BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1158
ที่อยู่: Hat yai สภาทนายความภาค9
โพสเมื่อ: Tue Aug 31, 2021 12:28
จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3
ในตอนแรกที่ผมเขียน Part1จบตอนนั้นคิดว่ามันยาวเกินไป พอทำต่อPart2 กะจะทำให้ความยาวน้อยลงแต่ข้อมูลมันเยอะเกินทำให้ยาวกว่าเดิม Partนี้ผมกะจะทำแค่2ตัวละครก็พอ แต่ลงมือจริงแล้วแค่ตัวละครเดียวก็เยอะมากๆแล้วดังนั้นพาร์ทนี้จึงลงได้แค่คนเดียวเท่านั้น
ส่วนนี้เป็นข้อมูลของพาร์ท1และ2 สามารถไปอ่านย้อนหลังได้ตามนี้ครับ

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1988786 Part 1

http://www.soccersuck.com/boards/topic/2033946 Part 2

กรุณาเปิดเพลงนี้ไปด้วยจะทำให้เพิ่มอรรถรสในการรับชมเพิ่มขึ้น



อ้อเช่นเคยการจัดอันดับจะไม่มีพวกเทพทรูอย่าง คางูยะ,ฮาโกโรโมะ,ฮามูระ,อินดราและอาชูร่านะครับ

4.อุจิวะ โอบิโตะ



อุจิวะ โอบิโตะ เป็นหนึ่งในนินจาที่มาจากตระกูลที่เลื่องชื่ออย่างตระกูลอุจิวะ โดยโอบิโตะนั้นกำพร้าพ่อแม่และอาศัยอยู่กับยายตั้งแต่เด็ก แม้จะอยู่ในตระกูลชั้นนำของโลกนินจา แต่โอบิโตะนั้นความสามารถอยู่ในระดับธรรมดา ตอนที่เรียนอยู่ที่อคาเดมี่นั้นโอบิโตะนั้นมีเพื่อนสนิทอย่าง โนฮาระ รินและมีคนที่เขามองว่าเป็นคู่แข่งนั่นก็คือ ฮาตาเกะ คาคาชิ(ก็เทพเกินหน้าเกินคนในรุ่นอะเนาะ555)







นอกจากสองคนที่กล่าวถึงไปแล้ว นินจาที่มีชื่อเสียงที่อยู่รุ่นเดียวกันกับโอบิโตะได้แก่ ไมโตะ ไก,ชิรานุอิ เก็นมะ,เก็กโค ฮายาเตะ,มิตาราชิ อังโกะ,ซารุโทบิ อาซึมะ,ไรโด นามิอาชิ,ชึสึเนะและคุเรไน โอโตยะเอ้ย ยูฮิ คุเรไนคร่าวๆก็มีประมาณนี้



หลังจากที่จบการศึกษาจากอคาเดมี่ไปแล้ว โอบิโตะได้อยู่ทีมเดียวกันกับเพื่อนสนิทอย่างรินและคู่แข่งคาคาชิโดยมีโจนินประกลุ่มอย่าง นามิคาเสะ มินาโตะเป็นหัวหน้าทีม



ซึ่งภารกิจแรกคือการแย่งกระดิ่งในตำนานเพื่อสอนการทำงานเป็นทีม(อีกแล้ว)





หลังจากฟอร์มกันได้พักนึงทีม7ของมินาโตะได้นำทีมทำภารกิจต่างๆ จนมาถึงช่วงที่เปิดสอบจูนิน ทีมของมินาโตะส่งลูกทีมเข้าสอบทั้งหมด ซึ่งทางด้านโอบิโตะได้แพ้ไกไปในรอบสู้ตัวต่อตัวส่วนคาคาชินั้นเอาชนะไกไปได้และสามารถเป็นจูนินได้สำเร็จ







จนรินปลื้มคาคาชิเป็นอย่างมากทำให้โอบิโตะหมั่นไส้คาคาชิเพิ่มขึ้นไปอีก และพยายามฝึกฝนอย่างเพื่อจะเป็นจูนินให้ได้






ด้วยความพยายามโอบิโตะได้เป็นจูนินจนได้แต่อนิจจาตอนนั้นคาคาชิดันได้เป็นโจนินไปแล้ว ซึ่งคาคาชิได้รับของขวัญจากมินาโตะและริน ต่อมาได้เกิดสงครามโลกนินจาครั้งที่3ขึ้น ทีมมินาโตะได้รับภารกิจในการช่วยเหลือหมู่บ้านคุสะงาคุเระในการปกป้องสะพานคันนาบิจากนินจาอิวะ







ซึ่งในเหตุการณ์นี้รินได้ถูกจับเป็นตัวประกันซึ่งตัวคาคาชิมองว่าเป็นแผนล่อเหยื่อของศัตรูที่จะคอยซุ่มโจมตีและมองภารกิจมาเป็นอันดับหนึ่ง(เพราะปมฝังใจในเรื่องของพ่อที่ยอมทิ้งภารกิจเพื่อช่วยเพื่อน ทำให้ภารกิจนั้นล้มเหลวซึ่งภายหลังพ่อของคาคาชิ(ซาคุโมะ)นั้นโดนเพื่อนที่ตัวเองช่วยมากดดันและต่อว่าที่เขาละทิ้งภารกิจ จนเป็นสาเหตุให้ซาคุโมะฆ่าตัวตาย)แต่ทางโอบิโตะนั้นเลือกที่จะไปช่วยริน พร้อมทิ้งวลีเด็ดในตำนานที่โอบิโตะส่งต่อให้คาคาชิก่อนที่จะไปถึงนารูโตะในอนาคตคือ
ในโลกของนินจาผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจะถูกเรียกว่าเศษสวะ แต่คนที่ไม่เคยเห็นความสัมคัญของเพื่อนนั้นเป็นยิ่งกว่าเศษสวะซะอีก

ในระหว่างที่บุกไปช่วยรินก็เจอซ้ำที่นินจาอิวะใช้หลบภัย และตามคาดนินจาอิวะดักซุ่มอยู่จริงๆทำให้ต้องต่อสู้กับไทเซกินินจาจากอิวะซึ่งโอบิโตะกำลังจะพลาดท่า แต่ก็ได้คาคาชิวกกลับมาช่วยไว้ได้ทันแต่ต้องแลกกับดวงตาข้างซ้ายของคาคาชิไป หลังจากที่เห็นเพื่อนโดนกระทำสัญชาตญาณในตัวโอบิโตะที่อยากปกป้องเพื่อนทำให้เขาสามารถเบิกเนตรวงแหวนได้สำเร็จ ทำให้ความสามารถในการต่อสู้สูงขึ้นและสังหารไทเซกิลงได้ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้เข้าไปช่วยรินในถ้ำนินจาอิวะอีกคน(ผู้ใช้คาถาสร้างถ้ำดิน)รับรู้การบุกเข้ามาในถ้าจึงใช้คาถาทำลายถ้ำนั้นลง







คาคาชิที่พึ่งเสียตาไปกำลังจะโดนหินทับจากจุดบอดที่ตาซ้าย โอบิโตะจึงเอาตัวเข้าไปรับแทนคาคาชิทำให้ร่างกายซีกขวาทั้งหมดโดนทับ โอบิโตะที่รู้ตัวว่าสังขารไม่ไหวเลยขอให้รินปลูกถ่ายเนตรข้างซ้ายของเขาให้แก่คาคาชิเพื่อเป็นของขวัญที่ได้เป็นโจนิน คาคาชิที่ได้เนตรใหม่มาก็สามารถจัดการนินจาจากอิวะคนนั้นลงได้ จากนั้นกำลังเสริมของนินจาอิวะก็มาถึงทำให้รินและคาคาชิต้องถอยออกไปก่อน จนในที่สุดมินาโตะที่กลับมาจากศึก1ปะทะ1,000ก็ได้มาถึงที่เกิดเหตุแม้จะช่วยลูกศิษย์ไว้ได้2คน แต่มันก็สายเกินไปสำหรับโอบิโตะ(ตอนนั้นทุกคนคิดว่าตาย)และชื่อของโอบิโตะได้ถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในวีรบุรุษสงครามครั้งนั้น












ต่อมาโอบิโตะที่ทุกคนคิดว่าตายในสงครามแล้วกับรอดชีวิตจากความช่วยเหลือจากมาดาระ(ในวัยชรา)ที่ส่งเซ็ตสึขาวมาช่วยเหลือโอบิโตะ โดยนำตัวโอบิโตะไปปลูกถ่ายเซลล์ของฮาชิรามะ ไว้ที่ร่างกายซีกขวาที่ได้รับความเสียหายยกเว้นดวงตาข้างขวาที่ไม่เป็นอะไร ในตอนแรกนั้นตัวโอบิโตะรู้สึกหวาดกลัวชายแก่ตรงหน้าอย่างมาดาระ แต่ถึงอย่างนั้นชายคนนี้คือคนที่ช่วยโอบิโตะเอาไว้ซึ่งโอบิโตะก็พร้อมตอบแทนอย่างแน่นอน จากนั้นโอบิโตะพยายามฟื้นฟูและฝึกฝนร่างกายที่ได้รับมาใหม่ให้คุ้นเคยเพื่อที่จะกลับไปหาพวกพ้อง ซึ่งในช่วงพักฟื้นมาดาระพยายามเป่าหูโอบิโตะเกี่ยวกับความโหดร้ายของโลกนินจา รวมไปถึงบอกแผนการในอนาคตของมาดาระอย่างอ่านจันทรานิรันด์ที่จะทำให้โลกทั้งใบอยู่อย่างสงบสุข แต่โอบิโตะก็ไม่ได้สนใจ







จากนั้นเซ็ตสึขาวมาแจ้งข่าวเกี่ยวกับคาคาชิและรินกำลังสู้กับนินจาจากคิรงาคุเระ แต่ด้วยสภาพของเขาในตอนนี้ถึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อุรุอุรุ(โทบิสีขาว)เลยยื่นข้อเสนอให้ผสานร่างกับเขาและออกไปช่วยพวกพ้อง






เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุภาพที่โอบิโตะเห็นคือคาคาชิใช้พันปักษาแทงทะลุร่างกายของริน ด้วยเหตุนี้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุพผาของโอบิโตะและคาคาชิก็ตื่นขึ้น แต่คาคาชิไม่ใช่คนของอุจิวะจึงสลบไป ส่วนโอบิโตะเมื่อรินตายก็เขาไปสวมกอดรินไว้ จากนั้นโอบิโตะที่ได้ทั้งวิชาเนตรใหม่(คามุย)รวมไปถึงวิชาไม้จากโทบิ(เป็นเซลล์ของรุ่นที่1)














โอบิโตะที่บ้าคลั่งก็ไล่สังหารนินจาจากคิริจนหมด หลังจากนั้นโอบิโตะก็กลับไปหามาดาระเพื่อรับฟังแผนการณ์ของมาดาระ มาดาระจึงส่งต่อแผนการณ์ทั้งหมดให้โอบิโตะสานต่อ เมื่อมีผู้สืบทอดเจตนารมณ์แล้วมาดาระในวัยชราจึงปลดสายที่เชื่อต่อกับเทวรูปมารนอกรีตและก่อนที่จะตายเขาได้บอกให้โอบิโตะใช้ชื่อของอุจิวะ มาดาระจนกว่าเขาจะกลับมา







โอบิโตะได้เริ่มต้นแผนการในทันทีด้วยการเดินทางไปยังหมู่บ้านอาเมะงาคุเระเพื่อตามหานางาโตะผู้ที่มีเนตรสังสาระ ในการชักชวนครั้งนี้ข้อเสนอของโอบิโตะในนามของมาดาระถูกปัดตกไปโดยยาฮิโกะ แม้จะโดนปฎิเสธไปในครั้งแรกแต่ลึกๆแล้วโทบิก็ยังเชื่อว่านางาโตะจะต้องกลับมาหาเขาแน่นอน (หลังจากนี้ผมจะใช้ชื่อโทบิมากกว่าโอบิโตะเพื่อไม่ให้งงในไทม์ไลน์)เพราะตัวโทบิรับรู้ถึงปัญหาภายในของแคว้นอาเมะงาคุเระโดยผู้นำอย่างฮันโซที่ต้องการกำจัดกลุ่มแสงอุษานั้นยังได้หน่วยรากของดันโซมาช่วยด้วย และเกิดเหตุการณ์ที่ยาฮิโกะต้องตาย(จุดนี้ผมเล่าในประวัติของนางาโตะไปแล้ว)





เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นโทบิจึงได้ไปขัดขวางกลุ่มแสงอุษาที่พยายามจะไปช่วยผู้นำของเขา หลังจากการตายของยาฮิโกะนางาโตะก็ได้เดินทางมาหาโทบิตามที่คาดไว้ และได้ยกให้นางาโตะขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มส่วนเขาจะคอยดูอยู่เบื้องหลังแทน






ต่อมาโทบิได้ลักลอบไปที่หมู่บ้านคิริงาคุเระ ได้ใช้วิชาเนตรสะกดมิซึคาเงะรุ่น3ไว้ด้วยซึ่งช่วงที่โทบิควบคุมมิซึคาเงะไว้นั้นหมู่บ้านคิริงาคุเระได้ฉายาว่าหมู่บ้านหมอกสีเลือด และช่วงที่อยู่หมู่บ้านคิริงาคุเระโทบิจึงได้รับรู้ถึงสาเหตุที่รินต้องตายเพราะเอาตัวเองไปรับพันปักษาของคาคาชิเพราะไม่ต้องการให้หมู่บ้านคิริใช้ตนเองเองเป็นเครื่องมือในการจัดการโคโนฮะ นอกจากนี้โทบิยังได้สมาชิกคนสำคัญเข้ามาในองกรค์อย่าง โฮชิงากิ คิซาเมะโดยที่โทบิยอมเปิดหน้ากากและอ้างว่าเขาคือ อุจิวะ มาดาระ และโทบิก็ได้อาศัยหมู่ในหมู่บ้านอยู่พักนึงก่อนที่จะโดนจับได้โดยอาโอโทบิจึงล่าถอยและออกจากหมู่บ้านคิริงาคุเระ




(จุดนี้อธิบายถึงความเก่งของโทบิได้พอสมควรที่สามารถสะกดพลังสถิตร่าง3หางที่ตัวพลังสถิตร่างควบคุมสัตว์หางได้ เพราะขนาดอิทาจิที่มากับ บิวะ จูโซยังต้องแลกด้วยชีวิตและตัวอิทาจิเองถ้าไม่ได้เทวีสุริยาก็เกือบเอาตัวไม่รอดเช่นกัน)



เมื่อได้รับรู้ถึงความจริงของรินที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องหมู่บ้านโอบิโตะจึงได้เดินทางไปที่หลุมศพของรินซึ่งตอนนั้นคาคาชิก็มาเยี่ยมรินเช่นกัน ซึ่งตัวคาคาชิยังได้กล่าวต่อหน้าหลุมศพของรินเรื่องที่จะต้องไปปกป้องคุชินะที่กำลังจะคลอดเพราะพลังสถิตร่างจะอ่อนแอที่สุดในตอนที่จะคลอดลูก โทบิจึงคิดจะใช้ช่วงนี้เป็นโอกาสในการปลดผนึกเก้าหางและสร้างความปั่นป่วนในหมู่บ้าน ซึ่งตัวเขาก็สามารถทำได้โดยการสังหารองครักษ์ที่คอยเฝ้าคุชินะทั้งหมด ก่อนจะนำตัวคุชินะมาเพื่อปลดปล่อยเก้าหางและใช้เนตรวงแหวนสะกดเห้าหางให้ทำลายหมู่บ้าน ในช่วงแรกแผนการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นก่อนที่จะโดนขัดขวางโดยมินาโตะทำให้โทบิต้องล่าถอยไป แม้โทบิจะต้องล่าถอยออกไปก็จริงแต่เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นชนวนที่จะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตเพราะถึงแม้จะระงับตัวโทบิไว้ได้แต่ทางโคโนฮะก็ต้องสูญเสียโฮคาเงะรุ่นที่4และอุซึมากิ คุชินะซึ่งเป็นภรรยาไป รวมไปถึงผู้นำระดับสูงของหมู่บ้านไม่ไว้ใจตระกูลจิวะอีกต่อไปเพราะคิดว่าอุจิวะมีส่วนไม่มากก็น้อยในเหตุการณ์นี้













หลังจากเหตุการจิ้งจอกเก้าหางทำให้ผู้นำระดับสูงของโคโนฮะกับฝ่ายตระกูลอุจิวะเริ่มมีรอยร้าวขึ้นตามที่ได้กล่าวไป โทบิก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปโทบิได้แอบติดต่อกับทางฝั่งระดับสูงอย่างดันโซและอีกทางนึงก็ได้ติดต่อกับอุจิวะ ยาชิโระผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีที่คอยเป่าหู ฟูงาคุให้ทำรัฐประหาร ต่อมาการแอบเข้าติดต่อกับคนในหมู่บ้านโดนจับได้โดยอุจิวะ อิทาจิ อิทาจิจึงเสนอให้โทบิร่วมมือกับตนในการสังหารตระกูลอุจิวะ เพราะอิทาจิเข้าใจว่าโทบิคือมาดาระเลยอาศัยจุดนี้และคิดว่ามาดาระที่เคยบาดหมางกับตระกูลในอดีตจะช่วยเขาแน่นอน ในการลงมือครั้งนี้นั้นโทบิอาสาจัดการกับผู้หญิงและเด็กเพื่อป้องกันการกรีดร้องเพราะความสามารถของโทบิเหมาะสมในการจัดการมากกว่า ส่วนอีกสาเหตุคือโทบิไม่ต้องการให้อิทาจิแบกรับความเจ็บปวดมากจนเกินไป และเมื่อจบภารกิจสังหารตระกูลอุจิวะทำให้อิทาจิตกเป็นนินจาอาชญกรรมระดับ S โทบิจึงได้พาอิทาจิเข้ากลุ่มแสงอุษาไป







จากนั้นโทบิก็ไม่ได้แสดงตัวออกมาหลบอยู่ในเงาเพื่อบงการจากความมืด จนกระทั่งการตายของซาโซริทำให้กลุ่มแสงอุษามีที่ว่างโทบิในฐานะเด็กฝึกหัดและได้จับคู่กับเดอิดาระ โดยสัตว์หางตัวแรกที่โทบิกับเดอิดาระต้องไปจัดการคือสามหางในระหว่างจัดการกับสัตว์หางได้มีการปะทะกับนินจาโคโนฮะด้วยแต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถจับสามหางมาได้ ต่อมาระหว่างประชุมเพนหัวหน้ากลุ่มแสงอุษาว่าโอโรจิมารุอดีตสมาชิกขององกรค์แสงอุษา ทำให้เดอิดาระแค้นเพราะเขาต้องการสังหารโอโรจิมารุด้วยฝีมือตนเอง พอผนึกสัตว์หางและประชุมเสร็จเดอิอาระกำลังคิดว่าจะจัดการกับใครก่อนระหว่างพลังสถิตร่างเก้าหางอย่างนารูโตะหรือ อุจิวะ ซาซึเกะที่สังหารโอโรจิมารุ ในที่สุดโทบิกับเดอิดาระก็เจอซาสึเกะจนได้ในตอนแรกมีการคุยกันเล็กน้อยเรื่องอิทาจิเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่พอใจก็ต้องเกิดการต่อสู้ โดยตัวซาสึเกะนั้นใช้ความเร็วสูงมาฟันตัวโทบิขาดครึ่งแต่เขาใจวิชามิติเวลาเอาตัวรอดมาได้ ส่วนการต่อสู้ของเดอิดาระกับซาสึเกะจบลงด้วยการระเบิดพลีชีพของเดอิดาระทำให้แสงอุษาต้องเสียสมาชิกไปอีกหนึ่งส่วนตัวซาสึเกะเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิด แต่การเดอิดาระใช้คาถาเพื่อระเบิดตัวเองตายคนในองกรค์ก็นึกว่าโทบิก็จบชีวิตไปด้วยเช่นกัน อื้ม





















โทบิที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วได้มาคุยกับเพนและโคนันในเรื่องของสัตว์หาง ซาสึเกะ อิทาจิ และแล้วการต่อสู้ระหว่างสองพี่น้องตระกูลอุจิวะก็มาถึงโดยตัวโทบินั้นออกไปขัดขวางนินจาโคโนฮะเพื่อไม่ให้เกะกะในการต่อสู้ของสองพี่น้อง ในตอนแรกโทบิแกล้งทำตัวปัญญาอ่อนแต่ถึงอย่างนั้นนินจาจากโคโนฮะก็ไม่สามารถจัดการเขาได้ จนกระทั่งการมาของเซ็ตสึที่มาแจ้งว่าอุจิวะ อิทาจิตายแล้ว ซึ่งคนที่ลงมือสังหารคือ อุจิวะ ซาสึเกะเมื่อได้ยินคำตอบโทบิจึงแสดงเนตรวงแหวนออกมาให้นินจาโคโนฮะเห็น




จากนั้นโทบิใช้วิชามิติเวลาไปหาซาสึเกะเพื่อที่จะดึงตัวซาสึเกะมาเป็นพวกพร้อมกับแนะนำตัวว่าเขาคืออุจิวะ มาดาระ พร้อมกับแสดงเนตรวงแหวนเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือคนในตระกูลอุจิวะจริง แต่เมื่อแสดงเนตรให้ซาสึเกะดูกลไกของเนตรที่อิทาจิวางไว้ใช้เทวีสุริยาเผาจนโทบิเกือบไม่รอด โทบิถึงกับออกปากชมว่าขนาดตายไปแล้วยังสร้างปัญหาให้อีก จากนั้นเขาก็ได้เล่าถึงประวัติของตระกูลการต่อสู้ของเซ็นจูและอุจิวะ เหตุการณ์จิ้งจอกเก้หางถล่มหมู่บ้านและที่สำคัญที่สุดคือความจริงของอิทาจิ ในช่วงแรกซาสึเกะก็ไม่ค่อยเชื่อโทบิแต่เมื่อพิจารณาแล้วก็มีความเป็นไปได้ ทำให้ซาสึเกะเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อต้องการถล่มโคโนฮะ(จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกะเบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุพผาได้) เมื่อเป็นไปตามแผนโทบิได้ออกไปทำภารกิจต่อโดยกับไปได้บอกเกะว่าเขาได้เก็บเนตรของอิทาจิไว้เพื่อเบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุพผานิรันด์



หลังจากการตายของอิทาจิทำให้สัญญาที่จะไม่โจมตีโคโนฮะเป็นอันสิ้นสุด โทบิจึงได้ไปหาเพนเพื่อให้ดำเนินการบุกถล่มหมู่บ้านโคโนฮะได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถจับตัวเก้าหางได้ ถึงจะไม่พอใจที่จับเก้าหางไม่ได้แต่สิ่งที่โกรธยิ่งกว่าคือเพนหรือนางาโตะได้ใช้คาถา รินเนะท็นเซนย์ฟื้นคืนชีพให้คนในหมู่บ้านโคโนฮะสาเหตุนี้โทบิจึงสนใจในตัวนารูโตะมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนทางด้านซาสึเกะนั้นโทบิมอบหมายให้ซาสึเกะและทีมเหยี่ยวไปจัดการกับแปดหางในที่สุดก็สามารถจับแปดหางได้พร้อมกับส่งตัวให้องค์กร แต่เมื่อนำมาผนึกกลับเป็นแค่หางของ8หางเท่านั้นแต่ก็ต้องผนึกไปก่อน จากนั้นโทบิได้ข่าวว่าดันโซได้ขึ้นเป็นโฮคาเงะและมีการประชุม5คาเงะ เขาจึงคิดจะวางแผนป่วนการประชุม










โทบิจึงไปเบรคซาสึเกะที่กำลังไปหมู่บ้านโคโนฮะ ว่าโคโนโฮะนั้นโดนถล่มราบคาบไปแล้ว พร้อมทั้งบอกว่าดันโซหนึ่งในระดับสูงของหมู่บ้านก็มาด้วยในฐานะโฮคาเงะ ทำให้ซาสึเกะจึงเบนเข็มมุ่งไปยังแคว้นเหล็กของเหล่าซามูไร ซึ่งเป็นไปตามของโทบิที่ต้องการให้เกะเข้าสู่ด้านมืดเต็มตัว ในการเดินทางจะมีเซ็ตสึเป็นผู้นำทางด้วย(ซึ่งโทบิได้แอบบอกแผนกับเซ็ตสึอีกทีนึงว่าให้ปรากฏตัวออกมาโดยที่เกะและพวกไม่รู้)ส่วนโทบินั้นมีธุระกับนารูโตะเพราะอยากรู้ว่านารูโตะทำอะไรจึงทำให้เพนเปลี่ยนใจได้ ระหว่างเสวนายามาโตะได้คาถาไม้เพื่อสกัดการหลบหนีรวมไปถึงคาคาชิที่พร้อมใช้พันปักษาจ่อคอยหอยโทบิไว้ โทบิแต่โทบิก็ได้บอกว่าเขาแค่มาคุยเท่านั้นทั้งเรื่องโตะกล่อมเพน ซาสึเกะเข้าด้านมืด ความจริงของอิทาจิ ตำนานเซียน6วิถีเนตรสังสาระ และประกาศจะสงคราม เพื่อแผนการอย่างอ่านจันทรานิรันด์พอหมดธุระโทบิก็ใช้วิชามิติเวลาล่าถอยไป








โดยโทบิได้ไปช่วยซาสึเกะที่กำลังแย่ใการต่อสู้กับเหล่าคาเงะ จึงได้ใช้วิชาคามุยพาซาสึเกะเข้าไปมิติรวมถึงให้คารินเข้าไปเพื่อรักษาซาสึเกะไปในตัวด้วย จากนั้นโทบิก็เริ่มสนทนากับเหล่าคาเงะทั้งหลาย ในตอนแรกคุยกันเรื่องของเซียน6วิถี ต่อมาก็บอกเป้าหมายของแสงอุษาว่าทำไมต้องล่าสัตว์หาง เพราะเป็นแผนการที่เขาวางไว้อย่างเนตรจันทรา ซึ่งแผนการนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผนึกสัตว์หางครบทั้ง9 ดังนั้นโทบิขอให้เหล่าคาเงะส่งตัวแปดหางและเก้าหางให้เขา แน่นอนคำตอบคือไม่ เมื่อได้คำตอบโทบิจึงประกาศสงครามโลกนินจาครั้ง4ในทันที








เมื่อประกาศสงครามเสร็จโทบิได้พาซาสึเกะออกไปขวางดันโซที่ฉวยโอกาสหนีไปตอนซาสึเกะสู้กับเหล่าคาเงะ ในช่วงแรกระหว่างที่ซาสึเกะกำลังพักฟื้นในมิติและดันโซกำลังปลดผนึกแขนขวา ยามานากะ ฟูและอาบูราเมะ โทรูเนะผู้ติดตามของดันโซได้เข้าปะทะกับโทบิก่อน ซึ่งการต่อสู้ในครั้งทำให้โทบิต้องเสียแขนไปข้างนึงเพราะโดนพิษของเซลล์แมลงระดับนาโนทำให้โทบิต้องเอาแขนนั้นอกเพื่อไม่ให้ลุกลามเพิ่ม แต่ทางฝั่งฟูและโทรูเนะถูกโอบิโตะดูดเข้าไปในมิติคามุย เมื่อเหลือแค่ดันโซโทบิจึงได้วาร์ปซาสึเกะกับคารินเพื่อออกจัดการกับดันโซ การต่อสู้ของดันโซและซาสึเกะโครตดุเดือด จนในที่สุดซาสึเกะก็สามารถเอาชนะได้โดยการที่แทงคารินทะลุไปถึงดันโซ(คารินโดนจับเป็นตัวประกัน)เมื่อรู้ผลโทบิเข้าไปหาดันโซเพื่อเอาเนตรของชิซุยแต่ทางดันโซนั้นก็ได้ใช้ผนึก4วิถีย้อนกลับเพื่อทำลายตัวเองและต้องการพาโทบิและซาสึเกะตายตามเขาไปด้วย แต่โทบิและเกะสามารถเอาตัวรอดได้ โทบิให้เกะพักฟื้นไปก่อนส่วนเขาก็นำตัวดันโซไปเก็บเพื่อเช็คเนตรชิซุยอีกทีแต่มันโดนทำลายไปแล้ว จากนั้นเซ็ตสึได้มารายว่าซาสึเกะได้สู้กับพวกคาคาชิและนารูโตะเขาจึงได้วาร์ปมาหาและพาตัวซาสึเกะไป






























จากนั้นโทบิได้นำซาสึเกะมาปลูกถ่ายเนตรของอิทาจิให้ซาสึเกะ ส่วนตัวเขานั้นกำลังจะเดินทางไปยังอาเมะงาคุเระแต่โดนคาบูโตะมาขอเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกันโทบิปฏืเสธในทันทีก่อนที่คาบูโตะจะใช้คาถาสัมภเวสีคืนชีพเรียกอดีตนินจาของแสงอุษาทุกคนออกมาให้โทบิเห็นและสามารถใช้เป็นกำลังรบได้โดยข้อเสนอคือตัวอุจิวะ ซาสึเกะ แต่โทบิก็บอกปัดไปอยู่ดีจนกระทั่งคาบูโตะต้องงัดไม้เด็ดอย่าง อุจิวะ มาดาระออกมาทำให้เขาจำยอมรับข้อเสนอนี้ส่วนเรื่องซาสึเกะนั้นขอให้เรื่องนี้ค่อยจัดการตอนจบสงคราม จากนั้นโทบิก็ได้เดินทางไปยังอาเมะงาคุเระ โดยก่อนจะไปนั้นก็ได้รับข้อมูลจากคิซาเมะถึงที่อยู่ของบีและนารูโตะซึ่งคาบูโตะอาสาไปจัดการเรื่องนี้เอง





เมื่อมาถึงอาเมะงาคุเงะโทบิก็ได้เจอกับโคนันพร้อมทั้งทั้ง2คนได้สนทนาเกี่ยวกับตัวนางาโตะและนารูโตะ จากนั้นโทบิจึงได้ถามถึงที่อยู่ของศพเพนแต่ตัวโคนันไม่ยอมบอกโทบิทำให้เกิดการต่อสู้กัน ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้นั้นตัวโทบิเสียเปรียบเป็นอย่างมากเพราะโคนันศึกษาวิชาที่การต่อสู้และข้อจำกัดของวิชามิติเวลาว่าใช้ได้กี่นาที บวกกับโคนันได้เตรียมรับมือโทบิมาเป็นอย่างดีทำให้โทบิเกือบตาย ไม่สิต้องบอกว่าตายแน่ๆเพราะระยะเวลาของวิชามิติเวลามี5นาที ส่วนวิชาระเบิดของโคนันนั้มีเป็นหมื่นหรือแสนล้านใบ(ไม่แน่ใจ)ซึ่งมีเวลาถึง10นาที ถ้าหากโทบิไม่ใช้อิซานางิคงตายไปแล้ว พอรอดมาได้โทบิจึงสังหารโคนันทันทีและมุ่งหน้าไปยังที่เก็บศพของนางาโตะ พร้อมทั้งปลูกถ่ายเนตรสังสาระมาไว้ที่ตัวเอง

























หลังจากกลับมายังฐานทัพสิ่งที่คาบูโตะนำมานั้นไม่ใช่ทั้ง8หางและ9หางแต่เป็นผู้ใช้คาถาไม้ซึ่งมันผิดเป้าหมายแต่ตัวคาบูโตะบอกว่าคาถาไม้ของยามาโตะจะมีประโยชน์แน่นอนเพราะจำทำให้เซ็ตสึขาวแข็งแกร่งขึ้น แม้ในตอนนี้โทบิและคาบูโตะจะเป็นพันธมิตรแต่ตัวโทบิไม่ไว้ใจในตัวคาบูโตะ จึงให้คาบูโตะแสดงวิธีใช้วิชาสัมภเวสีคืนชีพให้ดูพร้อมกับวิธีคลายคาถา ซึ่งคาบูโตะก็แสดงให้ดูส่วนเครื่องสังเวยนั้นโทบิได้เอาฟูและโทรุเนะจากหน่วยรากมาให้คาบูโตะแสดงให้ดู ส่วนวิธีคลายคาถานั้นแม้ตัวผู้ใช้ตายไปแล้วคาถาก็ยังคงอยู่








จากนั้นสงครามเริ่มได้เริ่มไปแล้วกระแสสงครามสลับกันไปมาตัวโทบิจึงอันเชิญเทวรูปมารนอกรีตออกมาจัดการเหล่านินจาพันธมิตร เพื่อมาเอาโถน้ำเต้าแดงชาดที่ผนึก2พี่น้องกินคินแห่งคุโมะที่มีจักระของเก้าหางไว้กันเหนียว จากนั้นโทบิก็ได้ใช้ร่างสัมเวสีคืนชีพของอดีตพลังสถิตร่างนำมาเป็นเพน6วิถีของตนเอง จากนั้นก็ได้ปะทะกับบีและนารูโตะ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดก่อนที่คาคาชิและไกจะมาสมทบ จากนั้นโทบิจึงให้เหล่าพลังสถิตร่างใช้ร่างสัตว์หางเต็มตัวทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจนขนาดที่ไกคิดจะเปิดประตูด่านที่8เลยทีเดียว แต่แล้วอยู่ๆวิชาสัมภเวสีคืนชีพก็ได้คลายลงทำให้เหล่าพลังสถิตร่างถูกปลดปล่อย เมื่อเห็นเห็นดังนั้นโทบิจึงรีบใช้โถน้ำเต้าที่มีจักระของเก้าหางผนึกลงไปในเทวรูปทันที










เมื่อผนึกลงไปแล้วโทบิต้องต่อสู้เพื่อเพื่อป้องกันการโจมตีของอีกฝ่าย และในการต่อสู้นี้คาคาชิจับสังเกตุว่าเนตรของโทบิและเนตรของเขาเชื่อมต่อกันจึงได้ใช้การโจมตีประสานทำให้หน้ากากของโทบิแตก และเพื่อนของเขาอย่างไกและคาคาชิเพื่อนรักก็ได้รู้ว่าชายภายใต้หน้ากากนั่นคืออุจิวะ โอบิโตะเพื่อนในสมัยเด็กนั่นเอง










พอรู้ตัวตนที่แท้จริงคาคาชิพยายามถามด้วยด้วยเหตุผลว่าทำไมแต่ก็ไร้ผล จากนั้นมาดาระ(ตัวจริงก็มา)พร้อมกับการตื่นของ10หางทั้งโอบิโตะและมาดาระได้เชื่อมต่อตนเองกับ10หางเพื่อจัดการเหล่าพันธมิตรนินจาทั้งหลาย แม้ว่าจะทำลายศูนย์บัญชาการที่ถือว่าเป็นมันสมองของกลุ่มพันธมิตรได้สำเร็จแต่ด้วยพลังมิตรภาพของทุกคนก็สามารถทำให้โอบิโตะและมาดาระตัดขาดจากการเชื่อมต่อกับ10หางลงได้



จากนั้นก็ได้เกิดการต่อสู้ระหว่างเพื่อรักระหว่างโอบิโตะและคาคาชิในมิติของคามุย ในระหว่างสู้กันคาคาชิพยายามอธิบายถึงสาเหตุการตายของรินแต่ตัวโอบิโตะรู้อยู่แล้วในช่วงที่เขาแฝงตัวอยู่ในคิริงาคุเระ ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้คาคาชิสามารถใช้ตัดสายฟ้ารวมกับคุไนแทงทะลุหัวใจโอบิโตะไปได้ โอบิโตะจึงวาร์ปออกมาจากมิติคามุยในสภาพอ่อนแรง







มาดาระเห็นดังนั้นจึงคิดจะใช้ให้โอบิโตะใช้เนตรเพื่อชุบชีวิตตัวเองขึ้นมาซึ่งหนึ่งในคนที่มาช่วยก็คือ นามิคาเสะ มินาโตะอาจารย์ของเขาเอง

แม้จะอยู่ในสภาพอ่อนแอแต่เมื่อได้โอกาสโอบิโตะจึงรีบดูด10หางเข้ามาในร่างตัวเอง เพื่อให้ตัวเองเป็นพลังสถิตร่างของ10หางและก็ทำได้สำเร็จ



เมื่อได้เป็นพลังสถิตร่างของ10หางแล้วโอบิโตะได้เริ่มโจมตีเหล่าอดีตโฮคาเงะในทันทีถึงแม้จะอยู่นในร่างสัมภเวสีคืนชีพก็สามารถโดนทำลายได้ แต่ตัวโอบิโตะในตอนนี้นั้นโจมตีค่อนข้างมั่วซั่วเพราะยังควบคุมสิบหางได้ไม่ดีแต่ในที่สุดเขาก็ควบคุมมันได้ทำให้การโจมตีป้องกันค่าพลังในทุกๆเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมากเพราะวิชานินจาไม่สามารถทำอะไรได้นอกวิชาเซียนและกระบวนท่าน ดังนั้นนารูโตะรุ่น2และรุ่น4จึงได้วางแผนร่วมกันในการใช้วิชาประสานจนสามารถโจมตีโอบิโตะได้ แม้จะโจมตีโอบิโตะได้ก็จริงแต่เขาแทบไม่ได้รับความเสียหายเท่าที่ควร จากนั้นโอบิโตะจึงได้สร้างข่ายพลังกักเหล่าพันธมิตรนินจาและใช้ต้นไม้เทพเจ้าดูดซับจักระเหลานินจาทั้งหลาย ซึ่งให้นินจาแต่ละคนเริ่มหมดแรงและเริ่มท้อซึ่งแม้แต่ตัวนารูโตะก็คิดแบบนั้น














จากนั้นซาสึเกะก็เข้าร่วมวงในการต่อสู้นี้ด้วยทำให้นารูโตะกับซาสึเกะร่วมมือในการต่อสู้กับโอบิโตะ ช่วงแรกโตะกับเกะค่อนข้างได้เปรียบในการต่อสู้เพราะโอบิโตะต้องควบคุมทั้ง10หางและต้นไม้เทพเจ้า ดังนั้นโอบิโตะจึได้สร้างดาบนุโรโบโกะซึ่งเป็นอาวุธของเซียนหกวิถี สถานการณ์เริ่มกลับมาสิ้นหวังอีกครั้งนึง แต่เกะกับโตะก็ได้พลังจากเหล่าเพื่อนมาช่วยในการต่อสู้ทำให้โอบิโตะต้องพ่ายแพ้ไป เมื่ออ่อนแรงลงทำให้สิบหางที่อยู่ในตัวเสียการควบคุมเหล่าพันธมิตรนินจาจึงใช้โอกาสนี้ดึงสัตว์หางออกจากโอบิโตะ ส่วนในจิตใต้สำนึกที่เชื่อมโยงจักระของสัตว์หางของโอบิโตะและนารูโตะ นารูโตะพยายามใช้เหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้โอบิโตะกลับใจ แม้จะมีไขว้เขวแต่เขาก็สลัดหลุดจากสกิลทอร์คของนารูโตะได้ ถึงอย่างนั้นโอบิโตะในตอนนี้เริ้มสับสนกับความคิดของตนเอง ซึ่งในตอนนี้เองที่คาคาชิพักฟื้นจากมิติคามุยก็ได้ออกมาเพื่อที่จะสังหารโอบิโตะแต่ได้มินาโตะมาห้ามเอาไว้ได้ เพราะมินาโตะเชื่อว่าโอบิโตะในตอนนี้นั้นได้ยอมรับถึงการกระทำของตนเองได้แล้วว่าสิ่งที่เขาวาดฝันไว้ได้แค่หลอกตัวเองเป็นเพียงสิ่งหลอกตาเท่านั้น















จากนั้นโอบิโตะจึงคิดจะใช้วิธีเดียวกับเพนโดยจะใช้วิชาของเนตรสังสาระ วิชานอกวิถีวังสาระสวรรค์กำเนิดเพื่อคืนชีวิตให้แก่เหล่านินจาที่เสียชีวิตในสงคราม แต่โดนขัดขวางโดยเซ็ตสึดำและเซ็ตสึดำเข้าควบคุมโอบิโตะทำให้วิชานี้แทนที่จะคืนชีพให้แก่เหล่าพันธมิตรนินจาแต่มันกลับฟื้นคืนชีพให้มาดาระแทนอีกทั้งเซ็ตสึก็พยายามจะแย่งเอาเนตรสังสาระคืนจากโอบิโตะไปให้มาดาระอีกด้วยแต่ก็โดนขัดขวางไว้ ส่วนทางด้านมาดาระเมื่อเขาได้ร่างกายกลับมาเขาจึงรีบจัดการผนึกสัตว์หางทั้งหมดเพื่อเอาตัวเองเป็นพลังสถิตร่างของ10หาง ซึ่งการกระทำนี้ต้องดึงสัตว์หางจากตัวนารูโตะด้วยทำให้นารูโตะอยู่ในสภาพร่อแร่ เมื่อมาดาระได้เป็นพลังสถิตร่างเขาพยายามชักจูงโอบิโตะให้กลับมาเข้าร่วมกับตนโอบิโตะแสดงท่าทีคล้อยตามมาดาระ แต่เมื่อได้จังหวะเขาจึงใช้โอกาสดึงเศษเสี้ยวของจักระสัตว์หางมาจากตัวมาดาระโดยให้คาคาชิวาร์ปพานารูโตะกับซากุระเข้ามิติคามุยไปก่อนและเขาก็ได้วาร์ปตามไปมอบพลังที่ดึงจากมาดาระให้แก่นารูโตะ













ช่วงที่อยู่ในมิติเวลาแม้ตัวซากุระยังไม่เชื่อใจในตัวโอบิโตะแต่เห็นว่านารูโตะอยู่ในสภาพเทียนไขใกล้ดับจึงต้องจำยอมโอบิโตะไป เมื่อรักษานารูโตะสำเร็จโอบิโตะจึงวาร์ปนารูโตะกลับไปยังสนามรบทันที(ที่จริงส่วนนี้ยังมีเรื่องหลังเก้าหางอีกครึ่งนึงด้วยที่มินาโตะส่งมอบให้นารุโตะแต่ผมขอข้ามส่วนนี้ไป)หลังจากส่งตัวนารูโตะเรียบร้อยโอบิโตะขอให้ซากุระทำลายเนตรสังสาระของเขา แต่ยังไม่ทันได้ทำลายตัวมาดาระที่ดึงเตรจากคาคาชิได้ใช้คามุยเข้ามาในมิติ โอบิโตะเห็นท่าไม่ดีจึงได้วาร์ปซากุระออกไปก่อนส่วนเขาก็ประจัญหน้ากับมาดาระ ซึ่งในตอนนี้มาดาระได้บอกกับโอบิโตะว่าเหตุการณ์การตายของรินนั้นเป็นเขาเองที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด พร้อมกับยังรู้อีกว่าในการต่อสู้กับคาคาชิโอบิโตะตั้งใจให้คาคาชิลงมือทำลายอักขระสาปในตัว จากนั้นมาดาระก็ได้เนตรสังสาระไปส่วนโอบิโตะก็หมดสติไป






จากนั้นเมื่อโอบิโตะตื่นขึ้นมาสถานการณ์ที่เขาเห็นเปลี่ยนแปลงไปหมด มาดาระหายไปคางูยะออกมาแทน ซาสึเกะกับนารูโตะสู้กับคางูยะและเนตรวงแหวนของเขามีสองข้าง เมื่อเขาได้เจอกับพวกคาคาชิโอบิโตะจึงรู้สถานการณ์ของตอนนี้ โดยบทบาทของโอบิโตะหลักๆในศึกคางูยะคือ ช่วยใช้วิชามิติเวลาพาซาสึเกะกลับมารวมกลุ่มกับเพื่อนเพราะโดนคางูยะจับแยกนารูโตะกับซาสึเกะไม่ให้อยู่พร้อมกัน และบทบาทที่สำคัญอีกอย่างนึงคือเอาตัวเองเข้าไปขวางการโจมตีของคางูยะทีโจมตีใส่นารุโตะและซาสึเกะ โดยที่โอบิโตะไปรับการโจมตีแทนนารูโตะส่วนคาคาชิก็เอาตัวไปขวางแทนซาสึเกะเช่นกัน แต่ขณะที่การโจมตีกำลังถึงตัวคาคาชิโอบิโตะใช้คามุยปัดการโจมตีนี้ออกไปส่วนตัวโอบิโตะรับการโจมตีไปเต็มๆ และในช่วงระหว่างความเป็นความตายโอบิโตะได้ปรับความเข้าใจระหว่างเขากับคาคาชิ พร้อมกับบอกว่าโฮคาเงะคนต่อไปต้องเป็นคาคาชิก่อนแล้วค่อยส่งต่อให้นารุโตะ จากนั้นก็มอบของขวัญชิ้นสุดท้ายให้แก่คาคาชิคือเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุพผาทั้งสองข้างให้แก่คาคาชิในการต่อสู้และโอบิโตะก็ได้กลับไปเจอรินในที่สุด

(ช่วงสู้คางูยะผมไม่อยากใส่ข้อมูลเยอะกว่านี้เพราะโอบิโตะบทไม่ค่อยเยอะจึงอยากให้ไปโฟกัสที่ตัวหลักๆมากกว่า)














จบกันไปแล้วสำหรับพาร์ทนี้กับตัวละครอุจิวะโอบิโตะ ถ้าข้อมูลตรงไหนผิดพลาดสามารถติชมได้อย่างเต็มที่เลยครับผม



อันนี้รบกวนฝากกระทู้เก่าๆด้วยนะครับ
Spoil


แก้ไขล่าสุดโดย เป็นความลับ เมื่อ Mon Oct 04, 2021 12:18, ทั้งหมด 20 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Apr 2010
ตอบ: 5204
ที่อยู่: Stamford bridge
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 12:59
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
ผมว่าโอบิโตะมีศักย์ภาพพอที่จะเป็นเบอร์1ด้วยซ้ำนะ เนตรโอบิโตะแม่มโค่ดขี้โกงถ้าคาคาชิไม่มีตาของโอบิโตะฝั่งนารูโตะยังไงก็ไม่มีวันชนะ ผมมองว่าการที่โอบิโตะไม่ใส่เนตรสังสาระ2ข้างเป็นการผสมที่ลงตัวและถูกต้องมาก เพราะเนตรโอบิโตะขี้โกงโค่ดๆ
ส่วนTop1ถ้ารวมโบรูโตะไปด้วยยังไงก็ต้องเป็น
Spoil
นารูโตะร่างBayrionโหมด โหมดนี้สเกลมันเวอร์มากๆ อิชชิกิที่ถูกปูมาให้เป็นโอซึซึกิระดับที่สูงกว่าคางูยะ ซึ่งผมมองว่าอิชชิกิเก่งกว่าคางูยะด้วยยังสู้นารูโตะร่างนี้ไม่ได้ ตอนคุรามะอธิบายพลังของร่างนี้คุรามะเปรียบเทียบพลังนี้ว่าเหมือนกับปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิกชั่น แถมยังมีบัฟที่ยิ่งศัตรูโดนโจมตียิ่งโดนลดอายุไขเข้าไปอีกยิ่งโกงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตเรืองโบรูโตะไม่น่าจะมีใครเก่งเกินนารูโตะร่างนี้แล้วละ  
7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2008
ตอบ: 3565
ที่อยู่: ในใจเธอ
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 13:22
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
crazyingod พิมพ์ว่า:
ผมว่าโอบิโตะมีศักย์ภาพพอที่จะเป็นเบอร์1ด้วยซ้ำนะ เนตรโอบิโตะแม่มโค่ดขี้โกงถ้าคาคาชิไม่มีตาของโอบิโตะฝั่งนารูโตะยังไงก็ไม่มีวันชนะ ผมมองว่าการที่โอบิโตะไม่ใส่เนตรสังสาระ2ข้างเป็นการผสมที่ลงตัวและถูกต้องมาก เพราะเนตรโอบิโตะขี้โกงโค่ดๆ
ส่วนTop1ถ้ารวมโบรูโตะไปด้วยยังไงก็ต้องเป็น
Spoil
นารูโตะร่างBayrionโหมด โหมดนี้สเกลมันเวอร์มากๆ อิชชิกิที่ถูกปูมาให้เป็นโอซึซึกิระดับที่สูงกว่าคางูยะ ซึ่งผมมองว่าอิชชิกิเก่งกว่าคางูยะด้วยยังสู้นารูโตะร่างนี้ไม่ได้ ตอนคุรามะอธิบายพลังของร่างนี้คุรามะเปรียบเทียบพลังนี้ว่าเหมือนกับปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิกชั่น แถมยังมีบัฟที่ยิ่งศัตรูโดนโจมตียิ่งโดนลดอายุไขเข้าไปอีกยิ่งโกงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตเรืองโบรูโตะไม่น่าจะมีใครเก่งเกินนารูโตะร่างนี้แล้วละ  
 
+ 1 เนตรโอบิโตะขี้โกงเกิน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: Waiting For Something Special
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Nov 2014
ตอบ: 952
ที่อยู่: Old Trafford at Sir Alex Ferguson Stand
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 13:37
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
เนตรโอบิโตะ โกงจริงๆครับ สู้ด้วยโคตรยาก

สมัยเริ่มเรื่อง คาคาชิ ก็อปปี้วิชานินจาได้อย่างเดียว ผมว่าก็โกงมากแล้วนะ

พอ คามุย เป็นเท่านั้นแหละ ดูดอย่างเดียว 55555
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Apr 2010
ตอบ: 5204
ที่อยู่: Stamford bridge
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 13:38
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
คนลุงลังSS พิมพ์ว่า:
crazyingod พิมพ์ว่า:
ผมว่าโอบิโตะมีศักย์ภาพพอที่จะเป็นเบอร์1ด้วยซ้ำนะ เนตรโอบิโตะแม่มโค่ดขี้โกงถ้าคาคาชิไม่มีตาของโอบิโตะฝั่งนารูโตะยังไงก็ไม่มีวันชนะ ผมมองว่าการที่โอบิโตะไม่ใส่เนตรสังสาระ2ข้างเป็นการผสมที่ลงตัวและถูกต้องมาก เพราะเนตรโอบิโตะขี้โกงโค่ดๆ
ส่วนTop1ถ้ารวมโบรูโตะไปด้วยยังไงก็ต้องเป็น
Spoil
นารูโตะร่างBayrionโหมด โหมดนี้สเกลมันเวอร์มากๆ อิชชิกิที่ถูกปูมาให้เป็นโอซึซึกิระดับที่สูงกว่าคางูยะ ซึ่งผมมองว่าอิชชิกิเก่งกว่าคางูยะด้วยยังสู้นารูโตะร่างนี้ไม่ได้ ตอนคุรามะอธิบายพลังของร่างนี้คุรามะเปรียบเทียบพลังนี้ว่าเหมือนกับปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิกชั่น แถมยังมีบัฟที่ยิ่งศัตรูโดนโจมตียิ่งโดนลดอายุไขเข้าไปอีกยิ่งโกงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตเรืองโบรูโตะไม่น่าจะมีใครเก่งเกินนารูโตะร่างนี้แล้วละ  
 
+ 1 เนตรโอบิโตะขี้โกงเกิน  

ใช่ครับถ้าใครไม่มีวิชามิติเวลานี้ยังไงไปสู้กับโอบิโตะก็สู้ไม่ได้ ต่อให้เก่งกว่าโอบิโตะด้วย ขอแค่โอบิโตะวาปศัตรูให้ไปอดข้าวตายในมิติของตัวเองได้ก็ชนะแล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: EVERY SECOND COUNTS!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 8386
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 14:37
[RE]จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3
ขยันใส่ข้อมูลมากเอาไป 1 แผล่บผมชอบทีมคาคาชิตอนเด็กนะตัวละครมันดูมีคาแรคเตอร์ดี
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: 19 league champions
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 2091
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 14:40
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
crazyingod พิมพ์ว่า:
ผมว่าโอบิโตะมีศักย์ภาพพอที่จะเป็นเบอร์1ด้วยซ้ำนะ เนตรโอบิโตะแม่มโค่ดขี้โกงถ้าคาคาชิไม่มีตาของโอบิโตะฝั่งนารูโตะยังไงก็ไม่มีวันชนะ ผมมองว่าการที่โอบิโตะไม่ใส่เนตรสังสาระ2ข้างเป็นการผสมที่ลงตัวและถูกต้องมาก เพราะเนตรโอบิโตะขี้โกงโค่ดๆ
ส่วนTop1ถ้ารวมโบรูโตะไปด้วยยังไงก็ต้องเป็น
Spoil
นารูโตะร่างBayrionโหมด โหมดนี้สเกลมันเวอร์มากๆ อิชชิกิที่ถูกปูมาให้เป็นโอซึซึกิระดับที่สูงกว่าคางูยะ ซึ่งผมมองว่าอิชชิกิเก่งกว่าคางูยะด้วยยังสู้นารูโตะร่างนี้ไม่ได้ ตอนคุรามะอธิบายพลังของร่างนี้คุรามะเปรียบเทียบพลังนี้ว่าเหมือนกับปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิกชั่น แถมยังมีบัฟที่ยิ่งศัตรูโดนโจมตียิ่งโดนลดอายุไขเข้าไปอีกยิ่งโกงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตเรืองโบรูโตะไม่น่าจะมีใครเก่งเกินนารูโตะร่างนี้แล้วละ  
 
จริงครับเป็นพลังเนตรสายมิติเวลาที่โหดที่สุดแล้ว ถ้าไม่มีเนตรอีกข้างที่คาคาชิ ยังไงก็ไม่มีทางสู้ได้เลย วาปไปที่ไหนก็ได้ ดูดหรือขังคนหรือวัตถุไว้ในมิติของตัวเองก็ได้ ปล่อยผ่านทุกการโจมตีได้หมด
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2011
ตอบ: 18415
ที่อยู่: สิ่ง เหล้ าห นี
โพสเมื่อ: Mon Oct 04, 2021 23:55
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
ดันมาเห็นมู้นี้ตอนดึกแต่ง่วงแล้ว ไว้อ่านวันหลังแล้วกัน



1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ได้

ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1158
ที่อยู่: Hat yai สภาทนายความภาค9
โพสเมื่อ: Tue Oct 05, 2021 13:04
[RE: จัดอันดับTOP10ความเก่งในเรื่องนารูโตะ+ประวัติตัวละครPart 3]
crazyingod พิมพ์ว่า:
ผมว่าโอบิโตะมีศักย์ภาพพอที่จะเป็นเบอร์1ด้วยซ้ำนะ เนตรโอบิโตะแม่มโค่ดขี้โกงถ้าคาคาชิไม่มีตาของโอบิโตะฝั่งนารูโตะยังไงก็ไม่มีวันชนะ ผมมองว่าการที่โอบิโตะไม่ใส่เนตรสังสาระ2ข้างเป็นการผสมที่ลงตัวและถูกต้องมาก เพราะเนตรโอบิโตะขี้โกงโค่ดๆ
ส่วนTop1ถ้ารวมโบรูโตะไปด้วยยังไงก็ต้องเป็น
Spoil
นารูโตะร่างBayrionโหมด โหมดนี้สเกลมันเวอร์มากๆ อิชชิกิที่ถูกปูมาให้เป็นโอซึซึกิระดับที่สูงกว่าคางูยะ ซึ่งผมมองว่าอิชชิกิเก่งกว่าคางูยะด้วยยังสู้นารูโตะร่างนี้ไม่ได้ ตอนคุรามะอธิบายพลังของร่างนี้คุรามะเปรียบเทียบพลังนี้ว่าเหมือนกับปฎิกิริยานิวเคลียร์ฟิกชั่น แถมยังมีบัฟที่ยิ่งศัตรูโดนโจมตียิ่งโดนลดอายุไขเข้าไปอีกยิ่งโกงมากๆ ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตเรืองโบรูโตะไม่น่าจะมีใครเก่งเกินนารูโตะร่างนี้แล้วละ  
 
เนตรโอบิโตะมันขี้โกงจริงแต่ผมว่าถ้าเทียบกับอีก3คนที่เหลือถ้าสู้กันยังไงสุดท้ายแล้วพวกนี้จะหาทางจัดการโอบิโตะได้อยู่ดี คนนึงเปรียบเสมือนเซียนหกวิถี อีกสองคนก็อินดรากับอาชูร่าดีๆนี่เอง
ส่วนในสปอยส่วนตัวผมนารูโตะมันจบตั้งแต่เดอะลาสแล้วเพราะหลังๆเริ่มจะกลายเป็นดราก้อนบอลสาดพลังใส่กันแล้ว เอาจริงๆสเกลพลังมันเริ่มคุมไม่อยู่ก็ตอนสงครามนั่นแหละ แต่ภาคโบรูโตะนี่เอา2คนที่เก่งที่สุด(ที่ยังมีชีวิต)มาเป็นกระสอบทรายเฉย


คนลุงลังSS พิมพ์ว่า:
+ 1 เนตรโอบิโตะขี้โกงเกิน  

ในบรรดาเนตรวงแหวนความสามารถเนตรโอบิโตะโกงสุดแล้วสำหรับผม

WSAforever พิมพ์ว่า:
เนตรโอบิโตะ โกงจริงๆครับ สู้ด้วยโคตรยาก

สมัยเริ่มเรื่อง คาคาชิ ก็อปปี้วิชานินจาได้อย่างเดียว ผมว่าก็โกงมากแล้วนะ

พอ คามุย เป็นเท่านั้นแหละ ดูดอย่างเดียว 55555  

ถ้าจับทริคไม่ได้ยากที่จะเอาชนะได้อะ

crazyingod พิมพ์ว่า:

ใช่ครับถ้าใครไม่มีวิชามิติเวลานี้ยังไงไปสู้กับโอบิโตะก็สู้ไม่ได้ ต่อให้เก่งกว่าโอบิโตะด้วย ขอแค่โอบิโตะวาปศัตรูให้ไปอดข้าวตายในมิติของตัวเองได้ก็ชนะแล้ว  

555ความคิดนี้ดีขังไว้ให้ตายเอง

ราเชนไงจะใครล่ะ... พิมพ์ว่า:
ขยันใส่ข้อมูลมากเอาไป 1 แผล่บผมชอบทีมคาคาชิตอนเด็กนะตัวละครมันดูมีคาแรคเตอร์ดี  

ตอนแรกผมก็ไม่ได้อยากใส่ข้อมูลเยอะขนาดนี้หรอกครับแต่กลัวข้อมูลตกหล่นเลยใส่จัดเต็ม 5555 เรื่องเนื้อหาอะสำหรับผมสบายมากเพระส่วนใหญ่เอามาจากความทรงจำแล้วนำมาเขียน ไอที่ยากจริงๆคือการหาภาพ(Gif)ให้ตรงกับเหตุการณ์นี่แหละ ยังไงก็ขอบคุณมากครับท่าน

Empfinz พิมพ์ว่า:
จริงครับเป็นพลังเนตรสายมิติเวลาที่โหดที่สุดแล้ว ถ้าไม่มีเนตรอีกข้างที่คาคาชิ ยังไงก็ไม่มีทางสู้ได้เลย วาปไปที่ไหนก็ได้ ดูดหรือขังคนหรือวัตถุไว้ในมิติของตัวเองก็ได้ ปล่อยผ่านทุกการโจมตีได้หมด  

ถ้าไม่มีคาคาชิที่มีเนตรของโอบิโตะยากที่จะเอาชนะได้อะ

Red_Duckza พิมพ์ว่า:
ดันมาเห็นมู้นี้ตอนดึกแต่ง่วงแล้ว ไว้อ่านวันหลังแล้วกัน



 

ยินดีครับท่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel