BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
ดาวเตะลา ลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 3603
ที่อยู่: โอกิยูกะและลูกพี่คือทุกสิ่ง
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:45
อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry


คุณยังจำยุคสมัยแห่งการ "แลกพิน" กันได้ไหม!?
ในยุคหนึ่ง ที่ใครก็อยากจะเป็นเจ้าของมือถือยอดฮิตอย่าง "บีบี"
แต่ปัจจุบัน เราแทบจะไม่เห็นใครใช้ BlackBerry แล้ว...
จนหลายคนอาจจะมีคำถามว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
ทำไมสมาร์ตโฟนที่เคยขายดีที่สุด กลับหายไปจากตลาด ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี!?

1. ย้อนไปจุดเริ่มต้น ก่อนจะมาเป็น BlackBerry
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี 1984
เมื่อสองหนุ่มนักศึกษาชาวแคนาดา คุณ Mike Lazaridis และ Douglas Fregin จับมือกันเปิดบริษัท Research In Motion เรียกสั้นๆ ว่า RIM ละกัน
โดยในช่วงแรกบริษัทของพวกเขาจะทำงานสร้างระบบต่างๆ ให้บริษัทอื่นๆ
เช่น การสร้างระบบ LED ให้บริษัท General Motors หรือการสร้าง Local Network ให้ IBM
พอช่วงเพจเจอร์เริ่มฮิต ในปี 1996 บริษัทนี้ได้สร้างเพจเจอร์ของตัวเอง
ซึ่งเพจเจอร์ของพวกเขามีจุดเด่นอยู่ที่ "มีแป้นพิมพ์" ให้สามารถพิมพ์ข้อความลงไปได้โดยตรง และรับส่งข้อความได้แบบไม่ต้องผ่านคนกลาง
เพจเจอร์ของพวกเขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จนทำให้ RIM ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นในปี 1997

2. จุดเริ่มต้นของราชา
จากเพจเจอร์ที่ได้รับความนิยม หลังจากนั้น RIM ก็ได้พัฒนาผลงานต่อยอดตามมา ไม่ว่าจะเป็น...
- ปี 1999 เพจเจอร์รุ่นใหม่ที่ได้รับชื่อว่า BlackBerry
- ในปี 2000 เปลี่ยนสินค้าหลักจากเพจเจอร์ ไปเป็นโทรศัพท์มือถือตามความนิยมในขณะนั้น
- ในปี 2002 พวกเขาได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนภายใต้ชื่อ BlackBerry เป็นครั้งแรก
โทรศัพท์พวกเขาค่อนข้างล้ำยุคในสมัยนั้น เชื่อมต่อไวไฟ เข้าเว็บได้ มีระบบส่งข้อความแชทเป็นของตัวเอง
แต่ความภูมิใจที่สุดของ BlackBerry นั้น ก็คือการเรียงปุ่ม QWERTY แบบที่เราใช้บนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์
ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้การพิมพ์ส่งข้อความทำได้ง่ายกว่ามือถืออื่นๆ ที่เรียงเป็นตัวเลข 1-9 เท่านั้น
แต่มันยังทำให้มือถือของ Research In Motion มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก จนแค่เห็นปุ่ม เราก็รู้ว่ามือถือเครื่องนี้คือ BlackBerry แน่ๆ
และตำนานความโด่งดังของราชันแห่งโทรศัพท์มือถือ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น...

3. สู่บัลลังก์สูงสุดแห่งวงการโทรศัพท์
ในแต่ละปีที่ผ่านไป เมื่อผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเริ่มเติบโต อนาคตของ BlackBerry ก็ดูจะสดใสขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วย
- โดยเฉพาะช่วง 2004-2007 จำนวนผู้ใช้ BlackBerry ก้าวกระโดดมากขึ้นถึง 10 เท่า แตะระดับ 10 ล้านคน!!
- ต่อมาในปี 2008-2009 BlackBerry ก็ครองส่วนแบ่งสูงสุดประมาณ 40% ของตลาดสมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ
ส่งผลให้ในช่วงนั้น บริษัทของพวกเขามีมูลค่าสูงที่สุดถึง 2.5 ล้านล้านบาท
(ตามมาด้วย Apple 24%, Microsoft 18% และ Google (Android) 5%)
- จนกระทั่งในปี 2011 BlackBerry ก็มียอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ขายได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง
ในแง่ของรายได้ ปีนั้น RIM ทำรายได้ประมาณ 630,000 ล้านบาท
และนั่นก็เป็นจุดสูงสุด ที่พวกเขาไม่สามารถเอื้อมถึงได้อีกเลย...

4. การมาของผู้สังหารราชา
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ในช่วงปี 2007 ที่ BlackBerry กำลังเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว
บริษัท Apple ก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของตัวเองอย่าง iPhone ออกมา ซึ่งเป็นผลงานที่ Steve Jobs ภาคภูมิใจมาก
iPhone เลือกที่จะใช้วิธีการตรงกันข้ามกับ BlackBerry โดยสิ้นเชิง
พวกเขาทิ้งปุ่มกดและแป้นพิมพ์ไปแทบจะทั้งหมด และก้าวไปสู่ยุคโทรศัพท์ทัชสกรีนแบบเต็มตัว
มันทำให้การใช้งานลื่นไหลขึ้น สามารถใช้เล่นอินเทอร์เน็ตได้ราวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่ BlackBerry ก็ทำไม่ได้
อาจเป็นโชคดี RIM ในช่วงแรกที่โทรศัพท์ทัชสกรีนเปิดตัวออกมา ยังไม่กระทบกับยอดขายของ BlackBerry มากนัก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้ง App Store จาก Apple และ Android ของ Google ที่ออกมาในปี 2008 ราวกับจับมือนัดกันมา
ทั้งสองสิ่งนั้นทำให้โลกรู้ว่าสมาร์ตโฟนนั้นเป็นได้แทบทุกอย่าง เท่าที่จินตนาการของนักพัฒนาแอปจะคิดออก แถมราคาก็เริ่มเอื้อมถึงได้แล้ว
ในขณะที่ BlackBerry ดูเหมือนกำลังย่ำอยู่กับที่

5. ราชันสิ้นบัลลังก์
หายนะของ BlackBerry เริ่มเกิดขึ้นเมื่อปี 2012 (ใช่ครับ.. เพียงปีเดียวหลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จยอดขายสูงสุด)
ในปีนั้น โทรศัพท์ทัชสกรีนกลายเป็นที่นิยมมาก จน BlackBerry มีส่วนแบ่งการตลาดตกลงมาเหลือแค่ 6% เท่านั้น
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ก็ทำให้ RIM รู้ตัวว่าพวกเขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว..
แต่แทนที่ทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนแป้นพิมพ์ หันไปใช้จอทัชสกรีน หรือใช้ Android ตามสมัยนิยม
สิ่งที่พวกเขาทำ กลับเป็นการพัฒนาระบบ BBM ซึ่งเป็นระบบส่งข้อความอันเป็นเอกลักษณ์ของ BlackBerry ต่อ เพราะมั่นใจว่ายังไงคนที่ติดระบบแชท จะซื้อมือถือนี้ต่อไป
ซึ่งถือว่า.. นั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของพวกเขาจริงๆ
เพราะในยุคสมัยที่คนใช้ทั้ง iOS และ Android จำนวนมาก ก็ย่อมอยากจะได้แอปแชทที่ส่งข้อความหากันได้ทุกระบบ มือถือที่ส่งข้อความได้เฉพาะยี่ห้อเดียวกัน กลายเป็นเรื่องล้าสมัยแล้ว
(ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ WhatsApp เติบโตจนมีผู้ใช้งานกว่าร้อยล้านคน)

6. ปิดตำนาน BlackBerry
ในท้ายที่สุดแล้ว RIM ก็ตัดสินใจเดิมพันครั้งสุดท้ายกับ BlackBerry ในปี 2013
ด้วยการปล่อยมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 ออกมา
ซึ่งเราคงเดาได้ไม่ยากว่า มันไม่ประสบความสำเร็จแบบที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้
และหลังจากวันนั้นมา รายได้ของพวกเขาก็มีแต่จะลดลงเรื่อยๆ ไม่เคยขึ้นไปถึง 630,000 ล้านบาท ที่เคยทำได้ในปี 2011 อีกเลย
ในปี 2014 รายได้ดังกล่าวก็ลดลงเหลือ 216,000 ล้านบาท
จนในที่สุดปี 2019 ก็เหลือส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ไม่ถึง 1% และมีรายได้เพียง 28,000 ล้านบาท
ส่งผลให้ Research In Motion มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาทเท่านั้น
คุณอาจจะไม่รู้ว่า บริษัทได้ออกรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบ Android มาขายในช่วงหลัง
เพราะในยุคที่ตลาดถูกครองด้วย Apple, Samsung, Huawei และสารพัดค่ายจีน ไม่มีใครคิดถึง BB อีกต่อไป
สุดท้ายแล้ว ด้วยความหัวรั้นของ Research In Motion ทำให้ BlackBerry กลายเป็นเพียงตำนานของสมาร์ตโฟน
กว่าพวกเขาจะรู้ตัวว่าทำพลาด แล้วยอมปรับมาตามเทรนด์ นั่นก็สายไปเสียแล้ว...

ที่มา https://www.billionmindset.com/rise-and-fall-of-blackberry/?fbclid=IwAR0lSJCyNUYn5bIN7_nQsezpnokHob_L3XRe0lqG2zoFEBUfp7fQL4w4__A
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 9803
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:51
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
การมาของ iPhone4 มีผลมากนะ ตอนนั้นใช้ bold9780 ก็ยังเปลี่ยนมาใช้ iPhone4 เลย เพราะนอกจากแชทเฉพาะของ bb ก็ไม่มีอะไรสู้กับ smart phone แล้วอ่ะ

23b65454 ซรบ. slpw/... บลา ๆ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Feb 2015
ตอบ: 1484
ที่อยู่: thai
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:53
ถูกแบนแล้ว
อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry
คล้ายๆโนเกียไหครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 9277
ที่อยู่: Anfield Road
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:54
ถูกแบนแล้ว
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
Bold9700 แล้วย้ายมาเล่น Galaxy S3 จำได้เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช T-License
Status: i believe in destiny
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2015
ตอบ: 14401
ที่อยู่: Anfield Road
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:57
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
สมัยดังๆ ตอนนั้นเรียน ปวส ผู้ ญ มีใช้กันเกือบทุกคนอะ

ถึงกับมีเรื่อง ถ้าแม่ไม่ซื้อ BB ให้จะไม่มาเรียน ส่วนตัวตอนนั้นใช้ไอโฟนจีนแดง เครื่องละพันกว่าบาท
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Sep 2009
ตอบ: 622
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:57
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
อ่านเพลินดีครับ โตไว ไปเร็ว พลาดเพราะอีโก้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: Sesang
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Oct 2010
ตอบ: 10195
ที่อยู่: Sesang
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 08:59
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
มียุคสมัยนึงเคยรู้สึกดีไปเอง ที่ซื้อไอโฟนแต่ไม่อยากขายBB เลยพกมันทั้ง2เครื่อง ไปไหนมาไหนหยิบมาถือว่ากุมีทั้งไอโฟนทั้งBB พอย้อนกลับไปนึกดูแม่มโคตรไร้สาระเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 12206
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:00
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
สมัยนั้นใครมี BB นี่เข้าหาสาวง่ายๆ เลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 8019
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:03
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
ตอนนั้นใช้ 2 อย่างเลยทั้ง bb ทั้งไอโฟน ที่ยังทนใช้ bb ต่อตอนนั้นเพราะเอาไว้คุย bb โดยเฉพาะเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Jun 2018
ตอบ: 10066
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:04
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
ขณะที่ตอนนั้นเพื่อนในห้องใช้ BB กับ Iphone ไอเราใช้โนเกีย ซิมเบียนอยู่คนเดียว กว่าจะเปลี่ยนมาใช้เอนดรอยก็จะเข้ามหาลัยอยู่ละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 16420
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:06
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
เปลี่ยนสีเคสเป็นว่าเล่น ผสมไปเรื่อยๆอย่างชอบ ชอบเวลาไฟมันกระพริบเวลาคนทักมา
แก้ไขล่าสุดโดย FC BARCELONA เมื่อ Mon Jun 01, 2020 09:07, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวโอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 19 May 2011
ตอบ: 20118
ที่อยู่: -
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:06
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
แค่ไอโฟนอย่างเดียวยังพอสู้ไหวนะ แต่เจอดาบสองแบบเฟสบุคนี่คือตายจริง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 3497
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:09
[RE]อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry
อยากมีบรอดแคสเหมือนBB เพื่อนชื่อ...นิสัยดี พูดเก่ง พึ่งโสด แอดเลยๆๆ ง่ายเลยนะทีนี้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Sep 2007
ตอบ: 31178
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:19
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
ครั้งนึงมีรุ่นสีขาว รายการเรื่องเล่าเช้านี้สุ่มแจก
เพื่อนผมยอมเข้าแล็บสายเพราะมัวแต่กดส่งข้อความรัว ๆ สงสัยมันอยากได้มาก

ตัวล่าสุดที่ได้ใช้คือรุ่น Curve เป็นบริษัทซื้อให้ใช้ ผูกพินมาพร้อมเลย
เข้าเว็บอืดมาก จำได้ว่าเข้า SS นี่แหละค้างเลย เอาไว้สไลด์เก๋ๆ
พอออกจากบริษัทก็คืนเค้าไป หรอกให้ดีใจนึกว่าให้ขาดเลย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 7081
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jun 01, 2020 09:19
[RE: อ่านกันเล่นๆ...การล่มสลายของ BlackBerry]
ตอนนั้นเวลาเสียงบีบีดัง แล้วเป็นชื่อคนที่จีบมานั้น มันช่างมีความสุขยิ่งนัก

ไม่ต้องแชทบนคอมอีกต่อไป

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
เลิกคิดไปเองเถอะ
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel