WARNING !!! มีการ Spoil ภาพ + สาระสำคัญ

หากท่านใดยังไม่เคยดูภาพยนตร์ที่ว่ามาตาม List ข้ามไปได้เลยครับ


v
v
v
v
v

v
v
v
v

v
v
v

v
v

v



He's Gone - The Usual Suspects

- ปฏิภาณไหวพริบของ Verbal (Keyser Soze) ที่นำข้อมูลต่างๆภายในห้องสอบสวนมาด้นสด จนสามารถต้มทั้งตำรวจและคนดูได้ซะเปื่อย

"Greatest trick the devil ever pulled was convincing the world.
He didn't exist and like that, He's gone."
- Verbal





---------------------

The Box - Se7en

- การเผยบาป ริษยา และ โทสะ จนทำให้ฆาตกรเป็นฝ่ายชนะจากแผนที่ถูกวางไว้ทุกอย่าง ถือเป็นปีของนักแสดงอย่าง Kevin Spacey อย่างแท้จริง

"David if you kill him. He will win."
- Somerset





---------------------

Happy Birthday, Nicky - The Game

- ผลงานลำดับที่ 3 ของ David Fincher กับที่ภาพยนตร์หลอกทั้งพระเอกและคนดูจนวินาทีสุดท้าย อย่าได้คิดมาเซอร์ไพรส์วันเกิดกันด้วยวิธีนี้เชียว

"Happy Birthday, Nicky"
- Conrad





---------------------

I See Dead People - The Six Sense

- ภาพยนตร์ดราม่าสยองขวัญกับพล็อตหักมุมอันเป็นตำนาน "พระเอกเป็นผี" ซึ่งหากโดนสปอยตั้งแต่ต้น ความสนุกของเรื่องนี้จะจบลงทันที

"I see dead people. They don't know they're dead."
- Tommy Tammisimo





---------------------

Letting Yourself Become Tyler Durden - Fight Club

- การเป็นคนสองบุคลิค โดยการสร้างตัวละครในอุดมคติขึ้นมาอีกคน นับว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ชีวิตประจำวันของเรา

Tyler : Say it.
Jack : Because we're the same person.
Tyler : That's right.





---------------------

John G Realisation - Memento

- ผลงานแจ้งเกิดของ Christopher Nolan การเล่าเรื่องย้อนหลังแบบมีชั้นเชิงในตำนาน กับการที่พระเอกตามหาเบาะแสฆาตกรที่ฆ่าเมียตัวเอง (พระเอกเป็นคนฆ่า) นอกจากพล็อตเรื่องที่หักมุมแล้ว คนดูยังได้เปิดประสบการณ์การดูหนังขึ้นไปอีกขั้น

"I gave a reason to live and you were more than happy to help.
You don't want the truth, you make up your own truth."
- Teddy





---------------------

We're Not Dead - The Others

- ด้วยบรรยากาศที่อึมครึมชวนหลอนมาตลอดทั้งเรื่อง จนกระทั่งหนังมาเฉลยว่าแท้จริงนางเอกและลูกๆของเธอ รวมทั้งคนใช้ทั้งสามคนแท้จริงแล้วเป็นผี ส่วนผีที่กลัวมาตลอดเกือบทั้งเรื่อง ดันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ในปัจจุบัน WTF!!!

''We must all learn to live together, the living and the dead.''
- Mrs. Mills





---------------------

Lee Woo-jin's Revenge - Old Boy

- การรู้ความจริงว่าแท้จริงแล้วลูกสาวของตัวเอง คือผู้หญิงที่ตนได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย นับเป็นฉากหักมุมที่ทั้งสงสารตัวละตร ผิดศีลธรรม และสะเทือนใจคนดูเป็นอย่างมาก





---------------------

Game Over - Saw

- การเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับผู้สร้างเกมส์สยองขวัญ นามว่า Jigsaw ถือเป็นการเปิดแฟรนไชส์ Saw (เกมตัดต่อตาย) อย่างสุดพีค

"Game Over."
- Jigsaw





---------------------

Cecile Finds Her New Body - The Skeleton Key

- จินตนการภาพไม่ออกเลย หากเหตุการณ์สลับร่างเฉกเช่นหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเรา

"I think it fits you beautifully.
It's better than Violet, or Grace, even.
We'll get used to it. We always do."
- Justify





---------------------

Plot Twist - The Prestige

- การเสียสละทั้งชีวิต เพียงเพราะแค่ต้องการให้กลออกมาดี

"I loved Sarah. He loved Olivia.
We each had half a full life, really, which was enough for us.
Just but not for them. You see, sacrifice.
Robert that's the price of a good trick.
But you wouldn't know anything about that, would you?"
- Alfred Borden





---------------------

Ending - The Mist

- คงไม่ต้องอธิบายมากสำหรับ The Mist กับฉากจบที่พาเอาเงิบแดก หดหู่ จิตตก และโคตรทำร้ายจิตใจกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง

"Ahhhhhhhhhhhhhh!"
- David Drayton





---------------------

Esther's Secret - Orphan

- อีเด็กนรกส่งมาเกิด (แท้จริงไม่ไช่เด็ก) กับการถูกเผยความจริงและวีรกรรมจากแฟ้มประวัติ ที่เล่นเอาคนดูต่างพากันอึ้งไม่น้อย

"She has a rare hormone disorder. It's called hypopituitarism.
It causes dwarfism. She only looks like a child.
According to our records Leena Klammer was born in 1976.
She's 33 years old."
- Dr. Varava





---------------------

Live as a Monster or Die as a Good Man - Shutter Island

- เมื่อตำรวจถูกส่งไปตามหาคนไข้โรคจิต แต่กลับถูกเฉลยในภายหลังว่าตัวเองเป็นคนไข้ผู้ป่วยทางจิตเสียเอง ซึ่งยังให้คนดูกลับไปคิดต่อเองอีกว่าสรุปพระเอกป่วยจริง หรือแกล้งป่วยเพียงเพราะไม่อาจอยู่กับความจริงที่แสนเจ็บปวด

"Live as a Monster or Die as a Good Man."
- Teddy Daniels





---------------------

Amy Comes Back Home - Gone Girl

- ภาพยนตร์เรื่องนี้สอนให้ผู้ชายได้รู้ว่า "อย่าริทำให้มนุษย์เมียโกรธ"

"You Fucking Bitch"
- Nick





---------------------

เอาที่เงิบจริงๆคือ The Mist
เอาที่ทึ่งจริงๆคือ Usual Suspect
เอาที่ขนลุกเลยคือ The Others

ชอบพลอตของ The Other แต่เงิบสุดยังไงก็ The Mist


ปล.ของไทยอย่างเรื่อง ลองของ เฉือน บอดี้ศพ19 ชัตเตอร์ เป็นชู้กับผี ก็สนุกดี

usual suspect ขนาดเรื่องย่อ หรือ พาดหัว สำหรับผมคือสปอยยับแล้วนะนั่น หมดความลุ้นไปประมาณนึงเลย
ผมว่าคนที่ทันดูยุคแรกๆ ของตะลึงมากแน่นอน คิดได้ไง



แต่สำหรับผมแล้ว oldboy เกาหลี ครับ
เปิดเรื่องมาก็ล่อเลย พระเอกโดนจับตัวไปขัง 15 ปี หลุดออกมาได้ ได้เวลาสืบและแก้แค้น
แต่แล้วก็



เล่นเอาผมนอนไม่หลับไป 2 คืนเลย แฟนผมดูช็อคถึงขั้นอ๊วกอ่ะครับ

รู้สึกมีอีกเรื่อง แนวสืบหาผู้ก่อการร้าย

Arlington road รึอะไรนี่ล่ะ จำชื่อไม่ได้

ไม่ถึงกับเงิบ แต่แอบเหวอเบาๆ

The mist อะ เงิบสุดเท่าที่เคยดูมาละ

จบแบบ

the mist คือหักมุมแล้ว ยังเงิบอีก ยังไม่พอ ขยี้ความดาร์คใส่คนดู ยังไม่พอ ถีบคนดูตกเหวอีก
memento ก็หักมุมนะ แต่ชอบไอเดียการดูสีฟีล์มแล้วเอาไทม์ไลน์สลับกัน บ้าบอมาก ดูครั้งแรกถึงกับด่าว่า หนังไรวะเนี่ย แต่ดูรอบสองถึงเริ่มเข้าใจ เริ่มชอบเลย

น่าจะมี Buried(Ryan Reynolds) ด้วย ดูจบผมนี่ถามตัวเองเลย นี่ตูควรรู้สึกยังไงฟะ

ผมเงิบกับ seven นี้คือตอนจบ รุ้สึกไปกับพระเอกเลย

เดอะ มิส มันหักมุมแบบ ไอ้สาดดดดด มากกว่า

ถ้าจากลิสคง The Others สุดจริง

Reaction ของผม ณ วันนั้น

The Mist - เชี่ยยยยยยย!! ถ้าความเงิบต้องเรื่องนี้
The Usual Suspects - เชรดเข้!! นอนดูอยู่กับทีวีแล้วก็ลุกเด้งพรวดขึ้นมาทันที

Sixth Sence นี่ไม่เงิบเลย

เพราะโดนสปอยเละเทะ ตั้งแต่ก่อนดู (นี่มันหนังผีเรื่องแรกๆเลยรึเปล่าที่มีหักมุมแบบนี้ มันเลยโดนพูดถึงเยอะมากตอนเข้าโรง)

หลังจากนั้นก็โดนสปอย The other จนผมไม่คิดจะดูจนถึงตอนนี้ (คือกะจะลืมๆแล้วค่อยมาดู แต่มันดันลืมไม่ได้อ่ะดิ 555)

สปอยล้วนๆ

the mist อ่ะเงิบสุด แต่สำหรับผมไม่ใช่การหักมุมอ่ะ หักมุมในความคิดผมคือเล่าเรื่องมาให้เราเข้าใจแบบนี้ตลอด สุดมามาหลอกว่าไม่ใช่อ่ะครับ

The mist เงิบสุดล่ะ ยังคาใจจนนอนไม่หลับ