เพิ่งครบรอบ 16 ปีไปหยกๆ กับอัลบั้ม City of Evil ของ 5 หนุ่มวง Avenged Sevenfold ซึ่งนับเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ของวงบนเส้นทางสายเมทัล โดยความเกรี้ยวกราดของอัลบั้มนี้ทำให้พวกเขาผงาดขึ้นเป็นวงเมทัลแถวหน้าของวงการ แบบปราศจากข้อกังขาใดๆ ทั้งปวง



หลังจาก Avenged Sevenfold แจ้งเกิดสำเร็จกับอัลบั้ม Waking the Fallen ในปี 2003 พวกเขาก็ไม่ลดละที่จะทลายกำแพงฝันของพวกเขาเอง สุดท้ายได้รวบรวมความกล้ากระโดดออกจากค่าย Hopless Records เข้าสู่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Records ที่เชื่อมั่นในฝีมือของ 5 หนุ่มกลุ่มนี้ และไม่รอช้าพวกเขาก็ได้ฤกษ์เข้าสตูดิโออัดอัลบั้มใหม่ทันทีในปี 2004 ลากยาวถึงเมษายน ปี 2005 โดยได้ Andrew Murdock มาร่วมงานในตำแหน่งโปรดิวเซอร์อีกเช่นเคย เจ้าเก่าที่เคยทำอัลบั้มที่ผ่านมาดังเป็นพลุแตก




City of Evil คืองานเพลงที่ค่อนข้างเปลี่ยนไปจากแนวทางเดิมๆ ของพวกเขา ซึ่ง M.Shadows ฟรอนท์แมนของวงจะไม่สำรอกทั้งเพลงอีกต่อไป โดยได้หันมาโชว์พลังร้องเสียงคลีนหล่อๆ มากขึ้นกว่าชุดที่ผ่านมา จากการฝึกฝนการร้องโดย Ron Anderson ผู้เคยทำงานร่วมกับ Axl Rose และ Chris Cornel มาแล้ว



ส่วนภาคดนตรีถือว่าอัลบั้มนี้จัดจ้านถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นริฟฟ์อันดุเดือด, โซโล่อันแสบรูดาก, เบสอันหนักแน่น และที่ขาดไม่ได้คือเสียงกลองอันแพรวพราวของ The Rev อันเป็นส่วนที่ขาดไปไม่ได้ รวมๆ แล้วยังยืนหยัดอยู่บนแนวเฮฟวี่ เมทัล แต่มีความเป็นเมทัลคอร์ และฮารืด-ร็อก มาผสมผสานให้กลมกล่อม แต่อย่างไรก็ตามนักวิจารณืบางสำนัก กลับตั้งชื่อว่าเป็นแนวจับฉ่ายซะงั้น 5555




ภายหลังขั้นตอนการผลิตลุล่วงไปด้วยดี ในที่สุด A7X ก็ได้ฤกษ์ปล่อยซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มออกสู่โลกดนตรี นั่นคือ Burn it down ที่จั่วหัวด้วยการสับสแนร์ และกระเดื่องคู่แบบนรกแตก เผาไหม้อารมณ์ของคนฟังอย่างแท้จริง



ถัดมาเป็น Bat Country เพลงที่อุดมไปด้วยริฟฟ์กีต้าร์หนักหน่วง และลูกโซโล่อันแพรวพราวของ Synyster Gates ซึ่งมาพร้อม MV สวยๆ อีกด้วย



ต่อมาถึงคิวของเพลง Beast and the Harlot ที่มาพร้อม MV สุดเซ็กซี่ - สยองขวัญ กับสาวปีศาจทรงโต นับเป็นอีกเพลงในอัลบั้มที่โซโล่ได้แสบทรวง




Seize The Day เป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มนี้ ที่ทางวงคัดมาทำเป็น MV เท่ๆ เนื้อหาเศร้าๆ ตามแบบฉบับชาวร็อก ซึ่ง M.Shadows ควงศรีภรรยามารับหน้าที่คู่พระนางอีกด้วย




ความแรงของอัลบั้มนี้ได้กระโดดติดชาร์ตเพลงในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นเป็นการเปิดตัวที่อันดับที่ 30 บน Billboard 200 Chart อีกทั้งยังมียอดขาย 1.5 ล้านก็อปปี้ในสหรัฐอเมริกา และ 2.5 ล้านก็อปปี้ในทั่วโลก


ไม่เพียงเท่านั้น Avenged Sevenfold ยังได้มาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2007 โดยระเบิดความมันส์ขึ้นที่สตูดิโอ 125 แถวแยกเหม่งจ๋าย ท่ามกลางความสาแก่ใจของเหล่าสาวกเดนตาย



บรรยากาศในคอนเสิร์ตครั้งนั้น



ปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศกับแฟนๆ ที่เดินทางมาหาถึงโรงแรม




ใครคิดถึงอัลบั้มนี้ มาร่วมแชร์เพลงโปรดในอัลบั้มกันได้ครับ

ถ้าชุดนี้ก็ seize the day เลยสำหรับผม

เฮ้อ คิดถึง the rev

Bat country

ยังฟังอยู่ครับ​ โดยเฉพาะเวลาทะเลาะกับแฟน​ 5555

burn it down กลองนรกแตกของจริง

bat country เลย

ฟังตอนงานเร่งๆช่วยจริงๆ

ท้อนโซโล่ของ bat country นี่มันสุดจริงๆ

Seize The Day ส่วนตัวคือบัลลาดที่ดีที่สุดตลอดกาลของA7X

ก็ยังหยิบมาฟังบ่อยๆ ชอบหลายเพลงมาก ฟังไม่เบื่อเลยบั้มนี้

ชอบไลน์ประสาน Bat country

ชอบทุกเพลงครับ ถ้าให้ชอบสุด ก็ Seize the day กับอีกอัลบั้ม เพลง dear god และ afterlife ดักแก่

เคย cover beast and the harlot สมัยมหาลัย สัดส่วนดนตรีของเพลวนี้ผมชอบมาก ส่วน bat country นี่โซโล่ผสานลงตัวครับ เป็นอัลบั้มในดวงใจอัลบั้มนึง

bat country ชอบโซโล่มาก ฝึกเล่นอยู่นาน โคตรยาก

แต่ผมชอบอัลบั้ม Nightmare สุดละ รู้สึกว่ามันลงตัว ผมชอบทุกเพลงในอัลบั้มเลย

รู้จักวงนี้เพราะ Beast and the harlot เลย รู้สึกคุ้มที่ได้ไปคอน2รอบ