BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ARSENAL till i die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Apr 2017
ตอบ: 4315
ที่อยู่: YG stan/ITZY/Taeyeon/BIBI/Zico/Jaypark/Sik-k/NewJeans
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:05
#Update IT (Jan 10, 2022)
update IT สั้นๆ กระทู้แรกของปี2022ครับ




(ลือ) Apple อาจจัดงาน Event แรกปี 2022 เดือน มี.ค. หรือ เม.ย. คาดเปิดตัว iPhone SE 3
Spoil

Mark Gurman เผยว่า Apple อาจจัดงาน Event แรกของปี 2022 ในเดือน มี.ค. หรือไม่ก็ เม.ย. แบบออนไลน์ คาดว่ามี iPhone SE 3 เปิดตัว

Apple Event แรกปี 2022
Gurman เผยว่างาน Apple Event ครั้งแรกของปี 2022 จะเป็นแบบออนไลน์เหมือนเดิมเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 โดยงานอาจจัดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. หรือไม่ก็ เม.ย.

สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะเปิดตัวนั้น Gurman เผยว่าจะเป็น iPhone SE 3 ที่มีข่าวลือว่าจะใช้ดีไซน์เดิม รองรับ 5G และมาพร้อมชิปใหม่

นอกจาก iPhone SE 3 แล้วก็เคยมีข่าวลือการมาของ Mac รุ่นชิป Apple Silicon ใหม่ด้วย อาจเป็น MacBook Air โฉมใหม่ชิป M2, iMac 27 นิ้วใหม่ รวมถึง Mac Pro ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา, Apple จัดงาน Event ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 เม.ย 2021 โดยเปิดตัว iMac 24 นิ้วชิป M1, iPad Pro ชิป M1, iPhone 12 สีม่วง, AirTag และ Apple TV 4K ใหม่ ส่วนปีนี้จะจัดขึ้นเมื่อไหร่ต้องรอติดตามกัน


https://www.iphonemod.net/iphone-se-3-apple-event-march-2022-report.html
 






TCL NXTWEAR AIR แว่นตาที่จะยกโรงภาพยนต์หน้าจอ 140 นิ้ว ความละเอียด FullHD มาให้คุณเห็นเต็มตา
Spoil

ดูเหมือนว่าค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าเทรนด์ในปี 2022 เรื่องที่จะได้รับความนิยมไปตลอดทั้งปีคืออุปกรณ์สวมใส่ "แว่นตา" อาจจะมาในรูปแบบแตกต่างกันไป แต่ที่สุดยอดคือมันจะไม่ใช่แค่แว่นตาแล้ว โดยในงาน CES (Consumer Technology Association) งานที่จัดโชว์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากแบรนด์ชั้นนำที่นำมาโชว์เคส ซึ่งแบรนด์ TCL ได้สร้างความแตกต่างด้วยการเปิดตัวแว่นตา TCL NXTWEAR AIR ที่จะยกโรงภาพยนต์ส่วนตัวของคุณในขนาดหน้าจอ 140 นิ้ว ความละเอียด FullHD (1080p) มาไว้ให้คุณรับชมคอนเทนต์ได้ผ่านเลนส์แว่นตาแล้ว!



TCL NXTWEAR AIR มีการออกแบบใหม่หมด โดยรวมแล้วน้ำหนักเบาขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่มีการเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว จุดที่น่าสนใจคือ เลนส์แว่นมีจุดแสดงผลด้วยหน้าจอประเภท MicroOLED เลนส์ทั้งสองข้างสามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียด FullHD ในมุมมองการแสดงผลระยะไกล 4 เมตร อย่างไรก็ตามถ้าใครมองหาเทคโนโลยี AR หรือ VR คงต้องข้ามแว่นตารุ่นนี้ไป เพราะไม่รองรับฟังก์ชั่นการใช้งาน

การแสดงผลของภาพจะมีความหนาแน่นต่อพิกเซลประมาณ 47 พิกเซลต่อระดับ ซึ่งเพียงพอต่อการแสดงผลของภาพความละเอียด 4K ในประเภทคอนเทนต์ 3D ส่วนการรับชมก็สบายสายตาด้วยรีเฟรชเรท 60Hz

นอกจากนี้หากต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ทำได้โดยสาย USB Type-C ซึ่งจะใช้ได้กับแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และอื่น ๆ ที่รองรับ DisplayPort ส่วนเสียง ตัวแว่นมีลำโพงสเตอริโอฝังด้านใน แต่ผู้ใช้งานสามารถเลือกฟังจากหูฟังได้ กรณีไม่อยากรบกวนคนอื่นหรือต้องการความเป็นส่วนตัว
กรอบเลนส์แว่นด้านหน้าของ TCL NXTWEAR AIR เป็นแบบแม่เหล็ก สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์แว่นที่ต้องการได้ สำหรับวันเวลาและราคายังไม่มีการเปิดเผย
https://news.siamphone.com/news-49258.html

 






TCL Thunderbird Smart Glasses Pioneer Edition แว่นตาอัจฉริยะ สุดล้ำ แสดงผลบนเลนส์แว่น
Spoil

แว่นตาอัจฉริยะที่ออกแบบมาให้เป็น Gadget อีกหนึ่งอย่างที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน เพราะหลายๆ คนก็มักจะใช้แว่นตาในโอกาสต่างๆ กันอยู่แล้ว ทั้งเป็นแว่นตาป้องกันแสงสีฟ้า หรือป้องกันแสงแดด และประยุกต์ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย อาทิ สมาร์ทโฟน หรือสมาร์ทวอช เป็นต้น ล่าสุด TCL ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ประกาศเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Thunderbird Smart Glasses Pioneer Edition เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน

TCL Thunderbird Smart Glasses Pioneer Edition มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย อาทิการแสดงข้อความแจ้งเตือน, ดูตารางการทำงาน, ควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ภายในบ้าน, รับสายโทรเข้าหรือโทรออก, ถ่ายภาพ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนั้นจะแสดงขึ้นมาตรงหน้าของผู้ใช้โดยตรงผ่านเลนส์แว่นตา!

TCL Thunderbird Smart Glasses Pioneer Edition มาพร้อมเทคโนโลยี Augmented Reality หรือ AR นั่นหมายความว่าเมื่อคุณใช้งานฟังก์ชั่นใดที่รองรับการแสดงผล คุณจะเห็นภาพบนเลนส์แว่นเลย เพื่อให้เห็นภาพง่ายๆ ยกตัวอย่าง แอปพลิเคชั่นแผนที่ คุณไม่ต้องก้มดูสมาร์ทโฟนแล้ว ก็แค่มองผ่านแว่นนั่นล่ะ หรือการรับชมคอนเทนต์เช่นกัน เพียงแต่ภาพอาจจะไม่ชัดเจนเท่าหน้าจอสมาร์ทโฟน

เลนส์แว่นจะเต็มไปด้วยแผง MicroLED เพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ และแสดงผลเฉดสีได้ นอกจากนี้ตัวแว่นจะมีเลนส์กล้อง บริเวณกึ่งกลางแว่น สำหรับถ่ายภาพและวิดีโอ ซึ่งจะส่งข้อมูลไปสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อไว้ทันที ผ่านอินเทอร์เน็ตจากสมาร์ทโฟน

แว่นตาดังกล่าวยังคงเป็นเพียงคอนเซ็ปต์เท่านั้น ทางแบรนด์ยังไม่ได้เปิดเผยราคาวางจำหน่าย เบื้องต้นคาดว่าวางจำหน่ายในประเทศจีน
https://news.siamphone.com/news-48994.html
 






Harman Mark Levinson No.5909 หูฟังไร้สายรุ่นแรกของแบรนด์ ราคา 33,1xx บาท
Spoil

ในงาน CES (Consumer Technology Association) งานที่จัดโชว์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากแบรนด์ชั้นนำที่นำมาโชว์เคส ประจำปี 2022 แบรนด์ HARMAN ได้เผยโฉมหูฟังแบบครอบเต็มใบหูรุ่นแรกของพวกเขาในราคาสุดพรีเมียม นั่นคือ Harman Mark Levinson No.5909 แน่นอนว่าก็จะให้ประสบการณ์เสียงที่เต็มพลังเช่นกัน

Mark Levinson หลายคนอาจเคยมีคุ้นหูกันมาบ้าง เพราะเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเสียงที่ให้คุณภาพระดับลึก มีมิติที่ยากจะจับถึง ก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ในปัจจุบันก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทภายใต้แบรนด์ HARMAN นั่นเอง สำหรับ Mark Levinson No.5909 ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ฟังเพลงสบายๆ และมีสไตล์ให้กับผู้รักเสียงเพลง โครงหูฟังผลิตจากอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์ มีน้ำหนักเบาพร้อมที่ครอบหูเคลือบสีเมทัลลิก ขณะที่แถบคาดศีรษะและฟองน้ำรองหูฟังแบบเปลี่ยนได้ทำจากวัสดุหนังเกรดพิเศษ

ที่ครอบหูแต่ละข้างมีไดรเวอร์เคลือบเบริลเลียม 40 มม. ได้ปรับแต่งให้เสียงตอบสนองเป็นไปตาม Harman Curve ที่พัฒนาโดยแบรนด์เครื่องเสียงชื่อดังของสหรัฐฯ อีกทั้งยังตอบโจทย์การฟังเพลงอะคูสติกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งเคลมว่าการฟังเพลงจังหวะดังกล่าวจะแตกต่างจากหูฟังรุ่นอื่นๆ แน่นอน ที่จะสามารถนำพาคุณจมดิ่งไปยังท่วงทำนองของเสียง

หูฟังมาพร้อมโหมดตัดเสียงรบกวน 3 รูปแบบ มีไมโครโฟน 4 ตัว กับเทคโนโลยี Smart Wind Adaption เพื่อตัดเสียงลมรบกวน ให้เสียงสนทนากระจ่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 พร้อมการเข้ารหัส/ถอดรหัสสัญญาณเสียง LDAC, AAC และ aptX รวมถึงการเชื่อมต่อด้วยาย USB Type-C เป็นหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

พลังเสียงของหูฟังสามารถให้เสียงได้ในระดับ Hi-Res ที่ 24-bit/96kHz หรือถ้าเป็นเพลงอะคูสติกขับพลังเสียงในช่วงกว้างมากถึง 40kHz สำหรับแบตเตอรี่ ใช้งานได้นาน 30 ชั่วโมงขณะเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน หากปิดก็จะใช้งานได้ประมาณ 34 ชั่วโมง การชาร์จ 15 นาที ก็จะเล่นเพลงได้นาน 6 ชั่วโมง

Harman Mark Levinson No.5909 วางจำหน่ายแล้วที่ต่างประเทศ มี 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Pearl Black, Ice Pewter และ Radiant Red ในราคา $999 หรือประมาณ 33,xxx บาท

https://news.siamphone.com/news-49253.html
 






สรุปจุดเด่นและสเปค Vivo V23 มือถือ 5G เซลฟี่กล้องคู่ ฝาหลังเปลี่ยนสีได้
Spoil


ไฮไลท์ที่น่าสนใจของ Vivo V23 5G

Vivo สร้างเซอร์ไพร์สใหม่ด้วยนวัตกรรมใหม่ ที่ฝาหลังสามารถเปลี่ยนสีได้เอง ที่มีเฉพาะเฉดสี Sunshine Gold ด้วยเทคนิคพิเศษของกระจก Fluorite AR Glass ที่เปลี่ยนสีฝาหลังได้อัตโนมัติตามอุณหภูมิรอบตัว หากอุณหภูมิร้อนตัวเครื่องจะเปลี่ยนสีส้มแสงแดด หรือถ้าอุณหภูมิเย็นจะมีเฉดสีผสมผสานระหว่างเขียวกับน้ำเงิน



ดีไซน์ Metal Flat Frame มีส่วนขอบที่แบนราบ หน้าจออัตรารีเฟรชเรท 90Hz ประเภทหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ มีชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 920 กับ RAM 8GB แต่มีฟังก์ชั่นสร้าง RAM เสมือนเพิ่มเติมอีก 4GB รวมเป็น 12GB

