ไม่มีวัคซีนตัวไหนป้องกันการติดเชื้อ ทุกตัวติดเชื้อได้หมด แต่วัคซีนแต่ละตัวสร้างภูมิได้ไม่เท่ากัน

ตัวเลข 50% คือจำนวนคนที่ฉีดแล้วภูมิขึ้นพอที่จะกำจัดไวรัสก่อนที่จะแพร่เชื้อให้คนอื่นได้

ทีนี้คนที่ไม่ฉีดจะไปเอาภูมิที่ไหนมากำจัดไวรัสละ ก็แพร่เชื่อต่อไปได้

แล้วที่บอกไม่มีใครด่า ประทานโทษครับ คนที่ผมโควดตอนนั้นเพิ่งบอกคนฉีด sinovac เห็นแก่ตัว ไปหยกๆ

ปล.ผมฉีด AZ

ที่ผมสื่อคือ วัคซีนยังไม่มีข้อสรุปเรื่องป้องกันการแพร่เขื้อคับ

ส่วนตัวใครฉีดอะไรเชิญเลย สิทธิของแต่ละคนอยู่แล้วครับไม่ก้าวก่าย

นี้ผมบอกถึงคนที่ชอบเทคโนโลยีเก่า ไม่รับเทคโนโลยีใหม่ เลือก ซิโนแวค ด้วยความเต็มใจ อยากให้เปลี่ยนความคิด เพื่อภูมิคุ้มกันหมู่ ส่วนใครเสี่ยงแล้วไปฉีดก่อนเดือน มิถุนายน จะโดยบังคับ ไม่มีทางเลือก ผมไม่ว่า เพราะ ยังหันกลับมาฉีดยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าทันครับ

อ่าน ปล. ของเจ้าของข้อความอีกทีครับ ใจความสำคัญอยู่ตรงนั้น เขาเต็มใจฉีดซิโนแวค

มันเลยทำให้คุณมีสิทธิไปว่าคนอื่นได้เหรอ

ใช่ครับ บางคนเขาไม่มีทางเลือก เจอขอนไม้ผุๆก็ต้องรีบเกาะไว้ก่อน ไม่ใช่จะมาลอยคอรอเรือชูชีพที่ไม่รู้จะมาเมื่อไร

จากประสบการที่มีญาติติดเชื้อนะ แล้วอยู่ในผู้มีความเสี่ยง บอกตรงๆตอนนั้นโคตรเครียด ตอนแรกคิดว่าเรื่องไกลตัว แต่พอโดนเข้าจริงๆนี่เปลี่ยนความคิดเลย

ถ้าประเทศกะลาแลนด์ มันมีให้เลือกมากกว่าชิโนแวคผมคงเลือกไปแล้ว

ตอนนี้มันต้องฉีดก่อน เพื่อตัวเอง และคนรอบข้าง จะหวังภูมิคุ้มกันหมู่ ต้องรอวัคซีนเหลือใช้ แล้วฉีดกระตุ้นเรื่อยๆ เลยนะ และต้องฉีดทั้งโลกนะ ไม่ใช่แค่ที่ไทย ไม่งั้นมันก็เปิดประเทศไม่ได้ เปิดได้ก็เสี่ยงอยู๋ดี ตอนนี้วัคซีนมันไม่เพียงพอต่อประชากรโลกไง ส่วนจะมาเถียงเรื่องประสิทธิภาพ ก็ว่ากันไปนะ

ส่วนตัวมองว่า ชิโนแวค ไม่ได้ดีที่สุด อาจจะห่วยที่สุด แต่มันสร้างภูมิได้มันก็เพียงพอแล้ว แถมมันผลข้างเคียงเสี่ยงต่ำ นี่คือข้อดีของมัน ส่วนเจ้าอื่นประสิทธิภาพสูง แต่มันก็เสี่ยงสูงตามไปด้วย (ลองคิดถึงข้อเท็จจริงนะ ผิดถูกก็ว่ากันไป ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แค่อ่านข่าว แล้วคิดเองเออเอง แต่ก็เน้นอ่านที่หมอเผยแพร่เป็นหลัก) จะฉีดของดี ถ้าร่างกายของตัวท่านๆ สร้างภูมิได้น้อย ก็ต้องฉีดเพิ่ม อีกแง่มุมบางคนฉีดของกาก แต่ร่างกายสกระตุ้นและสร้างภูมิได้ดีและเยอะ มันก็มีโอกาสรอดสูง ผมจะบอกว่า ร่างกายของตัวท่านๆ สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดนะ ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างเดียว อย่าลืมว่าคนหลายคนติดโควิทแล้ว ไปอยู่ตามโรงพยาบาลสนาม แปบๆ มันกลับบ้านได้ไว เพราะบางคนร่างกายมันสร้างภูมิคุ้มกันได้ไง กินยาฆ่าเชื้อไวรัส พักผ่อนมากๆ มันก็หาย และกลับบ้านได้ นี่แหละที่มันเข้าเคสว่าภูมิคุ้มกันหมู่มันมีอยู่จริงและสร้างขึ้นมาได้

ตัวเลขพวกนี้ หาอ่านข่าวได้เยอะแยะ จะเท็จจริงแค่ไหน คิด วิเคราะ แยกแยะกันได้นะ ผมก็เชียร์ให้มันฉีดให้เยอะที่สุดแค่นั้น จะยี่ห้อไหนก็ได้ สิทธิของแค่ละคนเลย ส่วนการจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ ณ ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว โรคนี้เป็นเชื้อไวรัส อยู๋กับเราไปจนตาย มีโอกาสกลายพันธ์สูง ก็ต้องป้องกันตัวเองเหมือนเดิมไปก่อนจนกว่า จะพบว่าติดแล้วกินยารักษาได้แล้วหาย นั่นแหละถึงจะใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงก่อนโรคนี้ระบาด

วัคซีนมันแค่ทางรอดแบบหนึ่ง สิ่งที่ผมหวังคือยารักษาโดยตรง

ตอนนี้มีแล้วไง ไม่ใช่ไม่มี อย่างน้อย แอสตร้า เลือกได้ ไหนจะ ซิโนฟาร์ม เปิดให้ประชาชนทั่วไปเดือนหน้าอีก โมเดิร์นน่า เดือนตุลาคม มันมีแล้วไง แล้วยังรณรงค์ให้ฉีดอะไรก็เพื่อป้องกันตัวเอง มันไม่ใช่แล้ว เป้าหมายตอนนี้คือ ทำภูมิคุ้มกันหมู่ให้ถึง 70 % ของประชากร เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตก่อนเกิดโควิด

สถานะการณ์วัคซีนมันเปลี่ยนไปตลอดแหละ ใครๆ ก็อยากได้วัคซีนดีๆ ฉีดซีโนแวคเพราะมันมาก่อน หลายๆ คนเขาต้องทำงาน เจอคนเยอะในแต่ละวัน จะเอาตัวเองที่วันๆ อยู่แต่บ้านกับเซเว่นมาตัดสินคนอื่นไม่ได้หรอก

แต่ ซิโนแวค มันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไม่ได้ไง ถ้ามันสร้างได้ผมก็ให้ฉีด แต่ประเทศที่เขาฉีด ซิโนแวค เป็นตัวหลัก ตัวเลขทั้งคนติด คนมีอาการหนัก ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ทั้งที่เขาฉีดเข็ม 2 เกิน 50 % ไปแล้ว สวนทางกับอังกฤษยังไม่ทันถึง 50 % ตัวเลขคนติดเชื้อ คนมีอาการหนักก็เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แต่วัคซีนก็ต้องพัฒนาประสิทธิภาพอีกนะ หลังจากรอดจากสายพันธุ์อังกฤษ เพราะ สายพันธุ์อินเดียมันหลบวัคซีนได้มากขึ้น คราวนี้แอสตร้าเข็มเดียวก็ไม่พอต้อง 2 เข็ม

ผมถือว่าคนที่ลงฉีดวัคซีนคือคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวม
-อย่างน้อยมันก็กันตาย ทำให้การรักษาลดค่าใช้จ่ายลงได้
ผมพึ่งได้ฉีด AZ เข็มแรก เมื่อวานนี้เอง คือส่วนตัวผมแล้วฉีดของอะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีดก่อน แล้วค่อยไปซ้ำตัวดีๆในภายหลัง(ผมลงจองโมเดอน่าไว้แล้ว)
ยิ่งคนที่ฉีด sinovac ตอนแรกที่ทาง WHO ยังไม่รับรองให้เลย ยิ่งน่ายกย่องเขาโดยเขาอาจจะไม่สมัครใจแต่ก็ต้องฉีดเหมือนเดิม
ส่วนตัวผมอยากให้ทุกๆคนลงฉีดวัคซีนไว้เพื่อกันตายเอาชีวิตรอดในครั้งนี้ไปก่อน

ชี้แจงให้ฟังครับ ให้เปลี่ยนความคิด ส่วนวาทศิลป์ผมเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เข้าหูก็ขออภัย

แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ไง มันมีตัวเลือก มันต้องทำภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่ใช่มานั่งฉีดอะไรก็ได้ป้องกันตัวเอง เศรษฐกิจมันรอนานให้ไปเพิ่มภูมิคุ้มกันเข็ม 3 เข็ม 4 ไม่ไหวครับ จะตายเอา

สิ่งที่ควรรณรงค์ตอนนี้ คือ ไม่ใช่แอสตร้าอย่างต่ำไม่ฉีด เพื่อปากท้องประชาชนได้เดินหน้า นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวดังเดิม รัฐจะได้เลิกเติมซิโนแวคซักที ถ้ายังมีคนเอา รัฐก็ไม่ยอมเลิก

เลิกคิดแบบนั้นเถอะครับ คุณ ลองศึกษาและเปลี่ยนทรรศนคติดู อย่าเชื่อเคยเค้าลือกัน ว่ากัน

คือจริงๆ แล้วภูมิคุ้มกันหมู่ การเกิดภูมิคุ้มกันของคนคนหนึ่งอาจเกิดจากการเคยติดโรคมาก่อนแล้วหายจากโรคนั้น หรืออาจเป็นภูมิคุ้มกันที่ได้รับการเสริมขึ้น เช่น จากการรับวัคซีน เอาตรงๆ มันไม่ได้บอกว่าจำเป็นหรือบังคับต้องฉีดวัคซีนนะ ไม่ฉีดโอกาสการเกิดภูมิคุ้นกันหมู่ก็มีความเป็นไปได้ครับ เช่นติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง อาจจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาก็เป็นไปได้ และอาจจะไวกว่าฉีดวัคซีนด้วย ถ้าโชคดีนะ ก็ตายน้อยหน่อย โชคร้ายก็ตายเป็นเบือ ก่อนที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ลองย้อนไปดูอดีตได้ มีให้เห็นเยอะแยะ วิวัฒนาการการเอาตัวรอดของสายพันธ์มนุษย์มันมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ แต่ที่เค้ารณรงค์ให้ฉีด มันจะได้เร่งปฎิกิริยาภูมิคุ้มกันหมู๋ให้เกิดไวขึ้นครับ จะได้กลับไปใช้ชีวิตได้ไว และสบายใจว่ารอดจากโรคนี้ได้ เพราะโรคนี้ถ้าเป็นแล้วมีโอกาสตายได้ แค่นั้นครับ