BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ARSENAL till i die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4315
ที่อยู่: YG stan/ITZY/Taeyeon/BIBI/Zico/Jaypark/Sik-k/NewJeans
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 09:27
#Update IT (Jan 13, 2022)
update IT สั้นๆ



เผยภาพหลุดกรอบบอดี้ iPhone SE 3 มีดีไซน์กรอบกล้องหลังแบบใหม่
Spoil

ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือว่า iPhone SE รุ่นที่ 3 จะยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม แต่ล่าสุดก็ได้มีภาพหลุดที่ว่ากันว่าเป็นกรอบบอดี้ตัวเครื่องของ iPhone SE รุ่นที่ 3 ที่มาในดีไซน์กรอบกล้องหลังแบบใหม่เป็นรูปทรงแคปซูลยาแนวตั้งแทนแบบเดิม

@LeaksApplePro ได้ทำการปล่อยภาพหลุดกรอบบอดดี้ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในรุ่นต้นแบบของ iPhone SE รุ่นที่ 3 ก่อนที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมหรือเดือนเมษายนปี 2022 ที่กำลังจะถึงนี้ โดยขนาดตัวเครื่องใหญ่ว่า Magic Mouse เพียงเล็กน้อย ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะยังคงใช้ขนาดหน้าจอแบบเดิม แต่อาจจะมีการปรับดีไซน์กล้องหลังใหม่เล็กน้อย

iPhone SE รุ่นที่ 3 คาดการณ์ว่าจะยังคงมีดีไซน์แบบเดิม มาพร้อมปุ่ม TouchID แต่จะมีการอัปเกรดชิปประมวลผล รวมถึงการรองรับการใช้งาน 5G เข้ามา โดยจะเป็นตัวเลือก iPhone ราคาประหยัดสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS แต่ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์อื่นๆ แบบจัดเต็ม

https://www.flashfly.net/wp/372761
 






HONOR Magic V สมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของ HONOR เปิดตัวแล้ว!! ราคาเริ่มต้นราว 52,790 บาท
Spoil

HONOR เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของบริษัทฯ อย่างทางการแล้ว มาในชื่อ HONOR Magic V มีจุดเด่นที่จอแสดงผลหลักสามารถพับได้ โดยใช้จอแสดงผล OLED ความละเอียด 2272 x 1984 พิกเซล ขนาด 7.9 นิ้ว (381ppi) รองรับอัตราการรีเฟรช 90Hz และยังมีจอแสดงผลด้านนอก OLED ความละเอียด 2560 x 1080 พิกเซล (431ppi) ขนาด 6.45 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz

HONOR Magic V ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และกล้อง Spectrum 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ส่วนกล้องหน้า 42 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

HONOR Magic V ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ความจุแบตเตอรี่ 4,750mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W ทำงานบนพื้นฐาน Android 12 ครอบทับด้วย Magic UI 6.0 ซึ่งมาพร้อม Magic Live ที่ HONOR ระบุว่ามีการนำ AI มาช่วยเรียนรู้และติดตามพฤติกรรมการของผู้ใช้งาน เพื่อให้สมาร์ทโฟนตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างชาญฉลาด

HONOR Magic V มีขนาดบอดี้ 160.4 x 72.7 x 14.3 มิลลิเมตร เมื่อถูกพับ หรือ 160.4 x 141.1 x 6.7 มิลลิเมตร เมื่อกางออก น้ำหนัก 293 กรัม ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีส้ม (หนัง), สีดำ และ สีเงิน เปิดให้จับจองแล้วในประเทศจีน โดยมี 2 ตัวเลือก ได้แก่…

● RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 9,999 หยวน หรือราว 52,790 บาท
● RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 10,999 หยวน หรือราว 58,090 บาท





 






สมองไหล… หัวหน้าทีมออกแบบชิป M1 ลาออกจาก Apple ไปรับงานที่ Intel
Spoil

ถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ที่ไม่น่าโสภาสำหรับ Apple เอาเสียเลย เมื่อ Jeff Wilcox ผู้อำนวยการฝ่ายสถาปัตยกรรมระบบ Mac หัวกะทิผู้เป็นหัวหอกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากโปรเซสเซอร์ Intel มาสู่ Apple Silicon ได้ประกาศลาออกจากบริษัทฯ หลังทำงานมานาน 8 ปี เพื่อไปร่วมงานกับ Intel ในฐานะ “Intel Fellow” คุมทีมวิศวกรรมการออกแบบชิปเซตฝั่งไคลเอนต์ทั้งหมดทุกเซกเมนต์


Jeff ให้เหตุผลถึงการลาออกในครั้งนี้ว่า เพราะอยากมองหาโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ในอาชีพ และรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ในทุกความสำเร็จตลอดเวลาที่ได้อยู่กับ Apple โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Apple Silicon ทั้ง M1, M1 Pro และ M1 Max นอกจากนี้ Jeff ยังเป็นหนึ่งในผู้ออกแบบชิปความปลอดภัย T2 ด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Jeff ร่วมงานกับ Intel โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยทำงานด้วยกันมาแล้วหนหนึ่งระหว่างปี 2553 ถึง 2556 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวดำรงตำแหน่งเป็นวิศวกรออกแบบชิปเซตสำหรับพีซี ก่อนที่จะย้ายไป Apple ในภายหลัง และย้ายกลับมารังเดิมอีกครั้งในท้ายที่สุด

เป็นที่ทราบกันดีว่า Apple กำลังประสบภาวะ “สมองไหล” เสียวิศวกรเก่ง ๆ ให้แก่คู่แข่งไปหลายคนในช่วง 2 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Bloomberg พึ่งรายงานว่า บริษัทฯ ได้เสนอโบนัสเป็นหุ้นแบบทยอยให้ตามเวลาให้แก่วิศวกรเมื่อทำงานครบตามกำหนด เป็นมูลค่าตั้งแต่ 50,000 ถึง 180,000 เหรียญ (ประมาณ 1 ล้าน 7 แสน ถึง 6 ล้านบาท) เพื่อจูงใจไม่ให้พนักงานลาออก

เป็นเรื่องน่าสนใจว่า การที่ Apple เสียพนักงานมือดีให้แก่คู่แข่งไปแบบนี้จะส่งผลกระทบมากหรือน้อยแค่ไหน แล้วบริษัทฯ จะแก้ปัญหาอย่างไรต่อ

https://droidsans.com/apple-engineering-director-m1-joins-intel/
 






เปิดตัว OnePlus 10 Pro สเปคแรงจัดเต็ม กล้อง Hasselblad ถ่าย 12-bit RAW ได้ รองรับชาร์จไว 80W
Spoil

ปล่อยให้หลุดให้ลือกันอยู่นานแสนนาน ล่าสุด OnePlus 10 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงสเปคแรงก็เดินทางมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! โดยรอบนี้มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จัดเต็มเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ OLED รีเฟรชเรท 120Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 กล้องที่ยังคงจับมือร่วมกับแบรนด์ชื่อดังอย่าง Hasselblad และระบบปฏิบัติการที่ OnePlus ให้คำมั่นสัญญาว่าตลาด Global จะยังคงเป็น OxygenOS อยู่ ไม่เปลี่ยนมาใช้ ColorOS


จอ OLED LTPO 2.0 รีเฟรชเรท 120HZ
OnePlus 10 Pro มีหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ รีเฟรชเรท 120Hz เล่นเกมได้ลื่นไหลกว่าเดิม รองรับเทคโนโลยี LTPO 2.0 ที่จะคอยปรับค่ารีเฟรชเรทอัตโนมัติตั้งแต่ 1Hz – 120Hz ขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่แสดงผลอยู่ ณ ตอนนั้น แถมยังกินพลังงานน้อยลงกว่าเดิม โดยจอของ OnePlus 10 Pro จะมาพร้อมกับ Dual Color Calibration คาริเบรตสีจอได้ทั้งความสว่างต่ำและสูง นอกจากนี้ OnePlus 10 Pro ยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR10+, ความลึกสี 10-bit, MEMC, sRGB และ DCI-P3 อีกด้วย

รับประกันความแรงด้วย SNAPDRAGON 8 GEN 1 และชาร์จไว 80W SUPERVOOC
เรื่องประสิทธิภาพความแรงไม่ต้องพูดอะไรเยอะมาก เพราะ OnePlus 10 Pro ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ตัวแรงจาก Qualcomm พ่วงด้วย RAM LPDDR5 ความจุ 12GB และหน่วยความจำ UFS 3.1 ขนาดสูงสุด 256GB ในส่วนของแบตเตอรี่ให้มา 5000 mAh รองรับชาร์จไว 80W SuperVOOC Flash Charge (ไม่ใช่ Warp Charge แล้ว) สามารถชาร์จจาก 0% – 100% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 32 นาที มีหัวชาร์จแถมมาในกล่อง อีกทั้งยังรองรับระบบชาร์จไวแบบไร้สาย 50W AirVOOC อีกด้วย ความไวไม่แพ้กัน ชาร์จ 100% เพียง 47 นาที

กล้อง HASSELBLAD ถ่าย 12-BIT RAW ได้
OnePlus 10 Pro ยังคงมากับโลโก้ Hasselblad เหมือนเดิม มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP มุมกว้าง 150 องศา (แต่ค่า Default จะเซ็ตเอาไว้ที่ 110 องศา อยากได้กว้างกว่านี้ต้องปรับเพิ่มภายหลัง) ถ่ายโหมด Fisheye ได้ และกล้องตัวสุดท้ายมีความละเอียด 8MP โดยกล้องทั้งสามจะมีฝาครอบเลนส์เซรามิกนาโนคริสตัลไลน์ 3D เกรดเดียวกับนาฬิกาคอยปกป้องเพิ่มความแข็งแกร่ง ในขณะที่กล้องหน้าจะให้มาที่ 32MP อัปเกรดขึ้นจาก OnePlus 9 Pro ที่ใส่มาให้ 16MP

โดย OnePlus 10 Pro ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของบริษัทฯ ที่สามารถถ่ายภาพความลึกสี 10-bit ได้ แถมยังสามารถถ่าย 12-bit RAW ได้ทั้งสามกล้องหลังอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ RAW+ ที่จะช่วยเซฟภาพทั้งแบบสกุล RAW และ JPEG ต่อการแชะภาพหนึ่งครั้ง มีตัวเลือกโทนภาพสามแบบตามสไตล์ Hasselblad ได้แก่ Master Portrait Tone, Master Fairy Tale Tone และ Master Scenery Tone แถมยังมีฟีเจอร์ Movie Mode สำหรับถ่ายวิดีโอฟีลภาพยนตร์ฟอร์มเยอะอีกด้วย เรียกได้ว่าอัดแน่นสุด ๆ รุ่นนี้สำหรับเรื่องกล้องและการถ่ายวิดีโอใน OnePlus 10 Pro


รองรับ HYPERBOOST เล่นเกมลื่นไหลกว่าเดิม แต่ประหยัดแบตขึ้น
OnePlus 10 Pro มาพร้อมกับระบบ HyperBoost ที่ทางค่ายบอกเอาไว้ว่า จะเข้ามาช่วยประมวลผลเฟรทเรทให้ดีขึ้นกว่าเดิม 36% ในขณะที่กินไฟน้อยลง 5% นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังสามารถดันเพิ่มค่า Touch Sampling ให้เป็น 1000Hz อีกด้วย ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังรองรับการสั่นสะเทือนแบบ 4D อีกด้วย ให้ความรู้สึกที่สมจริงราวกับไปอยู่ในสถานการณ์จริงยังไงอย่างงั้น

มาพร้อมกับสเปคและฟีเจอร์สุดแรงกันไปแล้ว OnePlus ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่กว่า 340 ตารางเซนติเมตรให้กับ OnePlus 10 Pro มาคอยช่วยลดอุณหภูมิเวลาใช้งานหนัก ๆ หรือเล่นเกมไปนาน ๆ

ตลาด GLOBAL ยังคงได้ใช้ OXYGENOS
ด้วยความที่ OnePlus 10 Pro รุ่นนี้เป็นเวอร์ชั่นขายในจีน ทำให้ระบบปฏิบัติการจะเป็น ColorOS 12.1 ของ OPPO แต่ในส่วนนี้ทางบริษัทฯ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า OnePlus 10 Pro รุ่น Global จะยังคงใช้เป็น OxygenOS 12 บนพื้นฐาน Android 12 เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าใน OxygenOS 12 จะมีหน้าตาออกมาเป็นยังไง ยังคงคลีน ๆ เหมือนกับ OxygenOS เวอร์ชั่นเก่า ๆ ไหม หรือว่าออกแนว ColorOS ไปเลย

●หน้าจอ Fluid AMOLED บนพื้นฐาน LTPO 2.0 ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ รีเฟรชเรท 120Hz
●ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1
●RAM (LPDDR5) : สูงสุด 12GB
●หน่วยความจำ (UFS 3.1) : สูงสุด 256GB
●กล้องหลัง 3 ตัว
▷Wide: Sony IMX789 ความละเอียด 48MP มีระบบกันสั่น OIS
▷Ultra-Wide: Samsung S5KJN1SQ03 ความละเอียด 50MP มุมกว้าง 150 องศา
▷Telephoto: OmniVision OV08A19 ความละเอียด 8MP มีระบบกันสั่น OIS ซูม Optical 3.3x
●กล้องหน้า Sony IMX615 ความละเอียด 32MP
●เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
●ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
●รองรับ Bluetooth 5.2
●แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จไวแบบมีสาย 80W และไร้สาย 50W
●ระบบปฏิบัติการ
▷จีน : ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
▷Global : OxygenOS 12 บนพื้นฐาน Android 12
●สีให้เลือก : Volcanic Black และ Emerald Forest

ราคาและวันวางจำหน่าย

OnePlus 10 Pro มีให้เลือกสองสี ได้แก่ Volcanic Black และ Emerald Forest เริ่มวางขายวันแรก 13 มกราคมนี้เป็นต้นไปในจีน ก่อนบริษัทฯ จะนำสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวไปเปิดตัวในตลาด Global อีกทีในอนาคต โดยทาง OnePlus ไม่ได้ระบุว่าเมื่อไหร่ แต่คาดว่าน่าจะเร็ว ๆ นี้นี่แหละ สำหรับราคาค่าตัวของ OnePlus 10 Pro ก็จะแบ่งออกตามรุ่นความจุ ดังนี้

8GB + 128GB ราคา 4,699 หยวน หรือประมาณ 24,700 บาท
8GB + 256GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 26,200 บาท
12GB + 256GB ราคา 5,299 หยวน หรือประมาณ 27,900 บาท


https://droidsans.com/oneplus-10-pro-officially-launched/

 







สะดวกไปอีก…Android 13 จะใส่ฟีเจอร์สแกน QR Code ได้จากหน้า Lock Screen ทันที
Spoil

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะไปไหนก็เห็นแต่ QR Code เต็มไปหมด…เพราะมันเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าให้กับทั้งคนขายและลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านข้าวแกง, ร้าน Fast Food, ร้านของชำ หรือแม้แต่ร้านรถเข็นแผงลอยก็ยังมี นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการสแกนเพื่อทำอะไร ๆ นอกจากการจ่ายเงินได้อีก แต่ติดอยู่ที่มือถือบางรุ่นเนี่ย กว่าจะหาแอปที่ใช้สแกน QR Code ได้ก็ต้องจิ้มกันหลายจึ้กกว่าจะเจอ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปในระบบ Android 13 เพราะว่าเราจะสามารถเปิดกล้องสแกน QR Code ได้ทันทีตั้งแต่ Lock Screen เลยล่ะ

ปกติแล้วการสแกน QR Code ของมือถือจากค่ายต่าง ๆ มักจะฝังเอาตัวสแกน QR Code เอาไว้ในแอปกล้องของตัวเองอยู่แล้ว แต่เวลาจะสแกนก็ต้องเปิดแอปกล้องเข้าไปแล้วเลือกโหมด QR อีกทีนึง ซึ่งฟีเจอร์ใหม่ของ Android 13 ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดตัวสแกน QR Code มาไว้ที่หน้า Lock Screen เลย ก็จะช่วยลดขั้นตอนลงไปได้อีก เพราะแค่หยิบมือถือขึ้นมา เปิดจอ แล้วก็เลือกโหมดสแกนได้ทันที

โดยตอนนี้ยังมีเพียงภาพหลุดของการตั้งค่าเพื่อเปิด Show QR Scanner อยู่ในหน้า Settings เท่านั้น ยังไม่มีให้ดูว่าบนหน้าจอ Lock Screen จริง ๆ แล้ว เจ้าตัว QR Scanner จะไปอยู่ตรงไหน และจะเป็นแอปสำหรับสแกน QR Code โดยเฉพาะเลย หรือว่าจะใช้ Google Lens กันแน่

นอกจากนี้หากว่าใครไม่ได้สแกน QR Code บ่อยจนต้องเอาไปไว้ที่หน้า Lock Screen ใน Android 13 ยังมีตัวเลือกให้เอา QR Scanner ไปไว้บนแถบ Quick Settings ได้ด้วย โดยเมื่อลากแถบด้านบนลงมาก็จะเจอกับตัวเลือกให้เปิดกล้องเพื่อสแกนได้เลย

สำหรับฟีเจอร์นี้ อาจไม่ได้ว้าวสำหรับบางคนซึ่งใช้มือถือที่ UI สามารถเปิดตัวสแกน QR Code ได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว (อย่าง MIUI ก็มีให้กดเปิดสแกนได้จากแถบ Quick Settings มาซักพักแล้ว) แต่สำหรับคนที่ใช้มือถือแบบที่มี UI เปลือย ๆ เลย น่าจะถูกใจกับฟีเจอร์นี้ครับ
https://droidsans.com/android-13-qr-code-scanner-lock-screen/
 






OnePlus Buds Pro สีเงิน เปิดตัวในจีน ราคาราว 3,690 บาท
Spoil

ในระหว่างเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ OnePlus 10 Pro 5G ผู้ผลิตรายเดียวกันได้ถือโอกาสแนะนำหูฟังไร้สาย OnePlus Buds Pro สีเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Matte Black และ Glossy White

ตัวเลือก่อนหน้านี้ของ OnePlus Buds Pro ทั้งสี Matte Black และ Glossy White จะใช้ดีไซน์ทูโทน โดยตัวก้านจะเป็นสีเงิน แต่สำหรับสีสันใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวพร้อมกับ OnePlus 10 Pro 5G มาในสีเงินล้วน ทั้งหูฟังและเคสชาร์จ พร้อมวางจำหน่ายในราคา 699 หยวน หรือราว 3,690 บาท (จากราคาปกติ 799 หยวน)

นอกเหนือจากสีสัน OnePlus Buds Pro สีเงิน ไม่ได้มีสเปกแตกต่างออกไป โดยยังคงจุดเด่นที่เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Smart Adaptive Noise Cancellation, ไมโครโฟน 3 ตัว, ป้องกันน้ำและกันฝุ่นในระดับ IP55, ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 38 ชั่วโมง
https://www.flashfly.net/wp/372780

 






คุมโทนง่ายกว่าเดิม - Instagram ทดสอบหน้าโปรไฟล์แบบใหม่
เรียงรูปได้ตามต้องการ

Spoil


Alessandro Paluzzi นักแกะโค้ดแอปเปิดเผยข้อมูลว่า Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ Edit Grid ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเรียงโพสต์ในหน้าโปรไฟล์ได้ตามต้องการ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับหน้าโปรไฟล์ศิลปิน หรือหน้าของร้านค้า ที่จะทำให้การแสดงลำดับภาพสวยงามตามต้องการทำได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันโพสต์ในหน้าโปรไฟล์จะแสดงผลเรียงตามลำดับการโพสต์

ทั้งนี้ Engadget ได้สอบถามไปยัง Instagram แต่ยังไม่ได้คำตอบว่าฟีเจอร์นี้เป็นแค่การทดลอง หรืออาจเปิดให้ใช้งานจริงกับผู้ใช้งานทุกคน ดูตัวอย่างได้จากทวีตท้ายข่าว

https://www.blognone.com/node/126663
 






‘กระจกอัจฉริยะ’ Sound Mirror ที่เป็นทั้งกระจกสำหรับแต่งบ้าน
และลำโพงไร้สายอัจฉริยะในตัว !

Spoil

• งาน CES 2022 ยังเป็นงานที่เปิดตัวตัวสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับ ICON.AI บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ ที่ได้เปิดตัว ‘กระจกอัจฉริยะ’ Sound Mirror ที่สามารถเป็นได้ทั้งกระจกสำหรับแต่งบ้าน และลำโพงไร้สายอัจฉริยะในตัว แถมยังได้รางวัล CES Innovation Awards 2022 อีกด้วย

• เจ้ากระจก Sound Mirror นี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Wi-Fi ที่บ้านของเรา แล้วเชื่อมต่อเข้าระบบ Alexa Voice Services ของแอมะซอน (Amazon) ซึ่งทำให้ลำโพงนี้สามารถสั่งการได้ด้วยเสียง และไม่ต้องใช้มือไปสัมผัสมันเลยแม้แต่นิดเดียว

• ความสามารถของกระจกอัจฉริยะตัวนี้ สามารถใช้เป็นลำโพงเพื่อเล่นเพลงจากบริการสตรีมมิ่งที่เราต้องการได้ เช่นสปอติฟาย (Spotify) แอปเปิ้ลมิวสิค (Apple Music) หรือกระทั่งแอมะซอนมิวสิค (Amazon Music) และไทดอล (Tidal) โดยคุณภาพของเสียงนั้นทาง ICON.AI นั้นได้บอกไว้ว่า “เสียงดังกังวานทั่วทั้งห้อง” โดยกระจกนี้ยัง “สร้างทุกพื้นที่ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศได้”

• นอกจากนั้น กระจกนี้ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะได้อีก สามารถถามสภาพอากาศ ตั้งปลุก หรือกระทั่งควบคุมอุปกรณ์สมาร์ตโฮมอื่น ๆ ภายในบ้านได้ผ่านกระจกนี้ การควบคุมกระจกอัจฉริยะนี้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยแอปพลิเคชัน Sound Mirror ทั้งในไอโอเอส และแอนดรอยด์ ซึ่งในแอปสามารถปรับได้ทั้งเบส และเสียงแหลม (Treble) ของลำโพง รวมถึงมี Preset การตั้งค่าเสียงผ่าน Equalizer อย่างน้อย 7 รูปแบบ เพื่อปรับเสียงให้เข้ากับบรรยากาศในห้องต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ หรือปรับเสียงเพื่อเน้นเปิดเพลงในแนวที่ชอบได้อีกด้วย

• กระจก Sound Mirror นี้มาใน 2 รูปทรง คือทรงโค้ง และทรงกลม โดยมีหลากสีสันมาก ทั้งสีทอง สีดำด้าน (Matte Black) และสีขาวด้าน (Matte White) รวมถึงสีที่ปรับแต่งได้เอง แต่ยังคงไม่มีข้อมูลอื่น ๆ เช่นราคาของสินค้านี้ออกมา


‣ เครดิตภาพและอ้างอิง
https://soundmirror.ai/
https://bit.ly/3q2KPcE
https://www.facebook.com/beartaiBUZZ/photos/a.466586956869457/1880468562147949/
 






อุปกรณ์ AR/VR ของ Apple จะมาพร้อม 96W Power Adapter
ติดตั้งโปรเซสเซอร์ 2 ตัว

Spoil

รายงานใหม่ของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF International Securities อ้างว่าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple จะมาพร้อม 96W Power Adapter แบบเดียวกับ MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว

การใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB‑C ขนาด 96W แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple จะมีพลังในการประมวลผลระดับเดียวกับ Mac

Ming-Chi Kuo ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple จะได้รับการติดตั้งโปรเซสเซอร์ 2 ตัว โดยใช้ชิประดับ 4nm + 5nm จาก TSMC โดยมั่นใจว่าอุปกรณ์ AR/VR ของ Apple จะล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง 2 – 3 ปี ในแง่ของพลังการประมวลผล และมอบประสบการณ์ใหม่ด้วยการสลับระหว่างโหมด AR และ VR ได้อย่างราบรื่น

คาดว่า Apple จะเปิดตัวอุปกรณ์ AR/VR รุ่นแรกของบริษัทฯ ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้

https://www.flashfly.net/wp/372817
 






Hisense เปิดตัวสมาร์ททีวีไลน์อัพใหม่ U และ A Series ในงาน CES 2022
Spoil

Hisense ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีนได้เปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นใหม่หลายรุ่นที่งาน CES 2022 ซึ่งประกอบด้วยรุ่นพรีเมียม เช่น Hisense U9H, U8H, U7H, U6H และรุ่นราคาไม่แพง อย่างเช่น Hisense A7H, A6H และ A4H

Hisense U9H

เริ่มต้นด้วย Hisense U9H ทีวีใหม่เป็นรุ่นท็อปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีปี 2022 ที่มาพร้อมจอแสดงผล 4K ขนาด 75 นิ้วแบบ Mini LEDs มีอัตราการรีเฟรช 120Hz, ความสว่าง 200 nits และโหมดเวลาแฝงต่ำอัตโนมัติ auto low latency mode

นอกจากนี้ยังพกพาคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น Game Mode Pro, FreeSync และอัตราการรีเฟรชแปรผัน (VRR) มีลำโพงในตัวที่ปรับแต่งโดย Dolby Atmos โดย Hisense U9H เปิดราคาที่ 3,199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 106,900 บาท และจะวางจำหน่ายในฤดูร้อนนี้


Hisense U8H และ U7H

สำหรับ Hisense U8H และ U7H จะใช้หน้าจอแบบ QLED แทน (ไม่เหมือนกับรุ่นท็อปด้านบนที่ใช้ Mini LED) และทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับอัตราการรีเฟรช 120Hz

นอกจากนี้หน้าจอยังรองรับความละเอียดระดับ 4K และในด้านความสว่างในรุ่น U8H จะอยู่ที่ 1500 nits ส่วนความสว่างของ U7H ยังไม่เปิดเผยข้อมูล โดยทั้งสองรุ่นยังรองรับ FreeSynce, Dolby Vision IQ และ HDR10+

Hisense U8H มีให้เลือกในขนาด 55, 65 และ 75 นิ้ว เปิดราคาเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์ หรือประมาณ 36,700 บาท ในทางกลับกัน Hisense U7H จะเพิ่มขนาด 85 นิ้วเข้ามาให้เลือกด้วยจากตัวเลือกด้านบน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์ หรือประมาณ 26,700 บาท และจะวางจำหน่ายในฤดูร้อนเช่นเดียวกับ U9H


Hisense U6H

Hisense U6H จะมีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 50 ถึง 75 นิ้ว มีอัตราการรีเฟรชมาตรฐาน 60Hz รองรับ Dolby Atmos และรองรับสีแบบ quantum dot ส่วนราคาของ U6H ยังไม่เปิดเผยในขณะนี้


Hisense A7H, A6H และ A4H

สุดท้ายกลุ่มราคาประหยัด Hisense A7H, A6H และ A4H จะมีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 32 ถึง 85 นิ้ว โดย A7H และ A6H จะรองรับ Google TV ในขณะที่ A4H จะบู๊ตบน Android TV และ A4H เป็นทีวีที่ถูกที่สุดในปีนี้ มีขนาดให้เลือกคือ 32, 40 และ 43 นิ้วที่มีความละเอียด FHD เปิดราคาเริ่มต้นที่ 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,600 บาท และจะวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิครับ

https://techxcite.com/web/topic/40461?fbclid=IwAR37kbuKQ5PoVMCjkCQ6UY0FKGQHjC2u6tuyquo4pEEVXaitFYt23FS3ST0
 






General Motor โชว์โครงการ Lunar Rover ยานพาหนะสำรวจพื้นผิวดวงดาว
Spoil
เป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษหลังจากที่ยานสำรวจอวกาศได้ลงแตะพื้นดวงจันทร์เป็นครั้งแรกและกิจการการสำรวจดวงดาวก็มีกันมาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ว่าจะมีแต่ฝั่งของรัฐบาลประเทศต่างๆที่จะมีกิจการสำรวจดวงดาวเท่านั้นในฝั่งเอกชนอย่างค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต่างก็มีแผนกดวงดาวเป็นของตัวเองว่าจะเป็น Toyota, Nissan บริษัทเหล่านี้ก็เคยตั้งหน่วยงานที่เกี่ยวกับกิจการดวงดาวขึ้นมาแล้วและล่าสุด General Motor ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้าร่วม

General Motor ได้โพสต์ภาพและวีดีโอเกี่ยวกับยานพาหนะสํารวจพื้นผิวดวงดาวภายใต้ชื่อโครงการ Lunar Rover Terrain Vehicle พร้อมกับมีข้อความว่า พวกเราเลือกจะไปดวงจันทร์กันอีกครั้ง พร้อมกับมีการติดแฮชแท็กว่า #GMDefense และ @LockheedMartin.”\

ในภาพเราจะสังเกตได้ว่าตัวยานพาหนะจะดูคล้ายกับรถบรรทุกมีที่นั่ง 2 ที่แต่ดูเหมือนจะไม่มีพวงมาลัยการควบคุมนั้นคาดว่าจะทำได้จากตัวคอนโซลกลางหรือตัวรถอาจจะมีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยานพาหนะดังกล่าวจะต้องมีบทบาทสำคัญต่อนักบินอวกาศและนักสำรวจดวงดาวเพราะมันจะต้องช่วยขยายขอบเขตในการสำรวจให้ได้มากที่สุด

นอกจากนั้นยังมีการพูดกันว่า Lunar Rove จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Artemis ของ NASA ที่จะมีการส่งนักบินอวกาศกลับไปเหยียบดวงจันทร์อีกครั้งพร้อมกับผู้หญิงคนแรกและคนผิวสีคนแรกที่จะได้เหยียบดวงจันทร์และพวกเขายังพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่จะส่งมนุษย์ไปเหยียบพื้นผิวของดาวอังคารอีกด้วย

https://techxcite.com/web/topic/40467
 






Zuvi Halo ไดร์เป่าผมยุคใหม่ ทำผมแห้งด้วยพลังงานแสง+ลม
Spoil

Zuvi เปิดตัวไดร์เป่าผมรุ่นใหม่ Zuvi Halo มาพร้อมกับเทคโนโลยี LightCare สิทธิบััตรจาก Zuvi ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงธรรมชาติ ในงาน CES 2022 Zuvi Halo เป็นไดร์เป่าผมรุ่นแรกที่ใช้พลังงานแสงในการทำให้ผมแห้งด้วยความเร็วสูง พร้อมทั้งช่วยดูแลโคนผมและหนังศีรษะ ให้สุขภาพดีขึ้น นุ่มขึ้น และเปล่งประกายมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานได้ถึง 60%

Zuvi Halo ถูกพัฒนาและทดสอบโดยห้องทดลองของ Zuvi ร่วมกับห้องทดลองจากภายนอก และผ่านการยืนยันโดย SGS ว่ามีส่วนช่วยต่อเส้นผม

● รักษาความชุ่มชื้นของเส้นผมได้มากกว่าไดร์เป่าผมทั่วไปถึง 109%
● รักษาสีผมสังเคราะห์ได้นานขึ้น 57%
● เส้นผมนุ่มขึ้นถึง 17%
● ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น 9%
● เพิ่มความเปล่งประกายให้เส้นผมมากถึง 37% หลังจากใช้งาน
Zuvi มุ่งหวังที่จะทำให้ Zuvi Halo เป็นรูปแบบใหม่ของไดร์เป่าผมและเข้ามาทดแทนไดร์เป่าผมแบบเดิม ๆ ที่ใช้ขดลวดในการนำความร้อนแบบที่นิยมกันในปัจจุบัน Zuvi Halo ออกแบบโดยใช้แสงและลมอ้างอิงจากธรรมชาติ เพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลด Carbon footprint ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่มากขึ้นถึง 2.5 เท่า

แบรนด์ Zuvi Halo การันตีด้วยรางวัล CES 2022 INNOVATION AWARD PRODUCT จากงาน CES 2022 ว่าเป็นนวัตกรรมมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดย Zuvi Halo นั้นมีรุ่นที่เป็นแบบไร้สายด้วย โดยสามารถใช้งานได้นาน 13 – 27 นาที ชาร์จ 19 นาทีได้ 90% และหนักประมาณ 680 กรัม ซึ่งตอนนี้ Zuvi Halo ขายแล้วในญี่ปุ่นที่ 55,000 yen หรือประมาณ 16,000 บาท

สามารถศึกษาข้อมูลของ Zuvi Halo เพิ่มเติมได้ที่ www.zuvi.us/zuvi-halo

https://www.beartai.com/news/gadget/906577
 






iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม
คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

Spoil

ก่อนที่จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ประจำปี ก็มักจะมีข่าวลือหรือรูปหลุด หรือข้อมูลต่างๆ ออกมาให้ได้ติดตามกันตลอดทั้งปี และล่าสุดก็มีข้อมูลเกี่ยวกับราคา iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max แล้ว

LeaksApplePro ได้รายงานว่า iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่สูงเดิม โดย iPhone 14 Pro จะมีราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ หรือประมาณ 42,900 บาท (เท่ากับ iPhone 13 Pro Max 128GB) ส่วน iPhone 14 Pro Max จะมีราคาเริ่มต้น 1,199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 46,900 บาท (เท่ากับ iPhone 13 Pro Max 256GB)

และรุ่นธรรมดาอย่าง iPhone 14 อาจจะมีราคาเริ่มต้นที่ $799 หรือประมาณ 29,900 บาทในราคาเดิม แต่ทว่าปีนี้มีข่าวลือว่าจะมี iPhone 14 Max ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่เท่ากับ iPhone 14 Pro Max เข้ามาด้วย ซึ่งรุ่นนี้อาจจะมีราคาที่แพงกว่ารุ่นหน้าจอเล็กอีกเล็กน้อย

เหตุผลในการปรับราคาสูงขึ้นในรุ่น Pro ของปีนี้นั้นอาจจะมาจากการปรับดีไซน์ใหม่และการอัปเกรดประสิทธิภาพต่างๆ รวมถึงการขาดแคลนชิปและส่วนประกอบต่างๆ รวมกันหลายๆ องค์ประกอบ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาการปรับราคา และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในตอนเปิดตัว

iPhone 14 รุ่นใหม่ในปีนี้ มีข่าวลือว่ายังคงมาใน 4 โมเดล แต่จะไม่มีรุ่น mini อีกต่อไป โดยจะมีเพียงแค่ 2 ขนาดหน้าจอเท่านั้น โดยจะมีขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว มีการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น iPhone 14 (6.1 นิ้ว), iPhone 14 Max (6.7 นิ้ว), iPhone 14 Pro (6.1 นิ้ว) และ iPhone 14 Pro Max (6.7 นิ้ว) ซึ่งรุ่น Pro จะมีกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล และมีข่าวลือว่าจะไม่ได้ใช้รอยบากแล้ว แต่จะเป็นการเจาะรูรูปทรงแคปซูลยาเพื่อฝังกล้องหน้าแทน

https://www.flashfly.net/wp/372903

 






เป็นแค่เมาส์ไม่พอแล้ว ADATA เปิดตัว XPG Vault เมาส์พร้อม SSD 1 TB ในตัว
Spoil

ในช่วงที่ผ่านมาเมาส์ยี่ห้อต่าง ๆ ก็ต่างพยายามที่จะลดน้ำหนักของเมาส์ตัวเองลงจนกลายเป็นกระแสกันไป แต่ทาง ADATA ได้คิดต่างออกไปโดยได้ออกเมาส์ในแบรนด์ Gaming ของตัวเองอย่าง XPG Vault โดยจะมี SSD 1 TB อยู่ในตัวเมาส์ด้วย

เจ้า XPG Vault จะมาพร้อมกับ SSD ที่จะมีความเร็วอ่านอยู่ที่ประมาณ 985 MB/s จำนวน 1TB ซึ่งเจ้า SSD ในเมาส์นี้นั้นเร็วกว่า SSD แบบ SATA 3 และยังได้ได้ความสะดวกในการพกพาไม่ว่าจะเป็นคลังเกม หนังหรือไฟล์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายในเมาส์ตัวเดียวอีกด้วย

เจ้า XPG Vault นี้เป็นหนึ่งคอนเซ็ปต์ที่ทาง ADATA ปล่อยออกมาก่อนงาน CES 2022 ที่กำลังจะถึงยังไม่ใช่สินค้าจริงแต่อย่างใดแต่ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจเลยทีเดียวหวังว่าเราจะได้เห็นเจ้า XPG Vault ออกมาเป็นสินค้าจริงเร็ว ๆ นี้


https://www.beartai.com/news/itnews/895267
 






Nvidia เปิดตัว RTX 3080 แรม 12GB อย่างเป็นทางการ
Spoil

RTX 3080 12GB นั้นได้มีข่าวหลุดออกมาเป็นเดือนแล้วในที่สุดทาง Nvidia ก็ได้ออกมาเปิดตัวการ์ดที่จะมาอยู่ระหว่าง RTX 3080 ตัว 10 GB กับ RTX 3080 Ti อย่างเป็นทางการแล้ว

โดยเจ้า RTX 3080 12 GB นี้นอกจาก VRAM ที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว GPU Core ยังเพิ่มจาก 8704 Core ในตัวปกติมาเป็น 8960 Core ทั้ง Tensor core และ RT Core ก็เพิ่มขึ้นด้วยและความเร็วของแรมก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยจะกินไปอยู่ที่ 350W มากกว่าเดิม 30W ดูแล้วน่าจะมาครองตำแหน่งการ์ดจอสำหรับเล่นเกมที่ดีและคุ้มที่สุดตอนนี้แน่นอน

RTX 3080 12GB นั้นจะไม่มี Founder Edition จะมีแค่การ์ดจาก Partner แบรนด์ต่าง ๆ และตอนนี้หลาย ๆ เจ้าก็เริ่มทยอยปล่อย Lineup ของ RTX 3080 12GB ของตัวเองกันออกมาแล้ว ในส่วนของราคา ทาง Nvidia ไม่ได้ตั้ง MSRP ไว้แต่อย่างใดแต่ก็คาดว่าน่าจะออกมาในราคาประมาณ 999 USD หรือประมาณ 33,300 บาท

ในตอนนี้ราคาของการ์ดจอที่ออกมานั้นจะมากกว่าราคาที่ตั้งไว้ประมาณเท่าตัว โดยได้มีร้านในเยอรมนีได้วางขายเจ้า RTX 3080 12GB อยู่ที่ราคา ประมาณ 1926 USD หรือประมาณ 64,000 บาท ถ้าสนใจกันอยู่ก็รอราคาในไทยกันได้เลยครับ

https://www.beartai.com/news/itnews/911836
 






เดวิด เบนเน็ตต์ มนุษย์คนแรกของโลก ที่ได้รับ ‘หัวใจหมู’
จากการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ

Spoil

ก่อนหน้านี้เบนเน็ตต์กำลังเผชิญปัญหาจากโรคหัวใจเต้นผิดปกติ ที่อยู่ในระยะสุดท้าย โดยทีมแพทย์ที่ทำการรักษาเขาก็ได้ลงความเห็นร่วมกันว่า การปลูกถ่ายอวัยวะถือเป็นความหวังสุดท้ายในการที่จะช่วยชีวิตเบนเน็ตต์ได้ แต่แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมซ้อนเขาได้รับการวินิจฉัยว่า ร่างกายของเขาไม่พร้อมสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะจากมนุษย์

แต่ทุกปัญหาย่อมมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ ต่อมาทีมศัลยแพทย์จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ก็เกิดความคิดที่จะนำหัวใจของหมูที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม มาทำการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะให้กับเบนเน็ตต์

“ถ้าผมไม่เข้ารับการปลูกถ่าย ยังไงผมก็ตาย มันแทบจะเป็นโอกาสที่ริบหรี่มาก แต่ที่แน่ ๆ คือมันเป็นทางเลือกสุดท้ายของผม” เบนเน็ตต์กล่าวไว้หนึ่งวันก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ต่อมาเบนเน็ตต์ได้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะโดยใช้หัวใจหมูมาแทนหัวใจมนุษย์ โดยทีมแพทย์ใช้เวลาผ่าตัดในครั้งนี้ไป 7 ชั่วโมง ด้าน ดร.คริสติน เลา (Christine Lau) หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ หนึ่งในศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเบนเน็ตต์กล่าวว่า

“เคสนี้มีความเสี่ยงมากกว่าปกติ เพราะกรณีนี้เราต้องการการกดภูมิคุ้มกันที่มากขึ้น ซึ่งต่างจากการปลูกถ่ายอวัยวะจากคนสู่คน ซึ่งคนไข้จะทำได้ดีเพียงใดต่อจากนี้ เราไม่อาจรู้ได้เลย เพราะอย่างที่ทราบสิ่งแบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“มีผู้คนเสียชีวิตตลอดเวลาในระหว่างขั้นตอนการรออวัยวะ หากเราสามารถใช้อวัยวะจากหมูที่ดัดแปลงพันธุกรรมได้ดี คนไข้เหล่านั้นก็จะไม่ต้องรออีกต่อไป อีกทั้งตอนกลางคืนทีมแพทย์ก็ไม่ต้องบินไปทั่วประเทศเพื่อออกไปกู้หรือรับอวัยวะอีก” ดร.เลา กล่าวเสริม

บาร์ตลีย์ กริฟฟิธ (Bartley Griffith) อีกหนึ่งศัลยแพทย์ที่ดูแลเคสนี้ กล่าวว่า ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับเบนเน็ตต์ทำให้มนุษย์กำลังเข้าใกล้แนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอวัยวะ โดยในปัจจุบันสหรัฐฯ มีผู้ป่วยมากกว่า 100,000 รายอยู่ในรายชื่อผู้รอเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และในแต่ละปีมีคนไข้มากกว่า 6,000 คน เสียชีวิตระหว่างรอการบริจาคอวัยวะ

การถูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์ หรือที่เรียกว่าการปลูกถ่าย ‘ซีโนทรานส์แพลนเทชัน (Xenotransplantation)’ ถูกคิดค้นและเริ่มทดลองมาตั้งแต่ปี 1980 โดยเริ่มขึ้นจากเคสของเด็กทารกที่เป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่กำเนิด และถูกเปลี่ยนถ่ายหัวใจมาจากลิงบาบูน แม้ในท้ายที่สุดเธอจะเสียชีวิตหนึ่งเดือนให้หลัง แต่นั่นก็เหมือนเป็นการค้นพบเส้นทางครั้งใหม่ให้กับวงการแพทย์

หากพูดถึงอวัยวะจากหมู ก่อนหน้านี้ทางการแพทย์ก็มักนิยมใช้ลิ้นหัวใจของหมูในการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะด้านหัวใจอยู่แล้ว เพราะอวัยวะของหมูส่วนใหญ่มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์ และล่าสุดในเดือนตุลาคม ปี 2021 ศัลยแพทย์ที่นิวยอร์กเพิ่งจะมีการประกาศว่า พวกเขาประสบความสำเร็จในการปลูกถ่ายไตหมูให้กับคนไข้ที่มีภาวะสมองตายไปแล้ว

แน่นอนว่าปัญหาใหญ่ที่มักจะพบหลังจากการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในลักษณะนี้ คือการปฏิเสธอวัยวะ แต่ในเคสนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อย หมูที่ถูกนำมาเป็นโดเนอร์เหล่านี้ จะได้รับการเพาะให้ขาดยีนที่อาจจะทำให้ร่างกายมนุษย์ปฏิเสธได้ และถูกเลี้ยงจนกระทั่งถึงอายุที่อวัยวะของพวกมันใหญ่พอที่จะเก็บเกี่ยวเพื่อการปลูกถ่าย

ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพิสูจน์ว่า เบนเน็ตต์กับหัวใจหมูของเขาจะเข้ากันได้ดีขนาดไหน แต่ล่าสุดผ่านมา 3 วัน ร่างกายของเขาก็ตอบสนองกับหัวใจใหม่ดวงนี้ได้ดี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายอันดีของวงการแพทย์ ที่ในอนาคตน่าจะช่วยชีวิตมนุษย์ได้อีกจำนวนมาก

อ้างอิง:
https://bbc.in/3Foi0f8

https://www.beartai.com/lifestyle/912270

 






ลือ iPhone 14 Pro จะเพิ่มจำนวนพิกเซลแล้ว
Spoil

iPhone 13 เพิ่งจะเปิดตัวออกมาได้ไม่ถึงครึ่งปี เรากำลังจะล่วงหน้าไปสู่ iPhone 14 กันแล้ว โดยล่าสุดมีข่าวว่า Apple จะเพิ่มความละเอียดกล้องหลังของ iPhone 14 Pro หลังจากที่ใช้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมาตั้งแต่สมัย iPhone 6s ครับ

อ้างอิงจาก TrendForce เผยว่า กล้องของ iPhone 14 Pro จะเปลี่ยนไปใช้เซนเซอร์แบบใหม่ที่อัปเกรดความละเอียดจาก 12 ล้านพิกเซล เพิ่มเป็น 48 ล้านพิกเซล

“คาดว่า Apple จะเปิดตัว iPhone 14 Pro ซีรีส์ที่ใช้กล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซลในปีนี้ นอกจากนี้ Apple จะลดจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้กล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซลให้มีส่วนแบ่งในตลาดทั้งหมดเพียง 15% เท่านั้น” ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่มีข่าวว่า Apple จะก้าวข้ามความละเอียดกล้อง 12 ล้านพิกเซลครับ

ก่อนหน้านี้ Ming Chi-Kuo ได้เคยให้ข้อมูลไว้ในปี 2021 ว่า Apple จะอัปเกรดกล้องของ iPhone ใน iPhone 14 เฉพาะรุ่น Pro ได้แก่ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max โดยจะเปลี่ยนไปใช้กล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจากความละเอียด 12 ล้านพิกเซลถึง 4 เท่า แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าชุดเลนส์อื่น เช่น เลนส์มุมกว้างพิเศษและเลนส์ซูมจะอัปเกรดความละเอียดด้วยหรือไม่

https://www.beartai.com/news/mobilenews/911701
 






มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นแชร์ภาพถ่ายโลกแบบ Time-Lapse อันน่าทึ่ง
ส่งตรงจากอวกาศ

Spoil

เชื่อว่าหลายปีหลังมานี้อาจผ่านไปอย่างยากลำบากสำหรับใครหลายคน แต่เมื่อได้เห็นภาพโลก Time-Lapse อันน่าทึ่ง ส่งตรงจากอวกาศ อาจทำให้ความเครียดและความคิดอันยุ่งเหยิงหายไปรวมถึงทำให้ใจสงบลง เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Overview Effect” หรือการเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดและการรับรู้เมื่อได้มองเห็นโลกจากมุมสูง และรับรู้ว่าความจริงแล้วมนุษย์เราก็เป็นเพียงฝุ่นธุลีในอวกาศเท่านั้น

แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินอวกาศก็สามารถมองโลกจากมุมสูงได้ เพราะช่วงปลายปีที่ผ่านมามหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น มาเอะซาวะ ยูซาคุ (Maezawa Yusaku) ได้มีโอกาสขึ้นไปท่องอวกาศในฐานะนักท่องเที่ยว เขาถ่ายคลิปภาพโลกจากมุมสูงด้วยเทคนิค Time-Lapse (เทคนิคการถ่ายภาพนิ่งแล้วนำมารวมเป็นวิดีโอแบบเร่งความเร็ว) จนได้คลิปความยาว 24 วินาทีอันน่าทึ่ง

คลิปความยาว 24 วินาทีนี้แสดงให้เห็นว่าโลกหมุนรอบตัวเองขณะที่แผงโซลาร์เซลล์ของสถานีอวกาศนานาชาติหมุนอยู่เบื้องหน้า ความเปลี่ยนแปลงบนอวกาศทำให้เราเห็นว่าจริง ๆ แล้วชีวิตของเราบนโลกนี้นั้นช่างเล็กเสียจนเทียบกับความเวิ้งว้างในอวกาศไม่ได้เลย

การเดินทางสู่อวกาศของมาเอะซาวะทำให้เขากลายเป็นผู้นำเทรนด์การท่องเที่ยวอวกาศที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในปี 2022 เพราะขณะนี้ Blue Origin ก็กำลังดำเนินการสร้างสถานีอวกาศส่วนตัวของตัวเอง (Blue Origin คือโครงการท่องเที่ยวอวกาศของ เจฟ เบโซส์ (Jeff Bezos) หนึ่งในชายที่รวยที่สุดในโลก เป็นผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Amazon นอกจากนี้โครงการ Blue Origin ยังได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งของ SpaceX ด้วย) ส่วนตัวของมาเอะซาวะเองก็ตั้งเป้าว่าเขาจะมีโอกาสเดินทางไปดวงจันทร์กับ SpaceX ในอนาคต

https://www.beartai.com/lifestyle/901602
 






iOS 15.2.1 มาแล้ว! เน้นแก้ปัญหาจากเวอร์ชันก่อนหน้า
Spoil

Apple ปล่อย iOS 15.2.1 ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดต โดยในเวอร์ชันนี้เน้นแก้ปัญหา อุดช่องโหว่ และปรับปรุงประสิทธิภาพจากเวอร์ชันก่อนหน้า

iOS 15.2.1
iOS 15.2.1 มาพร้อม Build Number : 19C63

สิ่งใหม่ใน iOS 15.2.1
แก้ข้อความไม่โหลดรูปภาพ ที่ส่งโดยใช้ลิงก์ iCloud
แก้แอป CarPlay ของบริษัทอื่นอาจค้างตอนกรอกข้อมูล
อุดช่องโหว่ HomeKit

อุปกรณ์ที่รองรับ
iOS 15.2.1

iPhone 13
iPhone 13 mini
iPhone 13 Pro
iPhone 13 Pro Max
iPhone 12
iPhone 12 mini
iPhone 12 Pro
iPhone 12 Pro Max
iPhone SE (รุ่นที่ 2)
iPhone 11
iPhone 11 Pro
iPhone 11 Pro Max
iPhone XS
iPhone XS Max
iPhone XR
iPhone X
iPhone 8
iPhone 8 Plus
iPhone 7
iPhone 7 Plus
iPhone SE (รุ่นที่ 1)
iPhone 6s
iPhone 6s Plus
iPod touch (รุ่นที่ 7)
iPadOS 15.2.1
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5)
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4)
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 3)
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2)
iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 1)
iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว
iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว
iPad (รุ่นที่ 9)
iPad (รุ่นที่ 8)
iPad (รุ่นที่ 7)
iPad (รุ่นที่ 6)
iPad (รุ่นที่ 5)
iPad mini (รุ่นที่ 6)
iPad mini (รุ่นที่ 5)
iPad mini 4
iPad Air (รุ่นที่ 4)
iPad Air (รุ่นที่ 3)
iPad Air 2

อัปเดตเป็น iOS 15.2.1
ผู้ใช้อุปกรณ์ที่รองรับสามารถอัปเดตเป็น iOS 15.2.1 ได้เลยที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือเชื่อมต่อเข้ากับคอมเพื่ออัปเดตก็ได้ และอย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนอัปเดตด้วย

https://www.iphonemod.net/ios-15-2-1-released.html?utm_source=thaitechfeed
 






PUBG Battlegrounds เปลี่ยนโมเดลมาเป็นเล่นฟรี ผู้เล่นเดิมได้อัพเกรดสิทธิ
Spoil


เกม PUBG Battlegrounds ทั้งบนพีซีและคอนโซล ออกอัพเดตเวอร์ชัน 15.2 เปลี่ยนโมเดลจากการขายเกมมาเป็นเล่นฟรี (free-to-play) ตามที่เคยประกาศไว้ช่วงปลายปี 2021 ตามกระแสของเกมแนว Battle Royale หรือ FPS ส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่เปิดให้เล่นฟรีเกือบทุกเกมแล้ว รวมถึงเกมเวอร์ชันมือถือ PUBG Mobile ที่เปิดให้เล่นฟรีมาตั้งแต่แรก

ต้นสังกัด Krafton บอกว่าตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลมาเป็นเล่นฟรี เพื่อขยายฐานผู้เล่นให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้เล่นเก่าด้วย เพราะมีคนมาร่วมเล่นในเกมแต่ละแมตช์มากขึ้น

ผู้เล่นเดิมที่เคยจ่ายเงินซื้อเกมไปแล้ว จะได้อัพเกรดเป็นสมาชิกระดับพรีเมียม Battlegrounds Plus แทน (สมัครเพิ่มเองจ่าย 12.99 ดอลลาร์) ได้ชุดไอเทมและโหมดการเล่นพิเศษเพิ่มจากปกติ

https://www.blognone.com/node/126683
 






Beats Fit Pro เปิดให้จับจองทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2022 เป็นต้นไป ราคา 7,300 บาท
Spoil

หลังจากเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาและจีน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุด Apple ก็เตรียมวางจำหน่ายหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ Beats Fit Pro ไปทั่วโลกแล้ว โดยจะเริ่มเปิดให้จับจองในวันที่ 24 มกราคมนี้ ก่อนจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2022 เป็นต้นไป

Beats Fit Pro มาพร้อมชิป Apple H1 ช่วยให้การจับคู่กับอุปกรณ์ Apple เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว และสามารถสลับอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเปลี่ยนจาก iPhone เป็น Mac หรือ iPad รวมถึงรองรับฟีเจอร์ “การแชร์เสียง” กับหูฟัง Beats อีกคู่หนึ่ง (หรือ Apple AirPods)

Beats Fit Pro ยังสนับสนุนเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (ANC) ที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างเต็มรูปแบบ จะใช้การปรับเทียบเสียงแบบเรียลไทม์เพื่อตัดเสียงจากภายนอกที่ไม่ต้องการออกไป และปรับแต่งเสียงเพลงให้คมชัดสูงสุด แน่นอนว่าสามารถสลับไปใช้โหมดฟังเสียงภายนอกได้อย่างง่ายดาย

หูฟัง Beats Fit Pro ให้อายุการใช้งานในการฟังสูงสุด 6 ชั่วโมง ขณะที่เคสชาร์จช่วยขยายเวลาได้นานอีก 18 ชั่วโมง หมายความว่า Beats Fit Pro มอบประสบการณ์การฟังรวมกันได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง หากปิดโหมด ANC และรองรับการชาร์จแบบ Fast Fuel ที่ชาร์จเพียง 5 นาที ช่วยให้ฟังได้นานสูงสุด 1 ชั่วโมง

Beats Fit Pro ในสหรัฐอเมริกามีราคา 199.99 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนในประเทศไทยประกาศราคาออกมาแล้วที่ 7,300 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Stone Purple, Sage Gray, Beats White และ Beats Black

https://www.flashfly.net/wp/372986
 






Nokia Lite Earbuds หูฟังไร้สาย TWS
ฟังเพลงได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง ราคาราว 1,290 บาท

Spoil

HMD Global วางจำหน่าย Nokia Lite Earbuds หูฟังไร้สายแบบ TWS (True Wireless Stereo) ในยุโรปมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ล่าสุดได้ขยายตลาดมายังประเทศอินเดีย โดยมีราคาเพียง 2,799 รูปี หรือราว 1,290 บาท จากราคาปกติ 4,999 รูปี หรือราว 2,290 บาท

Nokia Lite Earbuds ชูจุดเด่นที่อายุการใช้งานของหูฟัง อยู่ได้นานถึง 6 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และมาพร้อมเคสชาร์จที่มีความจุแบตเตอรี่ 400mAh สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับหูฟังได้อีก 5 รอบ ช่วยขยายอายุการใช้งานในการฟังเพลงได้นานสูงสุด 36 ชั่วโมง

Nokia Lite Earbuds มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตร รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 สามารถควบคุมการใช้งานด้วยระบบสัมผัสหรือคำสั่งท่าทาง และสนับสนุนการใช้งานผู้ช่วยดิจิทัล Google Assistant หรือ Siri

https://www.flashfly.net/wp/372897

 





Nokia เปิดตลาดหูฟังไร้สาย True Wireless ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สากล สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน /คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้ทุกรุ่น
Spoil

บริษัท มอร์ทูไลฟ์ จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค เปิดตลาดกลุ่มหูฟังไร้สาย True Wireless ภายใต้แบรนด์ Nokia ที่เน้นคุณภาพ และความคุ้มค่า โดย Nokia มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม consumers ที่หลากหลายและหนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Headphones หรือหูฟังไร้สาย

Nokia Essential True Wireless Earphones E3500 คุณภาพเสียงชั้นเลิศ เชื่อมต่อได้ทุกแพลตฟอร์ม

สำหรับ E3500 มีการออกแบบมาให้ ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีโดยติดตั้งไมโครโฟนรุ่นพิเศษข้างละ 2 ชุด ทำหน้าที่ตรวจจับคลื่นเสียงจากภายนอก พร้อมเทคโนโลยี Qualcomm cVc ในการประมวลผลที่แม่นยำ และรวดเร็วในการตัดเสียงรบกวน เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม หรือสามารถเปิดโหมด Ambient เพื่อได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น ฟังเพลงในขณะทำงานหรือเดินบนท้องถนน เป็นต้น

หูฟังไร้สาย Nokia Essential True Wireless มาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10 มม. ช่วยเพิ่มมิติและเสียงเบสที่ชัดเจน ในขณะที่ composite diaphragm สร้างความถี่เสียงกลางและเสียงสูงได้อย่างกลมกลืนพอเหมาะ

เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการสั่งงานหรือขอความช่วยเหลือด้วยเสียงกับ Google Assistant หรือ Siri สามารถสั่งงานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการขอเส้นทาง หาร้านอาหาร หรือขอให้เปิดเพลงโปรดที่ต้องการได้ง่าย ๆ เชื่อมต่อได้ทุกที่

ใช้งานได้สุงสุด 25 ชั่วโมง* E3500 ให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถชาร์จแบตเตอรี่กับเคสแบบพกพาได้ประมาณ 3 ครั้ง เรียกได้ว่าเป็นเวลามากพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน หูฟังมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษเพียง 5 กรัม น้ำหนักเท่ากับกระดาษ A4 นอกจากนี้ยังมีการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุลพอเหมาะทำให้สวมใส่ได้สบาย และแข็งแกร่งทนทานด้วยมาตรฐาน IPX5

หูฟังไร้สาย Nokia รุ่น E3500 มีให้เลือก 3 สี (สีน้ำเงิน / สีดำ / สีขาว)

Nokia Essential True Wireless Earphones E3200 คุณภาพเสียงระดับสูง กับความอิสระที่เหนือระดับ


E3200 มาพร้อมคุณสมบัติโหมด Ambient ที่เพียงกดปุ่มคุณจะได้ยินเสียงรอบข้างอย่างชัดเจน รองรับ Bluetooth 5.0 ให้การเชื่อมต่อได้ระยะไกล และยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานเพิ่มขึ้น เคสแบตเตอรี่ที่เพรียวบางและกะทัดรัด ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 17 ชั่วโมง* พร้อม IPX5 ป้องกันเหงื่อหรือละอองน้ำได้ รองรับการใช้งานร่วมกับ Google Assistant / Siri สามารถสั่งงานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการขอเส้นทาง หาร้านอาหาร หรือขอให้เปิดเพลงโปรดที่ต้องการได้ง่าย ๆ

หูฟังไร้สาย Nokia รุ่น E3200 มีให้เลือก 3 สี (สีเขียว / สีดำ / สีชมพู)

Nokia Essential True Wireless Earphones E3101 คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยม ใช้งานได้ทุกวัน


หูฟังไร้สาย Nokia รุ่น E3101 ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเป็นพิเศษถ่ายทอดความเป็นอะคูสติกที่มีเอกลักษณ์เพื่อให้คุณสัมผัสคุณภาพเสียงตรงตามที่นักดนตรีต้องการ ให้การสวมใส่สบาย ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา สามารถเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางได้พอดี พร้อมให้คุณหยิบใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ พร้อมจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ของคุณได้ทันที สัมผัสประสบการณ์หูฟังไร้สายที่ดีกว่าด้วยคุณภาพการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็ว และให้คุณภาพเสียงอันยอดเยี่ยมด้วย Bluetooth 5.1

ประสบการณ์ดนตรีที่มีสีสันด้วยไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 13 มม. ที่ออกแบบเป็นพิเศษ ให้การถ่ายทอดที่เที่ยงตรง และมีความสมดุลพอเหมาะ เสียงสูงที่พลิ้วไหว เสียงกลางที่คมชัด และเสียงเบสที่หนักแน่น ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศของการเล่นคอนเสิร์ตที่สมจริง


มีผู้ช่วยอัจฉริยะของคุณทั้ง Siri และ Google Assistant ที่พร้อมเรียกใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการขอเส้นทางการเดินทาง ตรวจสอบปฏิทิน ตารางนักหมาย หรือสั่งให้โทรออกโดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟน

แบ่งปันความสุขของคุณ หูฟังไร้สาย Nokia รุ่น E3101 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณมีอิสระในการใช้งานอย่างแท้จริง สามารถสลับใช้งานได้ทั้งแบบฟังข้างเดียว หรือฟังทั้ง 2 ข้างได้อย่างราบรื่น คุณสามารถแบ่งปันเพลงกับเพื่อน ๆ ด้วยหูฟังอีกข้างได้ทันที

ใช้งานได้สูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และมาพร้อมแคสชาร์จแบบพกพาที่สามารถชาร์จหูฟังได้อีก 3 ครั้ง เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

Nokia หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่น E3102 ให้เสียงที่สมจริง ออกแบบให้สวมใส่ได้สบาย ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี เพื่อให้สัมผัสกับพลังเสียงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่


E3102 เป็นหูฟังที่ออกแบบมาพร้อมการแสดงผลแบบดิจิทัลโดยจะมีจอแสดงผล Digital LED บนบนตัวเคสชาร์จช่วยให้คุณตรวจเช็คระดับแบตเตอรี่ได้อย่างแม่นยำ สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายโดยจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของคุณในทันที ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงที่เร้าใจด้วยค่า Latency ที่ต่ำลงบนเทคโนโลยี Bluetooth 5.1

ให้พลังเสียงที่เต็มอิ่มที่สามารถถ่ายทอดการฟังเพลงด้วยเสียงสูงที่ชัดเจน เสียงกลางที่คมชัด และเสียงเบสที่หนักแน่น มาพร้อมไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 13 มม. และการดีไซน์ในลักษณะอินเอียร์ที่ช่วยลดเสียงรอบข้างไม่ให้เข้ามารบกวนขณะใช้งาน ให้คุณสัมผัสกับพลังเสียงเต็ม ๆ เสมือนอยู่ท่ามกลางคอนเสิร์ต หรือดูภาพยนตร์ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น

ให้การรับสายโทรศัพท์ทำได้ตามปกติ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร้านกาแฟที่มีเสียงดัง หรือกำลังเดินทาง ด้วยคุณภาพเสียงที่ผ่านการปรับปรุงและตัดเสียงรบกวนอื่น ๆ ออกไป ทำให้ได้เสียงพูดของคุณมากขึ้น ให้คุณคุยกับปลายสายได้คมชัดมากกว่าที่เคย

มาพร้อมระบบแฮนด์ฟรีเต็มขั้นที่เรียกใช้ผู้ช่วยของคุณได้ง่าย ๆ เพียงแค่สั่งงานด้วยเสียงกับ Google Assistant และ Siri ได้ ไม่ว่าจะเป็นขอเส้นทาง ตรวจตรารางาน หรือโทรออกโดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา

ให้การแบ่งปันเสียงเพลงของคุณได้ โดยหูฟังไร้สาย Nokia E3102 ได้รับการออกแบบมาให้คุณใช้งานได้อิสระมากขึ้น สามารถหยิบหูฟังข้างใดข้างหนึ่งมาใช้งานได้ หรือแบ่งปันเพลงของคุณกับเพื่อน ๆ ในขณะที่คุณเดิน หรือนั่งห่างกัน มาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคนทั้งหมด 3 ขนาด (S/M/L) เพื่อให้เข้ากับสรีระของแต่ละคนได้พอดี คุณจึงเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด หรือสวมใส่ในระหว่างออกกำลังกายได้เช่นกัน พร้อมฟังเพลงได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง โดยฟังเพลงได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง และชาร์จเพิ่มระหว่างวันด้วยเคสชาร์จแบบพกพาที่มีแบตเตอรี่ในตัว 350 มิลลิแอมป์ ได้อีก 3 รอบ เรียกได้ว่าเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้ตลอดทั้งวัน

ป้องกันละอองน้ำได้ด้วยป้องกันละอองน้ำในระดับมาตรฐาน IP44 หมายความว่าละอองฝนหรือเหงื่อจะไม่ขัดจังหวะการฟังเพลง การโทรศัพท์ หรือการออกกำลังกายของคุณ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไรคุณสามารถฟังใช้งานได้ต่อเนื่อง

เลือกสีที่ชอบได้โดย Nokia E3102 มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ และสีส้ม

“สำหรับผลิตภัณฑ์ Nokia ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สามารถออกมาตอบโจทย์ลูกค้าในทุก ๆ กลุ่มได้เป็นอย่างดี ซึ่งกลุ่มหูฟังไร้สายเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางด้าน consumers แม้ว่าจะเป็นชื่อของ Nokia แต่หูฟังไร้สายก็สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนค่ายต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว รวมถึงอุปกรณ์อย่างโน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์พีซีที่มีบูลทูธได้เช่นกัน” นายอำนวย คำผา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท มอร์ทูไลฟ์ จำกัด กล่าว

“Nokia หูฟังไร้สายออกแบบมาให้มีสีสันที่สดใส สามารถเลือกใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเองและสามารถใช้งานได้ไม่เบื่อ ทางเราได้ทำการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ควบคู่กับพาร์ทเนอร์ของเรา ร่วมถึงสื่อชั้นนำต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้แก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมทางการขายต่าง ๆ ตามเทศกาลเพื่อดึงดูดลูกค้ามากยิ่งขึ้น” นางสาวจินห์ณิภา ศิริกุลประดิษฐ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท มอร์ทูไลฟ์ จำกัด กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ Nokia จำหน่ายที่ Jaymart, Power Buy, Power Mall และทางออนไลน์ Lazada, Shopee, JD

ราคาแนะนำ
▷ Nokia Essential True Wireless Earphones E3101 1,790.- (รวม Vat)
▷ Nokia Essential True Wireless Earphones E3102 1,990.- (รวม Vat)
▷ Nokia Essential True Wireless Earphones E3200 1,890.- (รวม Vat)
▷ Nokia Essential True Wireless Earphones E3500 2,790.- (รวม Vat)

ออกแบบให้ใช้งานง่าย – เรามีความจริงใจเป็นอย่างยิ่งในการในการออกแบบ และสื่อสารกับลูกค้าอย่างซื่อสัตย์ เราแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีประโยชน์ต่อลูกค้าได้อย่างไร แทนที่จะเลือกใช้วัสดุทดแทนที่ดูหรูหราแพงเกินจริง

ด้วยประสบการณ์และออกแบบของเรา เราเข้าใจบริบทผลิตภัณฑ์ของเราเป็นอย่างดี โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพ และความพึงพอใจของลูกค้าเสมอ

https://www.flashfly.net/wp/372936
 






เร็วพอไหม? จีนสร้างสถิติทดสอบเทคโนโลยี 6G ได้ความเร็วทะลุ 206 Gbps!!
Spoil

เน็ต 5G ที่เร็วที่สุดในประเทศปัจจุบันทำความเร็วทะลุ 1Gbps ได้แล้วซึ่งถือว่าเร็วมาก ๆ สำหรับอินเทอร์เน็ตผ่านระบบมือถือเรียกได้ว่าเร็วท้าชนเน็ตบ้านกันได้แล้ว แต่ถ้าเทคโนโลยี 6G มาละมันจะเร็วได้ขนาดไหน?

มาวันนี้ทีมนักวิจัยจากจีนได้ทำการทดสอบเทคโนโลยีการสื่อสารในระบบ 6G และได้ผลการทดสอบความเร็วเบื้องต้นมาให้เราได้เห็นกันกับความเร็วที่น่าขนลุกถึงด้วยอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 206 Gbps!!

ปัจจุบันเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยอินเตอร์เน็ตผ่านโครงข่ายโทรศัพทมือถือมาถึงยุค 5G กันแล้วและโลกเราก็กำลังก้าวเดินต่อไปยัง 6G ซึ่งหลายบริษัทจากหลายชาติต่างก็แข่งขันกันพัฒนาอย่างดุเดือด

ซึ่งล่าสุดทางฝั่งจีนก็ได้มีความคืบหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยี 6G โดยจากรายงานของ South China Morning Post ได้ระบุว่า China Mobile ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนและมหาวิทยาลัย Fudan ของจีนประสบความสำเร็จในการทดสอบการใช้งานเทคโนโลยี 6G โดยทีมนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการ Purple Mountain Laboratories ซึ่งนำทีมโดย ศจ. Xiaohu สามารถทำการทดสอบการส่งข้อมูลด้วยเทคโนโลยี 6G ที่ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วถึง 206 Gbps ในสภาพการทดสอบห้องปฏิบัตการ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดการทดลองดังกล่าวแต่ก็ถือเป็นการสร้างสถิติใหม่ของการสื่อสารโดยใช้ช่วงความถี่ 300GHz – 3THz ซึ่งเป็นช่วงความถี่ที่ถือว่าเป็นการสื่อสารด้วยเทคโนโลยี 6G

นับว่าเป็นความคืบหน้าอีกครั้งหลังจากที่ปีก่อนจีนก็ได้ส่งดาวเทียมสื่อสารสำหรับทดสอบเทคโนโลยี 6G ขึ้นสู่วงโคจรเป็นชาติแรกในโลก

เบื่องหลังความเร็วของคลื่น 6G

สำหรับเทคโนโลยี 6G นั้นจะใช้ช่วงความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในย่านความถี่ที่เรียกว่า terahertz waves ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงอยู่ระหว่าง 0.3 ถึง 3 เทราเฮิร์ต (THz) หรือความยาวคลื่น 1 มิลลิเมตรถึง 10 ไมครอน เป็นช่วงความถี่ที่อยู่ปลายของช่วงรังสีอินฟาเรดก่อนเข้าสู่ย่านไมโครเวฟ (คลื่น 5G ปัจจุบันที่เราใช้งานจะอยู่ในช่วง 700-2,600 MHz)

ซึ่งมีศักภาพในการพัฒนามาใช้งานได้หลากหลาย เช่น การนำมาใช้ถ่ายภาพอวัยวะภายในร่างกายแทนรังสีเอ็กซ์ซึ่งมีอันตรายต่อสุขภาพ หรือใช้ในการสื่อสาร แต่เจ้าช่วงคลื่นนี้ยังติดปัญหาในการใช้งานอยู่เนื่องจากต้องรอการพัฒนาอุปกรณ์แหล่งกำเนิดสัญญาณและปัจจุบันก็กำลังแข่งขันกันพัฒนาอย่างเข้มข้น

แล้วจะมาเมื่อไหร่ละ 6G?

สำหรับเทคโนโลยี 6G นั้นยังคงต้องใช้เวลาพัฒนาอีกพอสมควร ทั้งนี้ปัจจุบัน 3GPP ซึ่งเป็นองค์กรที่เซ็ตมาตราฐานการสื่อสารในปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีแนวคิดหรือแนวทางในการกำหนดว่าเทคโนโลยีการสื่อสารแบบ 6G นั้นจะไปในทิศทางไหนหรือเป็นรูปแบบใด แม้แต่ผู้พัฒนาระบบและอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเราจะได้ใช้ 6G กันเมื่อไหร่ ซึ่งจากการคาดเดาของ Ericsson คาดว่าเร็วสุดเราจะมี 6G ให้ได้ใช้กันก็น่าจะเป็นในปี 2027 ในขณะที่หัวเหว่ยนั้้นให้ความเห็นสั้น ๆ เพียงว่า “เรายังไม่รู้เลยว่า 6G นั้นจะเป็นยังไง”

วันนี้เราคงยังได้แค่เห็นศักยภาพของเทคโนโลยี 6G แต่จะได้ใช้เมื่อไหร่นั้นก็คงยังต้องรอการพัฒนากันต่อไป ส่วนตอนนี้ก็ขอให้ใช้ 5G ให้ได้เต็มสปีดเสียก่อน

อ้างอิง:

https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3162411/chinese-lab-says-it-made-breakthrough-6g-mobile-technology-global

https://interestingengineering.com/a-chinese-lab-has-claimed-a-major-breakthrough-in-6g-206-gigabits-per-second

https://www.blockdit.com/posts/5fa830be5dbf030cbaf8b1e9

https://www.dailygizmo.tv/2022/01/10/china-6g/

 







หนุ่มใช้รถ Tesla ช่วยขุด Bitcoin

Spoil

หนุ่มชาวอเมริกัน ชื่อนาย สิราจ ราวัล (Siraj Raval) ได้บอกกับสื่อช่อง CNBC ว่าเค้าสามารถใช้รถ Tesla Model 3 ปี 2018 ของเค้า มาช่วยเค้าขุดเหรียญของ Bitcoin


โดยที่เค้าลงโปรแกรมฟรีที่ใช้ขุดเหรียญ Bitcoin บนคอมพิวเตอร์ของเค้า (Apple Mac mini 1) ที่เค้าใช้มาต่อกับตัวแปลงอินเวอร์เตอร์ ให้เป็นไฟ 12 โวลต์ และเสียบเข้ากับที่จุดบุหรี่ที่คอนโซลกลางของรถ

นอกจากนั้น เค้ายังต่อกราฟิกการ์ด (GPU) ไว้ในกระโปรงหน้ารถ ที่มีจุดเสียบปลั๊กไฟอีกที่ด้วย

อย่างไรก็ตามนาย สิราจ ราวัล กลว่าวว่าการนำรถ Tesla มาทำการขุดเหรียญคริปโตแบบนี้อาจทำให้ประกัยรถขาดได้ ซึ่งนาย สิราจ ราวัล บอกต่ออีกว่า คุ้มที่จะเสี่ยง เพราะเค้าได้อ้างว่าในช่วงที่ราคาเหรียญสูงๆ เค้าสามารถทำได้กว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ (26,666บาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว

หนึ่งในนักขุดเหรียญ Bitcoin ชื่อนาย อเลฮานโดร เดอ ลา โตเร่ (Alejandro de la Torre) กล่าวว่า ปัญหาหลักคือราคาค่าไฟ ถ้าการใช้รถ Tesla มาขุดเหรียญแล้วประหยัดกว่า เค้าก็สนับสนุนด้วย

“The main component is the price of the electricity. If it’s cheaper doing it through an electric vehicle, then so be it,” – de la Torre

dailygizmo.tv/2022/01/12/tesla-car-mining-bitcoin/

 






UltraRAM แรมยุคถัดไป มี SSD ในตัว รับส่งข้อมูลเร็วขึ้น
Spoil

Lancaster University คิดค้น UltraRAM แรมแห่งอนาคต มาพร้อม SSD ในตัว ทำให้ประหยัดพื้นที่และการถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้น
ด้วยเทคนิคการพัฒนาชิปที่รุดหน้าไปไวมากทำให้ใส่จำนวนทราสซิสเตอร์ได้มากขึ้น หน่วยความจำ SSD ที่เร็วขึ้น รวมถึงการนำ AI และ ML มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ ล่าสุดทางทีมนักวิจัยจาก Lancaster University ประสบความสำเร็จในการพัฒนา RAM ยุคถัดไป

หน้าที่ของ RAM คือการเก็บข้อมูลชั่วคราวก่อนนำไปประมวลผลต่อ เมื่อเราเปิดโปรแกรมหรือไฟล์ขึ้นมา คอมพิวเตอร์จะไปดึงข้อมูลจาก SSD หรือ HDD มาเก็บไว้ใน RAM เพื่อให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น

ทางนักวิจัยจาก Lancaster University อธิบายว่า UltraRAM นั้นสามารถเก็บไฟล์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้า แต่ยังคงความเร็วของ DRAM เอาไว้ ซึ่งในอนาคตมันจะถูกใช้งานเป็นหน่วยความจำและหน่วยเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์

UltraRAM เป็นการรวมข้อดีของ RAM และ SSD เข้าไว้ด้วยกัน มีข้อดีคือเวลาที่ปิดเครื่องข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราวใน RAM ก็จะไม่หายไป ทำให้เวลาที่เปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ ทำงานต่อได้สบายๆ นอกจากนั้นการรวม RAM และ SSD นั้นจะทำให้การส่งถ่ายข้อมูลเร็วขึ้น ดังนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะทำงานเร็วขึ้นด้วย

ทางนักวิจัยเองก็พยายามพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น พร้อมปรับแต่งกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารผลิตในจำนวนที่มากขึ้นได้

https://www.dailygizmo.tv/2022/01/12/ultraram-ssd/
 









กระทู้เก่า ปี2022


◦ Mon Jan 10, 2022
http://www.soccersuck.com/boards/topic/2101751

แก้ไขล่าสุดโดย Hypervenom1998 เมื่อ Thu Jan 13, 2022 14:53, ทั้งหมด 1 ครั้ง
105
0
หากโดน 179 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2010
ตอบ: 14219
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 09:30
[RE: #Update IT]
เมาส์อย่างจ๊าบเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Apr 2020
ตอบ: 999
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 09:37
[RE: #Update IT]
มี # นำหน้า ผมนึกว่ากระทู้ท่าน piyakhun
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Dec 2013
ตอบ: 4016
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 09:49
[RE: #Update IT]
เมาส์เจ๋งดี
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: #stoponlineabuse
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Nov 2014
ตอบ: 7509
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 09:53
[RE: #Update IT]
สุดยอดฮะ มาโพสต์บ่อยๆนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Gooner since 2008.
อย่าทำตัวเป็นกระดาษทรายไปขัดคนอื่นทั้งๆที่มรึงก็ยังหยาบอยู่ - โอ๊ต ปราโมทย์
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Jun 2008
ตอบ: 3523
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 10:17
[RE: #Update IT]
... เข้ามาดู

Spoil
เห็นมู้ท่านแล้วคิดถีงบอร์ดPantipเลย  
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 4195
ที่อยู่: Somewhere only we know.
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 10:43
[RE]#Update IT
ขอบคุณสำหรับข่าวครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status: c h i c h o o ♥
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2009
ตอบ: 28349
ที่อยู่: KIM JISOO
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 11:49
[RE: #Update IT]
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5724
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 12:05
[RE]#Update IT
เข้ ยัดssd ในแรมก็มา
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Aug 2006
ตอบ: 4122
ที่อยู่: ขออยู่ในซอกไม่บอกใคร
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 14:50
[RE: #Update IT]
ตรงหัวมู้ #Update IT ถ้าช่วยเพิ่มวันตั้งกระทู้เข้าไปด้วยจะได้มั้ยครับ เวลามันขึ้นกระทู้แนะนำ จะได้แยกออกว่ามู้ไหนได้ดูไปแล้วอะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ARSENAL till i die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4315
ที่อยู่: YG stan/ITZY/Taeyeon/BIBI/Zico/Jaypark/Sik-k/NewJeans
โพสเมื่อ: Thu Jan 13, 2022 14:51
[RE: #Update IT]
kokoriko พิมพ์ว่า:
ตรงหัวมู้ #Update IT ถ้าช่วยเพิ่มวันตั้งกระทู้เข้าไปด้วยจะได้มั้ยครับ เวลามันขึ้นกระทู้แนะนำ จะได้แยกออกว่ามู้ไหนได้ดูไปแล้วอะครับ  


ขอบคุณคับท่าน เดี๋ยวผมปรับแก้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช C-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 41091
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Fri Jan 14, 2022 08:25
[RE: #Update IT (Jan 13, 2022)]
Intel ได้ตัวเทพเข้าร่วมทีมอีกแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

SAVE OF THE CENTURY !!

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Jan 2008
ตอบ: 904
ที่อยู่: 5 แยกโคกมะตูม
โพสเมื่อ: Mon Jan 17, 2022 00:23
[RE: #Update IT (Jan 13, 2022)]
ชอบผ่าตัดหัวใจ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel