วันนี้ผมขอนำเสนอเรื่องราวของ Steve Francis ที่เล่าถึง Yao Ming และก็หวังว่าจะถูกใจแฟนบาสรุ่นเก๋านะครับ
My Brother Yao
อยากจะบอกว่า Yao Ming ทำลายช่วงเวลาพักร้อนในปี 2002 ของผม ซะป่นปี้ และตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้ “ขอบคุณ Yao เลย ที่ทำลาย Summer อันแสนสุขของผม 555+”
เรื่องราวนั้นเริ่มต้นจาก “Rudy Tomjanovich หรือ Coach T แต่พวกเราชอบเรียกเค้าว่า “Rudy”
ในฤดูกาลก่อนที่ Yao Ming จะเข้ามานั้น มันเป็นฤดูกาลที่ย่ำแย่มากๆ แฟนๆ Rockets ก็คงจำกันได้ พวกเราชนะแค่ 28 เกมส์เอง แล้วก็ไม่ได้เข้า Playoffs และ ช่วงเวลา สมัย Hakeem Olajuwan นั้นก็ไม่มีอีกแล้ว ผมลองนึกย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น ว่า ผมเคยขับรถไปรอบๆ เมือง และเห็นป้าย บิลบอร์ดรอบเมืองเป็นรูปของผม ผมจอดรถแล้วก็ต้องมาจูนสมองใหม่ แล้วคิดว่า Franchise ของพวกเราเป็นที่ๆ แย่มากๆ
ในช่วงเดือน กรกฎาคม ของปีนั้น พวกเราได้ประชุมทีมกันแล้วว่าจะไม่ไปพัก Summer กัน พวกเราจะซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อม เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับ ฤดูกาลที่จะมาถึง แต่แล้ว พอซ้อมไปได้สักพักนึง โค้ชของเรา Rudy ก็เดินเข้ามาใน Lockers Room ผมดูท่าทีของเค้าแล้ว ดูเค้าไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร จากนั้นเค้าก็จ้องเขม็งมาที่พวกเราแล้วบอกกับพวกเราว่า “ ไม่ต้องซ้อมแล้ว กลับบ้านไป กลับไปซ้อมที่บ้านพวกแกโน้น”
อย่างที่ผมพูดไป โค้ช Rudy ดูไม่ค่อยสบอารมณ์ แล้วไล่ให้พวกเราไปซ้อมกันเอง แต่ผมก็คิดว่าน่าจะไปพักร้อนสักหน่อย ร่างกายผมยังรู้สึกเหนื่อยจากฤดูกาลที่แล้วอยู่เลย อีกทั้งผมก็ยังต้องการที่จะกลับไปหาครอบครัวของผมด้วย ผมก็เลยบินกลับบ้าน แต่พอผ่านไปได้อาทิตย์นึง โค้ช Rudy, Les Alexander, เจ้าของทีม และ GM Carroll Dawson โทรเรียกผมให้กลับมาที่ Houston โดยเร็วที่สุด ผมก็ตอบพวกเค้าไปว่า “ โอ้วพระเจ้า ผมพึ่งเริ่มพักร้อนเองนะมีอะไรหรอ”พวกเขาก็ตอบแค่ว่า ถ้าถึงสนามบินแล้วก็โทรหาพวกเขาด้วย จะไปรับ …..แล้วเค้าก็วางหูไป
ในตอนนั้นผมไม่ได้กังวลเรื่อง สัญญา หรืออะไรเลย แต่ผมคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ แน่ๆ พอผมไปถึงที่ Office พวกเขากำลังนั่งดูเทปเกมส์การแข่งขันกันอยู่ ซึ่งพวกเขาพึ่งกลับจาก NBA combine ที่ Chicago มา
ผมก็เลยตอบแบบกวนตีนไปว่า “นี้เรียกผมมาดู เทป ใช้ไหมเนี่ย”
แล้ว Les ก็พูดว่า “ดูคนนี้สิ”
จากนั้นผมก็นั่งดู ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็น Yao Ming เล่น ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับเค้ามาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายนัก อย่างที่ทราบกันว่า ตัวผู้เล่นต่างชาติที่มา Combine นั้นล้วนแล้วแต่ โฆษณาเกินจริงทั้งนั้นบางคนก็ไม่ได้เก่งจริง อีกทั้งบ้างคนก็ จบไม่สวยซะด้วย
หลังจากที่ได้ดู เทปการแข่งขันของ Yao Ming ไปหลายม้วน ผมก็ขอยอมรับว่า นี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูเทปเยอะขนาดนี้ และขอจำแนกว่า 1) ดูเทปมากๆ โคตรน่าเบื่อเลย 2) มันเป็นอะไรที่ยากถ้าจะบอกว่าเค้าเก่ง จากการแค่ดูเทป 3) ในชีวิตของผมไม่มี ดาวรุ่งคนไหนทำให้ผมประทับใจได้เลย ยกเว้น Yao Ming
ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่เคยเห็นใครสูงใหญ่ขนาดนี้ที่มีทักษะแบบเค้า ผมเห็นเค้า ชูตสามแต้ม และเคี้ยวคู่ต่อสู้เหมือนขนม ยังมีอีก เค้ายังวิ่งขึ้นลงได้สบายๆ ไม่เหมือนคนตัวใหญ่คนอื่นที่ดูอุ้ยอ้าย และเวลาเล่นวงในการจับบอลอันนุ่มนวล การโพสมูฟ และการเลี่ยงบอล ผมทึ้งมากๆกับทักษะที่เค้ามี
หลังจากที่ดูเทปของ Yao เสร็จ พวกเราก็พูดกันถึงอนาคตของทีมกัน ว่าถ้าเรามี Yao เราจะเป็นยังไงในอนาคตกัน มันไม่ใช้แค่ปีนี้หรือปีหน้า แต่จะเราพูดกันถึงอีกหลายปีนับจากนี้ หลังจากนั้นผมก็บินกลับบ้าน ในระหว่างที่ผมพักร้อนอยู่นั้น ผมก็คิดเรื่อง Yao Ming อยู่ตลอดเวลา ว่าถ้าเรามี Yao ทีมเราจะเป็นยังไง ในตอนนั้นพวกเราต้องรอลุ้นใน Lottery Draft กันถ้าใครได้อันดับ 1 ก็ต้องเลือก Yao แน่ๆๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก โค้ช Rudy โทรมาอีกครั้ง
แล้วบอกกับผมว่า “ฉันต้องการให้แกไปโผล่ในวันจับฉลาก Lottert Draft”
ผมก็อึ้งไปสักพัก แล้วผมก็ตอบไปว่า “ไม่นะ นี้มันซัมเมอร์ของผม ผมกำลังชิวกับครอบครัวผมอยู่เลย”
จากนั้นเค้าก็ตอบกลับผมมาว่า “โทรหากูด้วย ถ้าถึงแล้ว”ก็ตามนั้นละครับ
แล้วผมก็ต้องบินอีกครั้ง แล้วผมก็รีบไปขึ้นเครื่องพร้อมด้วยชุดสูต Laveders ที่คุณย่าของผมภูมิใจมากถ้าผมใส่มันในงานวันสำคัญ เมื่อผมไปถึง New York ทุกอย่างดูเป็นทางการไปหมดมากกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก มีตำรวจอยู่ใกล้ๆ lottery-ball machine แล้วก็พวกเจ้าของทีมกับGM ก็มากันหมด
ในช่วงเวลานั้นทุกคนก็พูดถึงแต่ Yao Ming ว่าจะทำยังไงถึงจะได้ดราฟ Yao Ming กัน ตอนนั้นผมนั่งใกล้กับ Chicago Bull GM เค้าคนนั้นชื่อ Jerry Krause ผมก็อำเค้าเล่นว่า ทำไมปี 1999 คุณไม่เลือกผมเป็นคนแรก เค้าก็ทำหน้าเหย่เก ใส่ผม 555+
ผมขอบอกเลยว่า ผมไม่ได้เชื่อถือเรื่องโชคลางอะไรเลย แต่ผมรู้สึกได้ว่ามีพลังงานอะไรบางอย่างที่จะทำให้ผมได้ Draft อันดับ 1
พอเค้าถึงช่วง 10 คนสุดท้าย แล้วก็ 5 คนสุดท้าย นั้นเป็นอะไรที่ตื่นเต้นทีเดียว แล้วก็รอบ 2 คนสุดท้าย ในตอนนั้นผมตื่นเต้นจนจะฉี่ราดอยู่แล้ว ซึ่งเหลืออยู่ระหว่าง ผม กับ Jerry Krause เมื่อ Chicago Bull ได้ดราฟอันดับ 2 พวกเราก็เฮกันใหญ่
หลังจากนั้นพวกสื่อก็กรูกันเข้ามาถามกันใหญ่ ว่าผมรู้สึกยังไง แล้วทุกๆคนก็ถามว่า จะดราฟ Yao Ming ใช้ไหม ผมก็ได้แต่ยืนยิ้มอยู่อย่างนั้น
ผมยังจำได้ สื่อของเราคนนึงชื่อ Nelson Luiz ผมเห็นหน้าเค้าปราบปลืมยินดี ยังกับเราได้แชมป์ NBA แล้วผมก็โทรหา โค้ช Rudy ว่า ผมทำได้ ผมทำได้ตามที่คุณต้องการแล้ว
และผมอย่างจะบอกพวกคุณ 2 เรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรื่องแรกคือ ผมว่าผมมีส่วนที่นำ Yao Ming มาสู่เมือง Houston ไม่ใช้ Chicago Bull 555+
ส่วนเรื่องที่สองนั้นเป็นเรื่องที่ผมได้ตระหนักถึง ในช่วง Summer ก่อนที่ Yao Ming จะเข้าสู่วงการ คือ Yao นั้นสามารถที่แบบรับภาระความกดดันได้อย่างเหลือเชื่อ เวลาที่เค้าไปที่ไหน เค้าเหมือนกับวง Beatle เลยก็ว่าได้ มันเหมือนกับมี Big คอนเสิร์ต ในทุกเมืองที่เค้าไป จะมีตำรวจมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย สื่อมวลชน กล้องทุกกล้องจะจับจ้องไปที่ Yao Ming ซึ่งผมคิดว่ามันมากเกินไปสำหรับเด็กหนุ่มที่พึงเข้าสู่วงการอย่าง Yao แต่เค้าก็รับมือมันได้อย่างง่ายได้ ผมยอมรับเค้าเลยในเรื่องเหล่านี้
ผมยังจำได้ ในตอนที่เค้ามา Houston ในสัปดาห์แรก ผมเดินตรงไปหาเค้าแล้วก็พูดกับล่ามของเค้าว่า “สิ่งที่ฉันได้ยินได้เห็นนั้น มันเป็นการโฆษณาที่เกินจริง ไม่ว่าชื่อเสียง หรือ ความสามารถของนาย และสิ่งที่ผมสนใจคือ Basketball เท่านั้นหวังว่านายคงจะเป็นของจริง” แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าฝีมือของเค้านั้นเป็นของจริง
อย่างที่ทุกคนรู้ Yao Ming นั้นเป็นบุคคลสาธารณะ และผู้นั้นรู้สึกว่าเป็นคนที่โชคดีมากๆ ที่ได้เป็นเพื่อน และ Teammate กัน อีกทั้งเราก็สนิทกันมากๆ อีกด้วย ผมนั้นได้รู้เรื่องราวอีกมุมหนึ่งของเขาที่ผู้คนส่วนใหญ่นั้นไม่รู้ ผมจะบอกอะไรให้เค้านั้นเหมือน Big Kid ที่ชอบสั่ง Room Service เป็นไก่นุ่ม แล้วยังมีรูปเค้าตอนนั่งอยู่ที่เตียงซึ่งต้องเอาเตียงมาต่อกันให้เป็น Yao Bed ซึ่งเป็นอะไรที่ฮามาก และผมก็ได้เห็นเค้า เพลินเพลินไปกับเวลาอันน้อยนิดที่เค้ามี ไปกับการเดิน Chill out
Yao นั้นเป็นคนที่สมถะมากๆ คำว่า โก้หรู ไม่เคยอยู่ในหัวของผู้ชายคนนี้เลย และไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเค้าได้ด้วย มีเรื่องตลกเรื่องนึง คือ ผมซื้อนาฬิกาข้อมืออย่างหรูให้เค้าด้วย น่าจะเป็น Jacob the Jeweler อะไรสักอย่างนี้ละ แต่เชื่อหรือไม่ผมไม่เคยเห็นเขาใส่เลย และมันก็คงยังอยู่ในกล่องเป็นแน่แท้
Yao พัฒนาขึ้นทุกๆ ปี ผมซ้อม Pick and Roll กับเค้า คุณได้เห็นเค้าทุกๆวัน เค้าพยายามพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น และก็เก่งขึ้นไปอีก คุณเชื่อหรือว่าว่า ในวันแข่ง Yao จะมาซ้อมก่อนสองชั่วโมง ผมก็บอกเค้าว่า Take a easy ไม่ต้องหักโหม แต่เค้าก็ไม่เชื่อผมเลย
อีกเรื่องหนึ่ง Yao นั้นเป็นเจ้าบ้านที่ดีมากๆ เค้าจะชวนเพื่อนๆ ไปทานอาหารที่ร้านพ่อแม่ของเขาที่ Houston เวลากินข้าว เค้าก็ชอบมองมาที่ พวกที่เล่น การ์ด ฟอร์เวิด แล้วบอกว่า Big Man ต้องกินก่อน 555+
https://img.soccersuck.com/images/2021/03/02/14925307_10154606540827200_6737937579353723523_n.jpg
แล้วก็เรื่องสุดท้ายที่ผมอยากจะเล่า คือ ตอนที่ทั้งผมและYao กำลังรักษาอาการบาดเจ็บ ในปี 2008 ตอนนั้นผมไปผ่าเข่ามา ผมรู้สึกท้อแท้มากๆ ที่จะต้องทำกายภาพต่างๆ นาๆ จนผมไปที่บ้าน Yao ปกติถ้าผมไม่อยากสนใจอะไรหรือสิ่งใด ผมจะไปบ้าน Yao จนผมได้พบกับ Yao ซึ่งกำลังทำกายภาพอยู่ในสระว่ายน้ำกับ นักกายภาพทีม Rockets แล้วเค้าก็ทักผม เหมือนที่เค้าเคยทำมาตลอด แล้วก็พูดว่า We need you. จนทำให้ผมนึกถึงตอนที่เค้าเป็น Rookies ที่ผมบอกเค้าให้ Focus ไปยัง Basketball แต่ตอนนี้เหมือนเค้าได้ย้อนคำที่ผมบอก มาสอนผมเสียเอง !!!
Yao has always been sharp like that.
Congratulations, my brother.
One last thing. Are you gonna do your speech in two languages? For a pioneer like you, I wouldn’t be surprised.
Steve Francis/Contributor
แปลและเรียบเรียงโดย Sport Talker TH
https://web.facebook.com/Sports-Talker-TH-318238271948072
ฝากกดติดตามกดไลท์กดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆ นะครับ