ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 12, 13, 14
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Jan 2009
ตอบ: 212
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Jun 06, 2020 14:50
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
Loretta พิมพ์ว่า:
iBAA พิมพ์ว่า:
ปกติจะอ่านก่อนคอมเมนต์ตลอด แต่อันนี้ยาวจริงขี้เกียจอ่านเลย เลยไม่รู้ว่าเนื้อหาคืออะไร ใครใจดีสรุปให้หน่อยอยากรู้เรื่อง  


จขกท. เป็น feminazi ออกมาปกป้องผู้หญิงเรื่อง sexual harassment

 


ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: อ่านอยู่ ขี้เกียจตอบ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Jul 2007
ตอบ: 5730
ที่อยู่: Emirates stadium
โพสเมื่อ: Sat Jun 06, 2020 15:53
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
เนื้อหาค่อนข้างปักธง และมองแต่ด้านเดียวนะ จริงๆถ้าอยากจะรณรงค์ ก็น่าจะเปิดให้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นบ้าง
คือ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง มันต้องใช้ความสร้างสรรค์และเวลาในการเปลี่ยนแปลงน่ะ

และถ้ากล่าวถึงกับสมาชิกในเว็บนี้ เรามองว่าพวกเค้าก็เม้นกันเหมือนเพื่อนคุยกันในกลุ่มน่ะนะ เพียงแต่มันเป็นบอร์ดสาธารณะ เลยมีคนนำออกไปข้างนอกบ้าง จริงๆ ทุกสังคม มันก็มีการคุยกันแบบนี้ทั้งนั้นล่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ถึงเด็กปืนแต่ก็เลือดไทยโดยแท้!!

ออฟไลน์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง
Status: เรื้อนเพราะรัก ไม่รักไม่เรื้อน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 34427
ที่อยู่: 乃木坂46
โพสเมื่อ: Sat Jun 06, 2020 16:06
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
มีธงแบบนี้ต้องการอะไรวะ บอกคนอื่นเปรียบเทียบไม่สมผล ตัวเองก็เปรียบเทียบเพ้อเจ้อจนโดนแบน บ้าจริง
สรุปการกระทำนี้ไม่ว่าคุณจะคิดว่ามันสูงส่งเพียงได้ บอกได้เลยว่าไม่เวิร์คครับ และบอกเลยว่าแรกๆผมเป็นคนนึงที่ไม่มีอคติใดๆเลยกับผลงานเฟรมนะ ผมดูผมฟังเรื่อยๆเป็นปกติ แต่หลังจากนี้บอกเลยว่าแค่คิดถึงก็เบือนหน้าหนีละ
ตัวผมก็รู้ว่าไม่ใช่ความผิดเฟรมหรอก แต่คิดถึงการกระทำคุณแล้วสะเอียนว่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: ★・:・。Honey。・:・★
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 9183
ที่อยู่: จายเหมี่ยง ❤
โพสเมื่อ: Sat Jun 06, 2020 16:57
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
รู้ว่าอยากด่า ใส่ gif มาซ้ำๆเยอะ น่ารำคาญ

ไม่ได้อยากมา discuss หรอก จะมาด่าล้วนๆ ไม่มีค่าพอจะต้องอ่านให้จบกระทู้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: WE BELIEVE!!!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 28086
ที่อยู่: Anywhere, just say his name
โพสเมื่อ: Sun Jun 07, 2020 00:56
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
สั้น ๆ

She deserves that
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17568
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jun 07, 2020 11:06
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
คุณมีสิทธิที่จะแต่งตัวโป๊ยั่วใจชายของคุณ ผมก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็นของผม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 23517
ที่อยู่: กลางสนาม
โพสเมื่อ: Sun Jun 07, 2020 15:22
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
ผมไม่ได้อ่านจบ แล้วก็ไม่เข้าใจกระแสวันเดอร์เฟรมด้วย
แต่ผมเบื่อพวก เฟมินาซี

คือคุณเรียกร้องความเท่าเทียม เรียกร้องการให้เกียรติ
แต่คุณไม่เข้าใจพฤติกรรมมนุษย์

คือ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะตอบสนองต่อสิ่งเร้า
แล้วการที่ผู้หญิงแต่งตัวเสริมสิ่งเร้า ผู้ชายจะมองมันก็ไม่แปลก
สมมุติว่า มาริโอ้ ณเดช ใส่บ็อกเซอร์ แหนมตุงเดินขึ้นรถไฟฟ้า
แล้วผู้หญิงมองแหนม จะเรียกว่าคุกคามทางเพศได้ปะ

ในเมื่อคุณแต่งตัวเน้นส่วนสำคัญมันก็ไม่แปลกที่ผู้ชายจะมอง
บางทีผมก็เผลอมองโดยไม่ตั้งใจ สัญชาติญาณมันเป็นแบบนั้น

ถ้าจะเรียกร้องสิทธิขนาดนั้นก็ให้ผู้หญิงเท่าเทียมผู้ชายในทุกอย่างเลยไหม
ความพอดีมันจะถูกสร้างขึ้นเองในสังคม

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 439
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 22, 2020 16:50
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
sandwhale พิมพ์ว่า:
ผมอ่านจบนะ เอาจริง ๆ อยากบอกว่า ชาว ss เราบางทีก็รับฟังไว้บ้างเถิด

ส่วน จขกท นี้สรุปท่านโพสเองหรือเพื่อนฝากมาแน่นะ เห็นบู๊แหลกทั้งคืนนี่  

เพิ่งหลุดแบน อันนี้ขออนุญาตตอบกลับ เพราะเห็นว่าอุตส่าหอ่านจนจบ ทั้งๆ ที่ผมเขียนยาวขนาดนี้

1.ผมกับเจ้าของยูสเป็นคนละคนครับ

2.วิธีโพสใช้การฝาก เพราะผมถือว่า Username & Password เป็นของส่วนตัว ผมไม่ต้องการรู้ของใคร และผมก็ไม่ต้องการให้ใครมารู้ของผม

3.ผมตกลงกับเพื่อนว่าจะเขียนแปะไว้ต้นกระทู้ว่านี่เป็นการฝากโพส เพราะถ้าเนื้อหาค่อนข้างสวนทางลมก็ควรจะบอกให้ชัดเจนว่าใครเขียน

4.ผมคิดว่ามันค่อนข้างเป็น common sense ว่าถ้านี่คือการฝากโพส งั้นถ้ามีการตอบกลับ ข้อความเหล่านั้นมันก็ต้องมาจากผู้เขียนเนื้อหา ไม่ใช่มาจากเพื่อนผมที่เป็นเจ้าของยูส โดยที่ไม่จำเป็นต้องแปะไว้ด้านบนทุกครั้งว่ามันคือการฝากมาตอบ

แต่ถ้าคุณยืนยันว่าอ่านแล้วสับสน งั้นก็คงเป็นไปได้ว่าผมด่วนสรุปไปเองว่าทุกคนจะเข้าใจตรงกัน ซึ่งก็ขอบคุณครับที่มาบอก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 439
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 22, 2020 16:50
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
popoing พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
โดนแบนเฉย ไม่น่าเรื้อนเค้าเลย

จุดประสงค์ของเค้าดีนะ แต่วิธีการมันไม่เวิร์คอ่ะ แทนที่จะเพิ่มให้คนมาสนับสนุนได้ กลายเป็นสร้างศัตรูไปเลย

ที่ไม่เข้าใจกว่าคือทำไมยืนกระต่ายขาเดียวว่าวิธีมันดีแน่ๆ แล้วมัน success มั้ยล่ะ?

เจ้าของโพสตัวจริงมีสมัครยูสมั้ย หรือติดเรื่องเงิน? ถ้าไม่มีเดี๋ยวออกให้ก็ได้นะ ผมอยากเข้าใจจริงๆ  

โดนแบนเพราะสติแตกโยงไปเรื่อยจนผิดกฏต่างหากครับ  

เพื่อนทักมาว่าเพิ่งหลุดแบน ผมขอตอบคุณ popoing ด้วยละกันนะครับ เพราะตอนนั่งอ่านกระทู้เพื่อเก็บข้อมูล คุณเป็นไม่กี่คนที่ผมจำได้ว่ากล้าพูดในสิ่งที่ควรจะพูด


ตอนพิมคำว่าสลิ่มผมมีสติทุกคำครับ และไม่ได้รู้สึกหัวร้อนใดๆ กับคอมเมนต์ในนี้ แต่ผมยกตัวอย่างเรื่องสลิ่ม เพราะมันเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการจะลบ value ที่เราคิดว่าเป็นภัย มันไม่ได้มีแค่การโน้มน้าวให้อีกฝ่ายหันมาคิดแบบเดียวกับเรา แต่มันคือวิธีอย่าง social shamming หรือการ call out ให้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านั้นกลายเป็นพฤติกรรมที่น่าอายจนไม่มีใครกล้าจะทำมันแบบเอิกเกริก

ซึ่งหลายคนในนี้ก็ใช้วิธีกับกลุ่มคนที่เขาเรียกว่าสลิ่ม เน้นสาดคำพูดแรงๆ ไม่ได้พูดดีๆ หรือพยายามจะโน้มน้าวให้เปลี่ยนใจแต่อย่างใด แต่พอตัวเองเป็นฝ่ายที่โดน call out บ้าง กลับจะมาขอให้คนอื่นต้องคลานเข่ามาพูด มันก็แปลกครับ แค่นั้นแหละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 439
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 22, 2020 16:51
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
คนขุดสุสาน พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
ผมก็ไม่ได้ชอบ วดฟ. นะ แต่สงสารมากที่โดนคุกคามแรงๆ เคยเห็นรูปที่โดนแล้ว โคตรรรรรร ....
แล้วผมก็เห็นด้วย คนมันจะหื่น ยังไงก็จะหื่นให้ได้ อย่างอิมเมจนี่แต่งตัวมิดชิดแค่ไหน จะมีคนจ้องนมอยู่เสมอ
ทีตอน หมอลิลลี่ดราม่าจะเป็นจะตาย บางล่าคนในกรุ๊ปเว็บบินงั้นงี้ แต่มู้รูปเดียวนี่เล่นมุข คุณ........คร้าบบบบบ กันต่อ


แต่หลายๆอย่าง หรือหลายคนทที่คุณยกมามันไม่เวิร์คอ่ะ อย่างที่ยก"ไม่ได้สนับสนุน Sexual harassment แต่แค่เพิกเฉย" บางคอมเมนต์ที่แคปมานี่มันไม่ได้เพิกเฉยอ่ะ มันผลิตซ้ำ Sexual harassment เองเลย

บางเรื่องจะให้ทุกคนไปไดรฟ์สังคมกันหมด ทำตลอดเวลาไม่ได้มั้ง แค่ ignore social movement ซักอย่าง นี่ก็ไม่น่าโดนด่าอ่ะ
ถ้าผมยกตัวอย่าง กรณี เรื่องการรปห. เพิกเฉยต่อการก่อกบฏแบบนี้ ประชาชนไทยทุกคนผิดมั้ยอ่ะ?

ผมว่าทำเท่าที่ได้ เท่าที่ปัจจัย เท่าที่สังคมเอื้อให้คุณก่อน แค่ไม่ได้ Sexual harassment ใส่ใครผมว่าอย่างน้อยก็ไม่ผิดอ่ะ



ผมเห็นด้วยนะ ที่บอกว่าไม่มีใครควรโดนคุกคามเพราะแต่งตัวเซ็กซี่ จริงๆไม่ควรโดนเลยไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

แต่คุณต้องเข้าใจว่าพอเห็นภาพ หรือ คนที่มันแต่งตัวเซ็กซี่ กลไกของร่างกายมันตอบสนองไปด้วย
hormones ต่างๆที่หลั่งมาแบบ testosterone progeterone oxytocin มันตอบสนองกับสิ่งเร้าทันที
ซึ่งในนี้ก็คือเรื่อง sexual thought แต่ไม่ได้ถูกแสดงออกมาทุกครั้งหรอก มนุษย์ปิดกั้นการแสดงความรู้สึกออกมาตามสังคม
ถ้าแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยจริง มันก็ลดโอกาสจะเป็นตัวกระตุ้นกลไกร่างกายได้
ตรงนี้คุณไม่คิดว่ามันมีความแตกต่างกันหรือไงครับ? อาจจะลดได้แค่ 1% ก็ยังดี


คุณเองก็ควรเลิก bash สังคม เหมารวมไปหมด ทำให้คนเค้าหมั่นไส้เฟมินิสต์ มันจะไม่มีใครให้ความร่วมมือหรอก

แล้วแนวทางแบบนี้มันเปลี่ยนสังคมได้หรือไง?  

"ไม่ได้ต่อต้านแค่เพิกเฉย" ผมไม่ได้พูดถึงหลายๆ เคสในภาพครับ พวกนั้นเลยจุดที่เรียกว่าเพิกเฉยไปแล้ว เพียงแต่ผมต้องพูด เพราะมันจะมีคนที่คิดแบบนี้แน่นอน

ผมบอกว่าการนิ่งเฉยมันเท่ากับการสนับสนุน และทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เพราะในบางเรื่อง คุณไม่เลือกอะไรไม่ได้ ถ้าคุณไม่เลือก มันคือคุณเลือก default option ซึ่ง Victim blaming เป็น default option ของสังคมไทย

และผมก็พูดไปแล้วด้วยว่าในบางเรื่องมัน "เข้าใจได้" ถ้าจะนิ่งเฉย (แม้ว่าการเข้าใจได้จะไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่าคุณคือส่วนหนึ่งของปัญหา) แต่กับ sexual harassment มันจะนิ่งเฉยทำไม ในเมื่อไม่มีใครเสียอะไร นอกจากพวก harasser การนิ่งเฉยยิ่งฟังไม่ขึ้น



เรื่องสัญชาติญาณ ถ้ามนุษย์มันจะดีกว่าสัตว์ ก็เพราะมนุษย์มันไม่ค้องทำทุกอย่างตาม "สัญชาติญาณ" ไม่ใช่เหรอครับ

คนนะครับ ไม่ใช่เดรัจฉานครับ ทำไมถึงต้องกดผู้ชายขนาดนั้น ฮอร์โมนจะแรงยังไง แค่จะไม่เคาะคีย์บอร์ดคุกคามมันทำได้อยู่แล้ว แต่มันไม่ทำครับ เพราะมันโดนสังคมสปอยครับ ไม่ใช่เพราะสัญชาติญาณ



แล้วคุณบอกลด 1% ก็ยังดี นั่นมันจริงในกรณีที่ต้นทุนในการป้องกันมันน้อย แต่ผมก็สาธยายไปให้หมดแล้วว่าต้นทุนที่บอกให้ผู้หญิงระวังตัวมันเยอะมาก และถ้าใครบอกว่าตัวเองเข้าใจเรื่องสิทธิ ก็ควรรู้ว่าการแต่งตัวเป็นสิทธิ และมันไม่ควรถูกพรากไปแลกกับ 1% นั้น (ซึ่งไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำครับ คุณแค่เชื่อ)


หรือคุณลองเทียบ argument สองอันนี้

P1 ถ้าเราล๊อคบ้าน เราจะปลอดภัยมากขึ้น

P2 การเพิ่มความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรทำ

C เราควรล๊อคบ้าน


กับ


P1 ถ้าเราแบนรถทุกครั้งในประเทศ เราจะปลอดภัยมากขึ้น (ได้ผลกว่าล๊อคบ้านอีก เพราะอุบัติเหตุบนถนนจะหายไป 100% อย่างแน่นอน)

P2 การเพิ่มความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรทำ

C เราควรแบนรถทุกคันในประเทศ


ทั้งสอง Argument นี้สมเหตุสมผล (Valid) และแตกต่างกันแค่ P1 ที่เปลี่ยนจากล๊อคบ้านเป็นแบนรถ

แต่ข้อสรุปใน Argument ที่สองกลับไม่มีน้ำหนัก (unsound) เพราะทั้งสอง Argument นี้มันละเลยเรื่องประโยชน์กับต้นทุนที่ได้รับจากการทำ P1 (แต่้มันจะดูเนียน ดูมีน้ำหนักในกรณีล๊อคบ้าน เพราะล๊อคบ้านต้นทุนมันน้อยอยู่แล้ว) และมันจะยิ่งอ่อน ถ้ามันมีวิธีอื่นที่ได้ผลกว่าหรือเหมือนกัน โดยที่มีต้นทุนในการทำน้อยกว่า ซึ่งผมก็พูดไปหมดแล้วครับ


ส่วนเรื่อง bash สังคม ขาวดำ เฟมินิสต์ คุณคิดไปเองครับ ผมไม่ได้มาพูดอะไรในนามของเฟมินิสต์เลย

ส่วนเหมารวมนี่ตอบคนอื่นไปแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าใจว่าเหมารวมว่าอะไร ถ้าคุณเห็นคำว่า "ผู้ชายเว็บนี้" แล้วคุณเข้าใจว่าผมด่าผู้ชายทุกคนในเว็บนี้ อันนั้นคือคุณเข้าใจทั้งในทางตรรกะ และการใช้ภาษาครับ (อันนี้ตอบคนอื่นไปแล้ว)  



การนิ่งเฉยมันมีเป็นปัญหายังไง คุณต้องการให้ทุกคนไดรฟ์สังคมตลอดเวลาแบบนี้หรอ เห็นปุ๊บก็ไป PC ปั๊บเลย แบบนี้หรอ?
อย่างผมเปิดเว็บมา เห็นกระทู้รูปเดียว รู้ว่าเข้าไปมันมีคอมเมนต์ที่คุกคามแน่ๆ แต่ไม่เข้าไปดู ไปตักเตือน แบบนี้ผมก็เป็นปัญหาด้วย?


คุณอาจจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการต่อต้าน sexual harassment เข้าไป PC ทุกครั้ง
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้นทั้งหมด บางคนก็ไม่ได้เป็น sexual harasser แค่ไม่ได้อินจัด จนไดรฟ์ทุกครั้งที่มีโอกาส


ส่วนเรื่องกลไกร่างกายก็บอกอยู่ว่าไม่ได้ทำตามสัญชาติญาณตลอดอยู่แล้ว แต่มันคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ไม่ได้พิมพ์ออกมาแต่มันก็รู้ในความรู้สึกนึกคิดอยู่ดี กับ ไม่เห็นสิ่งกระตุ้นเลย ไม่มีความรู้สึกเรื่องเพศเลย แบบไหนคุณว่าดีกว่ากันล่ะ



คุณบอกว่าลดแล้วเป็นต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้หญิง แบบนี้ผู้หญิงแต่งตัวโชว์สัดส่วนร่างกาย มาให้ดูต่อหน้าแล้วผช.ดันเกิดอารมณ์แล้วบอกว่า ผญ.ที่แต่งตัวแบบนี้มาทำให้เค้าเกิดอารมณ์เป็นการคุกคามทางเพศต่อผู้ชาย เพราะผู้ชายยังไงก็ตอบสนองต่อสิ่งเร้าแบบนี้แน่นอน นอกจากไม่มีฮอร์โมนอีก

คุณจะเสนอทางแก้แบบไหน เฉือนอวัยวะเพศ ผช.ทิ้ง จะไม่ได้หลั่งฮอร์โมน ควักลูกตาออกจะได้ไม่เห็นสิ่งเร้า หรือให้ผู้หญิงระวังตัวเพิ่มขึ้นบ้าง

จะให้ผู้ชายนิ่งอยู่ตลอดไปฝ่ายเดียว โดยที่ผู้หญิงฟรีเดรส 100% แบบนี้ไม่เป็นต้นทุนการใช้ชีวิตจากฝั่งผช.อย่างเดียวหรือไง

ผมไม่ได้อยากบอกว่า how to dress นะ ผมเห็นด้วยว่าใครจะแต่งตัวยังไงก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว
แต่ผมว่าป้องกันทั้งสองทางมันดีกว่ามั้ย?  

เพิ่งหลุดแบน ตอนแรกว่าจะไม่ตอบ แต่ถ้าถึงขนาดจะจ่ายตังค์ให้ งั้นผมกลับมาตอบให้เป็นรอบสุดท้ายละกันครับ


1.ผมยังยืนยันว่า “การเพิกเฉยคือการสนับสนุน status quo” และ “การที่คุณเลือกจะไม่ทำอะไร มันคือการเลือก default option”

ยกตัวอย่าง ในปัจจุบัน ประเทศเรามีกฎหมายที่ห้ามไม่ให้ LGBTQ+ จดทะเบียนสมรสกัน (หมายความว่าการห้าม LGBTQ+ จดทะเบียนเป็น default option ของสังคม)

ถ้าการเพิกเฉยคือการไม่เลือกข้างจริง งั้นการไม่เลือกข้างของเรามันก็ต้องไม่นำไปสู่ชัยชนะของฝ่ายใดเลย

แต่ในกรณีนี้ ถ้าทุกคนเลือกจะเพิกเฉย คุณจะเห็นว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสังคมจะได้ในสิ่งที่เป็น default option เพราะ ณ ปัจจุบันกฎหมายมันบอกว่า LGBTQ+ จดทะเบียนไม่ได้ ซึ่งถ้าทุกคนเพิกเฉยและไม่ต่อต้านกฎหมายข้อนี้ กฎหมายข้อนี้มันก็จะดำเนินของมันต่อไปเรื่อยๆ


หรือไม่ต้องไปไหนไกล ลองนึกถึงกรณีของหมอลิลลี่ที่เกิดขึ้นในนี้ก็ได้ ตอนนั้นหลายคนบอกอย่าเหมารวม ตัวปัญหาจริงๆ มีแค่ไม่กี่สิบคน คนในกรุ๊ปมีร่วมสี่พัน และคนส่วนใหญ่ในนั้นไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

แต่คุณคิดว่าทำไมตัวปัญหาไม่กี่สิบคนถึงสามารถทำพฤติกรรมเหล่านั้นอยู่ได้ตั้งนาน ทั้งๆ ที่คนสามพันเก้าร้อยคนที่เหลือไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านั้น? ไม่ใช่เพราะว่า bystander สามพันเก้าร้อยคนนั้น “เลือก” จะยืนดูอยู่เฉยๆ หรือครับ?

บางทีถ้าแค่สัก 10% ของสามพันเก้าร้อยคนนั้นแสดงความกล้าหาญออกมาสักนิด ช่วยกัน call out ว่าการคุกคามทางเพศและปล่อยข่าวลือเป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย และสังคมของคุณจะไม่ยอมรับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ตัวปัญหาสิบกว่าคนนั้นก็คงจะไม่เหิมเกริมและทำพฤติกรรมแบบนี้ได้นานขนาดนั้น

เพราะงั้นผมขอย้ำว่าการเพิกเฉยคือการสนับสนุน status quo ถ้าคุณเป็นกลางในสถานการณ์ที่อยุติธรรม มันมายความว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้การกดขี่นั้นดำเนินต่อไป และการที่คุณไม่เลือกอะไรเลย มันหมายความว่าคุณกำลัง “เลือก” ให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นมันดำเนินต่อไป



2.มีส่วนสนับสนุน sexual harassment ≠ เห็นด้วยกับ sexual harassment

อย่าสับสนระหว่างสองคำนี้ ผมบอกว่าการ “เพิกเฉย” มันจะไป “สนับสนุน” harassment culture แต่ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนที่นิ่งเฉยจะ “เห็นด้วย” กับการคุกคามนั้นเสมอไป และผมก็ไม่ได้บอกว่าสังคมควรจะ shame ทุกคนที่เพิกเฉยเหมือนกันหมด

กรณีกฎหมาย same sex marriage คุณอาจเพิกเฉยเพราะไม่อิน, คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง หรือเพิกเฉยเพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับผลดีผลเสียของกฎหมายนี้ดีพอ แต่ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเพิกเฉยของคุณมันนำไปสู่ผลลัพท์ที่ทำให้กฎหมายซึ่งเลือกปฏิบัติกับ LGBTQ+ นี้ดำเนินต่อไป แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้จงเกลียดจงชัง LGBTQ+ ก็ตาม

กรณี sexual harassment คุณอาจเพิกเฉยเพราะไม่อิน, คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง, ไม่ว่าง, ไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะเพิกเฉยด้วยเหตุผลอะไร มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกจะเงียบนั้น มันเป็นส่วนนึงที่ไปสนับสนุนให้การคุกคามมันยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ได้ในเว็บนี้


Spoil
อ่านเพิ่มเรื่อง Victim-Blaming ในมุม System justification theory

Rape Victim Blaming as System Justification
https://link.springer.com/article/10.1007/s11211-010-0117-0



อ่านเพิ่มเรื่อง warning ที่นำไปสู่การ blaming

Sexual assault warnings increase victim blaming: Telling women where to go and how to dress does nothing to protect them.
https://cosmosmagazine.com/society/sexual-assault-warnings-increase-victim-blaming-study-finds


Police commissioner Vera Baird accuses Lindsey Kushner of blaming victims by warning them about risks of disinhibition
https://www.theguardian.com/society/2017/mar/11/judge-criticised-over-warning-to-drunk-women  




ส่วนที่คุณถามว่า

อ้างอิงจาก:
ไม่ได้พิมพ์ออกมาแต่มันก็รู้ในความรู้สึกนึกคิดอยู่ดี กับ ไม่เห็นสิ่งกระตุ้นเลย ไม่มีความรู้สึกเรื่องเพศเลย แบบไหนคุณว่าดีกว่ากันล่ะ  


แบบแรกต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะอย่างหลังนี่นอกจากคนเสนอจะไม่เข้าใจเรื่องสิทธิของคนอื่นแล้ว มันยังชัดว่าเขาไม่เข้าใจสิทธิของตัวเองด้วย

คนทุกคนมีสิทธิจะหื่น แต่คุณต้องจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ อย่าให้มันไปทำใครเดือดร้อน

ไม่มีใครบอกว่าการมีอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องผิด มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเป็นสิทธิของคุณที่จะรู้สึกหื่น และตราบใดที่ความหื่นนี้ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มันก็ไม่มีปัญหา

หน้าที่ของคุณคือการไม่ไปคุกคามคนอื่น ไม่ใช่การไม่มีอารมณ์ทางเพศครับ

รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ก็ไม่ต้องดันทุรังไปแบกมัน แล้วไปไล่บีบให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปกับคุณด้วยครับ


ส่วนเรื่องผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่จะไปเป็นต้นทุนให้ชีวิตผู้ชายลำบากนี่ ผมหวังว่าคุณจะไม่ได้คิดอย่างงั้นจริงๆ เพราะไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ

การไม่คุกคามทางเพศไม่ใช่ต้นทุนของผู้ชาย แต่มันคือต้นทุนในฐานะมนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีหน้าที่ที่จะไม่ไปคุกคามคนอื่น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ชายมันไปคุกคามผู้หญิง เสร็จแล้วโทษว่าเป็นเพราะผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ผู้ชายเลยคุกคาม

ผมบอกว่าวิธีคิดแบบนี้มันแย่ เพราะคุณกำลังโยนความรับผิดชอบในฐานะมนุษย์ "ของผู้ชาย" ให้ผู้หญิงมาร่วมรับผิดชอบ

การทำแบบนี้จะไปเพิ่มต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้หญิง ทั้งที่จริงๆ มันไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเขา มันเป็นความรับผิดชอบของผู้ชายต่างหากที่จะต้องไม่คุกคามแม้จะรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศก็ตาม มันไม่ใช่กงการอะไรของเขาเลยที่จะต้องมาแชร์ความรับผิดชอบส่วนนี้ของผู้ชาย

คุณกำลังโยนหน้าที่ของผู้ชายให้ผู้หญิงมาร่วมรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มีหน้าที่ต้องไม่ไปคุกคามคนอื่นแม้จะรู้สึกหื่นเหมือนๆ กัน ผู้หญิงต้องรับผิดชอบหน้าที่ตรงนี้ของตัวเองให้ดี ส่วนผู้ชายก็ทำของผู้ชายไป อย่าไปก้าวล่วงให้เขาต้องมารับผิดชอบส่วนของผู้ชาย

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 439
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 22, 2020 16:51
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
โดนแบนเฉย ไม่น่าเรื้อนเค้าเลย

จุดประสงค์ของเค้าดีนะ แต่วิธีการมันไม่เวิร์คอ่ะ แทนที่จะเพิ่มให้คนมาสนับสนุนได้ กลายเป็นสร้างศัตรูไปเลย

ที่ไม่เข้าใจกว่าคือทำไมยืนกระต่ายขาเดียวว่าวิธีมันดีแน่ๆ แล้วมัน success มั้ยล่ะ?

เจ้าของโพสตัวจริงมีสมัครยูสมั้ย หรือติดเรื่องเงิน? ถ้าไม่มีเดี๋ยวออกให้ก็ได้นะ ผมอยากเข้าใจจริงๆ  

เรื่อง tone of voice ที่คุณถามว่าทำไมผมทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ผล

งั้นผมขอให้คุณลองเข้าไปในกรุ๊ปการเมืองที่มีจุดยืนตรงข้ามกับคุณนะครับ ลองใช้วิธีที่คุณว่ามีประสิทธิภาพไปโน้มน้าวให้เขาเห็นด้วยกับคุณดู ถ้าพวกเขาไม่ยอมเปลี่ยน มันหมายความว่าวิธีพูดของคุณมันไม่ได้เรื่องรึเปล่า?

ไม่ใช่อยู่แล้ว การสื่อสารจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จมันขึ้นกับ audience ด้วย ต่อให้ผมพูดแรงกว่านี้สิบเท่า แต่ถ้าผมไปโพสใน twitter มันก็จะมีคนเห็นด้วยและพร้อมจะโกรธไปกับผม และมันก็จะกลายเป็นวิธีที่ได้ผลขึ้นมา

สาเหตุที่ฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวามันไม่สามารถเข้าใจกันได้ ไม่ใช่เพราะทั้งสองฝ่ายไม่ยอมใช้เหตุผลหรือไม่ยอมพูดดีๆ ต่อกัน แต่มันไม่สามารถเข้าใจกันได้ เพราะทั้งซ้ายและขวามัน share value กันคนละแบบ พอทั้งสองฝั่งมี value ที่ยึดถือแตกต่างกัน ต่อให้คุณอธิบายให้ตาย มีเหตุผล นุ่มนวลยังไง คุณก็เปลี่ยนอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะคนที่เถียงกับคุณเขาไม่ได้ให้คุณค่ากับสิ่งที่คุณมองว่ามันสำคัญตั้งแต่แรกแล้ว

พูดง่ายๆ คนที่โปรประชาธิปไตยไม่มีทางโน้มน้าวสลิ่มได้ไม่ว่าจะสุภาพหรือมีเหตุผลขนาดไหน เพราะ value ของประชาธิปไตยคือ “สิทธิที่เท่าเทียม” แต่สลิ่มไม่ได้ให้ value กับความเท่าเทียมอันเป็นหัวใจของประชาธิปไตยตั้งแต่แรกแล้ว การโน้มน้าวด้วยเหตุผลบนฐานของสิทธิที่เท่าเทียมจึงไร้ประโยชน์สำหรับคนกลุ่มนั้น ไม่ว่าคุณจะพูดได้มีเหตุผลหรือสุภาพยังไงก็ตาม


วิธีการจัดการกับ value ที่เป็นภัยกับสังคมมันไม่ได้มีแค่การโน้มน้าวอย่างเดียว แต่คุณสามารถใช้การ call out เพื่อให้สังคมเห็นว่าพฤติกรรมแบบไหนที่แย่ และคอย criticize ให้คนรู้สึกละอายที่จะทำมัน (เหมือนที่สลิ่มในทุกวันนี้โดน call out, โดน social shaming หนักมากจนต้องอ้อมแอ้มๆ แอบๆ ทำ ไม่มีใครยืดอกในการเป็นสลิ่มอีกต่อไป)

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ผมเชื่อในการทำให้ sexual harassment เป็นสิ่งที่น่าอาย มากกว่าการพยายามโน้มน้าวให้ harasser เลิกคุกคาม

สำหรับคนที่ชัดเจนว่า value ของเขาคือ “ก็แต่งตัวแบบนี้ไงถึงโดน” คอยสมน้ำหน้าเหยื่อ เมคฟัน ล้อเลียน หัวเราะคิกคักสนุกสนานกับพฤติกรรมเหล่านั้น ผมก็ไม่คิดจะโน้มน้าวอะไรคนเหล่านี้แม้แต่น้อย สำหรับผม คนพวกนี้รอโดน social shaming เท่านั้น


ผมแค่คิดว่าที่นี่จะมีคนที่ไม่พอใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น และโกรธแบบเดียวกับที่ผมโกรธ แต่ผมอาจจะคิดผิด เพราะขนาดผมชี้ให้เห็นชัดๆ ว่ามันมีปัญหาอยู่ตรงหน้า แต่หลายคนก็ยังเลือกจะโฟกัสกับ tone of voice ของผม มากกว่าจะลุกมาแก้ไขปัญหาทีทำให้ผมต้องมาเขียนอะไรยืดยาวแบบนี้

หลายคนยังเลือกทำเหมือนคราวที่เกิดกับหมอลิลลี่ คือรีบปัดขี้ให้พ้นตัว รีบออกตัวว่าฉันไม่เกี่ยวนะ ฉันไม่ได้ทำนะ อย่ามาว่าฉันนะ และหลังจากปัดความรับผิดชอบออกจากตัวเองได้แล้ว ก็ปล่อยให้ปัญหาที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเป็นแบบนั้นต่อไป

ถ้ามันจะมีอะไรที่ผมผิดหวังนะ คือกระทู้นี้กลับกลายเป็นการยืนยันสิ่งที่ผมพูดไปตั้งแต่ต้น ว่าทั้งๆ ที่ผู้หญิงหลายคนโดนรุมคุกคามในพื้นที่ของพวกคุณมาเป็นปีๆ แต่สิ่งแรกที่หลายคนห่วงที่สุดกลับเป็นอีโก้ของตัวเอง พวกเขาออกมาเย้วๆ เสียงดังเฉพาะตอนตัวเองจะโดนด่าเท่านั้น แต่ตอนที่ปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ และต้องการเสียงของคนเหล่านี้มาช่วยมากที่สุด พวกเขากลับเลือกจะเงียบ


ในกระทู้นี้ หลายคนออกมาสั่งสอนผมกันได้มากมาย แต่กับกระทู้ที่เป็นปัญหาจริงๆ พวกเขาได้ออกไปสั่งสอนเพื่อนๆ ของตัวเองมั้ยว่าควรจะพูดดีๆ กับผู้หญิงที่ถูกละเมิดให้มากกว่านี้?

ใครจะไม่ชอบผมนี่ผมไม่ว่าเลย ผมไม่ได้มาพูดในสิ่งที่มันขัด norm เจ้าถิ่นแล้วหวังว่าคนจะชอบผมอยู่แล้ว

คุณด่าผมได้นะ แต่หลังจากที่พวกคุณด่าผมเสร็จและได้รับทราบปัญหาแล้ว มีใครได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่? พวกคุณมีการเตือนกันมากขึ้นเมื่อมีการคุกคามในนี้หรือไม่? หรือสังคมของคุณก็ยังคงเป็น silent culture ที่ทุกคนจะเสียงดังเฉพาะตอนอีโก้ตัวเองแตกสลายเหมือนเดิม?

ก็ลองพิจารณาดูละกันครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร และผมไม่กลับมาตอบแล้วนะครับ

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 7246
ที่อยู่: thailand
โพสเมื่อ: Tue Jun 23, 2020 19:36
ถูกแบนแล้ว
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
คนขุดสุสาน พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
คนขุดสุสาน พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
ผมก็ไม่ได้ชอบ วดฟ. นะ แต่สงสารมากที่โดนคุกคามแรงๆ เคยเห็นรูปที่โดนแล้ว โคตรรรรรร ....
แล้วผมก็เห็นด้วย คนมันจะหื่น ยังไงก็จะหื่นให้ได้ อย่างอิมเมจนี่แต่งตัวมิดชิดแค่ไหน จะมีคนจ้องนมอยู่เสมอ
ทีตอน หมอลิลลี่ดราม่าจะเป็นจะตาย บางล่าคนในกรุ๊ปเว็บบินงั้นงี้ แต่มู้รูปเดียวนี่เล่นมุข คุณ........คร้าบบบบบ กันต่อ


แต่หลายๆอย่าง หรือหลายคนทที่คุณยกมามันไม่เวิร์คอ่ะ อย่างที่ยก"ไม่ได้สนับสนุน Sexual harassment แต่แค่เพิกเฉย" บางคอมเมนต์ที่แคปมานี่มันไม่ได้เพิกเฉยอ่ะ มันผลิตซ้ำ Sexual harassment เองเลย

บางเรื่องจะให้ทุกคนไปไดรฟ์สังคมกันหมด ทำตลอดเวลาไม่ได้มั้ง แค่ ignore social movement ซักอย่าง นี่ก็ไม่น่าโดนด่าอ่ะ
ถ้าผมยกตัวอย่าง กรณี เรื่องการรปห. เพิกเฉยต่อการก่อกบฏแบบนี้ ประชาชนไทยทุกคนผิดมั้ยอ่ะ?

ผมว่าทำเท่าที่ได้ เท่าที่ปัจจัย เท่าที่สังคมเอื้อให้คุณก่อน แค่ไม่ได้ Sexual harassment ใส่ใครผมว่าอย่างน้อยก็ไม่ผิดอ่ะ



ผมเห็นด้วยนะ ที่บอกว่าไม่มีใครควรโดนคุกคามเพราะแต่งตัวเซ็กซี่ จริงๆไม่ควรโดนเลยไม่ว่าจะอะไรก็ตาม

แต่คุณต้องเข้าใจว่าพอเห็นภาพ หรือ คนที่มันแต่งตัวเซ็กซี่ กลไกของร่างกายมันตอบสนองไปด้วย
hormones ต่างๆที่หลั่งมาแบบ testosterone progeterone oxytocin มันตอบสนองกับสิ่งเร้าทันที
ซึ่งในนี้ก็คือเรื่อง sexual thought แต่ไม่ได้ถูกแสดงออกมาทุกครั้งหรอก มนุษย์ปิดกั้นการแสดงความรู้สึกออกมาตามสังคม
ถ้าแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยจริง มันก็ลดโอกาสจะเป็นตัวกระตุ้นกลไกร่างกายได้
ตรงนี้คุณไม่คิดว่ามันมีความแตกต่างกันหรือไงครับ? อาจจะลดได้แค่ 1% ก็ยังดี


คุณเองก็ควรเลิก bash สังคม เหมารวมไปหมด ทำให้คนเค้าหมั่นไส้เฟมินิสต์ มันจะไม่มีใครให้ความร่วมมือหรอก

แล้วแนวทางแบบนี้มันเปลี่ยนสังคมได้หรือไง?  

"ไม่ได้ต่อต้านแค่เพิกเฉย" ผมไม่ได้พูดถึงหลายๆ เคสในภาพครับ พวกนั้นเลยจุดที่เรียกว่าเพิกเฉยไปแล้ว เพียงแต่ผมต้องพูด เพราะมันจะมีคนที่คิดแบบนี้แน่นอน

ผมบอกว่าการนิ่งเฉยมันเท่ากับการสนับสนุน และทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา เพราะในบางเรื่อง คุณไม่เลือกอะไรไม่ได้ ถ้าคุณไม่เลือก มันคือคุณเลือก default option ซึ่ง Victim blaming เป็น default option ของสังคมไทย

และผมก็พูดไปแล้วด้วยว่าในบางเรื่องมัน "เข้าใจได้" ถ้าจะนิ่งเฉย (แม้ว่าการเข้าใจได้จะไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่าคุณคือส่วนหนึ่งของปัญหา) แต่กับ sexual harassment มันจะนิ่งเฉยทำไม ในเมื่อไม่มีใครเสียอะไร นอกจากพวก harasser การนิ่งเฉยยิ่งฟังไม่ขึ้น



เรื่องสัญชาติญาณ ถ้ามนุษย์มันจะดีกว่าสัตว์ ก็เพราะมนุษย์มันไม่ค้องทำทุกอย่างตาม "สัญชาติญาณ" ไม่ใช่เหรอครับ

คนนะครับ ไม่ใช่เดรัจฉานครับ ทำไมถึงต้องกดผู้ชายขนาดนั้น ฮอร์โมนจะแรงยังไง แค่จะไม่เคาะคีย์บอร์ดคุกคามมันทำได้อยู่แล้ว แต่มันไม่ทำครับ เพราะมันโดนสังคมสปอยครับ ไม่ใช่เพราะสัญชาติญาณ



แล้วคุณบอกลด 1% ก็ยังดี นั่นมันจริงในกรณีที่ต้นทุนในการป้องกันมันน้อย แต่ผมก็สาธยายไปให้หมดแล้วว่าต้นทุนที่บอกให้ผู้หญิงระวังตัวมันเยอะมาก และถ้าใครบอกว่าตัวเองเข้าใจเรื่องสิทธิ ก็ควรรู้ว่าการแต่งตัวเป็นสิทธิ และมันไม่ควรถูกพรากไปแลกกับ 1% นั้น (ซึ่งไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำครับ คุณแค่เชื่อ)


หรือคุณลองเทียบ argument สองอันนี้

P1 ถ้าเราล๊อคบ้าน เราจะปลอดภัยมากขึ้น

P2 การเพิ่มความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรทำ

C เราควรล๊อคบ้าน


กับ


P1 ถ้าเราแบนรถทุกครั้งในประเทศ เราจะปลอดภัยมากขึ้น (ได้ผลกว่าล๊อคบ้านอีก เพราะอุบัติเหตุบนถนนจะหายไป 100% อย่างแน่นอน)

P2 การเพิ่มความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรทำ

C เราควรแบนรถทุกคันในประเทศ


ทั้งสอง Argument นี้สมเหตุสมผล (Valid) และแตกต่างกันแค่ P1 ที่เปลี่ยนจากล๊อคบ้านเป็นแบนรถ

แต่ข้อสรุปใน Argument ที่สองกลับไม่มีน้ำหนัก (unsound) เพราะทั้งสอง Argument นี้มันละเลยเรื่องประโยชน์กับต้นทุนที่ได้รับจากการทำ P1 (แต่้มันจะดูเนียน ดูมีน้ำหนักในกรณีล๊อคบ้าน เพราะล๊อคบ้านต้นทุนมันน้อยอยู่แล้ว) และมันจะยิ่งอ่อน ถ้ามันมีวิธีอื่นที่ได้ผลกว่าหรือเหมือนกัน โดยที่มีต้นทุนในการทำน้อยกว่า ซึ่งผมก็พูดไปหมดแล้วครับ


ส่วนเรื่อง bash สังคม ขาวดำ เฟมินิสต์ คุณคิดไปเองครับ ผมไม่ได้มาพูดอะไรในนามของเฟมินิสต์เลย

ส่วนเหมารวมนี่ตอบคนอื่นไปแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าใจว่าเหมารวมว่าอะไร ถ้าคุณเห็นคำว่า "ผู้ชายเว็บนี้" แล้วคุณเข้าใจว่าผมด่าผู้ชายทุกคนในเว็บนี้ อันนั้นคือคุณเข้าใจทั้งในทางตรรกะ และการใช้ภาษาครับ (อันนี้ตอบคนอื่นไปแล้ว)  



การนิ่งเฉยมันมีเป็นปัญหายังไง คุณต้องการให้ทุกคนไดรฟ์สังคมตลอดเวลาแบบนี้หรอ เห็นปุ๊บก็ไป PC ปั๊บเลย แบบนี้หรอ?
อย่างผมเปิดเว็บมา เห็นกระทู้รูปเดียว รู้ว่าเข้าไปมันมีคอมเมนต์ที่คุกคามแน่ๆ แต่ไม่เข้าไปดู ไปตักเตือน แบบนี้ผมก็เป็นปัญหาด้วย?


คุณอาจจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการต่อต้าน sexual harassment เข้าไป PC ทุกครั้ง
แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้นทั้งหมด บางคนก็ไม่ได้เป็น sexual harasser แค่ไม่ได้อินจัด จนไดรฟ์ทุกครั้งที่มีโอกาส


ส่วนเรื่องกลไกร่างกายก็บอกอยู่ว่าไม่ได้ทำตามสัญชาติญาณตลอดอยู่แล้ว แต่มันคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ไม่ได้พิมพ์ออกมาแต่มันก็รู้ในความรู้สึกนึกคิดอยู่ดี กับ ไม่เห็นสิ่งกระตุ้นเลย ไม่มีความรู้สึกเรื่องเพศเลย แบบไหนคุณว่าดีกว่ากันล่ะ



คุณบอกว่าลดแล้วเป็นต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้หญิง แบบนี้ผู้หญิงแต่งตัวโชว์สัดส่วนร่างกาย มาให้ดูต่อหน้าแล้วผช.ดันเกิดอารมณ์แล้วบอกว่า ผญ.ที่แต่งตัวแบบนี้มาทำให้เค้าเกิดอารมณ์เป็นการคุกคามทางเพศต่อผู้ชาย เพราะผู้ชายยังไงก็ตอบสนองต่อสิ่งเร้าแบบนี้แน่นอน นอกจากไม่มีฮอร์โมนอีก

คุณจะเสนอทางแก้แบบไหน เฉือนอวัยวะเพศ ผช.ทิ้ง จะไม่ได้หลั่งฮอร์โมน ควักลูกตาออกจะได้ไม่เห็นสิ่งเร้า หรือให้ผู้หญิงระวังตัวเพิ่มขึ้นบ้าง

จะให้ผู้ชายนิ่งอยู่ตลอดไปฝ่ายเดียว โดยที่ผู้หญิงฟรีเดรส 100% แบบนี้ไม่เป็นต้นทุนการใช้ชีวิตจากฝั่งผช.อย่างเดียวหรือไง

ผมไม่ได้อยากบอกว่า how to dress นะ ผมเห็นด้วยว่าใครจะแต่งตัวยังไงก็ได้มันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนอยู่แล้ว
แต่ผมว่าป้องกันทั้งสองทางมันดีกว่ามั้ย?  

เพิ่งหลุดแบน ตอนแรกว่าจะไม่ตอบ แต่ถ้าถึงขนาดจะจ่ายตังค์ให้ งั้นผมกลับมาตอบให้เป็นรอบสุดท้ายละกันครับ


1.ผมยังยืนยันว่า “การเพิกเฉยคือการสนับสนุน status quo” และ “การที่คุณเลือกจะไม่ทำอะไร มันคือการเลือก default option”

ยกตัวอย่าง ในปัจจุบัน ประเทศเรามีกฎหมายที่ห้ามไม่ให้ LGBTQ+ จดทะเบียนสมรสกัน (หมายความว่าการห้าม LGBTQ+ จดทะเบียนเป็น default option ของสังคม)

ถ้าการเพิกเฉยคือการไม่เลือกข้างจริง งั้นการไม่เลือกข้างของเรามันก็ต้องไม่นำไปสู่ชัยชนะของฝ่ายใดเลย

แต่ในกรณีนี้ ถ้าทุกคนเลือกจะเพิกเฉย คุณจะเห็นว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสังคมจะได้ในสิ่งที่เป็น default option เพราะ ณ ปัจจุบันกฎหมายมันบอกว่า LGBTQ+ จดทะเบียนไม่ได้ ซึ่งถ้าทุกคนเพิกเฉยและไม่ต่อต้านกฎหมายข้อนี้ กฎหมายข้อนี้มันก็จะดำเนินของมันต่อไปเรื่อยๆ


หรือไม่ต้องไปไหนไกล ลองนึกถึงกรณีของหมอลิลลี่ที่เกิดขึ้นในนี้ก็ได้ ตอนนั้นหลายคนบอกอย่าเหมารวม ตัวปัญหาจริงๆ มีแค่ไม่กี่สิบคน คนในกรุ๊ปมีร่วมสี่พัน และคนส่วนใหญ่ในนั้นไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย

แต่คุณคิดว่าทำไมตัวปัญหาไม่กี่สิบคนถึงสามารถทำพฤติกรรมเหล่านั้นอยู่ได้ตั้งนาน ทั้งๆ ที่คนสามพันเก้าร้อยคนที่เหลือไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมเหล่านั้น? ไม่ใช่เพราะว่า bystander สามพันเก้าร้อยคนนั้น “เลือก” จะยืนดูอยู่เฉยๆ หรือครับ?

บางทีถ้าแค่สัก 10% ของสามพันเก้าร้อยคนนั้นแสดงความกล้าหาญออกมาสักนิด ช่วยกัน call out ว่าการคุกคามทางเพศและปล่อยข่าวลือเป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย และสังคมของคุณจะไม่ยอมรับคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ตัวปัญหาสิบกว่าคนนั้นก็คงจะไม่เหิมเกริมและทำพฤติกรรมแบบนี้ได้นานขนาดนั้น

เพราะงั้นผมขอย้ำว่าการเพิกเฉยคือการสนับสนุน status quo ถ้าคุณเป็นกลางในสถานการณ์ที่อยุติธรรม มันมายความว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้การกดขี่นั้นดำเนินต่อไป และการที่คุณไม่เลือกอะไรเลย มันหมายความว่าคุณกำลัง “เลือก” ให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นมันดำเนินต่อไป



2.มีส่วนสนับสนุน sexual harassment ≠ เห็นด้วยกับ sexual harassment

อย่าสับสนระหว่างสองคำนี้ ผมบอกว่าการ “เพิกเฉย” มันจะไป “สนับสนุน” harassment culture แต่ผมไม่ได้บอกว่าทุกคนที่นิ่งเฉยจะ “เห็นด้วย” กับการคุกคามนั้นเสมอไป และผมก็ไม่ได้บอกว่าสังคมควรจะ shame ทุกคนที่เพิกเฉยเหมือนกันหมด

กรณีกฎหมาย same sex marriage คุณอาจเพิกเฉยเพราะไม่อิน, คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง หรือเพิกเฉยเพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับผลดีผลเสียของกฎหมายนี้ดีพอ แต่ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเพิกเฉยของคุณมันนำไปสู่ผลลัพท์ที่ทำให้กฎหมายซึ่งเลือกปฏิบัติกับ LGBTQ+ นี้ดำเนินต่อไป แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้จงเกลียดจงชัง LGBTQ+ ก็ตาม

กรณี sexual harassment คุณอาจเพิกเฉยเพราะไม่อิน, คิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง, ไม่ว่าง, ไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะเพิกเฉยด้วยเหตุผลอะไร มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเลือกจะเงียบนั้น มันเป็นส่วนนึงที่ไปสนับสนุนให้การคุกคามมันยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ได้ในเว็บนี้


Spoil
อ่านเพิ่มเรื่อง Victim-Blaming ในมุม System justification theory

Rape Victim Blaming as System Justification
https://link.springer.com/article/10.1007/s11211-010-0117-0



อ่านเพิ่มเรื่อง warning ที่นำไปสู่การ blaming

Sexual assault warnings increase victim blaming: Telling women where to go and how to dress does nothing to protect them.
https://cosmosmagazine.com/society/sexual-assault-warnings-increase-victim-blaming-study-finds


Police commissioner Vera Baird accuses Lindsey Kushner of blaming victims by warning them about risks of disinhibition
https://www.theguardian.com/society/2017/mar/11/judge-criticised-over-warning-to-drunk-women  




ส่วนที่คุณถามว่า

อ้างอิงจาก:
ไม่ได้พิมพ์ออกมาแต่มันก็รู้ในความรู้สึกนึกคิดอยู่ดี กับ ไม่เห็นสิ่งกระตุ้นเลย ไม่มีความรู้สึกเรื่องเพศเลย แบบไหนคุณว่าดีกว่ากันล่ะ  


แบบแรกต้องดีกว่าอยู่แล้ว เพราะอย่างหลังนี่นอกจากคนเสนอจะไม่เข้าใจเรื่องสิทธิของคนอื่นแล้ว มันยังชัดว่าเขาไม่เข้าใจสิทธิของตัวเองด้วย

คนทุกคนมีสิทธิจะหื่น แต่คุณต้องจัดการความรู้สึกตัวเองให้ได้ อย่าให้มันไปทำใครเดือดร้อน

ไม่มีใครบอกว่าการมีอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องผิด มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเป็นสิทธิของคุณที่จะรู้สึกหื่น และตราบใดที่ความหื่นนี้ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน มันก็ไม่มีปัญหา

หน้าที่ของคุณคือการไม่ไปคุกคามคนอื่น ไม่ใช่การไม่มีอารมณ์ทางเพศครับ

รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี ส่วนอะไรที่ไม่ใช่ก็ไม่ต้องดันทุรังไปแบกมัน แล้วไปไล่บีบให้คนอื่นต้องเดือดร้อนไปกับคุณด้วยครับ


ส่วนเรื่องผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่จะไปเป็นต้นทุนให้ชีวิตผู้ชายลำบากนี่ ผมหวังว่าคุณจะไม่ได้คิดอย่างงั้นจริงๆ เพราะไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ

การไม่คุกคามทางเพศไม่ใช่ต้นทุนของผู้ชาย แต่มันคือต้นทุนในฐานะมนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีหน้าที่ที่จะไม่ไปคุกคามคนอื่น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ชายมันไปคุกคามผู้หญิง เสร็จแล้วโทษว่าเป็นเพราะผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ผู้ชายเลยคุกคาม

ผมบอกว่าวิธีคิดแบบนี้มันแย่ เพราะคุณกำลังโยนความรับผิดชอบในฐานะมนุษย์ "ของผู้ชาย" ให้ผู้หญิงมาร่วมรับผิดชอบ

การทำแบบนี้จะไปเพิ่มต้นทุนการใช้ชีวิตของผู้หญิง ทั้งที่จริงๆ มันไม่ใช่ความรับผิดชอบอะไรของเขา มันเป็นความรับผิดชอบของผู้ชายต่างหากที่จะต้องไม่คุกคามแม้จะรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศก็ตาม มันไม่ใช่กงการอะไรของเขาเลยที่จะต้องมาแชร์ความรับผิดชอบส่วนนี้ของผู้ชาย

คุณกำลังโยนหน้าที่ของผู้ชายให้ผู้หญิงมาร่วมรับผิดชอบ ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเหล่านั้นก็มีหน้าที่ต้องไม่ไปคุกคามคนอื่นแม้จะรู้สึกหื่นเหมือนๆ กัน ผู้หญิงต้องรับผิดชอบหน้าที่ตรงนี้ของตัวเองให้ดี ส่วนผู้ชายก็ทำของผู้ชายไป อย่าไปก้าวล่วงให้เขาต้องมารับผิดชอบส่วนของผู้ชาย

 



อันนี้ วันเดอเฟรมตัวจริงเลยไหมครับ หรือเป็นคนใกล้ตัว แลร้อนจังพิมพ์ซะยาว และดูเคร่งเครียดหมกมุ่น พักผ่อนเยอะๆนะครับ
เดาว่าคุณน่าจะคนสนิทกับวันเดอเฟรม ชัว100%เอาเป็นว่าอย่าไปเครียดมากครับ จำไว้ว่าทำอะไรก็ได้แบบนั้น แก้ที่ต้นเหตุดีกว่า
คุณเปลี่ยนความคิดคนไม่ได้หรอก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 1473
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 23, 2020 20:21
ถูกแบนแล้ว
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
คนขุดสุสาน พิมพ์ว่า:

 

วันนั้นก่อนคุณโดนแบน ผมลืมพูดประเด็นนี้ไป ไหนๆก็กลับมาละขอพูดละกันครับ

เฟรมแต่งโชว์แล้วโดนคุกคาม การคุกคามน่าจะเป็นพฤติกรรมที่ดูรุนแรงกว่า แต่ทำไมชายอย่างเราๆจึงชอบโฟกัสที่เฟรมมากกว่าคนที่คุกคาม

อยากจะบอกว่า ไม่ต้องไปสร้างยัดเยียดให้เค้าเป็นคนร้ายเห็นด้วยกับการคุกคามหรอกครับ มันเรื่องโคตรปกติ คนคุกคามเราเข้าใจตรงกันว่าพฤติกรรมแบบนั้น แสดงออกแบบนั้น

ส่วนเฟรมเราไม่เข้าใจเค้าไงครับ สรุปแล้วเค้าโฟกัสหน้าอกตัวเองเพื่ออะไร เค้าเลยมาโฟกัสกับเฟรมแค่นั้น

คนบ้าถือมีด จู่ๆมีคนเดินเข้าไปหาแล้วโดนแทง คนบ้าที่แทงผิดแน่นอน แต่คนคงไม่สงสัยพฤติกรรมหรอกเพราะรู้ตรงกันว่ามันบ้า จริงมั้ยครับ ไม่แปลกที่จะหันมาสนใจคนเดินไปให้แทงมากกว่า อยากโดนแทงเหรอ?ไม่อยากแล้วเดินเข้าไปทำไม? เอ๊ะ พูดแบบนี้แปลว่าเห็นด้วยกับการที่เค้าโดนแทงรึป่าวน้าาา

งั้นเฟรมก็ต้องหาเหตุผลมาตอบให้ได้แล้วล่ะครับ ท่าทางการโพสท่าถ่ายรูปมีเยอะแยะ ทำไมต้องโฟกัสหน้าอก ครับ แต่ถ้าจะไม่ตอบแล้วทำแบบนั้นต่อก็สิทธิ์ของเค้า แต่ก็จะยังถูกสังคมตั้งคำถามกับการกระทำเหล่านั้นไม่เลิกแน่ครับ ถ้าคุณรู้ก็ตอบแทนก็ได้นะครับ

นอกเรื่องหน่อยก่อนหน้านี้มีคนตั้งกระทู้หนึ่ง ไม่รู้ว่าคุณได้อ่านป่าว เค้าลงคลิปนี้

เปิดดูคลิปจากเว็บเฟสบุค 

แล้วผมไปเจอเม้นหนึ่งที่พูดไว้ผมโคตรชอบเลย
เห็นมาเยอะละ พวกทำตัวเป็นพระเอกที่ชอบสร้างตรรกะเพี้ยนๆแบบนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้ตัวเองดูดีคนเดียวในสายตาผญแล้วทำให้พวกผชคนอื่นดูโง่หรือเสียเปรียบ

ผมอาจจะอคติไป แต่ผมว่าคำพูดมันตรงคุณดีนะ คนหล่อ ถ้าอยากอ่านกระทู้นั้นหรือกดเข้าไปดูที่เฟสได้เลยครับ ลองดูว่าทำตัวหล่อๆแบบไม่ดู4ดู8แบบนี้ เค้าจะชื่นชมกันขนาดไหน ถ้าต้องการเดี๋ยวผมวางลิงค์ให้ครับ


***ขี้เกียจตอบ ผมขอคำตอบแค่คำถามเดียวก็ได้ สรุปเฟรมโฟกัสหน้าอกทำไมครับ ตอบแค่นั้นพอ เอาให้คนอื่นเข้าใจได้ด้วยนะ มาแค่"สิทธิ์ของเค้า"ไม่มีใครหายสงสัยหรอก ถ้าทำให้คนโง่อย่างผมพอจะเข้าใจ ผมจะด่าพวกคุกคามทุกกระทู้ถือเป็นการไม่เพิกเฉยตามที่คุณต้องการให้เลย เช็กได้เลยครับ แต่ตอนนี้ตอบผมก่อน
แก้ไขล่าสุดโดย sinder เมื่อ Tue Jun 23, 2020 20:34, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 41680
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Wed Jun 24, 2020 01:06
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
คนขุดสุสาน พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
Shiroyasha พิมพ์ว่า:
โดนแบนเฉย ไม่น่าเรื้อนเค้าเลย

จุดประสงค์ของเค้าดีนะ แต่วิธีการมันไม่เวิร์คอ่ะ แทนที่จะเพิ่มให้คนมาสนับสนุนได้ กลายเป็นสร้างศัตรูไปเลย

ที่ไม่เข้าใจกว่าคือทำไมยืนกระต่ายขาเดียวว่าวิธีมันดีแน่ๆ แล้วมัน success มั้ยล่ะ?

เจ้าของโพสตัวจริงมีสมัครยูสมั้ย หรือติดเรื่องเงิน? ถ้าไม่มีเดี๋ยวออกให้ก็ได้นะ ผมอยากเข้าใจจริงๆ  

โดนแบนเพราะสติแตกโยงไปเรื่อยจนผิดกฏต่างหากครับ  

เพื่อนทักมาว่าเพิ่งหลุดแบน ผมขอตอบคุณ popoing ด้วยละกันนะครับ เพราะตอนนั่งอ่านกระทู้เพื่อเก็บข้อมูล คุณเป็นไม่กี่คนที่ผมจำได้ว่ากล้าพูดในสิ่งที่ควรจะพูด


ตอนพิมคำว่าสลิ่มผมมีสติทุกคำครับ และไม่ได้รู้สึกหัวร้อนใดๆ กับคอมเมนต์ในนี้ แต่ผมยกตัวอย่างเรื่องสลิ่ม เพราะมันเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการจะลบ value ที่เราคิดว่าเป็นภัย มันไม่ได้มีแค่การโน้มน้าวให้อีกฝ่ายหันมาคิดแบบเดียวกับเรา แต่มันคือวิธีอย่าง social shamming หรือการ call out ให้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านั้นกลายเป็นพฤติกรรมที่น่าอายจนไม่มีใครกล้าจะทำมันแบบเอิกเกริก

ซึ่งหลายคนในนี้ก็ใช้วิธีกับกลุ่มคนที่เขาเรียกว่าสลิ่ม เน้นสาดคำพูดแรงๆ ไม่ได้พูดดีๆ หรือพยายามจะโน้มน้าวให้เปลี่ยนใจแต่อย่างใด แต่พอตัวเองเป็นฝ่ายที่โดน call out บ้าง กลับจะมาขอให้คนอื่นต้องคลานเข่ามาพูด มันก็แปลกครับ แค่นั้นแหละ
 

ผมขอตอบสั้นๆ นะครับ
1.การจะไปถึงจุดหมายที่ต้องการได้มันมีหลายวิธี
2.มนุษย์มีหลายจำพวก
จาก 1/2 ไม่มีวิธีไหนเลยที่จะลงตัวกลับทุกกลุ่ม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jan 2011
ตอบ: 1814
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 13, 2020 19:00
[RE: ผู้ชายเว็บนี้เป็นบ้าอะไรกับวันเดอร์เฟรม และ Sexual harassment ครับ]
เบื่อพวกตรัสรู้ คิดแทนคนอื่นว่าเขาคิดยังไง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3 ... 12, 13, 14
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel