เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า ขณะนี้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ.อยู่ระหว่างถอดบทเรียนการแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นครู จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชร


ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 2 แห่ง ถือเป็นสหกรณ์ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จะเชิญผู้แทนสหกรณ์ทั้ง 2 แห่ง มาพูดคุย ว่าที่ผ่านมามีการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างไรบ้าง พร้อมกับเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูที่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ ได้วางไว้ ให้ผู้แทนของสหกรณ์พิจารณา และเสนอความคิดเห็น และจะนำข้อเสนอที่ได้รับมาวิเคราะห์ และกำหนดเป็นแนวทางการทำงานแก้ไขปัญหาหนี้สินครูต่อไป


“คาดว่าใช้ระยะเวลาไม่นาน จะสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เสนอให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ ศธ.พิจารณา หากรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เห็นชอบ จะเสนอให้คณะกรรมการกำกับแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนรายย่อย ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.เน้นย้ำให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหานี้สินครูฯ เร่งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา และลดความเดือดร้อนให้ครูโดยเร็ว” นายสุทธิชัย กล่าว


นายสุทธิชัยกล่าวต่อว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จะนำบทเรียนที่ถอดจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั้ง 2 แห่ง มาขยายผลนำร่องแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยจะคัดเลือกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูภาคละ 3 แห่ง รวม 12 แห่ง มาแก้ไขปัญหาหนี้สินครู อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จะเปิดโอกาสให้สหกรณ์ที่สนใจมาเข้าร่วมนำร่องแก้ไขปัญหาหนี้สินครูด้วย

นายสุทธิชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การแก้ปัญหาหนี้สิน จะช่วยครูที่ประสบหนี้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับวิกฤตหนัก กำลังจะโดนฟ้องร้อง จะช่วยไกล่เกลี่ย ส่วนครูที่เป็นหนี้ระดับกลาง และระดับปกติ เบื้องต้นจะช่วยลดดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยเงินกู้ ลดค่าธรรมเนียมการดำเนินการต่างๆ เป็นต้น


สาเหตุที่นำร่องในแก้ปัญหาในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู เพราะจากการสำรวจพบว่า ครูส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่สหกรณ์ออกทรัพย์ครู มากกว่าเป็นหนี้ที่สถาบันการเงินอื่นๆ และจากข้อมูลที่รวบรวมมา พบว่าภาพรวมครูทั่วประเทศ เป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ประมาณ 8-9 แสนล้านบาท


“คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูฯ จะวางแผนช่วยเหลือ และป้องกันครูที่เป็นหนี้ทุกด้าน เช่น หากประสบปัญหาถูกดำเนินคดี หรือฟ้องร้อง จะช่วยเข้าไปไกล่เกลี่ย พร้อมกับประสานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) สร้างหลักสูตรให้ความรู้ด้านการเงิน เพื่อสอนครูที่บรรจุใหม่มีความรู้สามารถบริหารจัดการเงินของตน และลดรายจ่ายสร้างรายได้ให้ตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้” นายสุทธิชัย กล่าว


https://ch3plus.com/news/program/258926

ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

แหม่..................

ผมเคยเห็นข่าวคนโกงสหกรณ์ครูขอนแก่น ตอนนี้เรื่องเป็นไงบ้าง พอมีท่านใดทราบไหมครับ

เงินเดือนก็ไม่ใช่น้อย ย้อนแย้งเหลือเกิน

ไม่ติดเยอะก็แปลกแล้ว
1.เป็นอาชีพที่กู้ง่ายมาก
2.เงินเดือนเริ่มต้นน้อย แต่บ้านก็อยากมี รถก็อยากได้
บางคนมันอาจจำเป็น ครูผู้หญิงจะให้ขี่มอไซด์ไปทำงานก็ดูไม่ปลอดภัย แต่ก็มีบางคนหน้าใหญ่ ข้าเป็นครู รถต้องคันละล้าน บ้านต้องสองชั้น ไม่งั้นอายชาวบ้าน กู้ไปเรื่อยๆ เกษียณแล้ว ยังเหลือผ่อนอีกบาน

แก้ที่สันดานก่อน

สาเหตุเดียวกับติดหนี้บัตนเครดิต

วิธีที่แก้ดีที่สุดคืออย่ายอมให้กู้ง่ายๆครับ แล้วอย่าให้กู้เงินจนมันทะลุเพดานที่เค้าใช้หนี้ได้

กู้ได้เยอะก็เป็นหนี้เยอะแหละ ปกติของคนเครดิตดี

จากที่ผมเป็นครูอยู่ ไม่กู้ไม่ได้ครับ เพราะรถยนต์จำเป็นมาก ไปเขตที 40 กิโล พานักเรียนไปแข่งซ้อนมอเตอร์ไซค์อันตราย บางคนบรรจุไกลบ้าน บ้านพักครูเต็มก็ต้องเช่าอยู่ ถามว่าทำไมไม่ย้ายกลับ ผมเขียนย้ายมา 5 ปีแล้ว ตกตลอดครับ อาชีพครูทำทุกอย่างไม่เฉพาะสอนความรับผิดชอบสูงมากครับ

จากที่มาสัมผัสในวงการนี้
พ่อแม่ผมก็เป็นข้าราชการครู
ส่วนตัวผม มารับราชการครู แต่ เป็นอาชีพจริงๆคือรับจ้างพ่อแม่รับราชการ 555

เหมือนจบมาแล้วเห็นคนอื่นมีของพวกนี้แล้วเก็บกด มาตั้งแต่สมัยเรียน
ครบ 1 ปีปุ๊บ ธนาคารกรุงไทยมาถึงที่ทำงานเลย

กู้
- 1.5 ล้าน ให้คน(ตำแหน่งข้าราชการครู)ค้ำประกัน 1 คน
- 1.8 ล้าน ใช้ 2 คนค้ำประกัน
หลักการจะสลับกันค้ำ แล้วกลุ่มนี้จะเหมือนกับนับวันรอเลยว่าครบ 1 ปีเมื่อไหร่กูจัดทันที จัดแน่นๆเต็มวงเงิน

เพื่อนที่ทำงานผม ก่อนแรกมาซื้อ Honda City ชุดโฮมเธียเตอร์ ติดแอร์ห้องพัก Samsung Note 20 แล้วก็ตามด้วยเครื่องสำอางค์ราคาแพงจำนวนมาก

ใช้ Samsung ได้อยู่ 10 เดือน ตอนนั้นมือถือ iPhone 13 Pro Max ออก อีก 2 เดือนจะได้ลดค่าเครื่องของ iPhone เกือบหมื่น โปรโมชั่นของดีแทค เดือนละ 1,400 บาท สิ่งที่เขาทำคือ "ฉันมีเงิน ฉันอยากได้วันนี้" ในขณะที่พวกผมช่วยกันห้าม ไม่ฟัง เขาก็รูดบัตรซื้อ iPhone 3 promax ในวันนั้นทันทีในราคาเต็ม แล้วก็ถือมือถือเรือธง 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน

ผ่านไปครึ่งปีเงินที่กู้มา 1.5 ล้าน หมดแล้ว มาคุยกับผมว่าขยายเพดานหนี้ อยากกู้เพิ่ม (แอบเหมือนลุงบางคนนะ) เป็น 1.8 ล้าน แล้วจะมาให้ผมเซ็นค้ำประกัน

ผมเลยว่า "เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาแค่แก้ผ้ามาหาเฮีย" เข้ แม่งจะทำจริง

ต้องแก้ตั้งแต่ ต้นเลย

แก้ที่ว่า อาชีพครู คืออาชีพที่สำคัญ อาชีพนึงสำหรับประเทศชาติ

ไม่ใช่ อะไรก็หมอ หมอ ที่เป็นอาชีพที่น่ายกย่อง

การช่วยคนใช่ครับมันน่ายกย่องอยุ่แล้ว แต่การสร้างคนมันก็น่ายกย่องไม่แพ้กัน และทุกๆอาชีพ มันมีความสำคัญในตัวมัน

นักวิทย์ เคมี อะไรต่างๆ ก็ช่วยคิดค้นอะไรต่างๆ ให้ชาติพัฒนาได้

เกษตรกรคุณภาพ ก็ช่วยให้เรามีอาหารดีๆกิน ทำให้สมองและร่างกาย พัฒนาได้

อาชีพครู ต้องให้ความสำคัญ และระบบการเข้าเป็นครูต้องเป็นระบบการที่เข้มข้น และเอาคนที่เก่งจริงๆ เพราะมันเป็นการพัฒนาคน ต้องเอาไปสอนคนอื่น

และที่สำคัญค่าตอบแทนมันต้องเหมาะสม เพราะคือการสร้างคน สร้างความเจริญ

มันเป็นปกติ ที่คนรุ่นหลังมันจะเก่งกว่าคนรุ่นเก่าๆ เพราะมันได้คนรุ่นเก่านำสิ่งมาสอนต่อ ถ่ายทอดต่อ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ตั้งแต่แรก และทำให้รุ่นหลังมีเวลาไปต่อยอด

ระบบการเข้าเป็นครู ระบบการสร้างบุคลากร ค่าตอบแทนที่เหมาะสม เกรียติและความน่าเคารพ

มาแก้แต่ปลายเหตุ ต้องเสียงบไปเรื่อย และมันก็ทำไรไม่ได้ เพราะต้นทางมันไม่ดี ระหว่างทางเจอสิ่งแย่ๆ อีก แล้วสุดท้ายมันจะเหลือดีสักเท่าไหร่กัน

เหมือนเด็กน้อย ที่คนเปรียบเป็นผ้าขาว โตขึ้นนานวัน ก็ย่อมโดนสี โดนอะไร จนผ้าไม่ขาว

คุณครูก็เหมือนกัน ถ้าเอาแบบผ้าเปื้อนสีเยอะมาก หรือเอาผ้าขาดๆ มา แล้วพยายามจะฟอก พยายามจะทำให้มันกลับไปขาว มันยากอยุ่แล้ว แล้วระหว่างทางต้องเจอกับสีต่างๆมากมายอีก คนที่โดนสีมาอยู่แล้ว มันก็ไม่ลีกเลี่ยงอยุ่แล้ว เพราะฉันชินแล้ว สุดท้ายก็หนักกว่าเดิม

ถ้าครูยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับการเงินส่วนบุคคลยังไง อย่าหวังว่านักเรียน(ส่วนใหญ่)จะจัดการเป็น

ล่าสุดมีเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่งทักมาขอความช่วยเหลือผม ผมไม่ได้ให้เงิน (จริงๆกะจะให้ แค่ยังไม่ถึงเวลา) แต่ผมให้ดูคลิปวิดีโอของโค้ชหนุ่มไปสามคลิป เผื่อจะคิดได้ก่อนมีเงินช่วยเหลือ ผมถามไปหลังจากส่งคลิปให้ดูว่าดูจบแล้วรึยัง (ใจจริงคือจะสอนก่อนให้เงิน) แต่ดันไม่ตอบ ผมก็คิดว่าคงไม่ให้เงินเขาแน่ๆ เพราะถ้าให้ไปก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแน่ๆ แถมจะเป็นภาระให้ตัวผมเองด้วย

ผมคิดว่าหลักการเดียวกันควรใช้แก้ปัญหาหนี้สิน สำคัญคือความรู้และวินัยไม่ใช่แหล่งเงินลงทุน (หรือแหล่งหนี้)

ถามพนักงานธนาคารเขาบอกถ้าพวกจะเกษียณละมาขอกู้ส่วนมากจะเป็นลักษณะผ่อนยาวๆ(บางทีไม่จ่ายด้วยตามหนี้โคตรยาก ไม่มีไม่หนีไม่จ่ายด้านๆกันไป)กะว่าตัวตายแล้วไม่ต้องใช้หนี้ สุดท้ายเป็นหนี้เสียกันไป
เรื่องนี้บางทีต้องโทษธนาคารด้วยที่กะจะทำยอดอย่างเดียว สุดท้ายรับหนี้เสียซะเอง