หลังจากเราได้ UCL ปี 2012 เป็นปีช่วงเปลี่ยนถ่าย มีทั้งนักเตะเก่งๆเข้ามาทั้ง ฮาซาร์ ออสก้า อัสปิ อื่นๆอีกมาก และมาผสมนักเตะตำนานเก่าๆของทีมที่หลงเหลืออยู่ ทั้งเทอรี่ ดร๊อกบา แลมพารด ทำให้ทีมกลับมาคว้าแชมป์อีกมากมายทั้ง พรีเมียร FA ยูโรป้า ซึ่งทีมเราเปลี่ยนโค๊ชบ่อยมาก แต่ก็ยังเป็นแชมป์ ซึ่งทีมเชลซี ไม่จำเป็นตั้งสร้างรากฐาน หรือใช้เวลายาวนาน ก็สามารถได้แชมป์ได้ (เหมือนเป็น DNA ทีมไปแล้ว ถ้าเปลี่ยนโค๊ชได้แชมป์)



ผ่านไป เกือบ 10 ปีพอดี เชลซี หวนกลับมาล่า แชมป์ UCL สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ จะมีนักเตะที่หลงเหลืออยู่กับทีมยาวนานที่สุด Azpilicueta นักเตะที่พึ่งย้ายมาเชลซีหลังปีได้ UCL จากนักเตะธรรมดาคนนึงที่เด่นเรื่องเกมรับ สามารถพัฒนาเล่นได้ทั้ง แบ็คซ้าย แป็คขวา กองหลัง เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ ครั้งนึงเคยเบียด แอชลี่โคล นั่งสำรอง จนผ่านมาถึงปัจจุบันด้วย และมาสานต่อ กัปตันทีมจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ฟอรม์จะมีตก มาบ้าง เค้าก็ทำหน้าที่เต็มที่ในสนามเสมอ



หลังจากนี้ไปเราอาจได้เห็นนักเตะลูกหม้อ ที่จะมาสานต่อความสำเร็จ คว้าแชมป์อื่นๆ ให้เหมือนที่ตำนานรุ่นพี่ที่เคยทำกันไว้  

เข้าชิง 3 ครั้ง ได้ 2 ครั้ง

ถ้าเทอรี่ไม่ลื่นสถิติ 100% เลย  

ยังคงติดเป็นความกังวลใจเล็ก ๆ ในเรื่องของการไปต่อของเหล่า "ลูกหม้อ" บางราย

คือถ้าฟอร์มการเล่น ไม่ได้ลงมาแล้วเปรี้ยงเลยชนิดที่ไม่ต้องรอเวลาอย่างเมาท์, คริสเตนเซ่น และรีซ เจมส์แล้วเนี่ย ผมแอบมองในแง่ร้ายไว้ก่อนเลยว่าชื่อของโอดอย กับ แทมมี่ และอีกหลาย ๆ คน เกรงจะไปต่อได้ยากละครับ เชื่อว่าตัวนักเตะเองน่าจะเข้าใจบทบาทของเขากับสถานการณ์ต่อจากนี้ได้ดี (ในส่วนของกิลมอร์ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่า ทีมได้เสริมตำแหน่งนี้เข้ามาเพิ่มไหม ถ้าเพิ่มจริงก็สุ่มเสี่ยงมาก)
 

ยังคงติดเป็นความกังวลใจเล็ก ๆ ในเรื่องของการไปต่อของเหล่า "ลูกหม้อ" บางราย

คือถ้าฟอร์มการเล่น ไม่ได้ลงมาแล้วเปรี้ยงเลยชนิดที่ไม่ต้องรอเวลาอย่างเมาท์, คริสเตนเซ่น และรีซ เจมส์แล้วเนี่ย ผมแอบมองในแง่ร้ายไว้ก่อนเลยว่าชื่อของโอดอย กับ แทมมี่ และอีกหลาย ๆ คน เกรงจะไปต่อได้ยากละครับ เชื่อว่าตัวนักเตะเองน่าจะเข้าใจบทบาทของเขากับสถานการณ์ต่อจากนี้ได้ดี (ในส่วนของกิลมอร์ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่า ทีมได้เสริมตำแหน่งนี้เข้ามาเพิ่มไหม ถ้าเพิ่มจริงก็สุ่มเสี่ยงมาก)

เพราะถัดจากนี้ ทูเคิลเอง แกรู้ตัวแล้วว่า ภายหลังจรดปากกาต่อสัญญา นั่นหมายความว่า แกผ่านช่วงทดลองงานไปแล้ว ต่อไปนี้มีแค่ "ของจริง" ที่เชื่อเลยว่า กุนซือทั่วโลกทุกคน ไม่มีใครเพิกเฉยต่อความจริงอันโหดร้ายในเรื่องการปลดโค้ชกับทีมอย่างเชลซีแน่นอน ทุก ๆ เกมการแข่งขัน จะมีที่ว่างให้กับนักเตะที่อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดเท่านั้น ดังนั้น การทีดาวรุ่งสายเลือดใหม่จะก้าวขึ้นมาแล้วดีพอจะลงเล่นใน 11 ตัวจริงได้ คงต้องทำการบ้านอย่างหนักหน่วงขึ้นเป็นเท่าตัวเลย

เพราะช่วงเวลาแห่งโปรโมชั่นของเหล่าจูเนียร์ ดังที่เคยเกิดขึ้นในยุคของแฟรงค์ แลมพาร์ดที่เราถูกแบนการซื้อตัว และไร้ซึ่งการคาดหวังใด ๆ แบบที่เคยเป็นมา ...ในซีซั่นถัดจากนี้ ช่วงเวลาเหล่านั้นมันหมดไปแล้วครับ