" ทางโครงการได้มีการว่าจ้างคุณฌอน บูรณะหิรัญ ให้มาร่วมกิจกรรมภายในงาน "
ผู้จัดโครงการเทศกาลสภาพภูมิอากาศ (Climate Festival) แถลงยอมรับ จ้างฌอน บูรณะหิรัญ ให้มาร่วมกิจกรรมภายในงาน
โครงการเทศกาลสภาพภูมิอากาศ (Climate Festival) ในฐานะองค์กรอิสระภาคเอกชน แถลงผ่านเพจเฟซบุ๊ก Trip & Treat วันที่ 2 ก.ค. ชี้แจงว่างานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อรณรงค์การใช้ชีวิตแบบคาร์บอนต่ำ และสร้างสังคมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ซึ่งการจัดกิจกรรมปลูกป่าที่ห้วยตึงเฒ่า เมื่อ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการเลื่อนการจัดงานจากเดิมเเมื่อ 14 มี.ค. 2563
ผู้จัดได้จ้างผู้มีชื่อเสียง และเชิญหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมงาน ได้แก่ เดอะสแตนดาร์ด, กรีนเวฟ, นิสสัน, กองทัพบก, กองทัพเรือ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมสหพันธ์ช้างไทย, หมู่บ้านห้วยหินลาดใน, กรมป่าไม้, กลุ่มเยาวชนอาสาจังหวัดเชียงใหม่, อาสาจากหมู่บ้านโป่งเทวี อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงใหม่
"ทางโครงการได้มีการว่าจ้างคุณฌอน บูรณะหิรัญ ให้มาร่วมกิจกรรมภายในงาน โดยระบุในเอกสารการจ้างชัดเจน ถึงรายละเอียดงาน ซึ่งไม่ได้มีการว่าจ้างให้ทำคลิปวีดีโอประชาสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งสิ้น"
ผู้จัดแถลงด้วยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการจัดงาน และเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นกิจกรรมปลูกป่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส เริ่มคลี่คลายในช่วงเข้าฤดูฝน กิจกรรมปลูกป่าจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าการทำแนวป้องกันกันไฟป่า
ณอนชี้แจง
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ฌอนได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคลิป "ปลูกต้นไม้กับท่านประวิตร" เป็นครั้งแรก โดยเน้นชี้แจงเรื่องการใช้เงินบริจาคกว่า 875,000 บาทที่เขาเปิดระดมทุนระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-1 พ.ค. เพื่อช่วยแก้ปัญหาไฟป่าภาคเหนือและโควิด-19
ในโพสต์ดังกล่าว ฌอนได้นำภาพใบเสร็จการซื้อของและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อนำไปบริจาค รวมถึงแสดงข้อมูลจ่ายค่าโฆษณาให้เฟซบุ๊กเพื่อโฆษณาโพสต์นี้ เพื่อยืนยันความโปร่งใส แต่เขาก็ยังถูกแฟนเพจเข้ามาตั้งคำถามและตั้งข้อสังเกตจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม นักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดังไม่ได้ชี้แจงเบื้องหลังของการถ่ายคลิปชื่นชม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เขาบอกว่า "เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก" และขอให้ประชาชนอย่าด่วนตัดสินรองนายกฯ จากสื่อ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร หรือได้รับค่าตอบแทนหรือไม่
ฌอนยังได้ฝากข้อความถึงสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวนี้ว่า
"ผมดีใจที่สื่อต่าง ๆ รับรู้ถึงวิกฤติเหล่านี้ในประเทศเพราะเราสูญเสียชีวิตไปมากมาย โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า มลพิษเกิดขึ้นซ้ำกว่า10 ปี PM2.5 ที่ขึ้นอันดับ 1ของโลกที่เชียงใหม่ ส่งผลกระทบ ต่อนักศึกษาให้ต้องหยุดโรงเรียน มหาวิทยาลัยทุกปี และ ผลกระทบอื่น ๆ อีกมากที่กล่าวไม่หมด ทั้งนี้ผมและทีมงานจะยังยืนยันที่จะเรียนรู้ให้ลึก ให้กว้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน เพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาในระยะยาวให้ประเทศไทยร่วมกับทุกฝ่ายโดยปราศจากอคติ และ มีเจตนาบริสุทธิ์ต่อไปครับ"
https://www.bbc.com/thai/thailand-53260710
https://www.facebook.com/tripandtreat/posts/3489436867737949