อันนี้ที่โอเล่เคยพูดไว้ในช่วงล็อกดาวน์ประมาณปลายเดือน พค. ครับ


โอเล่กับปรัชญาฟุตบอล “ผมอยากให้กลับสู่แบบฉบับดั้งเดิมของเรา ——— ความว่องไว,จู่โจมด้วยความเร็ว ทรงพลัง บุคลิคภาพที่โดดเด่น”

ส่วนของเซอร์อเล็กซ์ในอดีต “ผมอยากเห็นยูไนเต็ดโจมตีด้วย 4 อย่าง ——— ความเร็ว พลัง ทะลุทะลวง คาดเดาไม่ได้”
.
.
.

Ole Gunnar Solskjær on his philosophy: “I want to go back to tradition — quick, attacking football with pace, power & personalities.”

Sir Alex Ferguson: “I want to see [mufc] attack with four things: pace, power, penetration & unpredictability.”

นึกถึงตอนนั้น ด่าไล่กันยับ

ก็บอลไดเร็กต์ที่โคตรประสิทธิภาพอ่ะครับ ไม่ได้เน้น possession control แต่เน้นเข้าทำ แต่ถ้าจะครองบอลก็ทำได้ไม่เคอะเขิน
แต่ถ้าอยากได้โคตร possession ก็แบบเป๊ป ซึ่งใครก็เลียนแบบไม่ได้
แต่ผียุคเฟอร์กูสัน ผมนี่โคตรเบื่อ แช่งยากแช่งเย็น ไอ้เพื่อนแฟนผีแม่งบอกโดนกดยับอีกละ กดเชี่ยยไรล่ะ เดวโดนแทงลูกเดียวหายแบบโคตรเว่อร์ มันเหมือนแบบเล่นๆไปเหอะเดวก็ยิงได้ตลอด

ขอบคุณครับท่านAlfaZero
ผมล่ะชอบอะไรที่มันเป็นบทสัมภาษณ์แบบนี้แหละ
มันชัดเจนดีว่าเซอร์หรือโซลชาร์ต้องการทำทีมไปในทิศทางไหน

ยิ่งย้อนอ่านสัมภาษณ์หลังเกมของท่านเซอร์ เวลาแกบ่นภาพรวมของทีม
ยิ่งเข้าใจว่าแกคาดหวังอะไรจากทีม

ผมขอไม่เอา fact มาพูดนะ เอาแบบ ความรู้สึกล้วนๆเลย จะได้ได้อารมณ์

ยุคป๋าเจอทีมเล็กกว่านี่ล่ะ ตัวขึงพืดเลย ภาพชินตาคือคู่เซ็นเตอร์ดันสูงเกือบครึ่งสนาม, แกรี่ เนวิล จ่ายคืนหลังไปตั้งกันใหม่ แต่ก็ไม่ครองบอลนาน เน้นเก็บแถวสองแถวสามแล้วขึงต่อ ตามที่ท่านเซอร์บอกนั่นแหละ "ครองบอลอย่างมีเป้าหมาย" แต่ไม่ใช่แค่นั้น หากเจาะไม่เข้า ยังมีการถอยไปขุดบ่อล่อปลา จังหวะโต้กลับหลังจากป้องกันลูกนิ่ง อย่างที่จขกทว่าไว้ นั่นล่ะใช่เลย และเมื่อฟุตบอลมีความดุดัน ทีมเล็กก็จะกลัวแข้งขาสั่น ไม่ว่าตั้งแต่เขี่ยลูกจะเล่นดีขนาดไหน ท้ายเกมก็จะเตะทิ้งเตะขว้าง เป็นความกลัวฝังหัว ว่าผีแดงมันเอาตายแน่ ทั้งหมดบ่งบอกถึงความแพรวพราวของท่านเซอร์ จิ้งจอกเฒ่าแห่งเกมลูกหนัง ที่โลกต้องคารวะ

ผมว่าบอลโซลชา รูปแบบการเล่นเริ่มได้กลิ่นอายท่านเซอร์ แต่ "ความดุดัน" ยังห่างไกล แต่จะว่าไป ความดุดัน อาจไม่จำเป็นกับฟุตบอลสมัยใหม่แล้วก็ได้ บอลสมัยใหม่เน้นความแม่นยำเหมือนเครื่องจักร ตั้งแต่กระบวนการนอกสนาม อีกอย่างคือฟุตบอลสมัยใหม่โปรแกรมเตะถี่ การเร่งเกมเอาไว้ทำแค่บางช่วง หรือเฉพาะเจอทีมใหญ่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่า โซลชาดูจะผสมผสานกลิ่นอายท่านเซอร์กับฟุตบอลสมัยใหม่เข้าด้วยกัน มันจึงยากจะได้ครบ 4 ข้อดังกล่าว เพราะต้องลดความดุดันหรือทะลุทะลวงไปบ้างอย่างช่วยไม่ได้ จริงอยู่ฟุตบอลของป๋าก็มีจังหวะผ่อน มีเกมเล่นเนือยเล่นแย่ แต่ความรู้สึกรวมๆที่ได้ คือดูแล้วมันส์ ถึงใจ โอเคเนื้อในคงซับซ้อน แต่ที่ผมสัมผัสได้คือฟุตบอลบ้านๆ บอลนักสู้ เรียกว่าสะท้อนภาพลักษณ์ท่านเซอร์ ที่โตมาจากชนชั้นแรงงานย่านกลาสโกว์ กันเลยทีเดียว มันบ่งบอกด้วยว่าทำไมทีมของป๋า ถึงไม่กลัวคู่แข่งประเภทเล่นหนัก ถึงลูกถึงคน สำหรับผม โค้ชที่ทำฟุตบอลดูแล้วได้ความรู้สึกใกล้เคียงท่านเซอร์ที่สุด ฟุตบอลที่นักเตะลงไปห้ำหั่นกัน คือ โปเช็ตติโน่

แต่ที่พูดมาทั้งหมด คืออยากแชร์นะ ไม่ได้ว่าโซลชาต้องทำบอลเหมือนป๋า แกจะทำไงก็ทำไปเถอะ ให้ผมและแฟนผีดูแล้วมีความสุขก็พอ ฟุตบอลของป๋าคืออดีต ยังไงเราก็ต้องก้าวผ่านมันไป เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีก็พอ

เร็ว แรง ทะลุทะลวง เน้นบอลแม่นๆ

สังเกตุดูดีๆบางนัด พอขึงเกมบุกแล้วยิงไม่ได้ เหมือนแมนยูจะล่อปล่อยให้คู่แข่งบุกเข้าใส่ แล้วค่อยสวนกลับตามที่ถนัด ซึ่งได้ผลโคตรบ่อย