เฟร็ดครบรส! เสีย-จ่าย-เรียกโทษ ' โด้' เบิ้ล คาร์ริคส่งไม้ต่อหรูชนะปืน 3-2
เฟร็ด ต้องได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เมื่อมีส่วนร่วมในหลายๆเหตุการณ์สำคัญในเกมเปิดบ้านชนะอาร์เซนอล 3-2 ไล่ตั้งแต่ ไปเหยียบดาบิด เด เคอา ทำทีมเสียประตูแรกสุดพิลึก ก่อนจ่ายให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส ยิงตีเสมอ 1-1 และเรียกจุดโทษให้ทีมขยับขึ้นนำ 3-2 ขณะที่ โรนัลโด้ ยิง 2 ลูก สร้างสถิติทำประตูทะลุ 800 ประตูบนเส้นทางค้าแข้งของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นการส่งไม้ต่อสุดยอดเยี่ยมของไมเคิล คาร์ริค คุมทีม 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
18.
บรูโน่ แฟร์นานเดซ
90'
7.5
7.
คริสติอาโน่ โรนัลโด้
88'
8
10.
มาร์คัส แรชฟอร์ด
79'
7.5
ตัวสำรอง
34.
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
90'
6
9.
อองโตนี่ มาร์กซิยาล
88'
6
14.
เจสซี่ ลินการ์ด
79'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม 2564
กรรมการ มาร์ติน แอตกินสัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
3
2
อาร์เซนอล
1-1 บรูโน่ แฟร์นานเดส 44'
2-1 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 52'
3-2 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 70' (Pen.)
0-1 เอมิล สมิธ โรว์ 13'
2-2 มาร์ติน โอเดการ์ด 54'
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 ยังคงให้ ไมเคิล คาร์ริค ทำทีมต่อไป หลัง ราล์ฟ รังนิค รอเคลียร์ใบอนุญาตเวิร์เพอร์มิต ไม่ทันนัดนี้ ขณะที่ อาร์เซนอล ผลงานกำลังเยี่ยมยอดอยู่ที่ 5
คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองเกมเสมอเชลซี 1-1 เช่นเดียวกับ แฮร์รี่ แมคไกวร์ ที่ได้เล่นแทนที่ เอริค ไบญี่ และดิโอโก้ ดาโลท์ แทนที่ อารอน วาน บิสซาก้า
ฝั่งอาร์เซนอล เปลี่ยน 2 ตำแหน่งจากนัดชนะนิวคาสเซิล เมื่อส่ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ แทน แซมบี้ โลกองก้า และบูกาโย่ ซาก้า
ปืนออกสตาร์ตลุยใส่ผีทันที
หลังปล่อยให้ อาร์เซนอล ดาหน้าลุ้นทำประตูตั้งแต่เริ่มเกม ทัพปิศาจแดง เริ่มตั้งหลักครองบอลได้มากขึ้น
เฟร็ดเหยียบเด เคอา เสียประตูสุดแปลก
มีประเด็นปัญหา จังหวะ สมิธ โรว์ ซัดเข้าประตูโล่งๆ หลังเด เคอา ล้มลงไปนอนเจ็บอยู่บนพื้น ก่อนภาพรีเพลย์เห็นชัดว่า เฟร็ด เป็นคนไปเหยียบเด เคอา ไม่ได้มีนักเตะอาร์เซนอลไปเกี่ยวข้องด้วย
หลังดูอาการเจ็บ เด เคอา อยู่ 2-3 นาที สุดท้ายผู้ตัดสิน แอตกินสัน ปรึกษาทีม VAR ให้ประตูกับอาร์เซนอลในที่สุด 1-0 ท่ามกลางผู้เล่นปิศาจแดงพยายามประท้วง
ผีเดินหน้าบุกจะแก้คืนทันที
หลังเสียประตุ เกมก็เป็นของแมนฯยูไนเต็ด ทั้งหมด เจ้าถิ่นดาหน้าลุยครองบอลป้วนเปี้ยนอยู่ในเขตโทษอาร์เซนอลต่อเนื่อง
ผีกดดันต่อเนื่อง, เกมรับปืนต้องทำงานหนัก
ยังเป็นแมนฯยูไนเต็ด ที่เดินเกมกดดันต่อเนื่อง อาร์เซนอล ไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกจากตั้งรับ บอลเกมรุกหายไปหมดแล้ว
มาร์ติเนลลี่ทำดีได้ยิงหลุดกรอบนิดเดียว
อาร์เซนอล ทำดีจังหวะนี้ แกะบอลอออกมาจากมุมธง เป็นมาร์ติเนลลี่ เลือกยิงเสาแรกแต่ไม่ดีพอ
เฟร็ดแก้ตัวจ่ายให้บรูโน่ซัดตีเสมอ 1-1
แมนฯยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากเฟร็ด แก้ตัว จ่ายตัดให้ บรูโน่ ยิงตามน้ำหน้าประตูไม่กี่หลาสุดปัญญาที่แรมส์เดล จะป้องกัน
ปืนกลับมาบุกอีกยังกดเพิ่มไม่ได้
หลังเสียประตู อาร์เซนอล ก็กลับมาบุกได้ดีขึ้น แต่ยังไม่มากพอจะขยับออกนำอีก จนกระทั่งพักครึ่งเสมอกันไปก่อน 1-1
เดเคอา ซูเปอร์เซฟช่วยผี
เริ่มครึ่งหลัง อาร์เซนอล คึกคักบุกได้ลุ้นหวาดเสียวอีกครั้ง จากเอลเนนี่ ได้โหม่ง แต่เด เคอา ปฏิกิริยาไวมากใช้มือปัดไว้ได้ทัน
โรนัลโด้ล็อคยิงจ่อๆติดเซฟแรมส์เดล
แมนฯยูไนเต็ด ลุ้นบ้างจากความยอดเยี่ยมของโรนัลโด้ ล็อคบอลหลบกองหลังได้ยิงจ่อๆ แต่ติดเซฟแรมส์เดล
ผีแซงนำแล้ว โรนัลโด้ซัด 2-1
ดาโลท์บีบจน ตาวาเรส พลาดเสียบอลทำฝั่งซ้ายเปิดโล่ง บอลมาจบที่ แรชฟอร์ด ได้เปิดทางขวาให้โรนัลโด้ ซัดปิดหีบจ่อๆไม่พลาด 2-1
เป็นประตูที่ 800 ตลอดเส้นทางค้าแข้ง 19 ปีของซูเปอร์สตาร์โปรตุกีสผู้นี้
ปืนเอาคืนทันที โอเดการ์ดซัด 2-2
อาร์เซนอลก็ไม่ยอมง่ายๆ ไล่ตามตีเสมอ 2-2 ได้ทันที จากมาร์ติเนลลี่ คัดแบ็กเข้ากลางให้โอเดการ์ด ซัดไม่ต้องจับลูกวิ่งเสียบโคเสาไกล เด เคอา ตามไปเซฟไม่ทัน
โอบายิงยัดติดเซฟเด เคอา
เกมเปิด โอกาสออกได้ทุกหน้า จังหวะนี้โอบาเมยอง หลุดทางขวายิงยัดดื้อๆ ไม่ผ่านมือเด เคอา
โอเดการ์ดกวาดเฟร็ดทำเสียจุดโทษ
โอเดการ์ด พลาดไปสไลด์กวาดเฟร็ด ทำเสียจุดโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR ยืนยันให้รางวัลกับเจ้าถิ่น
โรนัลโด้สังหารโทษไม่เหลือ 3-2
โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหาร ยิงมันเข้าไปตรงกลางให้แมนฯยูไนเต็ดนำอีกครั้ง 3-2
ปืนลุยแหลกจะตีเสมอให้ได้
เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้าย อาร์เซนอลบุกพยายามตีเสมอเต็มที่ มีโอกาสได้จบสกอร์ แต่เด เคอา ไม่พลาด
อาร์เซนอลพยายามยังไงก็เอาชนะแนวรับแมนฯยูไนเต็ดไม่ได้ จบเกมเจ้าถิ่นเปิดบ้านชนะทัพปืนใหญ่ 3-2 ในเกมสนุกแลกหมัดกันมันส์ มีครบทุกรสชาติ
อาร์เซนอล
Starting Formation: 4-4-1-1
10.
เอมิล สมิธ โรว์
70'
7
14.
ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง
79'
7
8.
มาร์ติน โอเดการ์ด
79'
7
ตัวสำรอง
7.
บูกาโย่ ซาก้า
70'
6
15.
เอนส์ลี่ย์ เมทลันด์-ไนลส์
30.
เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์
79'
6
9.
อเล็กซองเดร ลากาแซตต์
79'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Fri Dec 03, 2021 05:35, ทั้งหมด 19 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