[RE: ฉีด astra เข็มเเรก กับ ฉีด ชิโนเเวคครบ 2 เข็ม]
Aquaelfin พิมพ์ว่า:
jasperpae พิมพ์ว่า:
Aquaelfin พิมพ์ว่า:
jasperpae พิมพ์ว่า:
ตอนนี้มันต้องฉีดก่อน เพื่อตัวเอง จะหวังภูมิคุ้มกันหมู่ ต้องรอวัคซีนเหลือใช้ แล้วฉีดกระตุ้นเรื่อยๆ เลยนะ และต้องฉีดทั้งโลกนะ ไม่ใช่แค่ที่ไทย ไม่งั้นมันก็เปิดประเทศไม่ได้ เปิดได้ก็เสี่ยงอยู๋ดี ตอนนี้วัคซีนมันไม่เพียงพอต่อประชากรโลกไง ส่วนจะมาเถียงเรื่องประสิทธิภาพ ก็ว่ากันไปนะ
ส่วนตัวมองว่า ชิโนแวค ไม่ได้ดีที่สุด อาจจะห่วยที่สุด แต่มันสร้างภูมิได้มันก็เพียงพอแล้ว แถมมันผลข้างเคียงเสี่ยงต่ำ นี่คือข้อดีของมัน ส่วนเจ้าอื่นประสิทธิภาพสูง แต่มันก็เสี่ยงสูงตามไปด้วย (ลองคิดถึงข้อเท็จจริงนะ ผิดถูกก็ว่ากันไป ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แค่อ่านข่าว แล้วคิดเองเออเอง แต่ก็เน้นอ่านที่หมอเผยแพร่เป็นหลัก) จะฉีดของดี ถ้าร่างกายของตัวท่านๆ สร้างภูมิได้น้อย ก็ต้องฉีดเพิ่ม อีกแง่มุมบางคนฉีดของกาก แต่ร่างกายสกระตุ้นและสร้างภูมิได้ดีและเยอะ มันก็มีโอกาสรอดสูง ผมจะบอกว่า ร่างกายของตัวท่านๆ สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดนะ ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างเดียว อย่าลืมว่าคนหลายคนติดโควิทแล้ว ไปอยู่ตามโรงพยาบาลสนาม แปบๆ มันกลับบ้านได้ไว เพราะบางคนร่างกายมันสร้างภูมิคุ้มกันได้ไง กินยาฆ่าเชื้อไวรัส พักผ่อนมากๆ มันก็หาย และกลับบ้านได้ นี่แหละที่มันเข้าเคสว่าภูมิคุ้มกันหมู่มันมีอยู่จริงและสร้างขึ้นมาได้
ตัวเลขพวกนี้ หาอ่านข่าวได้เยอะแยะ จะเท็จจริงแค่ไหน คิด วิเคราะ แยกแยะกันได้นะ ผมก็เชียร์ให้มันฉีดให้เยอะที่สุดแค่นั้น จะยี่ห้อไหนก็ได้ สิทธิของแค่ละคนเลย ส่วนการจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ ณ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว โรคนี้เป็นเชื้อไวรัส อยู๋กับเราไปจนตาย มีโอกาสกลายพันธ์สูง ก็ต้องป้องกันตัวเองเหมือนเดิมไปก่อนจนกว่า จะพบว่าติดแล้วกินยารักษาได้แล้วหาย นั่นแหละถึงจะใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงก่อนโรคนี้ระบาด
วัคซีนมันแค่ทางรอดแบบหนึ่ง สิ่งที่ผมหวังคือยารักษาโดยตรง
แต่ ซิโนแวค มันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ไง ถ้ามันสร้างได้ผมก็ให้ฉีด แต่ประเทศที่เขาฉีด ซิโนแวค เป็นตัวหลัก ตัวเลขทั้งคนติด คนมีอาการหนัก ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ทั้งที่เขาฉีดเข็ม 2 เกิน 50 % ไปแล้ว สวนทางกับอังกฤษยังไม่ทันถึง 50 % ตัวเลขคนติดเชื้อ คนมีอาการหนักก็เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่วัคซีนก็ต้องพัฒนาประสิทธิภาพอีกนะ หลังจากรอดจากสายพันธุ์อังกฤษ เพราะ สายพันธุ์อินเดียมันหลบวัคซีนได้มากขึ้น คราวนี้แอสตร้าเข็มเดียวก็ไม่พอต้อง 2 เข็ม
เลิกคิดแบบนั้นเถอะครับ คุณ ลองศึกษาและเปลี่ยนทรรศนคติดู อย่าเชื่อเคยเค้าลือกัน ว่ากัน
คือจริงๆ แล้วภูมิคุ้มกันหมู่ การเกิดภูมิคุ้มกันของคนคนหนึ่งอาจเกิดจากการเคยติดโรคมาก่อนแล้วหายจากโรคนั้น หรืออาจเป็นภูมิคุ้มกันที่ได้รับการเสริมขึ้น เช่น จากการรับวัคซีน เอาตรงๆ มันไม่ได้บอกว่าจำเป็นหรือบังคับต้องฉีดวัคซีนนะ ไม่ฉีดโอกาสการเกิดภูมิคุ้นกันหมู่ก็มีความเป็นไปได้ครับ เช่นติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง อาจจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาก็เป็นไปได้ และอาจจะไวกว่าฉีดวัคซีนด้วย ถ้าโชคดีนะ ก็ตายน้อยหน่ยกอย โชคร้ายก็ตายเป็นเบือ ก่อนที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ลองย้อนไปดูอดีตได้ มีให้เห็นเยอะแยะ วิวัฒนาการการเอาตัวรอดของสายพันธ์มนุษย์มันมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ แต่ที่เค้ารณรงค์ให้ฉีด มันจะได้เร่งปฎิกิริยาภูมิคุ้มกันหมู๋ให้เกิดไวขึ้นครับ จะได้กลับไปใช้ชีวิตได้ไว และสบายใจว่ารอดจากโรคนี้ได้ เพราะโรคนี้ถ้าเป็นแล้วมีโอกาสตายได้ แค่นั้นครับ
ไม่ได้เชื่อที่เขาพูด แต่มีการศึกษา และมีกรณีศึกษาจากประเทศอื่นแล้ว คิดง่ายๆ ถ้า ซิโนแวค มันทำแล้วได้ผล ประเทศอื่นที่เขาคุมการระบาดได้ทำไมไม่ซื้อ ทำไมต้องร้องแรกแหกกระเชอกับ แอสตร้า จะเป็นจะตาย ส่งไม่มาตามนัดจะฟ้องร้อง จะปรับที่ส่งช้า แต่ก็ยังไม่ยกเลิกการสั่ง หันไปสั่ง ซิโนแวค ที่สั่งปั๊บได้ของทันที ทำไมเขาขวนขวายโทรศัพท์หา ไฟเซอร์ จนสายไหม้เพื่อให้เขาผลิตมาขายให้ประเทศตน ของพวกนี้ไม่ใช่อุปทานหมู่ แต่เขาก็คิดดีแล้วว่าถ้าไม่ใช่อย่างต่ำแอสตร้า ภูมิคุ้มกันหมู่ที่ประชากร 70 % มันไม่เกิด
5555555 ผมละอย่างเบื่อเลยพวกที่บอกว่า อย่าไปเชื่อที่เขาลือกัน คือยังมีคนใช้ประโยคนี้ตัดสินความคิดคนอื่นอยู่อีกเนอะ
อยากจะบอกครับ คนที่เขาโตมาแล้วรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ เขามีความคิด วิเคราะห์ แยกแยะ หมดแหละครับ
การศึกษารู้ว่าอะไรจริง ไม่จริง การหาข่าวอ่านจากสื่อต่างประเทศ หรือจะสื่อไทยที่นำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง แหล่งข่าวทางการ ก็มีให้อ่านเยอะแยะ
เพราะแบบนั้นคนเขาถึงรู้ไงว่า อะไรดี หรือไม่ดี ไม่งั้นมันจะออกมาพูดกันทำไม