BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
 
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
หน้าแรกบอร์ด >> บอลนอก
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
Forever Faithful
นักเตะท้ายซอย
Status: Zen.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 40
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:28
อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)
ณ ตอนนี้ พูดได้เลยว่า ฟุตบอลยุโรปกำลังเผชิญกับสงครามที่ทำให้เกิดแรงสั่นคลอนมหาศาล หลังจากเหล่าสโมสรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโลก ต่างพร้อมที่จะออกจากการแข่งขัน UCL เพื่อไปตั้ง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก (ESL)

บรรดายักษ์ใหญ่ อย่าง ยูเวนตุส, มิลาน, อินเตอร์, รีล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก้ มาดริด,แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี และ สเปอร์ส ต่างเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในการจัดตั้ง ESL และตั้งใจจะผลักดันให้ถึงที่สุด

เมื่อวันอาทิตย์เย็น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ ESL (thesuperleague.com) ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ 12 สโมสรชั้นนำของยุโรป ออกมาร่วมกันประกาศถึง ข้อตกลงร่วมกันในการสร้าง การแข่งขันกลางสัปดาห์ ‘the Super League’ อันเดรีย อันเญลลี่ ประธานสโมสร ยูเวนตุส , โจเอล เกลเซอร์ ประธานสโมสรร่วม แมนยูไนเต็ด, และประธานสโมสร รีล มาดริด ‘ฟลอเรนติโน เปเรซ’ ล้วนต่างออกแถลงการณ์เชิงสนับสนุนการก่อตั้ง ESL

นอกจากนั้น ESL ยังได้จ้าง ‘InHouse Communications’ ซึ่งเป็นเอเจนซี่ดูแลเกี่ยวกับกิจการสาธารณะ มาช่วยดูแลเรื่องการโปรโมท ESL โดยที่ประธานของ InHouse คือ ‘เคที เพอร์เรียร์’ ซึ่งเคยเป็น หัวหน้าทีมฝ่ายสื่อสาร ของ ‘เทเรซ่า เมย์’ ในช่วงที่เธอยังเป็น นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ รวมถึงยังเคยทำงานร่วมกับ ‘บอริส จอห์นสัน’ ในแคมเปญหาเสียงอีกด้วย

12 สโมสร ที่เห็นด้วยกับ ESL ต่างทะเยอทะยาน ในการที่จะนำสโมสรเข้า ESL อีก 3 สโมสร ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า อีกสามสโมสรที่เหลือ คือ บาเยิร์น มิวนิก, ดอร์ทมุนด์, และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่างไรก็ตาม 3 สโมสรนี้ ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอจาก ESL

ไอเดียหลักของ ESL คือการมี 15 สโมสรเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง ซึ่งจะทำการแข่งขันในทุกฤดูกาล โดยไม่ดูผลงานลีกในประเทศ และอีก 5 สโมสร จะเป็นการเปิดให้ทีมอื่นๆแข่งคัดเลือกเพื่อเข้าร่วม ณ ตอนนี้ ESL ยังไม่ออกมาประกาศชัดเจนถึงเกณฑ์การคัดเลือกอีก 5 สโมสร
_______________________________________________________________________
ใครเป็นต้นคิดของ ESL ?

ย้อนไปเมื่อปี 2009 ประธานสโมสร รีล มาดริด ‘ฟลอเรนติโน เปเรซ’ ได้มีอุดมการณ์ในการจัดตั้งการแข่งขันฟุตบอลยุโรป รูปแบบใหม่ขึ้น เขากล่าว่า “พวกเราควรที่จะยอมรับ ESL ซึ่งการันตีว่าทีมที่ดีที่สุด จะเจอกับทีมที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในบางครั้งกับแชมป์เปี้ยนส์ลีก”

สิ่งที่เปเรซพูด กลายมาเป็นหัวใจสำคัญในการจัดตั้ง ESL หนึ่งในอดีตผู้บริหาร ของแมนยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดเผยว่า “เมื่อครอบครัวเกลเซอร์เข้ามาบริหาร พวกเขารับรู้ว่าฟุตบอลในระดับสูงที่สุด คือฟุตบอลยุโรป และการทำให้สินทรัพย์ของพวกเขามีมูลค่าสูงที่สุด ต้องทำบนเวทีฟุตบอลยุโรปเท่านั้น นั่นหมายถึงเกมส์การแข่งขันระหว่างทีมฟุตบอลระดับท็อปของยุโรป มันชัดเจนจากมูลค่า การเติบโต และอนาคต ที่จะเกิดขึ้นในแมตช์อย่าง บาร์เซโลน่า-ลิเวอร์พูล เมื่อเทียบกับเกมส์ระหว่าง วัตฟอร์ด-เบิร์นลี่ย์”

จากแหล่งข่าวหลายแหล่ง เหล่าผู้อยู่เบื้องหลังหลักในการผลักดัน ESL คือ รีล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, และ อาร์เซน่อล แถลงการณ์ของ ESL บอกว่า เปเรซ จะเป็นประธานของลีก ในขณะที่ โจเอล เกลเซอร์ และ อันเดรีย อันเญลลี่ จะเป็นรองประธานลีก

-มีรายงานเข้ามาเพิ่มเติมอีกเช่นเดียวกันว่า จอห์น เฮนรี่ (ลิเวอร์พูล) และ สแตน โครเอนเก้ (อาร์เซน่อล) จะได้รับตำแหน่งรองประธานกรรมการของ ESL

-แรงสนับสนุนยังมาจาก ‘ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส’ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีถ้วยรายการสำคัญแค่ 2 ถ้วย นับตั้งแต่ปี 1991 แต่มูลค่าของสเปอร์สในเชิงพาณิชย์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากสนามใหม่, สารคดีของพวกเขาใน Amazon Prime, การจ้างกุนซือ อย่างโจเซ่ มูรินโย่ นั้นทำให้ โปรไฟล์สโมสรในเชิงพาณิชย์ ก้าวกระโดดอย่างมาก เมื่อเอามารวมกับผลงานที่ดีใน แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ในช่วงหลายปี ทำให้สเปอร์ส ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ESL

-แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี ได้เข้าร่วมกับ ESL ในภายหลัง

-บาร์เซโลน่ามีหนี้เกินกว่า 1 พันล้านยูโร ในขณะที่หนี้ของรีล มาดริด มีมูลค่าเกินกว่า 900 ล้านยูโร ESL ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดใจอย่างมาก เมื่อดูจากหนี้ของสโมสรที่มีอยู่

-ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, และ เอซี มิลาน ได้ตกลงเข้าร่วมภายหลัง โดยแหล่งข่าวอธิบายว่าจุดยืนของพวกเขา มาจากความล้มเหลวของ เซเรีย อา ในการเจรจา ดีลการถ่ายทอดสด ซึ่งพวกเขาเซ็นสัญญากับ DAZN มูลค่าประมาณ 840 ล้านยูโรต่อฤดูกาล ตั้งแต่ปี 2021 -2024 ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ลดลง เมื่อเทียบกับสัญญาก่อน

_________________________________________
รูปแบบการแข่งขันของ ESL


ESL จะเริ่มแข่งขันในเดือนสิงหาคม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10 ทีม
โดยการแข่งรอบแบ่งกลุ่มจะเป็นการแข่งแบบพบกันหมด (เหย้า-เยือน) ทีมอันดับ 1-3 จะเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอัตโนมัติ ทีมอันดับ 4 และ 5 จะต้องแข่งเพลย์ออฟเพื่อเข้าสู่รอบ 8 ทีม จากนั้นจะเป็นการแข่ง น็อค-เอาท์ แบบเหย้า-เยือน และรอบชิงชนะเลิศหนึ่งนัด ที่สนามกลาง

ขอย้ำอีกรอบว่า ณ ตอนนี้ 12 สโมสรที่ตกลงเข้าร่วม ESL ล้วนตกลงที่จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันของ UEFA เช่น ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก หรือ ยูโรป้า ลีก หาก ESL เกิดขึ้นจริง
______________________________________

ทำไมถึงต้องจัดตั้ง ESL ?

สโมสรผู้ก่อตั้ง ESL ไม่ว่าจะในอังกฤษหรือยุโรป ต่างต้องการให้มันเกิดขึ้นด้วยเหตุผลเดียว - เงินจำนวนมหาศาล

และถ้าคุณเห็นด้วยกับคนจำนวนหนึ่งที่คิดว่า ESL เป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับฟุตบอล, แรงจูงใจและความเป็นได้ในวันนี้ มันเหมือนกับในปี 1992, ตอนที่ พรีเมียร์ ลีก ถูกก่อตั้งขึ้น และ ยูโรเปี้ยน คัพ เลิกเป็นรายการแข่งแบบ น็อค-เอาท์ เพียงอย่างเดียว

ในทางทฤษฏี เหล่าสโมสรชั้นนำของโลกสามารถสร้างการแข่งขันใหม่ขึ้นมาได้
และดึงดูดผู้ถ่ายทอดสด + สปอนเซอร์ และยังสามารถเล่นในสนามเต็มความจุได้ เพราะสโมสรเหล่านี้เป็นสโมสรที่มีแฟนๆติดตามเยอะที่สุด มีแบรนด์ที่เข้มแข็ง และผู้เล่นระดับท็อป ทำไมสโมสรเหล่านี้ถึงไม่สามารถหาประโยชน์มากขึ้นจากสิ่งเหล่านี้ล่ะ? ทำไมสโมสรชั้นนำต้องคอยแข่งกับสโมสรที่แรงดึงดูดน้อยกว่าล่ะ?

นี่เป็นข้อโต้แย้งที่เหล่าสโมสรชั้นนำของอังกฤษหยิบยกขึ้นมา เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ณ ตอนนี้ ดอกเบี้ยแทบจะเป็น 0%, มันไม่น่าจะมีปัญหาในการโน้มน้าวแบงค์ หรือบริษัทลงทุนในบริษัทนอกตลาด (Private equity firm) ให้การันตีรายได้ แทนรายได้ที่สูญเสียไปจาก UEFA จนกว่า ESL จะสามารถปิดดีลกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุนใน ESL ให้เป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่กว่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก

ในเรื่องของแรงจูงใจน่ะเหรอ? มันเป็นธรรมชาติของสโมสรชั้นนำ ที่จะอยากได้เงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเสนอให้เท่าไหร่, หรือทำให้พวกเขาเข้าสู่การแข่งขันได้ง่ายแค่ไหน, หรือให้พวกเขาเล่นกี่เกมส์ จนกว่าพวกเขาจะตกรอบ, สโมสรชั้นนำต่างต้องการมากกว่านี้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ความต้องการของสโมสรชั้นนำต่างเพิ่มสูงขึ้น จากผลขาดทุนเป็นพันล้านปอนด์ เมื่อมอง Model ของ กีฬาอเมริกัน อย่าง NBA ซึ่งเป็นลีกปิด เม็ดเงินมหาศาลที่วางอยู่ข้างหน้ามันอาจเกินต้านทาน
__________________________________________

นอกจากนั้น เหล่าสโมสรผู้ก่อตั้ง ESL ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า “หลังจาก ESL สำหรับนักฟุตบอลชายได้เกิดขึ้นแล้ว ESL สำหรับฟุตบอลหญิงจะถูกก่อตั้งโดยเร็วที่สุด’ ยังไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมที่ชัดเจนสำหรับฟุตบอลหญิง และทีมฟุตบอลหญิงของลิเวอร์พูล - ซึ่งจะถูกดันขึ้นมาใน ESL แต่ ตอนนี้ยังอยู่แค่ลีกรองของอังกฤษ อีกทั้งยังไม่มีชื่อของ สโมสร โอลิมปิก ลีญง ซึ่งมีทีมฟุตบอลหญิงเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก มาห้าปีติด

ในวันนี้ UEFA ได้มีกำหนดการที่จะเซ็นปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน UCL ในปี 2024 จากรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม เป็น 36 ทีม ในรูปแบบ ‘Swiss Model’ โดยที่แต่ละทีมจะเล่นทั้งหมด 10 นัด (เหย้า 5 เยือน 5) โดยที่ตารางแข่งขัน จะขึ้นอยู่กับลำดับของทีม (แต่ละทีมจะถูกจัดอันดับ ตั้งแต่ อันดับ 1-36) ทีมที่ดีที่สุด 8 ทีม จะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอัตโนมัติ และอีก 16 ทีมที่อันดับรองลงมาจะต้องแข่ง เพลย์ ออฟ เพื่อแย่งชิง 8 ที่สุดท้าย

อย่างไรก็ตาม การประชุมนี้ถูกเลื่อนออกไปหลังจากที่ สมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ECA) ยังไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยน

เชื่อกันว่าจุดพลิกผัน ไม่ใช่การไม่เห็นด้วยกับรูปแบบการแข่งขันใหม่ แต่เหล่าสโมสรชั้นนำแห่งยุโรป อยากได้ส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้น จากการถ่ายทอดสดและข้อตกลงเชิงพาณิชย์ จาก UCL ซึ่งความหวังของ UEFA ในการปิดดีลนี้อยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก หลังจาก 12 สโมสรได้ประกาศถึงความตั้งใจในการจัด ESL

แหล่งข่าวยังได้รายงานในเย็นวันอาทิตย์ว่า สโมสรใน UEFA ต่างไม่เห็นด้วยกับ’ Swiss Model’ โดยเชื่อว่าแผนนี้เป็นแผนที่เน้นปริมาณ มากกว่าคุณภาพ แหล่งข่าวยังเผยอีกว่างานวิจัย แสดงให้เห็นว่าเหล่าผู้ชมอายุน้อย อยากเห็นการเจอกันระหว่างทีมใหญ่ เพิ่มมากขึ้น และ ESL กำลังตอบสนองถึงความต้องการเหล่านั้น

คาดการณ์ว่า เหล่า 15 สโมสรผู้ก่อตั้งของ ESL จะได้รับเงินถึง 3.5 พันล้านยูโร
ซึ่งจุดมุ่งหมายคือ การนำเงินเหล่านี้มาหักลบ งบที่ขาดทุนจากเหตการณ์ covid-19 และสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สโมสรเหล่านี้ยังออกมาโต้เถียงว่า ESL ไม่ใช่ลีกที่เกิดขึ้นมาจากความละโมภ โดย ESL มีแผนที่จะสนับสนุนฟุตบอลยุโรป (European Football Pyramid) เป็นจำนวนเงินรวมกว่า หนึ่งหมื่นล้านยูโร ในอีก 23 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่า UEFA

แหล่งข่าวมีการเผยเพิ่มเติมว่า เอกสารข้อตกลงของ ESL ที่ได้แจกจ่ายให้แก่สโมสรผู้ก่อตั้ง ยังเป็นแค่ ‘ข้อตกลงในประเด็นหลัก’ และ ‘บันทึกความเข้าใจ (MOU)’ เท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะผลักดัน ESL อย่างมีนัยยะสำคัญ ด้วยสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ความคืบหน้าของ ESL ทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมา เกิดขึ้นในกรุ๊ป WhatsApp ลับ และการประชุม Zoom ระหว่างเหล่ามหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของสโมสร

‘เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์’ ได้รายงานว่า สโมสรที่เข้าร่วม ESL จะได้รับเงิน สโมสรละ 400 ล้านยูโร จากการเข้าร่วม ซึ่งมากกว่าเงินรางวัลจากการเป็นผู้ชนะ UCL ถึงสี่เท่า โดยที่โปรเจกต์ ESL ได้คืบหน้าถึงขนาดที่ สโมสรผู้ก่อตั้ง ได้มีการพูดคุยกับ Investment Banking อย่าง ‘JP Morgan’ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับครอบครัวเกลเซอร์ ผู้เป็นเจ้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และยังเป็นนายจ้างเก่าของรองประธานสโมสรอย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด อีกด้วย

ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครจะได้ถือครองลิขสิทธ์ถ่ายทอดสดของ ESL หลังจากที่ DAZN ออกมาปฏิเสธเมื่อวันอาทิตย์ มีการคาดการณ์จากแหล่งข่าวอื่นๆว่า บริษัทยักษ์ใหญ่แห่ง streaming services อาจจะกระโดดเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์หลัก
_______________________________________________________________________
ผลตอบรับของการจัดตั้ง ESL ประทุขึ้นมาอย่างรุนแรงทั่วโลก

-PSG ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้ง ESL โดยสิ้นเชิง
-บาเยิร์น มิวนิก และ ดอร์ทมุนด์ ยังไม่มีความคืบหน้า ในการตกลงเข้าร่วม ESL

ในวงการเมืองแห่งโลกฟุตบอล แหล่งข่าวหลายแหล่งรายงานว่า สโมสรจำนวนมากในยุโรป ได้สูญเสียความเชื่อมันในตัว ’อันเดรีย อันเญลลี่’ และ ‘เอ็ด วู้ดเวิร์ด’

- ’อันเดรีย อันเญลลี่’ ได้ลาออกจากการทำหน้าที่ใน UEFA และสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ECA) เมื่อวันอาทิตย์ตอนค่ำ

หลังจากนั้น UEFA ได้ร่วมกับ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ, พรีเมียร์ลีก, ราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน, ลาลีก้า, สมาพันธ์ฟุตบอล อิตาลี และ เซเรีย อา ได้ออกมาประณามการจัดตั้ง ESL โดยได้ร้องขอให้มีบทลงโทษทั้งทางกีฬาและกฏหมายแก่สโมสรที่เข้าร่วม ESL รวมถึงการแบนจากการแข่งลีกในประเทศ, ห้ามร่วมแข่งขันรายการของ UEFA, และทัวร์นาเมนท์ทีมชาติอีกด้วย

พรีเมียร์ ลีก ได้ส่งจดหมายให้ 20 สโมสรในลีก ในวันอาทิตย์ และขอให้เหล่า ‘Big Six’ ถอนตัวจาก ESL ก่อนจะเกิดความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ นอกจากนั้นยังย้ำอีกว่าการที่จะจัดตั้ง ESL ได้นั้น ต้องได้รับการยินยอม จาก พรีเมียร์ ลีก เสียก่อน เหล่าผู้ถือลิขสิทธ์ในการถ่ายทอดสด ยังเตรียมที่จะดำเนินการทางกฏหมายกับสโมสรที่หนีไปจัดตั้ง ESL โดยเชื่อว่า มูลค่าการถ่ายทอดสด จะลดลงอย่างมหาศาล หากไม่มีสโมสรเหล่านี้อยู่

- ตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ‘แกรี่ เนวิลล์’ ผู้เป็นพิธีกรของ Sky Sports ได้ประณาม ESL ว่า ‘นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวอย่างแท้จริง’
- เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีม และหนึ่งในสมาชิกบอร์ดบริหาร ออกมาสนับสนุนฝั่งตรงข้ามของ ESL โดยบอกว่า ‘ESL เป็นการก้าวถอยหลังไป 70 ปี จากการเติบโตของฟุตบอลยุโรป’ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ที่ เซอร์ อเล็ก ได้ออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับสโมสรที่ละเอียดอ่อน
-บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษทวีตว่า ‘แผนของ ESL จะทำลายฟุตบอลโดยสิ้นเชิง และเราสนับสนุนให้ผู้มีอำนาจดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ ESL จะทำลายการแข่งขันในประเทศ และจะทำลายแฟนๆทั่วโลก’
——————————————

ESL มาถึงจุดนี้ได้ยังไง ?

ถึงจะมีเสียงบางส่วนเรียกร้องให้ปล่อยสโมสรเหล่านี้ไปจัด ESL, UEFA รู้ดีถึงผลกระทบอันมหาศาล สโมสรเล็กๆในยุโรป หลายสโมสร ดำรงอยู่ได้ จากเงินเข้าร่วมแข่งขันในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก

แม้กระทั่ง พรีเมียร์ ลีก ซึ่งเป็นลีกแข่งขันรายปี ที่ร่ำรวยที่สุด ก็ยังเข้าใจว่า ขนาดสโมสรเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อนำมาคิดในสัญญาการถ่ายทอดสด ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถปล่อยสโมสรยักษ์ใหญ่ไป และคิดว่าลีกของพวกเขาจะยังดำเนินการได้ดีเหมือนก่อน

ในปี 2018-2019 ยอดผู้ชมของ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้ตกลงไปจากค่าเฉลี่ย (2 พันล้านคน ในปี 2014-2017) โดยมียอดผู้ชมแค่ 1.3 พันล้านคนเท่านั้น ยอดผู้ชมจากทีวียังตกลงไป 35 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ ยูโรป้า ลีก ตกไป 17 เปอร์เซ็นต์

เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่ผู้ก่อตั้ง ESL ล้วนต้องการที่จะขาย ลิขสิทธ์การถ่ายทอดสด, สปอนเซอร์, และควบคุมรูปแบบของการแข่งขัน พูดได้ว่า ESL จะเป็นการยกระดับสโมสรเหล่านี้ขึ้นมาอีกมหาศาล
______________________________________
ESL จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของ UEFA อย่างแท้จริง

หาก ESL เกิดขึ้นจริง รายการฟุตบอลของ UEFA จะล้าหลัง และพวกเขาจะสูญเสียทุกอย่าง โดยมีการคาดการณ์ในวงในว่า ท้ายที่สุดแล้ว UEFA จะสามารถปิดดีลกับสโมสรยักษ์ใหญ่ได้ เพราะการที่สโมสรชั้นนำออกมาเรียกร้องผลประโยชน์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน

แต่หากพวกเขาไม่สามารถตกลงกันได้ เรื่องทั้งหมดจะถูกนำเข้ากระบวนการในชั้นศาลต่ออย่างแน่นอน.



Source
Spoil
https://theathletic.com/2527261/2021/04/19/european-super-league-explained-the-contracts-plots-and-threats-that-shook-football-to-its-core/  
 
แก้ไขล่าสุดโดย Forever Faithful เมื่อ Tue Apr 20, 2021 03:01, ทั้งหมด 2 ครั้ง
49
0
หากโดน 84 เรื้อน จะถูกแบน
Canarinha , สำรวย , Allez Les Bleus , judass_stanley , iboommm , purena , kimsung-mc , elkapiton , แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย , *SuGaRTEA* , BankNT , Fabrizio Ravanelli , Legend18 , isabeau , Kucco , ph4izz , GrootZilla , bankiggs , Mistlestoe , wazenteq , tatunafa , PapaRAzCHey , John teddy , Miss_im_sim , เบน ฟรีคิก , ChaYen , Delicious123 , Markky , #1ในมาแรง , เซซาร์ อัดกะปิส่งคุณย่า , SZlatanX , Q-plint , MATTIFLYING , Destiny6 , hopkins , IceMono , natz , DosKiller , Arttillo , arch504636 , Ezart , 12ooney8 , มนุษย์แกะ , Blue Sh!t , sheepanda10 , PlayMaKerZ , Skyfall007 , Luxiaofeng323 , Balast
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker
ออฟไลน์
คนอวดเมียเพื่อน
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 884
ที่อยู่: บ้านเพื่อน
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 02:11
ถูกแบนแล้ว
Top Comment [RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
Forever Faithful พิมพ์ว่า:
Borini 29 พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย

สรุปไม่ว่าออกหน้าไหน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ  


มองได้สองด้านเลยครับผมว่า ในด้านของแฟนบอลที่่ติดตามสโมสรชั้นนำ มันคุ้มค่าแน่นอน กับรายการกลางสัปดาห์ที่จะได้ดูแต่ทีมระดับท็อปของโลกเจอกันในทุกนัด แต่อีกด้านคือ หาก ESL เกิดขึ้นจริง มีสิทธ์ที่จะทำลายระบบนิเวศในวงการฟุตบอลโดยสิ้นเชิงเลยครับ เพราะช่องว่างระหว่างสโมสรระดับท็อปกับสโมสรที่เล็กกว่าในประเทศมันจะยิ่งกว้างขึ้นไปอีก โอกาสที่เราจะได้เห็นความสุดยอดอย่าง แชมป์ของเลสเตอร์ ในปี 2015-2016 เรียกได้ว่าแทบจะไม่มี นักเตะระดับท็อปก็คงอยากย้ายไปอยู่ทีมที่ได้แข่งขันใน ESL อย่างเดียว และอีกหลายมุมที่ไม่ได้พูดถึง เอาเป็นว่ามารอดูกันยาวๆครับ 55555  


ตอนแจ๊คกี้ถามตังกุยว่า ถ้าคุณเป็นนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีแต่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรมากมายแล้วถูกชักชวนด้วยเงินเริ่มต้นที่ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่กลับไปเล่นในระบบเก่าไม่ได้แล้ว (ถ้าเอาออกกฎมา) กับ ไปเริ่มต้นกับทีมที่อยู่ในระบบ UEFA หรือ FIFA ที่สามารถเล่นเพื่อเอาเกียรติยศอะไรต่ออะไรได้ โดยเริ่มต้นที่ 1,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จะเลือกแบบไหน ตังกุยแกตอบ เอาเงินสิครับ 555+

ใจนึงก็อยากให้มีแต่อีกใจก็ไม่อยากปะปนกันไป แต่ผมบอกได้เลยว่ากีฬาที่เป็นที่นิยมในโลกตอนนี้มันกลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะฟุตบอล บาส กอล์ฟ เทนนิส ฯลฯ ซึ่งพอมันเป็นธุรกิจมันก็ต้องขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น เอาแค่จุดเริ่มต้นก่อนเลยว่าพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นนักกีฬาทุกวันนี้ถ้าดังปลายทางก็คือเงินทั้งนั้น เกียรติยศประวัติศาสตร์ผมว่ามันก็ต้องเริ่มจาก 0 เนี้ยแหละ เด๋วพอตั้งไปสักพักคนก็จะเอาแชมป์ ESL มาบัพกันล่ะ ถึงแม้คนรุ่นเก่าจะบอกว่ามันเป็นแชมป์อัปยศหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าลืมว่าพอพวกคุณล้มหายตายจากไป คนรุ่นใหม่เขาเกิดมาเจอสิ่งที่เป็นปัจจุบันเขาก็จะอินกับแบบนี้แหละจากรุ่นสู่รุ่นกันไปเอง
14
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Forever Faithful , ToRaZzZ , tatunafa , สำรวย , zasd , Arttillo , Ezart , Dukies , 12ooney8 , sheepanda10 , Luxiaofeng323 , Balast , code&lens , kokoriko
My Locker
ออฟไลน์
Forever Faithful
นักเตะท้ายซอย
Status: Zen.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 40
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:30
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
อันนี้ยังแค่ครึ่งเดียว จาก The Athletic นะครับ บทความยาวมาก ใครคิดเห็นยังไงมาแชร์กันครับ ส่วนตัวผมคิดว่าผลประโยชน์กับเกมการเมืองฟุตบอลล้วนๆครับ และสโมสรเหล่านี้จะใช้ ESL เป็นข้อต่อรองในการเรียกร้องข้อเสนอที่ดีขึ้น จาก UCL

หากยังตกลงกันไม่ได้ อีกยาวแน่ๆครับเรื่องนี้
แก้ไขล่าสุดโดย Forever Faithful เมื่อ Tue Apr 20, 2021 01:33, ทั้งหมด 1 ครั้ง
9
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สำรวย , MidFieldz- , isabeau , wazenteq , John teddy , Minji , natz , Blue Sh!t , sheepanda10
My Locker
ออฟไลน์
สำรวย
แข้งลีกเอิง
Status: คนเราถึงจะเปลี่ยนสถานะเเต่นิสัยน่ะ ไม่เปลี่ยนหรอก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 23 Jul 2020
ตอบ: 4129
ที่อยู่: แจ้งวัดเถอะนะ
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:38
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
Forever Faithful พิมพ์ว่า:
อันนี้ยังแค่ครึ่งเดียว จาก The Athletic นะครับ บทความยาวมาก ใครคิดเห็นยังไงมาแชร์กันครับ ส่วนตัวผมคิดว่าผลประโยชน์กับเกมการเมืองฟุตบอลล้วนๆครับ และเหล่าสโมสรเหล่านี้จะใช้ ESL เป็นข้อต่อรองในการเรียกร้องข้อเสนอที่ดีขึ้น จาก UCL  

ส่วนตัวผมว่ามาขนาดนี้คงไม่ใช้ต่อรองแล้วครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยพูดเคยประชุมกันมาแล้ว
เงินมันดีกว่าเห็นๆเลย ส่วนเรื่องวัฒนธรรมแฟนบอลท้องถิ่นผมว่าเขาไม่สนหรอกครับ เตะที่บ้านแล้วไงไม่มีคนดูก็ไปเตะที่ ชิคาโก้ ก็ได้ ไปเตะที่ เซี่ยงไฮ้ ก็ได้แฟนบอลเต็มสนามแน่ๆผมว่า มันบ่มเพาะมาจนไม่ไหวแล้วหละครับ ยิ่งเป็นชาวงโควิดอีก นักธุรกิจทั้งนั้นเลยครับเจ้าของทีม พวกตำนานสโมสร ไม่ได้มานั่งบริหารอยู่แล้วครับ ผมว่ายังไงตอนนี้มันเลยขั้นการต่อรองไปแล้วครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Red_Duckza

โปรดอย่าบุลลี่ และดูหมิ่นกัน
" I'm proud to say , I'm a Liverpool Fan. "

#FSGOUT
My Locker
ออฟไลน์
Borini 29
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4903
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:38
ถูกแบนแล้ว
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย

สรุปไม่ว่าออกหน้าไหน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Forever Faithful , WORLD_CLASS
My Locker
ออนไลน์
purena
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2006
ตอบ: 22620
ที่อยู่: ตามสำเนาทะเบียนบ้าน
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:42
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
มันต้องมีคนยอมถอยก่อนอ่ะ ถึงจะกลับโต๊ะเจรจาได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
elkapiton
นักเตะเทศบาล
Status: อาเซน่อลอยู่ในใจ บอลไทยอยู่ในสายเลือด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Oct 2013
ตอบ: 2259
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:43
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
ยังไม่ได้อ่าน กดแผล่บไว้ก่อน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


My Locker
ออฟไลน์
Forever Faithful
นักเตะท้ายซอย
Status: Zen.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 40
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:46
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
Borini 29 พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย

สรุปไม่ว่าออกหน้าไหน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ  


มองได้สองด้านเลยครับผมว่า ในด้านของแฟนบอลที่่ติดตามสโมสรชั้นนำ มันคุ้มค่าแน่นอน กับรายการกลางสัปดาห์ที่จะได้ดูแต่ทีมระดับท็อปของโลกเจอกันในทุกนัด แต่อีกด้านคือ หาก ESL เกิดขึ้นจริง มีสิทธ์ที่จะทำลายระบบนิเวศในวงการฟุตบอลโดยสิ้นเชิงเลยครับ เพราะช่องว่างระหว่างสโมสรระดับท็อปกับสโมสรที่เล็กกว่าในประเทศมันจะยิ่งกว้างขึ้นไปอีก โอกาสที่เราจะได้เห็นความสุดยอดอย่าง แชมป์ของเลสเตอร์ ในปี 2015-2016 เรียกได้ว่าแทบจะไม่มี นักเตะระดับท็อปก็คงอยากย้ายไปอยู่ทีมที่ได้แข่งขันใน ESL อย่างเดียว และอีกหลายมุมที่ไม่ได้พูดถึง เอาเป็นว่ามารอดูกันยาวๆครับ 55555
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
NOV07 , i7mago , GURUNUKE
My Locker
ออฟไลน์
warhammer
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 5657
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:50
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
ตอนนี้ผมว่าเลยขั้นต่อรองไปเรียบร้อยแล้วครับ
ฝั่งสโมสรใหญ่น่าจะขอคุยกับทางยูฟ่าก่อนแล้ว แต่ทางโน้นน่าจะไม่สนใจเลือกจะดันสวิสต์โมเดลเข้าใช้งานท่าเดียว ประกอบกับโควิด ทำให้หลายสโมสรมีความรู้สึกเหมือนออกเงินเลี้ยงวัวให้ชาวบ้านกิน แต่บ้านตัวเองไม่เหลืออะไรให้กิน สำหรับกลุ่มเจ้าของสโมสรยักษ์ใหญ่คงเป็นความแค้นเลยแหละที่เห็นยูฟ่ากอบโกยคอร์รัปชั่นจากหยาดเหงื่อเม็ดเงินของตัวเอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
Fabrizio Ravanelli
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2803
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:54
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
ไม่รุ้จะออกมาแบบไหน
ขอให้จบสวยๆละกันยิ่งช่วงนี้หัวเลี้ยวหัวต่อ
ของหลายทีมเลย กำลังแข่งกันมันๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
My Locker
ออฟไลน์
MidFieldz-
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Dec 2009
ตอบ: 833
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:57
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
กับการที่มีคนของสโมสร ตัวแทนของสโสร ไปนั่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งลีค ESL

ผมไม่เห็นโอกาสที่คนเหล่านี้จะยอมให้ทีมผู้ก่อตั้งกระเด็นออกจาก ESL

ส่วนตัวแล้วมองว่าไม่เป็นธรรมมากๆกับทีมอื่นในลีคที่ผลงานดีกว่าแต่ไม่ได้มาเพราะไม่ดัง

จะกลายเป็นว่าไม่ได้แข่งขันกันในสนามละ แข่งขันว่าใครการตลาดดีกว่ากัน ดังกว่ากัน

สมมติแมนยูฯ จบในลีคที่ 7 แต่ เวสแฮม เลสเตอร์ ลีดส์ จบอันดับที่ 3,4,5 ทีมเหล่านี้ตั้งหากที่สมควรได้เข้าไปเล่นในนั้นไม่ใช่แมนยูฯ

แล้วก็มันจะทำให้การแข่งขันที่สูง หรือ healthy competition ในระบบลีคของแต่ละประเทศลดน้อยลง บอลลีคจะสนุกน้อยกว่าเดิม

เพราะว่าไม่มีความจำเป็นที่ทีมเล็กจะพัฒนาทีมเพื่อให้ได้เข้าไปแข่งในรายการยุโรปที่อาจจะใหญ่ที่สุดที่รวมทีมชั้นนำไว้มากที่สุด ส่วนทีมใหญ่ก็ไม่ต้องเน้นมากเพราะได้ไปอยู่แล้ว ถ้าซีซั่นนั้นไม่ได้แชมป์จะเทเลยก็ได้ไม่ใช่ปัญหา

ส่วน Swiss Model ของ UEFA ก็เอาเปรียบทีมใหญ่เกินไป

สรุปก็คือ ผมไม่เห็นด้วยกับ ESL แล้วก็ไม่เห็นด้วยกับ UCL ใหม่ด้วย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Forever Faithful
My Locker
ออฟไลน์
คนอวดเมียเพื่อน
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 884
ที่อยู่: บ้านเพื่อน
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 01:57
ถูกแบนแล้ว
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
สำรวย พิมพ์ว่า:
Forever Faithful พิมพ์ว่า:
อันนี้ยังแค่ครึ่งเดียว จาก The Athletic นะครับ บทความยาวมาก ใครคิดเห็นยังไงมาแชร์กันครับ ส่วนตัวผมคิดว่าผลประโยชน์กับเกมการเมืองฟุตบอลล้วนๆครับ และเหล่าสโมสรเหล่านี้จะใช้ ESL เป็นข้อต่อรองในการเรียกร้องข้อเสนอที่ดีขึ้น จาก UCL  

ส่วนตัวผมว่ามาขนาดนี้คงไม่ใช้ต่อรองแล้วครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยพูดเคยประชุมกันมาแล้ว
เงินมันดีกว่าเห็นๆเลย ส่วนเรื่องวัฒนธรรมแฟนบอลท้องถิ่นผมว่าเขาไม่สนหรอกครับ เตะที่บ้านแล้วไงไม่มีคนดูก็ไปเตะที่ ชิคาโก้ ก็ได้ ไปเตะที่ เซี่ยงไฮ้ ก็ได้แฟนบอลเต็มสนามแน่ๆผมว่า มันบ่มเพาะมาจนไม่ไหวแล้วหละครับ ยิ่งเป็นชาวงโควิดอีก นักธุรกิจทั้งนั้นเลยครับเจ้าของทีม พวกตำนานสโมสร ไม่ได้มานั่งบริหารอยู่แล้วครับ ผมว่ายังไงตอนนี้มันเลยขั้นการต่อรองไปแล้วครับ  


ผมอยากให้เปลี่ยนนะ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว จะดีไม่ดีก็อีกเรื่อง แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเราก็ได้รู้กันไปว่าอนาคต การบริหารแบบ ESL กับทุกอย่างยังเหมือนเดิม (หรือค่อยๆเปลี่ยน) แบบ UEFA อันไหนจะอยู่ได้มั่นคงกว่ากัน ดีกว่ามานั่งเดาว่าเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนดี

ในโลกที่ใครจะคิดว่ามหาอำนาจโทรศัพท์อย่างโนเกียจะหายไปจากสารระบบ ซึ่งมันก็เกิดขึ้นไปแล้วเพราะโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆอยู่ตลอด ผมมองอย่างที่แจ๊คกี้วิเคราะห์ไว้นะก็คือ ยังไงก็แยกลีคทำแข่งคู่กันไป ก็ไปวัดเอาว่าแฟนท้องถิ่นจำนวนไม่เยอะที่มีความภักดีสูงกับแฟนทั่วโลกที่อาจจะมีสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง อันไหนจะทำให้สโมสรอยู่รอดกันแน่
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
สำรวย
My Locker
ออฟไลน์
AGGLE
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Apr 2009
ตอบ: 7408
ที่อยู่: เมอซี่ไซด์
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 02:00
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
มาถึงขั้นนี้แล้ว หวังว่าจะไปให้สุดนะ ไม่ใช่ว่ากลับลำมาตกลงดีลกันได้

สรุปแม่มกลับ ไปเตะUCLโมเดลเดิม แต่เพิ่มอัตราส่วนเงินรายได้ เพราะผลประโยชน์ลงตัว

ถ้าเป็นแบบนั้น ผมจะโคตรเกลียดขี้หน้าไอพวกผู้บริหารพวกนี้เลย

ไม่ต่างอะไรกับนักการเมือง ไร้อุดมการณ์ กลืนน้ำลายตัวเองเพื่อผลประโยชน์




ข้ามหัวแฟนบอลท้องถิ่นเสร็จ หลอกขายฝันแฟนบอลที่อยากดู ESL อีกชั้นนึง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Change is good, you never know exactly what to expect,
but if you go with the right attitude into that, then everything will be fine.
My Locker
ออฟไลน์
atta1979
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Aug 2010
ตอบ: 737
ที่อยู่: อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 02:04
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
มันคือธุรกิจ กำไร ผลตอบแทนมาก่อนเสมอ เม็ดเงินมหาศาล การ์ต้าจะยอมไหม ถ้าอิตาลี อังกฤษ จะใช้นักเตะทีม B ไปแข่งบอลโลก โปรตุเกตจะไม่มีโด้ สเปนขาดตัวหลักเพียบ อันนี้ยังดีที่ไม่รวมไปถึงแบนนักเตะทุกคนที่ลงรายการ ESL ไม่งั้น บอลโลกรอบนี้กร่อยแน่นอน FIFA เองคงไม่ยุ่งเรื่องนี้แน่ เพราะบอลโลกคือรายได้หลัก การ์ต้าเสียหายหนักแน่ แค่มีโควิดก็แย่อยู่ละ ยังมาเจอทีมแม่เหล็กหรือซุปตาร์หายอีกบาน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
JK
My Locker
ออฟไลน์
คนอวดเมียเพื่อน
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 884
ที่อยู่: บ้านเพื่อน
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 02:11
ถูกแบนแล้ว
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
Forever Faithful พิมพ์ว่า:
Borini 29 พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ อ่านเพลินเลย

สรุปไม่ว่าออกหน้าไหน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะ  


มองได้สองด้านเลยครับผมว่า ในด้านของแฟนบอลที่่ติดตามสโมสรชั้นนำ มันคุ้มค่าแน่นอน กับรายการกลางสัปดาห์ที่จะได้ดูแต่ทีมระดับท็อปของโลกเจอกันในทุกนัด แต่อีกด้านคือ หาก ESL เกิดขึ้นจริง มีสิทธ์ที่จะทำลายระบบนิเวศในวงการฟุตบอลโดยสิ้นเชิงเลยครับ เพราะช่องว่างระหว่างสโมสรระดับท็อปกับสโมสรที่เล็กกว่าในประเทศมันจะยิ่งกว้างขึ้นไปอีก โอกาสที่เราจะได้เห็นความสุดยอดอย่าง แชมป์ของเลสเตอร์ ในปี 2015-2016 เรียกได้ว่าแทบจะไม่มี นักเตะระดับท็อปก็คงอยากย้ายไปอยู่ทีมที่ได้แข่งขันใน ESL อย่างเดียว และอีกหลายมุมที่ไม่ได้พูดถึง เอาเป็นว่ามารอดูกันยาวๆครับ 55555  


ตอนแจ๊คกี้ถามตังกุยว่า ถ้าคุณเป็นนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีแต่ยังไม่มีชื่อเสียงอะไรมากมายแล้วถูกชักชวนด้วยเงินเริ่มต้นที่ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่กลับไปเล่นในระบบเก่าไม่ได้แล้ว (ถ้าเอาออกกฎมา) กับ ไปเริ่มต้นกับทีมที่อยู่ในระบบ UEFA หรือ FIFA ที่สามารถเล่นเพื่อเอาเกียรติยศอะไรต่ออะไรได้ โดยเริ่มต้นที่ 1,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จะเลือกแบบไหน ตังกุยแกตอบ เอาเงินสิครับ 555+

ใจนึงก็อยากให้มีแต่อีกใจก็ไม่อยากปะปนกันไป แต่ผมบอกได้เลยว่ากีฬาที่เป็นที่นิยมในโลกตอนนี้มันกลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะฟุตบอล บาส กอล์ฟ เทนนิส ฯลฯ ซึ่งพอมันเป็นธุรกิจมันก็ต้องขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น เอาแค่จุดเริ่มต้นก่อนเลยว่าพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นนักกีฬาทุกวันนี้ถ้าดังปลายทางก็คือเงินทั้งนั้น เกียรติยศประวัติศาสตร์ผมว่ามันก็ต้องเริ่มจาก 0 เนี้ยแหละ เด๋วพอตั้งไปสักพักคนก็จะเอาแชมป์ ESL มาบัพกันล่ะ ถึงแม้คนรุ่นเก่าจะบอกว่ามันเป็นแชมป์อัปยศหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าลืมว่าพอพวกคุณล้มหายตายจากไป คนรุ่นใหม่เขาเกิดมาเจอสิ่งที่เป็นปัจจุบันเขาก็จะอินกับแบบนี้แหละจากรุ่นสู่รุ่นกันไปเอง
14
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Forever Faithful , ToRaZzZ , tatunafa , สำรวย , zasd , Arttillo , Ezart , Dukies , 12ooney8 , sheepanda10 , Luxiaofeng323 , Balast , code&lens , kokoriko
My Locker
ออฟไลน์
Kucco
แข้งเจลีก
Status: N1G 11/22
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2016
ตอบ: 7454
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
โพสเมื่อ: Tue Apr 20, 2021 02:21
[RE: อธิบายที่มาที่ไปของ ESL แบบละเอียดยิบ !!! (1)]
อ้างอิงจาก:
สโมสรที่เข้าร่วม ESL จะได้รับเงิน สโมสรละ 400 ล้านยูโร จากการเข้าร่วม ซึ่งมากกว่าเงินรางวัลจากการเป็นผู้ชนะ UCL ถึงสี่เท่า  

เย้ายวนเหลือเกิน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ꜰɪɴᴏ ᴀʟʟᴀ ꜰɪɴᴇ ⚪⚫
My Locker
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกบอร์ด >> บอลนอก
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel