(แปล) Michael Ballack นักบอลผู้อับโชค
มันอาจจะเป็นเรื่องแปลกถ้าเราจะอธิบายถึงนักเตะที่คว้าแชมป์ 12 รายการใหญ่ รางวัลเกียรติยศส่วนตัวมากมาย และการเป็นตัวอย่างของนักเตะรุ่นหลังว่าเป็นนักแต่ที่โชคร้ายที่สุดคนนึงของวงการลูกหนังในยุค 2000
.
.
.
.
มิชาเอล บัลลัค คือคนๆนั้น
หากนับเพียงแค่สถิติ แชมป์ บุนเดสลีกา 4 สมัย, พรีเมียร์ ลีค 1 สมัย และเอฟเอ คัฟ 3 สมัย แค่นี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย แต่วันนี้เราจะมานำเสนอว่าทำไม บัลลัค ถึงถูกเรียกว่าเป็น “หนึ่งในนักเตะที่โชคร้ายที่สุดในช่วงยุคปี 2000”
จุดเริ่มต้นของ บัลลัค นั้นเหมือนเทพนิยาย เค้าเป็นเด็กเพียงคนเดียวที่สอดแทรกขึ้นมาในชุดใหญ่ ของ ไกเซอสเลาเทิ่น ที่สามารถคว้าแชมป์เยอรมันได้ในปี 1998 ต้องถือว่าไม่เลวเลยสำหรับเด็กอายุ 21 ที่ย้ายมาจากทีม ลอวรี่ ชิมมิทเซอร์ ในฤดูกาลนั้น แม้ว่าบทบาทหลักของเค้าจะเนเพียงตัวสำรองด้วยการลงสนาม 16 นัด และเป็นตัวจริงเพียง 3 นัด
ในปีถัดมา บัลลัค ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในทีม แต่ก็มือเปล่าเมื่อจบฤดูกาล ไบเออร์ เลเวอคูเซ่นคือทีมที่เห็นความสามารถและค้วาตัวบัลลัคมาด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์
จุดเริ่มต้นของความโชคร้าย
ในเวลาสามปีที่เค้าอยู่กับ เลเวอร์ นั่นแทบจะเรียกว่ามันคือช่วงแวลาแห่งความฝันร้ายของบัลลัค ในฤดูกาลแรก ก่อนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ทีม เลเวอร์คูเซ่น ทีมที่ยังไม่เคยได้แชมป์ลีคเลยซักครั้งนำอยู่สามแต้มในตารางคะแนน ภารกิจในนัดสุดท้ายของฤดูกาลขอเพียงแค่ไม่แพ้พวกเค้าก็จะได้แชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสรทันที
อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งแรก บัลลัค มาช่วยทีมในเกมรับ ตัดสินใจยื่นขามาสกัดลูกเปิดจากด้านข้างเพื่อป้องกันประตู แต่ผลกลับไม่เป็นเช่นนั้น ลูกบอลเปลี่ยนทิศพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายตัวเอง จบเกมนั้นเลเวอร์คูเซ่นแพ้ไป 2-0 และถูกแฟนบอลทีมอื่นล้อเลียนว่าเป็น “Never-Kusen”
.
.
.
ในอีกสองฤดูกาลต่อมา ชื่อ “Never-Kusen” ยิ่งฝังลึกลงในใจของแฟนบอลทั่วโลกเมื่อพวกเค้า ได้ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น ในช่วงท้ายของฤดูกาล เลเวอร์คูเซ่นนำตารางคะแนนบุนเดสลีก้าอยู่ 2 คะแนน และยังสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงทั้งบอลถ้วยเยอรมัน และบอลถ้วยยูฟ้า แชมเปี้ยน ลีค นั่นคือปีที่บัลลัคได้ฉายแสงความเป็นยอดนักเตะออกมาด้วยผลงาน การยิง 23 ประตู และมีไฮไลท์สำคัญคือชัยชนะต่อลิเวอร์พูลในถ้วยยุโรปด้วยสกอร์ 4-2 ในรอบรองชนะเลิศ
.
.
.
แต่นั่นไม่ใช่บทสรุปทั้งหมดของฤดูกาลนี้ เลเวอร์คูเซ่นแพ้สองนัดสำคัญในบุนเดสลีก้า โดยเฉพาะในนัดสุดท้ายที่บัลลัคได้รับบาดเจ็บจากเกมการแข่งขัน ในอีกสองนักชิงบอลถ้วย บัลลัค ตัดสินใจฉีดยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บมาลงสนาม แต่โชคชะตาก็ไม่ได้เข้าข้างเค้า เมื่อผลการแข่งขันทั้งสองนัด ผู้ชนะไม่ใช่เลเวอร์คูเซ่น เพียง 4 นัด จาก นิยายที่เกือบจะจบแบบสมบูรณ์แบบได้กลายเป็นนิยายที่เล่าถึงชีวิตของเด็กชายที่โชคร้าย
หลังผ่านฤดูกาลที่ยากลำบาก บัลลัคสลัดความผิดหวังออกไปและมุ่งหน้าเข้าแคมป์ทีมชาติเพื่อเข้าร่วมฟุตบอลโลกกับทีมเยอรมันนี แน่นอนว่าผลงานของเค้าก็ยังคงเป็นความหวังของทีมชาติเช่นเดียวกับในสโมสร จนในที่สุดเค้าสามารถพาทีมชาติเยอรมันนีเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่...
ผลจากการทำฟาวล์ในนัดรองชนะลิศ ทำให้บัลลัค หมดสิทธิ์ลงสนาม ทำได้เพียงนั่งดูเพื่อนอยู่ข้างๆ และแน่นอนเมื่อเยอรมันขาดผู้นำ ทีมก็แพ้ไปในนัดชิง 2-0 บัลลัคได้เพียงรองแชมป์อีกครั้ง และเป็น 4 รองแชมป์ในปีเดียว
“พวกเค้าต้องการให้ผมเล่นเกมรับ พาบอลขึ้นไปด้านหน้า เปิดบอล และทำประตูด้วยตัวเอง” บัลลัค กล่าว ในเวลานั้นบัลลัคเปรียบเสมือนความหวังเดียวของทีมชาติเยอรมัน
ในปี 2010 ด้วยวัย 30 ปี เค้าคือเป็นผู้นำของนักเตะรุ่นใหม่ เช่น เมซุต โอซิล และ โทมัส มุลเลอร์ ที่ในยุคนั้น “ปัญหาของทีมชาติเยอรมันคือ เรามีแค่บัลลัคเดียว หากเรามีคนอย่างบัลลัคอีกซักสองหรือสามคน ทีมของเราจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน” นี่คือคำกล่าวของ รูดี้ โฟลเล่อ โค้ช ของทีมในเวลานั้น
การได้สามรองแชมป์ของบัลลัคในชุดเลเวอร์คูเซ่นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2008 ในปีนั้นเชลซี ที่ได้รองแชมป์พรีเมียลีคและบอลถ้วยในอังกฤษได้เข้าสู่รอบชิงฟุตบอล ยูฟ้า แชมเปี้ยนลีค การต่อสู้ยื้อไปจนถึงช่วงยิงจุดโทษ บัลลัครับหน้าที่ยิงและสังหารไม่พลาด ในลูกสุดท้ายขอเพียง จอร์น เทอรี่ ยิงเข้า พวกเค้าก็จะเป็นแชมป์ทันที แต่เหมือนฟ้าต้องการเล่นตลกกับบัลลัค เทอรี่ลื่นล้มและยิงไม่เข้าทำให้ต้องยิงกันต่อ และเป็นแมนยูที่สามารถคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด ส่วนในนามทีมชาติเค้าก็แพ้ให้กับสเปนไปในนัดชิงเช่นเดียวกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เค้าได้ 4 รองแชมป์ในปีเดียวกัน แต่นั่นยังไม่หมดเพราะในปีนั้นด้านรางวัลส่วนตัวบัลลัคก็ได้อันดับสองของนักฟุตบอลเยอรมันยอดเยี่ยมไปอีก 1 รางวัล
ในปัจจุบันบัลลัคได้รับการขนามนามว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดกองกลางแห่งยุคร่วมกับ เจอร์ราด สโคล์ล ซาบี้ และคนอื่นๆอีกมากมาย บางคนอาจเลือกที่จะจำว่าเค้าคือนักเตะโชคร้ายที่ได้รองแชมป์ 4 รายการในปีเดียว ถึง 2 ครั้ง แต่ก็นั่นแหละ “บางครั้งถ้วยรางวัลก็ถูกตีค่ามากเกินไป”
ที่มา :
https://www.givemesport.com/1206735-the-case-for-michael-ballack-as-footballs-unluckiest-superstar
แปล/เรียบเรียง : Gongza
#Sport Bible
#ฺBallack
#Chelsea
#Bayern Munich
#Germany
ติดตามการแปลบทความนักกีฬาได้ที่เพจ
https://www.facebook.com/SportbioTH