เปิดมา คุโด้ ชินอิจิ โชว์การสืบคดีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเมพของตัวเอง และก็ตัดไปตอนเหตุการณ์สวนสนุกในตำนานที่เล่าแม่งทุกมูฟวี่

"ผมคือยอดนักสืบมัธยมปลาย วันหนึ่งผมไปเที่ยวสวนสนุกกับโมริรัน เพื่อนสมัยเด็ก และบังเอิญไปเจอการแลกเปลี่ยนที่น่าสงสัยขึ้น ของชายชุดดำ โดยที่ไม่ระวังว่ามีพวกของมันอีกคนย่องมาข้างหลัง และฟาดเข้าไปที่ศรีษะของผมอย่างจัง ผมถูกพวกมันจับให้กินยาพิษ จนสลบ ........และพอรู้ตัวอีกที ร่างกายของผมก็หดเล็กลง หากพวกมันรู้ว่าคุโด้ ชินอิจิยังไม่ตาย พวกมันก็จ้องจะมาเอาชีวิตผมและคนรอบข้างผมแน่ ผมได้รับความช่วยเหลือจาก ดร.อากาสะ ฮิโรชิ ในการปิดบังตัวตนของผม และทันใดนั้น โมริ รัน เพื่อนสมัยเด็กของผม ขึ้นมาเจอผมเข้าโดยบังเอิญ และพอถูกเธอถามชื่อ ผมจึงโมเมตอบไปว่า เอโดงาวะ โคนัน"


ตัวละครหลักที่ปรากฎตัวมีดังต่อไปนี้


ตัวหลักที่สุดของซีรีย์ ที่พักพิงและเกาะกำบังของคุโด้ ชินอิจิ
โมริ (คอพรุน) โคโกโร่ อายุ 38 (ปัจจุบัน)


โมริ โคโกโร่ ว่าที่พ่อตาของเด็กแว่นของเรา 55 เค้าคืออดีตนายตำรวจที่มีฝีมือในการยิงปืนที่เชี่ยวชาญหาตัวจับยากในกรมตำรวจคนหนึ่ง เค้ามักจะไปไหนมาไหนกับสารวัตร เมงุเระ จูโซ (ซึ่งเป็นรองสารวัตรในขณะนั้น) ก่อนจะลาออกมาเป็นนักสืบเมื่อสิบปีก่อน

- มีความสามารถด้านยูโดเป็นเลิศ โดยเค้าคือเอชของชมรมยูโดสมัยเรียนมหาลัย (อ้างอิงจาก โคนัน ตอน คดีฆาตรกรรม ศิษย์เก่าของโคโกโร่ เป็นคดีที่โคโกโร่ไขคดีด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งโคนันยิงยาสลบใส่)

- ช่วงแต่งงานกับคิซากิ เอริ ภรรยาของเค้าใหม่ๆ เค้าต้องรีบเก็บเงินอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างครอบครัว ( ทั้งสองแต่งงานกันในช่วงเรียนมหาลัย) โคโกโร่จึงไปติดประกาศรับสอนพิเศษตามบ้าน และตัวเค้าก็ได้ไปสอนพิเศษที่บ้านนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็เป็นไปได้ด้วยดี เพราะนักเรียนหญิงคนนั้น สามารถสอบเข้าเรียนกฎหมายได้ (อ้างอิงจากตอน ความจริงในคดีรถระเบิด เป็นคดีที่ โคโกโร่ไขคดีด้วยตัวเอง)

- มีสกิลการยิงปืนที่แม่นเอามากๆ (อ้างอิงจากโคนันเดอะมูฟวี่ ภาคที่ 2 คดีไพ่ปริศนา)

- เคยพบกับกับคุโด้ ยูซากุ พ่อของโคนันสมัยที่เค้าเป็นตำรวจ (อ้างอิงจาก ตอน คดีแช่เย็นของยูซากุ)

- เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันสมัยเรียนอยู่ มัธยมปลายเทตันกับ 2 ดาวโรงเรียนในขณะนั้น ซึ่งก็คือ คุโด้ ยูกิโกะ แม่ของโคนัน กับ คิซากิ เอริ ภรรยาของเค้า (อ้างอิงจาก ตอน ปรินเซสที่คล้ายกัน)

- เป็นโรคกลัวความสูง ( อ้างอิงจาก ตอนทางเข้าเขาวงกต ความพิโรธของเทวรูปขนาดยักษ์)

- เคยร่วมงานกับตำรวจหน่วยเพลิงไหม้ ภายใต้การนำของ สารวัตร ยูมินางะ (อ้างอิงจากตอน ม้าสีแดงในเปลวเพลิง)

- เพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมัธยมปลายเทตัน มีอีกคนหนึ่งคือ อุโจ รูริ เธอเป็นเพื่อนกับ คิซากิ เอริ ( อ้างอิงจากตอน ผู้ต้องสงสัยที่มองไม่เห็น


ลูกสาวของเค้า โมริ รัน อายุ 17


เพื่อนสมัยเด็กของคุโด้ ชินอิจิ หรือเจ้าเด็กแว่นของเรา แชมป์คาราเต้ระดับจังหวัด มีนิสัยที่ซื่อๆ ใสๆ (คุณสมบัติของนางเอกยุค 90 ) ชอบเป็นห่วงคนอื่น เธอเลือกที่จะมาอยู่กับพ่อแทนที่จะไปอยู่กับแม่ เนื่องจากว่าต้องคอยมาดูแลพ่อที่ไม่ได้ความของเธอ โดยเธอสงสัยในตัวจริงของโคนันอยู่หลายครั้ง ( อ้างอิงจากตอนยาว การคืนชีพที่เดิมพันด้วยชีวิต เป็นต้น )

- เธอมีเพื่อนสนิทร่วมก๊วนสาวอยู่สองคนคือ ซึซึกิ โซโนโกะ ลูกสาวของกลุ่มนายทุนซึซึกิที่มั่งคั่ง รวยแบบโอเวอร์ โดยเป็นเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ( อ้างอิงจากตอน ความทรงจำแห่งห้องเรียนซากุระ ) และอีกคนหนึ่งคือ เซระ มาสึมิ เด็กสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น/อังกฤษ เป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่

- เหตุผลที่รันมาเล่นคาราเต้ นั่นก็เพราะว่า เธอชื่นชอบในตัวของ มาเอดะ ซาโตมุ แชมป์คาราเต้ของญี่ปุ่น (อ้างอิงจาก ตอนคดีฆาตรกรรมไนท์บารอน)

- เธอมีความรู้เรื่องโน๊ตเพลง และมีความสามารถในการเล่นดนตรี (อ้างอิงจากโคนัน ตอน กล่องเพลงที่เต็มไปด้วยความหมาย ) (อ้างอิงจากโคนัน เดอะมูฟวี่ 12 บทบรรเลงแห่งความตาย)

- กลัวผี กลัวปิศาจ กลัวความมืด เรียกง่ายๆว่าขี้กลัวขั้นสุด

- เธอมีเพื่อนที่รวยมากๆอย่างโซโนโกะ แต่เธอไม่คิดที่จะให้โซโนโกะออกเงินหรือเกาะโซโนโกะกิน เพราะเธออยากเป็นเพื่อนกับโซโนโกะ (อ้างอิงจากท้ายตอนที่ชื่อว่า มิตรภาพที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน)






ชายผู้เปรียบเสมือนแขนขาและเส้นชีวิตของคุโด้ ชินอิจิ อากาสะ ฮิโรชิ อายุ 53 ปี(ในปัจจุบัน)



ลุงข้างบ้านของชินอิจิ เป็นนักวิทยาศาสตร์ และนักประดิษฐ์ โดยเค้ารู้จักมาเนิ่นนานกับคุโด้ ยูซากุ เป็นคนแรกที่รู้ตัวจริงของโคนัน เรียกว่าแทบจะสำคัญกับชีวิตของโคนันเป็นอย่างมาก ในการต่อสู้กับพวกชุดดำในแต่ละครั้ง ดร อากาสะจะคอยสนับสนุนแทบทุกอย่าง ทั้งดักฟัง ค้นหาข้อมูล สืบตามหา ขับรถตามล่าตามคำไหว้วานของโคนัน เรียกได้ว่า เค้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกคดีของชายชุดดำเลยก็ว่าได้

- เค้ามีเพื่อนสมัยเด็กเป็นผู้หญิงชื่อ ฟุซาเอะ แคมเบล โดยทุกๆสิบปี ทั้งสองจะนัดเจอกัน แต่ ดร อากาสะ ดันลืมไปซะได้ จนมานึกได้อีกทีก็คือ 40 ปีต่อมา (อ้างอิงจากตอน รักครั้งแรงใบสีแปะก๊วย)

- คุณลุงของเค้า เป็นมหาเศรษฐี มีบ้านพักตากอากาศที่เป็นปราสาททิ้งร้างอยู่ในป่าเมื่อ 50ปีก่อน โดยอยู่ด้วยกันกับน้องสาวของเค้าซึ่งก็คือป้าของ ดร อากาสะ (อ้างอิงจากตอน ความลับของพระจันทร์กับดวงดาวและพระอาทิตย์ )

- รถของเค้าคือ volkswagen type 1 สีเหลือง ที่คอยวิ่งรับส่งเด็กไปเข้าค่ายฤดูร้อน จนไปถึง ตามไล่ล่า ปอเช่ 356A สีดำ รถของยินอยู่บ่อยๆ 55



สารวัตรฝ่ายสืบสวนโตเกียว เมงุเระ จูโซ (อายุยังไม่เปิดเผย คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 40กลางๆ)


สารวัตรแห่งกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 1 แผนกอาชญากรรม เมื่อก่อนเค้าเคยเป็นหัวหน้าของโมริ โคโกโร่ ที่จะติดตามสืบคดีด้วยกันอยู่บ่อยๆ

- เป็นตำรวจที่เกลียดการใช้นกต่อที่สุด และเหตุผลที่เค้ามักใส่หมวกตลอด รวมถึงภรรยาของเค้า ทุกอย่างถูกเล่าไว้แล้ว (อ้างอิงจากตอน ความลับของเมงุเระที่ถูกผนึกไว้)



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

โคนันตอนที่ 6 เปิดตัวโซโนโกะ



สึสึกิ โซโนโกะ อายุ 17 ปี
ลูกสาวคนที่สองของสึสึกิ ชิโรและโทโมโกะ บ้านตระกูลเศรษฐีที่รวยอย่างบ้าคลั่ง เป็นเพื่อนสนิทของโมริ รัน เป็นคนสบายๆ ง่ายๆ ผิดกับคุณหนูลูกเศรษฐีบ้านอื่นๆ มีนิสัยบ้าๆบอๆ บ้าผู้ชาย555

- เธอมีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อ ซึซึกิ อายาโกะ อายุ 24 ปี นักศึกษาปริญญาโท เป็นคนที่แม่บ้านแม่เรือนมากๆ สุภาพเรียบร้อย ต่างจากน้องสาวของตัวเอง (อ้างอิงจาก ตอน คดีฆาตรกรรมซ่อนเงื่อน)
- มีแฟนหนุ่มชื่อ เคียวโงคุ มาโคโตะ อีกหนึ่งพี่เทพด้านคาราเต้ มีทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ ปรากฎตัวครั้งแรกในตอน หน้าร้อนอันตรายของโซโนโกะ อีกหนึ่งตอนชื่อดังของซีรีย์นักสืบจิ๋วโคนัน

zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz

เวลาก็ผ่านไปซักระยะ หลังจากที่ชินอิจิ โดนจับกรอกยากลายเป็น โคนัน ตัวของเค้าก็เน้นสืบที่ไล่ต้อนคนร้ายจนจมมุมมาตลอดโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย (หรือจะบอกว่าสืบคดีเพราะความสนุกของตัวเอง) จนมาถึงจุดเปลี่ยนต่อชีวิตในฐานะนักสืบของเค้า เมื่อนักสืบเอกชน โมริ โคโกโร่ ได้จดหมายให้เชิญไปที่เกาะแห่งหนึ่ง โดยเกาะนั้นทำการเลือกตั้งผู้ว่าของเกาะ และได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
ซึ่งคนร้ายก็ถูกโคนัน ไขคดีไล่ต้อนจนทำให้ตัวของคนร้ายฆ่าตัวตายในกองเพลิง เป็นเรื่องราวที่ปรากฎใน

โคนัน ตอนที่ 11-12 คดีในตำนาน เปียโนโซนาต้าแสงจันทร์








หลังจากนั้นการสืบคดีของโคนันจึงมีความจริงจัง ตรึงเครียดขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ



ตอนที่ 14 "คดีฆาตกรรมบุรุษลึกลับ" โคนันได้ผมกับหญิงสาวที่ชื่อฮิโรตะ มาซามิ เธอเป็นหนึ่งในแก๊งโจรปล้นเงินและถูกจับไปในท้ายตอน ซึ่งผมอยากให้จำ ชื่อของ ฮิโรตะ มาซามิเอาไว้ เพราะจะมีบทในภายหลัง


ข้ามไปยาวๆ ระหว่างนี้จะมีผู้กำกับมัตสึโมโต้ ปรากฎตัวมา แต่ตัวละครนี้ได้ถูกแทนที่ในภายหลัง ด้วยผู้กำกับคนใหม่ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญ ซึ่งผมจะเล่าในภายหลังนะครับ


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


ชินอิจิที่ใช้ชีวิตมาในฐานะของ เอโงาวะ โคนัน มีเพื่อนร่วมรุ่นชั้น ป1 อยู่สามคน (ผมเรียกแก๊งเด็กเป - รต)


โยชิดะ อายูมิ อายุ 7 ขวบ


โคจิมะ เกนตะ อายุ 7 ขวบ


สึบุรายะ มิสึฮิโกะ อายุ 7 ขวบ


ทั้ง 4 คนคือขบวนการนักเสือก?เยาวชน คอยเล่นสนุกสนานสร้างปมต่างๆในเรื่องมาตลอด และเป็นส่วนเชื่อมโยงกับตัวละครหลักที่เรียกได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดของอาจารย์อาโอยาม่า โกโช (ผู้เขียน) ถูกสร้างปมใหญ่ๆโดยตัวละครตัวนี้ ซึ่งจะกล่าวในช่วงต่อไป

หลังจากนั้น โคนันได้ไปพัวพันกับคดีต่างๆและได้สนิทชิดเชื้อกับนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่า

ทาคางิ วาตารุ อายุ 26 ปี


หลายๆท่านมักจะพูดว่า ตัวละครตำรวจถูกในมาให้เสริมๆบทเพื่อยืดเนื้อเรื่อง แต่สำหรับผม หมวดทาคางิ สำคัญไม่น้อย เพราะจะเชื่อมไปสู่ตัวละครสายตำรวจลับของญี่ปุ่นรายหนึ่ง ซึ่งจะเล่าในเนื้อเรื่องถัดๆไปนู้นนนนนนเลย (ทดไว้ในใจ) โดยจะเปิดตัวอีกหนึ่งตัวละครสำคัญอย่าง คิซากิ เอริ แม่ของ รัน

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

โคนันตอนที่ 36 เปิดตัวคิซากิ เอริ แม่ของโมริ รัน



คิซากิ เอริ อายุ 38 ปีในปัจจุบัน

แม่ของโมริ รัน และเป็นเพื่อนกับโมริ โคโกโร่ตั้งแต่เด็กจนทั้งคู่แต่งงานกัน เกลียดนิสัยของโมริ โคโกโร่ ตอนนี้จึงแยกกันอยู่ชั่วคราว ทำงานเป็นทนายความผู้ไร้พ่าย ฉลาด เก่ง ว่าความคดีไหนๆก็ชนะทุกราย

- เธอมักจะชอบลองใจสามีของเธออยู่เสมอ เช่นแอบถอดแหวนแต่งงานให้สามีของเธอสังเกตได้ เป็นต้น
- เป็นนักเรียนที่หัวดีสอบได้ที่หนึ่งของโรงเรียนเทตัน (อ้างอิงจากตอน ปรินเซสที่คล้ายกัน)
- ได้ฉายาว่า ควีนแห่งวงการกฎหมาย
- เธอมีคู่แข่งชื่อ คุโจ เรโกะ ฉายามาดอนน่าแห่งวงการอัยการ (อ้างอิงจากตอน ศึกในศาล คิซากิปะทะโคโกโร่)

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

หลังจากที่เปิดตัวว่าที่แม่ย้ายของโคนันไป เค้าก็ใช้ชีวิตร่วมมากับบ้านโมริมาตลอด กิน นอน เที่ยว เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาสารพัด จนมีข้อสงสัยว่า พ่อแม่ของเด็กคนนี้หละ? อยู่ไหน จนมาถึงตอนที่ชื่อว่า

ตอนที่ 44 คดี ลักพาตัว เอโดงาวะโคนัน




ในตอนนี้มีสาวใหญ่มาอ้างตัวว่าเป็นแม่ของโคนัน ชื่อ เอโดงาวะ ฟุรุโยะ แต่โคนันก็จับได้ว่าเป็นตัวปลอม เพราะบทบาทของโคนัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงตัวตนปลอมที่ชินอิจิสร้างขึ้นมา เพื่อปกปิดตัวตนของเค้าจากพวกองค์กรชุดดำ และได้ไปพัวพันกับตัวละครแก๊งโจรที่จับตัวเค้าไป และท้ายตอนได้เฉลยว่า แท้ที่จริงแล้ว แก๊งโจรชายหญิงคือพ่อแม่ของคุโด้ ชินอิจิ


ฟุจิมิเนะ(คุโด้) ยูกิโกะ อายุ 37 ปี


แม่แท้ๆของชินอิจิ เธอเป็นอดีตนางเอกชื่อดังของญี่ปุ่น ปัจจุบันอยู่ที่ ลอสแอนเจลิส เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 17 ปี เป็นดาวโรงเรียนเทย์ตัน แต่ก็ลาออกจากวงการเพื่อไปแต่งงานกับชายคนหนึ่ง เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการแสดงละครเป็นเยี่ยม และมีสกิลการปลอมตัวที่สุดยอดอีกคนของเรื่อง (ในเรื่องจะมีอยู่ 4 คน(เสียชีวิตไปแล้วหนึ่ง) ที่สามารถดึงหน้าฉีกหน้าเป็นคนนู้นคนนี้ได้ชนิดที่เนียนแบบสุดๆ ) เธอมีเพื่อนสนิทที่ชื่อ ชารอน วินยาร์ด (ใครหว่า?)

- เธอมีเพื่อนสนิทอยู่บ้านนอกที่เธอเคยอยู่สมัยเด็ก (ขออภัยผมจำรายละเอียดไม่ได้) อ้างอิงจากตอน (เมื่อยอดนักสืบจนมุม กับคดีใหญ่)
- เธอถูกยูซากุขอแต่งงานที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ ชินอิจิพารันไปกินข้าว (อ้างอิงจากตอน การคืนชีพที่เดิมพันด้วยชีวิต)
- เธอมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ไนท์บารอนเนส
- ชอบซิ่งรถมาก (อ้างอิงจากตอน ความลับของห้องแล็ปฯ โทโตะ)



คโด้ ยูซากุ อายุ 38 ปี (ในปัจจุบัน)


พ่อของชินอิจิ อดีตนักสืบที่คอยช่วยงานสารวัตรเมงุเระในคดีที่ยากๆจนตำรวจไม่สามารถคลี่คลายได้ มีสกิลการไขคดีที่เรียกได้ว่า ฟังแค่เรื่องราวและรายละเอียดของคดี ก็สามารถคลี่คลายคดีได้ทะลุปรุโปร่งโดยไม่ต้องไปสืบในที่เกิดเหตุ (ตัวละครนักสืบในเรื่องผมว่านี่คือเก่งสุดละ ก็พ่อพระเอกนี่เนอะ) ปัจจุบัน ยูซากุเป็นนักเขียนนิยายสืบสวนชื่อก้องโลก นิยายของเค้าติดเบสท์เซลเลอร์ ชื่อว่า ไนท์บารอน (ถ้าชินอิจิเปรียบเสมือนโฮล์ม ยุซากุก็คือ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์) เคยถูก FBI ให้ช่วยตามสืบเรื่องขององค์กรชุดดำด้วยนะ

- อย่างที่ทราบกันดี เค้าคือยอดนักสืบตัวจริง ถึงปากจะบอกว่าตนเป็นนักเขียนก็ตาม
- เป็นคู่ปรับกับ คุโรบะ โทอิจิ
- เคยมีเรื่องที่เค้าแต่งถูกคนร้ายปล้นไปเพื่อนำมาใช้ในการก่ออาชญากรรม (อ้างอิงจากตอน โฮคุโตะเซย์หมายเลข 3 ต้นทางอุเอโนะ)

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ถัดมา โคนันเริ่มรู้สึกว่า การมาอิงอาศัยบ้านโมริ และทำให้โมริ โคโกโร่ มีชื่อเสียงเพื่อให้งานเข้ามาเยอะๆ ไม่ได้ช่วยอะไรในการตามหาเบาะแสพวกชุดดำ จึงไปปรึกษาดร อากาสะ ซึ่ง แกก็บอกให้โคนันใจเย็นๆ เดี๋ยวเบาะแสก็มาเอง ..............และก็มาจนได้ แต่ก่อนหน้านั้นจะเปิดตัวละครสำคัญอีกหนึ่งคนคือ


เปิดตัวฮัตโตริ เฮย์จิ

โคนันตอนที่ 49-50



ฮัตโตริ เฮย์จิ อายุ 17


เป็นนักสืบจากโอซาก้า ลูกชายของ ฮัตโตริ เฮย์โซ ผู้บังคับการตำรวจโอซาก้า มีสกิลการสืบคดีที่ไม่แพ้คุโด้ ชินอิจิเลย มีนิสัยใจร้อน มีทักษะเคนโด้ที่เชี่ยวชาญ

- คนที่รู้ตัวจริงของโคนัน
- มีเพื่อนสนิทชื่อโทยามะ คาซึฮะ
- เค้าจะคอยสืบเรื่องราวของชายชุดดำอยู่วงนอกตลอด จนมาถึงเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่ง (เดี๋ยวค่อยเล่านะ เดี๋ยวสปอยล์555)


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

พอจบอีเวนท์กับ เฮย์จิไปแล้ว ในที่สุดก็ได้พบกับไอพวกชุดดำพอดี

ในตอนที่ 56 คดีบริษัทเกม


เกิดการวางระเบิดเกิดขึ้นในบริษัทมันเทนโด้ ผู้เสียชีวิตคือชายร่างใหญ่สูงสองเมตร โดยก่อนจะเสียชีวิตชายคนนั้นได้คุยโต้ตอบกับคนในสาย และเรียกชื่อคนๆนั้นว่ายิน ส่วนยินก็เรียกชายคนนี้ว่าเตกีล่า ทำให้โคนันทราบแน่ชัดว่าไอคนๆนี้คือหนึ่งในชายที่อยู่ในองค์กรชุดดำนั่นเอง




รายชื่อของสมาชิกองค์กรชายชุดดำ

ลูกพี่ ยิน (Gin)


ชายผู้ที่จับชินอิจิกรอกยาพิษจนกลายเป็นโคนัน เค้ามีนิสัยที่รอบคอบ สุขุม ฉลาดสุดๆ มีทักษะการสังหารที่สูงมาก ยากที่จะต่อกรกับเค้า ไม่มีใครทราบว่าภูมิหลังเค้าคือใคร ทำไมถึงเก่งกาจไปซะทุกอย่าง มีรถปอเช่สีดำ 356A สุดคลาสสิคเป็นรถคู่ใจ

- หนึ่งในคนที่รู้ตัวจริงของบอสใหญ่ชายชุดดำ
- ถนัดซ้าย
- ถึงเค้าจะเก่งกาจมากแค่ไหน ก็มักจะติดนิสัยเสียคือชอบประมาท เพราะเค้าจะไม่จำชื่อเหยื่อที่เค้าฆ่า นั่นคือสาเหตที่ทำไม มีคนไปถามว่า รู้จัก คุโด้ ชินอิจิ มั้ย เค้าถึงตอบว่าไม่รู้
- เป็นคนที่คอยวางแผน แทบจะทุกสิ่งอย่างในองค์กร

เบ๊คนสนิท วอดก้า (Vodka)


ผู้ติดตามของลูกพี่ยิน ถนัดการใช้อาวุธทุกประเภทเช่นเดียวกับลูกพี่


เตกีล่า ผู้ตายห่าไปแล้ว (Tequila)


ชายร่างใหญ่ดวงซวยสำเนียงคันไซ มาติดต่อแลกเปลี่ยนแผ่นอะไรบางอย่าง แต่โดนก๊อบบลินวางระเบิดคิลตายไป


หลังคดีนี้ ทำให้โคนันสืบทราบว่า องค์กรนี้ต้องการโปรแกรมอะไรบางอย่าง


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZz

การจะตามสืบคดีเกี่ยวกับพวกชุดดำในโตเกียว เห็นทีจะไม่พอ จำเป็นต้องมีผู้ช่วย อาจารย์อาโอยาม่าจึงคลอดตอนนี้ออกมา

โคนันปี 2ตอนที่ 59 กับ 60 "คดีฆาตกรรมคนบ้าโฮล์มส์ "


เป็นตอนที่จะมีคนรู้ตัวจริงของโคนัน หรือคุโด้ ชินอิจิเพิ่มอีกคน นั่นคือ เฮย์จิ เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง สนุกมากๆครับ ซึ่งหลังจากนั้น เฮย์จิก็จะช่วยโคนันตามสืบเรื่องของพวกชุดดำด้วยอีกแรง



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


คุณยังจำได้มั้ย คุโด้ ยูกิโกะ มีอาจารย์อยู่คนหนึ่งเค้าชื่อ คุโรบะ โทอิจิ ผู้สอนสกิลการปลอมตัวให้กับเธอ และลูกชายของทั้งคู่ ก็ได้มาปะทะกัน

โคนันปี 2ตอนที่ 78 กับ 79 โคนันปะทะจอมโจรคิด



*****เรื่องของคิดผมไม่ลงลึกละกัน


หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยยาวววววววววววววววมาจนถึง

ตอนที่ 124-125
ฮัตโตริ เฮย์จิ ชวนโคโกโร่ รันและโคนันมาเที่ยวโอซาก้า จนไปพัวพันกับคดี โดยจะเป็นการเปิดตัว โทยามะ คาซึฮะ เพื่อนของเฮย์จิ




...............................................หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่โอซาก้า และแล้วก็มาถึง

โคนันปี 3 ตอนที่ 135 เปิดตัวมิยาโนะ อาเคมิ





มิยาโนะ อาเคมิ

เธอปลอมตัวมาในชื่อของฮิโรตะ มาซามิจากตอนที่ 14 ก่อนจะถูกจับไป

ก่อนอื่นเลย ขอเล่าอะไรซักหน่อย ในตอนที่ 14 มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาจากมังงะ โดยเธอไม่ได้ถูกฆ่า แต่ถูกตำรวจจับแทน ซึ่งภายหลังโคนันฉบับอนิเมได้นำเรื่องของเธอมาเล่าใหม่อนิเมให้ตรงกับต้นฉบับมังงะ โดยเรื่องราวคือ

ฮิโรตะ มาซามิ เธอได้วางแผนกับเพื่อนในการปล้นเงินพันล้าน เพื่อส่งให้กับองค์กรใหญ่ที่เต็มไปด้วยปริศนา



เพื่อนๆของเธอแก๊งโจรปล้นเงินถูกองค์กรสั่งเก็บทีละคน ด้วยฝีมือของยิน กับ ว๊อดก้า



ไม่เว้นแม้แต่ตัวเธอเอง และได้เฉลยว่า องค์กรที่เธอทำงานก็คือ พวกชายชุดดำ หลังจากที่เธอถูกสังหารโดยลูกพี่ยิน เราจึงได้ทราบเหตุผลว่า แท้ที่จริงแล้ว เธอมาทำงานในองค์กร ก็เพือแลกกับการที่องค์กรต้องปล่อยตัวน้องสาวของเธอออกมา



ซึ่งน้องสาวของเธอก็คือ (เปิดตัว ตัวละครสำคัญที่เป็นตัวดำเนินเรื่องอีกตัว)

มิยาโนะ ชิโฮะ


หรือ ไฮบาระ ไอ




มิยาโนะ ชิโฮะ (นามแฝง ไฮบาระ ไอ) โค้ดเนมในองค์กร เหล้า เชอรี่ (Sherry) อายุ 18ปี (7ขวบในร่างเด็ก) เธอเป็นน้องสาวของ มิยาโนะ อาเคมิ พี่สาวที่เสียชีวิตไป จากการสังหารของยิน และเธอเป็นลูกสาวของ มิยาโนะ อัตสึชิ กับมิยาโนะ เอเลน่าที่จะกล่าวในต่อๆไป

*******มิยาโนะ เอเลน่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวละครสำคัญอีกตัว ซึ่งทำให้เกิดสายสัมพันธ์กับครอบครัวหนึ่ง

มิยาโนะ ชิโฮะ หนีออกมาจากองค์กร เนื่องจากองค์กรทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอ แต่เนื่องจากเธอต่อต้านองค์กรทำให้เธอถูกจับตัวไปขังไว้รอสั่งเก็บ


ทำให้เธอกินยาแบบเดียวกับที่โคนันกิน ทำให้เธอตัวหดเล็กลง จนหนีมาสลบอยู่หน้าบ้านของชินอิจิและเป็นทางด้านของดร อากาสะที่บังเอิญมาเจอเธอนอนจมกองฝนได้เก็บเธอไปเลี้ยงที่บ้านของตน



เหตุผลที่เธอมานอนสลบอยู่หน้าบ้านของชินอิจิ เนื่องจากเธอเคยมาตามสืบการหายตัวไปของชินอิจิที่บ้านคุโด้ และได้พบว่า เสื้อผ้าสมัยเด็กของชินอิจิได้หายไป ทำให้เธอได้คาดการณ์เอาไว้ว่า ชินอิจิจะต้องตัวหดเล็กลงแน่ๆ เพราะในขั้นทดลองกับหนู โดยให้หนูกินยาชนิดนี้ ส่วนมากหนูทุกตัวจะสลายหายไป เนื่องจากการทำงานของยาตัวนี้ คือการเร่งสลายเซลล์ในร่างกาย และทำลายร่างกาย หด บดจนไม่เหลือซาก แต่มีหนูอยู่ตัวหนึ่ง กลับกลายเป็นลูกหนู เธอจึงมาที่บ้านคุโด้ เพื่อขอความช่วยเหลือจากคุโด้ ชินอิจิที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน และได้เข้าเรียนที่ โรงเรียนประถมเทตัน โดยปลอมตัวเป็น ไฮบาระ ไอ แฝงเข้าไปอยู่ในแก๊งชมรมนักเสือกเยาวชน เพื่อหลบซ่อนตัวจากการตามล่าขององค์กร ซึ่งการตามล่าครั้งนี้ นำทีมล่าโดย ลูกพี่ยินของเรา




ในส่วนของเนื้อเรื่องช่วงนี้ ได้มีการหลุดคีย์สำคัญมา นั่นก็คือ การทดลองวิจัยยาตัวนี้ มีมากกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ???Nani!!!!!!!

- ไฮบาระเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นอังกฤษ
- เธอรัก ดร อากาสะเหมือนพ่อแท้ๆของเธอ
- พ่อของเธอ มิยาโนะ อัตสึชิ เคยพบกับ ดร อากาสะ ในงานจัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์
- ในเบื้องต้น เธอมักจะเรียกชื่อเพื่อนๆในแก๊งชมรมนักสืบเยาวชนด้วยนามสกุล เช่นคุณโยชิดะ(อายูมิจัง) สึบุรายะคุง (มิสึฮิโกะ) โคจิมะคุง (เกนตะ) และทุกคนก็จะเรียกเธอว่า คุณไฮบาระ หรือไฮบาระ แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ในตอน "มิตรภาพที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน " เธออนุญาตให้ อายูมิจัง เรียกเธอว่า "ไอจัง"
- พ่อแม่ของเธอรู้จักและดูจะสนิทสนมกับปิสโก้
- เธอแค้นใจโคนันมาก ที่ไม่ยอมไปช่วยพี่สาวของเธอ อาเคมิ จากเงื้อมมือขององค์กร



ในช่วงระหว่างเกิดอีเวนต์ของ มิยาโนะ ชิโฮะ ก็ได้มีการเปิดเผยตำรวจสาวนามว่า มิวาโกะ ที่สนามกีฬาแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักพรรดิ ในช่วงเกิดคดีลอบสังหารของกลุ่มโจร



ซาโต้ มิวาโกะ อายุ 28 ปี

เธอเป็นรุ่นพี่ของ หมวดทาคางิ และกุ๊กกิ๊กกัน555 พ่อของเธอคือ ซาโต้ มาซาโยชิ หรือสารวัตร มาซาโยชิ ผู้เสียชีวิตไปแล้วจากคดีหนึ่ง ระหว่างปฎิบัติหน้าที่

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ
โคนันปี 4ตอนที่ 156 กับ 157 นิยายรักตำรวจนครบาล

เปิดตัวตำรวจสองคน

ชิราโทริ นินซาบุโร่ อายุ 28 ปี


และตัวละครหญิงที่เหมือนจะไม่สำคัญ แต่เกี่ยวข้องกับตัวละคร โคตรพ่อโคตรแม่สำคัญอีกคน โดยเธอคือ

มิยาโมโตะ ยูมิ อายุ 28 ปี

เธอเป็นเพื่อนสนิทกับหมวดซาโต้ มิวาโกะ เธอมีแฟนอยู่คนหนึ่งเป็นนักเล่นโชงิชื่อดัง



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

โคนันปี 4 ตอนที่ 162 "คดีชายชราลึกลับหายตัว"

เปิดตัว อาสึสะจัง เอโนโมโตะ อาสึสะ เป็นตัวละครเสริมที่จะออกมามีบทบาทในภายหลัง เพราะเกี่ยวข้องและกุ๊กกิ๊กอยู่ที่ร้านปัวโรต์กับตัวละครโคตรสำคัญตัวละครหนึ่ง (สำคัญถึงกับมีมูฟวี่ของตัวเอง)



เอโนโมโตะ อาสึซะ อายุ 23 ปี
ทำงานอยู่ร้านปัวโรต์ข้างล่างสำนักงานนักสืบโมริ เธอมีพี่ชายอยู่คนหนึ่ง ไม่ได้สำคัญอะไร ไอที่สำคัญจริงๆคือคู่จิ้นของเธอ ค่อยว่ากัน55





ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ



ตอนสำคัญนิดๆอีกตอน โคนันปี 4ตอนที่ 182-183 "มุมอับในความมืด "



เปิดตัวคุณหมออาราอิเดะ


อาราอิเดะ โทโมโทมิ อายุ 25


ในตอนนี้นักสืบโมริได้มาตรวจร่างกายจนเกิดคดีขึ้น ไม่มีอะไรสำคัญนอกจากเปิดตัวหมออาราอิเดะ






ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ
หลังจากผ่านการเปิดตัวบรรดาตัวละครเสริมหลายๆตัวไป เรื่องราวก็ได้ดำเนินต่อ เมื่อระหว่างที่พวกเด็กๆเดินอยู่ริมถนน แล้วบังเอิญไปเจอ รถปอเช่สีดำ รุ่น 356A ของยินเข้าโดยบังเอิญ โดยที่โคนันได้งัดรถของยินเพื่อที่จะนำเครื่องส่งสัญญาณใส่เข้าไปในรถ และเมื่อยินกลับมาที่รถพร้อมกับวอดก้า ก็ได้ออกรถขับออกไป ในระหว่างนั้นยินได้ทำการพูดคุยกับคนบางคนในสายโทรศัพท์ โดยที่เค้าเรียกคนในสายว่า "ปิสโก้" ซึ่งคุยกัน เรื่องแผนการลอบสังหารบุคคลคนหนึ่งในงานไว้อาลัย ผู้กำกับภาพยนต์ชื่อดัง ซึ่งโคนันก็คิดที่จะตามไปดักจับพวกชายชุดดำ แต่ก็ดันเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นเพราะ ยินได้เจอกับผมสีน้ำตาลแดงของไฮบาระ ร่วงหล่นภายในรถของเค้าตอนที่สองคนนั้นแอบมางัดรถของยิน ยินเมื่อเห็นแบบนี้จึงรู้ได้ทันทีว่า เชอรี่ คนทรยศขององค์กร ที่ตัวเค้ากำลังตามไล่ล่าอยู่นั้น อาศัยอยู่ในเมืองเบกะ เค้าจึงได้ทำการสร้างแผนการล่อให้ไฮบาระมาที่งานไว้อาลัยในครั้งนี้ (ยินยังไม่รู้ตัวตนของโคนัน)



ภายในงานก็มีการสังหารบุคคลเป้าหมายสำเร็จ



โดยปิสโก้ได้เอาปืนยิงไปที่แชนเดอเรียตกลงทับใส่หัวของเป้าหมายจนตาย และได้จับไฮบาระที่บังเอิญพลัดหลงกับโคนันภายในงาน และปิสโก้ก็ได้นำตัวของไฮบาระไปขังไว้ในห้องแห่งหนึ่ง



ไฮบาระเธอคิดที่จะยอมตายเพราะเบื่อที่จะถูกตามล่าอีกแล้ว จึงคิดที่จะแฮกข้อมูลจากคอมของปิสโก้ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลขององค์กร โดยเธอจะนำดาต้าข้อมูลการวิจัยยาอโพท็อกซิน 4869 ออกมาจากคอมโดยขณะนั้นเธอเองก็กำลังติดต่ออยู่กับโคนัน ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งในขณะที่เธอกำลังจะบอกข้อมูลสารประกอบตัวยา โคนันจึงตะหวาดใส่เธอบอกว่าให้เธอหนีรอดมาให้ได้ก่อน เพราะคอมที่เธอใช้อยู่ มันส่งสัญญาณไปหายินที่กำลังตามมาสมทบ แต่ไฮบาระบอกว่าเธอไม่สามารถหนีออกมาได้เพราะในห้องเก็บเหล้านี้มีแค่ปล่องควันที่เด็กไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ โคนันจึงเกิดความคิดดีๆว่า ในเมื่อห้องนั้นเป็นห้องเก็บเหล้าจากทั่วโลก มันก็ต้องมีเหล้าจีน"ไป๋เกา" สิ ซึ่งเหล้านี้สามารถแก้พิษ aptx 4869 ได้ (ทำให้กลับเป็นร่างเดิม อ้างอิงจากตอน คดีนักการทูต ที่พบกับฮัตโตริ เฮย์จิเป็นครั้งแรก) หลังจากที่ไฮบาระกลายเป็นผู้ใหญ่เธอจึงหนีขึ้นมาทางปล่องไฟ แต่ก็มาเจอยินที่มาดักฆ่าเธออยู่บนดาดฟ้า เธอถูกยิน ใช้ปืนแบเนตต้าคู่ใจยิงเข้าไปที่ร่างจนได้รับบาดเจ็บ


แต่โชคดีที่โคนันตามมาช่วยได้ทัน ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นใน ตอนที่ 190-192 ไฮบาระเธอถูกตามล่าโดยองค์กรชุดดำ และเป็นการเผชิญหน้ากันอีกครั้งกับองค์กรชุดดำ



หลังจากที่หลบหนีมากจากยินและวอดก้าจากดาดฟ้าได้ โคนันกับไฮบาระที่กลับร่างกลายเป็นเด็กเหมือนเดิม ก็ได้มาเจอะเจอกับ ปิสโก้ โดยในตอนนี้จะได้รู้ว่าพ่อแม่ของไฮบาระ ที่ชื่อว่ามิยาโนะ อัตสึชิ กับมิยาโนะ อาเคมิ ก็ทำงานอยู่ในองค์กรชุดดำด้วย ซึ่งมาจาการบอกเล่าของ ปิสโก้ หนึ่งในสมาชิกพวกของพวกชายชุดดำ ซึ่งตัวจริงของเค้าคือมัตสึยามะ เคนโซ แต่โคนันได้ทำการเล่นงานปิสโก้ โดยยั่วโมโหให้ชายแก่อายุ 70 ปีคนนี้ ยิงปืนสั้นไปโดนขวดเหล้าภายในห้องเก็บเหล้า จนเหล้าในขวดหกระเนระนาด และปิสโก้ได้สูบบุหรี่ไว้ที่ปาก เกิดการเผาไหม้ขึ้นในห้องเก็บเหล้า เพราะแอลกอฮอทำปฎิกิริยากับไฟจากก้นบุหรี่ ทั้งโคนันและไฮบาระจึงอาศัยช่วงไฟไหม้ หนีรอดจากปิสโก้ไปได้ ปิสโก้ที่ทำงานพลาด มีหรือจะรอดเพราะดันมีช่างภาพถ่ายภาพตอนเค้ายิงปืนใส่แชนเดอเรียเอาไว้ได้ ยินที่ตามมาสมทบจากในปล่องไฟ จึงได้ทำการเก็บปิสโก้ทิ้ง ตามคำสั่งของท่านผู้นั้น

- ปิสโก้หรือมัสสึยาม่า เคนโซ ทำงานกับองค์กรมาอย่างยาวนาน และได้ใช้อำนาจขององค์กร สร้างชื่อเสียงบารมีของตนเสวยสุขในสังคม แสดงให้เห็นถึงบารมีและอำนาจขององค์กร
- ปิสโก้ รู้จักเป็นการส่วนตัวกับมิยาโนะ อัตสึชิ และเคยเห็น มิยาโนะ ชิโฮะ หรือไฮบาระตอนสมัยเด็กๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเค้าถึงรู้ตัวจริงของไฮบาระ

ยินและวอดก้า รวมถึงองค์กรได้ทราบแค่ว่า มิยาโนะ ชิโฮะ (ไฮบาระในร่างผู้ใหญ่) ยังไม่ตายเพราะตอนที่ดวลกันที่ดาดฟ้า ยินกับวอดก้า เจอเธอที่อยู่ในร่างผู้ใหญ่แล้ว (ที่เธอไปกินเหล้าจีนนั่นแหละ) โดยที่ยังไม่รู็ว่าตอนที่เธอหนีจากสองคนนี้ เธอกลับกลายเป็นเด็กไปแล้ว คนที่รู้เรื่องที่เธอกลายเป็นเด็ก มีแค่ปิสโก้คนเดียวเท่านั้น (ตามวันที่เรื่องนี้ฉาย) แต่ในขณะที่ปิสโก้กำลังจะเอ่ยปากบอกความจริงกับยินที่ตามมาสมทบ ยินก็ได้ลั่นไกปืนยิงไปที่หัวของปิสโก้ตายห่าไปเสียแล้ว




ในช่วงท้ายตอนยินก็ได้คาดการณ์เอาไว้ว่า เชอรี่หรือไฮบาระ คงไม่อยู่ในเมืองนี้แล้ว ทำให้ไฮบาระปลอดภัยแล้ว .....................แต่มีหญิงสาวปริศนาคนหนึ่งไม่ได้คิดเช่นนั้น เธอแฝงตัวเข้าไปในงานเพื่อช่วยเหลือปิสโก้ โดยเธอคือนักแสดงชาวอเมริกัน นามว่า คริส วินยาร์ด อายุ 29 ปี







ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


หลังจากจบคดีใหญ่กับพวกชายชุดดำ โมริ โคโกโร่ ได้ถูกเชิญไปยังคฤหาสน์แห่งหนึ่ง???

โคนัน ตอนที่ 235-238 คฤหาสน์สีทองสนทยา



ในตอนนี้จะเป็นการรวมตัวยอดนักสืบมาไว้ในคฤหาสน์แห่งนี้ ซึ่งจากคำบอกเล่า ทำให้ได้ทราบว่า เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ คือ คาราสึมะ เรนยะ มหาเศรษฐีผู้ทรงอำนาจของญี่ปุ่น ในวันเกิดครบรอบ 99 ปีของตัวเค้า




ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำเมื่อ 50ปีก่อนเหตุการณ์ปัจจุบัน

ซึ่งเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของคฤหาสน์หลังนี้ในตอนนั้นเป็นเหตุการณ์เมื่อ 50ปีก่อน เป็นวันเกิดครบรอบ 99 ปี ของคาราสึมะ เรนยะ ภายในงานวันเกิดนั้น ได้มีการจัดงานประมูลเล็กๆของบรรดาแขกที่มาร่วมงาน โดยแขกแต่ละคน คือบุคคลสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตของข้าราชการ นักธุรกิจใหญ่ เซเลปชื่อดัง โดยในตอนนั้นได้เกิดฝนตกขึ้น และมีชายนิรนามสองคนขอเข้ามาในคฤหาสน์หลังนั้นเพื่อหลบฝนในสภาพเนื้อตัวเปียกโชก



ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นคนดำเนินการประมูลประตูได้ห้ามชายสองคนนั้นเข้ามาในคฤหาสน์ แต่ชายสองคนนั้นได้ให้บางสิ่งเป็นค่าผ่านทางแก่เจ้าหน้าที่ดูแลงานประมูล ของสิ่งนั้นเป็นยาสูบอะไรซักอย่าง(โคนันสันนิษฐานว่าเป็นกัญชา) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ดูแลงานประมูลคนดังกล่าวสูบยาสูบมวลนี้ เค้าก็เกิดอารมณ์ดี และยินยอมให้ชายสองคนเข้ามาในคฤหาสน์ ผู้คนในงานเห็นแบบนั้นจึงได้ขอแบ่งมาสูบบ้าง ทำให้ภายในคฤหาสน์หลังนั้น เต็มไปด้วยกลุ่มควัน .........แต่แล้วจู่ๆ ก็มีผู้หญิงที่สูบยาสูบชนิดเดียวกันนี้ เกิดอาการจิตหลอน ร้องไห้ฟูมฟาย ก่อนที่ชายอีกคนจะกรีดแขนตัวเอง และภายในไม่กี่อึดใจชายอีกคนบ้าคลั่งหยิบดาบที่นำมาประมูลฆ่าคนในงานตาย กลายเป็นการฆ่ากันเองของคนในคฤหาสน์ ซึ่งมีคนสันนิษฐานว่า เป็นแผนของคาราสึมะที่ต้องการจะสังหารหมู่คนที่เชิญมาในงาน แต่เหตการณ์ที่น่าจะต้องเป็นข่าวใหญ่โตหรือเป็นคดีใหญ่ที่ทางตำรวจต้องเข้ามาสอบสวนนายคาราสึมะ กลับกลายเป็นว่า เรื่องเงียบ ด้วยอิทธิพลของคาราสึมะ นั่นเอง



โดยที่ปัจจุบันร่องรอยคราบเลือดยังคงอยู่ตามสิ่งของต่างๆภายในคฤหาสน์ ซึ่งในตอนจบยิ่งตรอกย้ำความยิ่งใหญ่ของคาราสึมะ เพราะคฤหาสน์ทั้งหลัง ทำมาจากทองคำแท้ๆที่ถูกเคลือบปิดเอาไว้ ซึ่งตระกูลคาราสึมะได้ล้มละลายหายไปจากโลกนี้แล้ว ทำให้คฤหาสน์หลังนี้ถูกส่งต่อไปที่เจ้าของคนอื่น



เป็นอีกตอนที่ทำมาเพื่อเซอร์วิสแฟนๆ เพราะตัวละครหลักๆในจักรวาลของอาจารย์อาโอยาม่า โผล่มากันเกือบครบ ขาดก็แต่อีตาเฮย์จิคนเดียว

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ย้อนกลับไปตอน " การคืนชีพที่เดิมพันด้วยชีวิต " โคนันที่กลับร่างเดิมกลายเป็นชินอิจิด้วยยาแก้พิษตัวทดลองที่สกัดมาจากเหล้าจีนของไฮบาระ มีนักเรียนในห้อง หลุดเปรยๆพูดกับชินอิจิว่า "เห้ย !! มีอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนใหม่มา อย่างแจ่มเลย" และชื่อของอาจารย์คนนั้นก็คือ โจดี้ เซนเทอมิเลี่ยน โดยเธอปรากฎตัวขึ้นในตอน กับดักเกมต่อสู้



โคนันตอนที่ 245-246 กับดักเกมต่อสู้



เรื่องราวคร่าวๆคือ รัน โคนัน และโซโนโกะ ไปเล่นเกมตู้อาเขตที่เกมเซนเตอร์ และได้เจอกับคุณครูสอนภาษาอังกฤษคนใหม่ ที่ชื่อ โจดี้ เซนเทอมิเลียน โดยอาจารย์โจดี้ได้แนะนำรันให้รู้จักกับเกมต่อสู้เสมือนจริง ที่ตัวเครื่องจะมีระบบไฟฟ้าช่วยไปกระตุ้นร่างกายของผู้เล่นให้รู้สึกเจ็บเวลาตัวละครในเกมได้รับความเสียหายจากการต่อสู้ นั่นจึงเป็นช่องทางในการก่อคดีของคนร้ายในตอนนี้


ซึ่งหลังจากคลี่คลายคดี อาจารย์โจดี้ก็เริ่มสนใจในความฉลาดเกินเด็ก 7 ขวบของโคนัน และได้ตั้งฉายาให้กับโคนันว่า " cool guy "

บุคลิคเบื้องต้นของอาจารย์โจดี้ ก็คือ เธอสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้นิดหน่อย แต่ก็พอสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้


โจดี้ เซนเทอมิเลียน อายุ 28 ปี เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศประจำโรงเรียนมัธยมปลายเทตันที่รันกับโซโนโกะเรียนอยู่

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ภายหลังจากที่โคนันได้รู้จักกับอาจารย์โจดี้แล้ว ....โคนันก็ได้พบกับเธออีกครั้ง โดยคราวนี้พบกันบนรถบัสแห่งหนึ่ง ในตอน ผู้โดยสารปริศนา


โคนัน ตอนที่ 249-250 ผู้โดยสารปริศนา



เริ่มต้นมา จะเป็นฉากที่ยินกับวอดก้า นั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับบาแห่งหนึ่ง โดยบริกรที่ปลอมตัวเข้ามาในร้านก็คือหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนกับ คริส วินยาร์ด ที่ยินเรียกเธอว่า " เบลมอต "

ัตัดฉากกลับมาที่พวกโคนัน และชมรมนักเสือกเยาวชนกำลังจะไปเล่นสโนว์บอร์ด ที่บังเอิญพบกับคุณหมออาราอิเดะ หมอประจำห้องพยาบาลโรงเรียนมัธยมปลายเทตัน และ อาจารย์โจดี้ ครูคนใหม่จากโรงเรียนเดียวกัน ขึ้นมาบนรถบัสคันหนึ่ง โดยในขณะที่รถบัสกำลังวิ่งอยู่นั้น จู่ๆก็มีผู้โดยสารที่ขึ้นมาใหม่ ชักปืนขึ้นมาจับคนขับรถบัสเป็นตัวประกัน โดยแลกกับการที่ตำรวจต้องปล่อยตัวหนึ่งในเพื่อนร่วมแก๊งของพวกมันออกมาจากการกักขังตัว โคนันคิดจะใช้กลอุบายในการหลอกล่อพวกโจร




แต่หารู้ไม่ว่า มีพวกของมันแอบแฝงตัวเนียนไปกับผู้โดยสารที่เบาะหลังอีกสองคน ที่คอยทำหน้าที่สอดส่องพฤติกรรมของตัวประกันแต่ละคน หากตัวประกันทำตัวน่าสงสัย และมีท่าทีขัดขืย มันจะบอกให้เพื่อนของมันอีกสองคนที่กำลังปล้นอยู่บริเวณหน้าคนขับได้รู้ โดยใช้วิธีการบางอย่างที่ไม่ได้เป็นการส่งเสียงบอกโดยตรง แต่เป็นการแอบส่งสัญลักษณ์ข้อความบางอย่างที่รู้เฉพาะพวกมัน



โคนันที่กำลังจะโทรหาสารวัตรเมงุเระ จึงถูกคนร้ายที่เนียนอยู้เบาะหลัง ส่งสัญญาณบอกเพื่อนมันอีกที และเพื่อนมันก็ตรงมาที่โคนัน และชักปืนจ่อเพื่อที่จะยิงทิ้ง แต่คุณหมออาราอิเดะเอาตัวเข้ามากำบังโคนันเอาไว้


โฉมหน้าของแก๊งโจรอีกคนที่ถูกปล่อยตัวมาตามคำสั่งของพวกโจร




ซึ่งหลังจากที่พวกโคนัน และอาจารย์โจดี้(ที่ติดสอยห้อยตามมา) ปราบพวกโจรสำเร็จ ระเบิดเวลาที่พวกมันพกมาด้วยเกิดขัดข้อง เนื่องจาก สวิซตัวจุดชนวนที่เป็นนาฬิกาข้อมือ เกิดขัดข้อง ทำให้จะเกิดการระเบิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งในขณะที่ผู้โดยสารอพยพลงกันมาหมดแล้ว โคนันที่กำลังสอดส่องพรรคพวกของตนได้พบว่า ไฮบาระ ไม่ยอมลงมา ซึ่งเธอตั้งใจจะจบชีวิตของเธอไปพร้อมๆกับระเบิดบนรถบัส เนื่องจากเธอเหนื่อยที่จะหนีจากการตามล่าของพวกมัน เพราะในช่วงระหว่างที่เธอโดยสารบนรถบัสคันนั้น เธอได้รู้สึกถึงภัยอันตรายจากชายชุดดำแผ่รังสีความชั่วร้ายเข้ามาสู่ตัวเธอ จนเธอหวาดกลัว และรีบสวมฮูดปิดบังใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นรถบัสก็เกิดระเบิดขึ้น ภาพที่เห็นก่อนหน้านั้นคือ





โคนันวิ่งกระโจนโดดเข้าไปช่วยไฮบาระที่นั่งแน่นิ่งอยู่ในรถบัส และได้พูดเตือนสติเธอหลังจากช่วยเหลือออกมาว่า "อย่าหนีจากชะตากรรมที่เธอกำลังจเผชิญสิ"




ในท้ายตอน โคนันได้พูดถึงพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ที่อยู่บนรถบัส ว่าน่าจะเป็นหนึ่งในพวกของชายชุดดำแฝงตัวมา




ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


ในช่วงระหว่างนี้ ไฮบาระ รู้สึกจิตตกมาก ( แต่ก็ทำให้เธอเริ่มปิ๊งคุโด้ ชินอิจิขึ้นมา ที่ไปช่วยเธอจากระเบิดบนรถบัส ) ดร อากาสะเลยพาเธอไปเล่นบ้านของลูกชายเพื่อนแกที่เป็นคนรักหมา พร้อมกับพวกแก๊งเด็ก ซึ่งท้ายตอนไฮบาระก็กลับมาปกติอีกครั้ง

เวลาก็ล่วงเลยมาซักระยะ ดร อากาสะได้พา แก๊งชมรมนักเสือกเยาวชน ไปดูการจัดแสดงละครสัตว์ซึ่งเป็นคณะจัดแสดงจากต่างประเทศ ซึ่งได้เกิดเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น นั่นคือมีโจรเรียกค่าไถ่ตั้งใจจะจับหัวหน้าคณะนี้ไปเรียกค่าไถ่โดยการปลอมแปลงรถของพวกมันเป็นรถตำรวจ เพื่อความง่ายในการหลบหนี (เพราะพวกมันก็ปลอมตัวเป็นตำรวจด้วย โดยจะอ้างว่า คนที่มันลักพาตัวมา คือผู้ต้องหาที่กำลังจะนำไปฝากขัง

โคนันตอนที่ 277- 278 บุรุษผู้มาจากชิคาโก้



ในระหว่างที่คนร้ายได้จับหัวหน้าคณะแสดงละครสัตว์จากต่างประเทศขึ้นรถมา ก็ได้ทราบว่าพวกมันจับมาผิดคน โดยคนที่มันจับมาเป็นฝรั่งชายแก่ที่หน้าเหมือนกันเฉยๆ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วก็จับไปฆ่าปิดปากทิ้งซะเลย



ก่อนหน้านั้นชายแก่คนนี้ ได้พบกับพวกดร อากาสะและโคนัน ซึ่งได้ชวนกันไปกินข้าว เค้ามีชื่อว่า เจมส์ แบล็ค ในระหว่างที่เค้าจะกลับไปที่รถของเค้า ก็ได้มีตำรวจปลอมเชิญขึ้นไป นำไปสู่การลักพาตัวในครั้งนี้



ซึ่งก่อนที่เจมส์ จะขึ้นไปบนรถ เค้าก็แสดงท่าที่เหมือนรู้อะไรบางอย่าง จึงได้ทำการทิ้งแมสเสจเป็นรหัสลับทิ้งเอาไว้ เผื่อพวกโคนันจะบังเอิญมาเก็บได้ ซึ่งก็เจอจริงๆ โดยเป็นคำภาษาอังกฤษที่เขียนว่า P&A หรือ P and A ที่หมายถึง panda หรือมีแพนด้า (ที่หมายถึงสีของรถตำรวจ เนื่องจากโจรลักพาตัวปลอมตัวเป็นตำรวจทำทีเป็นว่ามาเข้าจับกุมนายเจมส์ แบล็ค) และพวกโคนันก็ได้ช่วยเจมส์ แบล็ค จากเงื้อมมือของโจรลักพาตัวได้สำเร็จด้วยความร่วมมือจากตำรวจจราจร ยูมิ ที่นำพากองกำลังตำรวจเข้าช่วยจับกุมคนร้าย

คีย์สำคัญของตอนนี้คือ มีชายที่เคยเป็นหนึ่งในผู้โดยสารเบาะหลังจากคดีรถบัสระเบิด ได้ขับรถกระบะเชฟโลเลตสีดำขับตามมาประกบข้างรถของโจรลักพาตัว และกวาดสายตาแผร่ออร่าจ้องขู่ไปที่พวกมัน ซึ่งโคนันก็จำได้ว่าคนขับรถกระบะสีดำคนนี้ที่จ้องมองมาที่พวกเด็กๆระหว่างการไล่ล่าจับกุมคนร้าย เค้าคือหนึ่งในผู้โดยสารเบาะหลังจากคดีรถบัสระเบิด โดยในการสอบปากคำครั้งนั้น เค้าบอกกับตำรวจว่า เค้าชื่อ อากาอิ ชูอิจิ



ในท้ายตอน ก็เผยให้เห็นว่าเพื่อนที่ เจมส์ แบล็ค กำลังตามหาอยู่ ก็คือชายที่ขับรถกระบะสีดำคนนี้ โดยที่เจมส์ก็นั่งโดยสารอยู่บนรถกระบะสีดำคันนี้ด้วย ชายที่ชื่อว่าอากาอิ ที่หมายถึงสีแดง


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


ในเวลาต่อมา เกิดเรื่องที่น่าตกใจขึ้น เมื่อแฟ้มคดีที่บันทึกเกี่ยวกับการคลีคลายคดีของโมริ โคโกโร่ ได้ถูกขโมยไป จากสถานีตำรวจโตเกียว โคนันที่ได้ทราบข่าวจึงได้ร้อนเนื้อร้อนตัวเพราะคิดว่า มีใครบางคน สงสัยเกี่ยวกับการคลี่คลายคดีของโคโกโร่นิทรา และกลัวว่าคนๆนั้นจะสาวมาถึงตัวของโคนัน จึงได้ปรึกษาหารือกับ ดร อากาสะ เพราะกลัวว่า คนที่ขโมยแฟ้มบันทึกคดี จะเป็นพวกของชายชุดดำ แต่โคนันเองก็ไม่ได้มีท่าที่ว่าจะเดือดเป็นร้อนอะไร (อยู่ดีๆฮัตโตริ เฮย์จิก็ตามมาสมทบที่บ้านดร อากาสะ เพราะ ดร อากาสะ โทรไปขอร้อง เฮย์จิให้มาช่วยโคนันสืบเรื่องของ พวกชุดดำ) จากนั้นโคนันจึงนึกขึ้นได้ว่า พอได้คุยเรื่องพวกชายชุดดำ เค้าเกิดสงสัยในคดีที่เกิดขึ้นที่โรงแรมไฮโด้ ถ้าคุณยังจำกันได้ ก็คือ คดีที่ปิสโก้ลอบสังหาร สส. ในโรงแรมที่เจ้าโคนันไปช่วยไฮบาระหนีออกจากที่แห่งนั้นแหละ โดยโคนันได้สงสัยว่า ต้องมีพวกของชายชุดดำแอบแฝงตัวเป็นแขกในงานปะปนมาช่วยปิสโก้ทำภารกิจ....(เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คนที่มาร่วมงานในวันนั้น และในบรรดาเซเลบผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คนนี้ จู่ๆ...หลังจากเกิดคดีดังกล่าว มีดาราแค่คนเดียวที่ไม่ปรากฎตัวต่อสื่อใดๆเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น ซึ่งก็คือ ผู้หญิงที่ชื่อ คริส วินยาร์ด



เฮย์จิจึงได้ถามโคนันว่ารอบๆตัวมีผู้หญิงฝรั่งชาวต่างชาติมาป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆตัวมั้ย ทั้งสองคนจึงได้เล็งเป้าไปที่ตัวของ โจดี้ เซนเทอมิเลี่ยน ครูสอนภาษาอังกฤษของพวกรัน และจะตามไปสืบเรื่องของเธอ ว่าเธอเป็นใครกันแน่

โคนันปี 7ตอนที่ 299-300 ครูสอนภาษาอังกฤษปะทะยอดนักสืบตะวันตก




เฮย์จิกับโคนันบุกไปที่คอนโดของอาจารย์โจดี้ เพื่อตามสืบเกี่ยวกับตัวเธอ ในระหว่างนี้เกิดคดีขึ้นเล็กน้อยเพราะมีคนตกจากคอนโดโหม่งลงพื้น โดยใช้อุบายย้ายเตียงที่ผู้ตายนอนไปไว้ขอบหน้าต่าง (ผู้ตายเมาอยู่) จึงพลัดตกลงมา



หลังจากที่โคนันกับเฮย์จิไขคดีนี้สำเร็จ เฮย์จิจับไต๋อะไรบางอย่างจากอาจารย์โจดี้ได้ว่า เธอแกล้งทำเป็นพูดญี่ปุ่นไม่ชัด เพื่อปลอมตัวหรือแฝงตัวเข้ามาทำอะไรอย่างในญี่ปุ่นรึเปล่า อาจารย์โจดี จึงได้พูดประโยคติดปากของเธอว่า "A secret makes a women woman " ตรอกกลับมา





ตัดภาพไปที่อาจารย์โจดี เธอเก็บสะสมรูปภาพที่มีรันกับชินอิจิเอาไว้ทำไมไม่รู้






หลังจากนั้นโคนันจึงวานให้ ดร อากาสะไปตามสืบเรื่องของ คริส วินยาร์ด จึงได้สืบทราบมาว่า

" ในงานไว้อาลัยแม่ของเธอ ชารอน วินยาร์ด มีนักข่าวไร้มารยาทมาถามเธอ ประมาณว่า ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ เธอเรียนจบจากที่ไหน บลาๆ


ซึ่งเธอก็ไม่ได้แสดงอาการเศร้าโศกเสียใจกับการตายของแม่ของเธอ และหันกลับมาตอบนักข่าวมารยาททรามคนนั้นว่า " "A secret makes a women woman" เอ๊ะ?!!!



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

เวลาผ่านมาไม่นานนัก รันที่จู่ๆไม่สบายเป็นลมหมดสติไป หลังจากเกิดคดีที่ร้านอาหารจีน(อ้างอิงจากตอนเดจาวูในสายฝนของไชน่าทาวน์) ก็ได้หวนลำลึกไปถึงคดีที่นิวยอร์กที่เธอได้ไปเยี่ยมคุณแม่ของชินอิจิ ที่LA


โคนันปี 7 ตอนที่308 - 310"คุโด้ ชินอิจิกับคดีในนิวยอร์ก "




มีคดีฆาตรกรรมเกิดขึ้นในโรงละคร ผมขออนุญาติข้ามไปและจะสรุปไฮไลต์สำคัญๆ จากตอนย้อนอดีตตอนนี้เป็นไทม์ไลน์นะ




เธอคนนี้มีชื่อว่า ชารอน วินยาร์ด เป็นเพื่อนกับคุโด้ ยูกิโกะ โดยเธอเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการภาพยนต์ของอเมริกา มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากภาพยนต์เรื่อง Golden Apple ปัจจุบันเธอเสียชีวิตแล้ว




ตัดภาพมาที่หลังจบคดี รันที่กำลังรอคอยชินอิจิท่ามกลางสายฝน ก็ได้บังเอิญพบกับชายหนุ่มผมยาว ชาวญี่ปุ่น



โดยชายคนนี้ได้เข้ามาถามรันว่า เห็นชายแก่ชาวญี่ปุ่นวิ่งผ่านมาแถวนี้มั้ย ซึ่งรันก็ตอบว่าไม่รู้ โดยหลังจากที่ชายหนุ่มผมยาวคนนี้จากไป รันกับชินอิจิได้พบกับชายแก่คนดังกล่าว และได้รู้ว่าเค้าคือฆาตกรที่วิ่งหนีมา


รันกำลังจะโดนชายแก่คนนี้ฆ่าปิดปาก โดยในขณะที่ชายแก่คนนี้กำลังสวมที่เก็บเสียงที่ปลายกระบอกปืน ราวเหล็กบรรไดที่เค้ายืนพิง เกิดหักขึ้นมา จนตัวของเค้าตกลงไป แต่ทันใดนั้น...................




รันได้ช่วยชายแก่คนนี้เอาไว้ ในขณะเดียวกัน ชินอิจิก็เข้ามาช่วยกันดึงร่างเค้าขึ้นมาอีกแรง ชายแก่รู้สึกขอบคุณสองคนนี้มาก จึงได้ถามว่า ทำไมถึงช่วยเค้า ชินอิจิก็เลยบอกว่า "จำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยหรอ ไอการที่คนช่วยคนเนี่ย"


ผมขอเล่า+บ่นอะไรนิดหนึ่ง


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

จบการย้อนอดีตที่อเมริกา ได้เกิดคดีคนร้ายลอบวางระเบิดตามที่ต่างๆในโตเกียว จริงๆเป็นคดีที่สนุกนะ แต่ส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักมีแค่การเปิดตัว ตัวละครสำคัญ นั่นคือ มัตสิดะ จินเปย์ ที่เสียชีวิตจากระเบิดที่คนร้ายเคยวางเอาไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน โดยเค้าเป็นอดีตแฟนของหมวดซาโต้





ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

โคนันที่กำลังตามสืบเรื่องของคริส วินยาร์ด และ อาจารย์โจดี้ กำลังจะถึงทางตัน เพราะไม่มีเบาะแสอะไรเลยของชายชุดดำ ในขณะที่มืดแปดด้าน จู่ๆก็มี ชายสามคนมาขอให้ นักสืบโมริ ตามหาชายที่ชื่ออิตาคุระ ซุงุรุ

โคนันปี 7 ตอนที่ 332-336 " หลักฐานไร้เสียงที่เหลือ" และเฟสสอง "การติดต่อกับองค์กรชุดดำ"


เริ่มต้นคดี มีคนสามคนมาจ้างวานนักสืบโมริตามหาตัวของคุณอิตาคุระ โดยทั้งสามคนเป็นคนของบริษัทพัฒนาเกมหมากรุก ที่มาจากคนละบริษัทกัน โดยคุณอิตาคุระ เป็นนักพัฒนาซอฟท์แวร์ชื่อดังที่หายตัวไป



หนึ่งในสามคนนั้นจึงตั้งข้อสงสัยว่า คุณอิตาคุระ อาจจะถูกลักพาตัวโดยชายคนหนึ่ง ซึ่งเค้าเล่าว่า "เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ผมไปหาคุณอิตาคุระที่ออฟฟิศของเค้า ผมได้เจอกับผู้ชายร่างใหญ่สูงสองเมตร พูดสำเนียงคันไซ พวกคุณก็น่าจะเคยเห็น เพราะชายคนนั้นก็ไปงานเปิดตัวเกมใหม่ของบริษัท มันเทนโด้ " โคนันจึงตกใจเพราะคนๆนั้น คือเตกีล่า หนึ่งในพวกชายชุดดำที่กลายเป็นโกโก้ครันซ์จากแรงระเบิด และคุยกันซักพัก โคนันจึงได้รู้ว่า นายอิตาคุระแอบติดต่อกับชายชุดดำ


ภาพจากตอนคดีบริษัทเกม เมื่อซีซันที่ 2

ตัดไปที่นักสืบโมริที่พบที่หลบซ่อนกบดานของ คุณอิตาคุระเจอ และทั้งสามคนที่เป้นผู็จ้างวานก็อาสามาด้วย




พอไปถึงห้องที่คุณอิตาคุระมาหลบซ่อนตัว ก็พบว่า เค้าได้เสียชีวิตแล้ว


ผมขออนุญาตไม่ลงดีเทลละกัน แต่คนร้ายที่ฆ่าคือหนึ่งในสามคนนั้นแหละ


โคนันที่ตามมาด้วย มีจุดประสงค์ที่ต้องการบันทึกไดอารี่ของคุณอิตาคุระ และโคนันก็ได้มาสำเร็จ ซึ่งระหว่างทางกลับบ้าน รันกับโคนันก็บังเอิญไปเจอกับชายที่ชื่อ อากาอิ ชูอิจิ เข้า







อากาอิเข้ามาทักรัน และพูดกับรันว่า "รันเหมือนกับเธอคนนั้นจริงๆ" โคนันจึงนึกออกว่า คนๆนี้คือคนที่ขับรถกระบะสีดำไล่ตามในคดีลักพาตัวเจมส์แบล็ค



และอากาอิก็เดินจากทั้งสองคนไป

ตัดฉากมาที่บ้านของ ดร อากาสะ .........โคนันได้เปิดดูบันทึกของคุณอิตาคุโระที่ไปแอบเอามาได้ โดยใช้คอมที่บ้าน ดร อากาสะ




สรุปสั้นๆ จากบันทึกของคุณอิตาคุระ ทำให้โคนันได้เบาะแสของพวกชายชุดดำ และได้ทราบเรื่องบ้านพักตากอากาศของคุณอิตาคุระ โคนันกับดร อากาสะ จึงจับรถไปที่บ้านพักตากอากาศหลังนั้น




ในระหว่างที่กำลังค้นหาเบาะแสของพวกชุดดำในบ้านพักหลังนั้น จู่ๆก็มีโทรศัพท์ในบ้านพักหลังนั้นดังขึ้น ซึ่งคนที่โทรเข้ามาคือ ว๊อดก้า โคนันจึงทำตีเนียนปลอมตัวเสียงเป็นคุณอิตาคุระ และเจรจานัดสถานที่แลกเปลี่ยน โปรแกรมกับว๊อดก้าที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง ที่ชื่อเคนบาชิ ซึ่งที่นั้นกำลังปิดปรับปรุงอยู่ จึงเหมาะแกการแลกเปลี่ยนเป็นอย่างมาก






หลังจากตกลงอะไรกันเสร็จเรียบร้อยกับว๊อดก้าแล้ว โคนันและ ดร อากาสะ จึงรีบขับรถมุ่งหน้าไปที่สถานี่เคนบาชิ ซึ่งเป็นที่นัดพบกับว๊อดก้า ระหว่างทาง รถเต่าของ ดร อากาสะ เกิดเสียขึ้นมา จึงโบกรถขอติดรถที่ผ่านทางมา เพื่อขอให้รถที่โบก พาไปส่งที่สถานีเคนบาชิ






ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ โคนันต้องคอยฝั่งข่าววิทยุเพื่อเช็คว่า ข่าวการตายของคุณอิตาคุระ จะยังไม่ออกอากาศ เพราะไม่งั้น ว๊อดก้าจะรู้ว่า คุณอิตาคุระตายแล้ว และคนที่คุยด้วย คือคนอื่นปลอมตัวมา (ซึ่งในที่นี้ก็คือโคนัน) ...............ซึ่งระหว่างที่ฟังวิทยุอยู่นั้น โคนันได้ยินข่าวเรื่องโจรปล้นเพชรที่กำลังหลบนี้อยู่ ซึ่งก็คือรถที่โคนันกับดร อากาสะขอติดไปส่งด้วยนั่นเอง แต่โคนันได้สังเกตและรู้อยู่แล้วว่าไอพวกนี้คือโจรปล้นเพชร พอไปถึงที่สถานีเคนบาชิ โคนันจึงยิงเข็มยาสลบ ไปที่โจรคนขับ และใช้ลูกบอลอัดลมขยายใหญ่จนบีบรัดขังโจรอีกคน และสั่งให้ดร อากาสะโทรแจ้งตำรวจ ส่วนตนจะเข้าไปเผชิญหน้ากับว๊อดก้า เพื่อจะจับมันให้ได้ วิธีการคือ

เอาแผ่นซีดีโปรแกรมของคุณอิตาคุระติดด้วยเทปกาวยึดกับช่องในล๊อกเกอร์ ซึ่งธรรมชาติของคนเรา จะต้องถอดถุงมือเวลาแกะเทปกาว นั่นจึงทำให้โคนันได้ "ลายนิ้วมือของว๊อดก้า"

และโคนันแกล้งทำทีเป็นว่าขาดการติดต่อกับว๊อดก้า ทำให้ว๊อดก้ามันหงุดหงิดจนต้องหยิบบูหรี่ขึ้นมาสูบ เพื่อที่มันจะได้ทิ้งก้นบุหรี่ไว้ และจะเอาก้นบุหรี่ที่ติดน้ำลาย ไปตรวจสอบกรุ๊ปเลือด

ซึ่งเมื่อได้ทั้งลายนิ้วมือ และ กรุ๊ปเลือด จะทำให้ตามจับว๊อดก้าได้ในภายหลัง



แต่ในระหว่างที่แผนของโคนันกำลังไปได้สวย ยินก็เข้ามาหาว๊อดก้า เอาปืนจ่อไปที่คอ และพูดว่า ว๊อดก้าติดกับของคนที่อิตาคุระจ้างมาแล้ว เพราะอิตาคุระเป็นโรคหัวใจ ไม่ลงทุนถ่อสังขารมาที่นี่แน่นอน และสิ่งที่โคนันทำพลาดก็คือ ซีดีที่โคนันนำมาติดนั้น ยังอุ่นๆอยู่ ทำให้ยินได้รู้ว่า คนที่อิตาคุระจ้างมา จะต้องหลบซ่อนอยู่ในห้องล็อคเกอร์นี้แน่นอน ทั้งสองจึงช่วยกันตามหา แต่ก็ไม่เจอ



เพราะโคนันมันไปหลบซ่อนตัวในล็อคเกอร์เก็บของ ซึ่งยินก็โชว์เทพ เปิดคู้ล็อกเกอร์เพื่อเช็คดู ในขณะที่ยินกำลังจะเปิดตู้ที่โคนันหลบอยู่นั้น เค้าก็นึกขึ้นได้ว่า คงไม่มีใครไปหลบในล็อคเกอร์เล็กๆนี้ได้หรอก โคนันจึงรอดตัวไป หลังจากที่พวกยินและว๊อดกาสลายตัวไปแล้ว โคนันเผลอหลับในล็อคเกอร์ยันเช้า และคนที่มาพบ ก็คือ ไฮบาระที่ใช้แว่นสะดรอยสำรองตามมาช่วยโคนัน





ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

หลังผ่านมาหลายวัน ไฮบาระเกิดมีอาหารป่วย ซึ่ง ดร อากาสะ ก็โทรตามให้โคนันมาช่วยดูอาการ ทั้งสองคุยตกลงกันจนได้ข้อสรุปว่า จะพาเธอไปโรงพยาบาล แต่ในวันนั้นเป้นวันหยุด ทำให้มีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่เปิดทำการ จึงทำให้มีคิวมาจองแน่น พวกดร อากาสะจึงต้องฆ่าเวลาโดยการมาเดินเล่นที่ห้าง รอจนกว่าคิวที่โรงพยาบาลจะว่าง




โคนันปี 8ตอนที่ 363-364 รถปอเช่ทั้งสี่คัน



ในช่วงที่มาจอดรถที่ในตัวห้าง ก็ได้พบกับรถปอเช่ทั้งสี่คันจอดเรียงกันอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ปอเช่ 356A แบบเดียวกับรถของยิน สมาชิกชายชุดดำ แต่ปอเช่คันนั้นมีสีเขียว แตกต่างจากของยินที่มีสีดำ

ระหว่างที่จะไปหาไรกินในห้าง ดร อากาสะ กับ โคนันก็ได้มาเจอกับ อาจารย์โจดี้ ที่พา รัน กับโซโนโกะมากินข้าวด้วย ซึ่งร้านอาหารที่ไปกินกันนั้น บังเอิญมีรายการอาหารมาถ่ายอัดรายการสดแล้วไปติดหน้าโคนันเข้า โคนันจึงกลัวว่า พวกของชายชุดดำจะมาตามเก็บตน เค้าจึงรีบวิ่งไปคุ้มกัน ไฮบาระที่กำลังนอนป่วยอยู่ในรถเต่าของ ดร อากาสะ หลังจากนั้นก็เกิดคดีมาคั่นขึ้นนิดหน่อย ที่เจ้าของรถปอเช่ หนึ่งในนั้นพบว่าเป็นศพไปแล้ว

หลังคลี่คลายคดีเสร็จ ไฮบาระก็ได้คุณหมออาราอิเดะตามมารักษาอาการถึงที่บ้านของ ดร อากาสะ

คีย์สำคัญของคดีนี้ก็คงจะเป็น โคนันที่คิดว่า อาจารย์โจดี้ คือพวกของชายชุดดำที่ชื่อ คริส วินยาร์ด หรือ เบลมอธนั่นเอง


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

โคนันปี 8 ตอนที่ 365-366 ความลับที่ซ่อนในห้องสุขา

ในเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ไฮบาระกำลังพักรักษาตัวจากอาการไข้ในบ้านของ ดร อากาสะ โคนันซึ่งก็อยู่ที่นั่นด้วย ได้ทราบข่าวจากดร อากาสะว่า เค้าได้ติดต่อนัดเจอกับเพื่อนของ ดร มิยาโนะ พ่อของไฮบาระ โดยเค้าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของดร มิยาโนะ ซึ่งสำนักงานที่เค้าอาศัยอยู่เคยเป็นบ้านของ ดร มิยาโนะ และเค้าก็ได้ขอยืมมาทำสำนักงานดีไซน์ของเค้า

พวกโคนันหลังจากที่มาถึงแล้ว ก็ได้เบาะแสว่า มิยาโนะ อาเคมิ พี่สาวของไฮบาระ ได้แอบเอาของบางสิ่งบางอย่างมาซ่อนเอาไว้ให้รอดพ้นจากสายตาของพวกชุดดำ สิ่งนั้นคือ เทปเสียงที่บันทึกข้อความสุขสันวันเกิดไฮบาระ ที่อัดเสียงของ มิยาโนะ เอเลน่า แม่ของเธอ

ในช่วงท้ายของตอนนี้ คริส วินยาร์ด ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ เพื่อตกลงอะไรบางอย่างกับชายที่ชื่อ คาวาโดส โดยเป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่จะถึงต่อจากนี้




Two Mysteries of the Night of the Full Moon

โคนันปี 8 ปะทะองค์กรชุดดำ ปริศนาคูณสองในคืนเดือนเพ็ญ (371-375)



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


มีจดหมายเชิญไปร่วมงานฮาโลวีนปาร์ตี้ ส่งมาถึงยอดนักสืบโมริ โคโกโร่ จากชาวต่างชาติที่ชื่อเวอร์มุต



หลังจากนั้นช่วงเย็น โซโนโกะเลยจะขอตามนักสืบโมริไปงานด้วย โดยทั้งคู่ก็แต่งคอสเพลย์แฟนซีฮาโลวีนเพื่อให้เข้าธีมของงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้น


ซึ่งทางด้านโคนันเองก็ได้รับบัตรเชิญแบบนี้เช่นเดียวกันจากคนที่ชื่อเวอร์มุต แต่ที่แปลกคือเนื้อหาในจดหมายเขียนถึง เอโดงาวะ โคนัน แต่จ่าหน้าเขียนชื่อผู้รับเป็น คุโด้ ชินอิจิ


ซึ่งทางด้านไฮบาระที่กำลังนอนซมจากอาการหวัดก็ได้สงสัยในชื่อของเวอร์มุต โคนันจึงพูดว่า เวอร์มุตคือการออกเสียงแบบสากล แต่ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า "เบลมอธ" ไฮบาระ เมื่อได้ยินชื่อนี้เข้า ก็เหงื่อแตก หวาดกลัวกับชื่อๆนี้ และได้สั่งห้ามไม่ให้โคนันไปร่วมงานปาร์ตี้นี้เพราะอาจเป็นกับดักของเบลมอธ โคนันจึงคิดว่าไฮบาระอาจจะทำให้เกิดปัญหาอะไรกับแผนการบางอย่างของเค้าเพราะตอนนี้พฤติกรรมเธอร้อนรนมาก กระวนกระวายอย่างหนัก โคนันจึงยิงเข็มยาสลบเพื่อให้เธอสงบและหมดสติลง







ในงานปาร์ตี้ฮาโลวีนที่นักสืบโมริกับโซโนโกะไปร่วมงานนั้น ก็ได้พบกับชายที่แต่งตัวเป็นมนุษย์มัมมี่ และภายในงานก็มีคดีฆ่ากันตายเกิดขึ้น โดยนักสืบที่ทำการไขคดีในครั้งนี้ก็คือ มนุษย์มัมมี่คนนี้


ในขณะเดียวกันที่เมืองเบกะ ไฮบาระได้รับสายโทรศัพท์จากหมออาราอิเดะที่จะนัดเข้ามาตรวจไข้ แต่ทันใดนั้น ไฮบาระก็ได้ถูกลักพาตัวไป โดยใครคนหนึ่ง


แล้วใครคนนั้นที่ว่า ก็คือ อาจารย์โจดี้ ผู้ต้องสงสัยที่เป็นเบลมอธ หญิงสาวขององค์กรที่กำลังตามล่าตัว เชอรี่ หรือไฮบาระนั่นเอง


ทางด้านงานปาร์ตี้ มนุษย์มัมมี่สามารถไขคดีจับตัวคนร้ายได้สำเร็จ ซึ่งใบหน้าภายใต้ผ้าพันแผล ก็คือ คุโด้ ชินอิจิ นักสืบมัธยมปลาย ที่เบลมอธเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ฮาโลวีนในครั้งนี้นั่นเอง


ตัดกลับไปที่เมืองเบกะ อาจารย์โจดี้ที่ลักพาตัว ไฮบาระ ไปจากบ้านของ ดร อากาสะ ในระหว่างนั้น คุณหมออาราอิเดะ ก็ได้ขับรถไล่ตามรถของอาจารย์โจดี้ที่ลักพาตัว ไฮบาระไป ซึ่งก็ได้ขับรถไล่ตามกันมาจนถึงแม่น้ำเทมุสึ


ทั้งสองลงมาจากรถยนต์ ทันใดนั้น อาจารย์โจดี้ ก็ได้เปิดเผยว่าตัวเองคือ เจ้าหน้าที่สืบสวน FBI ที่ชื่อว่า โจดี้ สตาลิ่ง แอบมาตามสืบเรื่องขององค์กร องค์กรหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือพวกชายชุดดำ โดยเธอเล่าให้คุณหมออาราอิเดะฟังเรื่อง แฟ้มคดีการสืบสวนของนักสืบโมริ โคโกโร่ ที่ถูกขโมยไป เป็นฝีมือของสมาชิกองค์กรชุดดำคนหนึ่ง ซึ่งในช่วงเวลานี้ คุณหมออาราอิเดะต้องทำเรื่องขึ้นศาลเกี่ยวกับคดีที่คุณพ่อของเค้าถูกสังหารโดยแม่เลี้ยงของเค้า (เหตุการณ์จากตอน มุมอับในความมืด) โดยอาจารย์โจดี้ได้ถามอะไรบางอย่างกับคุณหมออาราอิเดะเกี่ยวกับคดีนี้ ทำให้อาจารย์โจดี้จับเท็จอะไรบางอย่างจากตัวหมออาราอิเดะ และเธอยังพูดอีกว่า ในช่วงระหว่างนี้ เธอไม่ได้ข่าวคราวของ นักแสดงฮอลลีวูด อย่างคริส วินยาร์ดเลย แต่กลับพบว่า เข้าๆออกๆคลินิกของหมออาราอิเดะ ไม่รู็ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ซึ่งหลังจากจับเท็จคุณหมออาราอิเดะที่ยืนประจันหน้ากันอยู่

"คุณหมอ อาราอิเดะ ไม่สิ คริส วินยาร์ด "

คำพูดของอาจารย์โจดี้ที่ยิงใส่คุณหมออาราอิเดะ พร้อมๆกับใบหน้าของคุณหมออาราอิเดะที่ถูกฉีกออกซึ่งปรากฎใบหน้าเป็น หญิงสาวฝรั่งผมสีแพล็ตตินัมบรอนด์


"หรือฉันต้องเรียกคุณว่า เบลมอธ ดีหละ "



ย้อนกลับไปเมื่อ20 ปีก่อน เด็กสาวที่ชื่อโจดี้ สตาลิ่ง ได้พบกับหญิงสาวปริศนา ที่แอบเข้ามาสังหารพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ เด็กหญิงโจดี้อายุ 8 ขวบ ด้วยความสงสัยจึงถามเธอว่า

"พี่สาวเป็นใครคะ?"

หญิงสาวปริศนาจึงตอบกลับไปว่า

" A secret makes a women woman " หรือก็คือ ความลับ จะทำให้ผู้หญิง สมกับเป็นผู้หญิง


เด็กสาวที่ยังไม่รู้เรื่องการตายของคุณพ่อก็ได้แต่ยืนงงด้วยความสงสัย ว่าทำไมคุณพ่อของเธอถึงมานอนหลับไม่เป็นที่เป็นทางอยู่กลางพื้นห้อง (โดยไร้ซึ่งลมหายใจ)

หญิงสาวปริศนาก็ได้หายตัวไปจากสายตาของเด็กสาว พร้อมกับจุดไฟเผาบ้านหลังนี้ จนทุกอย่าง มอดไหม้

.
.
.
.
.
.

"หรอ......เด็กเมื่อ 20 ปีก่อนตอนนั้น คือเธอเองหรอ?"

คริสวินยาร์ดหรือเบลมอธ ยิงคำถามใส่อาจารย์โจดี้ ซึ่งอาจารย์โจดี้ ก็ได้เล่าว่า หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เธอก็ได้รอดตายจากกองเพลิง และถูกช่วยไว้ โดยเพื่อนพ่อที่เป็น FBI และได้ถูกทาบทามให้เข้าโปรแกรมพิทักษ์พยาน โดยจะเปลี่ยนชื่อเธอ และ ใบหน้า ปลอมแปลงเป็นบุคคล บุคคลอื่น แต่เธอก็ได้ปฎิเสธ ข้อเสนอดังกล่าว และจะข้อใช้ชีวิตในฐานะของหญิงสาวที่ชื่อว่า โจดี้ สตาลิ่ง ต่อไป พร้อมกับประโยคติดปากที่คอยย้ำเตือนเธอเสมอ นั่นคือ

" A secret makes a women woman "

ประโยคเดียวกับที่เธอได้ยินจากหญิงสาวปริศนาที่ลอบเข้ามา ฆ่าครอบครัวของเธอ หลังจากสนทนากันเสร็จ
ก็ได้เกิดการดวลปืนกันระหว่าง อาจารย์โจดี้ กับ เบลมอธหรือคริสวินยาร์ด โดยเบลมอธ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถูกยิงเพื่อปลดปืนอีกข้างให้กระเด็นหายไป ในระหว่างที่เบลมอธยอมยกธงขาว ยกมือสองข้างขึ้นยอมจำนนต่ออาจารย์โจดี้ที่พร้อมจะเหนี่ยวไกใส่ได้ทุกเมื่อ ก็ได้เกิดเสียงปืนขึ้น เป็นเสียงสไนเปอร์ไรเฟิลที่ซุ่มยิงใส่อาจารย์โจดี้ ซึ่งมือสไนเปอร์คนนี้ที่ปรากฎเป็นเงาดำที่หลบซ่อนท่ามกลางความมืด ก็คือ หนึ่งในสมาชิกองค์กรชุดดำ โค้ดเนม "คาวาโดส" หรือเหล้าที่กลั่นมาจากแอปเปิล




ในระหว่างที่อาจารย์โจดี้กำลังล้มลงพิงกับรถด้วยความเจ็บปวดจากการถูกกระสุนสไนเปอร์นั้น เบลมอธก็เดินเข้ามาที่ๆอาจารย์โจดี้นั่งบาดเจ็บอยู่ และวินาทีที่เบลมอธกำลังจะสังหารอาจารย์โจดี้ด้วยปืนสั้น ก็ได้มีลูกฟุตบอลที่ลอยทะลุกระจกรถพุ่งเข้าใส่เบลมอธ ไฮบาระ ที่เดินลงมาจากรถพร้อมกับรองเท้าเสริมพลังเตะ ก็ได้ดึงใบหน้าปรากฎเป็น เด็กแว่นนรกของพวกเรานั่นเอง




เบลมอธตกใจมาก เพราะแผนที่เธอวางเอาไว้ก็คือ จับตัวไฮบาระ ไอ และกันให้คุโด้ ชินอิจิออกห่างจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพราะเธอไม่อยากให้คุโด้ ชินอิจิ มาขัดขวางเธอ และเธอก็เกิดข้อสงสัยอีกว่า ก็คุโด้ ชินอิจิยังยืนไขคดีอยู่ที่งานปาร์ตี้ฮาโลวีนอยู่ไม่ใช่หรอ (จากการส่งข่าวของวอดก้า ที่แอบแฝงตัวเข้าไปในงาน คอยส่งข่าวให้เบลมอธ) ทันใดนั้น คุโด้ ชินอิจิ ที่อยู่ที่งานปาร์ตี้ฮาโลวีน ก็ได้ดึงหน้าของเค้าออก ปรากฎเป็น



ฮัตโตริ เฮย์จิ !!!!!!! (ขยันกันปลอมตัวมากตอนนี้ จนแฟนๆโคนันโซเชี่ยลอ๊อนหล่าย ขนานนามตอนนี้ว่า มหกรรมปลอมตัว แย่งชิงเด็ก)

เฮย์จิ ได้ถูก พวกโคนันไหว้วานมาสร้างแผนตลบหลังเบลมอธ โดยเฮย์จิจะทำการสืบคดีจนสำเร็จ และเล่าข้อสรุปจากการสืบคดีให้โคนันที่ปลอมเป็นไฮบาระฟัง และโคนันจะใช้เสียงของชินอิจิพูดผ่านไมค์ที่ติดอยู่ที่คอเสื้อของเฮย์จิที่ปลอมตัวเป็นชินอิจิ เป็นความร่วมมือกันระหว่างสุดยอดนักปลอมตัวอีกคนของเรื่องอย่าง คุโด้ ยูกิโกะ แม่ของโคนัน กับ ดร อากาสะ ที่ช่วยทำอุปกรณ์ส่งสัญญาณเสียงให้โคนันกับเฮย์จิใช้

ก่อนหน้านั้น โคนันกับอาจารย์โจดี้ ได้ล่วงรู้ความจริงชวนขนลุก นั่นคือ ชารอนวินยาร์ด และ คริสวินยาร์ด ก็คือ เบลมอธที่แสดงเป็นสองบทบาท โดยชื่อจริงๆของเบลมอธ ก็คือ ชารอน วินยาร์ด โดยเธอแกล้งแสดงว่าเธอได้ตายจากไป และก็ได้สวมบทบาทเป็น คริส วินยาร์ด ในฐานะ ลูกสาวของชารอน วินยาร์ด

ย้อนกลับไปก่อนที่ อาจารย์โจดี้จะเริ่มดวลปืนกับเบลมอธ อาจารย์โจดี้ได้ยิงคำถามใส่เบลมอธไปว่า

"ทำไมผ่านมา20 ปีแล้ว คุณถึงไม่แก่ขึ้นมาเลยจากตอนนั้น"



หลังจากแผนการจับกุมเบลมอธส่งตำรวจโดยจะยิงเธอด้วยนาฬิกาเข็มยาสลบที่โคนันวางเอาไว้กำลังจะสำเร็จไปได้ด้วยดี (เพราะตัวของเบลมอธได้บังวิถีปืนสไนเปอร์ของคาวาโดส) ก็ได้มีรถแท็กซี่คันหนึ่ง ขับมาส่งผู้โดยสาร เป็นเด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอมแดงลงมาจากรถ



ไฮบาระ ไอ ที่แอบตามโคนันมาด้วยแว่นสะกดรอยสำรอง อยากที่จะยอมตายเพื่อให้เรื่องทุกอย่างจบ ซึ่งก็พอดีกับเสียงตะโกนไล่ให้หนีไปของโคนัน เพราะแผนกำลังจะสำเร็จแล้ว โคนันที่เสียจังหวะเสียงสมาธิเพียงเสี้ยววินาที เพราะไฮบาระ ก็ได้ถูกเบลมอธจับที่ข้อมือเพื่อเปลี่ยนทิศทางยิงเข็มยาสลบเข้าที่หน้าของโคนัน จนโคนันสลบไป เบลมอธพูดขอบคุณ ไฮบาระ หรือเชอรี่ที่เข้ามาขวางโคนันไว้ โดยไฮบาระพร้อมที่จะยอมตายโดยให้เบมอธยอมรับปากว่า จะปล่อยทุกๆคนไป เบลมอธก็ตอบตกลง แต่ยกเว้นอาจารย์โจดี้ที่ต้องฆ่าทิ้งตามคำสั่งขององค์กร ในระหว่างที่ปลายกระบอกปืนของเบลมอธหันเข้าสู่ร่างของไฮบาระ ไอ ก็ได้ยินเสียงคนออกมาจากกระโปรงรถของอาจารย์โจดี้ คนๆนั้นคือ โมริ รัน โดยรันได้พุ่งเข้าไปช่วยไฮบาระจากเงื้อมมือของเบลมอธและคาวาโดสที่ใช้ไรเฟิลยิงเข้าใส่โมริ รัน แต่เธอก็วิ่งฝ่ามาได้ โดยล้มลงเอาตัวบังกระสุนให้ไฮบาระ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เบลมอธจึงสั่งห้ามไม่ให้คาวาโดสฆ่า โมริรัน



ไฮบาระได้รู้สึกว่า โมริรัน มีลักษณะคล้ายกับพี่สาวของเธอ (มิยาโนะ อาเคมิ) มาก ในระหว่างที่เบลมอธเอาปืนยิงขู่ให้โมริรัน ปล่อยตัวไฮบาระมาให้เธอนั้น อาจารย์โจดี้ที่หลบวิถีสไนเปอร์ของคาวาโดสก็ได้ยิงใส่เข้าที่แขนของเบลมอธ แต่มันก็เท่านั้น เพราะเบลมอธยังมีพรรคพวกที่ชื่อคาวาโดสอยู่ ... เบลมอธสั่งให้คาวาโดสลงมาเก็บแม่สาว FBI คนนี้ทิ้งซะ โจดี้ที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคน ก็ได้ทำใจว่าตนคงถูกฆ่าแน่ๆ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายที่เดินมา พร้อมกับพูดว่า

" อ้อ!! หมอนั่นชื่อคาวาโดสหรอ นึกว่าพ่อค้าอาวุธที่ไหนซะอีกเพราะหมอนั้นมีอาวุธปืนเต็มไปหมด และฉันก็ได้ทำการหักขาของหมอนั้นไปแล้ว หมอนั้นจบแล้วหละ"

นั่นคือ อากาอิ ชูอิจิ เจ้าหน้าที่ FBI ที่รันกับชินอิจิเคยเจอที่อเมริกา จากคดีตามล่าฆาตรกรผมเงิน หลังจากที่อากาอิพูดคุยกับเบลมอธเสร็จ เธอทำท่าที่ขัดขืนพร้อมจะชักปืนยิงใส่ แต่อากาอิก็ชักปืนลูกซองยิงเข้าใส่เบลมอธก่อน จนเธอได้รับบาดเจ็บแต่โชคยังดีที่เธอใส่แผ่นเหล็กป้องกันเอาไว้แล้ว จึงรอดตายไปได้หวุดหวิด แต่ซีโครงก็หักไปสามซี่




เบลมอธที่ทำท่าว่าจะไม่รอด จึงได้หลบหนีพร้อมกับจับโคนันที่นอนหมดสติอยู่ เป็นตัวประกันและหลบหนีไป



เบลมอธที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากตัวโคนัน จึงได้พบว่า โคนันแอบติดเครื่องส่งสัญญาณพร้อมเทปบันทึกเสียง (บันทึกเสียงกดเบอร์โทรหาบอสเอาไว้ หากนำไปสืบต่อจะรู้ว่าใครคือบอสและตามจับกุมได้) ที่ต่อเข้ากับคลื่นหัวใจของเค้า หากว่าโคนันตาย ข้อมูลทุกอย่างที่เบลมอธส่งให้กับบอสของชายชุดดำจะถูกส่งไปให้ยังดร อากาสะที่รอรับสัญญาณ โคนันยื่นข้อเสนอให้เบลมอธว่าให้เธอยอมมอบตัวซะ




แต่เบลมอธไม่ยอม เธอทำการพ่นยาสลบภายในรถ หากเธอตื่นขึ้นมาก่อน เธอจะหลบหนีไปพร้อมกับทำลายเทปที่บันทึกเสียงกดเบอร์โทรของบอสที่เป็นเสียงเพลง " นานาสึโนะโกะ " เอาไว้ แต่หากโคนันตื่นขึ้นมาก่อน ก็ให้จับเธอส่งตำรวจได้เลย

ผลปรากฎว่า เบลมอธตื่นขึ้นมาก่อน เธอหลบหนีมาที่ตู้โทรศัพท์แห่งหนึ่ง แต่ไม่รู้เพราะอะไรเธอถึงไม่ฆ่า รันกับโคนัน




ซึ่งก็ได้เฉลยว่า เหตุผลที่เบลมอธ หรือ ชารอน วินยาร์ด ไม่ฆ่ารันกับโคนัน นั่นก็เพราะว่า ชายแก่ผมสีเงินที่รันกับชินอิจิช่วยเอาไว้จากตอนที่ร่วงจากดาดฟ้า ก็คือเธอที่ปลอมตัวนั่นเอง สำหรับเธอแล้ว รันกับชินอิจิ ก็คือสองสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยชีวิต และผู้มอบชีวิตให้กับเธอ คำพูดที่ชินอิจิพูดหลังจากเธอถามไปว่า ทำไมถึงช่วยฆาตรกรอย่างฉัน ที่ว่า

"ไม่มีเหตุผลหรอกนะ ไอการที่คนจะช่วยใครซักคนหนึ่งหนะ"

มันยังฝังใจเธออยู่ และเบลมอธที่เคยเห็นชินอิจิในตอนเด็ก จึงรู้ได้ทันทีว่า โคนันก็คือ ชินอิจิ ที่กินยาจนกลายเป็นเด็ก

ในท้ายตอน พวกตำรวจตามมาช่วยอาจารย์โจดี้ ที่รันแอบโทรเรียกมา อากาอิ จึงขอตัวลาไปก่อน ไม่รู้เพราะอะไร อากาอิ ถึงไม่อยากจะพบหน้ากับไฮบาระในตอนนี้ จึงปลีกตัวไปก่อนในระหว่างที่เธอกำลังหมดสติอยู่

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

-หลังจบตอนอาจารย์โจดี้ได้ยื่นข้อเสนอให้กับไฮบาระเรื่องการเข้าโปรแกรมพิทักษ์พยาน แต่ไฮบาระบอกปัดข้อเสนอนี้ เพราะเธอไม่อยากจากลาเพื่อนๆของเธอ และเธอก็ชื่นชอบในตัวของคนๆหนึ่ง (ดร.อากาสะ แหละ) (อ้างอิงจากตอน ค้นหาสัญลักษณ์ที่ก้น)

-มีเกร็ดนิดหนึ่ง ระหว่างนี้มีตอนที่ชื่อว่า "เสียงที่ไม่เข้ากันของสตราดิวาเรียส" โคนันได้รู้ถึงเบอร์ของบอสพวก
ชายชุดดำ ในตอนนี้

-หมออาราอิเดะ ตัวจริงหนีไปอยู่ต่างประเทศ โดยทาง FBI สร้างละครตบตาเบลมอธที่คิดจะฆ่าหมออาราอิเดะโดยทำให้รถตกลงไปในน้ำ แต่ว่าคนที่อยู่ในนั้นคือเจ้าหน้าที่ FBI ที่สวมอุปกรณ์ดำน้ำพร้อม


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


หลังจากเหตุการณ์ ณ แม่น้ำ ที่ต่อกรณ์กับเบลมอธ ได้เปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของไฮบาระเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เธอมักจะตัวสั่นงักๆๆๆ เวลาเจอพวกชุดดำ แต่ตอนนี้เธออีโวแล้ว เธอพร้อมบวกกับพวกชุดดำแล้ว และไม่คิดจะหนีไปที่อื่นหรือยอมตายอีกแล้ว เหตุการณ์ก็ผ่านมาเรื่อยๆ โคนันเองก็ได้รู้ถึงเบาะแสต่างๆของพวกชุดดำ เช่น เบอร์ของหัวหน้าชายชุดดำ ตัวจริงของเบลมอธรวมถึงเรื่องที่ว่าเธอกุมความลับอะไรบางอย่าง

ภาพตัดไปที่ มีมือสไนเปอร์ไรเฟิลสองคนกำลังเล่นเกมซ้อมยิงปืนกันอยู่ ทั้งคู่สามารถยิงได้ไกลสุดที่ 600 หลา แต่แล้วยินกับวอดก้าก็เดินเข้ามา พร้อมกับพูดว่า

"ไปทำงานกันได้แล้ว เคียนติ กอร์น"




โคนันปี 10 Black Impact! วินาทีที่ตกอยู่ในเงื้อมมือองค์กร (459-463)





นี่คือสไนเปอร์ทั้งสามคนขององค์กรชุดดำ

เคียนติ



มือสไนเปอร์สาว เป็นเพื่อนกับกอร์นและคาลวาโดส เธอเกลียดขี้หน้าเบลมอทเพราะไม่ชอบใจที่คาลวาโดสเพื่อนของเธอ ถูกเบลมอธหลอกใช้จนต้องฆ่าตัวตายในเรื่องครั้งก่อน


กอร์น



กอร์น สไนเปอร์ มือดีผู้ที่ก็ไม่ชอบเบลมอทเช่นกัน

และไอหมอนี่คือคาลวาโดส

ถูกอากาอิเล่นงานจนขาหัก เพราะจวนตัวจะถูกส่งตัวให้ตำรวจสอบปากคำ จึงคิงฆ่าตัวตายไป แอบหลงรักเบลมอธ


เข้าเรื่องกันต่อ

เปิดเรื่องมา โอกิโนะ โยโกะได้แนะนำเพื่อนของเธอที่ชื่อ มิสึนาชิ เรนะ เป็นผู้ประกาศข่าวสาวสวยชื่อดังให้กับ โมริโคโกโร่รู้จัก โดยเธอขอให้นักสืบโมริไปช่วยตามจับพวกกดกริ่งแล้วหนีที่บ้านพักเธอ คดีไม่มีไรมาก แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า โคนันรู้สึกว่ามีคนแอบจ้องมองสะกดรอยและถูกซุ่มดูจากที่ไกลๆ โคนันจึงแอบเอาหมากฝรั่งห่อด้วยเครื่องดักฟังแปะให้บริเวณห้องของ มิสินาชิ เรนะ

มิสึนาชิ เรนะ






หลังคลี่คลายคดีให้เรนะ นักสืบโมริจึงขอตัวกลับ โคนันได้ขอแยกกับนักสืบโมริเพื่อจะไปเก็บเครื่องดักฟังหมากฝรั่ง ที่นักข่าวเรนะดันไปเหยียบเข้า และจึงได้รู้ว่านักข่าวสาวคนนี้ มิสึนาชิ เรนะ ได้ติดต่อกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่ายิน และเธอก็มีโค้ดเนมว่า คีร์



โคนันได้รู้ว่าพวกมันมีแผนจะลอบสังหารชายชื่อ โดมง ยาสึเทรุ ชายที่ผู้คนยกย่องให้เป็นว่าที่นายกคนใหม่ของญี่ปุ่น


โดยแผนการของพวกมันคือการล่อให้โดมง ยาสึเทรุ พ้นจากบอดี้การ์ดที่ประกบข้างยากแก่การสังหาร ซึ่งจะให้มิสึนาชิเรนะ ทำที่ไปขอพูดคุยออกรายการเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ และดึงตัวคุณโดมงไปที่ม้านั่งแบบสองต่อสอง เพื่อให้เคียนติ มือสไนของพวกชุดดำลอบสังหาร


ในระหว่างนั้นโคนันก็ได้โทรตาม ดร อากาสะให้มารับ เพื่อขับรถไล่ตามพวกชุดดำไปที่สวนสาธารณะ พื้นที่สังหารของพวกมัน



ระหว่างทางได้เจอกับอาจารย์โจดี้ที่กำลังสะกดรอยตามพวกชุดดำด้วย ทำให้โคนันได้รู้ว่า คนที่แอบซุ่มมองพวกเค้าในตอนที่อยู่ห้องของ นักข่าวเรนะ ก็คืออาจารย์โจดี้ที่สงสัยพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากลของ นักข่าวเรนะ และทั้งคู่ก็ติดรถของ ดร อากาสะไปที่จุดลอบสังหาร โดมง ยาสึเทรุ ที่สวนสาธารณะ



อาจารย์โจดี้รับรู้ได้ว่า พวกของชุดดำได้เตรียมความพร้อมในการลอบสังหาร และมือสไนเปอร์ก็คือเคียนติ




วิธีการยุดยั้งการลอบสังหารโดยสไนเปอร์ โคนันได้ใช้วิธีให้อาจารย์โจดี้ยิงสปริงเกอร์ให้น้ำพุ่งขึ้นท้องฟ้าจนเหมือนเกิดฝนตก ทำให้ผู้คนบริเวณรอบๆกางร่มขึ้นมาบดบังทัศนวิสัยของสไนเปอร์ แล้วจู่ๆฝนของจริงดันตกขึ้นมา ผู้คนแตกตื่นพากันวิ่งหลบฝน ทำให้รองเท้าของนักข่าวเรนะหลุด โคนันจึงพยายามจะวิ่งเข้าไปเก็บเครื่องดักฟังออกจากรองเท้าของเธอ แต่ก็ถูกเธอพบเข้าซะก่อน




พวกชายชุดดำจึงขอถอนกำลัง เพื่อจะเริ่มแผนสองโดยการให้ คีร์หรือนักข่าวเรนะ ขับมอเตอร์ไซด์ตามฆ่า โดมง ยาสึเทรุ โดยจะให้เบลมอธปลอมตัวเป็นผู้หญิงหัวหน้าแก๊งเดอิซังไคที่ชื่อ บุสึจิมะ คิริโกะ


โดยเธอจะทำทีเป็นว่าขับรถมอเตอไซด์ล้ม เพื่อให้ คุณโดมงที่มีจิตใจรักความยุติธรรมชอบช่วยเหลือผู้อื่น ลงจากรถมาดูอาการ แล้วนักข่าวเรนะก็จะประกบยิงคุณโดมง ส่วนบอดี้การ์ด ก็จะถูก เคียนติกับกอร์น สอยด้วยสไนเปอร์

ซึ่งพอพวกโคนันได้รู้ถึงแผนการแล้วก็ขับรถตามไปเพื่อจะสกัดกั้นพวกมัน ก่อนหน้าที่โคนันได้พบกับ เจมส์ แบล็ค ชายแก่ที่เค้าเคยช่วยเอาไว้จากคดีลักพาตัว ในตอน บุรุษผู้มาจากชิคาโก้ โดยจริงๆแล้ว เค้าคือบอสใหญ่ของ FBI




ในระหว่างที่กองกำลัง FBIขับรถไล่ตามพวกชุดดำ มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งมาเก็บลูกบอลที่กลางถนน ทำให้นักข่าวเรนะ หรือคีร์ประสบอุบัติเหตุเพราะไม่อยากขับไปชนเด็กคนนั้น




หลังจากที่พวก FBI จับกุมตัว คีร์ หรือ มิสึนาชิ เรนะได้สำเร็จ ก็ได้นำตัวเธอส่งโรงพยาบาล ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เคียนติทักยินว่า คลื่นแทรกเยอะมากระหว่างคุยโทรศัพท์ติดต่อกัน ยินจึงได้รู้ว่า มีเครื่องดักฟังติดที่รองเท้าของคีร์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมโคนันจึงต้องพยายามจะไปเอาเครื่องดักฟังออก เพราะยินดันคิดว่า คนที่ติดเครื่องดักฟัง คือนักสืบโมริ โคโกโร่ ที่ไปไขคดีที่ห้องของมิสึนาชิ เรนะ พวกชุดดำจึงคิดที่จะฆ่าปิดปาก โมริโคโกโร่ซะ โดยลอบสังหารที่ดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับสำนักงานโมริ

พวกชุดดำได้เห็นว่าที่บริเวณหูของนักสืบโมริ ใส่หูฟังอินเอียร์เอาไว้อยู่ ยินเลยคิดว่า นักสืบโมริ แอบดักฟังแผนการของพวกชายชุดดำ จึงพยายามติดต่อนักสืบโมริ โดยนับถอยหลัง จนถึง 0 และฆ่าเข้าทิ้ง ทันใดนั้น โคนันที่ตามมาด้วยรถของพวก FBI จึงเตะลูกฟุตบอล เข้าไปชนกระจกสำนักงาน และตระโกนถามนักสืบโมริว่า

"คุณลุงกำลังฟังม้าแข่งอยู่หรอครับ"



พวกชุดดำจึงรู้ว่าจริงๆโมริ โคโกโร่ไม่ได้แอบฟังพวกมัน แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฆ่าทิ้งซะเลยก็ดี แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีกระสุนปริศนาลอบยิงพวกชุดดำที่อยู่บริเวณดาดฟ้า



และเข้าของกระสุนปริศนาที่ยิงมาจากระยะกว่า 700 หลา (ซึ่งเป็นระยะที่กอร์นกับเคียนติ มือสไนเปอร์ฝีมือเก่งกาจที่สุดขององค์กรไม่สามารถยิงมาได้ ) ก็คือ อากาอิ ชูอิจิ



ทำให้พวกชุดดำถอนกำลังไป และเลิกล้มความคิดที่จะสังหารนักสืบโมริ


...............

ภาพตัดไปที่โรงพยาบาล พวกFBI สามารถคุมตัวมิสึนาชิ เรนะได้สำเร็จ โดยเธอนอนหมดสติอยู่



โคนันเองก็ได้ใช้เครื่องแปลงเสียง เป็นมิสึนาชิ เรนะ โทรไปขอลาหยุดพักงานยาวกับทางสถานีทีวีที่เธอทำงานอยู่ ทำให้ อากาอิ ชูอิจิ รู้สึกสนใจ ในตัวของโคนัน และเป็นการเปิดตัว เจ้าหน้าที่ อากาอิ อย่างเป็นทางการ

อากาอิ ชูอิจิ อายุ 33ปี



เจ้าหน้าที่สืบสวน FBI สุดเก่งกาจ ฉลาด ไหวพริบดี ได้ชื่อว่าเป็นกระสุนเงินที่จะยิงทำลายองค์กรชุดดำได้ภายในครั้งเดียว (จากปากคำของหัวหน้าองค์กร) เค้ามีทักษะการยิงสไนเปอร์ไรเฟิลขั้นเทพ

- อากาอิ ชูอิจิ แรกเริ่ม ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเค้าคือพวกของชายชุดดำ

- อากาอิ เห็นโมริ รัน แล้วรู้สึกถึงใครบางคน

- อากาอิ ไม่อยากพบกับ ไฮบาระ ไอ

- เค้ามีคติประจำใจที่ตรงข้ามกับ ยิน โดยสิ้นเชิง นั่นคือ หน้าของพรรคพวกเค้าจำไม่ค่อยได้หรอก แต่หน้าตาของศัตรูเค้าจำได้ดี โดยทั้งเค้าและยิน ถือเป็นคู่ปรับกัน

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

หลังจากที่มิสึนาชิ เรนะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ก็ได้มีเด็กนักเรียนใหม่มัธยมปลายย้ายมาเรียนที่ห้องของรัน เค้ามีชื่อว่า


ฮอนโด เอสึเกะ



หมอนี่มีนิสัยซุ่มซ่าม โดยเค้ามาเที่ยวสำนักงานนักสืบ และได้ชนเข้ากับโคนัน ทำให้แว่นเค้าหลุดกระเด็นไป และดันเข้าใจผิดว่าโคนันคือ นักสืบโมริ โดยจุดประสงค์ที่แท้จริงของเค้าคือการตามหา มิสึนาชิ เรนะ เพราะมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับพี่สาวของเค้าที่หนีออกจากบ้านไปเมื่อสิบปีก่อน ที่ชื่อ ฮอนโด ฮิเดมิ


โดยโคนันเองก็รู้สึกสงสัยในตัวของ ฮอนโด เอสึเกะ จึงได้ไหว้วานให้ ฮัตโตริ เฮย์จิ ช่วยสืบเรื่องของ เอสึเกะ และพบว่า ตอนสมัยที่หมอนี่ยังเป็นเด็ก เค้าและคนที่เป็นพ่อมานั่งกินโอโคโนมิยากิในร้านแห่งหนึ่งที่โอซาก้า



ซึ่งเพื่อนๆของพ่อของเอสึเกะที่มาด้วยกันในร้าน เรียกเค้าว่า อีธาน และได้เบาะแสมาอีกว่า อีธานคนนี้ เป็นสมาชิกของ คอมปานี

ตัดกลับมาที่เมืองเบกะ ฮอนโด เอสึเกะ บอกกับพวกรันว่า เค้าต้องการจะตามหาพี่สาว โดยพี่สาวของเค้ามีเลือดกรุ๊ปอะไรก็ไม่รู้ แต่เคยให้เลือดกับเอสึเกะมาก่อน ในตอนที่เอสึเกะ ประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเอสึเกะมีเลือดกรุ๊ป O ซึ่งจะรับได้แต่คนที่มีเลือดกรุ๊ป O ด้วยกันเท่านั้น .....นั่นเท่ากับว่าฮอนโด ฮิเดมิจะต้องมีเลือดกรุ๊ป O ......แต่มึสึนาชิเรนะ มีเลือดกรุ๊ป AB หรือก็คือ มิสึนาชิ เรนะ คือคนที่ปลอมตัวเป็น ฮอนโด ฮิเดมิ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง

ตัดภาพมาที่รถปอเช่สีดำ 356A ยินพูดคุยกับว๊อดก้า เรื่องของคีร์ ว่าเธอเปรียบเสมือน "แว่นของท่านผู้นั้น" โดยเมื่อ4ปีก่อนเธอเคยจัดการสายลับที่แฝงเข้ามาในองค์กรโดยสายลับคนนั้นจับเธอไปทรมาน แต่เธอสู้สุดขาดใจ เอาฟันขัดไปที่ข้อมือของสายลับคนนั้นจนเส้นเลือดขาด และใช้ปืนสังหารสายลับคนนั้นหลังจากนั้นเธอจึงหลบหนีไป พวกยินที่ได้แอบตามมาสมทบได้เจอกับเพื่อนของสายลับคนนั้นเข้ามาเรียกสายลับคนนั้นที่นอนจมกองเลือด ซ้ำไปซ้ำมาว่า " ฮอนโด "

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ที่โรงพยาบาลกลางไฮโด้ .....ฮอนโด เอสึเกะได้สอบถามกับนางพยาบาลว่า มิสึนาชิ เรนะได้พักรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือไม่



อีกด้านหนึ่ง โคนันก็ได้ถามพยาบาลว่ามีคนชื่อ เอสึเกะที่ใส่แว่น มาที่นี้บ้างมั้ย นางพยาบาลคนนั้นก็บอกว่าเห็นอยู่นะ และเธอก็ได้บอกความจริงที่เป็นคีย์สำคัญอย่างหนึ่ง

ในสมัยที่เธอทำงานเป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดเด็กคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคลูคิเมีย เด็กชายคนนั้นได้รับไขสันหลังของพี่สาวมาและทำการเปลี่ยนถ่ายเลือดครั้งใหญ่ ทำให้กรุ๊ปเลือดของเค้าจากเดิมที่เป็นกรุ๊ปเลือด O เปลี่ยนเป็นกรุ๊ปเลือดเดียวกับพี่สาวของเค้า นั่นเป็นส่วนเชื่อมโยงอะไรบางอย่าง


จากเดิมที่ที่เราคิดว่า มิสึนาชิ เรนะ ที่ยังไม่ก็ไม่มีทางจะเป็นพี่สาวของฮอนโด เอสึเกะ เพราะกรุ๊ปเลือดของเธอคือ AB เริ่มกลับมามีมูลอีกครั้ง ไม่แน่นะว่า ฮอนโด เอสึเกะตอนนี้อาจจะกรุ๊ปเลือด AB แล้วก็ได้

การดวลเดือดทางกลยุทธในศึกแย่งชิงตัว มิสึนาชิ เรนะ ระหว่าง FBI และองค์กรชุดดำ ก็ได้เปิดฉากขึ้น โดยมีโรงพยาบาลกลางไฮโด้ เป็นโลเคชั่นหลัก

โคนันปี 11 Clash of Red and Black ดำปะทะแดงเดือด (538-551)



อากาอิ ชูอิจิได้คาดการณ์เอาไว้ว่า อาจจะมีพวกของชายชุดดำแฝงตัวเข้ามาสืบในโรงพยาบาล ในการควานหาตัว นักข่าวเรนะที่หายสาบสูญไปจากเงื้อมมือองค์กร หลังจากโคนันและ FBI ระดมสมองกัน จึงได้ข้อสรุปว่า จะต้องเป็นคนไข้ที่ย้ายเข้ามารักษาตัวหลังจากที่ นักข่าวเรนะ เข้ามาพักรักษาตัว โดยผู้ต้องสงสัยมีด้วยกันสามคน



โคนันอาสาที่จะเข้าไปสืบห้องของผู้ป่วยที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นชุดดำแฝงตัวมา โดยออกกลอุบายตรวจสอบว่าในสามคนนี้ใครแกล้งป่วย โดยการให้ผู้ป่วยสามคนจับโทรศัพท์มือถือ ทำทีเป็นว่ามือถือเสียช่วยดูให้หน่อย

- มีเพียงผู้ป่วยสองคนที่จับมือถือ แต่ผู้ป่วยที่ตัวอ้วนที่จับมือถือพบว่าเค้ามีอาการป่วยจริง จึงมีเพียงแค่คุสึดะ ริคุมิจิคนเดียวที่จับมือถือ เพราะว่ามือถือจะปล่อยคลื่นสัญญาณที่อันตรายต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ออกมา ชายแก่อีกคนที่มีเครื่องวัดระดับหัวใจจึงไม่อาจจะเข้าใกล้มือถือได้
- แต่ชายแก่คนนั้นที่บาดเจ็บเข้าเฝือกที่ขาพบว่าเค้าแกล้งป่วยเพื่อเรียกเอาเงินประกัน ทำให้รู้ได้แน่ชัดว่า คุสึดะ ริคุมิจิ คือชายชุดดำแฝงตัวมาอย่างแน่นอน เพราะเค้าป่วยเป็นโรคคอเคล็ด แต่ในห้องของเค้าดันมีกาแฟกระป๋องที่ดื่มหมดแล้วหลายกระป๋อง แต่พบว่าเค้าไม่ได้ใช้หลอดในการดื่ม ซึ่งเวลาเราดื่มเครื่องดื่มกระป๋อง จะต้องเงยหน้าขึ้นยกดื่ม คนที่เป็นคอเคล็ดขั้นรุนแรง ไม่มีทางที่จะดื่มโดยไม่ใช้หลอดได้

ซึ่งเมื่อรู้แน่ชัดว่าสายลับคือ คุสึดะ ริคุมิจิ ทางพวกของFBI จึงได้เข้าล้อมสกัด แต่เฝือกที่คอของคุสึดะ รอบๆคอเค้าแท้จริงแล้วคือระเบิด โดยเค้าขู่ว่าหาก เข้ามาจับกุมเค้า เค้าจะระเบิดโรงพยาบาลแห่งนี้



โดยเค้าขับรถหลบหนีออกจากโรงพยาบาลไป เพื่อจะส่งข่าวให้พวกองค์กรชุดดำรู้ แต่มือถือของเค้าเกิดเสียขึ้นมา นั่นก็เพราะว่า ตอนที่โคนันเข้าไปในห้องของคุสึดะ เจ้าโคนันแอบเอามือถือของคุสึดะไปจุ่มน้ำจนพัง เป็นการกันเอาไว้ก่อน และเจ้าหน้าที่อากาอิก็ได้ขับรถเชฟโรเล็ตคู่ใจของเค้าไล่ตามไป



คุสึดะ ตกใจกลัวเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าคนที่ไล่ตามตัวเองนั้น คือชายที่คนในองค์กรเรียกว่า กระสุนเงิน หรืออากาอิ ชูอิจิ เค้าจึงไม่มีทางเลือก ปลิดชีพตัวเองด้วยปืนสั้นที่เก็บเอาไว้ที่ช่องเก็บของหน้ารถ




พวกชายชุดดำได้รู้ว่า มิสึนาชิ เรนะ อยู่ที่โรงพยาบาลกลางไฮโด้ จากการที่คุสึดะขาดการติดต่อ แสดงว่าต้องโดนพวก FBI จัดการ และคิดว่าคนๆนั้นคือกระสุนเงินอากาอิ เบลมอธที่ติดรถของ ยิน มาด้วย แสยะยิ้มและคิดในใจว่า กระสุนเงินที่แท้จริง ที่เธอรอมาตลอด รอที่จะมาจัดการองค์กรชุดดำให้สิ้นซาก ก็คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ ซึ่งก็คือ ยอดนักสืบมัธยมปลายแห่งตะวันออก คุโด้ ชินอิจิ พระเอกของเรานั่นเอง




หลังจากที่เสร็จภารกิจสกัดกั้น คุสึดะ ริคุมิจิสำเร็จ เจ้าหน้าที่อากาอิ จึงขอตัวขึ้นไปพักเก็บตัวบนดาดฟ้าประหนึ่งพระเอกเอ็มวีผู้อกหักในความรัก ซึ่งนั้นก็จริง

โดยหัวหน้าเจมส์ แบล็คเล่าเรื่องราวความเคียดแค้นที่มีต่อองค์กรชุดดำของเจ้าหน้าที่อากาอิไว้ว่า

.........เมื่อก่อน เจ้าหน้าที่อากาอิ เคยแฝงตัวเข้าไปในองค์กรโดยใช้ชื่อปลอมว่า โมโรโบชิ ได ซึ่งเค้าทำผลงานได้ดี เข้าตาบอสใหญ่ จนได้รับฉายา หรือ โค้ดเนมว่า RYE ไรย์ (เหล้า วิสกี้ที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ) โดยคนรักของเจ้าหน้าที่อากาอิ ก็คือ มิยาโนะ อาเคมิ พี่สาวของ ไฮบาระ ไอ หรือ มิยาโนะ ชิโฮะ นั่นเอง





วันหนึ่งเค้าได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชน และคนที่ขับรถชนเจ้าหน้าที่อากาอิ นั่นก็คือ มิยาโนะ อาเคมิ หลังจากที่อากาอิฟื้นขึ้นมา อาเคมิที่นั่งเฝ้าไข้รอดูอาการอยู่ตลอด ก็ได้ขอโทษที่ขับรถชนเค้า ซึ่งทางอากาอิก็ไม่ได้ขอโทษโกรธอะไรเธอ โดยเค้าแนะนำตัวเองว่า เค้าชื่อ โมโรโบชิ ได



หลังจากที่ทั้งคู่ได้ทำความรู้จักกัน ก็เกิดความสนิทสนมเกิดขึ้น ทางด้าน เจ้าหน้าที่อากาอิก็ไม่ต้องบอกกับเธอว่า เค้าคือ FBI ที่แฝงตัวเข้าไปในองค์กรที่เธอกำลังจะช่วยน้องสาวของเธอออกมาเช่นกัน ซึ่งอาเคมิก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าหากเธอช่วยน้องสาวของเธอออกมาได้สำเร็จ อยากจะให้รับรักของเธอ โดยภารกิจสุดท้ายของอาเคมิ คือการปล้นเงินพันล้าน ก่อนที่เธอจะถูกยินฆ่าทิ้ง ทำให้อากาอิ โกรธแค้นพวกชุดดำเป็นอย่างมาก เค้าถือโทษโกรธตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องคนที่ตนรักได้ แต่มีอีกสิ่งที่อาเคมิหลงเหลือเอาไว้ และตัวเค้าจะต้องปกป้องสิ่งๆนั้น ...สิ่งที่อาเคมิไม่สามารถทำมันได้สำเร็จ ซึ่งเค้าจะเป็นคนสานต่อมันเอง

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม เค้าถึงมีรูปๆหนึ่งติดไว้ในรถของเค้าเสมอ และมีเครื่องดักฟังที่เค้าแอบไปติดไว้ในบ้านของ ดร อากาสะ เพื่อที่เวลาเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น เค้าจะได้ตามไปช่วยได้ทันที


ตัดภาพมาที่โรงพยาบาลกลางไฮโด้ FBI ได้เรียกตัว เจ้าหน้าที่ท่าทางแปลกๆมาที่ญี่ปุ่นคนหนึ่ง เค้ามีชื่อว่า อังเดร คาเมล หรือเจ้าหน้าที่คาเมล



ในขณะเดียวกัน ระหว่างที่ FBI รวมตัวกันไปประชุม ห้องของมิซึนาชิ เรนะ ก็ไร้ซึ่งคนคุ้มกัน ฮอนโด เอสึเกะ จึงได้ลอบเข้ามาเจอและพยายามจะปลุกเธอให้ตื่น และจะใช้กรรไกรปลายแหลม แทงเข้าที่ร่างของเธอ แต่เรนะเอามือมาคว้าหยุดได้สำเร็จ

" ไม่ได้นะ เอย์จัง พี่ไม่เคยสอนให้เธอทำร้ายใครนะ "



มิสึนาชิ เรนะ พูดประโยคนี้ใส่ ฮอนโด เอสึเกะ ซึ่งนั้นคือแผนที่โคนันกับ เจ้าหน้าที่อากาอิ เตรียมเอาไว้ และได้เล่าความจริงเรื่องที่ว่า เอสึเกะในตอนนี้ มีกรุ๊ปเลือด AB เพราะเปลี่ยนถ่ายเลือดมาจากพี่สาว และคนที่นอนอยู่ตรงนี้ เธอคือ ฮอนโด ฮิเดมิ เจ้าหน้าที่สายลับ CIA

ฮอนโด ฮิเดมิ (นามแฝงมิสึนาชิ เรนะ โค้ดเนมคีร์) ปัจจุบันอายุ 27


เธอทำงานเป็นผู้ประกาศข่าว แต่เบื้องหลังของเธอคือ คีร์ ผู้ซึ่งทำหน้าที่เป็น แว่น ให้ท่านผู้นั้น และเธอยังเป็นพี่สาวของ ฮอนโด เอย์สึเกะ อีกด้วย แท้ที่จริง เธอคือเจ้าหน้าที่ของ CIA

ชื่อ มิสึนาชิ เรนะ ของเธอ คำว่า มิสึนาชิ คือเลข 0 ส่วนเรก็หมายถึงเลข0 ส่วนนะมาจากคำว่านานะ หมายถึงเลข 7 รวมกันเป็น 007

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ในช่วงกลางวันของอีกวัน ยินหลังจากได้ทราบว่า พวก FBI ซ่อนตัว คีร์ หรือ ฮอนโด ฮิเดมิ เอาไว้ ยินจึงก่อจราจลขึ้นโดยวางระเบิดเพื่อให้ประชาชนบาดเจ็บ รวมถึงใส่สารพิษในอาหารตามร้านอาหารต่างๆ ทำให้ประชาชนหลั่งไหลเข้ามาในโรงพยาบาลจนเกิดความวุ่นวาย รวมถึงส่งพัสดุติดระเบิด จ่าหน้าถึงเจมส์ แบล็คเอาไว้ (ชื่อผู้ส่งคือ คุสึดะ ริคุมิจิ)



โดยเมื่อFBI รู้ตัวว่ามีระเบิดเวลาติดไว้ข้างในดอกไม้ที่เป็นพัสดุส่งมา จึงได้พยายามจะขับรถนำระเบิดไปทิ้งทำลาย เจ้าหน้าที่คาเมลจึงอาสาขับรถ เอาระเบิดไปทิ้ง เพราะตัวเค้ามีสกิลการขับรถที่เทพเอามากๆ



หลังจากนั้นเหตุการก็ชุลมุนวุ่นวาย จนทำให้ต้องพาคีร์ หลบหนี จนพวกชุดดำที่ขับรถตามมา ชิงตัว คีร์ หรือมิสึนาชิ เรนะ ไปได้สำเร็จ



ซึ่งดูเหมือนจะพลาดที่ คีร์ ถูกชิงตัวไปได้ แต่นั่นก็เป็นแผนของอากาอิที่อยากจะส่ง คีร์ เข้าไปสืบเรื่องของพวกชุดดำต่อในฐานะสายสืบของ CIA ซึ่งจริงๆแล้ว เหตุการณ์ที่ ฮอนโด อีธานหรือพ่อของ ฮิเดมิกับเอสึเกะถูกฮิเดมิสังหาร เป็นแผนสละชีพตัวเองของอีธานเพื่อช่วยให้ลูกสาวของตน มีชีวิตรอดต่อไป เนื่องจากโป๊ะแตกถูกจับได้ระหว่างที่สองพ่อลูกแอบเข้ามาสืบเรื่องชุดดำ



(ต่อจากนี้ผมขออนุญาตเรียกคีร์หรือมิสึนาชิเรนะว่า ฮิเดมินะครับ) ซึ่งฮิเดมิ ได้ทำข้อตกลงอะไรบางอย่างกับพวกเจ้าหน้าที่อากาอิ หนึ่งในนั้นคือขอให้ FBI ช่วยปกป้อง ฮอนโด เอสึเกะ น้องชายของเธอ เพื่อแลกกับการที่เธอจะไปเป็นสายลับ คอยส่งข่าวพวกชุดดำให้ FBI



หลังจากที่ฮิเดมิกลับเข้าไปแฝงตัวในองค์กรได้สำเร็จ ยินต้องการมอบหมายงานแรกให้กับเธอ โดยการนัดให้เจ้าหน้าที่ อากาอิมาที่ สันเขาไรฮะ เพื่อฆ่าเค้าทิ้งซะ เอาให้ยิงเข้าที่หัว




และหลังจากนั้นก็ทิ้งระเบิดเผาทำลายศพของอากาอิไม่ให้เหลือซากไปพร้อมๆกับ เชฟโรเลต C-1500 คู่ใจของเค้า



RIP กระบะแต่งซิ่งโหลดเตี้ยประจำเรื่อง ( ผมชอบมากๆรถคันนี้ )


อาจารย์โจดี้ที่พอรู้ข่าวร้ายเรื่องการตายของ เจ้าหน้าที่อากาอิ ก็เศร้าเสียใจ นั่นก็เพราะว่า ก่อนที่ เจ้าหน้าที่อากาอิจะไปคบหากับ มิยาโนะ อาเคมิ เค้าเคยเป็นแฟนกับอาจารย์โจดี้มาก่อน และในระหว่างที่เค้าคบซ้อน (5555) เจ้าหน้าที่อากาอิ เบื่อที่จะสับรางไปมา จึงได้บอกตรงๆกับอาจารย์โจดี้ว่า

"ขอโทษนะ โจดี้ ฉันไม่สามารถ รักผู้หญิงได้พร้อมกัน สองคน"

ซึ่งอาจารย์โจดี้ก็เข้าใจดี อย่างน้อยๆขอแค่ได้ทำงานร่วมกันก็มีความสุขแล้ว แต่ต่อจากนี้ก็จะไม่มีชายที่ชื่อ อากาอิอยู่บนโลกนี้แล้ว เพราะรอยนิ้วมือที่พบในที่เกิดเหตุตรงกันกับมือถือของโคนันที่ถูกเจ้าหน้าที่อากาอิจับถือไว้ เพราะงั้นศพถูกไฟคอกตายบนรถกระบะสีดำ ต้องเป็นเค้าอย่างแน่นอน


ย้อนกลับไปนิด ก่อนที่เจ้าหน้าที่อากาอิจะออกไปหา ฮิเดมิ จนถูกสังหาร หัวหน้าเจมส์ แบล็ก ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างจากตัวของเจ้าหน้าที่อากาอิ


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

หลังจากฮอนโด ฮิเดมิ ได้รับความเชื่อใจจากองค์กรชุดดำอีกครั้ง จนสามารถเข้าไปสืบเป็นสปายในองค์กรได้ ฮอนโด เอสึเกะ น้องชายของเธอ จึงอยากที่จะเป็น CIA เหมือนอย่างพี่สาว และอีธานพ่อของเค้า ....จึงได้มาอำลาพวกโคนันก่อนที่เค้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา ก่อนจากกันเค้าแกล้งยั่วโมโหโคนันว่า เค้าจะไปสารภาพรักกับ โมริ รัน และจะพาเธอไปอยู่อเมริกาด้วย และจะทำให้ รัน มีความสุขให้ได้ ไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนอย่างที่ คุโด้ ชินอิจิทำกับเธอ

เจ้าโคนัน เดือดจัด ตอบกลับ เอสึเกะไปว่า

"ไม่ได้หรอก"

เอสึเกะจึงพูดกลับไปว่า

"โคนัน หรือว่านายก็คือ "

โคนันจึงตอบไปว่า

"อย่างที่นายคิดนั่นแหละ"



ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นแผนหลอกล่อให้โคนันสารภาพออกมาตรงๆว่าเค้าคือคุโด้ ชินอิจิ ที่ปลอมตัวเป็นเด็กประถมและใช้ชื่อปลอมว่า เอโดงาวะ โคนัน

ซึ่งเอสึเกะก็บอกชินอิจิว่า ในตอนที่เค้าเจอกับชินอิจิที่สำนักงานนักสืบ ตอนที่ทำที่เป็นว่ามองอะไรไม่เห็นจนไปทักชินอิจิผิด เป็นนักสืบโมริ นั่นก็เพราะว่า เค้ารู้อยู่แล้วว่า เบื้องหลัง โคโกโร่นิทรา คือชินอิจิที่ทำหน้าที่สืบคดีแทน



ทำให้ตอนนี้คนที่รู้ตัวจริงของชินอิจิหรือโคนันมีด้วยกันดังนี้

1. ดร อากาสะ รู้จากตอนแรกสุดเลย
2. พ่อและแม่ของโคนัน
3. ฮัตโตริ เฮย์จิ (จากตอนคดีคนบ้าโฮล์ม)
4. มิยาโนะ อาเคมิ ( จากตอนคดีปล้นเงินพันล้าน ก่อนที่เธอจะตาย โคนันได้บอกความจริงกับเธอไป)
5. มิยาโนะ ชิโฮะ (หรือไฮบาระไอ รู้มาตั้งนานแล้ว)
6. ชารอน วินยาร์ด หรือ เบลมอธ
7. ฮอนโด เอสึเกะ

ปล. ไคโตะคิด หรือจอมโจรคิด เหมือนจะรู้แค่ในเดอะมูฟวี

เป็นอันจบ มหากาพย์ มิสึนาชิ เรนะ หรือ คีร์ หรือ ฮอนโด ฮิเดมิ โดยแลกมากับการสูญเสีย เจ้าหน้าที่ FBI คนเก่งอย่าง อากาอิ ชูอิจิ

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

เบอเบิร์น คือโค้ดเนมของพวกชุดดำ เป็นคนฉลาดหลักแหลม รอบคอบ ซึ่งเค้ากำลังเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว โดยเป็นข้อความที่ ฮิเดมิ หรือคีร์ที่ลอบเข้าไปในองค์กรแอบส่งเข้ามือถือของอาจารย์โจดี้ และอาจารย์โจดี้ก็ได้แจ้งข่าวให้โคนันรับรู้

ที่โรงเรียนประถมเทย์ตันหลังจากผ่านเหตุการณ์การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่อากาอิ โคนันได้รับการไหว้วานจากเพื่อนประถมให้ไปสืบตามหาผู้ชายแปลกๆบริเวณอพาทเมนต์ของพ่อเค้า แต่วันที่พวกโคนันกับชมรมนักสืบไปถึง สถานที่นั้นก็ไหม้เป็นตอตะโกจากเหตุเพลิงไหม้ไปแล้ว (ไม่มีคนเสียชีวิตนะ) โคนันได้พบกับผู้ต้องสงสัยวางเพลิงทั้งสามคน ไฮบาระเกิดกลัวผู้ชายใส่แว่นที่ชื่อว่า โอกิยะ สึบารุ นักศึกษาปริญญาโท



โดยเธอคิดว่า คุณสึบารุคือพวกของชายชุดดำที่ชื่อว่าเบอเบิร์น


หลังจากปิดคดีหาคนก่อเหตุวางเพลิง .....ไม่รู้ว่าเพราะอะไร โคนันดันให้คุณสึบารุ มาพักอาศัยที่บ้านคุโด้ บ้านของเค้าซะอย่างงั้น เนื่องจากว่าหอพักที่คุณสึบารุอยู่ เกิดเพลิงไหม้ไป



โคนันปี 11ตอนที่ 556 - 557 สีแดง, ขาว, เหลืองและขบวนการนักสืบเยาวชน

เปิดตัว โอกิยะ สึบารุ นักศึกษาปริญญาโท (อายุ27ปี) ดวงซวยที่หอพักโดนวางเพลิง จึงเข้ามาขออยู่ที่บ้านชินอิจิ เพราะไม่มีที่อยู่




และความกลัวของไฮบาระที่มีต่อโอกิยะ สึบารุยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ในตอนที่ชื่อว่า โขดหินอาคาคุ (ตอนที่ 593-594 โขดหินอิคาคุที่ปลาหายไป ) ในระหว่างที่พวกชมรมนักสืบเยาวชนไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งจนไปพัวพันกับคดีๆหนึ่ง โอกิยะ สึบารุก็โชว์การจัดการกับคนร้ายที่จับ อายูมิจัง เป็นตัวประกัน แสดงให้เห็นว่า สึบารุเองก็มีฝึมือในการต่อสู้อยู่บ้าง



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ในช่วงนี้ โคนันไปพัวพันกับคดีคดีหนึ่งเข้า เป็นการต่อสู้กันระหว่างสองตระกูล นั่นคือตระกูลทัตสึโอะ กับตระกูล โทราดะ

โคนันปี 12 ฟุรินคะซัน ตอนที่ 564-566



เปิดตัวนายตำรวจจากจังหวัดนากาโนะ หนึ่งในตัวละครที่คาดว่าน่าจะเป็นคีย์สำคัญในอนาคต

สารวัตร ยามาโตะ คันสึเกะ อายุ 35 ปี



และได้รู้จักกับสะใภ้ของบ้านตระกูลโทราดะที่สามีเสียชีวิตไปแล้วอย่าง

หมวด อุเอฮาระ ยูอิ อายุ 29 ปี



เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของ สารวัตร ยามาโตะ คันสึเกะ มักจะชอบเรียก สารวัตรยามาโตะว่า "คันจัง"

หลังจบคดีครั้งนี้ ก็เกิดคดีใหญ่ติดๆกันในตอนที่ชื่อว่า

โคนันปี 12 ตอนที่ 608 - 612 คดีสองคนอันตรายและคฤหาสน์แห่งความตายและกำแพงสีแดง

เปิดตัว สารวัตรโคเม หรือ โมโรฟูชุ ทากาอากิ อยากให้จำชื่อคนๆนี้ไว้หน่อย เพราะจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งคนๆนี้เป็นชนวนดราม่าครั้งใหญ่ครั้งสำคัญ

โมโรฟูชุ ทากาอากิ อายุ 35 ปี



เคยอยู่สภอ.อาราโนะ ปัจจุบันเป็นตำรวจภูธรจังหวัดนางาโนะแล้ว เป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันที่โรงเรียนตำรวจของสารวัตรยามาโตะ คันสึเกะ เค้ามีน้องชายอยู่คนหนึ่ง


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ตอนที่ 614-615 "ชมรมนักสืบเยาวชน ปะทะ โจรปล้นธนาคาร"


ในวันหนึ่ง พวกเด็กชมรมนักสืบเยาวชนต้องการนำเงินที่เเต๊ะเอียไปฝากที่ธนาคาร แต่แล้วจู่ก็เจอพวกโจรปล้นธนาคาร


ในระหว่างที่ต่อสู้กับพวกคนร้าย ก็ได้ผมกับอาจารย์โจดี้ที่ ติดในธนาคารนี้ ด้วย และอาจารย์โจดี้ก็ได้พบกับ ชายที่หน้าตาละม้ายคล้ายอากาอิ ชูอิจิ ที่มีแผลไฟลวกที่ใบหน้า แต่ว่าเค้าความจำเสื่อม อาจเป็นเพราะผลกระทบจากแรงระเบิดในครั้งนั้น ซึ่งอาจารย์โจดี้ก็จะพยายามนำตัวกลับไปรักษาและฟื้นความทรงจำ




ซึ่งหลังจากจบอีเวนท์โจรปล้นธนาคาร ชายที่หน้าตาเหมือน อากาอิ คนนี้ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ตอนที่ 629-632

ตอนที่ 629 วิกฤติเรียกหาโดยลางสังหรณ์สีแดง
ตอนที่ 630 ข้อเสนอสีดำทั้งสิบสาม
ตอนที่ 631 ไทม์ลิมิตสีดำที่เข้ามาใกล้
ตอนที่ 632 เป้าหมายสีแดงที่สั่นเครือ






พวกชายชุดดำได้ทราบข่าวว่า มีคนหน้าตาเหมือนเจ้าหน้าที่อากาอิที่น่าจะตายไปแล้ว ออกมาเดินเพ่นพ่าน ยินจึงมาพิสูจน์ให้เห็นกับตา ว่าเจ้าหน้าที่อากาอิยังไม่ตายใช่หรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้น ฮอนโด ฮิเดมิ หรือคีร์ จะถูกยินที่เอาปืนสั้นจ่อที่หัว เป่าดับคารถ เพราะเล่นตุกติกในภารกิจสังหารเจ้าหน้าที่อากาอิที่สันเขาไรฮะ ซึ่ง ฮิเดมิ ก็ได้ยืนกรานว่า ตนเองนั้นสังหารเจ้าหน้าที่อากาอิตายแล้วอย่างแน่นอน




ซึ่งสถานที่ที่ ผีอากาอิ (ยินเรียกแบบนั้น) คาดว่าจะปรากฎก็คือห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่กำลังเกิดคดีชายแก่เอาระเบิดมาพันตัวเองเพื่อบีบให้นักสืบโมริไขคดีให้ โดยคดีก็ไม่มีไรมาก แต่ชายแก่คนนี้ได้ทำการปิดขังผู้คนในห้างไม่ให้ออกจากห้าง ถ้าหากขัดขืนหรือออกไปแม้แต่คนเดียว ก็จะทำการกดระเบิดพลีชีพสังหารหมู่ทันที




ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่พวกชายชุดดำเท่านั้นที่ตามรอยของเจ้า "ผีอากาอิ" ยังมีอาจารย์โจดี้ และ เจ้าหน้าที่คาเมลด้วย ซึ่งพวกเค้าทั้งคู่ก็ติดอยู่ในห้างนี้ตามคำขู่ของคนร้ายที่จะกดระเบิดเช่นกัน



อาจารย์โจดี้ได้รับข้อความบางอย่างที่เขียนไว้ใต้ที่รองแก้วน้ำที่ร้านอาหารในห้าง เป็นข้อความว่า "ที่นี่อันตราย เธอหนีไปซะ" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเขียนเอาไว้ แต่อาจารย์โจดี้ คิดว่าต้องเป็น "ผีอากาอิ" คนนั้นแน่นอน

และหนึ่งในคนที่ติดอยู่ในห้างด้วยก็คือ โอกิยะ สึบารุ



หลังจากเสร็จสิ้นคดี ผู้คนที่ออกมาจากห้างก็มี "ผีอากาอิ" เดินออกมาด้วย ยินจึงสั่งให้เคียนติ มือสไนเปอร์ขององค์กร คอยซุ่มยิงเจ้าผีอากาอิ




แต่เคียนติรู้สึกตกใจที่จู่ๆ ผีอากาอิ หันหน้ามาที่วิถีกล้องแล้วยิ้มที่มุมปาก ทำให้เคียนติ เสียสมาธิ นั่นจึงทำให้เธอไม่ได้เหนี่ยวไกยิงเสียที จนผู้คนที่ออกมาจากห้างพบเห็นเคียนติแอบซุ่มอยู่ที่ตึกอีกฝั่ง แต่ก็โชคดีไปที่ผู้คนคิดว่า กำลังถ่ายทำหนัง 555



ในระหว่างที่แผนทำท่าจะล้มเหลว เบลมอธที่ตามมาสมทบ ได้พูดอะไรบางอย่างกับยิน เมื่อสนทนากันจบ ยินรู้สึกตกใจในอะไรบางอย่าง จึงสั่งให้ทุกคนถอนกำลัง



และยินก็ได้บอกกับ ฮิเดมิหรือคีร์ว่า " อย่างที่เธอบอก เจ้าอากาอิมันตายไปแล้วจริงๆนั่นแหละ " เป็นคำพูดที่ชวนให้คนอ่านหรือผู้ชมอย่างเราๆ รู้สึกงุนงงมาก

ตัดภาพมาที่ฝูงชนในห้าง อาจารย์โจดี้ได้พบกับ "ผีอากาอิ" สะที และในระหว่างที่จะไปเรียกพาตัวกลับ ผู้คนก็เบียดเสียดกันแน่นไปหมด ทำให้เธอคลาดกันกับ คนที่เธอคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่อากาอิ ไปอีกแล้ว



และในระหว่างนั้นท่ามกลางผู้คน อาจารย์โจดี้ก็ได้ชนกับชายคนหนึ่งเข้า จนล้มลงกองกับพื้น โดยชายคนนั้นก็คือ โอกิยะ สึบารุ



โดยอาจารย์โจดี้ก็ได้พูดขอโทษที่เดินไม่มองทางจนชนเข้ากับเค้า และสึบารุเองก็บอกว่า "เราเองก็ผิดด้วยกัน50-50 ทั้งคู่ " ทำให้อาจารย์โจดี้รู้สึกสะกิดใจอะไรบางอย่างกับคำพูดของชายที่ชื่อ โอกิยะ สึบารุคนนี้

โคนันซึ่งได้มาพบกับสึบารุ จึงได้ถามว่า มาทำอะไรที่นี่ สึบารุตอบไปว่า พอดีข่าวโจรปล้นธนาคารเมื่อครั้งก่อน มันออกทีวี และเค้าก็เจอคนรู้จักในภาพที่ออกอากาศ ซึ่งเค้าเองก็ได้พบกับคนรู้จักคนนั้นแล้ว และก็บอกอีกว่า เป็นใบหน้าที่เค้ารู้จักเป็นอย่างดี

สึบารุจ้องมองเห็นพวกชายชุดดำ ที่กำลังถอนกำลังออกจากบริเวณหน้าห้าง และจึงพูดว่า

"พวกหมาป่าออกล่าเหยื่ออีกแล้วสินะ"





ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ในช่วงนี้ มีการเปิดเผยให้เห็นอีกแล้วว่า โอกิยะ สึบารุ มีฝีไม้ลายมือในการวิเคราะห์ และอ่านสถานการณ์การเอาตัวรอดขนาดไหน เมื่อพวกโคนันถูกคนร้ายเรียกค่าไถ่จับตัวไป และคนที่มาช่วยก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือ โอกิยะ สึบารุคนดีคนเดิม



ซึ่งดร อากาสะก็ถูกจับตัวมาด้วย






ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


พวกรันกับโซโนโกะ กำลังจะไปกินเค้กไวกิ้งกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ระหว่างทาง โซโนโกะเจอพวกโรคจิตลวนลาม และได้เข้าใจผิดว่า ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นคนร้าย



รันจึงเข้าต่อสู้กับชายโรคจิตคนนี้ แต่ชายคนนี้ก็มีทักษะเทควันโด้ที่ต่อกรกับคาราเต้ของรันได้อย่างสูสี และก็ได้รู้ว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะชายคนนี้เป็นคนจับมือคนร้ายตัวจริงและไล่ลงจากรถบัสไป ซึ่งชื่อของชายคนนี้คือ เซระ มาสึมิ





ตอนที่ 697-701 ดวลสืบคดีในโรงแรมผีสิง และเฟสสอง คดีบุกยึดสำนักงานนักสืบโมริ




มีคดีเกิดขึ้นเมื่อพบศพชายตกจากดาดฟ้าของโรงแรม โคนันจึงได้ร่วมไขคดีกับ เซระ มาสึมิ ผู้ชายที่พบกันบนรถบัส ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาสึมิถึง ทำทีเป็นว่าไขคดีไม่ได้ ทำให้โคนันจึงใช้เสียงของคุโด้ ชินอิจิ ไขคดีทางลำโพงโทรศัพท์แทน

ในท้ายตอนมีการเฉลยว่า แท้ที่จริงแล้ว เซระ มาสึมิ คือผู้หญิง หลังจากเธอย้ายจากอเมริกา มาเรียนอยู่ที่ห้องเดียวกับพวกรัน



มาสึมิสนใจในตัวของโคนัน จึงขอติดรันไปที่สำนักงานโมริด้วย แต่พอดีกับที่โคนันไปอยู่ที่บ้าน ดร อากาสะพอดี มาสึมิจึงอดที่จะเจอโคนัน แต่มาพัวพันกับคดีบุกปล้นสำนักงานนักสืบโมริแทน และก็เป็นคุโด้ ชินอิจิคลี่คลายคดีให้กับคนร้ายที่บุกมาปล้นในครั้งนี้ เพราะเงื่อนไขของคนร้ายคือ ต้องการให้ชินอิจิ ไขคดีการตายของน้องสาวตัวเอง ที่ถูกฆ่าโดยใครคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้ที่ คนร้ายเชิญมาที่สำนักงานนักสืบ





เปิดตัวอย่างเป็นทางการ สำหรับอีกหนึ่งตัวละคนหลักของซีรีย์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน

เซระ มาสึมิ อายุ 17 ปี



เพื่อนสาวของรันกับโซโนโกะ เธอย้ายมาจากอเมริกากลับมาที่ญี่ปุ่น โดยรับงานจ้างวานเป็นนักสืบสาวมัธยมปลายตามสืบคดีต่างๆ เธอรู้สึกสนใจอะไรบางอย่างจากตัวของโคนัน มีนิสัยห้าวๆเหมือนทอมบอย จนบางทีคนรอบๆตัวมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายอยู่บ่อยครั้ง

หลังจากตอนที่ 701 จะมีการพบกันระหว่างเซระ และ ฮัตโตริ เฮย์จิ ที่มาติดต่อกับลุงโมริเรื่องคดีๆหนึ่ง(ที่จะบอกในถัดจากนี้) ชื่อตอนว่า

ตอนที่ 702-703 โคนัน ปะทะ เฮย์จิ ศึกดวลสองนักสืบตะวันออกตะวันตก


เซระ เกิดความสงสัยว่า ระหว่างคุโด้ ชินอิจิ กับ ฮัตโตริ เฮย์จิ ใครสืบคดีเก่งกว่ากัน โดยจะใช้คดีที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแข่งกันสืบคดี

ในร้านนี้ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ใช่ใครอื่น เค้าคือ เจ้าหน้าที่คาเมล ที่กำลังอยู่ในช่วงพักร้อน มากินอาหารที่ร้านประจำของเค้าซึ่งก็คือร้านแห่งนี้

เจ้าหน้าที่คาเมลได้พบกับเซระ มาสึมิ แล้วรู้สึกว่าคล้ายใครบางคนที่เค้ารู้จักนั่นคือเจ้าหน้าที่อากาอิ เค้าจึงแอบถ่ายรูปไปให้อาจารย์โจดี้ดู






ในช่วงระหว่างนี้ เซระ มาสึมิ เกิดสนใจในตัวของ ไฮบาระ ไอ ขึ้นมา และได้ตามสืบอะไรบางอย่างจากตัวเธอ (อ้างอิงจากตอนเว็บไซต์วิดิโอของดร อากาสะ)

ช่วงนี้พวกโคนัน ดร.อากาสะ ไฮบาระ และเฮย์จิ ทั้งสี่คน เริ่มสงสัยในตัวของ เซระ มาสึมิ ว่าเป็นใครกันแน่ จะเป็นคนมีโค้ดเนมว่า เบอร์เบิน อะไรนั่นรึเปล่า

โดยคดีในตอนนี้ ดร อากาสะ ขายของทางออนไลน์แล้วเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้น เมื่อหน้าของไฮบาระไปโผล่สู่โลกออนไลน์ อาจจะทำให้พวกชายชุดดำตามตัวเจอได้

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ถัดมา เพื่อนของนักสืบ โมริ โคโกโร่ ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ได้จัดงานเลี้ยงฉลองก่อนแต่งงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยเค้ามีชื่อว่า บัมบะ ไรตะ กับเจ้าสาวของเค้าที่ชื่อว่า คามง ฮัตสึเนะ ก่อนจะเกิดเรื่องราวสุดเศร้าขึ้น


โคนัน ปีที่ 15 ตอนที่ 719-720 เวดดิ้งอีฟ



รถที่เจ้าสาวของบัมบะ เกิดระเบิดขึ้น และเธอเสียชีวิตคาที่จากแรงระเบิด


โดยเจ้าสาวของบัมบะ คุณฮัตสึเนะได้จ้างนักสืบมาคนหนึ่ง เพื่อมาตามสืบพฤติกรรมเจ้าชู้ของสามีเธอบัมบะ และนึกสืบคนนี้มีชื่อว่า อามุโร่ โทโอรุ



โดยเค้าปลอมตัวเป็นบริกรภายในร้าน


คดีนี้เป็นคดีสุดเศร้าอีกคดีหนึ่งเพราะว่า


หลังจากจบคดีนี้ อามุโร่ ก็มาขอเป็นลูกศิษย์ของ นักสืบโมริ ในการช่วยตามสืบคดีต่าง ๆ และนักสืบโมริก็ตอบตกลง และงานแรกที่ได้ทำก็คือ การตามสืบคดีตามหาตู้ล็อกเกอร์ ก่อนจะนำไปสู่เบาะแสสำคัญของเรื่อง

ตอนที่ 723-726 ดนตรีรัตติกาลของเหล่านักสืบ


ในท้ายตอน โคนันถูกคนร้ายลักพาตัว และคนที่ตามมาช่วย ก็คือ
1.อามุโร่ โทโอรุ ที่ขับรถพานักสืบโมริกับรันมาช่วยโคนันที่ถูกลักพาตัวไป
2.โอกิยะ สึบารุ ที่ขับรถพา ดร อากาสะ และไฮบาระที่ใช้เเว่นตาสะกดรอย สะกดรอยตามโคนันที่ถูกลักพาตัวไป โดย ดร อากาสะได้รับข่าวจากรัน
3.เซระ มาสึมิ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาเพื่อช่วยโคนันอีกแรง หลังจากเธอโทรมาหารัน และได้รู้สถานการณ์จากรัน

ซึ่งหลังจากปิดคดี เบลมอธได้โทรมาคนชื่อ เบอเบิร์น แต่ปรากฎว่ามีคนรับสายโทรศัพท์จาก เบลมอธ ถึงสามคน นั่นก็คืออามุโร่ สึบารุ และก็ มาสึมิ เหมือนเป็นการบอกใบ้ว่า เบอเบิร์น ต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่งในสามคนนี้

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ





ในอดีต ผู้หมวดทาคางิ วาตารุ มีตำรวจรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งที่คอยสอนงานตำรวจแก่เค้า พูดง่ายๆก็พี่เลี้ยงนั่นแหละ โดยเค้ามีชื่อว่า ดาเดตะ วาตารุ



เนื่องจากทั้งคู่มีชื่อวาตารุเหมือนกัน ในแผนกสืบสวนที่ 1 จึงเรียกพวกเค้าว่า "พี่น้องวาตารุ "



แต่เมื่อหนึ่งปีก่อน ดาเตะ วาตารุประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนเสียชีวิต อย่างน่าเศร้า และในท้ายของตอนนี้ ในระหว่างที่หมวดทาคางิ กับ หมวดซาโต้ ไปเยี่ยมหลุมศพของ ดาเตะ วาตารุ พวกเค้าก็พบว่า ตรงหลุมศพ มีไม้จิ้มฟันวางไว้อยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนตัวของหมวดดาเตะผู้ล่วงลับ ใครกันที่นำไม้จิ้มฟันมาวางเอาไว้

"หลับให้สบายนะเพื่อนเอ๋ย"

คือคำพูดของชายที่แอบอยู่หลังหลุมศพ พ้นจากสายตาของ หมวดทาคางิ กับหมวดซาโต้



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ตอนที่ 736-737 ฟองน้ำ ไอน้ำ และ ควัน


โคนัน ไฮบาระ และ สึบารุกำลังจะขับรถไปเล่นสกีหิมะกับพวกดร อากาสะ และเด็กๆชมรมนักสืบที่ล่วงหน้ากันไปก่อนแล้ว ระหว่างทางเกิดคดีขึ้น โดยโคนัน ออกไปสืบคดีคนเดียว ส่วน ไฮบาระ กับ สึบารุ นั่งรอกันในรถ ระหว่างที่สึบารุเกิดงีบขึ้นมา ไฮบาระที่สงสัยในตัวสึบารุ จึงยื่นมือไปที่คอเสื้อของเค้า เพื่อตรวจสอบอะไรบางอย่าง



และ สึบารุที่แกล้งหลับอยู่จึงตอบไปว่า

(ขอขอบคุณภาพจากโคนันไทยซับครับ)


ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


ระหว่างทางที่พวกรัน มาสึมิ และโซโนโกะกลับจากโรงเรียน พวกเธอได้ไปพบศพนอนตายข้างตู้หยอดเหรียญ โดยข้างๆศพ พบอักษรที่เขียนด้วยเลือดเป็นคำว่า "ตาย" ซึ่งคล้ายกับคดีเมื่อ10ปีก่อนที่ คุโด้ ยูซากุ พ่อของโคนัน ที่เป็นนักสืบคอยช่วยงานสืบสวนของตำรวจ ไขคดีไม่ได้

พวกเธอจึงไปที่บ้านของชินอิจิ เพื่อค้นหาแฟ้มคดีเมื่อสิบปีก่อน และได้พบกับโอกิยะ สึบารุ ที่มาอาศัยอยู่ที่บ้านของชินอิจิ ซึ่งมาสึมิได้สงสัยอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวของ สึบารุ ด้วย


ตอนที่ 742-743 โคลด์เคสของคุโด้ ยูซากุ


ทั้งสี่คนช่วยกันไขคดี แต่ไขคดีไม่ออก จึงให้รันโทรไปถามชินอิจิ ซึ่งโคนันที่ยืนอยู่รู้ตัวว่า ไม่ได้การละ รันจะโทรมาตอนนี้ จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และไขคดีปริศนาเมื่อ 10 ปีก่อน ด้วยเสียงของคุโด้ชินอิจิ ซึ่งโคนันไม่ทันได้ระวังเพราะโอกิยะ สึบารุได้รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เพราะเห็นโคนัน ปลอมเสียงเป็นชินอิจิ โชว์การไขคดีเมื่อสิบปีก่อนแบบจะๆ

ตอนโคนันกลับเข้ามาจึงถูกสึบารุพูดแซวๆว่า

"เป็นไงบ้าง คุณนักสืบมัธยมปลาย คุโด้ ชินอิจิ"



ก่อนจะออกไปที่เกิดเหตุ มาสึมิ จ้องมอง โอกิยะ สึบารุ ประหนึ่งว่ามีอะไรในใจ





ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

หลายวันต่อมา ดร.อากาสะ พาพวกเด็กๆไปตั้งแคมป์ (ครั้งที่หนึ่งแสน )



โดยพวกโคนันได้รับแหวนสำหรับเข้าไปโดยสารรถไฟมิสเทอรี่เทรนด์สุดโบราณและคลาสสิค ของกลุ่มนายทุนบริษัทซึซึกิ ซึ่งได้รับมาจากโซโนโกะ ในระหว่างที่พูดคุยกัน โคนันได้เห็นยาแก้พิษ APTX4869 (ยาที่ทำให้กลับร่างเป็นผู้ใหญ่) อยู่ในตลับยาของไฮบาระ โคนันจึงคิดจะขอเก็บไว้ซักเม็ดเผื่อฉุกเฉิน แต่ไฮบาระไม่ให้เพราะกลัวว่าโคนันจะกลายเป็นชินอิจิมั่วซั่วเหมือนครั้งก่อนๆ



ในระหว่างตั้งแคมป์ โคนันมาซื้อของกับ ดร อากาสะ ก็ได้พบเข้ากับ เซระ มาสึมิ ที่ขับรถตามโคนันมาตั้งแคมป์ด้วย (เธอโทรไปถามกับรัน ว่าพวกโคนันไปไหน)



ระหว่างนี้พวกเด็กๆที่ไปเก็บฟืนในป่าก็บังเอิญไปพบกับคนร้ายที่กำลังขุดหลุมฝังศพผู้หญิงทีเค้าฆ่า ทำให้พวกเด็กๆต้องวิ่งหนีเข้าไปในกระท่อม อันนำไปสู่เหตุการณ์สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง ของซีรีย์ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน


ตอนที่ 751-752 เงาที่เข้าใกล้ความลับของไฮบาระ

ระหว่างที่พวกเด็กๆติดในกระท่อม ก็โดนคนร้ายที่ไล่ตามมา เอาโซ่คล้องปิดตายประตูกระท่อมและจุดไฟเผา พวกเด็กๆไม่สามารถออกมาได้



ในระหว่างที่ไฟลุกท่วมอยู่นั้น อายูมิก็สลบไป พวกเด็กแย่แล้วหละ เพราะตอนนี้ควันไฟเข้ามาในกระท่อมจนทั่วแล้ว ถ้าไม่รีบออกไปต้องตายแน่ๆ ทันใดนั้นเอง ก็มีเงาคนปริศนาโผล่มาจากห้องภายในกระท่อม เขาถือขวานมุ่งตรงมาที่เด็กๆ



ซึ่งโคนันที่ตามมาสมทบก็มาเจอพวกเด็กๆถูกใครบางคนช่วยออกมาจากกระท่อม ส่วนคนร้ายก็ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว โคนันถามพวกเด็กๆว่า แล้วคนๆนั้นอยู่ไหน พวกเด็กๆก็ชี้ไปที่เส้นทางที่คนๆนั้นวิ่งหนีเข้าไปในป่า โคนันจึงวิ่งเข้าไปหวังจะหาคนๆนั้นให้เจอ



คนที่ช่วยเด็กๆไว้ คือไฮบาระที่กินยากลับคืนร่างเป็น มิยาโนะ ชิโฮะ ร่างจริงของเธอ

ตัดภาพไปที่สำนักงานนักสืบโมริ ... อามุโร่ โทโอรุ แอบลอบเข้ามาดูดวิดิโอที่มิสึฮิโกะถ่ายวิดิโอเอาไว้ เป็นหน้าของชิโฮะ ที่ช่วยพวกเด็กๆจากกองเพลิง โดยที่มิสึฮิโกะอยากจะให้นักสืบโมริช่วยตามหาผู้หญิงคนนี้เพราะอยากจะขอบคุณในภายหลัง (พวกเด็กๆยังไม่รู้) แต่ระหว่างที่ อามุโร่กำลังสืบเรื่องของไฮบาระอยู่นั้น ก็มีคนแอบเเฮกเข้ามาในคอมของนักสืบโมริ อันนำไปสู่เหตุการณ์สำคัญต่อเนื่องจากตอนนี้






ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 753-758 The Jet-Black Mystery Train การเผชิญหน้ากันอีกครั้งกับองค์กรชุดดำ ... ภาค รถด่วนมิสเทอรี่เทรนสีดำทมิฬ



เปิดเรื่องมา ยินและวอดก้า ได้ทราบข่าวจากเบลมอธว่า เชอรี่ หรือ ไฮบาระ ไอ กำลังจะไปขึ้นรถไฟสีดำ ที่เป็นของกลุ่มนายทุน ซึซึกิ โดยเบลมอธเองก็ทราบข่าวมาจากเบอเบิร์นอีกที



หลังจบการสนทนา เบลมอธ พลางคิดในใจว่า

"อย่าโกรธกันเลยนะ ซิลเวอร์บุลเล็ตคุง เรื่องสัญญาที่จะไม่ตามล่า เชอรี่ ที่สัญญาไว้กับเธอ เพราะการล่าในครั้งนี้ ผู้ลงมือคือ เบอเบิร์น"

ซึ่งหลังจากที่พวกโคนันขึ้นรถไฟมา ตัวของเซระ มาสึมิ รู้สึกสนใจในตัวของไฮบาระ ไอ จึงได้เข้ามาทักทายเธอ ไฮบาระรู้สึกหวาดกลัวในตัวของมาสึมิ และทันใดนั้นเอง บนรถไฟก็เกิดคดีขึ้น (ตามสูตร) เมื่อมีหนึ่งในผู้โดยสารถูกยิงเข้าที่ขมับ



ทางด้านยินที่มารอรับศพของเชอรี่ ก็ได้พูดขึ้นมาว่า

"นี่จะเป็นสถานีสุดท้ายของแก เชอรี่"



ไฮบาระ ที่รู็สึกถึงภัยอันตราย จึงหนีออกจากกลุ่มพวกโคนันเพราะไม่อยากให้ทุกคน ติดร่างแหไปด้วย เพราะวิธีการของพวกชุดดำคือ หลังจากฆ่าเธอเสร็จ ก็จะตามฆ่าเพื่อนๆ คนสนิท และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทิ้งซะ

ไฮบาระหนีมาที่มุมอับจนมาเจอเข้ากับ โอกิยะ สึบารุ ที่ก็ตามขึ้นมาบนรถไฟด้วย ไฮบาระมีสีหน้าที่หวาดกลัว เพราะคำพูดของสึบารุที่พูดออกมาก็คือ

"เธอนี่ เหมือนกับพี่สาวของเธอจริง เดาได้ไม่ยากเลยว่าเธอจะทำอะไรและไปที่ไหน "




และก็ไม่พลาดเช่นเคย อามุโร่ โทโอรุก็แอบขึ้นมาบนรถไฟขบวนนี้ด้วย ก่อนที่เค้าจะไปเป็นผู้ช่วยสืบคดีของนักสืบโมริ



รถไฟขบวนนี้ก็วิ่งมาเรื่อยๆจนเข้าสู่อุโมงค์ที่ทอดยาวกลางป่าเขา ท่ามกลางความมืดมิด มีผู้หญิงปริศนาที่เดินสวนกันกับ "ผีอากาอิ" และเธอก็พูดอะไรบางอย่างกับเค้า จนอากาอิคนนี้ถึงกับทำสีหน้าประหลาดใจกับคำพูดนั้นของผู้หญิงปริศนา



หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้เดินจากไป เซระ มาสึมิก็มาพบเข้ากับ ผีอากาอิคนนี้ เธอรู้สึกตกใจมาก พร้อมพูดขึ้นมาว่า

"พี่ชู พี่ชูจริงๆด้วย แต่พี่ชูตายไปแล้วนี่หน่า"

อากาอิคนนี้ ก็พูดขึ้นมาว่า

"ยังเหมือนเดิมเลยนะ มาสึมิ"

เซระ มาสึมิ ก็ตอบกลับไปว่า

"พี่ชูตายไปแล้วหนิ"

อากาอิคนนี้ก็พูดกลับไปว่า

"นี่แหละที่ฉันอยากได้ยิน"

พร้อมกับเอาเครื่องสตั๊นกัน ช็อตใส่มาสึมิจนสลบไป



จนยามที่เดินผ่านมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น อากาอิคนนี้ก็ตอบว่า น้องสาวของเค้าเป็นลมหมดสติไป


สรุปก็คือ ข้อสงสัยที่ เจ้าหน้าที่คาเมล รู้สึกสงสัยในตัวของเซระ มาสึมิ ว่าเป็นใคร ก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ว่าเธออาจจะเป็นน้องสาวของ อากาอิ ชูอิจิ

ทางด้านนักสืบโมริก็กำลังไขคดีอยู่ โดยให้ทุกคนลองวิ่งเลียนแบบคนร้าย แต่ก็ยกเว้น หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่เป็นยายแก่กับคนรับใช้ที่คอยเข็นรถให้



หลังจากโคนันเคลียร์คดีเสร็จ ก็ตามไปเริ่มแผนการอะไรบางอย่างที่ตนเตรียมไว้ โดยเข้าไปพูดอะไรบางอย่างกับ ยายแก่ และคน รับใช้

ที่ห้องโดยสารห้องหนึ่ง ผีอากาอิ ที่ลายๆคนสงสัยในตัวเค้า ก็ได้เฉลยออกมาว่า คือเบลมอธที่ปลอมตัวนั่นเอง ส่วนหญิงสาวปริศนาที่เดินสวนกัน ก็คือ คุโด้ ยูกิโกะ แม่ของชินอิจิ และเพื่อนสนิทของ ชารอน วินยาร์ด ที่ตอนนี้ก็คือเบลมอธ



ทั้งสองต่างก็คุยเกทับกันว่า ระหว่าง ลูกชายของยูกิโกะอย่างคุโด้ ชินอิจิ และ เบอเบิร์น พรรคพวกของชารอน วินยาร์ดหรือเบลมอธ ฝ่ายไหนจะดำเนินแผนสำเร็จก่อนกัน

โดยระหว่างพูดคุย ยูกิโกะ ได้พูดจี้แทงใจของเบลมอธ เรื่องของ การสร้างโปรแกรมอะไรบางอย่าง รวมถึงความเกี่ยวข้องกันของ อิตาคุระ สึงุรุ (คุณยังจำได้มั้ย คนที่คิดค้นโปรแกรมอะไรบางอย่างส่งให้องค์กรชุดดำ) กับ เบลมอธ โดยสมัยที่ยังเป็นนักแสดง เบลมอธกับอิตาคุระมักจะเถียงกัน เรื่อง CG ที่ใช้ในหนัง

เบลมอธ ก็เอาปืนมาจ่อเล็งยิงที่ ยูกิโกะ ทันที ราวกับว่า นี่เป็นความลับที่สำคัญมากๆของเธอและไม่อยากที่จะให้ใครได้รับรู้เลย พร้อมกับสั่งให้ยูกิโกะหุบปากลงซะ



ตัดกลับมาที่ห้องโดยสารห้องหนึ่ง โอกิยะ สึบารุ ได้นำตัวของมาสึมิ ที่นอนหมดสติเพราะโดนเครื่องสตั๊นกันของ เบลมอธ มานอนพักที่ห้องของเค้า มาสึมิ นอนละเมอพึมพำออกมาว่า "พี่ชู" ก่อนที่ สึบารุจะมีรอยยิ้มเล็กที่มุมปาก




เบลมอธได้ส่งสัญญาณให้เบอเบิร์นเริ่มแผนการสังหาร เชอรี่ หรือไฮบาระไอ และเปิดเผยว่า เบอเบิร์น แท้จริงแล้วก็คือ

อามุโร่ โทโอรุ

ส่วนไฮบาระเองก็กินยากลับเป็น มิยาโนะ ชิโฮะ และได้เผชิญหน้ากันตัวต่อตัวกับเบอเบิร์น



"สมกับเป็นลูกสาวของ เฮลแองเจิล"

คือคำทักทายแรกของ เบอเบิร์น ซึ่งไฮบาระเองก็รู้จักเบอเบิร์นเป็นอย่างดี เพราะเป็นคู่ปรับของ โมโรโบชิ ได(อากาอิ ชูอิจิ) คนรักของพี่สาวของเธอ มิยาโนะ อาเคมิ

เบอเบิร์นเล่าว่า เค้าปลอมตัวเป็น เจ้าหน้าที่อากาอิ คอยตามสอดส่องพฤติกรรมของคนรอบๆตัวเค้า เพื่อจะดูรีแอคชั่นของคนเหล่านั้น เพราะอยากจะรู้ว่า เจ้าหน้าที่อากาอิ ตายจริงๆรึเปล่า ซึ่งก็ตายจริงๆ เพราะคนรอบๆตัวมีรีแอคชั่นแบบเดียวกันคือ ทึ่ง อึ้ง ที่ เจ้าหน้าที่อากาอิ ยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอาจารย์โจดี้ที่แสดงอาการออกมาชัดเจนที่สุด



ในระหว่างที่เบอเบิร์นกำลังจะฆ่าไฮบาระทิ้งซะ (แต่จริงๆเค้าแค่จะจับตัวเธอแบบเป็นส่งให้องค์กร )

ก็ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือไฮบาระ เบอเบิร์นก็เลยถามว่า แกเป็นใครกัน ก่อนที่ชายคนนั้นจะหายไป



หลังจากนั้น ตู้โดยสารที่ถูกตัดโบกี้ก็ถูกระเบิดทิ้งไว้กลางสะพานข้ามแม่น้ำ ซึ่งในตู้โดยสารนั้น ไฮบาระ ไอ ยังอยู่ในนั้น นั่นเท่ากับว่า แผนการฆ่าเชอรี่ ของเบอเบิร์นสำเร็จลุล่วง (จริงๆยินแอบเอาระเบิดไปใส่เอาไว้ในตู้โดยสารนั้น โดยไม่บอกให้เบอเบิร์นรู้ เพราะยินอยากจะฆ่าเชอรี่ให้มันจบๆไป)





ในท้ายตอน เบลมอธ ต้องประหลาดใจอีกครั้งที่ เชอรี่ หรือ ไฮบาระไอยังมีชีวิตอยู่ ทั้งที่น่าจะตายไปแล้วบนตู้โดยสารที่ระเบิด และเบลมอธก็ได้ยินที่ โคนันพูดโทรศัพท์ขอบคุณใครบางคนที่มาช่วยเหลือแผนการของเค้า



และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เค้าคือ คุโรบะ ไคโตะ หรือจอมโจรคิดที่โคนันจับได้ว่า เค้าปลอมตัวเป็นยายแก่ที่นั่งรถเข็นกับคนรับใช้


และโคนันก็ขอให้เค้าช่วยปลอมตัวเป็น ไฮบาระไอ และจะให้ ไฮบาระพูดข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอให้กับจอมโจรคิดได้ฟัง เพื่อใช้หลอก เบอเบิร์น แล้วก็จะใช้เครื่องร่อนหนีออกมา ก่อนที่ตู้โดยสารจะระเบิด





หลังจบเหตุการบนรถไฟสีดำ โคนันที่ได้รู้ว่าเบอเบิร์นหรืออามุโร่ โทโอรุ ลาหยุดงานที่ร้านปัวโรต์ และคิดว่าคงจะไม่โผล่หน้ามาให้พวกเค้าเห็นแล้ว

แต่ระหว่างที่พวกโคนันไปเล่นเทนนิสกันนั้น โคนันก็ได้พบเข้า



อามุโร่ โทโอรุ ที่กำลังโชว์หวด ทวิตเสิร์ฟ ประหนึ่งว่าเค้าคือ เอจิเซน เรียวมะ มาปรากฎกายต่อหน้าโคนันที่รู้ความจริงว่าเค้าคือเบอเบิร์น

ในตอนนี้เกิดคดีขึ้นนิดหน่อย โคนันที่ใช้โคโกโร่นิทราไขคดีร่วมกันกับเบอเบิร์น ก็ได้ช่วยกันคลี่คลายคดีสำเร็จ ระหว่างขับรถกลับ เบอเบิร์นโทรคุยกับเบลมอธ ว่าเค้าสนใจในตัวของนักสืบโมริ และ โคนัน




เป็นอันจบมหากาพย์การหลบซ่อนตัว ของอามุโร่ โทโอรุ หรือ โค้ดเนมเบอเบิร์น

ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ


โคนันปี 16 บริการส่งพัสดุที่ทั้งหวานและเย็น ตอนที่ 774-775



ตอนนี้ทั้งเบอร์เบินและโอกิยะ สุบารุ มีบทนะครับ เป็นตอนที่เด็กๆมันไปติดในรถขนพัสดุที่เป็นห้องเย็น และต้องการขอความช่วยเหลือ เพราะรู้ว่าคนส่งของนั้นเป็นโจรที่ฆ่าคนและนำศพมาใส่ไว้ในตู้ขนพัสดุ และคนที่ช่วยพวกเด็กๆก็คือ เบอเบิร์นหรืออามุโร่นันแหละ

โคนันปี 16 กล่องสมบัติที่เต็มไปด้วยผลไม้ ตอนที่ 779-780


สาระสำคัญของคดีนี้ โคนันมีบางสิ่งบางอย่างที่อยากจะถามกับเซระ ประมาณว่า ทั้งตัวเค้ากับเซระเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า

ในช่วงนี้ ก็ได้เปิดเผยอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ โดยเค้าเป็นแฟนของ คุณยูมิ จราจรสาวเพื่อนของหมวดซาโต้



โคนันปี 16 เพื่อนบ้านของสถานที่เกิดเหตุคือแฟนเก่า ตอนที่ 783-784

โดยผู้ชายคนนี้เป็นนักเล่นหมากรุกญี่ปุ่นโชกิที่เก่งกาจมากๆระดับท็อปๆของญี่ปุ่นโดยเค้ามีชื่อว่า ฮาเนดะ ชูคิจิ



ZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZZ

ต่อที่ คอมเมนต์นะครับเริ่มเยอะมากๆแล้ว ขอแยกไว้ตรงนี้ก่อน