ไม่ได้อะไรเลยครับ นอกจากเดินไกลตอนตื่นเช้ากับปวดเข่าทำวัดเย็น

กิจวัตรประจำวันของผมตอนบวชคือ
ตื่น -> อาบน้ำ -> เดินบาตร -> กลับห้องฉันของที่เดินบาตรมาเล็กๆ น้อยๆ -> ฉันเช้า -> กลับห้อง -> ฉันเที่ยง -> กลับห้องนอนยาว ๆ จนบ่าย 3 บ่าย 4 -> กวาดลานวัด -> กลับห้องพักผ่อนนิดหน่อย -> อาบน้ำ -> ทำวัตรเย็น -> กลับห้องหลังจากนี้จะอิสระละ ประมาณ 1 ทุ่ม - 1 ทุ่มครึ่ง

กิจวัตรพิเศษคือ วัดผมจะมีเทศน์ทุกวันพระและวันอาทิตย์ สัปดาห์ไหนถ้าวันพระตรงกับวันอาทิตย์ก็จะดีไป แต่ถ้าวันพระคือวันเสาร์ เท่ากับว่า ต้องไปนั่งฟังเทศน์ทั้ง 2 วัน เหนื่อยครับ ไปนั่งครั้งละชั่วโมง +

1. แล้วแต่ว่าพระพี่เลี้ยงมีอะไรให้ช่วยทำมั้ย แต่ถ้าที่ผมทำปกติก็กวาดในกุฏิ+รอบๆทุกวัน , ล้างจาน ชาม บาตร , รดน้ำต้นไม้ , ช่วยทำคีย์ข้อมูลพระให้เพราะพระพี่เลี้ยงไม่ค่อยเก่งคอม , แล้วก็ไปกิจนิมนต์

2. ยะถา สัพพีให้ได้ก่อนอันดับแรก อื่นๆ ก็จะได้ท่องตอนทำวัตร หรือว่างๆ ก็ท่องไว้ครับ ผมก็บวชระยะสั้นนะ 10 วัน

3. จริง ๆ ผมไม่อยากเอาฤกษ์สึกเลย แต่ทางบ้านบอกว่าต้องก็มีฤกษ์สึก ก็ตามท่านว่าให้พระอุปัชฌาย์ ดูให้เลยครับ

- ทำวัตรเช้า-เย็น

- กวาดวัดเช้า-เย็น

- ไม่ได้บิณฑบาต

- ออกกิจทุกอาทิตย์

บวชเดือนกว่า

ของผมช่วง 2 วันแรกพอฉันเพลมานอนอย่างเดียวเลย จนทำวัตรเย็น

จากนั้นก็มีได้สนทนาธรรม ลองนั่งสมาธิ ฝึกจิตบ้าง แล้วช่วงหลัง ๆ จะมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เลยได้ช่วยทางวัดเตรียมนู่น เตรียมนี่อย่าง ถอดพัดลมมาล้าง ขนของ แล้วก็คอยดูแลเณรได้แปบนึงละผมก็สึกพอดี

1.แล้วแต่วิถีและวัตรของแต่ละวัดเลยครับ อาจจะคล้ายๆกันแต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด
เพราะต้องบอกตามตรงว่า15วันไม่ได้ยาวนานพอให้ทำอะไรได้เยอะอยู่แล้ว นอกจากวัตรปฏิบัตรพื้นฐานเช่นบิณฑบาต ทำวัตร
แต่เคสของท่านเป็นวัดป่า นะจะดีเทลเยอะกว่าวัดบ้านหรือวัดเมืองกรุง

2.- ยะถา
- สัพพี
- ภะวะตุสัพ
- สัพพะโร

3.ปรึกษากับหลวงพ่ออุปัชฌาย์เลยครับดีสุด เพื่อความสบายใจของครอบครัวท่าน และเพื่อให้กระทบงานน้อยสุด

ป.ล. อาจจะมีเวลาแค่สิบกว่าวัน แต่อยากให้ท่านหาความสุขจากความสงบนี้ให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าสึกออกมาแล้ว
ท่านจะหาช่วงเวลาที่สงบแบบนี้อีกไม่ได้ง่ายๆแน่

วัดที่ผมบวช เป็นวัดหลวง หลวงพี่ที่คอยดูแลแกมีการบ้านให้ทุกเย็น การบ้านธรรมะ อ่านนั่นนี่ ดูนั่นนี่ สรุปนั่นนี่
ตอนนั้นก็รู้สึกไม่อยากทำ แต่มาคิดดูอีกทีคือ ถ้าไม่ทำแล้วกูจะไปทำอะไรวะ ว่างทั้งวันอะ 555
บางวันก็มีไปนั่งสมาธิ ที่ได้ทำน้อยจริง ๆ คือกวาดลานวัด ซึ่งที่จริงมันควรได้ทำเยอะสุด (ฮา)

ตอนผมบวชนะ ตื่นตี4ล้างหน้า แปรงฟัน ตี4.20 มีลุงมรรคทายกขี่มอไซค์มารับไปส่งที่ทางเข้าหมู่บ้าน ก็เดินรับบิณฑบาตไปจนสุดถนน

ลุงแกก็จะขี่ไปส่งหน้าบ้านผมเอง รับบิณฑบาตคนในบ้าน เสร็จก็กลับวัด เก็บกุฏิ รอ6-6.30โมงนี่แหละทำวัตรเช้า

เสร็จก็ไปฉันเช้า แล้วก็สรงน้ำ พักผ่อนอีกสักพักนึง จนฉันเพลเสร็จก็เที่ยง ไปช่วยหลวงพี่พัฒนาวัด ตอนนั้นวัดกำลังสร้างหอพระใหม่

ผมก็ไปช่วยดูแบบ ดูงานผู้รับเหมาที่มาทำ เลิกก็เย็นๆไปทำวัตรเย็น บางวันก็มีไปนั่งสวดบังสกุลด้วยนะ กลับกุฏิอ่านหนังสือมั่ง ทำสมาธิมั่ง 3-4ทุ่มก็หลับแล้ว

ผมนี่ไปบวชแต่กายหยาบล้วนๆเลยนะ
คือในใจนี่แอนตี้ศาสนามาตั้งแต่ ม.ปลาย
แต่พอเรียนจบปุ๊ปพ่อส่งวัดเลย


อยู่วัด 7 วัน ซ้อมก่อน ยังไม่โกน เป็นเด็กวัด
บวชงานเล็กๆญาติมาไม่ถึง 20 คน

ตอนเป็นเด็กวัดกับพระเหมือนกันเลย

ตื่นตี3 ทำวัดเช้า กวาด ถู วัด ไปเอาบาตรพระแก่มาล้าง เอาบาตรไปเตรียมไว้ให้เขา
แล้วก็รีบมาเคลียร์บาตรเรา ห่มจีวร เดินธุดง เจ็บตีนเชี้ยๆ
กลับมากินๆๆ ล้างบาตร ล้างบาตรให้พระแก่ เอาบาตรไปตาก พอบาตรแห้งก็เอาไปคืนพระแก่
พระแก่นี่โคตรดีไม่ต้องทำอะไรเองเลย มีพระใหม่ดูแลให้หมด ไหนจะล้างมือตอนกินข้าวอีก

เสร็จนี่ก็หมดธุระ ผมเข้ากุฎิ อ่านหนังสือละนอน ตื่น

บ่ายสาม กวาด ถู วัด
บ่ายสี่ น้ำปานะ ปาตี้ไทม์
เดินเล่นแถวนั้นแหละ รอ 1 ทุ่มทำวัดเย็น
นอน

แล้วก็วน แค่นี้

ได้อ่านหนังสือจบสองเล่มภายในไม่กี่สัปดาห์

ที่เหลือผมต้องไปธุดงครับ 3 สัปดาห์เต็มๆ เดินแม่งจนตีนบวมอะ
นอนในป่า นอนในเขา ต้องไปเพราะไม่มีใครอยุ่วัดเลย

ตอนผมจะสึกผมไม่สนฤกษ์ละครับ เพราะเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
จะปีใหม่ละ หิวเบียร์ด้วย อยากออกมาจากจุดนั้นซักที โคตรอิด

ส่วนตัวผมนี่ บวชช่วง สงกราน คือช่วงเช้า-กลางวันไม่ได้ทำอะไรเลยครับ มีกิจนิมน ตลอด มีกระทั้งไปงานเผาศพ ส่วนช่วงเย็น ทำวัตรเย็น , ก็นั่งดูทีวีกับหลวงพี่ที่วัด ด้วยความที่ว่า อากาศมันร้อนมากช่วงนั้+ กับต้องตื่นเช้า 3 ทุ่ม ผมนี่หลับแล้ว

1. นอกจากกิจวัตร เช่น ตื่นตี 3 หรือ ตี 4 แล้วแต่วัด อาบน้ำ ทำวัตรเช้า บิณฑบาตร ฉันเช้า

ช่วงระหว่างฉันเช้าเสร็จ ถึงเพล กับ หลังเพลเสร็จ จนถึงทำวัตรเย็น

เราต้อง/ควร ทำอะไรบ้างครับ

กวาดวัด ทำความสะอาด บลาๆๆ ประมาณนี้ป่าวครับ หรือมีะไรอีก นึกไม่ออก


- ถ้าไม่ได้บวชที่วัดป่า/วัดที่เคร่งเรื่องปฏิบัติ ก็ว่างครับ ทำอะไรก็ได้ ถ้าอยากทำอะไรให้สมกับเป็นพระก็ฝึกนั่งสมาธิเองหรือไม่ก็หาหนังสือสวดมนต์ท่อง หาหนังสือธรรมะอ่าน

ถ้าเป็นวัดป่า/วัดที่เคร่งเรื่องปฏิบัติ ก็จะมีพระพี่เลี้ยงพาไปทำกิจกรรมต่างๆ วิปัสสนา นั่งสมาธิ



2. แล้วบทสวดที่ควรจะท่องให้คล่อง สำหรับการบวชระยะสั้นแค่ 15 วัน มีบทไหนบ้างครับ

- บทกรวดน้ำ บทให้พรสัพพีฯ บทภวันตุสัพ ถ้ามีเวลาก็บวชกรวดน้ำยาว บวชสั้นๆเอาเท่านี้ก็พอ พอสึกไปเวลาเข้าวัดได้ใช้ประโยชน์ด้วย

3. เห็นพ่อผมพูดว่าต้องมีฤกษ์สึก เราเอาฤกษ์สะดวกได้มั๊ยครับ หรือมันต้องมีฤกษ์สึกด้วย

- สึกตามฤกษ์ดีกว่าครับ เคยได้ยินเรื่องเล่าจากพ่อผมว่า มีคนสึกเองตามสะดวก ไปสึกกับต้นไม้เอาเอง ไม่ได้สึกกับเจ้าอาวาส พอสึกออกมาแล้วสติไม่ค่อยสมประกอบ (โปรดใช้จักรยานในการรับฟัง)


ถ้าบวชตามประเพณี ไม่ได้กะจะเคร่งอะไรมาก ก็นั่งๆนอนๆ ดููทีวี ให้เวลาหมดไปวันๆ รอสึกอย่างเดียวครับ

ระหว่างวันผมกวาดวัด ทำความสะอาดไปเรื่อยครับ หรือไม่ก็หาหนังสือธรรมะนั่งอ่านดูครับ

04.30 ตื่น
05.00 ทำวัตรเช้า
6.00 บิณฑบาตร
7.00 ฉันเช้า
8.00 ทำวัตรเช้ารอบ 2
9-11.00 กิจส่วนตัว
11.00 ฉันเพล
13-14.30 กิจส่วนตัว
14.30-16.00 นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม ศึกษาธรรมะ
18.00 ทำวัตรเย็น
18.00 ถ้ามีสวดอภิธรรมก็ไปช่วย พระใหม่ก็นั่งเฉยๆได้ ไม่มีใครว่า
20.00 กิจส่วนตัว จำวัด
พรุ่งนี้ก็วนๆอยู่แค่นี้แหละ

บทสวดแล้วแต่วัดนะ แต่ของผมจัดเต็มทุกบทอะ ซ้อมอยู่ 1 เดือนก็จำได้คับ

ฤกษ์สึกให้เจ่้าอาวาสดูให้คับ อันนี้ตอบไม่ได้ว่าได้วันไหน

อันนี้ผมเอาจากประสบการณ์ตรงเลยนะท่าน เวลาบวชพอๆกัน ผมบวชวัดในกรุงเทพ

ได้ไปออกงานขึ้นบานใหม่ด้วย แล้วท่องไรไม่เป็นอะ =0=

ตอนผมบวช ตอนเช้า ตื่น ตี สี่ ทำธุรส่วนตัว เสร็จ ก็ ไป กวาดลานวัด เก็บใบไม้ ตีห้าทำวัดเช้า เสร็จ ก็ ปฏิบัติ รอบเช้า สัก แปป หกโมงก็ไป บินฑบาตร แปด โมง ฉันเช้า กลับมา ปฏิบัติ ต่อ เดินจงกลมนั่ง สมาธิ สิบเอ็ดโมง ฉัน เพล หลังจากนั้น ก็ปฏิบัติ ยาว บางช่วง โรงครัว จะเตรียม น้ำปานะ มาให้ น้ำถั่วแดง ต้ม สี่โมง เย็น กวาดลานวัด รอบเย็น ห้าโมงทำวัดเย็น เสร็จ หกโมง ก็ ปฏิบัติ ช่วงเย็น ถ้า บางวัน เป็น พระ ก็ ต้อง เข้า หอประชุมใหญ่ ไปฟัง ธรรมจาก พระ รุ่นใหญ่ ฟังยาว จน สี่ทุ่ม ออกศาลา ก็ ปฏิบัติ ต่อ จน เที่ยงคืน หรือ จนกว่าจะง่วง จากนั้น ก็จำวัด ตื่น เวลาเดิม วัด ที่ผมบวช จะมีการ เก็บชั่วโมง พระ รุ่นใหญ่จะมีการเรียก ไปสอบ ถาม ถึง การ ปฏิบัติ ธรรม ของ เรา ว่าเป็นยังไงบ้าง