ต่อด้วยไฮไลท์ที่สองจุดเด่นสำคัญเลย กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมไฟแฟลช Dual Tone ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ AI ปรับภาพให้คมชัด สวยเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ เช่นเดียวกับการบันทึกแบบ HDR Selfie เรียกได้ว่า เป็นมือถือที่ต้องมอบมง Selfie Expert

สเปคเบื้องต้นของ Vivo V23 5G


ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 12 บนพื้นฐาน Android 12
ขนาดตัวเครื่อง : แบ่งเป็นสองขนาดตามเฉดสี
157.20×72.42×7.39 มม. (Stardust Black)
157.2×72.42×7.55 มม. (Sunshine Gold)
น้ำหนัก : แบ่งเป็นสองน้ำหนักตามเฉดสี
179 กรัม (Stardust Black)
181 กรัม (Sunshine Gold)
หน้าจอ : ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FullHD+
ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 920
GPU : Mali-G68 MC4
RAM : 8GB/12GB
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB/256GB
MicroSD Card : ไม่รองรับ
ถาดซิมการ์ด ประเภท DUAL SIM-Slot
การเชื่อมต่อ : 5G, 4G, 3G, Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, Bluetooth 5.2, Wi-Fi Direct, GPS, GLONASS
พอร์ต USB Type-C
แบตเตอรี่ : 4200mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 44 วัตต์

Vivo V23 5G จะมีการเปิดตัวในไทยวันที่ 13 มกราคมศกนี้ ราคากับโปรโมชั่นเป็นอย่างไร รอติดตามได้พร้อมกัน

https://news.siamphone.com/news-49256.html


 






OPPO A96 5G รุ่นใหม่ล่าสุด โมดูลกล้องส่องแสงได้ สีสันสวยๆ สไตล์แฟชั่น
Spoil

OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ คาดว่าน่าจะเป็นอีกรุ่นที่นำมาวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยมีดีไซน์ที่น่าสนใจมากๆ เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นเลย เพราะดีไซน์ตัวเครื่องที่โดดเด่นฝาหลังทำลวดลายคล้ายคริสตัล สามารถส่องแสงประกายตามสภาวะแสงได้ ที่สำคัญเลยโมดูลกล้องของฝาหลังจะมีไฟวงแหวน LED ด้วย สร้างความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน สำหรับสีสันของตัวเครื่องมีให้เลือก 3 โทนสี ได้แก่ Powder Warm Sun (peach), Colored Glaze และ Night Dream Night Star (Black)

ฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ใช้ชิปเซ็ตประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Snapdragon 695 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว มาพร้อมหน้าจอ OLED ที่มีซอฟต์แวร์ AI ควบคุมแสงและสีอัตโนมัติให้เหมาะสมกับการแสดงผลของหน้าจอ มีอัตราการตอบสนองทัชสกรีน 180Hz โดยมีฟังก์ชั่นสร้าง RAM เสมือนเพิ่มขึ้นอีก 5GB รวมเป็น 13GB ด้านแบตเตอรี่มีความจุ 4500mAh กับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33 วัตต์

สเปคเบื้องต้นของ OPPO A96 5G

ระบบปฏิบัติการ : ColorOS 12 บนพื้นฐาน Android 12
หน้าจอแสดงผล : OLED กว้าง 6.43 นิ้ว ความละเอียด FullHD+ (2400x1080 พิกเซล)
ชิปเซ็ต : Snapdragon 695
ชิปกราฟฟิก : Adreno 619
RAM : 8GB LPDDR4x
พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 256GB
MicroSD Card : ไม่รองรับ
กล้องหลัง 2 เลนส์
เลนส์หลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มุมมอง 79 องศา ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น ออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.7
เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มุมมอง 89 องศา ประกอบด้วยชุดเลนส์ 3 ชิ้น รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มุมมอง 78 องศา รูรับแสง f/2.4
เครือข่าย : 4G / 3G และรองรับซิม Nano SIM 2 ช่อง
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 2.4 / 5G, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB Type-C
ระบบความปลอดภัย : สแกนลายนิ้วมือที่หน้าจอ และระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า
แบตเตอรี่ : 4500mAh รองรับชาร์จเร็ว 33 วัตต์

OPPO A96 5G เบื้องต้นวางจำหน่ายในประเทศจีน โดยมีราคาที่น่าสนใจมากเพียง 1999 หยวนหรือประมาณ 10,4xx บาท สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมเป็นต้นไป
https://news.siamphone.com/news-49260.html
 






สำเร็จตามคาด กล้อง James Webb Space Telescope กางกระจกเสร็จทั้งหมดแล้ว
Spoil

หลังกล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb Space Telescope ถูกยิงขึ้นอวกาศเมื่อวันคริสต์มาส ก็ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ค่อยๆ คลี่ฉากกั้นแสงอาทิตย์ 5 ชั้น และกางกระจกทั้ง 3 ส่วนออกมาอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผู้สร้างกล้องกังวลว่าถ้ามีความผิดพลาดใดๆ ขึ้นมาแม้นิดเดียว จะส่งผลให้โครงการมูลค่ามหาศาลล้มเหลวไปเลย

เมื่อคืนนี้ James Webb Space Telescope เสร็จสิ้นการกางกระจกชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างทำงานได้ดีอย่างที่คาดไว้ ตอนนี้กล้องอยู่ในสถานะที่เกือบพร้อมทำงานแล้ว ขั้นตอนที่เหลือคือให้กล้องเดินทางไปยังจุด Lagrange 2 ซึ่งใช้เวลาอีกประมาณ 14 วัน

ภาพกราฟิกของ NASA แสดงหน้าตาของกล้องเมื่อทำงานเต็มรูปแบบแล้ว


https://www.blognone.com/node/126622
 






Samsung เตรียมอัปเดต Object Eraser ใน One UI 4.1 – เพิ่มความสามารถลบเงาและแสงสะท้อนในภาพด้วย AI
Spoil

ฟีเจอร์ Object Eraser สำหรับลบวัตถุออกจากภาพมีให้ใช้งานกันในมือถือ Galaxy ได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว แต่ Samsung ซ่อนฟีเจอร์เอาไว้ในเมนู “Labs” ของ Photo Editor อีกทีหนึ่ง อาจเพราะยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์หรือเหตุผลอื่น ๆ ไม่อาจทราบได้ อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยบล็อกเกอร์รายหนึ่งได้ไปพบว่า Object Eraser จะมีการอัปเกรดเพิ่มฟังก์ชันใหม่เข้ามาใน One UI 4.1

Material IT อ้างว่า นอกเหนือจากการลบวัตถุตามปกติแล้ว Object Eraser เวอร์ชันใหม่ยังสามารถลบเงาและแสงสะท้อนไม่พึงประสงค์ออกจากภาพได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการประมวลผลโดยปัญญาประดิษฐ์ แค่แตะปุ่มปุ๊บ ลบให้อัตโนมัติทันที

One UI 4 บน Android 12 เป็นเวอร์ชันล่าสุด ณ ตอนนี้ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลว่า Samsung จะปล่อย One UI 4.1 ออกมาเมื่อไหร่ แต่เราอาจได้เห็นมันเป็นครั้งแรกใน Galaxy S22 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ เพราะตอน One UI 3.1 เองก็มาพร้อม Galaxy S21 เหมือนกัน

https://droidsans.com/samsung-object-eraser-update-one-ui-4-1/

 






Samsung อวดโฉม Odyssey Ark มอนิเตอร์เกมมิงจอโค้งขนาดยักษ์ 55 นิ้ว – หมุนใช้งานแนวตั้งได้
Spoil

Samsung เผยโฉมมอนิเตอร์จอโค้ง 1000R รุ่นใหม่ในซีรีส์ Odyssey ชื่อ “Ark” โดยมีขนาดใหญ่ถึง 55 นิ้ว บนสัดส่วน 16:9 จุดเด่นคือขาตั้งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ รองรับการหมุนหน้าจอมาใช้งานในแนวตั้ง ทำให้ขอบเขตการแสดงผลโค้งยาวขึ้นไปเหนือศีรษะ และมีฟังก์ชัน Multiview แบ่งหน้าต่างโดยอัตโนมัติ พร้อมแป้นแยกสำหรับควบคุมอินเทอร์เฟซและแสงของหน้าจอ

Odyssey Ark มากับเทคโนโลยี Quantum Dot ใช้ Micro LED เป็นไฟแบ็กไลต์ทำให้มีคอนทราสต์สูง ในขณะที่ความละเอียดจะอยู่ที่ระดับ 4K ส่วนข้อมูลอื่น ๆ Samsung ยังไม่เปิดเผย บอกเพียงแค่ว่า กำหนดวางจำหน่ายจะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นี้

ก่อนหน้างาน CES จะเริ่มเล็กน้อย Samsung ก็พึ่งเปิดตัว Odyssey Neo G8 ที่เป็นมอนิเตอร์สายเกมมิงไปเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมี Neo G9 ที่ออกมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีกลายด้วย

https://droidsans.com/samsung-odyssey-ark-curved-gaming-monitor/

 






ASUS เปิดตัวมอนิเตอร์เกมมิง “ROG Swift OLED” ความละเอียด 4K พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz – รองรับ HDMI 2.1
Spoil

ROG Swift OLED ถือเป็นซีรีส์ใหม่ในไลน์อัปมอนิเตอร์เกมมิงของ ASUS แยกออกมาจาก ROG Swift ของเดิม เพราะมีจุดขายที่ชัดเจนตรงที่ใช้พาเนลแสดงผลชนิด OLED รุ่นที่เปิดตัวออกมาเบื้องต้นมีด้วยกัน 2 โมเดล คือ PG42UQ ขนาด 42 นิ้ว และ PG48UQ ขนาด 48 นิ้ว มากับความละเอียด 4K อัตรารีเฟรช 120Hz และรองรับ HDMI 2.1 ใช้งานได้เต็มฟังก์ชันทั้งสองอย่างพร้อมกันได้โดยไม่ต้องเลือกปรับอย่างใดอย่างหนึ่ง

ปัจจุบันนี้ มอนิเตอร์ที่เป็น OLED ยังมีไม่มากนักตลาด เกมเมอร์บางส่วนตัดสินใจเลือกทีวีมาใช้งานแทน ยกตัวอย่างรุ่นที่นิยมกัน เช่น A1 ขนาด 48 นิ้ว ของ LG

อย่างไรก็ตาม แม้ทีวี OLED จะให้สีสันที่สวยงามและน่าดื่มด่ำเพียงใด แต่อุปกรณ์ไม่ได้ถูกออกแบบมาโดยเน้นไปที่การเล่นเกมเป็นหลัก จึงมีข้อจำกัดบางประการอยู่ ทั้งในเรื่องของอัตรารีเฟรชที่ยังไม่สะใจ รวมถึงแสงสะท้อนที่มาจากหน้าจอ glossy หรือ semi-gloss ทำให้รบกวนสายตา ซึ่ง ASUS ทราบถึง “ช่องว่างในตลาด” ตรงนี้เป็นอย่างดี จึงได้ออก ROG Swift OLED เข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาด พร้อมหน้าจอ anti-glare ที่ใช้เทคโนโลยี Micro-texture ในการโคตติง

นอกเหนือจากรายละเอียดที่กล่าวถึงไปข้างต้นแล้ว ROG Swift OLED มีความลึกสี 10-bit ครอบคลุม 92% ของ DCI-P3 รองรับ HDR10 และมีความคลาดเคลื่อนสีตามมาตรฐาน ΔE เฉลี่ยไม่ถึง 2 ถือเป็นตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์ดี เที่ยงตรงเชื่อถือได้

ส่วนในด้านของพอร์ตเชื่อมต่อนั้น ROG Swift OLED ทั้งสองโมเดลใส่มาให้ครบ ๆ แบบเหลือเฟือเหมือน ๆ กัน ได้แก่ HDMI 2.1 และ HDMI 2.0 อย่างละ 2 ช่อง DisplayPort 1.4 และแจ็ก 3.5 มม.อีกอย่างละ 1 ช่อง พร้อมพอร์ต USB สำหรับใช้งานเป็นฮับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ (ยังไม่ทราบจำนวน)

ทั้งนี้ ASUS ยังไม่ได้เปิดเผยว่า ROG Swift OLED มีฟีเจอร์ด้านการเล่นเกมอะไรเจ๋ง ๆ หรือเปล่า รวมถึงยังไม่บอกราคาและกำหนดการวางขายด้วย

https://droidsans.com/asus-rog-swift-oled-4k-120hz-specs/
 






ASUS ออก Zenbook 14X OLED Space Edition มีจอเล็กที่ด้านหลัง – ส่วน Zenbook 17 Fold OLED ตามมาช่วงกลางปี
Spoil

ASUS เปิดตัว Zenbook 14X OLED เวอร์ชันพิเศษ “Space Edition” เพื่อระลึกถึงการเดินทางขึ้นไปประจำการบนสถานีอวกาศ Mir ของแล็ปท็อป P6300 เมื่อ 25 ปีก่อน โดยมีความโดดเด่นทั้งงานดีไซน์และหน้าจอเสริม ZenVision ขนาด 3.5 นิ้วที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นพาเนล OLED เช่นเดียวกับหน้าจอหลัก ใช้สำหรับแสดงเวลา วันที่ สถานะแบต ข้อความที่กำหนดเอง รวมถึงภาพเคลื่อนไหวเป็นรูปดวงดาวต่าง ๆ เข้ากับธีมอวกาศ

ZENBOOK 14X OLED SPACE EDITION
Zenbook 14X OLED Space Edition มากับจอภาพ OLED ขนาด 14 นิ้ว ตามชื่อของมัน โดยมีความละเอียดอยู่ที่ 2.8K พร้อมอัตรารีเฟรช 90Hz ทำความสว่างสูงสุดได้ 550 นิต ขอบเขตสีครอบคลุมเต็ม 100% ของ DCI-P3 และผ่านการรับรองมาตรฐานความเที่ยงตรงของสีโดย PANTONE


ทาง ASUS ตั้งชื่อให้สี Zenbook 14X OLED Space Edition ว่า “Zero-G Titanium” สื่อให้เห็นถึงการเดินทางในอวกาศ เนื่องจากวัสดุนี้เป็นวุสดุที่ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมดังกล่าว ลายบนตัวเครื่องที่รังสรรค์ขึ้นมาจากจุดจำนวนนับไม่ถ้วน แท้จริงแล้วมีการแอบใส่ลูกเล่นเป็นรหัสมอร์สเอาไว้ ถอดความได้ว่า “Ad Astra per Aspera” เป็นวลีฮิตในภาษาละตินที่หมายถึงการก้าวผ่านความยากลำบากสู่ดวงดาว ซึ่งวลีนี้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย เช่นเป็นชื่อเพลงหรือชื่อนิยายและอื่น ๆ


ภายใน Zenbook 14X OLED Space Edition ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Inten ซีรีส์ H เจเนอเรชัน 12 ทางด้าน RAM มีให้เลือกสูงสุด 32GB และ SSD สูงสุด 1TB ส่วนพอร์ตจัดมาครบครันทั้ง USB 3.2, Thunderbolt 4, HDMR 2.0 ช่องอ่าน microSD รวมถึงแจ็ก 3.5 มม.


●สเปค ZENBOOK 14X OLED SPACE EDITION
●หน้าจอหลัก : OLED ขนาด 14 นิ้ว
– สัดส่วน 16:10
– ความละเอียด 2880 x 1800 พิกเซล
– อัตรารีเฟรช 90Hz
– ความสว่างสูงสุด 550 นิต
– ขอบเขตสี 100% ของ DCI-P3
– ความลึกสี 10-bit
– คอนทราสต์ 1,000,000:1
●หน้าจอเสริม : OLED ขนาด 3.5 นิ้ว
●ซีพียู : Intel
– Core i5 – 12500H, ความเร็ว 2.5 GHz (คอร์ 4P + 8E)
– Core i7 – 12700H, คาวมเร็ว 2.3 GHz (คอร์ 6P + 8E)
– Core i9 – 12900H, ความเร็ว 2.5 GHz (คอร์ 6P + 8E)
●จีพียู : Intel Iris Xᵉ
●หน่วยความจำ : RAM LPDDR5 8GB ; 16GB ; 32GB
●สตอเรจ : SSD M.2 NVMe PCIe 4.0 512GB ; 1TB
●เสียง : ลำโพงสเตอรีโอ, ปรับแต่งโดย harman/kardon
●พอร์ต :
– USB 3.2 Gen2 x1
– Thunderbolt 4 x2
– HDMI 2.0 x1
– แจ็ก 3.5 มม. x1
– ช่องอ่าน microSD card
●ระบบปฏิบัติการ :
– Windows 11 Home
– Windows 11 Pro
●ความทนทาน : มาตรฐาน MIL-STD-810H
●ขนาด : 31.12 x 22.11 x 1.59 ซม.
●น้ำหนัก : 1.4 กก.


ZENBOOK 17 FOLD OLED

ASUS จะเริ่มวางขาย Zenbook 14X OLED Space Edition ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ แต่ยังไม่มีการประกาศราคา นอกจากนี้ยังมี Zenbook 17 Fold OLED โน้ตบุ๊กจอพับขนาด 17.3 นิ้วที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งได้มีการเปิดเผยภาพต้นแบบออกมาให้ดูกันบางส่วนแล้ว


Zenbook 17 Fold OLED เมื่อพับครึ่งจะได้หน้าจอขนาด 12.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1280 บนสัดส่วน 3:2 เท่ากันทั้งสองด้าน สามารถนำเอาคีย์บอร์ดไปแปะไว้ที่ด้านล่างเพื่อใช้งานเฉพาะส่วนบนของหน้าจอได้ ลักษณะเดียวกับ ThinkPad X1 Fold ของ Lenovo

ตามคำกล่าวของ ASUS สิ่งที่ Zenbook 17 Fold OLED ยังต้องได้รับการปรับปรุงอยู่นั้นเป็นเรื่องความทนทานของบานพับ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้ผลิตอุปกรณ์จอพับล้วนต้องเผชิญกันทั้งสิ้น โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่า ตัวบานพับต้องใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 ครั้ง





Zenbook 17 Fold OLED มากับลำโพง harman/kardon จำนวน 4 ตัว รองรับเทคโนโลยี Dolby Atmos มีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 ช่อง ในขณะที่กล้องเว็บแคม 5MP นั้นรองรับฟังก์ชัน Windows Hello ด้วย ส่วนซีพียูที่ใช้เป็น Core i7 รหัส 1250U ที่กินไฟต่ำ เหมาะสมกับอุปกรณ์ประเภทนี้ที่ต้องการความบางเบาเป็นหลัก

https://droidsans.com/asus-zenbook-14x-oled-space-edition-zenbook-17-fold-oled-specs/

 






Google ถูกตัดสินแพ้คดีละเมิดสิทธิบัตร Sonos – โดนสั่งห้ามนำเข้า Google Nest มาขายในอเมริกา
Spoil

จากคดีความระหว่าง Sonos และ Google ในข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรที่ลากยาวมาตั้งแต่ปี 2563 นั้น ล่าสุดคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USITC ได้ตัดสินแล้วว่า Google มีความผิดจริง โทษฐานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของ Sonos เป็นสิทธิบัตรจำนวน 5 รายการที่เกี่ยวข้องกับลำโพงอัจฉริยะและระบบเสียง ส่งผลให้ Google ไม่สามารถ “นำเข้า” อุปกรณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรนั้น ๆ มาขายในอเมริกาได้

อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้มีด้วยกันหลายอย่าง นอกเหนือจาก Google Nest หรือชื่อเดิมคือ Google Home แล้ว Chromebook กับ Chromecast และแม้แต่ Pixel ต่างก็โดนหางเลขไปตาม ๆ กัน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ถูกผลิตในจีนแล้วค่อยส่งมาขายในอเมริกา

คำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าของ USITC จะมีผลบังคับใช้ภายใน 60 วันหาก โจ ไบเดน ไม่ได้คัดค้าน แต่ Google หาทางลงโดยการ “ปรับ” หรือ “ถอด” ฟีเจอร์บางอย่างของอุปกรณ์ออกไป ดังที่เราได้เห็นไปแล้วในกรณีของ Chromecast ที่ไม่สามารถปรับระดับเสียงได้จากมือถือที่รันบน Android 12 รวมถึงที่พึ่งออกประกาศตัดฟีเจอร์ Speaker Group ควบคุมเสียงลำโพงหลายตัวพร้อมกันของ Google Nest ทิ้งไป โดยต้องปรับเสียงจากลำโพงทีละตัวแทน

แต่เรื่องอาจยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะ Sonos และ Google ยังมีคดีฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรค้างคาอยู่อีก 2 คดี ที่ศาลในลอสแองเจลิสและซานฟรานซิสโกตามลำดับ ซึ่งการตัดสินยังไม่สิ้นสุด โดย Sonos ระบุว่า ยังมีสิทธิบัตรอีกนับหลายสิบฉบับที่ถูก Google ขโมยไปใช้งานอยู่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ Google จ่ายลิขสิทธิ์ให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมด้วย

Sonos ได้แบ่งปันเทคโนโลยีด้านลำโพงและเสียงให้แก่ Google ช่วงที่ทั้งสองบริษัทเริ่มทำงานร่วมกันในปี 2556 ซึ่ง ณ ขณะนั้น Google ยังไม่ใช่คู่แข่งในตลาดของ Sonos จนกระทั่งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Google Home ออกมาตอนปี 2559 ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น Google Nest ในภายหลัง

https://droidsans.com/google-sonos-patents-usitc/
 






ปลอดภัยแบบมีสไตล์…Razer Zephyr Pro หน้ากาก N95 รุ่นอัปเกรด มาพร้อมพัดลมคู่, ไฟ RGB และแอมป์ขยายเสียงพูด
Spoil

ค่ายอุปกรณ์เกมมิ่งอย่าง Razer ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายหน้ากากอนมัย N95 สุดเท่อย่าง Razer Zephyr ไปเมื่อปีที่แล้ว และในปี 2022 นี้ ก็ขอกลับมาอีกครั้งด้วยรุ่นอัปเกรด Razer Zephyr Pro ที่เพิ่มฟีเจอใหม่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในชีวิตประจำวันให้มากขึ้นไปอีก แต่ยังคงความล้ำเอาใจเกมเมอร์อยู่เหมือนเดิมด้วยดีไซน์ที่เหมือนหลุดออกมาจากเกม แถมด้วยไฟ RGB ที่เปลี่ยนสีหรือกระพริบได้ตามต้องการ

หน้ากาก Razer Zephyr รุ่นแรกที่วางขายไปเมื่อปี 2021 มีราคาอยู่ที่ 99.99 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 3,360 บาท ซึ่งตอนนี้ได้ขายหมดเกลี้ยงไปเรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุดทาง Razer ก็ได้เผยโฉมหน้ากากรุ่นใหม่ออกมาอีกในชื่อ Razer Zephyr Pro ซึ่งดีไซน์โดยรวมยังคงความล้ำเหมือนหลุดมาจากหนังไซไฟยังไงยังงั้น

ด้วยตัวหน้ากากสีเทาเข้ม มีตัวกรองอากาศ 2 ฝั่ง อยู่ที่ด้านซ้ายและขวา บริเวณตรงกลางเป็นพลาสติกใสที่สามารถเปิดไฟด้านในหน้ากากให้คู่สนทนามองเห็นปากได้ ส่วนบริเวณตัวกรองอากาศทั้ง 2 ด้านมีไฟ RGB ที่สามารถตั้งค่าสีและจังหวะกระพริบได้จากแอป Razer Chroma RGB ด้วย

และฟีเจอร์ใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อนก็คือคราวนี้ Razer Zephyr Pro ใส่เทคโนโลยี Voice Amplification เข้ามาให้ในตัว ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยขยายเสียงพูดของผู้ใส่ออกมาทางลำโพง ช่วยให้การพูดคุยกับคนอื่นชัดเจนมากขึ้น ไม่อู้อี้จนต้องพูดเสียงดังให้เจ็บคอ

สำหรับระบบการกรองอากาศของ Razer Zephyr Pro จะใช้ฟิลเตอร์ N95 ที่มีอายุการใช้งานได้ 3 วัน (ฟิลเตอร์มีชุดเสริมขายทางเว็บไซต์ Razer.com) พร้อมกับพัดลมระบายอากาศ 2 ตัว ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ คือ 4200 RPM และ 6200 RPM

ตอนนี้ Razer ยังไม่ได้ประกาศออกมาว่าจะเริ่มวางจำหน่าย Razer Zephyr Pro เมื่อไหร่ รวมถึงข้อมูลเรื่องราคาด้วย แต่หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปลงทะเบียนคอยรับข่าวสารเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ Razer.com ครับ

https://droidsans.com/razer-zephyr-pro-upgraded-n95-mask-rgb-voice-amplification/
 






LG จัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น ในงาน CES
Spoil

ภายในงาน CES 2022 แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (แอลจี) ได้นำเสนอวิสัยทัศน์เพื่อไลฟ์สไตล์และอนาคตที่ดียิ่งขึ้นสำหรับทุกคน ใน LG World Premiere โดย มร. วิลเลียม โช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอลจี ที่แนะนำนวัตกรรมอันหลากหลายของบริษัทต้อนรับศักราชใหม่ และกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ แนวคิด “The Better Life You Deserve” ของแอลจีภายในงาน CES 2022 เน้นย้ำให้เห็นถึงเป้าหมายสูงสุดของแอลจีในการยกระดับทุกมิติของการชีวิตประจำวันผ่านนวัตกรรมที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและดีไซน์ที่สวยงาม โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าวยังได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นภาพยนตร์สั้น 3 เรื่อง ประกอบด้วย A Better Life for You, A Better Life for All และ A Better Life Tomorrow

A Better Life for You: สร้างสรรค์คุณค่าเพื่อทุกไลฟ์สไตล์

แนวคิดของแอลจีในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถอัพเกรดได้หลังการใช้งานเป็นหัวใจสำคัญของภาพยนตร์สั้นเรื่องแรก A Better Life For You ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ที่ดีขึ้นและพัฒนาประสิทธิภาพให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แพลตฟอร์ม ThinQที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ของแอลจีมีฟีเจอร์มากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ มอบความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ใช้ สำหรับภาพยนตร์สั้นเรื่องA Better Life for You แสดงให้เห็นถึงความล้ำสมัยของโซลูชันด้านความบันเทิงของแอลจี ในการมอบประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากขึ้น เพื่อให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินไปกับการรับชมเนื้อหาบนจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่บ้าน


▷LG StanbyME จอเคลื่อนที่ไร้สาย ที่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว LG StanbyME จอเคลื่อนที่ไร้สาย ที่สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้านเพื่อมอบประสบการณ์ขั้นสูงสุดจากการรับชมทีวีแบบดั้งเดิม รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เป็นครั้งแรกของโลก ประกอบด้วย LG PuriCare™ AeroTower โซลูชันเพื่อการดูแลสภาพอากาศภายในบ้านแบบครบวงจร โดยถูกออกแบบขึ้นเพื่อมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ผสมผสานกันของเครื่องฟอกอากาศ พัดลม และฮีตเตอร์ ในขณะที่ LG tiiun เครื่องปลูกผักภายในบ้านด้วยวิธีการที่เรียบง่าย สะอาด และเชื่อถือได้ให้แก่ผู้บริโภคในการปลูกผักเพื่อสุขภาพไว้รับประทานตลอดปี



▷LG PuriCare AeroTower โซลูชันเพื่อการดูแลสภาพอากาศภายในบ้านแบบครบวงจร โดยถูกออกแบบขึ้นเพื่อมอบ
ประสิทธิภาพการทำงานที่ผสมผสานกันของเครื่องฟอกอากาศ พัดลม และฮีตเตอร์

A Better Life for All: ส่งเสริมความยั่งยืนและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้น

ความมุ่งมั่นของแอลจีในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้นคือหัวใจหลักของภาพยนตร์สั้นเรื่อง A Better Life for All โดยนวัตกรรมเพื่อการประหยัดพลังงานถูกนำไปผสมผสานในตู้เย็น InstaView® และประตูกระจกใสที่ทำงานด้วยการ “เคาะสองครั้งเพื่อดูภายในตู้เย็น” รวมถึงการใช้งานวัสดุรีไซเคิลที่เพิ่มขึ้นในการผลิตบรรจุภัณฑ์ของ LG Soundbar และการลดส่วนประกอบพลาสติกในทีวีแอลจี OLED ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแอลจีในการค้นหาโซลูชันที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้คนและโลกของเรา ในปี พ.ศ. 2565 และปีต่อ ๆ ไป แอลจีมีเป้าหมายในการใช้พลาสติกรีไซเคิลมากขึ้นถึง 600,000 ตันในขั้นตอนการผลิต และเพิ่มปริมาณในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็น 8 ล้านตันภายในปี พ.ศ. 2573

นอกจากนี้ การอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมยังเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของแบรนด์แอลจี และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว แอลจีจึงมุ่งมั่นลงทุนกับการดำเนินงานของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเข้าถึงสำหรับทุกคนในประเทศต่าง ๆ โดยคณะกรรมการจะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการเข้าถึงสำหรับทุกคน รวมถึงบุคคลที่ใช้ชีวิตร่วมกับผู้พิการ และมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษากับแอลจีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงการสร้างสรรค์ประสบการณ์ผู้ใช้งานเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น เช่น การสั่งงานด้วยเสียง และการติดฉลากอักษรเบรลล์

ในการสนับสนุนนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมในปี พ.ศ. 2565 แอลจียังได้จัดตั้งการประกวดเพื่อชิงรางวัล LIFE’S GOOD AWARD โดยให้ความสำคัญกับ Innovation for Earth และ Innovation for All เพื่อสนับสนุนแนวคิดในการลดผลกระทบจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และทำให้ผลิตภัณฑ์ของแอลจีเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยเงินรางวัลมูลค่าสูงสุด 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะถูกมอบให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ชนะรางวัล โดยจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมภายในปีนี้

A Better Life Tomorrow: พิมพ์เขียวเพื่ออนาคต

เรื่องราวสุดท้ายมุ่งเน้นไปที่อนาคตและบทบาทของแอลจีในการจุดประกายเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ให้เป็นความจริง ด้วยหุ่นยนต์ส่งของ CLOi แบบ door-to-door ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ของแอลจีที่พร้อมเปิดตัวให้บริการ ผู้ชมจะได้รับชมเบื้องหลังในมุมมองของ Reah ศิลปินเสมือนจริงของแอลจี ในขณะที่เธอซ้อมถ่ายทำมิวสิควิดีโอที่กำลังจะมาถึงของเธอ



▷LG CLOi หุ่นยนต์ส่งของที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI อัจฉริยะ มาในรูปทรงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจคือ LG OMNIPOD ซึ่งเป็นโซลูชันแนวคิดการขับเคลื่อนในอนาคตที่ผสมผสานความเป็นบ้านและรถยนต์เข้าด้วยกัน โดย LG OMNIPOD เป็นการเสริมพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวบนท้องถนนที่ได้รับการต่อยอดจากโซลูชันยานยนต์ที่ถูกนำเสนอใน Connected Car รุ่นก่อนของแอลจีในงาน CES 2020 LG OMNIPOD ยังถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นโฮมออฟฟิศ ศูนย์รวมความบันเทิง หรือแม้แต่เลานจ์ โดยนำเสนอมุมมองใหม่ให้แก่ผู้คนที่มีไลฟ์สไตล์ยุ่งวุ่นวายให้สามารถทำงานสำเร็จได้ง่ายขึ้น ในอนาคตที่การทำงานทางไกลไม่ได้หมายความว่าต้องทำงานจากที่บ้านอีกต่อไป




▷LG OMNIPOD ห้องโดยสารแนวคิดการขับเคลื่อนแห่งอนาคตที่สามารถสร้างพื้นที่ของลูกค้าใหม่ได้ตามวัตถุประสงค์

นิทรรศการของแอลจีซึ่งจัดแสดงอยู่ภายในทางเข้าหลักของ Central Hall ที่ Las Vegas Convention Center มอบประสบการณ์ให้ผู้เข้าชมทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ให้สามารถมีส่วนร่วมและโต้ตอบได้ผ่านเทคโนโลยี AR และ VR

งานจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนต์ของแอลจีจะถูกนำเสนอผ่าน LG Virtual Studio ใน 3 โซน ได้แก่ LG OLED บน Metaverse, Virtual Showroom และ LG OLED Art พร้อมให้ผู้เข้าชมได้ค้นพบและสัมผัสผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของแอลจีในรูปแบบที่สามารถโต้ตอบได้อย่างน่าสนใจ สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรุ่นใหม่ของแอลจีจะถูกจัดแสดงในโถงนิทรรศการเสมือนจริงที่มีชื่อว่า LG Home ซึ่งประกอบด้วย LG Home by Objet Collection และ LG ThinQ โดย LG Home เป็นพื้นที่อยู่อาศัยเสมือนจริงซึ่งผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของแอลจี ทั้งเครื่องซักผ้าและอบผ้ารุ่นใหม่ เครื่องฟอกอากาศ PuriCare AeroTower และตู้ปลูกผักในบ้าน LG tiiun ภายใน LG Home by Objet Collection ผู้เข้าชมยังสามารถจัดแต่งพื้นที่ของตัวเองได้โดยสามารถเลือกวอลเปเปอร์ พื้น และออกแบบองค์ประกอบการตกแต่งภายในอื่น ๆ เพื่อให้เข้ากับอุปกรณ์ที่ปรับแต่งเองได้ในคอลเลกชันไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของแอลจี ในขณะที่ LG ThinQ ให้ผู้เข้าชมได้ “ทัวร์” คุณลักษณะและฟังก์ชันทั้งหมดในอีโคซิสเต็มอัจฉริยะของแอลจีที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอป LG ThinQ ที่อัพเกรดแล้ว

https://www.flashfly.net/wp/372606


 







ชมคอนเซ็ปท์ iPhone 14 Pro สี Sierra blue มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 16
Spoil

จนกว่าจะเปิดตัวก็น่าจะมีคอนเซ็ปท์ออกมาเรื่อยๆ สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ของปี 2022 นี้ โดยล่าสุด @9techeleven ก็ได้ทำภาพคอนเซ็ปท์ iPhone 14 Pro ในสีฟ้า Sierra blue ออกมาพร้อมกับคอนเซ็ปท์ iOS 16 อีกด้วย

โดยการภาพคอนเซ็ปท์ครั้งนี้ก็ได้นำข้อมูลจากข่าวลือก่อนหน้ามาทำ ซึ่งมีการใช้หน้าจอแบบการเจาะรูรูปทรงแคปซูลยาบนหน้าจอซึ่งจะมีการฝังกล้องหน้าไว้ และมีข่าวลือว่าจะมีการฝั่ง Face ID ไว้ใต้หน้าจอ ส่วนกล้องหลังก็เรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง มีแค่เลนส์ที่นูนขึ้นมาเท่านั้น

ในส่วนของคอนเซ็ปท์ระบบปฏิบัติการ iOS 16 นั้นจะมาพร้อมกับวิดเจ็ตใหม่ๆ อย่าง Multi-app Widgets, Smaller Widgets และมีไอค่อน Control Center App มาให้ใช้งานด้วย นอกจากนี้ถ้าสิ่งนี้มาจริงก็น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งาน iPhone ต่างรอคอยให้กลับมาก็คือ การแสดงเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่บนหน้าจอนั่นเอง ซึ่ง iPhone ในรุ่นปัจจุบันจะต้องทำการลากแถบ Control Center ลงมาเพื่อทำการดูปริมาเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ จะไม่สามารถดูได้จากมุมขวาบนของหน้าจอ
https://www.flashfly.net/wp/372513

 






RAZER เผยคอนเซปต์โต๊ะเล่นเกมตัวแรกของโลก PROJECT SOPHIA และ ENKI PRO HYPERSENSE
Spoil

Razer แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกสำหรับเกมเมอร์ เปิดเผยแผนการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอนาคตของการเล่นเกมและการใช้งานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่บ้านด้วย Project Sophia นำเสนอคอนเซปต์โต๊ะเล่นเกมตัวแรกของโลก และ Enki Pro HyperSense ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงของเก้าอี้เล่นเกมพร้อมระบบสัมผัสความเที่ยงตรงสูงจาก D-BOX สร้างสรรค์โดยแผนก R&D ที่มีความคิดสร้างสรรค์ของ Razer ซึ่งทั้ง Project Sophia และ Enki Pro HyperSense จะนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อยกระดับการตั้งค่าอุปกรณ์การเล่นเกมและระบบคอมพิวเตอร์ในบ้าน

ด้วยการทำงานจากที่บ้านมีการแพร่หลายมากขึ้นกว่าที่เคย หลายคนค้นพบว่าการกำหนดการตั้งค่าสำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันหลายอย่างตลอดทั้งวันเป็นเรื่องยาก ตั้งแต่การตั้งค่าประสิทธิภาพการทำงานในสำนักงานไปจนถึงการเล่นเกม การสตรีม หรือชุดแก้ไข การใช้งานแต่ละครั้งมีโฮสต์ของอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานในแต่ละประเภท

การออกแบบโมดูลาร์ที่ปรับเปลี่ยนได้สูงทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าพื้นที่ทำงานใหม่ได้อย่างรวดเร็ว สำหรับงานในมือ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลและเอกสาร Word เพื่อทำงาน โจมตีศัตรูระหว่างทางไปยังเป้าหมายเมื่อเล่นเกม หรือทำลายมันบน Twitch ด้วย ทีมของพวกเขาในขณะที่สตรีมไปยังผู้ชม Project Sophia สามารถมอบวิธีแก้ปัญหาที่ราบรื่นให้กับความท้าทายเรื่องการใช้งานเหล่านี้ทั้งหมด

เปิดประสบการณ์โมดูลาร์ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มรูปแบบ

ความยืดหยุ่นจากศูนย์กลางของ Project Sophia คือโต๊ะที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สูงซึ่งสามารถรองรับโมดูลแยกจากกันได้ถึง 13 โมดูลสำหรับระดับส่วนบุคคลที่ไม่มีใครบอก ซึ่งช่วยให้แต่ละส่วนสามารถกำหนดค่าด้วยอาร์เรย์ของส่วนประกอบเฉพาะงาน เช่น หน้าจอรอง เครื่องมือตรวจสอบระบบ แผงปุ่มลัดหน้าจอสัมผัส แท็บเล็ตปากกา และเครื่องผสมสัญญาณเสียง หรือแม้แต่การ์ดจับภาพภายนอก ดังนั้นการตั้งค่าของผู้ใช้ สามารถกำหนดค่าใหม่ได้ในไม่กี่วินาทีสำหรับสถานการณ์เฉพาะ


“Project Sophia เป็นวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเราในการตั้งค่าการเล่นเกมและเวิร์กสเตชันอเนกประสงค์ที่ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันอย่างมากของการใช้งานพีซีที่หลากหลาย Project Sophia ปฏิเสธความจำเป็นในการย้ายระหว่างพื้นที่ทำงาน” Richard Hashim รองประธานฝ่ายการเติบโตของ Razer กล่าว “ระบบโมดูลาร์แบบ Hot-swappable ช่วยให้ผู้ใช้กำหนดค่าโต๊ะทำงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วด้วยความยืดหยุ่นที่แทบจะไร้ขีดจำกัด การปรับ Project Sophia ไม่เพียงแต่สำหรับงานในมือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความชอบเฉพาะของผู้ใช้ด้วย นี่คืออนาคตของสมรภูมิ”

พลังเดสก์ท็อป ในโต๊ะทำงานของคุณ

หัวใจของ Project Sophia คือ PCB ที่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งติดตั้งส่วนประกอบหลักที่ล้ำสมัย รวมถึงโปรเซสเซอร์ Intel ล่าสุดและ NVIDIA GPU เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูงที่สุด เพิ่มพื้นที่โต๊ะทำงานให้มากขึ้น ทั้งหมดนี้อยู่ในแชสซีที่บางเฉียบซึ่งติดแม่เหล็กไว้ใต้โต๊ะกระจก ซึ่งสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดายเพื่อติดตั้งการอัพเกรดใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างระบบที่จำเป็นสำหรับงานที่ทำได้อย่างรวดเร็ว


โมดูลได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทุกประเภท โดยครีเอเตอร์สามารถใส่ลงในทัชสกรีน แท็บเล็ต และเครื่องมือป้อนข้อมูลที่สร้างสรรค์เพื่อปรับปรุงปุ่มลัดและมาโคร ในขณะที่เกมเมอร์สามารถมุ่งเน้นไปที่โมดูลสำหรับเสียงที่มีความเที่ยงตรงสูงและประสิทธิภาพภาพที่น่าทึ่งด้วยการเพิ่ม ระบบเสียงรอบทิศทาง THX และจอภาพอัตราการรีเฟรชที่สูง สตรีมเมอร์สามารถเปลี่ยน Project Sophia ให้เป็นการตั้งค่าการออกอากาศเต็มรูปแบบพร้อมกล้อง ไมโครโฟน และการควบคุมการสตรีม ในขณะที่ผู้ที่มองหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายด้วยโมดูลปุ่มลัดสำหรับการทำงาน ที่ชาร์จไร้สาย และเครื่องอุ่นแก้ว

เพื่อการดื่มด่ำและปรับแต่งได้มากขึ้น โต๊ะขนาดกว้างขวางเรียงรายไปด้วยไฟ LED ที่สามารถซิงค์กับระบบนิเวศของ Razer Chroma™ RGB และมาพร้อมกับจอแสดงผล OLED เจเนอเรชันถัดไปที่มีพิกเซลที่มีแสงในตัวและเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อให้มั่นใจว่าจะสว่างขึ้น ภาพที่คมชัดขึ้นเพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดมีขนาด 65”


เนื่องจากการออกแบบที่ปรับเปลี่ยนได้สูงและใช้งานได้หลากหลาย Project Sophia จึงสามารถให้การกำหนดค่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นเกม การสร้าง การสตรีม และการทำงาน โดยรวมการตั้งค่าแบบดั้งเดิมจำนวนมากไว้ในเดสก์ท็อปเครื่องเดียว


ความสบายตลอดวัน ทั้งหมดเกิดขึ้นใน Immersion


Enki Pro HyperSense เป็นเก้าอี้เกมมิ่งขั้นสูงที่รวมระบบสัมผัสที่มีความแม่นยำ ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์มิติใหม่ของการเล่นเกม จากการออกแบบเก้าอี้ Enki Pro ที่ได้รับความนิยม Enki Pro HyperSense มีหน่วยตอบรับแบบสัมผัสที่พัฒนาด้วย D-BOX เพื่อให้ข้อเสนอแนะที่สมจริงและสมจริงที่สุดเมื่อเล่นเกม และยังรวมพนักพิงศีรษะ Chroma RGB ที่ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งเก้าอี้ของตนเองได้ในการใช้งาน


“ด้วย Enki Pro HyperSense, Razer และ D-BOX ได้สร้างเก้าอี้เล่นเกมที่ล้ำหน้าที่สุดจนถึงปัจจุบัน” Sébastien Mailhot ประธานและ CEO ของ D-BOX กล่าว “ความพยายามร่วมกันของเราส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนโฉมประสบการณ์ของเกม ภาพยนตร์ และเพลงผ่านการใช้การตอบสนองแบบสัมผัสที่มีความเที่ยงตรงสูง ความใส่ใจในรายละเอียดและการออกแบบที่เหนือชั้นของ Razer ควบคู่ไปกับประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของ D-BOX ในด้านเทคโนโลยีระบบสัมผัสกำลังวางรากฐานสำหรับนวัตกรรมความบันเทิงภายในบ้านยุคใหม่”

ด้วยการสนับสนุนภาพยนตร์ เพลง และเกมมากกว่า 2,200 เกม ซึ่งรวมถึงเกมเช่น F1 2021, Forza Horizon 5 และ Assassin’s Creed Valhalla ให้ผู้เล่นได้สัมผัสทุกซอกทุกมุมบนสนามแข่ง แต่จะถูกโอบล้อมด้วยเกมที่มีสภาพแวดล้อมที่ต้องการการตอบสนองทางกายภาพจากระบบสัมผัส Enki Pro HyperSense แม้แต่เกมที่ไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงผ่านซอฟต์แวร์ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการตอบสนองแบบสัมผัสผ่าน Direct Input Haptics ซึ่งคอนโทรลเลอร์ คีย์บอร์ด และเมาส์-อินพุตจะสร้างการตอบสนองทางกายภาพเมื่อใช้งาน

การตอบสนองแบบสัมผัสไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเล่นเกมเท่านั้น เนื่องจากการบริโภคสื่อยังได้รับประโยชน์จากการดื่มด่ำกับอีกชั้นหนึ่ง โดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยอดนิยมจำนวนมากได้รับการสนับสนุนโดยอัตโนมัติ ผู้ชมและผู้ฟังจะเพลิดเพลินไปกับความลึกและการโอบล้อมที่มากกว่าเดิม เนื่องจากสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเพลง เอฟเฟกต์เสียง และเพลงประกอบภาพยนตร์

Enki Pro HyperSense ขับเคลื่อนโดยกลไกสัมผัสขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นเพื่อจำลองการสั่นสะเทือน พื้นผิว และการเคลื่อนไหวต่างๆ ด้วยรูปแบบการสัมผัส 65,000 แบบ ทำให้มีการตอบสนองแบบสัมผัส +/- 1 G-Force และสามารถสร้างความเอียงในแนวตั้งและด้านหลังได้ 1.5 นิ้วในที่นั่งของคุณ การซิงโครไนซ์ตามเวลาจริงช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อเสนอแนะทั้งหมดจะถูกส่งทันทีด้วยการตอบสนองสูงสุด 5ms


Enki Pro HyperSense อิงจากคุณสมบัติที่ได้รับรางวัลซึ่งทำให้เก้าอี้เกมมิ่ง Enki รุ่นก่อนๆ เป็นที่ชื่นชอบ ปรับจุดสัมผัสของร่างกายให้เหมาะสมผ่านฐานที่นั่งกว้างพิเศษขนาด 22” โค้งไหล่ 100 องศา และโค้งส่วนเอวในตัว – ให้การกระจายน้ำหนักที่เหมาะสมและเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการผสานรวม HyperSense ที่ครอบคลุมทั้งหมด ผลลัพธ์ที่ได้คือเก้าอี้ที่ผสมผสานการตอบรับแบบสัมผัสที่ดีที่สุดเข้ากับความสบายในการเล่นเกมตลอดทั้งวัน เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมระดับถัดไปที่ดื่มด่ำอย่างสูง

ด้วยการใช้เทคโนโลยีล่าสุด ทั้ง Project Sophia และ Enki Pro HyperSense จะเพิ่มมิติใหม่ให้กับการเล่นเกมและพื้นที่ทำงาน โดยนำเสนอภาพรวมในอนาคตของการตั้งค่าบ้านที่ทันสมัย Project Sophia และ Enki Pro HyperSense เป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของระบบนิเวศ Razer ซึ่งรวมถึง Razer Chroma Smart Home Program ที่เพิ่งเปิดตัวไปในวันนี้ด้วย

https://www.flashfly.net/wp/372533
 






ASUS เผยโฉมโน้ตบุ๊กใหม่ ในงาน ‘Incredible Unfolds’ CES 2022
Spoil
เอซุสเผยโฉมผลิตภัณฑ์พร้อมนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ณ งาน Incredible Unfolds ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ พร้อมเดินหน้าสานต่อตำนาน ผู้นำวงการพีซี เปิดตัวโน้ตบุ๊กพับได้ Zenbook 17 ที่มาพร้อมหน้าจอ OLED และ Zenbook 14X OLED Space Edition รุ่นพิเศษ และยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลากหลาย ได้แก่ Zenbook 14 OLED, ASUS Chromebook Flip CX5 และโน้ตบุ๊กตระกูล ExpertBook B5 series ตัวช่วยในการทำงานให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและองค์กร, จอ ProArt Display PA169CDV ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Wacom EMR มอบประสบการณ์ใช้งานอันลื่นไหลร่วมกับ ASUS ProArt Pen, โน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ASUS TUF Gaming F15 และ TUF Dash F15 นำเสนอประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมสู่สาวกเกมเมอร์หลากหลายกลุ่ม

“เอซุสให้ความสำคัญกับการสร้างความมหัศจรรย์อยู่เสมอ และเรามีความภูมิใจที่ได้นำเสนอโซลูชั่นอันยอดเยี่ยมให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน, นักธุรกิจ, ครีเอเตอร์, เกมเมอร์ และอีกมากมาย” มร.แซมซัน ฮู ซีอีโอร่วมกล่าว ณ งานเปิดตัว

เอซุสกำลังพัฒนาพีซีสำหรับโลกไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ผู้คนมีการใช้งานออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่านสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ซึ่งโน้ตบุ๊กในกลุ่ม ZenBook สร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึงการใช้งานของกลุ่มคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่มองหาอุปกรณ์ที่เร็ว และทรงพลังยิ่งขึ้น และด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นล่าสุด 12th Generation Intel® Core™ จะช่วยผสมผสานประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูงสุด ร่วมกับนวัตกรรมและดีไซน์ในตัวเครื่องที่บางเบาและพกพาได้สะดวก
https://www.flashfly.net/wp/372468
 






S-Pen ของ Galaxy S22 Ultra ตอบสนองการวาดเขียนเร็วกว่า Galaxy Note 20 Ultra ถึง 3 เท่า
Spoil

หลังจาก Samsung นำปากกา S-Pen มาใช้กับ Galaxy S21 Ultra ก็ชัดเจนว่า Galaxy S22 Ultra จะรองรับ S-Pen ด้วยเช่นกัน และรายงานล่าสุดยืนยันว่า S-Pen ของ Galaxy S22 Ultra จะตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วกว่า Galaxy Note 20 Ultra ซึ่งเป็นต้นตำรับของ S-Pen

Zaryab Khan อ้างว่า S-Pen ของ Galaxy S22 Ultra จะมีค่า Latency เพียง 2.8 มิลลิวินาที ขณะที่ S-Pen ของ Galaxy Note 20 Ultra มีค่า Latency เพียง 9 มิลลิวินาที นั่นหมายถึง S-Pen ของ Galaxy S22 Ultra จะตอบสนองการวาดเขียนได้เร็วกว่า Galaxy Note 20 Ultra ถึง 3 เท่า จึงให้ประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วเหมือนกับปากกาจริง

https://www.flashfly.net/wp/372518
 






Counterpoint เผย realme มียอดส่งออกสมาร์ทโฟน 5G ที่เติบโตไวที่สุดในอัตรา 831%
Spoil

realme (เรียลมี) ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์รายใหญ่อันดับที่ 5 ของโลกยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในกลุ่มสมาร์ตโฟน 5G อันเนื่องมาจากข้อมูลล่าสุดที่ได้เปิดเผยจาก บริษัทวิเคราะห์ตลาด Counterpoint Research ว่า realme นั้นเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟน 5G ประเภท Androids ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในโลกในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในประเทศอินเดีย, จีน, และยุโรป realme สามารถเติบโตได้ไกลในตลาดด้วยยอดขายสมาร์ตโฟน 5G ที่เติบโตขึ้น 831% ต่อปี เปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตทั่วโลกที่ 121%

Tarn Pathak ผู้บริหาร Counterpoint’s Research กล่าวว่า “ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากมายของบริษัท และผลิตภัณฑ์ 5G ที่กว้างขวางครอบคลุมทุกระดับราคา ช่วยให้ realme เติบโตได้เร็วที่สุด” ในขณะที่ Varun Mishra ผู้อำนวยการอาวุโส ตั้งข้อสังเกตว่าการเติบโตของ 5G ของ realme ในตลาดเกิดใหม่ได้วางตำแหน่งตนเองไว้เป็นอย่างดีสำหรับอนาคตเมื่อ 5G เปิดตัวเพิ่มมากขึ้น

Sky Li ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท realme (เรียลมี) กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการช่วยให้วัยรุ่น อย่างน้อย 100 ล้านคนสนุกไปกับสิ่งต่างๆ ที่เทคโนโลยี 5G มีให้ผ่านสมาร์ตโฟนกำลัง 5G ด้วยความ เร็วสูงสุด และได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้นวัตกรรม 5G เช่นนี้เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย เรือธงสุดพรีเมี่ยมเครื่องแรก คือ GT 2 Pro ที่ใช้เครื่องประมวลผล Qualcomm Snapdragon 5G และยังเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่เป็นไบโอเบสใช้เส้นใยโพลีเมอร์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังได้ดีไซเนอร์อย่าง นาโอโตะ ฟุคาซาวา มาร่วมออกแบบและจะเปิดตัวให้ทุกคนได้เห็นพร้อมกันทั่วโลก

realme (เรียลมี) ถูกขนานนามว่าเป็น “ผู้กระจายเครือข่าย 5G ระดับโลก” ผู้ทุ่มเทให้กับการทำให้สมาร์ตโฟน 5G ให้มวลชนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการลงทุนด้านการวิจัย และการพัฒนาที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตลอดจนข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้ ในระยะเวลาสามปี realme สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับที่สามของการจัดอันดับแบรนด์สมาร์ตโฟน 5G ในตลาดเกิดใหม่ โดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 15.5% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ตามที่แสดงในผลการวิจัยของ Counterpoint Research ในเดือนกันยายน

สำหรับตลาดสมาร์ตโฟน 5G ในประเทศไทยนั้น realme ได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 5G ใหม่ๆ ที่มีทั้งดีไซน์สวย เทคโนโลยีล้ำสมัยระดับพรีเมียม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานหนุ่มสาวได้มากขึ้น ซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีให้ผู้ใช้งานได้เห็นกันอย่างแน่นอน เพื่อตอกย้ำผู้นำการเติบโตของสมาร์ตโฟน 5G ระดับโลก และพร้อมตั้งเป้าที่จะเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 1 ในประเทศไทยภายระยะเวลา 3 ปี
https://www.flashfly.net/wp/372458
 






AirPods Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่จะถูกเปิดตัวในปลายปีนี้ ทางซัพพลายเดอร์กำลังเตรียมความพร้อมในการจัดส่งแล้ว
Spoil

AirPods Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ได้มีการคาดหวังว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังในปี 2022 นี้ โดยล่าสุด DigiTimes สื่อจากใต้หวันได้รายงานว่าทางซัพพลายเออร์ของ Apple นั้นกำลังเตรียมความพร้อมที่จะส่งออกหูฟังรุ่นใหม่นี้แล้ว

AirPods Pro 2 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ถูกคาดหวังว่าจะมาในดีไซน์ใหม่ไร้ก้านหูฟัง มีการปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น รองรับระบบเสียง lossless audio จาก Apple Music และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ถูกคาดว่าจะมีกำหนดการเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 นี้ และก่อนหน้าที่จะเปิดตัว ก็มีรายงานว่า ทางซัพพลายเออร์จของ Apple นั้นกำลังจัดเตรียมความพร้อมในการจัดส่งหูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้แล้ว

สำหรับข่าวลือล่าสุดของ AirPods Pro รุ่นใหม่นั้น ทาง Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สาย Apple ได้ให้ข้อมูลว่าจะมีการปรับดีไซน์เคสชาร์จใหม่อีกเล็กน้อย โดยเพิ่มลำโพงสำหรับการเล่นเสียงในการค้นหาจากแอปฯ Find My เพื่อช่วยให้ค้นหาหูฟังได้ง่ายขึ้น
https://www.flashfly.net/wp/372363
 






ROG ยกทัพเกมมิ่งโน้ตบุ๊ก เปิดตัวในงาน CES 2022 Zephyrus Duo 16 ที่ได้รับการยกเครื่องใหม่, Zephyrus G14 รุ่นล่าสุด, Strix series, และ Flow Z13 เกมมิ่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด
Spoil

รีพับลิคออฟเกมเมอส์ (ROG) ประกาศเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นเกมใหม่ล่าสุดที่งาน CES 2022 ภายใต้ชื่องาน ROG: The Rise of Gamers ด้วยความภาคภูมิใจในการเป็นผู้นำในเทคโนโลยี และเป็นอีกครั้งที่ได้ทำการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นสำหรับยุคที่การเล่นเกมไม่ใช่งานอดิเรกธรรมดาๆอีกต่อไป แต่เป็นจิตวิญญาณแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบัน ROG พร้อมที่จะลุยสู่ตลาดในปี 2022 ด้วยระบบปฏิบัติการใหม่, CPUs ใหม่ล่าสุดจาก Intel® และ AMD, GPUs จาก AMD และ NVIDIA® และผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีรูปแบบการใช้งานใหม่ทั้งหมด

Flow Z13 เกมมิ่งแท็บเล็ตใหม่ล่าสุดนำมาซึ่งอีกขั้นของการพกพาและการใช้งานที่หลากหลายของเกมมิ่งพีซี และฟอร์มแฟคเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของ Zephyrus Duo 16, Zephyrus G14, และ Strix ซึ่งเป็นสินค้าที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกอยู่แล้วนั้นมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ROG ยังได้มีการประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ในซีรีส์ Archer ซึ่งเป็นกระเป๋าสำหรับชุดเกมมิ่งเกียร์ และแอปพลิเคชันสำหรับประสบการณ์รูปแบบดิจิตอล ROG Citadel XV ที่ซึ่งเหล่าเกมเมอส์จะสามารถสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดนี้ได้ในที่เดียว

กราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ GeForce RTX 3080 Ti เป็นการนำกราฟิกการ์ดระดับเรือธง 80 Ti ลงมาติดตั้งในโน้ตบุ๊กเป็นครั้งแรก โดดเด่นด้วยหน่วยความจำแบบ GDDR6 ขนาด 16 GB ที่มีความเร็วสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก โดย RTX 3080 Ti นั้นมีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งกว่า TITAN RTX ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดสำหรับเครื่องเดสก์ท็อป และ GeForce RTX 3070 Ti นั้นมีความเร็วสูงกว่า RTX 2070 SUPER บนโน้ตบุ๊กสูงสุดถึง 70% โดยสามารถให้เฟรมเรทได้ที่ 100 เฟรมต่อวินาทีบนความละเอียดระดับ 1440p

นอกจากนั้นแล้วยังมี Max-Q Technologies เจนเนอเรชั่นที่ 4 พร้อมด้วย CPU Optimizer, Rapid Core Scaling, และ Battery Boost 2.0 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ความแรง, และอายุการใช้งานแบตเตอรี่



ROG Strix SCAR และ Strix G
ROG Strix SCAR รุ่นใหม่ล่าสุดถูกออกแบบโดยคำนึงคำนึงถึงผู้ที่ชื่นชอบกีฬา esports เป็นหลักสำคัญ ด้วยขุมกำลังของฮาร์ดแวร์ระดับสูงสุด, Windows 11 Pro, หน้าจอที่มีรีเฟรชเรทสูง, และ ROG Intelligent Cooling™ ที่ทำงานร่วมกับ Liquid Metal Conductonaut Extreme แรงสุดด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core™ i9-12900H และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่ใช้พลังงานสูงสุด 150 W บน Dynamic Boost Strix SCAR ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมที่มีเฟรมเรทสูง MUX Switch ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพของกราฟิกการ์ดระดับท็อป สตอเรจแบบ PCIe® 4.0 x4 ที่ให้ความเร็วในการดึงใช้ข้อมูลทำได้รวดเร็วดั่งแสง และแรม DDR5 4800 MHz ยังมีพื้นที่และความเร็วมากพอสำหรับการทำงานที่หลากหลาย

Strix SCAR มีขนาดหน้าจอให้เลือกทั้งแบบ 15 นิ้วและ 17นิ้ว ในขนาดหน้าจอ 15 นิ้วนั้นใช้หน้าจอแบบ IPS-level ที่มาพร้อมสามทางเลือก: QHD 240 Hz, Full HD 300 Hz, และ QHD 165 Hz ขณะที่ SCAR รุ่นหน้าจอขนาด 17 นิ้วจะมีหน้าจอแบบ QHD 240 Hz หรือ Full HD 360 Hz Strix SCAR ทุกรุ่นยังรองรับ Dolby Vision® HDR เพื่อการรับชมที่เต็มอรรถรส พร้อมด้วย Adaptive-Sync เพื่อให้ได้การแสดงผลที่มีคุณภาพที่น่าทึ่งปราศจากการฉีกขาดและสะดุดของภาพ และอัตราการตอบสนองในการแสดงผลที่เร็วถึง 3 ms มั่นใจได้ว่าทุกการเคลื่อนไหวจะมีความคมชัดทำให้นักเล่นเกมไม่พลาดแม้รายละเอียดในการต่อสู้อันดุเดือด

ทัชแพดที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นให้ความมั่นใจว่าทุกการควบคุมจะมีความแม่นยำแม้ไม่ได้ต่อเม้าส์แยก ลวดลายแบบดอทแมททริกซ์ให้ความรู้สึกสปอร์ต, คีย์บอร์ดมีไฟส่องสว่างแบบ per-key RGB รองรับ Aura Sync ทั้งบนคีย์บอร์ดและบริเวณแถบไฟรอบตัวเครื่อง, มุมขอบตัวเครื่อง armor caps ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อสะท้อนความเป็นตัวเองของเหล่าเกมเมอส์


ROG Strix G15 และ G17 รุ่นใหม่ใช้ขุมพลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 9 6900HX และกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่กำลังสูงสุด 150 W บน Dynamic Boost ให้พลังประมวลผลเทียบเคียงได้กับรุ่นพี่ G15 มีทางเลือกหน้าจอแบบ Full HD 300 Hz และ QHD 165 Hz ขณะที่ G17 จะใช้หน้าจอแบบ Full HD 360 Hz และ QHD 240 Hz สำหรับการเล่นเกมที่เข้มข้น Strix G ทุกรุ่นใช้หน้าจอที่รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision มีอัตราตอบสนองในการแสดงผลที่ 3 ms และ Adaptive-Sync Strix G มาในตัวเครื่องสีเทา Eclipse Gray และสีตัวเครื่องแบบนีออนให้เลือกอีกสองสี Volt Green และ Electro Punk ให้ความโดดเด่นไม่เหมือนใคร

Strix ทุกรุ่นติดตั้งลำโพงให้ถึงสี่ตัวทำงานร่วมกับระบบจำลองเสียง Dolby Atmos® ซึ่งช่วยให้ได้เวทีเสียงที่สมจริงด้วยความโอบล้อม, เคลียร์ใส, และมีชีวิตชีวาในการต่อสู้อันดุเดือด ระบบตัดเสียงอัจฉริยะ Two-way AI Noise Cancelation ช่วยกรองเสียงรบกวนเบื้องหลังออกสำหรับการสื่อสารทั้งขาไปและขากลับ ให้ทุกเสียงสนทนามีความดังและคมชัด

นอกจากนั้นแล้ว Strix ทุกรุ่นยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 90 Wh รวมไปถึงการชาร์จแบบ 100W USB Type-C® สำหรับการใช้งานนอกสถานที่ WiFi 6E และ 2.5G LAN ให้การเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คที่ล้ำสมัยเพื่อลดอาการสะดุดให้น้อยที่สุดสำหรับทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สายที่รองรับ



ROG Zephyrus G14, G15, และ M16

ROG Zephyrus G14 ที่ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามว่าเป็นเครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงที่มีสไตล์, ตัวเครื่องพกพาสะดวก มาพร้อมเทคโนโลยีที่ดียิ่งขึ้นสำหรับปี 2022 G14 รุ่นใหม่ติดตั้ง Windows 11 มาพร้อมใช้งาน โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก AMD Radeon RX 6000S Series นอกจากนั้นยังโดดเด่นด้วย MUX Switch เพื่อมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นและเฟรมเรทที่ดีที่สุด ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling พร้อมโลหะเหลวและvapor chamber ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้ความมั่นใจถึงประสิทธิภาพที่เสถียรยอดเยี่ยมยาวนานจากสเปคระดับไฮเอนด์ ขณะที่แรม DDR5 และ PCIe SSD ขนาด 1 TB ช่วยให้การทำงานที่หลากหลายมีการตอบสนองที่ฉับไว

ออกแบบมาเพื่อให้ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ในขนาดตัวเครื่องที่พกพาได้ง่ายเป็นพิเศษ ดีไซน์สุดเฉียบของ G14 มาในสี Eclipse Gray หรือ Moonlight White โดดเด่นด้วยป้ายชื่อรุ่นแบบ Prismatic Logo พร้อมโฮโลแกรมให้เงาสะท้อนดึงดูดสายตา ฝาเครื่อง ปกคลุมไปด้วยช่องที่เจาะอย่างปราณีตด้วยกระบวนการ CNC มากถึง 14,969 ช่องและหลอดไฟ mini LEDs 1,449 ดวง ในรุ่นที่โดดเด่นด้วยหน้าจอ AniMe Matrix™ — จำนวนหลอด LEDs ที่มีมากกว่ารุ่นของปีก่อนหน้าทำให้สามารถสร้างสรรค์แอนิเมชันใหม่ๆได้มากขึ้นเพื่อความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเครื่อง

G14 นับเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกๆของ ROG ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหม่ล่าสุด Nebula ซึ่งสามารถแสดงผลได้ที่ระดับ 120 Hz ที่ความละเอียด QHD ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits แสดงสีสันได้กว้างสูงสุด 100% DCI-P3 และมีความไวในการแสดงผลที่ 3 ms — พร้อมด้วย Dolby Vision, Adaptive-Sync, และการรับรองจาก Pantone® เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่น่าตื่นตะลึง สีที่เที่ยงตรง และลดการฉีกขาดหรือการสะดุดของภาพให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด หน้าจอยังได้รับการขยายให้ได้อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 16:10 ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานบนหน้าจอได้โดยไม่สูญเสียคุณลักษณะในการพกพาเนื่องจากขอบจอที่บางเฉียบ ให้สัดส่วนขนาดหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องสูงถึง 91%

Dolby Atmos, ไมโครโฟนแบบ 3D array ทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบสองฝั่ง two-way AI Noise Cancelation, และ WiFi 6E ความเร็วสูง ทั้งหมดรวมอยู่บนโน้ตบุ๊กขนาดพกพาเครื่องนี้ ROG Zephyrus G15 และ M16 ก็ได้รับการปรับปรุงให้มีความสดใหม่ขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD และ NVIDIA, แรมแบบ DDR5, และ WiFi 6E


ROG Zephyrus Duo 16

ROG Zephyrus Duo 16 รุ่นปี 2022 ได้ก้าวขึ้นไปสู่อีกขั้นของนวัตกรรมบนโน้ตบุ๊กสองหน้าจอ ROG’s ScreenPad Plus™ เพิ่มหน้าจอที่สองสำหรับเนื้อที่พิเศษในการทำงาน, การสตรีมเกม, หรือแม้แต่ใช้เพื่อควบคุมเกมที่รองรับ เช่น Dying Light 2 บานพับใหม่แบบสี่ทิศทางช่วยให้หน้าจอ ScreenPad Plus ยกตัวขึ้นและเลื่อนไปด้านหลังเพื่อประสานกับหน้าจอหลักเมื่อเปิดเครื่องโน้ตบุ๊กขึ้น ลดช่องว่างระหว่างระหว่างสองหน้าจอที่มีอยู่ในรุ่นก่อนหน้า ให้ประสบการณ์เสมือนหน้าจอไร้ขอบสำหรับการดื่มด่ำอย่างแท้จริง

โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม Windows 11 เครื่องนี้ใช้ขุมกำลังโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 6980HX และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่กำลังไฟ 165 W บน Dynamic Boost เพื่อความแรงระดับไฮเอนด์ เสริมความพิเศษด้วย Liquid Metal Conductonaut Extreme ที่ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ดีกว่าถึง 15° C เมื่อเทียบกับสารนำความร้อนทั่วไป AAS Plus 2.0 ทำให้มีช่องลมเข้าจากการยกตัวของหน้าจอที่สอง ทำให้ได้อากาศไหลเวียนมากขึ้นถึง 30% ทำให้ชิ้นส่วนระดับท็อปต่างๆในเครื่องยังคงความเย็นไว้ได้ และได้ประสิทธิภาพที่เสถียรยาวนานในการเล่นเกมและการใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน MUX Switch ทำให้เกมเมอส์มั่นใจว่าจะได้เฟรมเรทที่สูงที่สุดในทุกสภาวะการแข่งขัน

Zephyrus Duo มีทางเลือกหน้าจอหลักที่จะสั่นสะเทือนวงการสองแบบ โดยทั้งสองแบบรองรับ Dolby Vision ทางเลือกแรก ใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2022 คือ ROG Nebula HDR ซึ่งมีคุณสมบัติพื้นฐานทั้งหมดเหมือนกับ ROG Nebula Display แต่ยังมาพร้อม 512 mini LED dimming zones สามารถให้ความสว่างสูงสุดได้ถึง 1100 nits เพื่อคอนทราสต์และสีสันที่คุณต้องตะลึง หน้าจอความละเอียด QHD อัตราส่วน 16:10 ตัวนี้ให้รีเฟรชเรทสูงถึง 165 Hz และยังได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR™ 1000 พร้อมด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 100,000:1 หน้าจอ Nebula HDR คือนิยามสำหรับประสบการณ์ขั้นสูงสุดในการเล่นเกมแบบ HDR และการรับชมภาพยนตร์

ทางเลือกที่สองเป็นการร่วมมือพัฒนากับทาง BOE ซึ่งเป็นหน้าจอเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับ ROG ตัวใหม่ล่าสุดในชื่อหน้าจอ Dual Spec ซึ่งสามารถสลับโหมดการใช้งานระหว่าง 4K 120 Hz และ Full HD 240 Hz ได้ ทำให้เกมเมอส์สามารถเลือกให้ความสำคัญระหว่างความละเอียดหรือเฟรมเรทในการใช้งานแต่ละเกมหรือแต่ละโปรแกรม เทคโนโลยี Pixel Acceleration ทำให้ได้การขยายขนาดเม็ดพิเซลที่รวดเร็วสำหรับโหมดความละเอียด Full HD ให้ภาพที่คมชัดพร้อมๆกับเฟรมเรทที่สูงกว่าสำหรับการแข่งขัน

อุปกรณ์อันน่าทึ่งนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี ROG’s NumberPad บนทัชแพด, คีย์บอร์ดที่มีระยะกดลึก 1.7 มม. และไฟส่องสว่างแบบ per-key RGB, ลำโพงหกตัวพร้อม Dual Force-Cancelling Woofers, Dolby Atmos, ระบบเสียง Hi-Res, และระบบตัดเสียงอัจฉริยะ two-way AI Noise Cancelation ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในโน้ตบุ๊กเรือธงแห่งปี 2022 จาก ROG แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีมากมายและมีหน้าจอถึงสองจอ Zephyrus Duo 16 รุ่นปี 2022 ยังมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อน ให้หน้าจอขนาด16 นิ้วในตัวเครื่องเทียบเท่าโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 15 นิ้วทั่วไป


ROG Flow Z13, X13, และ XG Mobile
ROG Flow Z13 ได้ลดขนาดของซีรีส์ Flow ที่เล็กอยู่แล้วให้เล็กลงไปได้อีก ให้ได้มาซึ่งแท็บเล็ตสำหรับการเล่นเกมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก ด้วย Windows 11, Intel Core i9-12900H ที่มีคอร์ประมวลผลสูงสุดถึง 14 คอร์, กราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti, และแรมแบบ LPDDR5 ที่ความเร็วบัสสูงถึง 5200 MHz, แท็บเล็ตเครื่องนี้อัดแน่นไปด้วยพลังสำหรับการเล่นเกมอย่างล้นเหลือในตัวเครื่องที่บางและเบาเป็นพิเศษ เสริมความโดดเด่นด้วย PCIe SSD ขนาด 1TB, MUX Switch, ระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ, และการชาร์จด่วนผ่านทาง USB Type-C.

Flow Z13 โดดเด่นด้วยทางเลือกหน้าจอสองแบบ: 4K 60 Hz ที่ให้สีสันครอบคลุม 85% DCI-P3 หรือ Full HD 120 Hz แบบ 100% sRGB หน้าจอทั้งสองแบบให้อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 16:10 รองรับการสัมผัสและใช้กระจกกันรอยขีดข่วน Corning® Gorilla® glass, Adaptive Sync, ให้ความสว่างสูงสุด 500 nits, และรับรองความแม่นยำในการแสดงสีโดย Pantone Flow Z13 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมการแสดงผลแบบ Dolby Vision เพื่อคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม

Z13 สามารถใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การต่อกับเม้าส์แบบธรรมดา (ควบคู่กับ screen cover keyboard ที่มีให้มาด้วย) ไปจนถึงการสัมผัสหน้าจอหรือการใช้จอยเกม และเนื่องจากฟอร์มแฟกเตอร์แบบแท็บเล็ตนั้นทำให้ชิ้นส่วนองค์ประกอบต่างๆนั้นอยู่ด้านหลังหน้าจอแทนที่จะอยู่ใต้แผงคีย์บอร์ดทำให้ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling สามารถดึงลมเย็นเข้าสู่ภายในได้เต็มที่เพื่อให้ตัวเครื่องสามารถคงประสิทธิภาพระดับสูงสุดได้ยาวนาน

Flow Z13 นำเสนอดีไซน์ล้ำสมัยแบบย้อนยุคซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Space Race ในศตวรรษที่ 20 แต่แฝงด้วยวิสัยทัศน์ของ ROG ที่มีต่อการเล่นเกมในอนาคต: ขั้นสุดแห่งการพกพา ช่องหน้าต่างด้านหลังเครื่องที่ถูกเจาะอย่างปราณีตด้วยกระบวนการ CNC ทำให้สามารถมองเห็นเมนบอร์ดของตัวเครื่อง ขณะที่แชสซีถูกปกคลุมด้วยเครื่องจักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยานอวกาศ ขาตั้งที่ถูกติดตั้งมากับตัวเครื่องสามารถกางได้มากที่สุดถึง 170° เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมในทุกสถานการณ์

ROG ยังได้ทำการอัพเกรด Flow X13 ด้วยโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด AMD Ryzen 9 6000 Series และกราฟิกการ์ดสำหรับโน้ตบุ๊ก NVIDIA GeForce RTX 3050 Ti สำหรับปี 2022

เพื่อพลังในการเล่นเกมที่สูงยิ่งขึ้น ทั้ง Flow Z13 และ X13 ยังรองรับการใช้งานร่วมกับกราฟิกการ์ดแบบต่อแยก XG Mobile โดยรองรับทั้งรุ่นของปี 2021 ที่มาพร้อมกับ NVIDIA GeForce RTX 3080 หรือรุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้ที่มาพร้อมกราฟิกการ์ด AMD Radeon RX 6850M XT และช่องเชื่อมต่อ USB เพิ่มเติม, DisplayPort พร้อม HDMI, Ethernet ทำให้ XG Mobile พร้อมสำหรับทุกสิ่ง


เกมมิ่งเดสก์ท็อป ROG Strix GT15
ROG Strix GT15 ได้รับการอัพเดทสำหรับปี 2022 ด้วยฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดจากทาง Intel และ NVIDIA โดยมีสเปคให้เลือกได้หลากหลายสูงสุดถึง Intel Core i7-12700KF, NVIDIA GeForce RTX 3080, และแรม 64 GB DDR4-3200 GT15 มอบประสบการณ์ภาพที่ลื่นไหลที่เฟรมเรทระดับสูงและการตอบสนองที่รวดเร็วสำหรับการใช้งานที่หลากหลายในทุกๆวัน หูจับและที่แขวนหูฟังที่ถูกติดตั้งมาบนตัวเครื่องช่วยเพิ่มความสะดวกเมื่อคุณต้องเคลื่อนย้ายเครื่องไปร่วมเล่นเกมกับเพื่อน และแถบไฟ Aura Sync ทำให้ผู้เล่นแต่ละคนแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตัวเองได้

กระเป๋า ROG Archer Series


โน้ตบุ๊กนั้นถูกออกแบบเพื่อนการพาไปทุกที่ นั่นเป็นเหตุผลที่ ROG แนะนำอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Archer ซึ่งประกอบไปด้วยกระเป๋าและเป้ในการเปิดตัวครั้งนี้ด้วย Archer Messenger 14 นั้นถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ มีกระเป๋าและช่องแยกขนาดเล็กมากมายสำหรับ ROG Phone, ที่ชาร์จแบบพกพา, และของจำเป็นอื่นๆ และยังมีพื้นที่มากพอสำหรับโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 14 นิ้วอีกด้วย Archer Backpack 15.6 สามารถใส่อุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ขณะที่ Backpack 17 ใช้ช่องแยกแบบโมดูลาร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพื่อพกอุปกรณ์เกมมิ่ง, อุปกรณ์ถ่ายภาพ, หรืออุปกรณ์สำหรับการสร้างคอนเทนต์, อีกทั้งยังมีสายรัดสำหรับขาตั้งกล้องโดยเฉพาะ Archer Weekender 17 มีแผ่นรองเสริมสำหรับการเดินทางทริปใหญ่ และสามารถใช้งานได้ทั้งในรูปแบบกระเป๋าเป้และกระเป๋าเดินทางเพื่อให้เหมาะกับทุกสถานการณ์ ช่องแยกพิเศษด้านล่างมีคุณสมบัติกันน้ำและสิ่งสกปรก สมบูรณ์แบบสำหรับการแยกใส่เสื้อผ้า ขณะที่ช่องด้านบนสุดสามารถกักเก็บความร้อนได้สูงสุดถึง 6 ชั่วโมง กระเป๋าเป้ Archer ทุกรุ่นใช้วัสดุน้ำหนักเบา, ทนทาน, และกันน้ำ เพื่อให้คงทนต่อการใช้งานหนักหน่วง ควบคู่ไปกับการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่นของ ROG เพื่อสไตล์ที่โดดเด่น

ราคาและกำหนดการณ์วางจำหน่ายในประเทศไทย

รายละเอียดสเปคผลิตภัณฑ์ ROG ที่เปิดตัวในงาน CES 2022 อาจมีการเปลี่ยนแปลงและยังไม่มีกำหนดการณ์การวางจำหน่ายในประเทศไทยที่แน่นอน โปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ official website: http://www.rog.asus.com/th หรือแฟนเพจ https://www.facebook.com/ASUSROG.TH

https://www.flashfly.net/wp/372411
 









แก้ไขล่าสุดโดย Hypervenom1998 เมื่อ Thu Jan 13, 2022 14:54, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
โค้ช C-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 41091
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:10
Top Comment [RE: #Update IT]
กล้อง James Webb กางเสร็จนี่แหละคือสุดยอดข่าวแต่คนไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

ส่วนที่ลุ้นสุดคือตอนกางชิลด์ออก แล้วก็ตรึงชิลด์ออกมา 4 ชั้น พอเห็นผ่านขั้นตอนนั้นมาได้คือโลกกันทั้งโลก

ตอนนี้เหลือแค่ calibrate กระจก กับ เอากล้องเข้าไปอยู่ในจุด L2 ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ตื่นเต้นแหะ อยากเห็นดาวดวงแรกของกาแลกซี่แล้ว

SAVE OF THE CENTURY !!

ออฟไลน์
โค้ช C-License
Status: Middle fingers up if you don't give a f**k
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2010
ตอบ: 41091
ที่อยู่: ข้าวเหนียวมะม่วงรสช็อคโกแลต
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:10
[RE: #Update IT]
กล้อง James Webb กางเสร็จนี่แหละคือสุดยอดข่าวแต่คนไม่ค่อยเห็นความสำคัญ

ส่วนที่ลุ้นสุดคือตอนกางชิลด์ออก แล้วก็ตรึงชิลด์ออกมา 4 ชั้น พอเห็นผ่านขั้นตอนนั้นมาได้คือโลกกันทั้งโลก

ตอนนี้เหลือแค่ calibrate กระจก กับ เอากล้องเข้าไปอยู่ในจุด L2 ซึ่งดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร

ตื่นเต้นแหะ อยากเห็นดาวดวงแรกของกาแลกซี่แล้ว

SAVE OF THE CENTURY !!

ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2010
ตอบ: 6356
ที่อยู่: เชียงใหม่....เจ้า...
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:18
[RE: #Update IT]
โอ้ยยย รอจัด SE3 เลยครับ ผมนี่เล่นตระกูลSEสุดคุ้มมาตั้งแต่เจนแรกแล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ฟุตฺบอลํ ปรมํ สุขํ
การได้เล่นฟุตบอล...คือความสุขอย่างยิ่ง


ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 May 2008
ตอบ: 92654
ที่อยู่: Emirates Stadium
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:19
[RE: #Update IT]
หูฟัง 33k
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: Always RED DEVIL for 32 years
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Sep 2006
ตอบ: 7219
ที่อยู่: https://www.facebook.com/DIYBaanBaa
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:51
[RE: #Update IT]
ผมตามๆไม่ทันจริงๆ เอาว่าถ้าเงินถึงตัวไหน ดูแล้วจะใช้ได้คุมค่าก็ค่อยดูละกัน
ขนาดมือถือ ตอนนี้ยังเป็น หัว โนว่า 4 อยู่เลย 5555 ถ้าพังไปจะซื้อะไรก็คิดไม่ออกละ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

https://www.facebook.com/DIYBaanBaan
https://www.facebook.com/wonderfulcans
https://www.facebook.com/samakarncheewit
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 May 2009
ตอบ: 381
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 11:56
[RE: #Update IT]
รอดูดาวดวงแรก

รอดูผลเทส gen 12 กับระบบ การ์ดจอ ของ intel ว่าจะฉีก apple ได้แค่ไหน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Object Reference not Set ....
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 6192
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 12:30
[RE: #Update IT]
ผมว่า SE3 ทรงสวย (ทรง smartphone นะ) กว่า 14 อีก
แล้วแต่รสนิยมเนอะ

ถ้าเป็นตามรูปเลย
กำลังจะลาจาก Android พอดีเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status: Sometimes you have to do the wrong things, for the
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17526
ที่อยู่: New World
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 12:45
[RE: #Update IT]
ถ้าเปิด se3 ราคาไม่แรงมีแววว่าจะโดน

se รุ่นแรกยังใช้อยู่เลย เปลี่ยนแบต 1 รอบ พักนี้เริ่มมีอืด มีเด้งบางแอพละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 456
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jan 10, 2022 14:12
[RE: #Update IT]
GURUNUKE พิมพ์ว่า:
ผมตามๆไม่ทันจริงๆ เอาว่าถ้าเงินถึงตัวไหน ดูแล้วจะใช้ได้คุมค่าก็ค่อยดูละกัน
ขนาดมือถือ ตอนนี้ยังเป็น หัว โนว่า 4 อยู่เลย 5555 ถ้าพังไปจะซื้อะไรก็คิดไม่ออกละ  

เสียดายแบรนด์นี้ที่จริงของเค้าดีใช่ทนมาก ไม่น่าโดนลุงทรัมป์เลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status: LOVE PLOYPLOY
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jul 2020
ตอบ: 768
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 12, 2022 13:10
[RE: #Update IT]
IPhone จะเอา สแกนนิ้วกลับมาไหมครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel