ปลายเดือนหน้าว่าจะบวชตามประเพณี สัก 15 วัน (บวชเยอะกว่านี้ไม่ได้ งานรอเพียบ)

บวชง่ายๆ ไม่แห่ ไม่มีงาน แค่เลี้ยงข้าวหม้อ 2-3 อย่าง พอ

เลยอยากถามคนที่บวชแล้วหรือ มีความรู้เรื่องบวชครับ

1. นอกจากกิจวัตร เช่น ตื่นตี 3 หรือ ตี 4 แล้วแต่วัด อาบน้ำ ทำวัตรเช้า บิณฑบาตร ฉันเช้า

ช่วงระหว่างฉันเช้าเสร็จ ถึงเพล กับ หลังเพลเสร็จ จนถึงทำวัตรเย็น

เราต้อง/ควร ทำอะไรบ้างครับ

กวาดวัด ทำความสะอาด บลาๆๆ ประมาณนี้ป่าวครับ หรือมีะไรอีก นึกไม่ออก

2. แล้วบทสวดที่ควรจะท่องให้คล่อง สำหรับการบวชระยะสั้นแค่ 15 วัน มีบทไหนบ้างครับ

3. เห็นพ่อผมพูดว่าต้องมีฤกษ์สึก เราเอาฤกษ์สะดวกได้มั๊ยครับ หรือมันต้องมีฤกษ์สึกด้วย

1. ถ้าไม่มีกิจนิมนต์เคร่งๆหน่อยก็หัดสวดต่างๆครับ แต่ผมนี่วันๆกวาดวัด กินกาแฟ นอน 555

2. 15 วันเอาจริงๆนะ รับข้าวส่งข้าวก็เก่งละ

3. จริงๆคนเฒ่าคนแก่ถือฤกษ์สึกเพราะเหมือนเราเกิดใหม่ เลยเลือกวันที่ดีๆ

1. นอกจากกิจวัตร เช่น ตื่นตี 3 หรือ ตี 4 แล้วแต่วัด อาบน้ำ ทำวัตรเช้า บิณฑบาตร ฉันเช้า

ช่วงระหว่างฉันเช้าเสร็จ ถึงเพล กับ หลังเพลเสร็จ จนถึงทำวัตรเย็น

เราต้อง/ควร ทำอะไรบ้างครับ

กวาดวัด ทำความสะอาด บลาๆๆ ประมาณนี้ป่าวครับ หรือมีะไรอีก นึกไม่ออก

- เรียนวิปัสสนา, อ่านพระธรรมวินัย, กวาดกุฏิ ล้างห้องน้ำ, ญาติโยมมาเยี่ยม, นั่งคุยกับพระรูปอื่น, หรือถ้าง่วงก็นอน

2. แล้วบทสวดที่ควรจะท่องให้คล่อง สำหรับการบวชระยะสั้นแค่ 15 วัน มีบทไหนบ้างครับ

- อิติปิโส, กรวดน้ำให้พร, บทสวดก่อนฉัน(ชื่ออะไรไม่แน่ใจ)

3. เห็นพ่อผมพูดว่าต้องมีฤกษ์สึก เราเอาฤกษ์สะดวกได้มั๊ยครับ หรือมันต้องมีฤกษ์สึกด้วย

- ต้องมีฤกษ์สึกครับ ก่อนสึกซัก 4-5 วันก็ไปถามฤกษ์จากหลวงพ่อ อาจจะไม่ 15 วันเป๊ะ ขาดหรือเกินนิดหน่อย

เอาแบบตรงๆตอนผมบวช
1. ต้อง - ไม่มี
ควร - แล้วแต่ท่านจะเห็นควรครับ
2. ถ้า15วัน ยะถา สัพพี ไว้ให้พรน่าจะพอครับ ง่าย ท่านน่าจะคุ้นหูมาบ้างแล้ว
ส่วนทำวัตรท่านเปิดหนังสือเอา แนะนำว่าให้ถามพระพี่เลี้ยงเอานะครับว่าจบบทนี้ต่อบทไหน จดไว้ในหนังสือมนต์พิธีได้เลยครับ
3. ฤกษ์วัดที่ผมบวช มีฤกษ์สึกแทบทุกวันศุกร์ครับ จะมีแค่ศุกร์ที่ไม่ดีจริงๆจะไม่ให้ลาสิกขาครับ

ผมบวชละ ผมเป็นคนรักสบายมากนะ แต่ตอนบวชผมกลับโอเควะ ตื่นเช้าตี 4-5 มั้งลืม มาสวดรับอรุณ บิณบาตร แต่วัดผมวัดใหญ่พระบวชใหม่บางทีเลยไม่ต้องบิณทบาตรแต่ไปกวาดลานวัดแทน เช้าๆ สงบดีไม่ร้อนเลยเย็น ไปรอฉัน ฉันเสร็จทำวัดเช้า แต่ผมทำไม่ครบทุกวันอะ บวช 15 น่าจะทำสัก 7-8 วันลืมและ แล้วก็ว่างไปช่วยงาน ถ้ามีโยมมาก็ไปช่วยพระผู้ใหญ่ทำนู้นนี่ รอฉันอีกที แล้วก็ว่างยาวๆ รอนอน 5555555555

สรุป เอาเป็นว่าบวชอะไม่ต้องซีเรียส ชิวๆ สบายๆ ผมชอบนะเอาจริงๆ ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนรักสบายและขี้เกียจ ไม่ติดเข้าพรรษาสึกไม่ได้จะอยู่ต่ออีกสักแปบด้วย สงบดีไม่ต้องคิดไรเยอะ อาหารญาติโยมก็อร่อย บทสวดก็ต้องจำแหละแต่ไม่ยากหรอก เราคุ้นๆมาแล้วทั้งนั้น

พระในวัดมีทั้งคนดีทั้งไม่ดี พระดีๆก็ดีเกินนนนน พระไม่ดีแม่งก็จะต่อยกันในวัดอยู่และ

ถามว่าต้องทนอะไรมั้ย สำหรับผมข้อเดียวเลยคือจารย์โยดาอย่าให้ความเงี่ย*ครอบงำเจ้า

1.ผมตื่นราวๆตีสี่ทำวัตรเช้า อาบน้ำ ทำความสะอาดถึงราวๆ10โมง นั่งฟังเทศน์จนถึงเวลาฉันเพล บ่ายก็พักยาวถึงเย็น เย็นอาบน้ำทำวัตรนั่งสมาธิ นอน
3.ผมไม่ถือฤกษ์นะ ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยว

ของผมพระทำของแท้ครับ ตื่นมาบิณตอน ตี5.30 ฉันเสร็จประมาน 8.30 เสร็จแล้วก็นอน ตื่นมาประมาน11โมงกินต่อ เสร็จแล้วก็ขนปูนขนทราย อีกถึงเย็นเลย ทำงี้ทุกวัน พระอาจารย์บอกรุ่นพวกเองดันมาบวชใกล้ๆกันเยอะ 10รูปได้ เลยใช้ซะเลยถ้าพวกเองมาบวชประมาน2-3คนก็สบายแล้วนอนทั้งวัน พอสึกมาตัวโคตรดำเลยตากแดดทั้งวันจนตอนนี้ผิวยังไม่ค่อยกลับมาเลยประมานปีละนะ

ลาก่อน SS สินะ

1. ศึกษาพระธรรมเพิ่มเติม นั่งสมาธิอย่างจริงจังครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่สมาธิจะดีมาก ผมนั่งติดต่อกันได้เป็น3ชม. โดยไม่มีเหน็บกินเลย แต่พอสึกมาเป็นฆราวาส แค่ครึ่งชั่วโมงก็เหน็บกินแล้ว

2.บทที่ใช้บ่อย ต้องคล่องคือ สัพพีฯ กับยะถาฯ ครับ

3.ผมฤกษ์สะดวก สึกมาก็ปกติดี แต่ถ้าไม่สบายใจ ก็ปรึกษาพระอาจารย์หาฤกษ์ได้

1. ตอนผมบวช ช่วงเว้นกิจของสงฆ์ วัดที่ผมบวชมีห้องสมุดพระให้อ่านหนังสือธรรมะ หรือจะไปนั่งฝึกวิปัสนาก็ได้ (แต่ถ้าไม่เคร่ง จะนั่งในกุฏิทำอะไรก็ได้ แต่ต้องเงียบ)
2.พระพี่เลี้ยง จะมีบทสวดแนะนำระยะสั้นให้ 3 บท คือ ให้พรตอนบิณฑบาตร สวดงานศพ สวดงานบวช
3.ฤกษ์สึก บ้านผมซีเรียสมากกกกก
เพราะเคยเกิดกรณีสึกตามฤกษ์สะดวก แล้วสติไม่ค่อยดี

แต่ความเห็นส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อ แต่เพื่อความสบายใจของที่บ้านก็สึกตามฤกษ์ครับ

ปล. ผมดูฤกษ์สึกก่อนจะบวช เพราะตอนบวช จะบวชเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าปีนั้นไม่มีฤกษ์สึก ที่บ้านไม่ให้ผมสึก ผมจะบวชยาวไมมีกำหนด ซึ่งจะกระทบงานที่ทำ

1. ถ้าตามประสบการณ์โดยตรงของผม ช่วงระหว่างฉันเช้า-เพล นอนครับนอนพัก อย่างเดียวจริงๆ พอหลังเพล กุฏิผมมีพระอาจารย์ อยากที่จะสร้างกระท่อมเล็กๆไว้ ผมกับเณรจึงต้องช่วยกันผสมปูน ยกหิน ดินทราย เทปูน
จนถึงทำวัตรเย็น แต่เหนื่อยก็พัก สนุกๆไม่ได้หนักมาก ส่วนเรื่องกวาดวัด ทำได้ครับ แต่ผมทำเฉพาะหน้ากุฏิตัวเอง เพราะทุกคนก็กวาดหน้าที่พักตัวเองทั้งนั้น ถ้าหากเวลาว่างก็สามารถนอนพัก เล่นโทรศัพท์ แต่ถ้ามีความตั้งใจก็อาจจะเอาบทสวดมนต์มาท่อง อ่านศีล 227 ข้อ แล้วแต่ท่านสะดวก
2. พาหุง ปลงอาบัติ ให้พรบิณฑบาตและกรวดน้ำ
3. ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง คนจะคลอด พระจะสึก สิ่งเหล่านี้ห้ามไม่ได้ครับ ถ้าอยากจะสึกก็สามารถทำได้ทันที

ผมไม่ลาอะ ยอมรับว่ายังตัดอะไรพวกนี้ไม่ขาดตอนบวช แต่พยายามสงบและทำตัวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตอนวันที่ 6-15 แม่งเอ้ยโครต*****

1.ตอนผมบวช ผมบวช1เดือนกว่าๆ หลังจากฉันเช้าเสร็จ เจ้าอาวาสก็ให้ พระกับเฌร ไปทำความสะอาด กวาดลานวัดบ้าง เช็ดถู ศาลา ถางหญ้า พอถึงซัก10.30 ก็ให้กับกุฏิ รอเวลา11.00-11.30 ก็ฉันเพลน ฉันเพลนเสร็จกับกุฏิ พักนิดหน่อย 13.00 หลวงพ่อเรียกพระ เฌร มารวมตัวท่องหนังสือ ถึง3โมง ก็ปล่อยกลับกกุฏิ รอทำวัดเย็น พอทำวัดเย็นเสร็จ ออกมากวาดลานวัด ถึง6.00โมงเย็น กวาดลานวัดเสร็จ ปล่อยกับกุฏิ 1ทุ่มครึ่งเรียกมาท่อนหนังสือ บทสวดมนต์ ถึง3ทุ่ม ปล่อยกับกุฏิพักผ่อน วันไหนฝนตกหนักก็ไม่ต้องมามาท่องเรียนหนังสือ

2.บทสวดฉันข้าว บทสวดให้พร 15วันน่าจะไม่ได้ไปกิจนิมนต์

3.ฤกษ์สึก มีไว้เผื่อเป็นสิริมงคลหลังจากเราออกจากผ้าเหลืองแล้ว ยังไงแจ้งเหตุผลทางเจ้าอาวาส ท่าท่านเห็นว่าท่าสึกเวลานี้ไม่ดีกับตัวเรา ก็จะพูดประมาณว่า ให้พระอยู่อีกซักพักก่อน 2-3วันแล้วค่อยสึก ส่วนตอนผมจะสึกก็บอกหลวงพ่อ 1อาทิตย์ บอกเหตุผล ต้องสึกไปรับปริญญา ท่านก็ไม่ว่าอะไรหาวันสึกให้

นอนแล้วก็นอนครับ เพราะตื่นแต่เช้า ฉันข้าวเสร็จง่วง หลับ ตื่นอีกทีฉันเพล หิวมั่งไม่หิวมั่ง ฉันเสร็จง่วงหลับ ตื่นอีกประมาณบ่ายสองบ่ายสาม กวาดวัดอาบน้ำทำวัตรเย็น เริ่มหิวละ ไมโล โอวัลติล อาบน้ำนอน อารมณืประมาณนี้ ส่วนบทสวด ก็บทให้พร ยะถา สัพพี พระใหม่กว่าจะปรับตัวได้ พอจะเริ่มทำได้ก็ตรบ15วัน สึกพอดี

ขำๆนะครับ

การบวชอย่าไปคิดมากครับ บวชแล้วทำให้มากดีกว่า


อนุโมทนา สาธุบุญด้วยครับ

ต้นเดือนหน้า เจ้าอาวาสให้ไปหาที่วัดครับ อาร์มประมาณสัมภาษณ์คนเข้าทำงานแหละ

เพราะเป็นวัดป่า อาจจะเคร่งหน่อย ท่านเลยอยากรู้จักหน้าค่าตาครับ คิดว่าคงถามตอนนั้นแหละ