปลี่ยนชื่อจาก มอสโกวี หรือ มอสโก เป็น รัสเซีย
แล้วเปลี่ยนตำแหน่งผู้ปกครอง จาก แกรนปริ้นออฟมอสโกวี เป็น ซาร์แห่งรัสเซีย ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
รัสเซียเริ่มเป็นมหาอำนาจจากผู้ปกครองอีกหลายคน จะยกมาแค่คนสำคัญๆแล้วกันนะครับ
ซาร์ปีเตอร์มหาราช ปกครอง 1682-1725
- เป็นผู้บุกเบิกให้รัสเซียเจริญเทียบเท่ายุโรปตะวันตก สร้างกองทัพเรือที่รัสเซียไม่เคยมี
- ทำสงครามชนะสวีเดนมหาอำนาจตอนนั้น ยึดดินแดนมาสร้างเมืองหลวงใหม่คือ เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก(เปโตรกราด)
- ทำสงครามชนะออตโตมันยึดดินแดนที่ติดทะเลดำ
- ขยายดินแดนจนไปสุดมหาสมุทรแปซิฟิค
แผนที่รัสเซีย ในยุคปีเตอร์มหาราช ปี 1722
แต่คนที่มาสานต่อความยิ่งใหญ่ให้รัสเซียคนต่อไป ไม่ใช่พระเจ้าซาร์ ไม่ใช่แม้กระทั่งเป็นคนรัสเซีย
แต่เป็น ซารีน่า(จักพรรดินี) แคทเธอรีนที่ 2
เจ้าหญิงจากเยอรมันที่ส่งมาแต่งงานกับพระเจ้าซาร์ปีเตอร์ที่ 3 ที่เจ้าหญิงเป็นเยอรมันล้วนๆ ไม่มีรัสเซียผสมเลย
แต่เพราะสามีคือซาร์ปีเตอร์ที่ 3 นั้น เป็นเชื้อสายรัสเซียจากทางแม่ที่เป็นลูกสาวของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ออกไปแต่งงานกับดยุคเจ้าปกครองรัฐเยอรมันรัฐหนึ่ง
เป็นหลานตาของปีเตอร์มหาราช แต่พ่อเป็นเจ้าชายเยอรมัน เกิดเยอรมัน โตเยอรมัน พูดแต่ภาษาเยอรมัน แต่ต้องกลับมารับตำแหน่งซาร์แห่งรัสเซีย
เลยมีความเป็นเยอรมันมากไปหน่อย รัสเซียกำลังทำสงครามกับรัฐเยอรมันอีกรัฐ จู่ๆก็สงบศึกทั้งๆที่ได้เปรียบ จนคนรัสเซียไม่พอใจว่าซาร์ตัวเองเข้าข้างศัตรู
สุดท้ายเมีย(ที่ก็เป็นเยอรมัน)ทำการรัฐประหารยึดอำนาจสามีที่ไม่เอาไหนซะเลย แล้วตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดินีแห่งรัสเซียซะเลย
พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย
แต่เจ้าหญิงจากเยอรมันผู้นี้ก็เป็นรัสเซี๊ย รัสเซีย ทั้งหัดพูดรัสเซียจนคล่อง และทำให้รัสเซียเป็นมหาอำนาจเทียบเท่าประเทศอื่นๆในยุโรปตะวันตก
โดยทำสงครามเพิ่มดินแดน
- เอาชนะออตโตมัน ได้ดินแดนที่ติดทะเลดำ รวมทั้งตอนใต้ของยูเครน ไครเมียร์ และแถบเมือเขาคอเคซัสด้านยุโรป
- เอาชนะจักรวรรดิ์ โปแลนด์-ลิธัวเนีย ได้ลิธัวเนียทั้งหมดแถมกับเคียฟและยูเครนทั้งหมด ตอนนี้เองที่รัสเซียสามารถผนวกเอายูเครนญาติที่ห่างไปนานเข้ามาอยู่ภายใต้การปกครองได้
- ไปสุดแปซิฟิคข้ามแปซิฟิคไปได้อลาสก้าเป็นอาณานิคม
- ได้ดินแดนของฟินแลนด์ด้านตะวันออกเฉียงใต้
เรียกได้ว่าในยุคสมัยของพระนางรัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา รัสเซียเป็นมหาอำนาจเบอร์ต้นๆของโลก
พระนางแคทเธอรีน เลยได้รับการยกย่องเป็น แคทเธอรีนมหาราชแห่งรัสเซีย
พอหมดยุคนาง ราชวงศ์โรมานอฟก็มีแต่ทรงๆ ไม่ได้รุ่งเพิ่มขึ้น ในยุคของหลานย่าคือ ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ก็เจออำนาจของนโปเลียนแห่งฝรั่งเศส
นโปเลียนบุกรัสเซีย ซาร์อเล็กซานเดอร์ก็ใช้กลวิธีถอยหนีเข้าเทอกเขายูรัล กองทัพนโปเลียนบุกถึงมอสโก
ไม่เจออะไรเลย อยู่จนถึงหน้าหนาวถอยกลับ เจอหน้าหนาวรัสเซียไป แถมเจอทหารรัสเซียรุกกลับตายเกือบหมด
จากเหตุการณ์นี้นโปเลียเลยหมดอำนาจ รัสเซียรอด ซาร์อเล็กซานเดอร์ได้รับการยกย่อง แต่นั้นคือวีรกรรมที่น่าประทับใจของซาร์รัสเซียแล้วล่ะ
หลังจากนั้นมาไม่ถึงร้อยปี ระบอบพระเจ้าซาร์ของรัสเซียก็ล่มสลายในปี 1917 โดยพรรคคอมมิวนีสต์รัสเซีย
รัสเซียในยุคของสหภาพโซเวียตก็เป็นมหาอำนาจแค่ทางการทหาร ยิ่งในยุคสตาลินกดขี่ยูเครนมากๆ
ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชาชนยูเครนอดตายราวๆ 3.5 ล้านคน เป็นการตั้งใจให้อดตายของโซเวียตรัสเซียยุคสตาลิน
รัสเซียทำกับยูเครนไว้เยอะ ชาวยูเครนยังจำประติศาสตร์ได้ ถึงมีจุดกำเนิดมาด้วยกัน ยูเครนยิ่งใหญ่ก่อน
แต่เพราะสถานะการณ์ต่างๆทำให้ต่างฝ่ายต่างมีชะตาต่างกัน กลับมารวมกันในแต่ละครั้ง รัสเซียเป็นฝ่ายกระทำมาตลอด
เหตุการณ์ล่าสุดไม่กี่ปีที่ ไครเมียร์ประกาศอิสระจากยูเครนแล้วเข้าร่วมเป็นรัฐอิสระในสหพันธนึงของรัสเซีย
เพราะไครเมียร์ส่วนใหญ่เป็นชาวตาต้าร์ที่ย้ายมาจากที่ต่างๆของรัสเซียช่วง 1991 ที่โซเวียตล่มสลาย
ย่อมอยากอยู่กับรัสเซียมากกว่ายูเครนอยู่แล้ว แถมอยู่แบบรัฐอิสระภายในสหพันธรัฐรัสเซียด้วย(แบบเมือง คาซาน ที่เป็น ตาต้าร์สถาน Tatarstan)
ความร้าวฉานของรัสเซียและยูเครนมันลึก ยากที่จะญาติดีกัน(ขนาดเป็นญาติกันนะเนี่ย)
ขอบคุณที่แ่านมาถึงตรงนี้นะครับ ยาวมากขนาดไม่ได้เล่าละเอียดเท่าไร จริงๆปวศ.รัสเซียมีมากกว่านี้
ท้ายนี้แน่นอน สไตล์ SS เราต้องมีรูปสาวๆ เหล่ามาถึง ตาต้าร์ ลงรูปสาวตาต้าร์ในไครเมียร์ที่เคยเป็นของยูเครนตอนนี้เป็นของรัสเซียไปแล้ว
ลูกหลานมองโกลนะครับ คนตาต้าร์ มองโกลผสมๆกับเติร์ก
ส่วนสาวยูเครนก็จะออกฝรั่งจ๋ากว่าสาวตาต้าร์